Loveless Motels โรงแรมไร้รัก - นิยาย Loveless Motels โรงแรมไร้รัก : Dek-D.com - Writer
×

    Loveless Motels โรงแรมไร้รัก

    โดย Trajan

    คดีฆาตกรรมต่อเนื่องทำให้ชายสองคนมาพบกัน แรงดึงดูดทำให้พวกเขาต้องผูกพันกันอย่างล้ำลึก เมื่อความเจ็บปวดคือการปลดปล่อยสำหรับเขาทั้งคู่

    ผู้เข้าชมรวม

    47

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    47

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.พ. 65 / 17:48 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Loveless Motels

    โรงแรมไร้รัก 

    by Trajan

     

    *นิยายลงเป็นตัวอย่างนะคะ เนื่องจากติดลิขสิทธิ์ตีพิมพ์แล้ว ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมค่ะ _/\_

     
     

    Chapter 1 – Motel 69

     

     

    รีโน ปี 1983

    สายฝนที่ไม่ได้สัมผัสดินแห้งระแหงของรีโนมาเป็นเวลาสองปี เทลงมาห่าใหญ่ในฤดูร้อนปีนี้จนเสียงลมและฝนดังระงมไปทั้งเมือง

    รองเท้าหนังสีดำคู่เก่าที่ขัดจนขึ้นเงาวิ่งย่ำไปบนพื้นถนนจนน้ำกระเซ็น ร่างสูงในชุดสูทสีเทาไปยังทางเข้าโมเตล 69 ฝ่าเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมา แม้ฝนจะซาลงแล้วจากเมื่อช่วงเช้า ทว่ายังมีแอ่งน้ำเจิ่งนองตรงบริเวณลานจอดรถ ดวงอาทิตย์หลบอยู่หลังเมฆครึ้ม ลมแรงพัดความอบอ้าวของฤดูร้อนไปจนอุณหภูมิลดลงต่ำ หากไม่นับรถตำรวจและรถพยาบาลที่จอดอยู่ด้วย รถบางตาในลานจอดของโรงแรมแม้จะเป็นฤดูท่องเที่ยว ถือเป็นหลักฐานของความซบเซาที่กำลังระบาดไปทั่วรีโนในเวลานี้

    ชายในสูทเทาพยักหน้าให้ตำรวจในเครื่องแบบที่เฝ้าประตูห้อง ก่อนจะก้มลอดเทปสีเหลืองเข้าไปด้านใน 

    “เจ้าหน้าที่เลิฟเลส” นักสืบวัยกลางคนผมสีน้ำตาลแดงมีหนวดหนาเหนือริมฝีปาก ซึ่งกำลังคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน หันมาทางประตูเมื่อได้ยินเสียงคนเข้ามาในห้อง

    “นักสืบดันแคน” ลีแอนเดอร์ เลิฟเลส เจ้าหน้าที่พิเศษของสำนักงานสอบสวนกลาง [R1] ทักกลับ

    ห้องที่เกิดเหตุทาสีชมพูอ่อนดูละมุนผิดกับชื่อสถานที่ “69” เพดานประดับโคมระย้าคริสทัลพลาสติกสีแดง ไฟที่ค้างเปิดไว้ทำให้เห็นหลอดหัวเทียนขาดหนึ่งดวง ส่องแสงลงไปที่เตียงซึ่งมีราวเหล็กสีดำ หมอน ผ้าปูและผ้าห่มสีแดงอยู่ในสภาพยับย่นยู่ยี่ มีศพชายผิวขาวนอนอยู่ตรงกลางเตียงในสภาพเปลือยกายในเครื่องพันธนาการ รอบคอมีปลอกคอหนัง แขนทั้งสองข้างถูกมัดเชือกขึงโยงไว้กับหัวเตียง สองมือจิกแน่นในสภาพเกร็งเขม็ง

    สภาพร่างกายที่ยังไม่แข็ง บ่งบอกว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วอย่างน้อยหกชั่วโมง ผิวหนังรอบคอผู้ตายเป็นสีช้ำแดง ดวงตาสีฟ้าอ่อนเบิกโพลง น้ำลายฟูมปาก

