บริษัท ยืมมือข้า จำกัด ตอน ความรู้สึกผิด - บริษัท ยืมมือข้า จำกัด ตอน ความรู้สึกผิด นิยาย บริษัท ยืมมือข้า จำกัด ตอน ความรู้สึกผิด : Dek-D.com - Writer

    บริษัท ยืมมือข้า จำกัด ตอน ความรู้สึกผิด

    VeRoNiKR

    บริษัทผู้แสวงหาผลกำไรจากคนที่ไม่อยากทำอะไรด้วยตัวเอง

    ผู้เข้าชมรวม

    10

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    10

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 มี.ค. 68 / 22:26 น.
    ดูเพิ่มเติม


    ข้อมูลเบื้องต้น


     

    ในคืนฝนตกหนัก”ชินกร” พนักงานออฟฟิศหนุ่มได้นัดกับ”ดากานดา” คนรักของเขาที่คบหาดูใจกันมา เกือบ 10 ปีออกไปกินข้าวเพื่อวางแผนเรื่องงานแต่งงานของทั้งคู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำงานของดากานดา ทั้งคู่ก็เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเนื่องจากความคิดเห็นที่ต่างกันจนคนทั้งร้านหันมามอง ด้วยความโมโหชินกรพลั้งปากไล่ดากานดาไปให้พ้นๆ ดากานดาเสียใจมากจึงวิ่งร้องไห้ออกไปหน้าร้านเพื่อที่จะเรียกรถแท็กซี่กลับ แต่แล้วจู่ๆก็มีรถเก๋งที่ขับมาด้วยความเร็วเกิดเสียหลักเนื่องจากถนนที่ลื่นพุ่งเข้ามาชนดากานดาอย่างแรง จนร่างของเธอลอยทะลุกระจกของร้านไปตกอยู่ตรงโต๊ะที่ชินกรนั่งอยู่เสียชีวิตในทันที ชินกรที่เห็นภาพของคนรักเสียชีวิตอยู่ตรงหน้าก็พุ่งเข้าไปกอดร่างไร้วิญญาณของคนรักที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด ตะโกนร้องไห้คนช่วยอย่างสิ้นสติ 

    ในพิธีศพของดากานดา ชินกรเอาแต่ร้องไห้พร่ำเพ้อว่าเป็นความผิดของเขาเองที่ทำให้ดากานดาคนรักของเขาเสียชีวิตจนญาติๆต้องพาตัวเขาออกไปจากบริเวณงานพิธี หลังจากวันนั้นชินกรทำตัวหมดอาลัยตายอยาก ไม่ยินดียินร้ายกัยสิ่งใดทั้งสิ้น ไม่กิน ไม่นอน ไปทำงานก็เหมืนจะมีแต่กายหยาบ ถ้ามีคนเข้ามาปลอบเขาก็จะบอกแต่ว่าเป็นความผิดของเขาที่ทำให้ดากานดาตาย จนเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งทนเห็นสภาพของชินกรไม่ได้อีกต่อไป จึงได้ยื่นนามบัตรสีน้ำเงินให้เขาไป


     

    “บริษัท ยืม มือ ข้า จำกัด” ชินกรมองดูชื่อที่ปรากฎในนามบัตรโดยที่เพื่อนคนนั้นก็บอกไปว่าที่นี่จะช่วยได้แน่นอนเพราะตัวเขาก็เคยใช้บริการมาแล้ว อยากให้ชินกรได้ลองเข้าไปที่นั่นดู

    ด้วยความที่ไม่มีอะไรจะเสีย หลังจากเลิกงานเมื่อกลับมาถึงบ้าน ชินกรจึงลองโทรติดต่อไปที่นั่นตามที่เพื่อนร่วมงานของเขาแนะนำมา


     

    “บริษัท ยืมมือข้า จำกัด สวัสดีค่ะ นัยนา บุปผาสุวรรณ รับสาย ยืนดีให้บริการ” เสียงจากปลายสายดังขึ้น

