ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สำรับกับ...รัก I

    ลำดับตอนที่ #1 : เตรียมสำรับ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.2K
      63
      5 พ.ค. 67

    โดย  Chavaroj

     

    เช้าวันนี้หลังจากถูกปลุกจากเสียงไก่ขันเจื้อยแจ้ว จากหน้าต่างตรงหัวนอน ผมค่อย ๆ บิดขี้เกียจ หายใจลึก ๆ เพื่อเรียกกำลังให้ตัวเอง จะได้มีแรงใจลุกออกจากเตียงนอนแสนสบาย บิดขี้เกียจอีกนิดหน่อยเพราะความง่วงงุนที่ยังครอบงำ

    "ยังไม่อยากลุกเล๊ย" ผมพูดเสียงงัวเงียในลำคอก็ให้บังเอิญได้ยินเสียงเรียกมาแต่ไกล ๆ

    "หมูยอเอ๊ย ลุกได้แล้วลูก มาล้างหน้าล้างตา แล้วมากินข้าวมาลูกมา วันนี้ยายทำข้าวต้มซี่โครงหมูไว้ให้แน่ะ มากินร้อน ๆ ลูก จะได้กินอร่อย ๆ " เสียงยายเรียกจากหน้าห้องเหมือนกับทุก ๆ วัน ถ้าอย่างนี้แล้วจะนอนต่อไม่ได้ละ ยิ่งนึกถึงหน้าตาของข้าวต้มของยาย จะมานอนกันอยู่ทำไมละเออ

    "จ้า ตื่นแล้วจ้า ยาย แปปนึงจ้า"

    เมื่อคืนนี้นอนดึกเอาการ เพราะพี่แฮม พี่ชายคนโตของผมได้ขนขิงอ่อนมาให้เข่งใหญ่จากในสวนตั้งแต่บ่าย ยายสั่งพ่อกับพี่แฮม ไว้ว่าให้เก็บขิงจากในสวนให้ด้วย เกินกว่านี้ไปขิงจะแก่ ทำขิงดองไม่อร่อย แล้วไม่ใช่ว่าเราสักแต่ซอย ๆ เป็นแว่น ๆ เสียที่ไหน หมูยอกับยาย ต้องสลักเสลา ให้สวยงาม เป็นรูปปลาบ้าง ดอกไม้ ใบไม้บ้าง แล้วแต่ รูปทรงของแง่งขิงนั้น ๆ จริง ๆ ก็เพลิน ๆ จนลืมเวลานอนนั่นแหละ เพราะสลักขิงไปก็คุยกันไป

    เจ้าหมูหยองน้องชายคนเล็ก แผนกไอทีประจำบ้านของเรายังเปิดละครนอก จากยูทูป เพื่อให้ยายใช้ฟังเพลิน ๆ สลับกับชำเลืองสายตาดูบ้าง ส่วนเจ้าตัวดูไปขำไป ตอนที่มีบทตลก ๆ ที่เราดูกันเมื่อคืนนั้นคือเรื่อง สังข์ทอง ตอน มณฑาลงกระท่อม เริ่มตอนที่ นางมณฑา ไปตามเจ้าเงาะบุตรเขยให้มาช่วยตีคลี พนันบ้านเมือง กว่าจะพูดคุยกันรู้เรื่อง ก็หัวเราะกันไปหลายยก ค่าที่แม่รจนานั้นก็หูตึง นางมณฑา ก็ไม่ยอมไปตามลูกเอง ให้นางเล็ก ๆ ไปตามอยู่หลายรอบกว่าจะได้พูดคุยกัน นางพระกำนัลบอกให้ไปทูลพระธิดาว่าพระชนนีมาหา นางรจนาก็ได้ยินเข้าใจว่าจะมาซื้อหัวปลี พูดกันไม่รู้เรื่องก็ให้นางพระกำนัลอีกคนไปทูลว่าพระมารดามาหา นางรจนาก็เข้าใจว่าจะมาซื้อแมงดา

