อสูรพรางสวาท - นิยาย อสูรพรางสวาท : Dek-D.com - Writer
×

    อสูรพรางสวาท

    ความแค้นที่ฝังแน่นนับสิบปี เหมือนไฟที่พร้อมจะเผาผลาญศัตรูให้มอดไหม้ แม้แต่เธอ...หญิงสาวซึ่งถูกลวงให้รัก เมื่อถึงวันที่ความจริงปรากฏ เธอจึงหอบหิ้วเอาหัวใจและลูกน้อยหนีไปโดยไม่ร่ำลา

    ผู้เข้าชมรวม

    22,374

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    81

    ผู้เข้าชมรวม


    22.37K

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    214
    จำนวนตอน : 15 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 มี.ค. 67 / 18:18 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      



                   à¸£à¸¹à¸›à¸ à¸²à¸žà¸—ี่เกี่ยวข้อง



    “มาที่นี่ทำไม...”

    “...” ไม่มีคำตอบ อรุโณรีย์เบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้า เธอกำของบางอย่างในมือไว้แน่น คำถามนั้นย้อนกลับมาถามตัวเองซ้ำๆ นั่นสินะ...เธอมาที่นี่ทำไม

    “ฉันคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะเอพริล...แล้วเธอก็ดีใจมากไม่ใช่เหรอกับข้อตกลงที่ฉันเองก็รับปากไปแล้ว” ชายหนุ่มพูดต่อ เขาถอนหายใจไม่ได้อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลยสักนิด เขารู้...อรุโณรีย์กำลังเสียใจ โศกเศร้าในหลายๆ เรื่อง

    “ฉันเสียใจด้วยเรื่องพ่อเธอนะ...ฉันเพิ่งรู้ตอนวันที่กลับมานี่เองขอโทษจริงๆ ที่มาไม่ทันงานศพ...”

    อรุโณรีย์จ้องเขาเขม็ง แล้วน้ำตาที่พยายามกักเก็บมาตลอดก็เอ่อไหลออกมาอย่างไม่อาจกลั้นไหว ดวงตาเธอฉายแววชิงชังขึ้นมาทันทีก่อนจะเดินตรงไปยังคนทั้งคู่ หล่อนง้างฝ่ามือตบหน้าเขาเท่าที่แรงจะมี

    “คุณมันเลว! เลวไม่มีที่ติ คุณทำให้พ่อฉันตาย ทำให้ชีวิตฉันต้องพบกับความวิบัติ แล้วมาบอกสั้นๆ ลบล้างเรื่องทั้งหมดเพียงแค่คำว่าขอโทษที่ไม่ได้ไปงานศพ!! คุณยังเป็นคนอยู่รึเปล่า...ในตัวคุณ! ยังมีจิตสำนึกความเป็นคนอยู่บ้างไหม!!”

    “นี่!! เธอเป็นใครจะบ้ารึไงมาตบหน้าเขาทำไม!” ในขณะที่ทอเลเมียสยังยืนอึ้งพูดไม่ออกอยู่นั้นรวิภัณดาก็เป็นฝ่ายทนต่อเหตุการณ์ที่เห็นไม่ไหว รีบเข้าไปผลักตัวของหญิงสาวให้ออกห่างจนเธอเซถลาไปหลายก้าว

    “กลับไปซะเถอะ...อีกสองวันข้างหน้าจะมีงานหมั้นของฉันกับเพลงและฉัน...ไม่อยากให้เพลงเขาไม่สบายใจเพราะเรื่องเก่าๆ ไร้สาระ ฟังนะเอพริลทุกอย่างมันจบลงแล้วไม่มีประโยชน์จะมารื้อฟื้นกันหรอก เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ข้องแวะกันอีก หวังว่าเธอคงจำได้นะ” ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอที่ฝืดแห้งและกัดฟันพูดแต่ละคำออกมาอย่างยากลำบาก เขาผันหน้าไปทางอื่นด้วยไม่สามารถทนมองภาพความสะเทือนใจของอรุโณรีย์ได้ ราวกับรังสีความเจ็บปวดจากเธอมันกำลังมุ่งเจาะจงมาปาดเฉือนหัวใจเขา

    “ไปสิ! ...ถูกเขาไล่แล้วยังจะมายืนร้องไห้เรียกร้องความสนใจอีก” รวิภัณดาเสริมทัพ เธออาจจะไม่รู้รายละเอียดระหว่างสองหนุ่มสาวว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็พอดูออกว่าทั้งคู่คงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากันมาก่อน สัญชาตญาณมันบอกเช่นนั้น

    “...” ไม่มีน้ำเสียงตอบโต้จากผู้แพ้โดยสิโรราบอีก สายตาที่เจ็บปวดเคืองแค้นจ้องมองผู้หยิบยื่นหนทางสู่นรกอเวจีทั้งน้ำตาก่อนจะรีบหันหลังกลับและวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต

    ชั่วอึดใจ...ทอเลเมียสอยากจะตามร่างนั้นไปเหลือเกิน เขามองด้านหลังของหญิงสาวด้วยหัวใจสั่นไหว ดวงตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์บันทึกทุกวินาทีเอาไว้ราวกับมันคือภาพสุดท้ายแห่งความทรงจำระหว่างกัน

    “เข้าไปในร้านกันเถอะค่ะ...เพลงมีเรื่องจะต้องคุยกับพี่นาซีอีกยาว! ...”