    “สวัสดีครับ พอดีเพื่อนผมให้เบอร์ที่นี่มา บอกว่าคุณจะช่วยแก้ปัญหาของผมได้” ชินกรตอบกลับ

    “ใช่ค่ะ ทางเราสามารถช่วยเหลือคุณได้ค่ะ ถ้าคุณไม่อยากทำ ให้เราทำแทนให้ค่ะ ขอทราบชื่อของคุณลูกค้าด้วยค่ะ”

    “คือว่าาาา ผมชื่อชินกรครับ แฟนผมเพิ่งตายไปจากอุบัติเหตุโดยที่ผมเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ครับ ผมรู้สึกผิดที่วันนั้นผมไล่เธอออกไป ทำให้เธอต้องตาย ผมไม่มีแรงที่จะใช้ชีวิตต่อ ผมเสียใจมาก ผมอยากจะขอโทษเธอ อยากบอกเธอว่าผมไม่ได้ตั้งใจ” ชินกรพูดทั้งน้ำตา

    “ได้ค่ะ ไม่ทราบว่าวันพรุ่งนี้คุณชินกรสะดวกเข้ามาหาเราที่บริษัทรึเปล่าคะ เวลาไหนก็ได้ค่ะ บริษัทเราเปิดตลอด 24 ชั่วโมง” นัยนาถามต่อ

    “พรุ่งนี้หรอครับ เข้าไปทำไมครับ คุณเป็นจิตแพทย์หรอ”

    “เข้ามาหาเราที่นี่จะช่วยแก้ปัญหาให้คุณลูกค้าได้สะดวกและรวดเร็วกว่าค่ะ เอาเป็นว่าเป็นพรุ่งนี้ ดิฉันขออนุญาตส่งที่อยู่ของบริษัทให้ทาง sms นะคะ สวัสดีค่ะ” 


     

    พอพูดจบนัยนาก็ตัดสายไป ทิ้งให้ชินกรงุนงงกับสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่ แต่เขาตัดสินใจว่าคงไม่เสียหายถ้าจะลองเข้าไปที่นั่นดูในวันพรุ่งนี้ตามที่ปลายสายบอกเขามา ถ้าเกิดที่นั่นมีจิตแทย์เก่งๆคงช่วยเยียวยาหรือรักษาเขาได้ หรือโชคร้ายโดนหลอกปล้นหรือฆ่าก็คงไม่มีอะไรที่น่าเสียใจไปกว่าการที่ดากานดาตายอีกแล้ว ดีซะอีก เขาจะได้ตามไปขอโทษเธอที่โลกวิญญาณได้


     

    วันต่อมาหลังจากเลิกงานในช่วงเย็นชินกรก็นั่งรถไปตามที่ผู้หญิงในสายส่งรายละเอียดที่อยู่มา จนมาถึงตึกแถวในซอยเปลี่ยวที่เกือบทุกคูหาเหมือนถูกทิ้งร้างมาหลายสิบปีแต่มีอยู่ 2 คูหาที่ดูสะดุดตาอยู่เกือบด้านในสุดที่รถเข้าไม่ถึงเขาจึงต้องเดินเท้าเข้าไปเอง


     

    “บริษัท ยืม มือ ข้า จำกัด ที่นี่แหละมั้ง บริษัทบ้าบออะไรกันวะมาตั้งอยู่ตรงนี้” ชินกรบ่นพึมพัมกับตัวเอง


     

    ชินกรยืนงงอยู่ที่หน้าตึกอยู่สักพั ประตูตรงหน้าเขาก็เปิดออก เขาเดินเข้าไปก็เห็นป้ายบอกว่าให้ขึ้นไปติดต่อที่ชั้น 2 เขาจึงเดินขึ้นไปตามป้ายนั้น เมื่อขึ้นมาถึงชินกรก็พบกับห้องโถงสีน้ำเงินเข้มที่กลางห้องด้านในมีเคาน์เตอร์แล้วผู้หญิงใส่ชุดสูทสีชมพูยืนยิ้มรอต้อนรับเขาอยู่


