ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -FanFic บารามอส- เวลากับสายลม

    ลำดับตอนที่ #16 : [#16] Suspicious

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 50


                "หมายความว่ายังไง!!!" คนที่ปกติไม่ค่อยจะพูดบัดนี้กลับแผดเสียงก้องไปทั่วห้องประชุมใหญ่ เหล่าข้าราชบริพานต่างยืนนิ่งเป็นรูปปั้นปฏิมากรรมด้วยจนต่อคำแก้ตัว ที่น่าจะช็อคที่สุดเห็นจะเป็นเหล่าทหารรักษาการณ์ที่ยืนตัวสั่นอยู่ใจกลางห้องด้วยข้อหาปฏิบัติหน้าที่บกพร่องอย่างร้ายแรง

                ตาสีฟ้าคมปลาบวาววับด้วยแรงโทสะกราดไปทั่วอย่างที่ไม่เคยมีใครในคาโนวาลได้เห็น แม้แต่พระสนมที่ในครั้งแรกพยายามส่งยิ้มโดยหวังว่าจะช่วยให้โทสะนั้นผ่อนลงบ้างบัดนี้ทำได้เพียงนั่งเงียบไปกับคนอื่นๆ ด้วย

                "ปล่อยให้นักฆ่าบุกเข้ามาถึงห้องทำงานกษัตริย์ยังไม่พอ ขนาดที่ราชินีถูกลักพาตัวก็ยังไม่มีหน้าไหนรู้สึกตัว นี่หรือศักดิ์ศรีของคาโนวาลที่พวกท่านพร่ำบอก!!!" คาโลตวาดดังลั่นอย่างเหลืออด ทันทีที่เพื่อนนักฆ่าหายตัวไปเขาก็รุดไปยังห้องของเฟรินที่ไม่ได้ย่างกรายเข้าไปนานทันที

                สิ่งที่พบ...ความว่างเปล่า

                "เจ้าเห็นราชินีครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่" น้ำเสียงเย็นหันไปถามมหาดเล็กต้นห้องที่มีสภาพไม่ต่างไปจากทหารรักษาการณ์คนอื่น จะหนักกว่าก็ด้วยหน้าที่ของตนที่รับผิดชอบ

                "สะ...สองวันก่อนพระเจ้าค่ะ"

                "แล้วไม่ฉุกใจคิดรึไง ว่าทำไมเฟรินถึงไม่ออกมา!!" คาโลตวาดถามซ้ำให้ร่างที่สั่นอยู่แล้วยิ่งสั่นหนักจนทรุดลงไปคุกเข่าลงกับพื้น

                "พะ..พระอาญามิเกล้า ชะ..ช่วงสองวันมานี้ ม...มีนางกำนัล นะ...นำเครื่อง สะ..เสวยเข้าไปในห...ห้อง กระ...กระหม่อมคิด..ว่า.....ว่าเป็นพระ..ประ...ประสงค์ของ อะ...องค์ราชิ..ชินีพระเจ้า...เจ้าค่ะ"

                คำกราบทูลตะกุกตะกัก กว่าจะเรียบเรียงให้ครบประโยคก็ทำเอาคนที่ฟังอยู่โดยรอบแอบเหนื่อยปนสงสารแทน

                "พระอาญามิพ้นเกล้า สงบพระทัยก่อนพระเจ้าค่ะ" หัวหน้าอำมาตย์ก้าวออกมาเบื้องหน้า คาโลตวัดสายตาไปมองผู้ที่กล้าเข้ามาขัดอย่างเย็นชา

                "กระหม่อมได้สั่งการให้ประตูเมืองต่างๆ คิดว่าไม่นานคงได้ตัว" คนฟังเหยียดยิ้มเย็น

                "ไม่นานที่ท่านว่า คงไม่เร็วเท่าข่าวที่ตอนนี้เริ่มแพร่ออกไปทั่วเมือง" ตาสีฟ้าวาวโรจน์อย่างไม่มีทีท่าจะสงบจับจ้องอยู่ที่เหล่าทหารรักษาการณ์และมหาดเล็กต้นห้องตรงหน้านิ่ง คาโลหลับตาเพื่อสงบสติอารมณ์ไม่ให้ตัวเองเผลอสั่งประหารทุกคนที่เกี่ยวข้องตามใจปรารถนา เพราะเขารู้ดีถึงความสามารถของเพื่อนนักฆ่า