    “อย่างน้อยคงได้ขึ้นสวรรค์” นักสืบดันแคนพูด เมื่อมองสภาพศพอย่างละเอียด โดยเฉพาะในส่วนล่าง

    ลีแอนเดอร์มองไปรอบๆ นอกจากร่องรอยของการดิ้นรนบนเตียงจนยับย่นแล้ว ไม่มีร่องรอยของการขัดขืนหรือการต่อสู้อย่างอื่นอีก โต๊ะหัวเตียงที่มีโคมไฟตั้งอยู่มีขวดเหล้าว่างเปล่า ส่วนที่เขี่ยบุหรี่ก็ไร้ร่องรอยการใช้งาน

    แต่เอฟบีไอหนุ่มได้กลิ่นอย่างอื่นแฝงอยู่ในอากาศ นอกเหนือไปจากกลิ่นความตายและเซ็กส์ที่คละคลุ้งไปทั้งห้อง

    กลิ่นยาเส้น

    “เรายังไม่รู้ว่ารายนี้จะเสียชีวิตเพราะหัวใจวายเหมือนสองรายก่อนหน้านี้หรือเปล่า หรือเพราะขาดอากาศหายใจ” ลีแอนเดอร์มองไปที่ปลอกคอหนัง “ภาพจากกล้องวงจรปิดว่าไงบ้าง”

    “ในโมเตลไม่มีกล้องวงจรปิด มีแต่ที่ลานจอดรถ”

    เจ้าหน้าที่เอฟบีไอหนุ่มขมวดคิ้ว “ผมได้กลิ่นยาเส้น คุณสอบถามแม่บ้านทีว่า เธอไม่ได้ยุ่งกับห้องๆนี้หลังเปิดประตูเข้ามาใช่ไหม”

    นักสืบดันแคนพยักหน้า “เดี๋ยวผมไปคุยกับเธอเอง”

    คล้อยหลังนักสืบหนวดงาม เอฟบีไอหนุ่มก็หันกลับมาสำรวจสภาพศพ 

    โมเตลทั้งสามแห่งไม่มีกล้องวงจรปิด หรือมีก็เสียใช้งานไม่ได้ หลักฐานการเช็คอินก็มีเพียงเอกสารประจำตัวของแขกที่เป็นชายต่างเมืองทั้งสามคน ลีแอนเดอร์เดินเข้าไปใกล้และก้มลงมองมือซ้ายของเหยื่อ[R2] 

    รอยขาวจางๆเป็นแถบรอบนิ้วนางบ่งบอกว่า ชายคนนี้ถอดแหวนออกก่อนมาเที่ยวที่รีโน หรือไม่แหวนก็ถูกถอดออกไปเป็นของที่ระลึก เหมือนสองรายแรก

    บรูซ เฟเวอร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน เงยหน้ามองเอฟบีไอร่างสูงที่ยืดตัวขึ้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

     “ผมทำงานห้องแล็บมาเจ็ดปี นี่เป็นครั้งแรกที่เจอศพแบบนี้” เจ้าหน้าที่หนุ่มดันแว่นที่เลื่อนลงมากลับขึ้นด้านบนสันจมูก “คุณคิดว่าเป็นการฆาตกรรมหรือเปล่าครับ”

    ลีแอนเดอร์หันมามองเจ้าหน้าที่จากห้องแล็บ เขาเข้ามารับหน้าที่ช่วยเหลือคดีนี้ เพราะพบความผิดปกติบางอย่างและสงสัยว่ารีโนอาจมีฆาตรกรต่อเนื่อง...ศัพท์ใหม่ของวงการกฎหมายที่เพิ่งบัญญัติขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีก่อน หมายถึงผู้ลงมือก่ออาชญากรรมซึ่งมีเหยื่อมากกว่าสามรายขึ้นไป และพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้ลงมือคนเดียวกัน โดยมีวิธีการประกอบอาชญากรรม[R3] แบบเดียวกัน

    “ตอนนี้เรายังให้คำตอบไม่ได้ แต่ผมคิดว่า การมีคนตายในโมเตลที่มีเจ้าของคนเดียวกันถึงสี่ที่ ไม่ใช่เรื่องปกติ”

