[Fic Red Velvet] : Fooling Around [WenGi] - [Fic Red Velvet] : Fooling Around [WenGi] นิยาย [Fic Red Velvet] : Fooling Around [WenGi] : Dek-D.com - Writer

    [Fic Red Velvet] : Fooling Around [WenGi]

    คัง ซึลกิเป็นคนชอบโกหก...

    ผู้เข้าชมรวม

    1,623

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.62K

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    36
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 เม.ย. 58 / 00:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
















    Happy April Fool's Day.




    themy butter


    © themy butter

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ






       

      Fooling Around

       

       

       
       

      Pairing : Son Seungwan(Son Wendy) x Kang Seulgi

       

       



       

      คัง ซึลกิเป็นคนชอบโกหก...

       

       

      ถึงแม้ว่าโดยพื้นฐานเธอจะไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะตั้งแต่จำความได้ แต่ยิ่งโตขึ้นซึลกิก็ยิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัยถ้าหากว่าการกระทำแย่ๆของเธอจะถูกสารภาพออกไปยามที่ใครคาดคั้น หากไม่ถูกจับได้คาหนังคาเขาซึลกิก็ไม่คิดจะยอมรับ

      เธอกลัวเกินไปที่จะยอมรับสิ่งไม่ดีที่ตัวเองทำ เธอรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนดี แต่เธอก็ไม่คิดว่าคนอื่นจำเป็นต้องรู้ ซึลกิจึงโกหก ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่

      แรกๆที่โกหก ซึลกิยอมรับว่ารู้สึกแย่ เธอไขว้นิ้วซ่อนไว้ด้านหลังเผื่อว่ามันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น มันช่วยได้นิดหน่อย แต่หลังจากนั้นเมื่อต้องโกหกหลายครั้งเข้า เธอก็ไม่จำเป็นต้องไขว้นิ้วหรือแสดงสีหน้ากังวลอะไรออกไป เดาว่านี่คงเป็นสิ่งที่คนเกเรอย่างเธอทำได้ดียิ่งกว่าการเรียน กีฬา และดนตรี

       



      แน่นอนว่าทุกห้องเรียนจะต้องมีนักเรียนบางคนที่เป็นขวัญใจของเพื่อน คนที่น่ารัก เรียนเก่ง นิสัยดี และคงไม่ขี้โกหก. ..ห้องเรียนของซึลกิก็มีคนประเภทนั้นเช่นกัน มัธยมปลายปีสองห้องบี มีคนประเภทที่เพื่อนรักและมีคนประเภทที่เพื่อนพอจะคบอยู่บ้างแต่ครู...เกลียด

      ซน ซึงวานคือคนประเภทแรก

      คัง ซึลกิคือคนประเภทที่สอง

       


       

      ความดีของซึงวาน ทุกคนในห้องรู้ดี มันชัดเจนจนเหมือนจะจับต้องได้ หล่อนมีรอยยิ้มที่สดใส มีน้ำใจ เป็นหัวหน้าห้องที่ทุกคนรัก แม้แต่พวกเด็กเกเรหลังห้องอย่างกลุ่มของซึลกิที่ชอบแกล้งคนอื่นไปทั่วก็ยังเกลียดไม่ลง ครั้งหนึ่งพัค ซูยองเพื่อนคนหนึ่งของซึลกิเคยพูดว่าซึงวานน่ะไม่ใช่คนจริงๆหรอก แต่เป็นนางฟ้า ซึลกิไม่เห็นด้วยและคิดว่าซูยองพูดเกินไป ไม่มีใครที่ดีสมบูรณ์แบบได้ขนาดนั้นหรอก ซึงวานอาจจะแค่ซ่อนด้านไม่ดีในตัวได้เก่งเท่านั้นเอง

      เหมือนกับซึลกิที่ซ่อนทุกอย่างไว้ภายใต้คำโกหก...

      เธอเคยโกหกครูว่าปวดท้องเพื่อที่จะไปนอนในห้องพยาบาลแทนที่จะทนทรมานอยู่ในห้องเรียนฟิสิกส์ เคยโกหกว่างานที่ต้องส่งโดนฝนจนเปียกทั้งเล่มทั้งที่ความจริงเธอยังไม่ได้เริ่มทำ โกหกครูที่สอนคาบแรกหลายคนว่าต้องทำงานพิเศษจนดึกเลยมาโรงเรียนช้าแทบทุกวัน ทั้งที่ความจริงแล้วมัวแต่เล่นเกมส์จนดึกเลยตื่นสาย

      มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่มีใครเดือดร้อนกับการที่เธอทำตัวเหลวไหลแบบนี้...