                ลองให้มันอยากเข้ามาเดินเล่น มันก็มีวิธีจะเข้ามานั่นล่ะ

                "เตรียมม้า" คำสั่งสั้นกระชับได้ใจความ หากเหล่าสภาอำมาตย์กลับฮือฮา

                "ไม่ได้นะพระเจ้าค่ะ ฝ่าบาทจะทำอย่างนั้นไม่ได้" คาโลตวัดสายตากลับมามองเป็นคำถามว่าทำไมถึงทำไม่ได้ อำมาตย์เฒ่าค้อมตัวต่ำ "หากฝ่าบาทเสด็จออกไปในเวลาที่มีข่าวลือเช่นนี้เท่ากับเป็นการย้ำเตือนว่าข่าวนั้นเป็นจริง หากประเทศไหนรู้เข้าก็จะถือเป็นโอกาสในการแทรกแซงความมั่นคงของเราได้ ทั้งความน่าเชื่อถือของคาโนวาลก็จะตกต่ำลงทันที"

                "คงไม่ทันแล้วล่ะมั้งท่านอำมาตย์" คนฟังก้มตัวรับ "กระหม่อมไม่คิดแก้ตัวพระเจ้าค่ะ เพียงแต่ไม่ต้องการให้เหตุการณ์ลุกลามหนักขึ้นไปกว่านี้ ถึงภายนอกจะรู้ข่าวราชินี แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรกระโตกกระตากมากนักก็เท่ากับไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธในเวลาเดียว ถ้าจะพูดให้ถูก ก็คงต้องเรียกว่าซื้อเวลา"

                เหตุผลนั้นฟังขึ้น เพียงแต่ ณ ตอนนี้ ไม่ว่าเหตุผลใดก็ไม่สามารถหยุดคิงหนุ่มองค์นี้ได้อีกต่อไป

                "ท่านซื้อเวลาไว้นานถึงสามปีแล้วอำมาตย์เรเชอร์" คาโลเปรยเสียงเรียบแล้วก้าวเดินต่อทันที

                "แล้วที่ฝ่าบาทได้ทำการตกลงกับหม่อมฉันล่ะพระเจ้าค่ะ"

                ขายาวชะงักกึก ก่อนหมุนตัวหันกลับมา นัยน์ตาสีฟ้าเย็นพอๆ กับบรรยากาศโดยรอบที่จวนเจียนจะมีพายุหิมะพัดมาตั้งแต่เริ่มประชุมจับจ้องไปที่ร่างของอำมาตย์เฒ่าที่กล้าขัดใจคิงน้ำแข็งแห่งคาโนวาล

                "ฝ่าบาทคงไม่คิดตระบัดสัตย์หรอกนะพระเจ้าค่ะ"

                "อำมาตย์เรเชอร์!!!" คาโลแผดเสียงก้องอีกครั้งให้คนอื่นนอกเหนือไปจากเจ้าตัวที่ยังคงรักษาความนิ่งไว้ได้ต้องสะดุ้งเฮือกตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว ลมเย็นพัดวูบแรงโดยที่ม่านหนาไม่ได้กระดิกแม้แต่น้อย

                "ถ้าท่านคิดว่าเราเป็นกษัตริย์ที่ทำไม่ได้แม้จะรักษาคำพูด เราก็ยินดีจะคืนบัลลังก์ให้คาโนวาล" น้ำเสียงเข้มขุ่นเต็มที่อย่างพยายามระงับโทสะ เรเชอร์ก้มตัวต่ำ

                "กระหม่อมไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นฝ่าบาท แต่ข้อตกลงของเรายังไม่ลุล่วง" คาโลนิ่งไป ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดต่อ "และเพราะการกระทำโดยอารมณ์ของฝ่าบาทก็อาจจะทำให้ข้อตกลงนั้นต้องยกเลิก"

                ร่างสูงหมุนตัวกลับมาพร้อมก้าวเข้าไปหาคนพูดช้าๆ ก่อนจะหยุดยืนห่างไปเพียงก้าวหรือสองก้าว นิ่งเงียบ...นาน

