ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -FanFic บารามอส- เวลากับสายลม

    ลำดับตอนที่ #11 : [#11] Fault

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 50



               
    "ให้พ่อล้างคาโนวาลให้ไหมลูก หรือจะให้ลบฟรานส์ออกจากแผนที่ดี" น้ำเสียงนุ่มพูดกับบุตรีสุดที่รักแม้เนื้อหามันจะไม่ค่อยเข้ากับน้ำเสียงนักแต่เฟรินก็ยิ้มออกมาได้


               
    "อย่าลืมว่าฝ่าบาททำสัญญาว่าจะไม่รุกรานเอเดน จ้าวปีศาจคงไม่ผิดคำพูดหรอกนะกระหม่อม" แม้จะไม่เจอกันเป็นเวลานาน แต่ถ้อยคำพูดและความรู้สึกกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เอวิเดสทำหน้าครุ่นคิดพยักหน้ายอมรับให้คนที่กำลังนั่งลุ้นแอบถอนหายใจเฮือกแล้วก็ต้องกลั้นหายใจต่อเมื่อได้รับคำตอบอีกอย่างหนึ่ง "นั่นสิ งั้นเอาเป็นว่าแค่จัดการคิงคาโลกับนังผู้หญิงมนุษย์สองคนก็พอ"


               
    ตาสีน้ำตาลเบิกกว้างอย่างตกใจแต่ก็มีสติมากพอที่จะไม่โวยวายอะไร เธอรู้ดีว่าสำหรับพ่อคนนี้ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ


               
    "ฝ่าบาทอยากให้กระหม่อมเป็นม่ายงั้นเหรอ" เอวิเดสสะอึกไปก่อนส่ายหน้า "ลูกรักเขาเกินไป เฟลิโน่า" เฟรินยิ้มเลี่ยงต่อคำพูดของผู้เป็นบิดา "อีกอย่าง ถึงจะฆ่าคาโลกระหม่อมก็คงกลับเดมอสกับฝ่าบาทไม่ได้ ตรงข้าม...มีแต่จะยุ่งหนัก" คิ้วเข้มเลิกสูงให้คนพูดว่าต่อ


               
    "พวกสภาอำมาตย์คงได้กักตัวลูกไว้ในวังให้ทำงานแทนคาโลมัน"


               
    "พวกมันกล้าเหรอ!!" โกโดมลุกพรวด หากเฟรินไม่ได้ในความสนใจจึงเอ่ยต่อ "ส่วนเรื่องมีเดีย...กระหม่อมเห็นใจหล่อนนิดหน่อย" นัยน์ตาสีน้ำตาลทอแสงอ่อนลงเมื่อนึกถึงดวงหน้าอ่อนหวานนั้น


               
    "ลูกใจดีเกินไป" เฟรินเงยหน้าขึ้นมาหัวเราะพร้อมพยักหน้า "พี่สาวก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน" นิ้วเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาที่เล็ดออกมาลวกๆ แล้วจ้องหน้าคนฟัง


               
    "คาโลมีเหตุผลที่ต้องหาสนม การที่ไม่สามารถปฏิเสธสภาอำมาตย์ได้คงเพราะสายเลือดและการเลี้ยงดูปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ที่สำคัญถ้าไม่มีทายาท...คาโนวาลก็อยู่ไม่ได้" เฟรินสูดหายใจลึกแล้วยิ้มบาง สายตาจับจ้องอยู่ที่อาหารมากมายตรงหน้าที่ถูกทิ้งไม่ได้รับความสนใจ


               
    "แต่การที่ลูกไม่สามารถมีบุตรได้ไม่ใช่ความผิดที่จะต้องได้รับการกระทำเช่นนี้ ทางเลือกมีมากมาย คิงคาโลต่างหากที่ผิดเพราะไม่คิดจะปฏิเสธอะไร" เอวิเดสค้านเสียงนุ่ม ใบหน้าหวานส่ายปฏิเสธช้าก่อนจะเงยขึ้นมาสบนัยน์ตาสีดำนั้น


