คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [#1] Word
แต่...เราจะรู้ได้อย่างไรว่านั่น...คือรักแท้
----------------------------------------
"ฮ้าววววว ทำไมมันน่าเบื่ออย่างนี้เนี่ย" คนที่นั่งผึ่งแดดผึ่งลมอยู่กลางสวนใหญ่อ้าปากหาวออกมาอย่างไม่เหลือคราบหญิงสาวสูงศักดิ์ จมูกโด่งสูดหายใจเอากลิ่นหญ้ารอบตัวเข้าเต็มปอด ความสดชื่นที่หาได้เพียงน้อยนิดภายในรั้วกำแพงของราชวังแห่งคาโนวาล
นั่น...แม่ปากแตรวงเดิน เอ้ย! ลอยมานั่นแล้ว
"ก็นี่ฉันอยู่คนเดียว จะไปงามทำไม" แม่ผีสาวสะบัดค้อนวงโตแถมส่งสายตาดุมาให้อีกเป็นของแถมก่อนเอ่ย "ได้ไงกันคะ ราชินีน่ะต้องงามทั้งต่อหน้าลับหลัง ทั้งภายนอกภายใน"
เฟรินอุดหูตัวเองทำหน้าเบื่อ ในเมื่อไอ้ประโยคบ้านั่นกรอกเข้าหูเธอทุกเช้าเย็น จนจะถือเป็นบทสวดมนต์ตอนนอนอยู่แล้ว ตาสีน้ำตาลเหม่อออกไปเบื้องบนผืนฟ้าใส หากก็มียอดหอคอยงาช้างบางส่วนมาบดบังทิวทัศน์บ้าง ไม่สนใจอาการพูดต่อยหอยของอาจารย์กิตติมศักดิ์จากคทาพิพากษา
นานเท่าไหร่แล้ว...ที่เธอไม่เคยเห็นท้องฟ้าเต็มผืน
"แล้วพี่สาวมาหาฉันมีเรื่องอะไรรึไง" เฟรินเอ่ยขัดเสียงแจ๊ดๆ ให้ผีสาวหยุดพูดนึกถึงหน้าที่ของตนขึ้นมา แววตาดุเมื่อครู่ทอแสงอ่อนลงแล้วยิ้มอย่างหาได้ยาก "นายท่านเรียกให้ไปหาค่ะ"
คิ้วสีน้ำตาลบางเลิกสูงแปลกใจ นานทีปีหนมันถึงจะยอมลงทุนให้คนมาเรียกไปพบ แต่งกันมาสามปีมีแต่เธอจะวิ่งไปหามันให้รำคาญเล่น จนในที่สุดเธอเองก็รำคาญตัวเองจึงหยุดตาม
"มีธุระอะไรเหรอ" ผีสาวส่ายหน้าช้า "ไม่ทราบค่ะ นายท่านบอกแค่ว่าให้มาตาม มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย"
เฟรินนิ่งคิดไปครู่ก่อนพยักหน้ารับรู้ แล้วกระโดดผุดลุกขึ้นมาให้คนมองมองตาขวางกับกิริยา 'ไม่งาม' นั้น ยังดีที่วันนี้ใส่กางเกง ลองถ้าได้ใส่กระโปรงหูคงชาไปอีกหลายวัน
-------------------------------
"เข้ามาก่อน" หากเฟรินกลับยังคงยืนอยู่หน้าห้อง จนคาโลต้องส่งสายตาดุไปให้อีกครั้ง เฟรินฉีกยิ้มกว้าง "โทษที แต่ฉันไม่ชอบกลิ่นกระดาษกับหมึก มีอะไรก็พูดมาเลย ฉันฟังอยู่"
"นายแน่ใจว่าจะให้ฉันพูดเลย" คำถามราบเรียบชวนให้ยิ่งสงสัยว่าอะไรที่มันอยากจะคุยกับเธอ เฟรินยักคิ้วส่งให้กวนๆ พลางเอามือกอดอก "ก็พูดมาสิ ยังไม่แก่ หูฉันยังไม่ตึง"
คาโลนิ่งไปอึดใจใหญ่ ปล่อยให้ความเงียบโรยตัวลงมาช้าๆ น่าอึดอัด ตาสีน้ำตาลไหวระริก เพราะอยู่ด้วยกันมานานจนถึงอีกฝ่ายไม่พูด เธอก็สามารจับความรู้สึกตึงเครียดของอีกฝ่ายได้อยู่ดี ร่างบางเดาะลิ้นเบาๆ เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงเรื่องที่คาโลจะพูดนั้นคอขาดบาดตายแค่ไหนแต่เธอก็อยากจะฟัง อยากจะรับรู้คำพูดที่จะเอ่ยออกมาจากริมฝีปากนั่น
เพราะเวลา...ทำให้ใกล้ชิดแต่ช่วงชิงสิ่งที่สำคัญที่สุดไป
...คำพูด...
เฟรินจำไม่ได้ว่าเคยพูดคุยจริงจังกับ 'สามี' ของเธอครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ รู้แต่ว่า...คงนานมาก มากพอที่จะทำให้อีกฝ่ายสรรหาคำพูดที่จะคุยกับเธอ สายลมแผ่วเบาพัดเข้ามาในห้องพลิกเอาหน้าหนังสือบนโต๊ะทีละหน้าๆ ช้าหากกลับชัดเจนกว่าร่างกลางห้องที่ดูจะกลืนไปกับความเงียบนี่
เฟรินถอนหายใจแผ่วเบา
"ถ้าไม่มีอะไรจะพูด งั้นฉันไปก่อนก็แล้วกัน"
"อีกสามวัน จะมีการคัดเลือกสนม" น้ำเสียงเรียบลื่นอย่างปกติที่เคยได้ยิน แต่แทงลึกเข้าไปในจิตใจผู้ฟัง ตาสีฟ้ามองแผ่นหลังเล็ก เผลอคาดหวังจะเห็นอาการสั่นของโทสะแม้เพียงเล็กน้อย หาก...ไม่มี
เฟรินชักเท้าที่ก้าวเข้ามายืนตัวตรง เธอได้ยินเสียงบางอย่างแตกหัก แต่เสียงทุ้มของประโยคเมื่อครู่มันดังกลบจนไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก ครู่หนึ่งเสียงหัวใจก็ดังขึ้นมา
ตึก...ตึก..