      อย่างมากก็เกรดร่อแร่ แต่เธอไม่เคยต้องมาแก้หรือซ่อมอะไรเสียหน่อย แค่เอาตัวรอดได้ก็พอ...

       

      แต่ซึงวานไม่คิดอย่างนั้น

       

      ไม่รู้ว่ากฎข้อใดในการเป็นหัวหน้าห้องบังคับให้ซึงวานต้องคอยเตือนซึลกิอยู่เสมอว่าพรุ่งนี้อย่ามาโรงเรียนสายอีกหรือแม้แต่ให้ยืมโน้ตวิชาฟิสิกส์เวลาที่ซึลกิหาข้ออ้างไม่เข้าเรียน กฎข้อไหนที่บังคับให้ซึงวานทักซึลกิและเพื่อนทุกครั้งที่เจอกันแม้ว่ากลุ่มของเธอจะเป็นกลุ่มที่ไม่น่าคบที่สุดในห้องก็ตาม ไม่มีใครบังคับให้ซึงวานโทรตามซึลกิเวลาที่เธอคิดจะขาดเรียนด้วยเหตุผลงี่เง่า

      หล่อนคงคิดว่าการทำความดีกับคนไม่ดีแบบซึลกิจะทำให้เธอสำนึก

      หรืออาจเป็นเพราะสงสาร

      ซึลกิไม่คิดว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะซึงวานแค่เป็นคนดี ไม่มีใครดีขนาดนั้นหรอก...

       

       

       

      ซึลกิจำเป็นต้องจดโน้ตที่ซึงวานให้ยืมมาเพื่อไม่ให้หล่อนเสียน้ำใจ ต้องตื่นเช้ากว่าเดิมเพราะไม่อยากรำคาญสายโทรเข้าจากซึงวานที่คอยเตือนว่าถ้าเธอขาดอีกชั่วโมงเรียนจะไม่ครบและจะไม่มีสิทธิ์สอบ ซึลกิเลิกโกหกเพื่อไปห้องพยาบาลเมื่อซึงวานเอาแต่ส่งข้อความย้ำว่าวันนั้นมีสอบและห้ามหายไปจากห้องเรียนเด็ดขาด

      แต่ซึลกิก็ยังชอบโกหกอยู่เหมือนเดิม

      เธอโกหกต่อซึงวานว่าเธอเต็มใจทำเรื่องพวกนั้น

      ตั้งใจเรียนมากขึ้น... ขยันอ่านหนังสือสอบ...

      ซึงวานคงเสียใจถ้าได้รู้ว่าคนที่หล่อนพยายามช่วยให้ดีขึ้นคนนี้มันแย่เกินกว่าที่เยียวยาได้แล้ว

       

       


       

       

      “ทำไมไม่มาโรงเรียน?”

      ซึลกิค้นพบแล้วว่าซึงวานไม่ได้เป็นคนน่ารักอย่างที่ใครเค้าพูดกันเลย หล่อนแค่เป็นคนจู้จี้ที่น่ารำคาญและไม่มีมารยาทคนหนึ่งเท่านั้นเอง

      ที่ซึลกิคิดอย่างนั้นเป็นเพราะหลังจากที่ต้องฝืนตัวเองให้ขยันไปโรงเรียนทุกวัน เข้าเรียนทุกคาบและส่งงานให้ทัน เธอรู้สึกเบื่อจนไม่อยากมาคอยรับสายหรือเปิดข้อความที่หัวหน้าห้องคนเก่งคอยส่งมาอีก เธอไม่ใช่คนดีขนาดนั้น วันนี้เธอจึงปิดโทรศัพท์ ปิดช่องทางการสื่อสารทั้งหมดและนอนสบายใจอยู่ที่บ้าน จนกระทั่งมีสัญญาณว่ามีคนมาหาในเวลาบ่ายแก่ ซึลกิก็ค้นพบว่าเธอไม่สามารถหนีคนน่ารำคาญบางคนพ้น

      “โทรหาก็ไม่ติด เป็นอะไรรึเปล่า?” ซึงวานที่ยืนอยู่อีกฝั่งถามจ้อเมื่อเห็นหัวซึลกิโผล่พ้นประตูไม้สูงระดับคอเพื่อมาดูว่าใครมาหาถึงบ้าน

