ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -FanFic บารามอส- เวลากับสายลม

    ลำดับตอนที่ #12 : [#12] Good News

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 50



               
    "ดูวันนี้นายหญิงจะเหงาๆ นะคะ" เสียงทักเรียกให้คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ริมหน้าต่างเงยหน้าขึ้นยิ้ม "พี่สาวไม่เคยได้ยินเหรอว่า บางครั้งบรรยากาศมันพาไปน่ะ" ว่าพลางตาสีน้ำตาลก็มองเลยออกไปนอกหน้าต่าง


               
    ท้องฟ้าขมุกขมัวพร้อมเสียงฟ้าผ่าจากที่ไกลๆ สายน้ำหยดเล็กๆ กำลังตกลงมานับล้านๆ หยดราวกับมีพายุ อากาศกำลังเย็นสบายแต่ใจเธอกลับหนักอึ้ง จนบางทีอาจจะหนักกว่าเมฆฝนในตอนนี้ก็ได้


               
    "ทั้งๆ ที่เมื่อวานฟ้ายังแจ่มใสอยู่เลย" เฟรินหัวเราะแล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อ "นี่หน้าฝนนะพี่สาว เรื่องปกติที่ฝนจะตก" ผีสาวสะบัดค้อนใส่วงโต แต่หล่อนก็ยังดีใจที่นายหญิงตนหัวเราะได้ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าเสียงหัวเราะกำลังจะเลือนหายไป เพราะแม้แต่รอยยิ้มก็ดูจะเห็นได้ยากเหลือเกิน


               
    "ลองหาอะไรทำดูดีไหมคะ ดีกว่านั่งอ่านหนังสือเฉยๆ" เธอเสนอความเห็น


               
    "เช่นอะไรล่ะ" เฟรินลองถามโดยที่สายตายังไม่ละไปจากหนังสือ ผีสาวทำท่านึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ "อย่างถักโครเชหรือนิตติ้ง" คนฟังเบิกตากว้าง หนังสือเกือบหลุดออกจากมือเมื่อจู่ๆ ก็เจอคำยกตัวอย่างที่ยังไงเธอก็ไม่มีวันทำเด็ดขาด


               
    "ให้ฉันกลับไปฝึกวิชาหัวขโมยยังจะดีซะกว่านะพี่สาว" เฟรินตอบขำ ส่ายหน้าช้าระอาใจ เพราะไม่ว่านานเท่าไหร่ ผีสาวตนนี้ก็ยังอยากให้ตนทำในสิ่งที่ไม่ชอบทำ


               
    หรือพูดให้ถูกคือฝึกให้ตายยังไงก็ห่วยแตก


               
    "ถักลายอะไร ง่ายแค่ไหนออกมาก็กลายเป็นกลุ่มด้ายขยุกขยุยเหมือนเดิมนั่นล่ะพี่สาว" พูดได้เพราะเคยลองทำสมัยที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในวังใหม่ๆ อารมณ์เหงา เซ็ง เบื่อ ใครเอาอะไรมาให้ลองทำก็ลองเสียหมด ตั้งแต่จัดดอกไม้ ถักโครเช ถักนิตติ้ง วาดรูป สารพัด แต่สุดท้ายก็กลายเป็นอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก


               
    "แหม...ของแบบนี้ต้องฝึกไปเรื่อยๆ สิคะ นายหญิงความอดทนต่ำต่างหาก" มือที่กำลังจะพลิกหน้าหนังสือชะงักกึก เฟรินเงยหน้าขึ้นมายิ้ม "นั่นสินะ ฉันคงความอดทนต่ำอย่างที่พี่สาวว่า" ตาสีน้ำตาลหม่นลงเล็กน้อย


