ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -FanFic บารามอส- เวลากับสายลม

    ลำดับตอนที่ #2 : [#2] Cage

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 50



               
    ริ้วรอยกังวลฉายชัดบนใบหน้าโปร่งแสงนั้น นัยน์ตาทั้งสองจับจ้องอยู่ที่ร่างนายหญิงของตนที่เอาแต่นั่งเงียบตั้งแต่กลับมาถึงห้อง เธอแอบดีใจที่เจ้านายหล่อนใจอ่อนยอมเรียกหานายหญิงก่อน คิดว่าการพบหน้ากันของนายทั้งสองจะทำให้ความสัมพันธ์ทั้งคู่ดีขึ้น แต่เท่าที่เห็น...มันไม่เป็นไปอย่างที่เธอคิด


               
    ผีสาวลอยเข้าไปใกล้ร่างบอบบางที่ดูไร้เรี่ยวแรงกว่าปกติ เหมือนแก้วใสๆ ที่มีรอยร้าวและพร้อมจะแตกเสมอ หากเป็นปกติเจ้าตัวคงแหวใส่ว่าหนาวห้ามไม่ให้หล่อนเข้าใกล้พร้อมกับรอยยิ้มทะเล้น แล้วก็จะลามปามไปหาเจ้านายหล่อนว่านอกจากจะเป็นคิงน้ำแข็งแล้วยังทำตัวอยู่บนหอคอยงาช้างให้ยิ่งเย็นเข้าไปอีก นัยน์ตาสีน้ำตาลเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง หนังสือเล่มหนากางอยู่บนตัก ดูจะเป็นความบันเทิงอีกอย่างนอกเหนือไปจากการนอนกลิ้งบนสวนกว้างภายในราชวังใหญ่ หากตอนนี้กลับไม่ได้รับความสนใจอย่างที่เคยเป็น ร่างบางนั้นดูเหมือนพร้อมจะจมหายไปกับเก้าอี้ใหญ่ได้ในเวลาใดเวลาหนึ่ง เธออยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยฐานะแล้วไม่ใช่เรื่องที่บ่าวจะเข้าไปก้าวก่ายในเรื่องเจ้านาย


               
    "นี่พี่สาว...รู้รึเปล่าว่าท้องฟ้ากว้างแค่ไหน" ผีสาวสะดุ้งตัวเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกตัว ขณะเดียวกันก็ใจหายที่ถูกถามแบบนี้ เธอพยักหน้าน้อยๆ "กว้างมากค่ะ"


               
    เฟรินยิ้มบางๆ อย่างที่ทำประจำ


               
    ไม่มาก...ไม่น้อยจนเกินไป


               
    รอยยิ้มที่ดูดี สงบ สง่า เหมาะสมกับตำแหน่งควีนแห่งคาโนวาลอย่างที่พยายามพร่ำบอกพร่ำสอน แต่หล่อนรู้ดี...รอยยิ้มนั้นกำลังแทนที่ยิ้มแห่งความสุขที่อีกฝ่ายเคยมีอย่างเหลือเฟือ ทั้งหมดก็เพื่อตำแหน่งควีนอย่างที่ใครหลายคนปรารถนาอยากให้เฟรินเป็น


               
    เหนือสิ่งอื่นใด...เพื่อคิงคาโล


               
    "งั้นเหรอ แต่อดีตหัวขโมยอย่างฉันกลับลืมไปซะแล้วว่าท้องฟ้าข้างนอกมันกว้างแค่ไหน" คำสรรพนามแทนตัวเองเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและการขัดเกลาเป็นไปอย่างที่เธอต้องการ แต่กลับห่างเหินจนเหมือนไม่รู้จักกัน ยิ่งคิดก็เหมือนจะเห็นแต่ความผิดพลาดของการตัดสินใจ


               
    "เพราะยุ่งมากต่างหากล่ะคะ ทำให้ไม่ได้นึกถึง" เฟรินหัวเราะ ใบหน้าปรากฏร่องรอยของความมีชีวิตมากขึ้น