    ร่างใหญ่เดินเซไปตามแรงดึงของรวิภัณดาซึ่งทำหน้าหงิกหน้างอจะเอาเรื่องให้ได้ ชายหนุ่มไม่ได้กลัวหรอกว่าจะมีปัญหาอะไรมากมายกับเธอ

    รวิภัณดาแม้จะอายุไม่ใช่น้อยๆ แล้วแต่นิสัยก็เหมือนเด็กๆ ไม่ชอบใจก็โวยวาย แต่เดี๋ยวเดียวเธอก็ลืม แต่เขาก็ยอมตามใจเจ้าหล่อนอยู่ด้วย ด้วยเห็นว่าไร้ประโยชน์จะรื้อฟื้นอะไรอีกแล้ว อนาคตของเขาอยู่ข้างหน้าในเส้นทางที่เขาเลือกแล้วว่าจะก้าวเดินไปไม่หันกลับหลังอีก

    โครม!! “ว้าย!! ช่วยด้วยๆ ค่ะ มีคนถูกรถชน!!” เสียงหวีดร้องด้วยความตกใจจากผู้คนที่อยู่บนฟุตบาทริมถนนเรียกให้เท้าของชายหนุ่มหยุดชะงักหัวใจหล่นวูบไปอยู่แทบพื้น เขาหันกลับไปยังด้านหน้าของร้านเวดดิ้งก็เห็นคนจำนวนสี่ห้าคนกำลังมุงดูบางอย่างบนถนน พร้อมเสียงร้องขอความช่วยเหลือ

    เท่านั้น...ไม่ต้องมีใครอธิบาย ไม่จำเป็นอีกแล้วต้องหาเหตุผลไดมาประกอบการตัดสินใจทอเลเมียสรีบวิ่งไปยังที่เกิดเหตุโดยไม่ได้สนใจรวิภัณดาที่อยู่ในอาการตกใจเช่นกัน เธอยืนอึ้งมึนอยู่ชั่วครู่ก่อนจะรีบตามว่าที่คู่หมั้นไปติดๆ

    “เอาคนเจ็บขึ้นรถผมก่อนเร็วเข้า...ผมจะพาไปโรงพยาบาลเอง!” พลเมืองดีคนหนึ่งเรียกให้รีบนำร่างของหญิงสาวซึ่งนอนหมดสติอยู่ขึ้นรถของเขาเพื่อนำส่งโรงพยาบาลด้วยเห็นว่าเธอไม่ได้มีบาดแผลฉกรรจ์ หรือบาดเจ็บมากมายไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์จากเจ้าหน้าที่ หญิงสาวในชุดดำซึ่งสลบไปตั้งแต่ตอนเกิดเหตุถูกอุ้มขึ้นรถคันดังกล่าวก่อนจะมีพลเมืองดีเป็นผู้หญิงอีกคนตามไปคอยดูแลด้วยขณะที่รถก็ออกตัวไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด

    “หยุดก่อน...เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป! หลีกทางให้ผมหน่อยครับ!!” ทอเลเมียสฝ่าวงล้อมผู้คนที่ห้อมล้อมจุดเกิดเหตุซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นวิ่งตามรถคันที่พาตัวหญิงสาวไปแต่เขาก็ตามไม่ทัน ร่างใหญ่ยืนหอบอยู่กลางถนนก่อนจะนึกออกว่าตัวเองควรทำอย่างไรต่อไป

    “พ่อหนุ่มๆ รู้จักกับแม่หนูคนนั้นเหรอ” เสียงของหญิงวัยสูงอายุคนหนึ่งเรียกทักเขาขณะที่กำลังจะเดินกึ่งวิ่งกลับไปเอารถซึ่งจอดอยู่ที่ร้านเวดดิ้ง

    “คุณป้า...คุณป้าเห็นคนที่บาดเจ็บไหมครับเขามีลักษณะยังไงบ้างคุณป้าบอกผมได้ไหม” เขาถามกลับเพื่อความแน่ใจว่าตัวเองคิดไม่ผิด เพราะเมื่อสักครู่ตอนที่เข้ามาก็ไม่เห็นผู้บาดเจ็บเสียแล้วว่าเป็นใครรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร

    “ค่ะๆ เอ่อ...ผู้หญิงขาวๆ ตัวเล็กๆ เธอใส่ชุดสีดำค่ะ ป้ายืนรอรถเมย์อยู่ตรงนี้จู่ก็เห็นเดินลงถนนตัดหน้ารถไปเฉยเลย เหมือนคนสติไม่ดีนะคะ เหมือนจะเดินออกมาจากร้านที่คุณมานั่นแหละคุณรู้จักเธอไหมล่ะ”

    “...” คำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ทำเอาคนฟังปวดแปลบไปทั้งทรวง อรุโณรีย์กำลังแบกรับความทุกข์ตรมขนาดไหนกันถึงได้กลายเป็นคนที่ครองสติไว้ไม่อยู่เช่นนั้น...