    บ้านของหมูยอนั้นเป็นบ้านใหญ่ ในบริเวณบ้านมีคนอยู่กันหลายคน ในอาณาบริเวณบ้านนั้น มีเรือนของยาย ที่อยู่กับหมูยอกันสองคน เรือนหลังนี้ปลูกอยู่ใกล้แม่น้ำ ยายว่าปลูกมาตั้งแต่ทวดแล้ว ด้วยความเป็นคนไทย จึงแต่งลูกเขยเข้าบ้าน เนื่องจาก ทวดนั้น มียายเป็นลูกสาวคนเล็กเพียงคนเดียว พี่ชายทั้งสองของยายนั้น ทวดซื้อที่ซื้อทาง ให้แยกกันไปอยู่เป็นสัดเป็นส่วน แต่สามารถไปมาหาสู่กันได้สะดวก ถัดไปเล็กน้อย ก็เป็นเรือนของพ่อกับแม่ ที่มีพ่อกับแม่ และพี่แฮมพี่ชายคนโตกับหมูหยองน้องชายคนเล็กอาศัยอยู่ร่ำ ๆ ว่าพี่แฮมจะปลูกบ้านของตัวเอง แต่ก็ยังไม่แล้วสักที ได้แต่เป็นโครงการจนพวกเราแซวว่าคงจะต้องรอพี่แฮมมีแฟนซะก่อนถึงจะยอมปลูกบ้านของตัวเอง

     

    เรือนของยายปลูกใกล้แม่น้ำ ร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้มากมาย ทั้งผักสวนครัว ไม้ผล และไม้ดอกไทย ๆ ซึ่งส่งกลิ่นหอมตลบไปทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันเย็นย่ำค่ำมืด ยายเล่าให้ฟังว่า ยายทวดนั้นชอบปลูกต้นไม้ และผักสวนครัวต่าง ๆ บ้านยายจึงมีต้นหมากรากไม้พืชผักสวนครัวร่มครึ้ม ด้วยความที่โตมากับยายจนวันหนึ่ง เห็นยายแกะสลักผักผลไม้ ทำสำรับไปถวายพระ ยายก็เลยให้ลองทำดูบ้าง อ้างว่าทำถวายพระแล้วได้บุญ หมูยอนั้นอยากได้บุญและอยากเก่งเหมือนยายจริง ๆ ก็เลยหัดทำดู ในตอนนั้นมันก็คงน่าสนุกกว่านั่งเฉย ๆ นั่นแหละ เพราะเมื่อตอนเด็ก ๆ ถ้าหมูยอแอบหนีไปเล่นซนกับพี่น้อง ที่ชอบเล่นอะไรแผลง ๆ มักโดนยายบ่นมากกว่าคนอื่น ๆ พี่น้องกันสามคน หมูยอนั้นตัวเล็กกว่าใคร

    ได้ลองแกะสลักตามที่ยายสอนปรากฏว่า หมูยอก็สามารถทำได้ดีกว่าที่คิด ยายบอกว่า มีพรสวรรค์ สมกับเป็นหลานคนโปรด จนโตมาก็ได้เอาวิชานี้มาทำมาหากินช่วยยายด้วย แล้วก็เป็นอาชีพหลักของหมูยอไปด้วยเสียเลย

    อีกด้านของบ้านเรา ส่วนที่ติดถนน แม่เปิดร้านขายผัดไทยกุ้งสด ที่ใช้กุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ ตัวร้านตียาวขนานมากับลำคลองที่ขุดขึ้นมา ทำให้เวลาที่มีลูกค้ามาทานอาหาร สามารถชมบรรยากาศริมคลอง ที่ร่มครึ้มด้วยต้นไม้ที่ปลูกไว้ตลอดแนว ทั้งตลิ่งท่าน้ำช่วงบ่าย ๆ ก็จะมีบรรดาเรือที่ขนของจากสวนมาขายของต่าง ๆ มากมาย แวะเวียนเอาผลผลิตมาขายให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ ทั้งผลไม้สด ๆ ดอกกล้วยไม้ หรือผักสดต่าง

