นิ ย า ม แ ส ง ด า ว (จบแล้ว)
'ผมไม่รู้ว่าทำไมต้องรักคุณ...หัวใจสั่งให้รัก ผมก็รัก...'
ผู้เข้าชมรวม
20,844
ผู้เข้าชมเดือนนี้
57
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ทะเล...ไม่เคยหลับใหล นับร้อยพันหมื่นปี มันยังคงทำหน้าที่สาดเกลียวคลื่นสู่ฝั่ง แล้วถอยลงผืนน้ำ เพื่อก่อมวลละอองฟองครั้งใหม่ ถาโถมขึ้นมาอีกระลอก ชั่วกัปชั่วกัลป์....
หรัณย์หนุนแขนต่างหมอน แล้วทอดสายตามองดูดาวในคืนที่ฟ้าไร้หมอกเมฆมาบดบังสายตา ลมยามค่ำคืนพัดโชยเย็นฉ่ำ เสียงคลื่นขับกล่อมเป็นจังหวะผสมผสานเสียงของหรีดหริ่งเรไรโดยรอบ
ธรรมชาติ...ทำให้เขาลุ่มหลงดั่งต้องมนตร์สะกด คงไม่มีอะไรในโลกงดงามไปถึงจิตวิญญาณได้เท่านี้อีกแล้ว เขาชอบมานอนดูดาวที่นี่แทบทุกคืนหากไม่มีเหตุสุดวิสัย ความเงียบสงบปราศจากความวุ่นวายทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย แม้มันจะอยู่ห่างจากที่พักพอสมควร แต่เพียงได้มาเยือน ก็รู้สึกหายเหนื่อยจากความรับผิดชอบทั้งหลายทั้งปวง เป็นปลิดทิ้งทุกครั้ง...
คลื่นทะเล แสงดาว สายลม และดวงจันทร์เฉิดฉาย คือมิตรแท้ที่เคียงข้างเสมอ ไม่ว่าเขาจะอยู่แห่งหนไหนก็ตาม เขาอาจเป็นคนขี้ขลาด ที่หนีโลกแห่งความจริงอันวุ่นวายมาอยู่ที่นี่หลายปี ตัดขาดจากทุกอย่าง...ไม่รับรู้ไม่เคยหันกลับไปมองทางเดิมที่เคยจากมา แต่หรัญย์ก็มั่นใจว่าหากย้อนกลับไปวันวานได้ และให้เขาเลือก เขาก็จะเลือกแบบเดิม ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม...
บรรยากาศอันน่าภิรมย์ ทำให้ความง่วงเริ่มครอบงำ หลายครั้งเขามาตั้งแคมป์กินนอนที่นี่ แต่คงไม่ใช่คืนนี้ เพราะวันรุ่งเช้ามีงานต้องสะสาง ชายหนุ่มจึงพยุงกายลุกนั่งและบิดตัวคลายความเมื่อยขบ สายตาของเขามองไปยังเบื้องหน้าซึ่งเป็นผืนทะเลกว้างใหญ่ที่กำลังสาดซัดคลื่นเป็นระลอกๆ ตรงขอบชายหาด
"นั่นอะไร...คนหรือผีวะ..." บางอย่างที่ผิดปกติทำให้ชายหนุ่มขยี้ตามองซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะสิ่งที่เห็นคือผู้หญิงในชุดขาวฟูฟ่องกำลังเดินโซเซลัดเลาะไปตามชายหาด แม้จะเป็นในยามค่ำคืน แต่ก็เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง แสงจากดวงจันทร์จึงสว่างพอจะทำให้มองได้ชัดเจน
สามปีที่มาอยู่ที่นี่ เขาไม่เคยพบเจออะไรอย่างนี้มาก่อน และไม่ใช่คนเชื่อเรื่องลี้ลับเสียด้วย
กระนั้นก็อดขนลุกไม่ได้เหมือนกัน...
