คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [#7] Request
ร่างโปร่งบางในชุดชาวบ้านที่เปลี่ยนก่อนออกจากวังก้าวยาวๆ ไปถามโถงทางเดินก้าวไม่แม้แต่จะหยุดรับการถวายความเคารพจากเหล่านางกำนัลที่เดินผ่านไปผ่านมา เพราะตอนนี้มีสิ่งที่ให้เธอคิดมากกว่าจะสนใจมารยาทบ้าบออะไรนั่น เหล่าองครักษ์ที่เกือบคอขาดเพราะหาราชินีที่ลุกพรวดวิ่งออกไปต่อหน้าต่อตาไม่เจอถอนหายใจเฮือกเมื่อขาสองข้างเหยียบธรณีประตูวัง
อย่างน้อยก็เบาใจได้ว่าทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง
"ราชินี!" น้ำเสียงใสคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนทำให้เฟรินต้องชะงักเท้าหันกลับมามองด้านหลัง มีเดีย อากอสถอนสายบัวต่ำ หญิงสาวอยู่ในชุดฟูฟ่องคล้ายกับตัวที่ใส่เมื่อวาน เพียงแต่เครื่องประดับนั้นลดน้อยลงจนเกือบหมด จะมีก็แต่ต่างหูทับทิมเข้ากับสร้อยคอเส้นเล็กบนลำคอระหงส์นั้น
"ขออภัย พอดีกำลังรีบเลยไม่เห็นว่าท่านเดินมา" เฟรินยืดตัวเองสูงขึ้นเล็กน้อยอย่างพยายามไม่ให้น่าเกลียดนัก ตาสีน้ำตาลทอดมองร่างตรงหน้า ทำให้สังเกตได้ว่าแท้จริงแล้วร่างนั้นไม่ได้บอบบางมากอย่างที่เธอเห็นเมื่อวาน ออกจะมีน้ำมีนวลแต่ไม่ถึงกับอวบ เรียกว่าหุ่นตามแบบที่นิยมของฟรานส์นั่นล่ะ
"เมื่อเช้าตั้งใจว่าจะเข้าเฝ้า แต่นางกำนัลบอกว่าเสด็จออกนอกวัง" ตาสีเขียวประกายเงยขึ้นสบก่อนหลุบต่ำลงตามมารยาทที่ดี เฟรินหัวเราะเบาๆ
"นานครั้งน่ะ ไปบ่อยคาโลจะโมโหว่าเอาแต่เที่ยวเล่น พอดีวันนี้เห็นว่ามีตลาดนัดก็เลยไปเดินดูเสียหน่อย ถือเป็นการเยี่ยมเยียนประชาชนไปในตัว เสียก็แต่ต้องปลอมตัวนี่สิ" เฟรินมองชุดที่ตนสวมแล้วยิ้มน้อยๆ ก่อนออกไปมันก็ขาวสะอาดดูดีอย่างที่ควรเป็น แต่ตอนนี้มันกลับดูขมุกขมอมไปด้วยฝุ่นและเหงื่อไคล มีเดียเงยหน้ามองชุดที่อีกฝ่ายใส่เล็กน้อยแล้วแย้มยิ้ม หากเฟรินกลับจับความเคลื่อนไหวในนัยน์ตาสีเขียวนั้นได้ แม้เพียงเล็กน้อย...แต่ก็ไม่พ้นสายตาเธอ
รอย...เหยียดหยาม
ไม่แปลกและออกจะชินเสียแล้ว ครั้งที่มาอยู่ที่นี่ แรกๆ ก็โดนทุกวันจนชินชา ยังดีที่คนที่นี่เขานับถือคนตามหน้าที่และความสามารถ ส่วนที่อื่นอย่างฟรานส์...อาจจะตรงชาติกำเนิดแหล่งเลี้ยงดูล่ะมั้ง
ตาสีน้ำตาลพราวระยับเมื่อเริ่มจะเห็นอะไรบางอย่างในตัวสนมคนนี้ จะหวังก็แค่อย่าโผล่หางออกมาให้เร็วนัก เพราะเจ้าหล่อนยังมีประโยชน์กับคาโนวาลอีกเยอะ
"ท่าทางจะน่าสนุกนะเพคะ" คนถูกถามหัวเราะดังกว่าเดิมเล็กน้อย "สนุกสิ อย่างน้อยก็ดีกว่านั่งว่างอยู่ในวัง ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างจะได้รู้ว่าประชาชนเขาคิดยังไง"
มีเดียชะงักไปเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่าคำว่า 'นั่งว่าง' ที่ได้ยินนั้นอีกฝ่ายจงใจทำเสียงเน้นหนักกว่าปกติรึไม่ แต่ก็ไม่ฉลาดซักเท่าไหร่ถ้าจะถามออกไปตรงๆ เธอขยับยิ้มเล็กน้อยก่อนตอบ