ช้า หากชัดเจนทุกจังหวะ น่าแปลกใจที่เธอไม่เคยสังเกตเสียงหัวใจมาก่อน
เมื่อไหร่...ที่อาการใจเต้นแรงได้หายไปจากชีวิต
เหลือเพียงจังหวะช้าๆ อย่างนี้ตลอดเวลา
"พวกอำมาตย์ตัดสินใจกันแล้วเหรอ" ความเงียบคือคำตอบ เฟรินรู้ดี ความเงียบของคาโลคือคำว่า 'ใช่' เสมอ หญิงสาวสูดลมหายใจลึกช้าๆ แล้วหมุนตัวกลับมา ตาสีฟ้าเป็นประกายวาบขึ้นมาเล็กน้อยแล้วก็หม่นลงแทบจะทันที เมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นยังคงนิ่งเรียบและเป็นประกายอย่างที่มันเคยเป็น
มันเรียบ...จนเขาอ่านไม่ออก
"ก็คงช่วยไม่ได้นะ ถ้าฉันมีลูกให้นายได้ นายก็คงไม่ต้องลำบากหาสนม" แล้วความเงียบก็โรยตัวลงมาอีกครั้ง สายลมหยุดพัดไปแล้ว นาน...กว่าที่เฟรินจะยิ้มออกมา
"ยังไงก็ขอบใจที่บอกกับปากนายเอง เอาไว้ถึงวันงานแล้วก็เตือนฉันด้วยก็แล้วกัน"
"แน่ใจแล้วเหรอ" คาโลมองคนรักตนนิ่ง เฟรินยังคงยิ้มก่อนจะพยักหน้า "แน่นอน ฐานะตอนนี้ของฉันมีช่องให้เห็นแก่ตัวด้วยเหรอคาโล"
คำถามเหมือนจะผ่าเปรี้ยงลงกลางใจคนฟัง ร่างสูงหลับตาลงช้าอย่างเหนื่อยอ่อน เขาคงทำงานหนักเกินไป ถึงได้รู้สึกเหนื่อยและล้าในตอนนี้ หากภายในใจส่วนลึกคาโลรู้ดี คำถามนั้น...ย้อนกลับมาถามตัวเขาเอง
ฐานะของเขาตอนนี้...ปฏิเสธได้เหรอ?
ตาสีน้ำตาลจ้องมองร่างสูงที่ดูแก่ลงกว่าอายุจริงราวสิบปีเงียบๆ เพียงครู่เดียวร่างนั้นก็กลับมายืนเต็มความสูงสง่างามเช่นเมื่อครั้งวันราชาภิเษก วันที่เธอมีทั้งความชื่นชม อิจฉาในคราเดียวกัน
"อย่าลืมเตือนล่ะ ช่วงนี้ฉันยิ่งความจำแย่ๆ อยู่" คนที่บอกว่าตัวเองยังไม่แก่เอ่ยเสียงใสแล้วหมุนตัวเดินจากไป
คาโลหมุนตัวเดินไปที่หน้าต่าง ฝ่ามือใหญ่วางทาบลงบนขอบหน้าต่างช้าๆ ความเย็นของเหล็กทำให้เขารู้สึกตัวว่ายังมีชีวิตอยู่ และรู้ว่าใจของเขาตอนนี้ก็เย็นเฉกเช่นเดียวกับความเย็นของเหล็กที่สัมผัส
ตาสีน้ำตาลเรียบเป็นประกายนั่นยังคงติดอยู่ในใจเขา เหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งเขา...และเฟริน จะมีก็แต่ตำแหน่งที่หนักอึ้งบนบ่าทั้งสองที่เพิ่มขึ้นมา แต่แท้จริงเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม
คิดแล้วก็เหมือนตอกย้ำตัวเอง เป็นเขาเองไม่ใช่เหรอที่อยากให้เฟรินเป็นควีนที่คาโนวาลยอมรับ
ไม่มีเฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟ บารามอส...มีเพียงเฟลิโอน่า วาเนบลี เดอะควีน ออฟ คาโนวาล
คาโลถอนหายใจหนัก เรื่องที่พูดกันเมื่อครู่ เขาเกิดนึก เกิดหวังขึ้นมาว่าหัวขโมยจะโผล่มาค้านหัวชนฝา อาละวาดจนวังเกือบพัง แล้วก็แล่นไปหาพวกเหล่าอำมาตย์ให้ยกเลิกการคัดเลือกซะ สุดท้ายก็มาบ่นแว๊ดๆ ใส่เขาข้อหาที่ไม่ค้านตั้งแต่ทีแรก แต่...ก็อย่างที่เห็น
เป็นไปได้...ตอนนั้นเขาอยากดึงคนตรงหน้ามาเขย่าแรงๆ เพื่อเอาความคิดที่แท้จริงในใจออกมา แต่บางอย่าง...บางอย่างที่ทำให้เขาไม่ทำ
เวลา...ช่วงชิงคำพูดของพวกเขาไป
*******************************TBC
ความคิดเห็น