    เจ้าหน้าที่เฟเวอร์พยักหน้า หลังเขาถ่ายรูปเก็บหลักฐานเสร็จ ศพก็ถูกเคลื่อนย้ายออกไป 

    “ได้ผลแล้ว ผมจะรีบส่งรายงานให้ทันที” เจ้าหน้าที่จากห้องแล็บบอกเขา ก่อนจะเดินออกไป 

    เมื่อเหลือเพียงเอฟบีไอหนุ่มอยู่ภายในห้อง เขาก็หันกลับไปมองรอบๆตัว

    ทำไมต้องเป็นโมเตลนี้ สาเหตุการตาย ทั้งการขาดอากาศ การช็อก และสามรายก่อนหน้านี้ เป็นแค่อุบัติเหตุจริงๆหรือ

    “ผมก็อยากรู้ ว่านี่เป็นการฆาตกรรมหรือเปล่า”

    เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นที่ประตูทำให้ความคิดเขาหยุดชะงัก เมื่อหันไปมอง ลีแอนเดอร์เห็นชายร่างสูงผิวแทน ไหล่กว้าง ใบหน้าคมสัน จมูกโด่ง ริมฝีปากคม เรือนผมสีน้ำตาลเข้มอมดำ ยืนอยู่ที่ประตูในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ปลดกระดุมสองเม็ดบนเผยให้เห็นสร้อยคอทองคำเส้นหนายาวรอบลำคอลงมาถึงแผ่นอกกว้าง  ทับด้วยแจ๊กเก็ตหนังที่แห้ง และไม่มีร่องรอยเปียกน้ำฝน

    “นักสืบเลิฟเลส” ชายหนุ่มผมดำยิ้มให้เอฟบีไอหนุ่ม

     “เจ้าหน้าที่พิเศษเลิฟเลส” ลีแอนเดอร์แก้คำพูดของอีกคน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน “คุณเป็นใครถึงเข้ามาในที่เกิดเหตุแบบนี้”

    “ซีซาร์ เคน” หนุ่มผมดำยื่นมือออกมาให้ลีแอนเดอร์ 

    ซีซาร์ เคน เจ้าของสถานให้บริการที่เขาจำได้จากรายงาน

    เอฟบีไอหนุ่มจับมือที่ยื่นออกมา ทว่าอีกฝ่ายกลับบีบมือเขาแน่นพลางจ้องหน้าเขาไม่วางตา เป็นการจับมือที่นานกว่าปกติ จนเขาต้องดึงมือกลับ

    ซีซาร์พยักพเยิดไปทางเตียง “ลูกน้องโทรไปบอกว่ามีแขกหัวใจวายตาย ผมเลยรีบออกจากประชุมมาดู ไม่ยักรู้ว่าจะมีเอฟบีไอมาถึงที่เสียด้วย”

    “ใครอนุญาตให้คุณเข้ามาที่นี่” ลีแอนเดอร์ถามย้ำ

    “ผมเห็นนักสืบดันแคนคุยกับแม่บ้านและคนงานผมด้านนอก เลยแวบเข้ามา ตำรวจคุ้นหน้าผมดีอยู่แล้ว คุณเอฟบีไอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โมเตลเราเกิดเรื่อง” เจ้าของโมเตลหนุ่มหัวเราะขื่นๆ

    โมเตลของซีซาร์ เคน มีอยู่ 8 สาขา ได้แก่ โมเตล 22, 40, 69, 153, 318, 67, 44 และ 77 และ  ชายหนุ่มวัย 34 ปีผู้นี้เป็นเจ้าของเครือโมเตลที่อายุน้อยที่สุด และประสบความสำเร็จมากที่สุด ก่อนจะเกิดเหตุในระยะสามปีให้หลัง 