               
    "ทุกคนต่างผิดกันทุกฝ่าย ความผิดของกระหม่อม...คือการไม่ดูแลตัวเองทำให้ท่านพ่อเป็นห่วง บาปนั้นถึงได้ตามติดมาจนถึงปัจจุบัน ความผิดของคาโล...คือการเอาแต่ใจที่เลือกกระหม่อมเป็นราชินี แต่กลับใจใส่กับทุกสิ่งแต่ไม่รู้จักแบ่งปันส่วนให้เท่าๆ กัน ความผิดของสภาอำมาตย์...คือการยอมให้คาโลทำตามใจชอบอย่างที่ไม่ควรทำ ส่วนความผิดของมีเดียเองก็มี แต่ตอนนี้ยังไม่ถือเป็นความผิด" เอวิเดสอึ้งเงียบไป ความแข็งกระด้างภายในใจที่ครั้งแรกคิดไว้ไม่ว่ายังไงก็จะต้องพาตัวบุตรีกลับเดมอสอ่อนยวบลงเมื่อเห็นความเติบโต


               
    สามปีสำหรับปีศาจถือว่าไม่นาน


               
    แต่สำหรับมนุษย์กลับนานพอที่จะทำให้ใครซักคนเปลี่ยนแปลง


               
    "กระหม่อมจึงต้องชดใช้ความผิดนั้นด้วยการไม่สามารถให้กำเนิดทายาท สำหรับสภาอำมาตย์ก็กำลังชดใช้ความผิดนั้นด้วยการทำงานหนักทุกวัน เพราะฉะนั้น..." เฟรินว่าช้าๆ ราวกับจะค่อยๆ กลั่นกรองสิ่งที่คิดออกมาเป็นคำพูด "กระหม่อมก็อยากจะให้โอกาสทั้งตัวเอง คาโล และมีเดียที่จะแก้ไขหรือเจือจางความผิดนั้นลงไปบ้าง"


               
    "ลูกให้คิงคาโลมาแล้วสามปีนะเฟลิโอน่า คนที่ไม่เห็นคุณค่าของโอกาสนั้นย่อมไม่สมควรได้รับมัน" คราวนี้คนฟังยิ้มเศร้าเมื่อนึกถึงคิงน้ำแข็งที่ทำให้เรื่องกลายเป็นแบบนี้


               
    "กระหม่อมคิดว่า บางที..คาโลเอง...ก็อาจจะชดใช้ความผิดต่อคาโนวาลนั้นด้วยการทำงานที่หนักขึ้น"


               
    "แล้วความผิดต่อลูกล่ะ" ฝ่ามือใหญ่ไล้ใบหน้าเศร้าหมองของเฟรินช้าๆ ราวกับต้องการปลอบประโลมรอยบอบช้ำที่มองไม่เห็น เฟรินนิ่งไปพักใหญ่เมื่อคำถามแทงเข้ากลางใจ


               
    ไม่ใช่ไม่เคยคิด...แต่ไม่อยากคิด


               
    เพราะคิดแล้ว...ก็กลัวแต่จะได้คำตอบที่ปวดร้าว


               
    "กระหม่อม...เคยคิด และตอนนี้ก็ยังคิดนะกระหม่อม ว่า...บางที...บางทีตัวคาโลเองก็เจ็บปวดใจที่ความสัมพันธ์ของพวกกระหม่อมต้องกลายเป็นเช่นนี้ ในสภาพที่...คาโลเอง.....ก็..อยาก......ปฏิเสธ......แต่........" คำพูดทั้งหมดแทนที่ด้วยเสียงสะอื้นที่เจ้าตัวพยายามจะสะกดกลั้น เอวิเดสรวบตัวเฟรินเข้ามาในอ้อมกอด มือใหญ่ยกขึ้นลูบเส้นผมละเอียดนั้นแผ่วเบา ผู้คนภายในร้านหันมามองแปลกใจแล้วต้องรีบหันกลับเมื่อสบนัยน์ตาสีดำกร้าวนั่น