    ซึ่งสินค้าจากสวนเหล่านี้ล้วนมาจากสวนแถว ๆ บ้านเรานี่เอง บางทีก็จะมีขนมต่าง ๆ พายเรือมาเร่ขายกันครึกครื้น ยิ่งเป็นวันหยุด ลูกค้าก็จะมีมากเป็นพิเศษ ลูกค้าที่มาต่างก็ว่าหลังจากไปไหว้ที่วัดไร่ขิงก็จะแวะมากินก๋วยเตี๋ยวผัดไทยชื่อดัง ซึ่งก็ต้องขอบคุณโซเชียลมีเดีย ที่มีคนมากินก๋วยเตี๋ยวผัดไทยของแม่ แล้วเกิดการรีวิว ว่าทั้งอร่อยและบรรยากาศดี กุ้งแม่น้ำก็ตัวโตและสดมาก ๆ แถมมีชาวสวนเอาผักสดผลไม้มาขายที่คลองข้าง ๆ ร้านด้วย

    ยายว่า ช่วยให้ชาวบ้านชาวสวนได้มีแหล่งขายอีกทางด้วย ลูกค้าก็ได้ของดี ๆ สด ๆ จากสวนด้วย บางทีแม่ค้าก็เอาของที่ยายสั่งมาให้ใส่เข่งโต ๆ มาเลยเช่นหัวปลี แม้บ้านเราจะมีสวนแต่ออกไม่ทันจึงต้องสั่งซื้อเพิ่มเป็นประจำ บรรดาแม่ค้าแต่ละคนก็สนิทสนมกับแม่และยาย แม่ค้าเหล่านี้มีฝีปากกล้าทั้งนั้น

    เกิดการปะทะฝีปากระหว่างแม่ค้าด้วยกัน หรือบางทีก็มีการปะทะอารมณ์ระหว่างแม่ค้ากับยายนี่แหละ ให้บรรดาลูกค้าได้ชมมหรสพชีวิต ให้ตื่นเต้นกันเล่น ๆ ค่าที่ยายนั้นก็พูดเก่งเสียงดัง แถมมีวาจาเชือดเฉือนไม่แพ้ใคร ยายเปรยว่า ยายก็แม่ค้าเก่าเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีใครถือกันเรียกว่า เป็นการลับฝีปากกันเพื่อไม่ให้เกิดความเหงาหงอยใจมากว่า

    ยายยังว่า ชาวสวนมักประสบปัญหาในการขาย มักถูกเอาเปรียบจากเหล่าพ่อค้าคนกลางที่มารับผลผลิตแม้จะมารับซื้อของถึงที่ แต่ก็กดราคาเสียเหลือเกิน จนบางครั้งแทบไม่คุ้มทุน การมาขายเองอย่างนี้ จึงได้กำไรมากกว่า แต่สำหรับพวกหลาน ๆ อย่างเรา ยายนั้นเล่านิทานและเรื่องสนุกต่าง ๆ ให้พวกเราฟังกันตั้งแต่เด็ก

     

