คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : [#26] Odd
วันนี้มีเรื่องแปลก...
นักบวชแลกเปลี่ยนจากแอเรียสบ่นกับตัวเอง ขณะก้าวขาไปตามทางเดินที่ทอดยาว คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันยุ่งกว่าปกติหลังจากที่เพื่อนร่วมอาชีพเดินมาบอกว่ามีคนมาหา
อันที่จริงมันก็แปลกทุกวัน เพียงแต่วันนี้แปลกกว่า
อย่างแรกคือการถูกเรียกตัวตั้งแต่เช้าเพื่อชี้แจงงานราชพิธีที่จะมีขึ้นในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า
งานพิธีสถาปนาพระสนมมีเดีย อากอส ขึ้นเป็นพระราชินี
เสียงฮือฮาดังขึ้นทันทีเมื่อสิ้นคำประกาศนั้น หากไม่ใช่กับเหล่านักบวชจากแอเรียส เพราะถือว่านี่เป็นเรื่องภายในของคาโนวาล พวกเขาย่อมไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นใดๆ ได้ทั้งสิ้น
ลอเรนซ์ที่ยืนอยู่ด้านหลังได้แต่ยืนขมวดคิ้วเข้าหากันพร้อมสีหน้าหงุดหงิดอย่างเป็นปกติ ทำให้เหล่าเพื่อนร่วมอาชีพที่รู้ดีถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคิงและควีนแห่งคาโนวาลนั้น เดาไม่ออกาอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
และสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องถูกเรียกตัวก็เพราะว่า งานราชพิธีในครั้งนี้ถือว่าค่อนข้างจะเป็นพิธีที่ปุบปับอยู่เสียหน่อย เพราะโดยปกติแล้วงานแบบนี้จำเป็นต้องใช้การเตรียมงานร่วมหลายเดือนเพื่อความยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ ดังนั้นปัญหาจึงตกอยู่กับเหล่านักบวชของมหาวิหารที่ต้องทำงานให้เสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์
อีกทั้งสถานที่ใช้จัดงานนั้นคือมหาวิหารอันแสนจะโอ่อ่า ฟู่ฟ่า ไฮโซ กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ลำพังแค่จำนวนนักบวชในวิหารให้มานั่งเตรียมงาน เตรียมสถานที่ก็คงจะไม่ทัน
ความซวยจึงตกอยู่กับเหล่านักบวชแลกเปลี่ยนอย่างพวกเขาที่ต้องเข้ามามีส่วนช่วยในการจัดสถานที่ แน่นอนว่าย่อมไม่มีส่วนกับงานที่เกี่ยวข้องกับพิธีการโดยตรง
คำถามก็คือ...
"ทำไมเสนาบดีมหาดไทยไม่มาดูแลเอง?" ลอเรนซ์เอ่ยถามแทบจะทันที่ฟังการแจกแจงงานจบ อาร์คบิชอฟที่ยืนอยู่ด้านหน้ายิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"เขาก็มีงานของเขา เราก็มีงานของเรา ที่สำคัญคือฝ่ายนั้นเขาต้องเตรียมพิธีการช่วงก่อนที่ฝ่าบาทจะเสด็จมาถึงที่นี่ รวมไปถึงหน้าที่การดูแลแขกผู้ทรงเกียรติที่ได้รับเชิญ"
นั่นคือมหาดไทยเองก็ทำงานไม่ทัน...