               
    และถ้ามันต่ำกว่านี้อีกนิดก็คงจะดี


               
    ผีสาวที่มัวแต่งอนไม่ได้สังเกตเห็นแววตานั้นก็พูดต่อ


               
    "ถักผ้าพันคอ หรือถุงมือซักคู่ก็ยังดี นายท่านคงดีใจถ้านายหญิงทำให้" หัวใจกระตุกวูบเมื่อเหตุการณ์สองสามอาทิตย์ก่อนกลับมาในความคิดอีกครั้ง


               
    "หมอนั่นคงไม่ดีใจนักหรอก ที่ได้ก้อนอะไรก็ไม่รู้มาโปะตามมือตามคอ" เฟรินพูดติดตลกยิ้มบางๆ แต่นัยน์ตากลับไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย


               
    "แต่ถ้านายหญิงตั้งใจทำให้ ยังไงๆ นายท่านก็ต้องดีใจแน่ๆ ค่ะ" ผีสาวยังคงพูดไปเรื่อย หญิงสาวเบนสายตาออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง


               
    ฝนยังไม่หยุดตก และคงตกอีกนาน


               
    "นั่นสินะ ของที่ใครตั้งใจให้ ใครได้รับก็คงมีความสุข" น้ำเสียงเรียบทำให้ผีสาวเริ่มรู้สึกตัวหันมามองหน้านายหญิงของตนแล้วรู้สึกผิดขึ้นมาทันที หล่อนลอยตัวต่ำลงคุกเข่ากับพื้น


               
    "ขอโทษค่ะนายหญิง ที่พูดอะไรไม่คิด" เฟรินหันกลับมายิ้ม "ขอโทษทำไม พี่สาวก็แค่อยากให้ฉันหายเหงาไม่ใช่เหรอ เขาเรียกความหวังดีต่างหากล่ะ" ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่คนฟังก็ยังรู้สึกไม่ดีในฐานะที่ทำให้นายของตนนึกถึงเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ เฟรินที่เห็นผีพี่สาวยังคงทำหน้าสำนึกผิดก็อดที่จะยิ้มขึ้นมาไม่ได้


               
    ถึงจะชอบบ่นจุกจิกแต่ก็เพราะเป็นห่วงเธอถึงได้บ่น


               
    กลายเป็นว่าเพราะความซึมเศร้าของเธอทำให้ผีไม่สบายใจ


               
    นั่นสินะ...ถึงคนไม่ห่วงแต่ก็ยังมีผีที่เป็นห่วง


               
    เฟรินหัวเราะกับความคิดตัวเอง ปิดหนังสือวางลงบนโต๊ะตรงหน้ายืนขึ้น


               
    "งั้นเราไปเดินเล่นดีกว่าไหม ถึงฝนจะตก แต่ถ้าเดินในวังก็ไม่เปียกนี่นะ" ผีสาวเงยหน้าสบตาสีน้ำตาลที่พอจะมีชีวิตชีวาขึ้นแล้วยิ้มกว้าง


               
    "ค่ะ!"



    ----------------------------------

     

                เฟรินเพิ่งจะรู้ว่าสมัยที่ยังเรียนอยู่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยว่า การเดินไปไหนมาไหนโดยมีเพื่อนคุยระหว่างทางจำทำให้เธอมีความสุขแบบนี้


               
    แม้ว่าตอนนี้จะเป็นผีก็ตาม


               
    เฟรินเดินทอดน่องไปตามทาง ขณะที่ผีสาวก็ลอยอยู่ด้านข้างชวนคุยไปเรื่อย แรกเริ่มพวกนางกำนัลก็ขวัญหนีดีฟ่อ เป็นลมกันไม่เว้นแต่ละวัน ที่เห็นผีกลางวันแสกๆ แต่นานไปเข้าก็กลายเป็นความชินชา ถ้าไม่นับนิสัยขี้บ่นของผีตนนี้แล้วก็นับว่าเป็นเพื่อนคุยที่ดีได้ อาจจะดีกว่าคนบางคนที่ลืมว่าตัวเองมีปากเสียด้วยซ้ำ