     

    “สวัสดีค่ะ ดิฉันนัยนา บุปผาสุวรรณ พนักงานต้อนรับประจำกะกลางวันยินดีให้บริการ คุณคือคุณชินกร ที่ติดต่อเรามาเมื่อวานใช่มั๊ยคะ” หญิงสาวที่อยู่ตรงนั้นกล่าวทักทายเขา

    “ใช่ครับ ว่าแต่ เอ่อออออ ที่นี่ทำอะไรอ่ะครับ แล้วที่บอกช่วยผมได้ นี่ช่วยยังไงหรอครับ” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย

    “บริษัทของเราเป็นบริษัทแสวงหาผลกำไรจากคนที่ไม่อยากหรือไม่สามารถทำอะไรด้วยตัวเองค่ะ ทางเราได้รับทราบปัญหาของคุณ และเตรียมพร้อมดำเนินการแก้ไขไว้แล้วค่ะ ดิฉันคิดว่าคุณคงเก็บรูปแฟนของคุณไว้ในกระเป๋าสตางค์ รบกวนขอรูปของแฟนคุณที่เสียชีวิตด้วยค่ะ” นัยนาอธิบาย


     

    เมื่อได้ฟังคำตอบชินกรก็ยังคงไม่หายสงสัย แต่ก็หยิบรูปของดากานดาที่ถ่ายคู่กับเขาจากกระเป๋าสตางค์ยื่นให้ไป


     

    “ขอบคุณค่ะ เธอสวยมากเลยนะคะ” นัยนาพูดชมหญิงสาวในรูป เธอสแกนรูปถ่ายและส่งคืนให้กับเขา

    “เดี๋ยวคุณชินกรเดินขึ้นบันไดทางด้านหลังไปที่ชั้น 4 ห้อง 401 นะคะ มีเจ้าหน้าที่ที่จะช่วยเหลือคุณรออยู่ที่นั่นแล้ว แล้วหลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้วรบกวนกลับมาที่นี่เพื่อชำระค่าบริการด้วยนะคะ เชิญค่ะ” นัยนาแนะนำเพิ่มเติม

    “บนนั้นมีอะไรหรอครับ แล้วจะช่วยผมยังไง ช่วยได้จริงหรอ” ชินกรถามต่อ

    “ได้สิคะ บริษัทของเราจะทำทุกวิถีทางให้งานที่ลูกค้าว่าจ้างสำเร็จ และทางเราไม่เคยทำพลาดค่ะ” นัยนาตอบกลับเขา


     

    ชินกรจึงเดินขึ้นไปด้านบนตามที่นัยนาบอก จนมาถึงหน้าห้อง 401 เขาสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมภาวนาให้สิ่งที่รอเขาอยู่ในห้องจะทำให้เขาดีขึ้นได้


     

    “สวัสดี ชินนี่” เสียงหญิงสาวแปลกหน้าพูดทักทายและโบกมือให้กับเขาเมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปในห้องที่มีกลิ่นของกำยานลอยคลุ้งอยู่

    “ชินนี่” ชายหนุ่มแปลกใจกับการเรียกชื่อเขาแบบนั้น เพราะมีเพียงแค่ดากานดาเท่านั้นที่เรียกเขาแบบนี้ และหญิงสาวในชุดส่าหรีสีแดงตรงหน้าคงไม่ใช่เธอแน่ๆ

    “คุณเป็นใคร ทำไมถึงเรียกผมแบบนั้น” ชายหนุ่มถามหญิงสาวที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า