ฟังแล้วนึกอยากเปิดสมองคิงน้ำแข็งที่จู่ๆ ก็นึกอยากจัดงานราชพิธีขึ้นมาโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า
หากสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือสาเหตุที่จู่ๆ ไอ้คิงจอมโลเลนั่นตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งขึ้นมา แม้ว่าทางนั้นเป็นการเลือกที่เหนือความคาดหมายของเขาก็ตาม
เลือกหน้าที่...แทนความรักที่สู้อดทนฟันฝ่ากันมาร่วมสามปี
ลอเรนซ์คิดพลางก็เผลอถอนหายใจออกมา
เรื่องแปลกเรื่องที่สองคือสีหน้าของคิงน้ำแข็งที่วันนี้ก็โดดงานมานั่งเหม่ออีกแล้ว หากครั้งนี้คิ้วเข้มนั่นกลับขมวดเข้าหากันตลอดเวลา
ตาสีอเมธิสต์จ้องมองคาโลที่ครุ่นคิดอะไรอย่างหนักจนไม่สังเกตว่ามีบุคคลอื่นเดินเข้ามา
...หมอนี่มันเป็นคิงได้ยังไง...
นี่ถ้าเขาเป็นนักฆ่าป่านนี้หัวมันไม่หลุดออกจากบ่าไปแล้วหรือ?
"ในที่สุดก็เลือกได้ซักทีนะ" ลอเรนซ์เปรยขึ้นพร้อมกับเดินไปหยิบเชิงเทียนขึ้นมาทำความสะอาดอย่างเคย แม้ว่าในใจจะสงสัยว่าทำไมมันจะสกปรกอะไรนักหนา ทั้งๆ ที่วิหารแห่งนี้ก็แทบจะไม่เคยได้ใช้
ตาสีฟ้ากระตุกวูบเล็กน้อยเหมือนคนเพิ่งรู้สึกตัวก่อนจะเบนไปมองร่างของอดีตรุ่นพี่ร่วมป้อม หากไม่มีคำตอบใดๆ หลุดจากริมฝีปากนั้น
"คิดดีแล้วเหรอ" คำถามจากนักบวชให้คิงต้องหันมามองอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ก็ได้รับคำถามจากคนที่ไม่ชอบซัก
"ผมเลือกได้ด้วยเหรอครับ" คาโลย้อนถามกลับสบกับนัยน์ตาสีอเมธิสต์ที่ทอความหงุดหงิดออกมาตลอดเวลา ลอเรนซ์สบถยาวเหยียดนึกขัดใจและรำคาญในเวลาเดียวกัน
"นายเคยเลือกที่จะอยู่ฝ่ายธิดาแห่งความมืดมาแล้วไม่ใช่หรือไง" คาโลไหวตัวเล็กน้อยกับความหลังที่ถูกขุดขึ้นมา "ถึงกับยอมสู้กับโรเวนแบบหลังชนฝา หึ!"
เสียงหัวเราะขึ้นจมูกแบบที่ฟังแล้วรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังถูกเยาะเย้ย
เส้นประสาทส่วนของความหยิ่งทะนงต่อศักดิ์ศรีหกระตุกถี่ยิบ และทั้งหมดก็ฉายชัดในดวงตาสีฟ้าคู่นั้น
"เจ้าชายกับคิงย่อมมีสิ่งที่รับผิดชอบต่างกัน" คนที่เริ่มจนต่อข้อแก้ตัวเริ่มมั่วซั่ว
"ตรงไหน?" ลอเรนซ์ถามโดยไม่หันมามอง "นายในตอนนั้นก็ถือว่าอยู่ในตำแหน่งคิงในอนาคต"
"แต่นี่คือปัจจุบัน" คาโลตอบ ลอเรนซ์หยุดงานในมือลง หันมาสบนัยน์ตาคมที่เต็มไปด้วยความถือดีในแบบที่น่าสมเพช
ถือดีเพียงเพราะไม่ยอมรับความเป็นจริง
"เมื่อก่อนฉันคิดว่าป้อมอัศวินโชคดีที่ได้คนกล้าหาญอย่างเจ้าชายคาโล วาเนบลีมาเป็นสมาชิกในป้อม" เสียงทุ้มเอ่ยช้าชัด ดังก้องไปทั่วห้องอันเงียบสงบ "แต่ตอนนี้ฉันเสียใจแทนคาโนวาลที่ได้คนขี้ขลาดอย่างนายมาเป็นคิง"