               
    พักใหญ่เฟรินจึงยอมเงยหน้ายิ้มแห้งๆ ตาแดงเรื่อ


               
    "ฝ่าบาทอย่ากังวลดีกว่า คนทุกคนย่อมมีขีดจำกัดของความอดทน กระหม่อมเองก็เช่นกัน" เฟรินว่าพลางก็หยิบช้อนส้อมขึ้นมาเตรียมจัดการอาหารตรงหน้า เพราะตั้งแต่เช้าจนนี่เกือบจะเที่ยงเธอยังไม่มีอะไรตกถึงกระเพาะ เอวิเดสฟังแล้วถอนหายใจหนัก


               
    ก็หวังว่าความอดทนของบุตรีจะสิ้นสุดในเร็ววัน



    -----------------------------------

     

                จ้าวเอวิเดส...กลับไปแล้ว


               
    เฟรินเอนตัวนอนหมดแรงบนเตียงใหญ่ในห้องใหญ่ และอยู่ในวังใหญ่ อะไรหลายๆ อย่างใหญ่ตามความสำคัญของหน้าที่ สิ่งเหล่านั้นทำให้เธอดูเล็กลง


               
    ทั้งในสายตาตัวเอง...และคาโล


               
    บทสนทนาเมื่อวานนี้ยังคงจำติดสมองเธออย่างยากที่จะลบ หลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จแล้วจ้าวเอวิเดสก็กลับแทบจะทันที นั่นทำให้เธอพอจะเดาได้ว่าที่พ่อของตนบอกว่าพวกเสนาอำมาตย์รับรู้การมาของอีกฝ่ายเห็นจะเป็นเรื่องโกหกถึงต้องรีบแจ้นกลับไปแบบนั้น


               
    'หากคาโนวาลอยู่ยากนัก ก็กลับมาเดมอสนะเฟลิโอน่า'


               
    คำตรัสสุดท้ายก่อนที่จ้าวเอวิเดสจะออกเดินทางทำให้เธอต้องยิ้ม


               
    ยิ้มเพราะซึ่งกับคำว่าสัมพันธ์ครอบครัว


               
    ห่างไกลแค่ไหนก็ตัดไม่ขาดมีแต่จะยิ่งเหนียวยิ่งขึ้น


               
    ก๊อกๆๆ


               
    เสียงเคาะประตูทำให้เฟรินต้องลุกขึ้นมาจัดแจงตัวเองให้อยู่สภาพดีก่อนจะเอ่ยปากอนุญาต


               
    คิ้วบางเลิกสูงแปลกใจเมื่อคนที่เปิดประตูเข้ามาคือคนที่ช่วงนี้ดูจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาขอเธอบ่อยครั้งนัก คาโลเดินเข้ามาหยุดอยู่กลางห้อง นัยน์ตาสีฟ้ายังคงนิ่งเรียบอย่างยากที่จะอ่านได้


               
    "ฉัน...มีเรื่องจะพูดด้วย" เฟรินพยักหน้าช้าๆ แม้ออกจะแปลกใจหนัก เพราะปกติคาโลจะไม่เคาะประตู มีแต่จะเดินเข้ามาเลยมากกว่า


               
    "เรื่องเมื่อวันก่อน....ฉันขอโทษ" นัยน์ตาสีน้ำตาลไหววูบเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่ตนไม่อยากจะจำ "ไม่คิดว่านายจะยอมเอ่ยปากขอโทษ" เฟรินตอบกลับช้าชัด น้ำเสียงเรียบสนิท


               
    "ถ้าผิดก็ต้องขอโทษ"


               
    ทั้งสองคนนิ่งเงียบไปพักใหญ่ เฟรินนึกแอบยิ้มสมเพชกับตัวเองในใจ เพราะสภาพในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากคราวที่เธอรู้ว่าจะมีการเลือกสนม