    ครั้งแรก คือมีคนฆ่าตัวตายสองครั้ง คดีแรกเกิดขึ้นที่โมเตล 318 เป็นข่าวดังเมื่อนักเล่นโป๊กเกอร์ชั้นนำของประเทศที่มาแข่งขันที่รีโนตายด้วยวิธีพิสดาร เขาถูกพบเป็นศพในห้องพักในสภาพมีเชือกรัดคอ และข่าวยิ่งดังมากขึ้นเมื่อผลชันสูตรระบุว่า เขาตายด้วยวิธีอัตกามด้วยการทำให้ตัวเองขาดอากาศหายใจ

    เรื่องแปลกคือ เขาไม่ได้ตายในที่พักโรงแรมซึ่งกาสิโนจัดหาไว้ให้ แต่มาเสียชีวิตที่นี่

    ศพที่สองเป็นผู้ชายที่เช่าห้องพักสามวันที่สาขา 22 ในวันที่สาม แม่บ้านพบศพเขาแขวนคอตัวเองจากพัดลมเพดาน

    “คุณรู้ไหมว่า ตอนนี้คนเรียกโมเตลของผมว่ายังไง โมเตลต้องคำสาป” ซีซาร์พูด “ตอนเจอศพที่สามเมื่อปีกลาย ผมต้องจ้างบาทหลวงมาทำพิธีเพื่อให้คนงานกับแขกสบายใจ” 

    ศพที่สาม ที่ซีซาร์ เคน พูดถึง คือคนหัวใจวายตายในห้องพักและไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ที่โมเตล 40 พบเพียงสารจากยาเอ็มดีเอ็มเอ ยาที่มีฤทธิ์กล่อมประสาทอยู่ในเลือด อีกทั้งระดับแอลกอฮอล์สูงผิดปกติ 

    มีคำให้การจากพนักงานว่า เขากลับที่พักพร้อมผู้หญิงหนึ่งคน ซึ่งไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นอีก และทุกคนบอกว่า เป็นเรื่องปกติที่แขกจะพาผู้หญิงหากินกลับมาด้วย จากนั้นเรื่องราวก็เลยเถิด

    ไม่มีใครนึกถึงการฆาตกรรม จนกระทั่งพบศพที่สี่...ซึ่งศพนี้ห่างจากครั้งก่อนหน้าเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น และเหตุเกิดที่โมเตล 69

     “บอกผมอย่างสิ เจ้าหน้าที่เลิฟเลส…” ชายผมดำก้าวเข้ามาใกล้เอฟบีไอหนุ่มจนได้กลิ่นโคโลญจน์และกลิ่นยาโชยออกมาเส้น “คุณคิดว่า ซีบีทีทำให้ผู้ชายช็อกตายได้หรือเปล่า”

    “ซีบีที” แวบแรก ลีแอนเดอร์นึกถึงคำว่า การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม[R4]  แต่เขารู้ว่า ซีซาร์ เคน พูดถึงอย่างอื่น 

    “การทรมานเจ้าโลกกับลูกกระแป๋งไง[R5] ” ซีซาร์ว่าด้วยสายตาเป็นประกาย “อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้จัก”

    เอฟบีไอหนุ่มเผยอปาก อยากจะตอกหน้าอีกคนกลับ แต่แล้วก็รีบเก็บอาการไว้ต่อหน้าชายที่กำลังยิ้มยียวนใส่เขา เขารู้ในตอนนั้นเองว่า ซีซาร์ เคน กำลังกวนประสาทเขา

    “คุณเห็นสภาพศพ?” ลีแอนเดอร์ถามห้วนๆ ตาจ้องกลับไปในดวงตาสีเขียวเข้มเป็นประกาย และรู้สึกขนลุกเกรียวอย่างไร้สาเหตุ แต่เขาจะไม่ยอมก้าวถอยหลังเพื่อให้อีกคนรู้สึกว่าเอาชนะหรือข่มขู่เขาได้

    ซีซาร์ยิ้มมุมปาก 

    “บางที ถ้าคนเราเล่นกับไฟ แต่ไม่รู้จักวิธีควบคุม...”