คำสบประมาทอย่างรุนแรงก่อให้เกิดไอเย็นพร้อมกลิ่นไอเวท ความกดดันหนักหน่วงคลอบคลุมทั่งทั้งห้อง หากนักบวชจากแอเรียสยังคงนิ่งเฉยไม่รู้สึกอะไรไปกับบรรยากาศตรงหน้า
"คิงที่ไม่สามารถทำเพื่อประเทศได้ก็ไม่สมควรเป็นคิง" คาโลเปรยตอบเสียงเย็นจนน่าขนลุก ชวนให้นึกถึงเจ้าชายน้ำแข็งในอดีตขึ้นมา
และก่อนที่คำถากถางชุดต่อไปจะออกจากปากของลอเรนซ์ ประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกพร้อมกับใบหน้าคุ้นตาของมหาดเล็กที่วันนี้ดูจะซีดเผือดและมีเหงื่อผุดพรายมากกว่าปกติโผล่ออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ
"ฝ่ะ...ฝ่าบาท ได้เวลาแล้วพระเจ้าค่ะ" ตาสีฟ้าตวัดมองผู้มาใหม่ให้อีกฝ่ายสะดุ้งสุดตัวลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะหันกลับไปมองอดีตรุ่นพี่ร่วมป้อมที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเช็ดถ้วยไวน์สีทองอร่ามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ถ้ารุ่นพี่เป็นผม" คาโลพูดขึ้น ขณะที่มหาดเล็กคนนั้นถูกลากออกไป
"รุ่นพี่จะเลือกอะไร"
ทันทีที่พูดจบ คิงคาโลก็หมุนตัวเดินออกจากห้องพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆ เงียบหายไปในที่สุด
เลือกอะไร?
ลอเรนซ์ส่ายหน้าหงุดหงิดกับรุ่นน้องงี่เง่าของตน มือที่ขัดถูก็ดูรุนแรงขึ้นตามอารมณ์ราวกับถ้วยในมือนั้นถูกปาใส่หัวคนในครอบครัวจนหัวแตกตายก็ไม่ปาน
ไม่มีคำว่าถ้าอะไรทั้งนั้น เพราะเขาไม่คิดจะเป็นคิง!
ไม่มีใครคิดแทนใครได้...
ลอเรนซ์เริ่มสบถยาวเหยียดอีกครั้งตามนิสัย
เพราะคนหนึ่งคนไม่สามารถแทนที่ใครได้
แม้แต่คิงที่อยู่บนจุดสูงสุดเองก็ตาม
ระหว่างที่นักบวชหนุ่มนั่งคิดหงุดหงิดอยู่นั้นเอง กลิ่นไอเวทประหลาดที่รู้สึกคุ้นเคยก็ปะทะเข้ากับจมูก เป็นเวลาเดียวกันกับที่บานประตูใหญ่เปิดกว้างขึ้นอีกครั้งพร้อมกับร่างของแขกผู้มาเยือนก้าวเข้ามา
ฉึก!!
มีดสั้นสีเงินที่ไม่ได้ถูกนำออกมาใช้นานแล้วบินไปปักอยู่บนผนังอันเก่าแก่งดงามของวิหารแห่งนี้ หากเป้าหมายก็สามารถกระโดดหลบไปยืนอยู่ข้างๆ ได้อย่างทันท่วงทียังคงฉีกยิ้มกว้างแม้ว่ามีดเมื่อครู่จะเฉี่ยวหัวตนไปเพียงไม่กี่เซนต์ก็ตาม
ไอ้เส้นโค้งสีดำสองเส้นที่น่าหงุดหงิดบนใบหน้านั่น
"ยังทักทายได้น่ารักเหมือนเดิมนะ..." เสียงทุ้มที่ไม่ได้ยินมานานทำให้คิ้วเข้มกระตุกถี่ ความหงุดหงิดพุ่งทะลุปรอดอย่างที่ไม่ได้เป็นมานาน
รวมถึงรอยยิ้มกวนประสาทนั่น และ...