    ส่วนพ่อของผมนั้นทำสวนมะพร้าว เดี๋ยวนี้มะพร้าวนั้นลูกหนึ่ง ๆ ขายได้หลายบาท การเก็บมะพร้าวรอบหนึ่ง ๆ จึงทำเงินให้พ่อไม่ใช่น้อยแต่ด้วยความขยันของพ่อ ที่ดินว่าง ๆ ระหว่างต้นมะพร้าวนั้น พ่อก็ขึงสแลนพรางแสง ปลูกไม้ประดับต่าง ๆ เพื่อไปขายตลาดนัดต้นไม้ที่สวนจตุจักร ตั้งแต่วันอังคารจนถึงวันพฤหัส ส่วนที่ตลาดนัดสนามหลวง 2 จะขายในเช้าวันจันทร์ จนพี่แฮม ที่เรียนจบด้านการเกษตร กลับมาพัฒนาปลูกไม้หายาก และเป็นที่ต้องการของตลาด พี่แฮมยังเป็นนักจัดสวนฝีมือฉกาจที่มีชื่อเสียงในวงการจัดสวนอีกด้วย บางครั้งแผนกไอทีของบ้านโพสต์ขายต้นไม้ในกลุ่มซื้อขายต้นไม้ เพียงครู่เดียวก็โดนเหมาจนหมด ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ จนพ่อบ่นกับพี่แฮมว่า อย่าโพสต์บ่อย ปลูกไม่ทัน โตไม่ทัน

    หมูยอกับหมูหยอง มักเป็นลูกมือช่วยงานที่ร้าน ของแม่เป็นประจำ หมูหยองนั้น ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยใกล้จะเรียนจบในอีกไม่นานนี้ แต่ด้วยความเป็นเด็กยุคใหม่ ซึ่งชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับโซเชียลมีเดีย ชอบการถ่ายคลิปเวลาแม่ทำผัดไทยไลฟ์สดลงในเพจของร้าน มีคนกดไลค์มากมาย หรือบางครั้งเวลามีเมนูพิเศษ ก็จะเป็นคนถ่ายคลิปวิดีโอ ตัดต่อแล้วจึงโพสต์ลงโซเชียลหลายช่องทาง

    พร้อมใส่ช่องทางการจัดซื้อเป็นที่เรียบร้อย บางครั้ง โพสต์เสร็จ ไม่นาน ของที่ทำก็โดนจองจนแทบไม่เหลือไว้ขายหน้าร้าน อย่างเช่น ขิงดองที่แกะสลักอย่างสวยงาม ของผมกับยายที่ทำกันตั้งแต่เย็นเมื่อวานกว่าจะเสร็จก็ดึกดื่น หมูหยองก็โพสต์คลิปตอนพวกเราแกะสลัก และทำขิงดองจนเสร็จ ใส่ขวดปิดฝาพร้อมจำหน่าย ตั้งแต่เมื่อคืนนั้น เช้ามา ก็มีสายมารายงานว่า มียอดจองพร้อมโอนเงินเรียบร้อย จนเหลือวางขายหน้าร้านแค่ไม่กี่สิบขวด ขวดนึงก็ไม่ใช่ถูก ๆ เพราะความสวยงามจากฝีมือการแกะสลักของผมกับยายนั้น เป็นที่เลื่องลือในหมู่ลูกค้านัก

    ความอร่อยความประณีตในการทำรวมถึงความสะอาดก็เป็นที่ไว้วางใจจากลูกค้าประจำ ดูจากคอมเมนต์ ลูกค้าที่ซื้อแล้วกลับมารีวิวให้กับเพจของทางร้านอีกนั่นแหละ เป็นเครื่องประกันอย่างดี จะมีเสียงบ่นก็คือ ซื้อไม่ทัน ทำไมคุณยายทำน้อยจัง ก็ได้แต่ขอโทษขอโพยและตอบคำถามไปว่า ทำกันแค่สองคน และทำอย่างประณีต จึงมีแค่จำนวนจำกัด คราวหน้าค่อยมาอุดหนุนกันใหม่ แต่พ่อค้าจะทำเมื่อไรก็เป็นเรื่องของอารมณ์และของที่มี

    ของที่ทำเป็นพิเศษนั้น แต่เดิม มักวางขายในวันจันทร์ เพราะวันเสาร์อาทิตย์ มักมีลูกมือมาช่วยยายหลายคน ลูกหลานบ้าง ญาติ ๆ ของยายบ้าง มาเยี่ยมยายกัน ยายก็มักจะเกณฑ์ให้มาช่วยหยิบช่วยจับ คนละไม้คนละมือ โดยอ้างว่าทำเสร็จแล้ว เดี๋ยวมีอาหารฝีมือยายเลี้ยง ซึ่งมักจะเป็น อาหารพร้อมทาน คือใครหิวก็สามารถเดินไปตักมากินได้ตลอดเวลา