      “มาบ้านเราถูกได้ไง?” ซึลกิไม่ตอบแต่ถามกลับไปและได้คำตอบว่าหล่อนถามเอาจากซูยอง พอเลิกเรียนก็รีบถ่อมาเพื่อจะเอางานงานที่ได้รับมอบหมายใหม่และโน้ตที่ต้องจดในวันนี้มาให้ เป็นเพราะใกล้สอบเข้ามาทุกทีและซึงวานไม่อยากให้เธอสอบตก

       

      กลัวจะโดนหาว่าเป็นหัวหน้าที่ไม่ดีขนาดนั้นเลยหรือไง?

       

      ซึลกิเปิดประตูเพื่อรับชีทงานและสมุดที่ซึงวานเอามาให้แต่ไม่ได้เชิญให้หล่อนเข้ามา เมื่อโดนถามอีกครั้งถึงเหตุผลว่าทำไมเธอไม่ไปโรงเรียน ซึลกิก็ทำสิ่งที่ตัวเองถนัดมาตลอด

      “รู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ เหมือนจะไม่สบาย” ...โกหก

       นั่นทำให้ซึงวานขยับเข้ามาอังมือกับหน้าผากของซึลกิเผื่อเช็คอุณหภูมิร่างกายว่าสูงเกินไปหรือเปล่า หล่อนพูดเบาๆว่าตัวไม่ร้อน แต่กินยาไว้ก่อนก็จะดี แน่นอนล่ะว่าตัวของซึลกิไม่ร้อน เธอแค่โกหก แต่ความรู้สึกร้อนผ่าวที่อยู่ๆก็โดนใครอีกคนเข้ามาประชิดตัวภายในร่างกายของซึลกิไม่ได้เป็นเรื่องโกหกอย่างแน่นอน

       

       

       


       

       

      คัง ซึลกิเป็นคนชอบโกหก...

       
       

      และเป็นคนที่ทำให้วันแห่งความรักกลายเป็นวันโกหกแห่งชาติขึ้นมาได้อย่างไม่ต้องพยายามมากนัก...

      ดอกไม้ดอกแล้วดอกเล่าที่ผ่านเข้ามาในมือซน ซึงวานคนดังทำให้หล่อนยิ้มไม่หุบ ซึลกิไม่เห็นว่าการให้ดอกไม้ช่อใหญ่หรือตุ๊กตาตัวโตจะทำให้ผู้ให้ดูจริงใจต่อผู้รับขึ้นมาสักนิด ทุกคนก็แค่ทำให้ตัวเองดูดีเท่านั้น ไม่มีใครที่อยากให้อย่างจริงใจโดยไม่หวังว่าจะได้อะไรตอบแทนกันหรอก คนที่ให้ดอกไม้กับซึงวานก็หวังว่าจะได้ความรักจากหล่อนตอบกลับไปทั้งนั้น...

      ตั้งแต่วันที่ซึงวานมาหาซึลกิถึงที่บ้าน ซึลกิก็เริ่มทำเป็นตั้งใจเรียนขึ้นมาอีกครั้ง โกหกตัวเองว่าเธอเป็นคนที่ดีกว่านี้ได้และพยายามลงมือทำ พยายามทุกอย่างเพื่อให้ซึงวานเลิกเข้ามายุ่งกับคนเกินเยียวยาอย่างเธอเสียที เธอมันก็แค่คนที่ปกปิดสิ่งไม่ดีในตัวได้เก่งจนเหลือเชื่อ ไม่เหมือนกับซึงวานที่ตอนนี้ซึลกิรู้แล้วว่าหล่อนไม่เคยปกปิดด้านไม่ดีของตัวเองเลย

      ซึงวานก็แค่เป็นคนดี คนดีที่สมบูรณ์แบบคนนั้น

      คนที่ทำให้ซึลกิอยากโกหกกับตัวเองว่าสามารถเป็นคนดีกว่านี้ได้

      อยากจะทำอย่างนั้นตลอดไป...

       

       


       

      “ถือไหวมั้ยนั่น?”

