ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สำรับกับ...รัก I

    ลำดับตอนที่ #2 : ขนมจีนซาวน้ำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 744
      50
      5 พ.ค. 67

    โดย  Chavaroj

     

    ลุงจุกกับป้าแป้น และลูก ๆ ของแกมาถึงที่บ้านยายเอาช่วงสาย ๆ หลังจากสวัสดีทักทายไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกันจนอ่อนใจ แม่ผัวลูกสะใภ้ต่างคนต่างพูด ไม่มีใครฟังใคร ที่เหลือได้แต่มองหน้ากันยิ้ม ๆ แม่เดินมาทักทายแล้วกลับไปขายของต่อ

     

    ลุงจุก ขอไปนอนผึ่งลมที่เปลญวนริมแม่น้ำเพราะเมื่อคืนนอนดึก ส่วนลูกพี่ลูกน้องของหมูยอ ก็มาช่วยหยิบ ๆ จับ ๆ ในครัวเพื่อเตรียมของ วันนี้เราจะทำ ขนมจีนซาวน้ำ กันล่ะ

     

    เริ่มจากกะทิ ตั้งบนเตาถ่านจนเริ่มร้อนยายใส่เกลือแล้วค่อย ๆ คนให้ละลาย ผมกับยาย ค่อย ๆ ตะล่อมเนื้อปลากรายขูดที่ผสมเครื่องเทศสูตรลับของยาย เป็นลูกชิ้นปลาลูกน้อย ๆ เมื่อลูกชิ้นเริ่มสุก จะลอยเหนือน้ำเต้นเร่า ๆ เพราะความร้อน เราจะไม่ใช้ไฟแรง เพราะถ้าแรงมาก กะทิจะแตกมัน ทำให้ไม่อร่อยและถ้าน้ำกะทิแตกมันแล้วจะไม่น่ากิน พอลูกชิ้นสุกก็ยกมาทิ้งไว้ให้เย็น แล้วตั้งน้ำเพื่อเตรียมต้มไข่เป็ดต่อ

    ต่อมาที่สับปะรดนั้น ป้าแป้นกับลูก ๆ ของแก ใส่ถุงมือ ค่อย ๆ สับเพื่อให้ได้เนื้อหยาบ ๆ สับปะรดสับนี้ไม่ต้องใช้ฝีมือมากนัก ขอแค่สับละเอียด ๆ หน่อยเป็นพอ

    ส่วนขิงซอยนั้นต้องเป็นฝีมือของหมูยอกับยาย ถ้าให้คนอื่นทำ ยายมักบ่นว่าเส้นใหญ่เท่าต้นซุง เราใช้ขิงอ่อนที่เหลือจากการทำขิงดองเมื่อวันก่อนค่อย ๆ ฝานจนบางมาก ๆ แล้วค่อย ๆ ซอยจนได้เส้นเล็กละเอียด ซอยแล้ว ก็นำมาแช่น้ำ เพื่อขิงซอยของเราให้กรอบน่ากิน

    กระเทียมก็ฝีมือของหมูยอกับยายอีกเช่นเคย ฝานกันจนบาง โดยมีเจ้าหมูหยอง กับลูกของป้า ช่วยกันปอกเปลือกกระเทียม ปอกไปทำหน้างอไป พอเบื่อหนักเข้าหมูหยองก็ทำทีไปถ่ายคลิปวิดีโอ เพื่อเตรียมตัดต่อลงในเพจของร้าน

    ยายรู้ทัน หลังจากถ่ายคลิปเสร็จ ก็ให้หนุ่ม ๆ ไปเด็ดขั้วพริกขี้หนูสวน เพราะไม่ต้องใช้ฝีมืออะไรมากนัก

    ส่วนกุ้งแห้งนั้น เป็นหน้าที่ของพี่แฮม เจ้าตัวก็เต็มใจ ค่อย ๆ ตำจนละเอียดและขึ้นฟู พี่แฮมว่า แกไม่ถนัดเรื่องค่อย ๆ หั่นโน่นฝานนี่ แต่เรื่องออกแรง นี่แกถนัดกว่า ตำไปก็แอบเอากุ้งแห้งเข้าปากไป จนยายแอบเห็นเดินมาทุบไหล่ดังพลัก