    ส่วนใหญ่เลยมักเป็นขนมจีนแกงเขียวหวานยืนพื้น แต่ไม่มีใครบ่นแม้จะกินกันบ่อยแสนบ่อยเพียงใด เพราะฝีมือของยายนั้น ลือไปทั้งคุ้งน้ำว่า ต้องได้ลองกินสักครั้งแล้วจะเก็บไปฝันถึง ลูกหลานนั้นโชคดีที่ได้ทานบ่อยหน่อย แต่ถ้าเป็นชาวบ้าน จะได้ลิ้มรสฝีมือของยาย ก็มักจะเป็นตอนงานวันพระใหญ่ หรืองานบุญ ที่ยายจะขนหม้อแกงใบโตไปร่วมทำบุญ เป็นที่เอิกเกริก ทั้งของคาวของหวาน ส่วนใหญ่อีกนั่นแหละ ก็เป็นแกงพะแนงต่าง ๆ หรือแกงเขียวหวานกับขนมจีน เพราะถือกันว่าเป็นแกงในงานมงคล กับขนมต่าง ๆ บางครั้งก็แกงบวดต่าง ๆ ที่ยายเอาไปร่วมทำบุญ หรือผลไม้เชื่อมที่มีฝีมือการแกะสลักของหมูยอกับยาย หลายคนก็ว่าสวยจนไม่กล้ากิน

    บรรดาคนที่ได้ลองกินก็มักจะมาขอเคล็ดลับในการทำอาหารของยาย ยายก็ตอบทีเล่นทีจริงให้แก่ผู้อยากรู้ "ก็ใส่ใบกัญชานั่นปะไร" ยายทำเสียงกระซิบกระซาบ หรือบางที ยายก็บอก ใส่ผงผงชูรสเยอะ ๆ อยากอร่อยมากก็เทใส่มันเยอะ ๆ เป็นอันหัวเราะกันเพราะรู้ว่ายายล้อเล่น แล้วยายค่อยแจงขั้นตอนการทำรวมถึงเคล็ดลับอย่างคนไม่หวงวิชา หมูยอที่เป็นลูกมือของยายทุกครั้งนั้นบอกได้แค่เพียงว่า มันเป็นเรื่องของรสมือ และประสบการณ์ แต่หมูยอชอบเรียกมันว่า "ผงเอลซ่า" เพราะจริตตอนใช้เหมือนเอลซ่าในเรื่องโฟรเซ่น คือต้องโปรยให้ทั่ว ๆ หม้อ ยิ่งใช้ยิ่งอร่อย

    หลังจากล้างหน้าล้างตา บ้วนปากแล้ว หมูยอก็เตรียมกินอาหารเช้าแสนอร่อย

    "เมื่อวานได้ซี่โครงหมูมา ยายก็เลยว่าเช้านี้เอามาทำข้าวต้มดีกว่า ซี่โครงอ่อนเคี้ยวกรุบ ๆ เสียด้วย"

    "ของยอใส่เห็ดหอมเยอะ ๆ ด้วย นะจ๊ะยาย" บ้านเราเวลาคุยกัน เรามักจ๊ะจ๋ากัน ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว

    "เดี๋ยวยายตักใส่ถ้วยให้ แต่เราน่ะเดินไปเรียกบ้านโน้นมากินด้วยล่ะเมื่อเช้ามืดก่อนแม่เราเตรียมตัวไปตลาดยายบอกแม่เราแล้วว่ายายทำข้าวต้ม เดี๋ยวเสร็จแล้วจะให้เราไปเรียก" ยายพูดไปมือก็เท้าเอว อีกมือก็ใช้ทัพพีคนหม้อข้าวต้มไปด้วย คนไปปรุงไป ชิมไป ซึ่งหมูยอก็นึกสงสัยว่า ทำไมเวลากับกับข้าว มักจะเท้าเอวเอาข้างหนึ่ง เห็นใคร ๆ ก็ทำท่านี้ทั้งนั้น รวมทั้งตัวหมูยอเองด้วย คาดว่าเป็นการเพิ่มสมาธิ หรืออาจจะเป็นความเคยชินก็สุดจะรู้

    "จ๊ะยาย" หมูยอบอกแล้วค่อย ๆ เดินไปบ้านแม่ หลังจากตะโกนบอกแม่จากข้างบ้าน เลยแวะเก็บดอกมะลิสักหน่อย เพราะตอนเดินผ่านมา เห็นออกดอกพราวเต็มต้น ส่งกลิ่นหอมตลบ จริง ๆ บ้านเรามันมีดอกไม้สวย ๆ หอม ๆ ออกทุกวันสุดแต่ว่าเราจะโชคดีไปเจอพวกมันตอนไหน 

    ใคร ๆ ก็รู้ว่า ยายรักหมูยอมากกว่าใคร เพราะยายเล่าให้ฟังตั้งแต่ตอนเด็กว่า ๆ สมัยหมูยอยังไม่เกิด ยายเคยมีลูกสาวคนเล็ก เกิดไปแอบเล่นน้ำ แล้วตกน้ำตาย ยายร้องไห้เสียนักหนา เพราะน้าคนนี้เป็นลูกหลง เกิดห่างจากแม่และลุง ๆ หลายปี แม่เริ่มเป็นสาว ยายก็เกิดมีน้าคนนี้ ตายายจึงรักเหมือนแก้วตาดวงใจ ก่อนเผาศพ ยายเอาดินหม้อมาป้ายตรงหลังมือขวา บอกว่า ถ้ามาเกิดเป็นลูกเป็นหลานยายอีก ยายจะได้จำได้

    ก็ด้วยเหตุบังเอิญอีกนั่นแหละ ตอนหมูยอเกิดมาก็มีปานแดงจาง ๆ ที่หลังมือขวาเหมือนกัน ยายจึงคุยกับแม่ว่าขอหมูยอมาช่วยเลี้ยง แม่ก็เห็นว่าดียายจะได้ไม่เหงา เพราะตอนหมูยอเกิดนั้น พี่แฮมก็ยังเล็กนัก แม่ก็เลยยกหมูยอให้ยายเลี้ยงไป เพราะแม่ทั้งมีลูกอ่อน ทั้งยังต้องขายของอีก บ้านแม่กับบ้านยายก็ห่างแค่เดินสี่ห้าก้าวก็ถึง จริง ๆ ยายก็เลี้ยงพวกหมูยอทั้งสามพี่น้องทุกคนนั่นแหละ แต่หมูยอนั้นยายเลี้ยงนานกว่าคนอื่นถึงขนาดเอามานอนด้วยเลยกับยาย จนโตก็ยังนอนบ้านเดียวกับยาย และแยกห้องกันนอน แต่ห้องของหมูยอกับยายก็อยู่ติดกันอยู่ดี