"นั่นสินะเพคะ ฝ่าบาทคาโลถึงได้ทรงรักราชินีมากขนาดนั้น" ชื่อบุคคลที่สามทำให้รอยยิ้มนั้นสะดุดก่อนจะฉายชัดเช่นเดิม "ฝ่าบาทคาโลทรงเล่าประทานให้หม่อมฉันฟังเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องราวของพระองค์"
คิ้วบางเลิกสูงออกจะแปลกใจเล็กน้อยที่เจ้าคนพูดน้อยนั่นจะยอมเปิดปากเล่าเรื่องราวของเธอให้คนอื่นฟัง
"งั้นเหรอ คาโลนินทาอะไรให้ท่านฟังบ้างล่ะ" มีเดียส่ายหน้าแล้วยิ้ม "มีแต่คำชมเพคะ ฝ่าบาทคาโลชมว่าพระองค์เป็นผู้ที่มีความอดทน ถึงได้ยอมเหนื่อยเปลี่ยนตัวเองจากหัวขโมยมาเป็นควีนเพื่อจะได้อยู่เคียงข้างฝ่าบาทคาโล"
ตาสีน้ำตาลวาววับขึ้นมาอย่างยากจะบอกได้ว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน เฟรินหัวเราะเบาๆ เอ่ยช้าหากชัด
"ผู้หญิงเราน่ะนะท่านมีเดีย ถ้าเพื่อสิ่งที่รักแล้วก็เป็นยอมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนคนอื่น หรือแม้แต่เปลี่ยนประเทศ อย่างฉันที่จะยอมอดทนเสียหน่อยเพื่อคาโลก็ไม่แปลกนักหรอก" น้ำเสียงไหลลื่นราวกับพูดเรื่องดินฟ้าอากาศแต่สร้างความกดดันให้กับคนที่ยืนฟังเงียบๆ เฟรินมองร่างที่ยืนนิ่งเงียบไปนิดก่อนจะยิ้มบาง
"นี่ก็เย็นมากแล้ว เห็นทีเราจะต้องขอตัวไปอาบน้ำเสียหน่อย เดินเหนื่อยมาทั้งวัน" มีเดียขยับตัวถอนสายบัวให้อีกฝ่ายเดินจากไป
สิ้นเสียงฝีเท้าความเงียบจึงเข้ามาแทนที่ เสียงถอนหายใจโล่งอกของนางกำนัลที่ยืนตัวสั่นกับสงครามเย็นไม่ได้ทำให้สีหน้าหวานนั้นลดความเย็นเยียบลงได้
"สมกับเป็นราชินีของคาโนวาลนะเพคะ พูดจาโผงผางตรงเสียจนน่ากลัว" มีเดียหันมามองคนพูดแล้วหันกลับไปมองเส้นทางที่อีกฝ่ายเพิ่งจะเดินผ่านไป รอยยิ้มมุมปากคลี่ออกมาโดยไม่รู้ตัว
"นั่นสิ...ตรงมากทีเดียว"
--------------------------
เฟรินทรุดตัวลงนั่งกับเตียงใหญ่อย่างหมดแรง เหนื่อยจากการเที่ยวนอกวังกลับเข้ามาก็เจอสงครามประสาทบ้าบอคอแตก ปกติก็แทบจะไม่เข้าไปยุ่ง ที่ไหนได้...
ดันวิ่งเข้ามาหา!
มือบางยกขึ้นเมื่อนวดหัวคิ้วที่ดูจะพันกันจนยุ่ง จะว่าไปไอ้ที่ออกไปข้างนอกจะเรียกว่าพักก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก เฟรินถอนหายใจหนักเมื่อเรื่องราวเมื่อกลางวันยังคงแจ่มชัดอยู่ในสมอง และคงยาก...ที่จะลบมันออกไป
สายลมหวีดหวิวท่ามกลางความเงียบ เสียงใบไม้ไหวเสียดสีแม้ไม่ดังแต่ก็มากพอที่จะทำให้สติกลับมาอยู่กับตัวได้ เฟรินสูดหายใจดังซืดใหญ่เป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้ทำมาเกือบสามปี
"โทษที ผ้าเช็ดหน้านายสกปรกหมด ไว้เดี๋ยวจะให้นางกำนัลซักให้" น้ำเสียงอ้อมแอ้มดูไม่สมกับที่เป็นตัวเธอซักเท่าไหร่นัก ทั้งตาทั้งจมูกแดงเห่อไปหมด คิดแล้วก็น่าขายหน้าที่มีคนเห็นเธอร้องไห้เพิ่มขึ้นมาอีกคนแถมยังไปกระโดดกอดมันอีก ยิ่งคิดยิ่งอยากมุดดินหนี ร่างสูงไหวไหล่ ใจหนึ่งก็อยากจะล้อเลียน แต่เห็นสภาพแล้วก็รู้สึกว่าไม่ใช่เวลาที่จะทำอย่างนั้น
"ไม่เจอกันนานเดี๋ยวนี้หัดพกผ้าเช็ดหน้า ท่าทางคงสาวติดเพียบสิท่า" เฟรินฉีกยิ้มกว้าง คิลหัวเราะเบาๆ นั่งลงกับขอบบ่อน้ำนอกเมืองที่เขาพายัยตัวดีมานั่งสติอารมณ์หลังจากที่ตกเป็นเป้าสายตาชาวบ้านอยู่พักใหญ่