      มันเป็นเวลาเย็นย่ำหลังจากที่เพื่อนในห้องกลับบ้านกันหมด เหลือเพียงซึลกิที่เพิ่งเอางานค้างไปตามส่งกับครูและกลับเข้ามาในห้องเพื่อพบว่าซึงวานกำลังหอบทั้งของขวัญทั้งดอกไม้หลายช่อที่ได้รับและกำลังจะกลับบ้าน

      “สบายมาก แบกกองการบ้านพวกเธอไปส่งยังหนักกว่านี้อีก” ซึงวานตอบกลั้วหัวเราะ ซึลกิยิ้มให้กับประโยคนั้นก่อนจะเดินตามหล่อนออกจากห้องเรียน

      “ดอกไม้เดี๋ยวมันก็เหี่ยวไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องเก็บไว้ก็ได้นะ ฝากเราไปทิ้งได้”

      “ก็คงทิ้งตอนที่มันเหี่ยวแล้วนั่นล่ะ ถ้าเราเป็นคนให้ก็คงไม่อยากให้คนรับเอาไปทิ้งตั้งแต่เพิ่งได้มาหรอก”

      ซึงวานยังไงก็ยังเป็นซึงวาน กฎของการเป็นหัวหน้าห้องคงระบุไว้ด้วยว่าต้องนึกถึงความรู้สึกคนอื่นเสมอ ซึลกิขยับมือที่จับสายสะพายกระเป๋าเป้ของตัวเองแน่นก่อนจะตัดสินใจหยิบดอกกุหลาบสีแดงที่เริ่มช้ำเพราะอยู่ในกระเป๋ามาทั้งวันเพื่อยื่นให้ซึงวาน

      ทุกคนมอบให้เพราะอยากได้รับอะไรตอบแทนกันทั้งนั้น...

      “ให้เราเหรอ?” ซึงวานหยุดเดิน ตั้งคำถามและชี้มือข้างที่ว่างไปที่ตัวเองอย่างประหลาดใจ


      “เราชอบเธอ”


      ซึลกิตอบไม่ตรงคำถาม หลังจากจบประโยคนั้นซึงวานก็นิ่งเงียบเสียจนน่ากลัว นี่คือผลที่ได้จากการไม่โกหกอย่างนั้นหรือ? ซึลกิคิดถูกมาตลอดว่าความจริงบางอย่างก็ไม่ใช่สิ่งที่สมควรพูดออกไป

      “นี่เชื่อจริงป้ะเนี่ย? เราล้อเล่น มีคนเค้าฝากมาให้เธอ”

      ซึลกิหัวเราะราวกับแกล้งแหย่อีกคนได้สำเร็จ ซึงวานเองก็ขำพรืดออกมาและตีแขนของซึลกิพลางบอกเธอว่าทำให้หล่อนตกใจมากขนาดไหน

      นานมากแล้วที่ซึลกิไม่ได้รู้สึกแย่เวลาตัวเองโกหกแบบนี้ แย่เสียจนต้องซ่อนนิ้วที่ไขว้กันไว้ด้านหลังในขณะที่อีกมือยื่นดอกไม้ให้ซึงวานรับเพิ่มไปอีกดอก แค่ดอกเล็กๆที่ไม่สำคัญอะไร

      ไม่มีใครเดือดร้อนกับการโกหกอีกครั้งของเธอ...

       

      เพราะเรื่องจริงบางเรื่องก็ไม่มีใครสมควรได้รู้

       

      เรื่องจริงที่ว่าซึลกิไม่ใช่คนดีอย่างที่ซึงวานหวังว่าจะเป็น ซึงวานเองก็ยังไม่เคยรู้ เรื่องจริงที่ว่าซึลกิโกหกได้เก่งมากขนาดไหนซึงวานก็ไม่เคยรู้ ซึงวานก็แค่คนดีที่มองข้อเสียของคนอื่นไม่ค่อยออกเท่านั้น

       

       

      ถ้าจะมีเรื่องจริงจากซึลกิที่ซึงวานไม่เคยรับรู้เพิ่มอีกสักเรื่องหนึ่งก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปทั้งนั้น...

       

       

       

       

       

      Fin.

       
       

      อู้วววว นี่คือฟิครวว.เรื่องแรกที่แต่งลงเด็กดีเลย ความจริงเราแต่งไว้ซักพักแล้ว แต่เพราะวันนี้เป็นวันเมษาหน้าโง่พอดีเลยอยากลง ไม่เกี่ยวเนอะ ฮาาาา ดีไม่ดียังไงฝากติชมด้วยนะครัชชช

      รักเวนกิมาก รักคนอ่านมากกว่า แต่รักคนเม้นต์มากที่สุด ฮิ <3

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×