    “เค้าเอง ดากานดา” หญิงสาวตอบกลับไป

    “ไม่จริง ดากานดาตายไปแล้ว ตายต่อหน้าต่อตาผม พวกคุณหลอกผม ผมไม่น่าเสียเวลามาหาพวกคุณเลย” ชินกรกำลังจะหันหลังเดินกลับไปด้วยอารมณ์โมโห

    “เป็นเค้าจริงๆนะตัวเอง เจ้าของร่างนี้ถอดจิตไปตามให้เค้ากลับมาจากโลกของคนตาย เธอบอกเค้าว่า ตัวเองยังจมอยู่กับความทุกข์ที่เค้าตายไป เธอจะให้เค้ายืมร่างนี้แป๊บนึงเพราะต้องเป็นเค้าเท่านั้นที่จะช่วยตัวเองได้ ตัวเองต้องเชื่อเค้าสิ” หญิงสาวที่อ้างตัวเองว่าเป็นคนรักของชินกรอธิบาย แต่เขาก็ไม่เชื่อและกำลังจะเดินออกจากห้องไป

    “งั้นเอางี๊ ตัวเองเองชื่อชินกร แต่เค้าจะชอบเรียกว่า ชินนี่เพราะมันดูน่ารักดี ตัวเองก็จะเรียกเค้าว่า ดาลิ้ง แทนชื่อดากานดา เข่าข้างขวาตัวเองเจ็บบ่อยเพราะเล่นบาสสมัยมัถยม เวลาไปกินชาบูตัวเองชอบบ่นว่าทำไมต้องแยกหลายราคาด้วย ไมมีเนื้อดีๆต้องแพงกว่า เวลาไปกินอาหารทะเลตัวเองก็จะชอบถาม ทำไมกุ้งแม่น้ำถึงเป็นอาหารทะเล ชื่อมันก็บอกอยู่ว่ากุ้งแม่น้ำ ตัวเองแพ้เกสรดอกกุหลาบ ตัวเองเพิ่งมากินกระเทียมได้เมื่อ2-3ปีนี้เอง เพราะเค้าหัดให้กิน ตัวเองยังบอกเลยต้องเป็นกระเทียมที่เค้าทำเท่านั้น ตัวเองถึงจะกินได้ ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นปีที่แล้วเราตั้งใจจะไปเทศกาลหิมะที่ซับโปโร แต่พอไปถึงเค้าไม่สบายหนักมาก เค้าร้องไห้ที่ไม่ได้ออกไปดู ตัวเองยังปลอบเค้าเลยว่าเดี๋ยวปีนี้พา..” ไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบชินกรก็วิ่งเข้ามากอดเธอและเริ่มร้องไห้

    “ตัวเอง เป็นตัวเองจริงๆใช่มั๊ย เค้าคิดถึงตัวเองมากๆเลยนะ เค้าขอโทษ” ชายหนุ่มพูดทั้งน้ำตา

    “ก็เค้าบอกแล้วว่าเป็นเค้า ตัวเองก็ไม่เชื่อต้องให้เค้าพูดตั้งเยอะ คอแห้งหมดแล้วเนี่ย” ดากานดาในร่างหญิงสาวพูดปลอบเขาพร้อมกับสวมกอดกลับไป

    “ตัวเองไม่ต้องโทษตัวเองนะ ตัวเองไม่ได้ผิดอะไรเลย มันเป็นโชคชะตา ชีวิตเค้ามาได้แค่นี้ ถึงแม้วันนั้นเราไม่ได้ทะเลาะกันยังไงเค้าก็ต้องไป” ดากานดาพูดปลอบเขาต่อแต่ชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้องไห้เลย จนเขาถึงกับทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ

    “แต่ถ้าเค้าไม่ไล่ตัวเองออกไป ตัวเองก็คงไม่ตายแบบนี้” ชายหนุ่มยังคงฟูมฟายไม่หยุด

    “แบบนี้แหละดีแล้ว ตัวเองก็เห็นหนิ ชนปุ๊บ ตายปั๊บ เค้าไม่ได้ทรมานแถมเค้ายังบินทะลุกระจกมาหาตัวเองอย่างกับซุปเปอร์แมนที่ตัวเองชอบ แต่ตอนตัวเองกอดร่างเค้าหนะ กอดแน๊นนนแน่น ถ้าเค้ายังอยู่เค้าคงหายใจไม่ออก ตายได้เลยนะนั่นหนะ” ดากานดาพยายามพูดติดตลกเพื่อให้คนรักของเธอหยุดร้องไห้

    “แต่…..” ชินกรพยายามหยุดร้องไห้

    “ตัวเองไม่ต้องแต่แล้ว เค้ามีเวลาไม่มากขนาดนั้น เจ้าของร่างไปขอตัวเค้ามาแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวเค้าก็ต้องกลับไปแล้ว” ชินกรได้ยินแบบนั้นจึงออกแรงลุกขึ้นยืนขึ้นมามองหน้าเธอ

    “เค้ามาลาหนะ บ๊ายบายนะ ตัวเองไม่ต้องคิดมาก ต้องเข้มแข็งนะ ตัวเองเก่งที่สุดในโลกของเค้าเลยนะรู้มั๊ย เดี๋ยวเค้านำไปอยู่ที่โลกนู้นก่อน แต่ตัวเองห้ามรีบรีบตามเค้าไปนะ ใช้ชีวิตต่อไปให้มีความสุข ถือว่าเค้าฝากใช้ด้วยละกันนะ” ดากานดายื่นมือไปเช็ดน้ำตาของชินกร

    “ตัวเองจำได้มั๊ย มีคนเคยบอกว่า ที่จริงคนเราหนะตาย 2 ครั้งนะ ครั้งแรกคือตายจากโลกนี้ ส่วนครั้งที่ 2 คือตายจากหัวใจคนที่เขารู้จัก เค้าใช้โควต้าครั้งแรกไปแล้ว เหลืออีกครั้งก็ขึ้นอยู่กับตัวเองแล้วหละว่าเค้าจะตายตอนไหน” พอมาถึงตรงนี้เสียงของดากานดาก็เริ่มสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้แต่เธอก็พยายามที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้

    “ใกล้ได้เวลาละ ตัวเองขอเค้ากอดหน่อยสิ กอดสุดท้ายแล้ว” ดากานดาดึงมือคนรักของเธอเข้ามากอด กอดครั้งสุดท้าย กอดที่ทั้งคู่ไม่อยากให้มันจบ

    “เค้ารักตัวเองจังเลยยย ดูแลตัวเองดีๆหละ กินให้อิ่ม นอนให้หลับ ว่างๆก็คิดถึงเค้ามั่งนะ ” ดากานดาบอกกับคนรักของเธอ

    “เค้าก็รักตัวเองมากๆเลยนะ เค้าจะคิดถึงตัวเองทุกวัน เค้าสัญญาจะกินข้าวให้เยอะๆ จะกินกระเทียมให้ได้เก่งๆ ง่วงแล้วเค้าก็จะนอนเลย ไม่เล่นเกมส์ต่อ ตัวเองไม่ต้องห่วงนะ เค้าจะตั้งนาฬิกาปลุกทุกเช้า เค้าจะไปออกกำลังกาย เค้าจะเยี่ยมพ่อกับแม่ของตัวเองบ่อยๆ ตัวเองไม่ต้องห่วงนะ เค้าไม่ทิ้งพ่อกับแม่หรอก แล้วก็…แล้ว แล้วอะไรอีกหละ แล้วววววว…..” ชินกรพยายามนึกประโยคที่เขาอยากจะบอกเธอ

    “พอได้แล้วค่ะคุณชินกร คุณดากานดาเธอไปแล้ว” หญิงสาวในอ้อมกอดบอกกับเขา


     

    บรรยากาศในห้องเงียบสนิทมีแต่เสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังอยู่เบาๆ ชินกรยืนนิ่งไปซักพักจึงคลายกอดออก เอามือปาดน้ำตาที่อาบทั้ง 2 แก้มแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