    พอสมาชิกมากันครบ ๆ แบบนี้ ยายมักให้กินข้าวที่ลานหน้าบ้านบ้าง หรือศาลาริมแม่น้ำบ้าง หมูยอเดินเข้าครัวเอาดอกมะลิไปล้างฝุ่นเสียหน่อยแล้วเอามาใส่เหยือกน้ำ กินน้ำลอยดอกมะลิแล้วมันชื่นใจดี กินข้าวกันไปพูดคุยกันไป ยายก็เลยเป็นคนแก่ที่ไม่เคยเหงา ถ้าจะเคยเหงาบ้างก็คงเป็นช่วงที่หมูยอยังอยู่ในวัยเรียน เวลาไปเรียนไม่มีใครให้เลี้ยง ยายก็จะไปนั่งเล่นที่หน้าร้าน ช่วยเตรียมเครื่องสำหรับขายผัดไทย บางทีก็ไปนั่งคุยกับแม่ค้าที่พายเรือมาขายของบ้าง จนบ่ายคล้อยยายถึงขมีขมันกลับบ้านไปเตรียมกับข้าวเย็นกับขนม ไว้รับขวัญหลานกลับจากโรงเรียน ซึ่งกลับมาพร้อมกับความหิวโซ ยายจะชอบดูหลาน ๆ กินข้าวหรือกินขนม นั่งดูไปอมยิ้มไป อย่างอิ่มอกอิ่มใจแต่หลาน ๆ อิ่มท้อง

    "เออ แม่ว่า เสาร์นี้ แม่จะทำขนมจีนซาวน้ำ เป็นไง ยายฟองจันทร์ที่ขายผลไม้แกพายเรือมาวันก่อนบอกว่า ที่สวนแกมีสับปะรดลูกงาม ๆ อยู่ หกเจ็ดลูก" ยายหันไปปรึกษากับแม่

    "แม่ก็เลยบอกแกอย่าเอาห่าม ๆ มา ขออมเปรี้ยวสักหน่อยทีแรกว่าจะทำแกงสับปะรดใส่หอยแมลงภู่ แต่อากาศร้อน ๆ แม่ก็เลยว่ากินซาวน้ำให้มันชื่น ๆ ใจดีกว่านะ"

    "ก็ดีนะจ๊ะ "แม่ตอบ

    "เออชวนแม่แป้นมาช่วยเป็นไร เห็นบ่นว่าปากจืด ๆ เมื่อวันก่อน" ยายบ่นถึงลูกสะใภ้คนโต จริง ๆ ไม่มีอะไรคงคิดถึงลูกหลานด้วยนั่นแหละ

    "แม่กะว่าจะทำกี่หม้อดีจ๊ะ" แม่ถามยาย

    "เอาสักสองหม้อไว้ขายเนอะ อีกหม้อ ก็สำหรับบ้านเรากับบ้านยายแป้น หรือหนูว่าไงลูก" ยายถามแม่

    "ก็ดีจ๊ะ หนูจะได้เตรียมไปซื้อของที่ตลาดมาให้แม่วันศุกร์ แต่ปลากรายขูดคงต้องบอกเขาล่วงหน้า ให้เขาเตรียมไว้ให้ หมูยอเตรียมจดรายการของให้แม่ด้วยนะ" หมูยอรับคำแล้วเดินไปหยิบดินสอกับกระดาษเตรียมจดให้แม่ แล้วแม่ก็นึกถึงของที่จะต้องซื้อไปแล้วก็บอกลูกชายให้จดไป ส่วนหมูยอก็จดไปแล้วก็ช่วยคิดว่าต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมด้วย

    "หมูแฮมกับหมูหยอง มาช่วยยายด้วยนะลูกนะ"

    "จ๊ะยาย" พี่กับน้องสองคนพร้อมกัน

    "ลองดูถี ต้องซื้ออะไรจากตลาดบ้าง จด ๆ ไว้จะได้ไม่ลืม " ยายหันมาบอกให้ผมเตรียมตัวจด