               
    "แล้วก็นะคะ..." เฟรินยิ้มหัวเราะขณะกำลังฟังเรื่องสมัยที่ผีสาวตนนี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่ภาพเหล่านางกำนัลและมหาดเล็กเดินกันให้วุ่นวายทำให้เธอต้องบอกให้อีกฝ่ายเงียบเสียก่อนจะเรียกมหาดเล็กที่เดินเลี้ยวมาทางหัวมุมให้หยุด


               
    "มีเรื่องวุ่นวายอะไรกัน" มหาดเล็กก้มตัวต่ำ กราบทูลเสียงสั่น "พระสนมมีเดียเป็นลมพระเจ้าค่ะ"


               
    "อะไรนะ!! แล้วเป็นยังไงบ้าง" เฟรินร้องเสียงหลงด้วยไม่คิดว่าคนที่สุขภาพดีอย่างมีเดียจะเป็นลมง่ายๆ


               
    "นางกำนัลวิ่งไปเชิญหมอหลวงมาแล้วพระเจ้าค่ะ ส่วนกระหม่อมกำลังจะไปกราบทูลฝ่าบาท" ท่าทีหนักใจเมื่อครู่ชะงักกึกไป เหมือนจะพึ่งนึกอะไรขึ้นได้


               
    "นั่นสินะ รีบไปเถอะ" มหาดเล็กก้มตัวต่ำอีกครั้งแล้วรีบเดินกึ่งวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว


               
    "ทำยังไงดีคะ" ผีสาวที่มองมหาดเล็กไปจนลับสายตาหันกลับมาถาม เฟรินยิ้ม "ก็ต้องไปเยี่ยมซะหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าฉันใจดำวิ่งโร่ไปฟ้องใครอีก" คนฟังถอนหายใจเฮือก ก่อนจะกลายเป็นควันจางหายไปเพราะคงไม่เป็นการดีที่จะให้เธอไปปรากฏตัวต่อหน้าคนที่เพิ่งเป็นลม


               
    เฟรินรีบก้าวไปทางที่นางกำนัลหลายคนกำลังมุ่งหน้าไปทันที ประตูบานใหญ่ถูกผลักออกให้เห็นภายในห้องกว้างนั่น เตียงใหญ่กลางห้องมีร่างของหญิงสาวที่เมื่อครู่มหาดเล็กบอกเธอว่าเป็นลมนอนหน้าซีดเพียงเล็กน้อย ข้างเตียงคือหมอหลวงที่กำลังตรวจอาการอย่างละเอียด และถัดมาคือร่างสูงที่เธอไม่ได้เห็นมานาน


               
    เฟรินเดินไปอยู่ตรงข้ามคนละฝั่งเตียงที่คาโลยืนอยู่โดยไม่สนใจสายตาคมที่ตวัดมองมาทางหล่อนตั้งแต่เปิดประตูเข้ามา


               
    "มีเดียเป็นยังไงบ้างหมอหลวง" เธอถามแทบจะทันทีที่การตรวจเสร็จสิ้น หมอหลวงยิ้มแล้วยืนขึ้นให้หัวใจคนถามกระตุกวูบ


               
    มีอย่างที่ไหนคนป่วยทั้งคน หมอกลับยิ้มกว้าง


               
    มือเรียวกำแน่นอย่างไม่รู้ตัวแม้สีหน้ายังคงนิ่งสงบ


               
    ไม่...คงไม่ใช่....