ชุดที่หญิงสาวคนนั้นสวมอยู่ ดูคล้ายชุดเจ้าสาว ชายกระโปรงยาวลากไปตามผืนทราย หล่อนเดินผ่านตรงที่เขาอยู่ไกลพอสมควรและความมืดสลัวแสงก็ทำให้มองรายละเอียดอื่นๆ ได้ไม่ถนัดตานัก แต่จากที่เห็นคร่าวๆ แล้วก็พอรู้ว่าหล่อน เป็นผู้หญิงตัวเล็กพอสมควร
"ช่างแม่ง...กลับดีกว่า" ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นคนไม่ใช่สิ่งเหนือธรรมชาติ แต่หรัญย์ก็เลือกที่จะไม่ยุ่ง มันไม่ใช่เรื่องของเขา หล่อนอาจมีเหตุผลบางอย่าง หรือกำลังทำอะไรบางอย่างที่เขาคาดไม่ถึงก็เป็นได้
หลายวันก่อนมีผู้หญิงหลอกล่อพาผู้ชายคนหนึ่งมาเดินเล่นชายหาดในที่ห่างไกลผู้คน แล้วจากนั้นพวกกลุ่มวัยรุ่นก็รวมหัวกันปล้น และทำร้ายบาดเจ็บปางตาย ดังนั้นอะไรก็ตามที่เป็นความเสี่ยงเขาไม่ควรเกี่ยวข้องด้วย
ชายหนุ่มตัดสินใจเดินไปตามแนวผักบุ้งทะเลที่ตัวเองนอนเอกเขนกอยู่เมื่อครู่ เป็นคู่ขนานกับหล่อนซึ่งอยู่ตรงชายหาด เพราะเป็นทางเดียวกันกับที่เขาจอดรถเอาไว้
หล่อนเดินช้ากว่าเขามาก หรัญย์ที่คอยสังเกตอยู่ตั้งแต่แรกเมื่อใกล้กันเขาจึงเห็นว่าในมือหล่อนถือขวดเครื่องดื่มอยู่ด้วย ริมฝีปากหยักหนาแสยะยิ้มแล้วส่ายหน้าทันที
ผู้หญิงในชุดเจ้าสาว กับเหล้า...ไม่ต้องเดาก็พอสรุปได้ว่าเจ้าตัวต้องเผชิญกับอะไรมา
ที่น่าแปลกใจก็คือทำไมหล่อนเดินมาถึงนี่ได้ หากมีงานแต่งก็คงเป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่อยู่ไกลออกไปเกือบสิบกิโล ชายหาดก็ไม่ได้ทอดยาวมาถึง เพราะมีกลุ่มหินโสโครกคั่นอยู่เป็นระยะยาวเลยทีเดียว ขนาดกลางวันจะเดินข้ามมาไม่ใช่เรื่องง่าย หรือหล่อนขับรถมาจอด จากทางนั้นก็ไม่มีถนน...
ปริศนาต่างๆ ผุดพรายให้เขาต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย จากที่ไม่อยากใส่ใจ กลับเริ่มอยากรู้ว่าหล่อนเป็นใคร มาจากไหนกันแน่ ดูแล้วรอบๆ นี้ก็น่าจะมีแค่หล่อน กลับเขา...
ไม่น่าจะมีกลุ่มดักปล้นชิงทรัพย์ซ่อนตัวอยู่แต่อย่างใด
ทันใดนั้น...ก่อนที่หล่อนจะสร้างความสับสนให้เขามากไปกว่านั้นสิ่งที่หรัญย์ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น
"นี่เธอ!! หยุดนะ อย่าลงไป!!" ร่างเล็กในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์เปลี่ยนทิศทางจากชายหาดที่ทอดยาวลงสู่ทะเล...
หล่อนกำลังจะฆ่าตัวตาย...