    เริ่มจากกะทิ ยุคนี้แล้วคงไม่มาขูดมาคั้นกะทิเอง สั่งที่ตลาดเจ้าประจำให้เขาใช้เครื่องคั้นให้ กะทิน่ะเขาใช้เครื่องบีบได้มันดีราวกับคั้นเอง แต่บางครั้งถ้าทำแกงหม้อเล็ก ๆ ยายก็จะคั้นกะทิเอง เริ่มตั้งแต่ปอกมะพร้าวแก่ ๆ เองเอามาขูดด้วยกระต่ายขูดมะพร้าวตัวเก่าที่ใช้จนหลังของมันเป็นมันเงา กระต่ายตัวนี้เก่าแก่นักและหมูยอก็รักมันชะมัด ใช้กระต่ายขูดมะพร้าวแล้วก็เอามะพร้าวที่ขูดมาพรมด้วยน้ำอุ่น ๆ เหยาะเกลือเล็กน้อยแล้วก็คั้นด้วยมือผ่านกระชอนที่รองด้วยผ้าขาวบางอีกชั้น แต่ถ้าจะทำขนม น้ำกะทิก็จะลอยดอกไม้หอม ๆ เช่นดอกมะลิ กระดังงาที่เอาไปลนไฟ หรือชมนาด ให้มันหอมเวลาทำขนมก็จะได้หอมอร่อย

    ส่วนเส้นขนมจีน เอาเจ้าท้ายตลาดสักสามเข่ง เจ้านี้แกดี เส้นเหนียวแล้วก็เส้นเล็กละเอียดกำลังดี แม้ว่ายายจะทำขนมจีนเป็นแต่มันเสียเวลาเกินไป ไหนจะโม่แป้ง ไหนจะเอามาต้ม กว่าจะทำขนมจีนเสร็จหมดไปครึ่งค่อนวันไม่ต้องกินกันพอดี

    ถัดมาก็เนื้อปลากรายขูด ไอ้ที่จะใช้ลูกชิ้นปลาสำเร็จรูปนั้น อย่าได้หวังว่ายายผมจะยอม ยายว่าเนื้อครึ่งแป้งครึ่ง ไม่ได้รส ยายไม่เอามาทำให้เสียชื่อยี่ห้อ ต้องเนื้อปลาแท้ ๆ ที่เขาขูดไว้สำเร็จแล้วจากเจ้าประจำเสียด้วย จะทำเองก็ขี้เกียจอีกเหมือนเคยอะไรที่เราใช้เงินแก้ปัญหาได้ก็ใช้ไปก่อน

    กุ้งแห้ง เอาตัวโต ๆ หน่อยตำแล้วจะได้เนื้อได้หนัง

    กระเทียม เอาหัวใหญ่หน่อย เวลาซอยจะได้ง่าย ๆ แลดูน่ากิน

    ขิง ที่พ่อกับพี่แฮม เก็บมายังพอเหลือ

    ไข่เป็ดเอาเพิ่มจากที่แม่ใช้ เอาให้เพิ่มให้ยายสักสี่ห้าแผงแล้วกัน จริง ๆ ที่สวนมีเป็ดที่ออกไข่ดกอยู่สองตัวแต่ที่สวนเลี้ยงแบบให้มันหากินเอาเอง จึงตามเก็บไข่ไม่ทัน บางครั้งก็เป็นอาหารของตัวเหี้ย หรือคนงานที่ทำงานในสวนเก็บได้ก็เอาไปต้มกินเป็นอาหารเที่ยงก็มี

    พริกขี้หนูสวน อันนี้เดี๋ยวว่าง ๆ หมูยอจะชวนหมูหยองไปช่วยกันเก็บพริกขี้หนูสวนมาให้ยาย พี่แฮมนั้นปลูกไว้เป็นแถวยาว ถ้าเก็บไม่ทัน มักตกเป็นอาหารของพวกนก

     

    หมูยอจดลงกระดาษเป็นที่เรียบร้อย เอาล่ะ รอให้ถึงวันเสาร์ไม่ไหวแล้วล่ะ อยากกินขนมจีนซาวน้ำฝีมือยายแล้วละ

     

     

    ฝากลูของไรท์ไว้ด้วยนะคร้าบน้องน่ารักทำกับข้าวก็เก่งนะ แต่จะให้ดีอย่าอ่านตอนกลางคืนเลยเกิดคุณ ๆ หิวขึ้นมาจะหาว่าไรท์ไม่เตือนไม่ได้เน้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×