    “คุณคิดว่า นี่เป็นอุบัติเหตุสิท่า” ลีแอนเดอร์แย้ง “โมเตลสี่ในแปดแห่งของคุณมีคนตาย คุณยังคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญอย่างงั้นเหรอ”

    “ผมแค่อยากออกความเห็น ในฐานะเจ้าของสถานที่” มุมปากเรียวคมยิ้มหยัน แต่แววตาแข็งกร้าว “และในฐานะคนรู้จริง”

    ชายทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมละสายตาก่อน

    ซีซาร์หุบยิ้ม แล้วคว้าซองบุหรี่ออกมาเคาะด้วยนิ้วมือที่สวมแหวนทองหนา ก่อนจะหยิบไฟแช็กสีทองสลักลายงูจงอางแผ่แม่เบี้ยออกมา

    ลีแอนเดอร์มองบุหรี่ที่ชายหนุ่มอ่อนวัยกว่าหยิบใส่ปาก และตวัดสายตาจ้องหน้าฝ่ายตรงข้าม

    “ห้ามสูบบุหรี่ในนี้” เจ้าหน้าที่เอฟบีไอห้ามเสียงเข้ม

    ซีซาร์เหลือบตาขึ้นมองอีกระหว่างจุดไฟติดปลายมวนบุหรี่เป็นประกายแดงวาบ สะท้อนกับโลหะสีทองอีกวงบนมืออีกข้าง “โมเตลผม ผมจะทำอะไรก็ได้”

    “ในที่เกิดเหตุ คุณต้องทำตามที่ผมสั่ง” ลีแอนเดอร์ก้าวเข้าไปดึงมวนบุหรี่ออกจากปากของซีซาร์ แล้วเดินตรงไปในห้องน้ำเพื่อโยนทิ้งชักโครก เมื่อกลับออกมา ก็เห็นเจ้าของโมเตลหนุ่มยืนกอดอกมองดูเตียงที่ยับยู่ยี่

    ซีซาร์ใช้นิ้วโป้งลูบไปมาบนริมฝีปากราวกับใช้ความคิด “พวกมือใหม่ที่คิดว่าบีดีเอสเอ็มเป็นเรื่องหมูๆ คุณก็รู้ว่าเป็นไง เหล้า ยา เซ็กส์ พอไม่มีสติก็ลงมือหนักไปหน่อย”

     “เราจะไม่ปัดความเป็นไปได้ที่ว่าอาจเป็นการฆาตกรรม จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น” เอฟบีไอหนุ่มแย้ง “คุณรู้จักบีดีเอสเอ็มดีแค่ไหนล่ะ ถึงได้มั่นใจว่าเป็นการสมยอม ไม่ใช่การล่วงละเมิดทางเพศ”

    “การล่วงละเมิด…” หนุ่มผมดำแค่นหัวเราะ “ผมได้ยินคำนี้จนเอือมแล้ววันนี้ คุณน่าจะหมายถึงคนที่ชื่อ สุรานารี นามสกุลเฮโรอีน เสียมากกว่า”

    ลีแอนเดอร์รู้ว่าซีซาร์กำลังพยายามเบี่ยงประเด็นและปัดตกข้อสันนิษฐานของเขา อีกทั้งยังเลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องบีดีเอสเอ็ม เขาจึงยิงคำถามต่อเพื่อจี้จุดอีกฝ่าย “คุณไม่อยากยอมรับว่า โมเตลของตัวเองเป็นแม่เหล็กดึงดูดพวกวิปริตเพราะกลัวกระทบกับธุรกิจ ผมเข้าใจเรื่องนั้น คุณเคน แต่การยอมรับความจริงจะทำให้คุณสบายใจขึ้น”

    “วิปริต?” ซีซาร์ค่อยๆหันหน้ามาจ้องเขา ผ่านไปอีกอึดใจ ชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาที่ได้ยินกันแค่สองคน แม้จะอยู่ในห้องกันตามลำพังก็ตาม “คุณคิดว่าใช้คำพูดแบบนี้แล้วจะยั่วให้ผมหลุดปากได้ละสิ”

    “หรือคุณมีเรื่องต้องปิดบัง” เอฟบีไอหนุ่มยิ้มมุมปาก ทว่าไม่มีประกายรอยยิ้มในแววตาสีอำพัน “อาจเป็นเรื่องที่มีความแค้นส่วนตัวกับคุณ ถ้าคุณรู้จักใครที่ชอบทรมานคนอื่นด้วย ซีบีที ก็รีบบอกผมเสียดีกว่า” 