                "คนที่คิดจะทำลายข้อตกลงคงเป็นท่านมากกว่าอำมาตย์เรเชอร์" กล่าวเพียงสั้นๆ เบาๆ ให้คนฟังสะดุ้งเฮือกราวกับถูกอ่านใจ พร้อมกับที่ร่างของคิงแห่งคาโนวาลได้ก้าวออกจากห้องประชุม

     

                "ข้อตกลง?" มีเดียย้อนคำสูงพลางเลิกคิ้ว นางกำนัลคนสนิทที่ติดสอยห้อยตามมาจากฟรานส์พยักหน้ารัวเร็ว แม้หัวใจจะยังเต้นถี่ระรัวกับการกระทำที่อาจทำให้ตนหัวหลุดจากบ่า หากรอยยิ้มกลับระบายกว้างบนใบหน้ากับข่าวที่ตนได้ยินมา

                มีเดียขมวดคิ้วมุนเข้าหากัน

                ข้อตกลงระหว่างคิงคาโลกับสภาอำมาตย์

                สัญชาตญาณของเธอกำลังเตือน...เตือนว่าข้อตกลงนี่อาจจะเกี่ยวข้องกับตัวเธอด้วย

                "แล้วจากนั้นล่ะ?" นางกำนัลรีบเขยิบกายเข้าไปใกล้พร้อมกับเกาะเข่าผู้เป็นนายก่อนจะเล่าด้วยน้ำเสียงสุดแสนระทึก "ฝ่าบาทก็ตวาดลั่นเลยล่ะเพคะ แล้วฝ่าบาทก็เดินเข้าไปหาท่านอำมาตย์เรเชอร์พูดอะไรไม่รู้ก่อนจะเดินออกจากห้องโถงใหญ่ หม่อมฉันไม่ได้ยิน แต่ท่านอำมาตย์สะดุ้งหน้าซีดเลยเพคะ "

                คิ้วบางที่ผูกกันยุ่งอยู่แล้วยิ่งยุ่งหนัก เธออยู่ที่คาโนวาลมาซักพักใหญ่แล้ว รู้ดีว่าตัวอำมาตย์เรเชอร์นั่นเปรียบเหมือนเสือแก่ที่แม้จะแก่ตัว แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความน่าหวาดหวั่นและทะนงตัว ทั้งสมองอันชาญฉลาดนั่นอีก เธอเคยลองหยอกเล่น แต่สุดท้ายคนที่ต้องหน้าซีดก็คือตัวเธอเอง

                ถ้าไม่จนแต้มจริงๆ คงไม่แสดงออกถึงขนาดนั้น

                มีเดียสะบัดหน้าเล็กน้อย เอาเถอะ..จะมามัวเดาสุ่มเองก็เห็นจะยิ่งฟุ้งซ่าน หันไปเปิดลิ้นชักใกล้ตัว หยิบเอากำไลทองฝังเพชรสลับสีงดงามส่งให้นางกำนัลที่รีบรับทันทีเป็นค่าตอบแทน

                "ออกไปก่อนนะ ตอนนี้ฉันอยากอยู่คนเดียว ไว้มีอะไรจะเรียก" มีเดียสั่งพลางยิ้มให้นางกำนัลคนนั้นรีบทำความเคารพก้าวถอยออกไป

                เมื่อบานประตูปิดลง คิ้วบางนั้นก็กลับมาขมวดเข้าหากันอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่โตีะเขียนหนังสือ หยิบเอากระดาษและปากกาขึ้นมาเขียนข้อความสั้นๆ อย่างรวดเร็วแล้วเดินไปที่ริมหน้าต่าง

                ปี้ดดดดด

                เสียงผิวปากยาวดังเบาๆ หากเพียงครู่เดียวเหยี่ยวตัวใหญ่ก็โผลงมาเกาะหน้าต่าง มีเดียจัดการผูก 'สาร' นั้นไว้กับขาเหยี่ยวก่อนที่มันจะกางปีกสะบัดสองสามครั้งให้ร่างมันลอยขึ้นและบินออกไปทันที

                ตาสีเขียวมองเหยี่ยวสื่อสารจนกระทั่งมันลับสายตาจึงจัดการปิดหน้าต่างให้สนิทราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


    *********************************TBC...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×