               
    "ขอโทษนะ" รู้ตัวว่าทำให้อีกฝ่ายเป็นห่วงซะแล้วถึงได้พูดออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนให้ตายก็คงไม่มีทางปริปาก ตาสีน้ำตาลหลุบต่ำลงเมื่อนึกถึงอดีต


               
    "คิดถึงเพื่อน" คำเปรยแผ่วเบายิ่งสร้างความสงสารให้กับผีสาวที่ได้แต่ลอยนิ่ง ในฐานะของอาจารย์หรือคนฝึกมารยาทอาจจะทำให้เธอดูมีประโยชน์บ้าง แต่ในฐานะคนสนิท..เธอกลับเป็นเพียงแค่คนที่ทำได้แค่เพียงมองดูความโศกเศร้า


               
    "งั้นให้คนไปเชิญมาคาโนวาลดีไหมคะ" เฟรินเงยหน้าขึ้นหัวเราะ "เนื่องในโอกาสอะไรล่ะ แต่ละคนก็ยุ่งกันทั้งนั้น" ปากก็ว่าไปแต่ใจก็หวัง หากความหวังนั้นเกิดแก่คนๆ เดียว คนเดียวที่เคยสนิทหยอกล้อตบหัวกันจนจบ


               
    คิลมัส ฟิลมัส


               
    ที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแค่นักฆ่าต๊อกต๋อย มีบารมีเพราะนามสกุล แต่กลายเป็นหนึ่งในตะกูลฟิลมัส ตระกูลนักฆ่าที่มีชื่อเสียงที่สุดในซาเรส ฝีมือก็คงจะเป็นรองแค่ผู้เป็นพ่อที่ยังไม่ทิ้งตำแหน่งนักฆ่าที่มีชื่อที่สุดในเอเดน


               
    เป็นไปได้ก็อยากจะเจอ เผื่อว่าเวลาเก่าจะกลับมาบ้าง


               
    "ก็นายหญิงคิดถึง เชิญมาเที่ยวก็ไม่เห็นแปลก นายหญิงเองจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง" ผีสาวตอบเสียงใส เฟรินหัวเราะเบาๆ "ไม่แน่หรอกพี่สาว เร็วๆ นี้อาจจะต้องเชิญยกชั้นปี"


               
    "จะมีงานเหรอคะ" ถามซื่อไม่ทันสังเกตน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป เฟรินพยักหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง


               
    "งานคัดเลือกสนมของคิงคาโนวาลน่ะ"


    ------------------------------
     

                "เฟรินล่ะ" เอ่ยถามคนที่แทบจะไม่เห็นหน้ากันทั้งๆ ที่อยู่ในวังเดียวกัน ท้องฟ้าด้านนอกมืดไปนานแล้ว แต่เพราะงานที่มากมายท่วมหัวกว่าจะได้พักผ่อนก็เกือบเที่ยงคืน และเพราะคืนนี้เป็นคืนเดือนมืด ภายในห้องจึงต้องจุดคบเพลิงเพื่อให้แสงสว่าง ร่างสีขาวลอยมาถอนสายบัวสวยงามก่อนตอบ


               
    "หลับแล้วเพคะ เข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ" อันที่จริงแล้วต้องบอกว่าตั้งแต่เมื่อเย็นจะถูกต้องกว่า ในเมื่อเจ้าหล่อนปฏิเสธอาหารเย็น ไม่ว่าจะคะยั้นคะยอขู่ตะคอกยังไงก็จะนอนอย่างเดียว หากยังมีชีวิตเสียงก็คงแห้งผาก ลำคอคงแสบไปหมดแน่ๆ เธอจึงได้แต่ปลงยอมให้เข้านอนตั้งแต่เย็น


               
    ผีสาวจ้องมองผู้เป็นนายเหนือหัวที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำจนคาโลต้องหันมามองดุ


               
    "มีอะไรก็พูดมา" ผีสาวลอยตัวต่ำมาหยุดอยู่ห่างจากคาโลช่วงหนึ่งก่อนเอ่ยถาม


               
    "นายท่านจะหาสนมใหม่เหรอคะ" ตาสีฟ้าที่มองนิ่งเผลอวูบไหวไปกับคำถามก่อนเปลี่ยนกลับมานิ่งสงบเช่นเดิม


               
    "นายท่านไม่คิดถึงใจนายหญิงบ้างเหรอคะ" คำถามดังต่อมาเมื่อได้คำตอบเป็นความเงียบ ตาสีฟ้าปรายมองไปยังแท่นบรรทมที่มีร่างของคนที่เขารักอยู่


               
    ไม่ใช่ไม่คิดถึงแต่...ฐานะของเขาปฏิเสธได้เหรอ?