    “ขอบคุณมากครับ พวกคุณช่วยผมได้จริงๆด้วย” ชินกรบอกกับผู้หญิงตรงหน้าที่ก่อนหน้านี้คือดากานดาคนรักของเขา

    “มันเป็นหน้าที่ค่ะ ดิฉันดีใจนะคะที่วิธีการนี้สำเร็จ เชิญคุณลงไปที่ชั้น 2 เพื่อชำระค่าบริการได้เลยค่ะ ดิฉันต้องจัดการห้องนี้ต่อ”


     

    ชินกรเดินกลับลงไปด้านล่าง ระหว่างที่เดินไปจิตใจของเขาตอนนี้กลับอิ่มเอมและเป็นสุขอย่างที่ไม่ได้เป็นมาก่อนตั้งแต่วันที่เขาเสียคนรักไป การที่ได้เจอกับเธออีกครั้ง ได้ร่ำลากันนั่นทำให้เขาเหมือนกับได้ปลดโซ่ตรวนทีดึงจิตใจของเขาไว้ให้จมอยู่กับความเศร้าออกไปสิ้น


     

    เขาเดินลงมาถึงชั้น 2 และพบกับนัยนาที่ยืนรอเค้าอยู่อีกครั้ง เธอมองเค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเคยและครั้งนี้เข้ายิ้มตอบ

    “ดูจากรอยยิ้มแล้ว ทางเราช่วยคุณสำเร็จใช่มั๊ยค่ะ” นัยนาถาม

    “ครับ ช่วยผมได้มากเลย” เขาตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม

    “ดีเลยค่ะ ค่าบริการทางเราคิดนาทีละ 1000 บาท เมื่อสักครู่คุณใช้เวลาไป 13 นาที 44 วินาที เศษวินาทีดิฉันปัดออกให้นะคะ ถือว่าเป็นการใช้บริการครั้งแรก ทั้งหมด 13000 บาทค่ะ ขอเป็นเงินสดเท่านั้นนะคะ ด้านล่างตรงใต้บันไดเรามีตู้กดเงินค่ะ ถ้าคุณไม่ได้พกเงินสดมา”

    “ฮะ ทำไมแพงขนาดนั้นหละครับ นั่นมันเงินที่เหลืออยู่ทั้งหมดของผมเลยนะ”

    “แลกกับการที่คุณได้เจอเธอ ได้ร่ำลา ได้ขอโทษ ได้มีชีวิตต่อแบบที่ไม่มีอะไรติดค้างคาใจ ไม่แพงหรอกค่ะ หรือถ้าคุณไม่จ่าย ทางเรามีแผนกทวงค่าบริการที่จะตามคุณไปทุกที่ จนกว่าคุณจะจ่ายค่ะ”


     

    ชินกรจำใจลงไปกดเงินจนเกือบจะเกลี้ยงบัญชีเพื่อมาจ่ายค่าบริการ เมื่อเสร็จเรียบร้อยเขาก็เดินทางกลับบ้านของเขา


     

    “เค้าจะใช้ชีวิตให้มีความสุขแบบที่ตัวเองบอก ตัวเองคอยดูเค้าจากบนนั้นนะ” ชินกรมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนในระหว่างที่เดินทางกลับ 


     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      • ฟอนต์ THSarabunNew
      • ฟอนต์ Sarabun
      • ฟอนต์ Mali
      • ฟอนต์ Trirong
      • ฟอนต์ Maitree
      • ฟอนต์ Taviraj
      • ฟอนต์ Kodchasan
      • ฟอนต์ ChakraPetch

    รีวิวจากนักอ่าน

    Empty Review

    นิยายเรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว

    มาเป็นคนแรกที่เขียนรีวิวนิยายให้กับนิยายเรื่องนี้กัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    กำลังโหลด...
    ×