    "กินอย่างนี้จะเหลือมั๊ยล่ะพ่อคุณ" ยายค้อนปะหลับปะเหลือก พี่แฮมก็ทำเป็นร้องเสียงดังอย่างกับโดนตีอย่างแรงพวกเราก็หัวเราะกันครืน

    จนบ่ายนิด ๆ ทุกอย่างเสร็จสรรพ ยายตักใส่ชามไว้สามชุดให้พี่แฮมใส่ถาดถือเอาไปหน้าร้าน ให้พ่อกับแม่ และป้าแดง แม่ครัวผู้ช่วยของแม่

    "ป่านนี้พ่อพวกเธอรอท้องกิ่วละมั้ง" ยายหมายถึงลูกเขยกับลูกชาย

    อีกชุดหมูหยองจัดเตรียมใส่ชามเครื่องเคลือบตกแต่งอย่างสวยงามประดับดอกไม้ใบไม้เสียด้วย เพื่อเตรียมไว้ถ่ายรูปเพื่อโปรโมทลงเพจ

    หลังจากกินกันจนอ่อนใจ นั่งเอนหลังสักพัก พี่แฮมกลับไปช่วยงานพ่อที่สวน หมูยอกับป้าแป้นและลูก ๆ ของแกช่วยกันจัดอาหารเป็นชุด ใส่กล่องอาหารสำหรับคนซื้อกลับไปทานที่บ้าน

    เอามือจุ่มน้ำ ค่อย ๆ จับขนมจีนเพื่อไม่ให้ขนมจีนติดมือเป็นแพน้อย ๆ ค่อย ๆ เรียงใส่กล่องให้สวยงาม แล้วเอาไข่ต้มฝานครึ่งวางไว้ข้าง ๆ

    ถัดมาก็เอาถ้วยขนาดกลาง ใส่แจงลอน พร้อมลูกชิ้นปลาเม็ดเล็ก ๆ ถ้วยเล็กอีกหลายใบเตรียมไว้ใส่น้ำปลาที่มีพริกขี้หนูสวน อีกใบใส่ขิงซอยกับกระเทียมฝานบาง ส่วนใบสุดท้าย กุ้งแห้งป่นละเอียดสำหรับเอาไว้โรยหน้า

    หลังโพสต์ไม่นาน ออเดอร์ก็ถูกจับจองมาเรื่อย ๆ หลังจากทำงานไปกินกันไป พูดคุยกันไปจนเหนื่อยอ่อน ได้เวลาล่ำลากัน ยายบอกให้ป้าแป้นเอากล้วยในสวนที่ยายตัดเผื่อไว้ไปด้วยสองสามหวี กับตะลิงปลิงแช่อิ่ม ที่ยายเก็บงำใส่กล่องไว้ให้อีกสองกล่อง เพราะเป็นของโปรดของลูกชาย พี่แฮมกลับมาพอดี เก็บยอดผักหวานจากในสวนมาอีกกำโต ๆ งวดนี้มาไม่ได้จังหวะ เลยไม่มีมะพร้าวจากสวนไปฝาก

    ป้าแป้นบ่นเสียดาย จะหามะพร้าวน้ำหอมจากสวนแบบนี้ ในเมืองแทบไม่ได้อีกแล้ว หลังจากที่แกแต่งงานกับลุงที่รับราชการ ก็ตระเวนย้ายตามสามีไปจังหวัดต่าง ๆ จนเริ่มเหนื่อยอ่อนกับการย้ายบ้านจึงตกลงปลูกบ้านแถวๆ พุทธมณฑล ลูก ๆ ก็ทำงานทำการกันในเมืองหมดแล้ว คุณลุงผู้ซึ่งจะเกษียณในอีกไม่กี่ปีก็เลยเห็นด้วย จึงตกลงปลูกบ้านอยู่ไม่ได้ห่างไกลกันนักกับบ้านยาย ขับรถไม่กี่นาทีก็ถึง แต่ด้วยความที่งานยุ่งของป้าแป้น นาน ๆ แกจึงจะได้มาเยี่ยมกันพร้อมหน้าสักที