               
    ไร้คำพูด แต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด


               
    เธอยอมรับว่าเธอยังไม่ให้อภัยคาโล ขณะเดียวกันก็รู้ตัวว่าตนเองก็มีส่วนผิดที่ทำให้เรื่องต้องจบลงแบบนั้น แต่ศักดิ์ศรีที่เธอเรียนรู้มาสามปีกลับค้ำคอไม่ให้พูดออกไป


               
    "ดูท่าทางนายจะไม่ได้มาแค่พูดคำว่าขอโทษใช่ไหม" เฟรินพูดขึ้นด้วยรู้นิสัยอีกฝ่ายดี


               
    "เรื่องของมีเดีย" ชื่อบุคคลที่สามทำให้หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็สงวนท่าทีได้ทัน "ฉันไปทำอะไรให้มีเดียต้องวิ่งไปฟ้องนายงั้นเหรอคาโล"


               
    "มีเดียก็แค่มาพูดกับฉันว่านายดีกับเขามาก" คาโลเอ่ยหลังจากที่เงียบไปพักหนึ่ง


               
    "อ๋อ..งั้นนายก็เลยต้องมาขอบอกขอบใจฉันแทนมีเดียสินะ" ชั่ววูบเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังแล่นพล่านไปทั่วร่างกายเธอ อะไรบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกชิงชังกับบทสนทนาตรงหน้า เฟรินขยับยิ้มกว้างจนดูเหมือนยิ้มเยาะ


               
    "อย่าเป็นห่วงเลย ฉันรู้ตัวดีว่าอยู่ในฐานะ 'อะไร' " เสียงเน้นย้ำทำให้คาโลเริ่มไม่เข้าใจอารมณ์ที่แปรปรวนของอีกฝ่าย "แล้วนายก็ไม่ต้องห่วงด้วยว่าฉันจะไปทำร้ายมีเดียเพราะความหึงหวงอะไรนั่น"


               
    นาน...กว่าประโยคสุดท้ายจะซึมซับเข้าไปในสมองคนฟัง


               
    "หมายความว่า...นายไม่หึง?" เฟรินยิ้มกว้างอย่างที่เมื่อก่อนชอบทำเวลาที่อยากจะแกล้งใครบางคน เพียงแต่คาโลกลับไม่รู้สึกสนุกตามไปด้วย


               
    "นายเป็นคนบอกฉันเองไม่ใช่เหรอคาโล ว่าหน้าที่ต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัว มีเดียเขามาเป็นสนมเพื่อให้กำเนิดทายาทของเธอเพราะฉันทำไม่ได้" เฟรินหยุดไปเล็กน้อยเพื่อสูดหายใจเข้าปอดลึกและยาว บางอย่างกำลังตีตื้นขึ้นมาในอกให้รู้สึกแย่


               
    บางอย่างที่เรียกว่า...ความเจ็บปวด


               
    "ฉันที่บกพร่องต่อหน้าที่นี้ก็ต้องทำใจยอมรับหนทางแก้ที่นายเลือก"


               
    หนทาง...ที่คนที่เธอรักเลือกขึ้นมา


               
    คาโลมองใบหน้ายิ้มแย้มที่แสดงออกมาได้อย่างไม่มีที่ติ น้ำแข็งที่ประกอบขึ้นเป็นจิตใจกระเทาะปริร้าวทีละน้อยด้วยคำพูดเชือดเฉือนของคนที่เขารัก


               
    "ถ้านายโมโหก็ต่อว่ากันตรงๆ ดีกว่าเฟริน แบบนี้มันไม่ใช่นิสัยของนาย" คาโลยอมเอ่ยออกมาในที่สุดหลังจากที่เงียบไปนานอีกครั้ง เฟรินเลิกคิ้วสูงแล้วหัวเราะ