หรัญย์วิ่งสุดกำลังโดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง ถึงจะไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น แต่จะให้มองผู้หญิงคนหนึ่งจมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตาเขาก็ทำไม่ได้เหมือนกัน หล่อนไม่สนใจเขา ยังคงตรงดิ่งสู่ผืนน้ำอันเวิ้งว้าง พร้อมๆ กับคลื่นที่ซัดกระทบเป็นฟองฟู่
"เวรเอ้ย...อะไรกันวะเนี่ย" หล่อนเดินลงลึกเข้าไปทุกทีในขณะที่เขามาถึงชายหาด หรัญย์รีบถอดรองเท้าแล้วกระโจนตามไป ผ่าเกลียวคลื่นที่ถาโถมไม่หยุดยั้ง และจับตัวหล่อนเอาไว้ได้ในที่สุด
"หยุดนะ!! จะทำอะไรบ้าๆ"
"ว้าย! แกเป็นใครเนี่ย มาจับฉันทำไม"
"ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอ!! จะมาตายที่นี่ไม่ได้นะ นี่มันที่ของฉัน!!" หล่อนสะบัดตัวสุดแรงในขณะที่เขาก็ใช้กำลังลากร่างของหล่อนขึ้นฝั่ง
"ปล่อย!!!" หล่อนยังดีดดิ้นไม่เลิก ทั้งจิกทั้งข่วนผู้ช่วยชีวิต
"นี่หยุด! ฉันเจ็บ!!" หรัญย์ยิ่งรัดร่างเล็กแน่นเมื่อหล่อนทุบตีเขาไม่เลิก ไม่พอ...หล่อนยังกัดแขนของเขาจนเจ็บร้าวไปหมด ใจหนึ่งก็คิดว่าฤทธิ์เยอะขนาดนี้น่าจะปล่อยเป็นผีเฝ้าทะเลไปซะให้รู้แล้วรู้รอด
แต่อีกใจก็แย้งว่า...มันคงไม่ดีแน่หากปล่อยให้มีคนตายไปต่อตาในสถานที่ที่เขายังต้องมาแทบทุกคืน ชายหนุ่มพาหล่อนขึ้นฝั่งมาได้ด้วยความทุลักทุเล และเหวี่ยงหล่อนลงพื้นก่อนจะสะบัดแขนแล้วจับตรงที่ถูกกัดเป็นรอยฟัน
"ไอ้บ้า! ไอ้คนบ้า ทำอะไรของแก!!" หล่อนล้มลงนั่งบนพื้น มิวายยังกำทรายซัดใส่เขาจนต้องหลบพัลวัล
"หยุดโว้ย! หยุดซะทียัยขี้เมา ถ้าฉันไม่ช่วยเธอจะได้มานั่งอาละวาดใส่อย่างนี้เหรอ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ เวรเอ้ย" หรัญย์หัวเสีย เขาถอนหายใจแรงข่มอารมณ์คุกรุ่น ไม่เช่นนั้นหล่อนคงได้สมใจเพราะน้ำมือเขา หลังถูกช่วยจากการฆ่าตัวตายไปเมื่อไม่กี่วิก่อนหน้า
"ช่วย...ช่วยอะไร" หล่อนเอามือปาดผมที่ปรกหน้าด้วยความหงุดหงิด น้ำเสียงบ่งบอกถึงอาการเมายังไม่สร่างแม้จะเปียกม่อล่อกม่อแล่กไปทั้งตัว
"ช่วยไม่ให้เธอตายไงเล่า...ถ้าอยากฆ่าตัวตายคราวหลังไปตายที่อื่น ตรงนี้มันที่ฉัน ฉันซื้อมาแพง ใครจะมาตายใส่ง่ายๆ ไม่ได้"
"ใครบอกนายฉันจะฆ่าตัวตาย" หล่อนถาม
"ก็เธอเดินลงน้ำขนาดนั้น เมาก็เมา จะให้คิดว่ายังไง"
"ฉันปวดฉี่...ฉันแค่เดินลงไปฉี่!!"
|
ผลงานอื่นๆ ของ เฌอรามิล/ษุรอยยา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เฌอรามิล/ษุรอยยา
ความคิดเห็น