               
    "ขอแสดงความยินดีด้วยฝ่าบาท พระสนมมีเดียทรงตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว" เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วห้องด้วยความรู้สึกยินดีปรีดาของบรรดาข้าราชบริพารแห่งคาโนวาล ที่บัดนี้ทายาทคนสำคัญได้พร้อมที่จะประสูติในอีกหลายเดือนข้างหน้า ผิดกับคนหนึ่งคนที่ยืนนิ่งเหมือนรูปปั้น ใบหน้าหวานซีดลงเล็กน้อย ริมฝีปากเผลอเม้มเข้าหากัน นัยน์ตาสีน้ำตาลทอดมองคนที่นอนอยู่ด้วยความริษยาเพียงชั่วครู่ก่อนจะถูกเรียกสติด้วยเสียงทุ้มเย็น


               
    "เฟริน"


               
    หญิงสาวสะดุ้งเฮือกหันมาสบตาสีฟ้าคมปลาบที่จ้องมาทางเธออย่างจับผิด เฟรินยิ้มบางเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองหลุดอะไรออกไปบ้าง พร้อมกับที่ร่างของคนที่นอนอยู่รู้สึกตัวขึ้นมา นัยน์ตาสีเขียวประกายกระพริบถี่เต็มไปด้วยคำถามเมื่อเห็นผู้คนมากมายยืนอยู่ภายในห้อง


               
    "ยินดีด้วยนะมีเดีย เธอจะได้เป็นแม่คนแล้ว" เฟรินเอ่ยเสียงอ่อนโยนในฐานะของผู้หญิงคนนึงที่ยินดีกับผู้หญิงอีกคนด้วยความจริงใจ หากลึกลงไปแล้วหัวใจเธอกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว มีเดียเบิกตากว้างหันไปมองคาโลที่ยืนนิ่งพยักหน้าให้เงียบๆ ก่อนที่น้ำตาหยดเล็กจะไหลปริ่มลงมาจากขอบตา


               
    "ท่าทางจะดีใจมาก เอาเป็นว่าให้เธอพักผ่อนดีกว่าไหม คนท้องควรจะพักผ่อนเยอะๆ" เฟรินเอ่ยถามความเห็นให้ช้าราชบริพารแยกย้ายออกไปอย่างว่าง่ายพร้อมกับหมอหลวงที่ต้องกลับไปเตรียมยาบำรุง เฟรินเท้ามือลงกับเตียงเอื้อมไปลูบศีรษะมีเดียอย่างอ่อนโยน


               
    "จากนี้ไปคงต้องลำบากเธอแล้ว" มีเดียส่ายหน้าทั้งน้ำตา


               
    "...ราชินี..."


               
    "เอาล่ะ ฉันไม่กวนแล้วดีกว่า พักผ่อนเยอะๆ เพราะตอนนี้เธอมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องแบกรับ" เฟรินยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะยันตัวลุกขึ้นเดินออกจากห้องเหลือเพียงคนสองคนที่อยู่ท่ามกลางความเงียบ


               
    "ฝ่าบาท" มีเดียเอ่ยเสียงแหบพร่าทั้งน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้ม คาโลมองหญิงสาวเล็กน้อยแล้วพยักหน้า "เธอควรจะพักผ่อนอย่างที่เฟรินว่า เพื่อเด็กในท้อง"


               
    กล่าวจบก็เดินออกจากห้องไป ให้มีเดียยิ้มทั้งน้ำตากับข่าวดีนี้


     

    ---------------------------------------


               
    "นายหญิง!!" ผีสาวที่รออยู่ภายในห้องร้องเสียงหลงเมื่อเห็นสภาพของเฟรินที่เดินหน้าซีดกลับมา หล่อนลอยตัวเข้าไปใกล้นึกเจ็บใจที่ไม่อาจะทำอะไรได้นอกจากยืนดู เฟรินยิ้มพร้อมกับที่น้ำตาได้ไหลลงมาอาบแก้ม


               
    "พี่สาว...คาโล.......คาโลกำลังจะมีลูกล่ะ" น้ำเสียงใสสั่นเครือให้คนที่เห็นรู้สึกเจ็บปวด เฟรินทรุดตัวลงนั่งกับพื้น อย่างหมดแรง