               
    "แล้วแบบไหนที่เป็นนิสัยของฉันเหรอคาโล" ร่างโปร่งเม้มริมฝีปากเน้น คำยอกย้อนเจ็บแสบอย่างที่สุดแฝงมากับคำถามที่ยิ่งตอกย้ำความผิดของตัวเขาเอง


               
    ใครกัน....ที่ทำให้คนที่เขารักกลายเป็นคนที่ไร้หัวใจเช่นเขา


               
    ใครกัน....ที่เปลี่ยนรอยยิ้มจากใจจริงให้กลายเป็นรอยยิ้มงามสง่าแต่ไร้ซึ่งหัวใจ


               
    ใครกัน....ที่ลบหัวขโมยใจร้อนพูดจาตรงไปตรงมา เหลือเพียงราชินีสูงศักดิ์ที่รู้จักใช้คำพูด


               
    ใครกัน...........ที่ให้เฟริน เดอเบอร์โรว์ เดอะ ทีฟ กลายเป็น เฟลิโอน่า เดอะ ควีน


               
    ควีนที่ดีพร้อม สง่า สูงศักดิ์เหมาะสมแก่ตำแหน่ง


               
    "ถ้านายจะมาขอบคุณแทนมีเดียก็กลับไปบอกเขาด้วยว่าฉันขอบใจ และถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันอยากอ่านหนังสือ" เฟรินลุกขึ้นยืนเดินไปยังหนังสือที่วางอยู่เหนือเตาผิง บนนั้นหินสีแดงบิ่นที่เธอเคยเก็บไว้ส่องประกายเข้าตาให้นึกขึ้นได้


               
    "เอ้อ...จริงสิ นี่..." เฟรินยื่นหินสีแดงนั่นให้  คาโลกับยืนนิ่ง เธอจึงคว้ามืออีกฝ่ายขึ้นมายัดมันให้แทน


               
    "ฉันว่ามันน่าจะเหมาะกับมีเดียมากกว่า แต่ตอนนี้มันบิ่นไปแล้ว นายก็ค่อยหาของใหม่ที่สวยกว่านี้ให้เธอก็แล้วกัน"


               
    "ฉันเอามาให้นาย" คาโลสวนกลับเสียงเรียบ เฟรินอึ้งไปเล็กน้อย ใจจริงเธอแอบหวังให้อีกฝ่ายพูดแบบนี้กับตน แต่การที่ได้ยินในสถานการณ์แบบนี้กลับดูไม่น่ายินดีอย่างที่เคยคิด


               
    "เอามาให้ฉัน?" เฟรินถามเสียงสูง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงตาโตด้วยความยินดี แต่สำหรับตอนนี้มันก็แค่หินธรรมดา สำคัญที่สุดคือคาโลไม่ได้ให้ของขวัญอะไรเธอมานานมากแล้ว แล้วนี่คิดยังไง?


               
    "เพื่ออะไร?"


               
    "จะให้มีเดียเอาไปออกแบบสร้อย"


               
    .........


               
    ใบหน้าหวานที่เกือบจะได้ยิ้มออกไปชะงักเพียงเล็กน้อยแล้วก็ยิ้มออกมา


               
    "เริ่มมีเซนท์กับเขาแล้วนี่ ถ้าอยู่บนคอของมีเดียคงสวยกว่านี้ แต่ก็อย่างที่บอก หินมันบิ่นไปแล้วคงจะดูน่าเกลียดถ้านายยังเอาไปให้เธอ ลองหาชิ้นใหม่จะดีกว่า นายไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ฉันจะได้อ่านหนังสือเสียที" เฟรินเอ่ยตัดบทขณะที่คาโลพยายามจะพูดด้วย แล้วก้มหน้าลงตั้งหน้าตั้งตาอ่านให้คนที่ยืนอยู่ต้องถอนหายใจ


               
    ".............................."


               
    ..เธอกำลังอ่านหนังสือ..


               
    ..เธอคิดจะอ่านหนังสือ..


               
    แต่ทำไม...ทำไมถึงมองเห็นอะไรไม่ชัดเลย


    ************************************TBC...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×