    จัดเตรียมของเข้าตู้เย็นเป็นชุด ๆ แต่เดิมโพสต์เพื่อให้ลูกค้าเกิดกิเลสก่อนค่อยตามมาซื้อ แต่เดี๋ยวนี้ แผนกไอทีของเรา เอาลงแพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ ก็เพิ่มความสะดวกมากขึ้น ยายนั้นสงสารนักขับทั้งหลาย เลยเตรียมต้มน้ำมะตูม สำหรับไบค์เกอร์ทั้งหลายที่มารับออเดอร์ให้ได้ดื่มกันแก้กระหาย หลังจากอดทนขับรถตากแดดมาแสนไกล

    "ขับรถมาเหนื่อย ๆ ร้อน ๆ กินน้ำมะตูมใส่น้ำแข็งให้ชื่นใจกันก่อนเน้อ" ยายกวักมือเรียกเหล่าไรด์เดอร์ ซึ่งยายก็มักจะบอกว่า "ไม่ต้องเกรงใจ ยายเตรียมไว้ให้ ถ้าไม่พอใครเอากระติกน้ำมาเองตักเพิ่มกันได้นะจ๊ะ" ยายพูดไปยิ้มไปอย่างใจดี ค่าที่ เห็นหน้าค่าตากันบ่อย ๆ

    รับของเสร็จเหล่าไรด์เดอร์เดินแถวไปลายายพร้อมกล่าวขอบคุณ ยายก็ให้ศีลให้พรไปตามเรื่อง ให้ขับขี่ปลอดภัย ได้ลูกค้าเยอะ ๆ บางคนที่มาประจำก็สั่งไปทานเองด้วย แม่ก็คิดราคาพิเศษให้

    จนเริ่มเย็น หลังจากช่วยแม่เก็บร้านหน้าร้านเรียบร้อยแล้ว พี่แฮมโทรศัพท์มาบอกว่า ลูกหม่อนที่สวนสุกเต็มที่แล้ว ให้หมูยอกับหมูหยอง ไปช่วยกันเก็บหน่อยพี่แฮมนั้นเก็บไม่ทัน หมูยอกับหมูหยองก็เลยขี่มอเตอร์ไซค์ กันสองคน เตรียมตะกร้ากันไปด้วย ขับรถไปไม่กี่นาทีก็ถึง ไปถึงแล้วก็ลงมือเก็บกันอย่างสนุกสนาน เก็บใส่ตะกร้ากันไป แอบยัดเข้าปากกันไป พูดกันทีพอเผลอยิ้ม ออกมา ฟันกับลิ้นเป็นสีแดงอมม่วง

    เก็บลูกหม่อนกันไปได้พักหนึ่งพ่อกับพี่แฮม เดินมาสมทบ หลังจากเก็บพริกขี้หนูสวนที่ปลูกไว้ได้หอบใหญ่ก็เดินมาสมทบช่วยเก็บลูกหม่อนกันอีกแรง เมื่อเก็บจนหมดแล้ว หมูยอบอกให้นั่งรอสักครู่ ขอเดินไปเก็บใบหม่อน มาทำชาใบหม่อนไว้กินที่บ้านด้วย เวลากินของมัน ๆ ได้ซดน้ำชาอุ่น ๆ แล้วมันล้างปากได้ดี ชาจีนนั้นไม่ค่อยอยากให้ยายได้กิน เพราะยายแกบ่นว่า กินแล้วนอนไม่ค่อยหลับตามันค้าง

    ถ้ามีงานที่ต้องตื่นแต่เช้ามืดก็ว่าไปอย่าง แกว่าคนแก่นั้นหลับยาก ถ้ายังจะกินน้ำชาอีก จะพลอยไม่ได้หลับได้นอน ปกติยายมักเอนหลัง ช่วงบ่าย ๆ หมูยอก็เลยจะเตรียมทำชาใบหม่อนไว้ให้ยาย พอดีดอกสายน้ำผึ้งต้นหลังบ้านกำลังเริ่มออกดอกอีกแล้ว เอามาใส่ชาใบหม่อนก็ยิ่งทำให้หอม ดื่มแล้วชื่นใจขึ้นไปอีก