               
    คำถามเมื่อตอนบ่ายย้อนกลับมาทำร้ายจิตใจตนอีกครั้ง แม้ว่าคาโนวาลจะมีกฎการเลือกคิงโดยใช้การประลองคัดหาตัวผู้มีความสามารถขึ้นเป็นคิง แต่ก็มีกฎอีกข้อหนึ่ง...กฎที่คิงจะต้องมีโอรสหรือพระธิดาอย่างน้อยหนึ่งพระองค์เพื่อสืบทอดสายเลือด เป็นกฎที่ตั้งขึ้นเพื่อบังคับให้สายเลือดสีน้ำเงินยังเข้มข้นและคงอยู่ในคาโนวาล


               
    เช่นเดียวกับเหตุผลที่คิงบาโรอภิเษกกับมหาภูตแห่งสโนว์แลนด์


               
    เขาเคยเสียใจกับท่าทีห่างเหินของผู้เป็นพ่อ เคยคิดตัดพ้อว่าหากพระองค์ไม่รักแล้วใยต้องให้เขากำเนิดมาขึ้นบนโลก


               
    ทั้งหมด...เพื่อคาโนวาล


               
    แล้วเขาเองล่ะ?


     

                'หาก..โอรสของฝ่าบาทไม่ได้เกิดแต่เจ้าหญิงแห่งบารามอส ฝ่าบาทจะทรงโปรดเขาบ้างไหม'


               
    'ไม่!'


               
    คำตอบอันปวดร้าวแก่ใจคนถามที่บัดนี้แม้เวลาล่วงเลยจนเหมือนไม่เหลือบาดแผล แต่สะเก็ดของมันยังคงอยู่ และบัดนี้...คำถามที่เขาเคยเอ่ยถามบิดาก็กลับมาเข้าตัวเองเช่นกัน


               
    'หาก..ทายาทของเขาไม่ได้เกิดจากเฟริน เขาจะรักทายาทที่เกิดมาบ้างไหม'


               
    ความละอายพุ่งผ่านกลางใจ เมื่อคำตอบที่ได้เพียงชั่ววูบไม่ต่างอะไรไปจากผู้เป็นพ่อ


               
    "นายท่าน" เสียงแผ่วเบาที่ราวกับดังมาจากที่ที่ห่างไกลเรียกสติคาโลให้กลับมา ตาสีฟ้าสบกับตาโปร่งใสที่มองมาอย่างเป็นห่วง


               
    "สภาอำมาตย์ตัดสินมาแล้ว" คำตอบชัดเจนทั้งต่อแม่ผีสาวและตัวเขา ใช่...ทั้งหมดเพื่อคาโนวาล ตาโปร่งใสสลดลง "แล้วนายท่านไม่คิดจะค้านบ้างเลยรึคะ?"


               
    คาโลหมุนตัวกลับมาจ้องผู้พูดเขม็ง นัยน์ตามีประกายโทสะวาวโรจน์จนผู้เป็นบ่าวที่รู้ตัวว่าเผลอเข้าไปก้าวก่ายมากเกินไปตัวสั่นด้วยความกลัว คิงหนุ่มแห่งคาโนวาลระงับโทสะที่พุ่งสูงอยู่นานก่อนเอ่ยเสียงเย็นเยียบให้หัวใจที่แม้จะหยุดเต้นไปนานแล้วให้เยียบแข็งมากกว่าเดิม


               
    "กษัตริย์อยู่ได้เพราะประเทศ ทุกการกระทำก็เพื่อประเทศ ไม่อย่างนั้นจะมีกษัตริย์ไว้ทำไม"

    **************************TBC...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×