               
    อย่าว่าแต่ยืนเลย แค่หายใจตอนนี้ก็ลำบากเหลือเกิน


               
    "พี่สาว...ฉันเป็นคนบาปเหลือเกิน" เฟรินยังคงพูดต่อไป สองมือกำแน่นจิกเอาพรมราคาแพงขึ้นมาแน่นจนมือกลายเป็นสีขาว "ฉันควรจะดีใจที่คาโลมีลูก คาโนวาลมีทายาท ชีวิตหนึ่งกำลังจะเกิดมา แต่พี่สาว....ตอนที่ฉันได้ยินหมอหลวงพูด ความอิจฉามันก็แล่นขึ้นมา" เฟรินสะอื้นหนัก


               
    ทำนบน้ำตาพังทลาย


               
    ความเจ็บปวดประดังประเดเข้ามาราวกับคลื่น


               
    สำคัญคือใบหน้าที่น่าเกลียดของความริษยานั้น ได้ฉายให้คนที่เธอรักได้เห็น


               
    ผีสาวนั่งลงกับพื้นยกมือลูบศีรษะอีกฝ่ายให้รู้สึกเย็นวาบๆ


               
    "ไม่บาปหรอกค่ะนายหญิง นายหญิงจะรู้สึกอย่างนั้นก็ไม่แปลก" คำปลอบไม่ได้ช่วยให้เฟรินรู้สึกดีขึ้น


               
    เฟรินรู้ตัวเองดี และขยะแขยงตัวเอง


               
    ยามนึกถึงความคิดในเวลานั้น


               
    ความชิงชังที่เธอพยายามไม่รับรู้มาตลอด


               
    "ไม่เอาค่ะนายหญิง อย่าร้องไห้ฟูมฟายแบบนี้เลย ไม่สมกับเป็นนายหญิงที่เข้มแข็งของดิฉันเลย" ผีสาวลอยมานั่งตรงหน้า เฟรินเงยหน้าขึ้นมาสบตาใสๆ นั้นแล้วยิ่งสะอื้นหนัก


               
    ไม่ใช่เธอไม่อยากหยุด แต่หยุดไม่ได้


               
    "นายหญิงคะ นายหญิงเป็นคนบอกดิฉันเองนะคะว่าเราต้องเตรียมใจกับอนาคต" ผีสาวเปรยเข้ม "ถึงพระสนมมีเดียจะทรงครรภ์ทายาทแห่งคาโนวาล แต่ราชินีของคาโนวาลก็ยังเป็นนายหญิง คนที่ประชาชนให้การยอมรับว่าเหมาะสมกับนายท่านก็คือนายหญิง แล้วจะทำให้ความรู้สึกนั้นกลายเป็นความเข้าใจผิดเหรอคะ" คำพูดช้าชัดค่อยๆ ซึมซับเข้าไปในสมองของเฟริน เสียงสะอื้นค่อยๆ เงียบหายไปจนหยุดลงในที่สุด


               
    "ฉันยังมีที่ให้อยู่ใช่ไหมพี่สาว" คนถูกถามยิ้มให้อย่างอ่อนโยน "แล้วทำไมจะไม่มีล่ะคะ"


               
    เฟรินยิ้มน้อยๆ พยักหน้า


               
    "นายท่านไม่ได้ไม่รักนายหญิงหรอกค่ะ แต่เพราะหน้าที่ถึงต้องทำ" เธอไม่ว่าอะไรนอกจากพยักหน้าซ้ำ ของแข็งเย็นๆ กระทบกับหน้าอกให้รู้สึกตัว


               
    ไข่มุกแสงจันทร์ที่เธอไม่เคยถอดออกจากคอ


               
    เหมือนคนที่เธอรัก...เย็น แต่ก็ส่องสว่างอย่างอ่อนโยน


               
    เพียงแต่หลังจากนี้....


               
    ...แสงนั้นจะยังคงส่องสว่างให้เธออีกหรือเปล่า...


    ********************************TBC...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×