    ก่อนจะกลับบ้านกัน พ่อบอกว่า ฟักทองท้ายสวนใกล้ได้ที่แล้ว มีอยู่ หกเจ็ดลูก จะเอาเมื่อไร ก็บอก เดี๋ยวพ่อจะได้เก็บไปให้ หมูยอก็รับคำเพราะต้องไปบอกยายเสียก่อนไม่รู้ว่า คราวนี้ยายจะเอาฟักทองไปทำอะไร

    กลับถึงบ้าน เดินเอาลูกหม่อนแบ่งใส่ถ้วยให้แม่ถ้วยโต ให้พ่อกับแม่ไว้กินเล่น กับเอาไปฝากป้าแดง ที่แม่ทำห้องพักให้ตรงเรือนหลังร้าน แล้วหมูยอถึงเดินกลับบ้านยาย คราวนี้คงทำแยมลูกหม่อนแน่ละ เพราะแฟนคลับของยายนั้นรอคอยมานานนักหนา เอาพริกขี้หนูไปเก็บเข้าตู้เย็นเสียก่อน แล้วจึงเอาลูกหม่อนลงแช่น้ำในกะละมัง แล้วเดินไปล้างใบหม่อนให้หมดจากฝุ่น ตากไว้บนกระด้งข้างบ้าน

    หันมาสงลูกหม่อนใส่ตะกร้าเพื่อสะเด็ดน้ำ หลังจากล้างคราบฝุ่นค่อย ๆ เด็ดก้านสั้น ๆ ยายเห็นก็เดินเข้ามาช่วยกันเด็ดก้าน เด็ดกันไปคุยกันไป พักใหญ่ ๆ ก็เสร็จ เอาลูกหม่อนที่เด็ดก้านแล้ว ใส่ตะกร้าเพื่อผึ่งให้แห้ง แล้วก็มานั่งกินข้าวเย็นกับยาย ยายเอามะม่วงอกร่องที่เก็บจากสวนบ่มจนสุกดี มาหั่นเป็นเต๋า วางบนข้าวสวย แล้วทำน้ำปลามะนาว ซอยหอมแดงกับกระเทียมและบุพริกขี้หนูสวน โรยปลาแห้งป่นสักหน่อย ยายว่าคนแก่แล้วกินแล้วมันชื่นหัวอกหัวใจ คนยุคใหม่คงว่าแปลกว่ามันทานกันได้ด้วยหรือ ส่วนหมูยอว่ามันอร่อยดีเลยซัดเสียหมดจาน เพราะเคยกินกับยายตั้งแต่ยังเด็ก

    หลังจากบอกยายเรื่องฟักทองที่ท้ายสวนของพ่อ ยายว่าเอาก็เอา กิจข้าวเสร็จผมก็ไปบ้านแม่ บอกกับพ่อว่า ยายให้เอามาพรุ่งนี้ก็ได้ พ่อรับคำว่า พรุ่งนี้เที่ยง ๆ จะขนมาไว้ที่ร้าน เดินกลับมาอาบน้ำอาบท่า ประแป้งน้ำละลายดินสอพองจนตัวลายพร้อยแล้ว หมูยอก็ไปนอนเล่นที่เปลญวนริมแม่น้ำเล่นโทรศัพท์ ดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยเปื่อย

    จนเริ่มมืดสักหน่อย ยายตะโกนให้เข้าบ้าน เดี๋ยวยุงจะหามไปกินเสียก่อน ก่อนเดินเข้าบ้าน หมูยอเอื้อมมือไปเก็บดอกการะเวก มาได้หลายดอก ริดใบตองมาม้วนทำกรวยเอาดอกการะเวกใส่แล้วหาไม้มากลัดได้สามห่อ เอาไปวางไว้ข้างหัวนอนของยายอันหนึ่ง ข้างหัวนอนของตัวเอง แล้วเดินเลยไปบ้านแม่ เอาไว้ให้แม่วางไว้หัวเตียงของแม่อีกอัน จะได้นอนหลับสบาย ยายเล่าว่า เป็นภูมิปัญญาคนโบราณ ถ้าเอาวางไว้เฉย ๆ ไม่นานก็เหี่ยวและกลิ่นหาย ถ้าแช่น้ำจะเหม็นโฉ่ เอาห่อใบตองมาห่อ ดอกการะเวกจะกระจายกลิ่นหอมอ่อน ๆ ได้จนถึงเช้าของอีกวัน

     

     