"ลอรี่"
ฉึกๆๆๆ
ห่ามีดนับสิบปักเรียงเป็นระเบียบบนพื้นที่อีกฝ่ายเคยยืนอยู่ หากมีใครซักคนมาเห็นลีลาการหลบใบมีดอันพริ้วไหวนั่นแล้วคงให้คะแนนเต็มสิบ
"แกมาทำบ้าอะไรที่นี่...ไอ้ลูคัส!!" ลอเรนซ์แทบจะตะโกนออกมา เขาเลิกที่จะเตือนความจำมันเรื่องชื่อไปนานแล้ว เพราะรู้ดีว่าชีวิตนี้มันคงไม่มีทางเรียกชื่อเขาถูกแน่ๆ
"แหม...ใจร้ายจัง ฉันอุตส่าห์คิดถึงนาย" ลูคัสตอบยิ้มๆ พร้อมกับเดินเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย "ภาวนาแทบทุกวันให้ได้เจอ"
"แต่ฉันภาวนาให้แกตายทุกวัน!" คนฟังหัวเราะเบาๆ ไม่ใส่ใจกับคำสาปแช่งที่เมื่อสมัยเรียนได้รับทุกวัน เช้า สายบ่าย เย็น
"ถ้าฉันตายแล้วใครจะเป็นเป้าให้นายปามีดใส่ล่ะจริงไหม" ลอเรนซ์เริ่มสบถอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้น "นี่คงเพราะพระเจ้าเห็นใจความรักของฉันแน่ๆ ถึงได้ทำให้ฉันมาเจอกับนาย"
พระเจ้า!
ลอเรนซ์สบถ
โผล่ออกมาให้เขาถลกหนังหัวทีเถอะ!!
"ได้ข่าวมาว่านายเป็นนักบวชแลกเปลี่ยนกับคาโนวาล" ลูคัสเริ่มบทสนทนา พร้อมกับโบกมือเรียกเอาถาดน้ำชาพร้อมของว่างขึ้นมาวางไว้ข้างตัว
"และพอดีฉันมีงานที่นี่ก็เลยมาเยี่ยมด้วยความคิดถึงไงลอรี่"
เพล้ง!!
แก้วชาสีขาวที่ลูคัสกำลังจะหยิบแตกละเอียดให้เขาต้องเอื้อมไปหยิบอีกใบหนึ่งแทน
"ไสหัวของแกออกไปเลย" ลอเรนซ์กัดฟันกรอด มันโผล่มาทีไรก็มีแต่ความหงุดหงิด
"จะไม่ถามหน่อยเหรอว่างานอะไร"
"ฉันไม่อยากรู้!"
"แต่ฉันอยากให้นายรู้นี่" ลูคัสย้อนพร้อมกับส่งยิ้มหวาน ของตอบแทนรอยยิ้มนั้นจึงเป็นมีดเล่มที่สิบห้าจากอดีตคู่หูแห่งป้อมอัศวิน
ตาสีอเมทิสต์สบตาสีดำขลับที่พยายามส่งความจริงใจมาให้พร้อมกับความหมายที่ว่า
'ถามทีเถอะนะๆๆๆๆๆๆ'
จนในที่สุดลอเรนซ์ก็จำต้องยอมเอ่ยปากถามโดยที่มีสบถเป็นคำนำหน้า
"งานอะไรของแก"
ลูคัสยิ้มกว้างมีความสุข ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจัง ให้ลอเรนซ์ชะงักกึกกับกระแสความเคร่งเครียดที่แผ่ออกมาจากร่างของซาตานตรงหน้า
"ไว้ถึงเวลานายก็รู้เอง"
ฉึกๆๆๆๆ!!!
***********************************TBC....
ความคิดเห็น