"ได้ข่าวว่าเนื้อหอมไม่ใช่เล่นเหมือนกัน" คนฟังหัวเราะเสียงดังแล้วต้องชะงักกับประโยคต่อมา "แล้วเมื่อไหร่จะแต่งซะที นี่รอการ์ดเชิญอยู่นะเนี่ย"
คิลส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ คิดว่าปากคอมันจะดีขึ้นที่ไหนได้ยังเหมือนเดิม เฟรินหัวเราะ ตาสีน้ำตาลมองผ้าสีขาวในมือนิ่ง "แล้วนี่ให้ฉันใช้ผ้าเช็ดหน้าแก แฟนแกจะไม่ว่าเอาเหรอ"
คิ้วเข้มเลิกสูงสบนัยน์ตาสงสัยนั่นแล้วก็อดปล่อยก๊ากออกมาไม่ได้ ฝ่ายคนที่ถูกหัวเราะเยาะได้แต่ทำหน้างงหนัก นี่เธอพูดอะไรผิดหรือยังไงมันถึงได้ขำขนาดนั้น
"นั่นน่ะ...ฉันเพิ่งตัดมาจากเสื้อเหยื่อเมื่อวานนี้เอง เอาไว้เช็ดเลือดน่ะ ไอ้จะพกเป็นผืนๆ ก็ขี้เกียจซัก ตัดเอาจากที่มันไม่เปื้อนนั่นล่ะดีที่สุด ประหยัดด้วย"
......................
ฟุ่บ!
แทนคำตอบ ผ้าสีขาวในมือก็มีอันต้องลงไปนอนกองอยู่บนพื้น ตาสีน้ำตาลวาวโรจน์ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นพวกไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่คิดอะไร แต่ไอ้เอาผ้าจากศพมาให้เพื่อนเช็ดหน้านี่มันน่าจะโดนซักแผลสองแผล
"ไอ้คิล!!"
"เฮ้ยๆ ฉันไม่ได้บอกซักคำนะว่าเป็นผ้าเช็ดหน้า" คิลรีบกระโดดไปหลบหลังบ่อน้ำ ตาสีม่วงหวาดระแวงเผื่อว่าอีกฝ่ายจะเรียกอาวุธคู่ใจมาผ่าหัวเขาเล่น หากไร้ซึ่งการจู่โจม ร่างบางสั่นหงึกๆ อย่างน่ากลัวว่ามันจะลงไปชักตายตรงหน้า ไอ้คนที่ยั่วเขาก่อนเริ่มหวั่นใจให้รีบกระโดดพรวดมายืนตรงหน้า
"เฮ้ย! อย่าเพิ่งชักนะ แกเป็นอะไรขึ้นมา ฉันไม่มีปัญญาหาไปใช้คืนคาโลนะโว้ย" ได้ผลทันตาเมื่อร่างที่สั่นกึกๆ นั้นหยุดกึก คิลถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็สะดุ้งเมื่อจู่ๆ เฟรินก็เอื้อมมือมาจับแขนเสื้อเขาไว้เสียแน่น
"...ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องใช้คืน..." คำพูดแผ่วเบาหากชัดเจนแจ่มชัดให้คนฟังชะงักกึก แม้อีกฝ่ายจะไม่เงยหน้าแต่เขาก็พอจะเดาได้ว่าร่างบางๆ นี้กำลังรู้สึกอย่างไร สองแขนยกขึ้นค้างอย่างลังเลก่อนจะวางบนลาดไหล่บางทั้งสองนั้น
"แกกับคาโลมีปัญหาอะไรรึเปล่า" แกล้งถามซื่อ อย่างน้อยถ้าให้พูดออกมาก็อาจจะดีกว่าเก็บไว้คนเดียว เฟรินสูดหายใจลึกเงยหน้าขึ้นมายิ้มก่อนถาม
"คิล...แกคิดจะรับจ๊อบพิเศษไหม" คิ้วเข้มเลิกสูงที่จู่ๆ ก็ถูกเปลี่ยนเรื่องเสียง่ายๆ
"งานอะไรของแก" น้ำเสียงบ่งบอกความหวาดระแวงอย่างเต็มเปี่ยม เพราะไอ้คนตรงหน้ามันมีแต่เรื่องยุ่งมาให้เขาแก้ แต่ก็นั่นล่ะ...เพราะยุ่งมันถึงได้สนุก
ตาสีน้ำตาลหลับลงราวกับคิดทบทวนสิ่งที่ตัวเองกำลังจะพูด
"ถ้า...ถึงเวลา....บางอย่าง" น้ำเสียงเอ่ยช้าชัด เต็มไปด้วยความลังเลเพราะใจตัวเองก็หวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้น
เวลา...ที่ไม่อยากให้มาถึง
"ถ้าถึงเวลา...แกช่วยพาฉันออกจากคาโนวาลได้ไหม"
******************************TBC...
ความคิดเห็น