    “ผม...ผมรู้จักเธอครับ”

    “พี่นาซีๆ ทำอะไรอยู่คะเกิดอะไรขึ้น” รวิภัณดาซึ่งวิ่งตามมาทีหลังตรงมายังคนทั้งคู่ที่กำลังยืนสนทนากันอยู่ ส่วนผู้คนอื่นๆ ก็ทยอยกันเดินออกไปหมดแล้ว

    “นี่คะ...เมื่อกี้เธอทำนี่หล่นไว้ป้าจะเอาไปให้ที่รถก็ตามไม่ทัน ถ้าคุณรู้จักเธอก็ฝากให้ด้วยนะคะดูจะสำคัญมากเพราะตอนที่เดินอยู่เห็นกำไว้แนบหน้าอกตลอด”

    แผ่นฟิล์มอัลตร้าซาวด์ดูยับย่นไปหน่อยเพราะถูกกำไว้นานพอสมควรถูกส่งให้ชายหนุ่มทันที ก่อนที่ป้าคนนั้นจะรีบบอกลาไปทำธุระของตัวเอง เพียงแค่ได้เห็นรูปบนแผ่นฟิมล์เท่านั้น

    ร่างกายของทอเลเมียสก็แข็งทื่อราวถูกสาปให้เป็นหิน ถึงจะไม่เคยมีประสบการณ์แต่เขาก็ไม่ได้โง่ขนาดรู้ว่ามันคืออะไร

    ภาพอัลตร้าซาวด์ที่เขาเห็นเป็นรูปของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ซึ่งกำลังจะถือกำเนิดม้วนขดตัวอยู่ แต่ยังมองเห็นสัดส่วนทุกอย่างไม่ชัดนัก...ลูก

    “เอพริล...”

     

    อสูรพรางสวาท เป็นนิยายที่เคยได้รับการตีพิมพ์และหมดสัญญากับ สนพ หวานเลยนำมารีไรท์ เกลาสำนวนใหม่ พร้อมทั้งเพิ่มเนื้อหาตอนพิเศษเพื่อนำมาเผยแพร่อีกครั้งนะคะ

     

    หนึ่งคอมเม้นเท่ากับหนึ่งกำลังใจช่วยหลักดันให้คนเขียนมีแรงทำงานนะคะสาวๆ

    ชอบไม่ชอบหรือมีอะไรอยากแนะนำบอกกล่าวก็คอมเม้นไว้ได้เลย

    หวานอาจไม่ได้ตอบทุกท่าน แต่หวานอ่านทุกคอมเม้นเลยนะคะ ^^

    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

    อีบุ๊ควางแผงแล้ว อยู่ในช่วงจัดโปรโมชั่นนะคะ ลดจากราคาปก 49% ค่ะ 

    ราคาอีบุ๊คปกติ 259 บาท ช่วงจัดโปร 199 บาท หากหมดเขตแล้วราคาจะปรับขึ้นเป็นปกตินะคะสาวๆ

    มีเวลา 7 วันเท่านั้นค่ะ


    อสูรพรางสวาท
    เฌอรามิล
    www.mebmarket.com
    “มาที่ทำไม...”“...” ไม่มีคำตอบ อรุโณรีย์เบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้า เธอกำของบางอย่างในมือไว้แน่น คำถามนั้นย้อนกลับมาถามตัวเองซ้ำๆ นั่นสินะ...เธอมาที่นี่ทำไม“ฉันคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะเอพริล...แล้วเธอก็ดีใจมากไม่ใช่เหรอกับข้อตกลงที่ฉันเองก็รับปากไปแล้ว” ชายหนุ่มพูดต่อ เขาถอนหายใจไม่ได้อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลยสักนิด เขารู้...อรุโณรีย์กำลังเสียใจ กังโศกเศร้าในหลายๆ เรื่อง“ฉันเสียใจด้วยเรื่องพ่อเธอนะ...ฉันเพิ่งรู้ตอนวันที่กลับมานี่เองขอโทษจริงๆ ที่มาไม่ทันงานศพ...”อรุโณรีย์จ้องเขาเขม็ง แล้วน้ำตาที่พยายามกักเก็บมาตลอดก็เอ่อไหลออกมาอย่างไม่อาจกลั้นไหว ดวงตาเธอฉายแววชิงชังขึ้นมาทันที ก่อนจะเดินตรงไปยังคนทั้งคู่ หล่อนง้างฝ่ามือตบหน้าเขาเท่าที่แรงจะมี “คุณมันเลว! เลวไม่มีที่ติ คุณทำให้พ่อฉันตาย ทำให้ชีวิตฉันต้องพบกับความวิบัติ แล้วมาบอกสั้นๆ ลบล้างเรื่องทั้งหมดด้วยคำว่าขอโทษที่ไม่ได้ไปงานศพ!! คุณยังเป็นคนอยู่รึเปล่า...ในตัวคุณ! ยังมีจิตสำนึกความเป็นคนอยู่บ้างไหม!!”

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น