    พรุ่งนี้วันอาทิตย์ แถมเป็นวันพระเสียด้วย หมูยอต้องช่วยยายทำกับข้าวไปถวายเพล แต่ตอนเช้ามีตลาดนัดข้างวัดเสียด้วย จริง ๆ มันก็ตลาดเล็ก ๆ นี่แหละแต่ชานเมืองแบบนี้ ได้เดินเล่นตลาดนัดเล็ก ๆ แค่นี้มันก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจดี เพราะมีแค่อาทิตย์ละวัน จริง ๆ นั่งรถเข้าเมือง ก็ใช้เวลาไม่นานจากบ้านของหมูยอที่นครชัยศรีมากนัก

    แต่หมูยอนั้นก็ท้อใจ เพราะสมัยเรียน ต้องตื่นแต่เช้า ฝ่าการจราจรเพื่อไป ๆ กลับ ๆ ระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัย ไหนจะรถติด ไหนจะร้อน ไหนจะรอรถซึ่งกว่าจะมาแต่ละคันก็นานแสนนานเพราะส่วนใหญ่ต้องนั่งรถโดยสารประจำทางไปเอง หมูยอก็เลยเป็นคนติดบ้านหลังจากเรียนจบมา ถ้าจะต้องเข้าเมืองก็ขอติดรถพี่แฮมเข้ากรุงเทพฯ แต่ขากลับมันต้องกลับเองนี่น่ะสิคือปัญหา

    อันที่จริงพ่อกับพี่แฮมก็ซื้อคอนโดไว้ในเมืองห้องหนึ่งเหมือนกันถ้ามีเหตุจำเป็นก็จะได้นอนที่คอนโดจะได้ไม่เสียเวลาเดินทาง แต่หมูยอว่าอยู่บ้านของยายนี่แหละดีที่สุด เพราะหมูยอเป็นคนติดบ้านและคิดถึงยาย ไม่อยากทิ้งยายให้อยู่บ้านคนเดียวกลัวยายจะเหงา ถ้ามีเพื่อนนัดให้รวมตัวกันไปเที่ยวไหน หมูยอก็จะบอกว่า มาบ้านกูเถอะ นอนค้างก็ได้ เดี๋ยวยายกูทำกับข้าวอร่อย ๆ ให้กินอีกต่างหาก

    แรก ๆ ก็อิดออดกัน แต่พอลองได้มาแล้วติดใจ เพราะได้กินของอร่อย และมีอะไรให้เล่นสนุกที่อยู่ในเมืองไม่มีโอกาสได้ทำแน่ ๆ เช่นพายเรือ หรือปีนต้นไม้ สมัยเรียนเพื่อนของหมูยอจึงชอบมานอนค้างที่บ้านหมูยอบ่อย ๆ แต่พอเรียนจบต่างคนต่างมีภาระหน้าที่การงาน นาน ๆ จึงจะได้เจอกันสักที จะมีเพื่อนแถวบ้านก็ไม่มาก ที่เจอกันบ่อย ๆ สักหน่อย ก็มักจะเจอที่ตลาดนัดนี่แหละ แล้วค่อยชักชวนกันมาเที่ยวบ้านต่อ จะมีพิเศษที่ยังคบหาและไปมาหาสู่เหลืออยู่ไม่มากและที่มาหาบ่อย ๆ ก็มีแค่คนเดียว

    หลังจากนอนดมกลิ่นดอกการะเวกได้สักพัก ความเหนื่อยอ่อน ก็ทำให้ผมหลับไปอย่างง่ายดาย มาตื่นเอาตอนเช้า ๆ เพราะแสงแยงตา กับเสียงปลุกของไก่ที่เลี้ยงไว้เหมือนทุก ๆ วันแต่วันนี้ผมมีกำลังใจที่จะลุกแต่เช้านะ เพราะวันนี้มีตลาดนัดหน้าวัดนั่นแหละ ล้างหน้าแปรงฟัน เสร็จ เดินลงมาก็เจอยายเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว หมูยอกับยายเดินไปหาแม่

    พ่อที่กำลังเตรียมสตาร์ทรถรอพวกเราเรียบร้อยแล้ว ขับรถไปไม่นานก็ถึงตลาดนัดหน้าวัด วันนี้คงได้กินขนมอะไรแปลก ๆ มาบ้าง แม่กับยายเดินไปส่วนของของสด ซื้อกุ้งหอยปูปลาอะไรไปตามเรื่อง ส่วนพ่อเดินไปนั่งรอที่ร้านกาแฟเจ้าประจำ สภากาแฟนี้ คุยกันเสียงดัง พ่อที่เป็นคนพูดไม่เก่ง ได้แต่ฟัง ๆ แล้วก็ยิ้ม ๆ ไปตามเรื่อง สภากาแฟแห่งนี้เป็นแหล่งข่าวสารบอกบุญต่าง ๆ ของหมู่บ้านเรา ถ้าเป็นวัยรุ่นก็โพสต์ลงเฟสบุคหรือทวิตเตอร์ แต่คนรุ่นพ่อ การได้พบเจอพูดจาแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน งานบวช งานแต่ง งานบุญ ก็มาบอกกันที่นี่นั่นเอง

     

    เดินดูของเพลิน ๆ ก็เห็นคนนึงท่าทางแปลก ๆ หน้าตาแบบนี้ไม่ใช่คนแถวบ้านเราแน่ ๆ อีตานั่นเดินเงอะ ๆ เงิ่น ๆ แต่ไกล แถมแต่งตัวไม่เหมือนชาวบ้านแถวนี้ ท่าทางจะเป็นคนเมืองกรุงล่ะมั้ง ก็พ่อเล่นใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงสแลก กับรองเท้าหนัง ขัดกับบรรยากาศ ตลาดนัดหน้าวัดเสียเหลือเกิน รังสีเฮ้ากวงเปล่งประกาย ดูโดดเด่น เห็นแต่ไกลเลยทีเดียว ก็ดูดีแหละ หมูยอแอบคิด ....สูง ๆ ตี๋ ๆ ขาว ๆ แต่มาเดินทำอะไรตรงนี้หว่า คิดได้แค่นั้น หมูยอก็เลิกสนใจด้วยมีของต้องซื้อมากมาย และพ่อค้าแม่ค้าก็ชวนกันซื้อและพูดคุยเพราะคนรู้จักกันทั้งนั้น

    ก่อนออกมาตลาดพี่แฮมบ่นอยากกินขนมชั้น กับ ขนมเปียกปูน ส่วนหมูหยอง อยากกินก๋วยเตี๋ยวหลอด หมูยอเดินไปซื้อเสร็จ ก็เดินไปแถว ๆ ท้ายตลาด เห็นหลังแม่กับยายอยู่ไว ๆ เห็นแม่ยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่อย่างออกรส คงใกล้จะคุยกันเสร็จแล้วเห็นจับไม้จับมือกันอยู่นั่นแล้วท่าทางเหมือนกำลังจะล่ำลากัน ยายลูบหลังลูบไหล่ คงกำลังให้ศีลให้พรอยู่นั่นแหละ อ้าว อีตาหน้าหล่อยืนปั้นจิ้มปั้นเจ๋อยิ้มเผล่อะไรด้วยล่ะนั่น ผมขมวดคิ้ว เห็นยายรับไหว้แล้วก็เอื้อมมือไปจับมือตานั่นเขย่า ๆ แล้วเอื้อมมือไปลูบหัวลูบหลังเพื่อนแม่ ท่าทางกำลังให้ศีลให้พรอยู่

    คนอะไรตัวสูงชะมัด สงสัยตอนเด็ก ๆ แม่คงให้กินนมเยอะ หมูยอนั้นนึกค่อนขอดในใจ เห็นแล้วก็อดเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้ กับพี่ชายน้องชายหมูยอเตี้ยกว่าใคร พี่แฮมนั้นนอกจากสูงแล้วยังมีกล้ามเนื้อเพราะทำงานหนักในสวน ส่วนหมูหยองนั้นสูงแต่ยังผอม ผมยักไหล่หนึ่งทีแล้วดูดน้ำเก๊กฮวยซูดใหญ่ ......

     

    อ๊า!!! ชื่นใจ

     

     

    พระเอกของเรามาแล้ว ตอนหน้ามารู้กันว่าไอ้ตี๋ ขาว ๆ สูง ๆ นี่มันใครกันหนอ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×