    “ผมคงบอกคุณไม่ได้หรอก” ซีซาร์ยิ้มน้อยๆ “ถ้าคุณเป็นเอฟบีไอที่เก่งสมกับคำนำหน้าที่คุณย้ำนักย้ำหนา  เรื่องสืบหาความจริงคงไม่เหลือบ่ากว่าแรง”

    พูดเสร็จ เจ้าของโมเตลหนุ่มก็หมุนตัวหันหลังเดินออกจากห้องที่เกิดเหตุไปอย่างรวดเร็ว 

    ชอบเป็นคนได้พูดคำสุดท้ายสินะ ลีแอนเดอร์นึกในใจ ตามแบบคนชอบควบคุมคนอื่นไม่ต่างจากพวกที่ชอบลงมือใช้ความรุนแรง 

    แต่ข้อสรุปสุดท้ายอาจเป็นเพราะเจ้าของโมเตลทำตัวแย่ใส่เขา เอฟบีไอหนุ่มก้มหน้ารวบรวมสติ ในการทำงานที่ต้องเข้าไปยุ่มย่ามสืบหาความลับที่ผู้คนปิดบังไว้ โดยเฉพาะกับคนที่เสียผลประโยชน์ ย่อมทำให้คนๆนั้นหัวเสียได้

    หน้าที่ของเขาคือการช่วยเหลือเหยื่อ ครอบครัวเหยื่อ และป้องกันอาชญากรรม ดังนั้น ซีซาร์ เคน ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่ได้รับผลกระทบ นับเป็นคนที่เขาจะต้องช่วยเหลือเช่นกัน

     

    ซีซาร์ เคน สาวเท้าตรงไปที่เคาน์เตอร์เช็กอิน นักสืบดันแคนกำลังคุยกับแม่บ้านผู้พบศพอยู่อีกมุม โดยมีพนักงานโมเตลยืนคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ ชายคนนั้นคือมอนโทยา การ์เซีย วัย 43 เชื้อสายเม็กซิกัน ร่างสันทัดสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนสีซีดขาเดฟ เขาหันมาทางซีซาร์ที่เดินตรงมาหา เพียงแค่เห็นหน้าเจ้านาย เขาก็รู้ว่า ซีซาร์กำลังโกรธ

    “ซีซาร์” มอนโทยาพูดเสียงอ่อย “ผมขอโทษที่เกิดเรื่องอีกแล้ว”

    “ไม่ใช่ความผิดของนาย ทำไมนายต้องขอโทษ” ชายหนุ่มพูด แม้คำพูดจะฟังเหมือนการปลอบใจ แต่สีหน้าของซีซาร์ รวมทั้งน้ำเสียงห้วนห้าว ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

    “ผมดูแลที่นี่ไม่ดีเอง” มอนโทยาคอตก

    ซีซาร์จับไหล่ลูกน้องเขย่าเบาๆ “พอตำรวจกับไอ้คนนั่งโต๊ะไปกันหมด นายก็กลับบ้านไปแช่น้ำอุ่นแล้วกินเหล้าแก้กลุ้มซะ เดี๋ยวฉันให้ริกกีเข้ามาดูที่นี่แทน”

    “แต่วันนี้ผมยังไหว” มอนโทยาแย้ง

    ซีซาร์จ้องหน้าเขาด้วยดวงตาสีเขียววาววับเป็นประกาย

    “ได้ครับ” ลูกน้องรีบตอบ เพราะใบหน้าเรียบเฉยของซีซาร์บ่งบอกว่า เขาควรหุบปากและทำตามคำสั่ง

    เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นอีกมุมทำให้เขาหันไปดู เห็นเอฟบีไอในสูทสีเทาที่เข้ามาดูที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฮาร์ทเลสอะไรบางอย่าง ไอ้คนนั่งโต๊ะ เดินตรงมาที่เคาน์เตอร์ ปรายตามองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชาในแบบคนที่ถืออำนาจเหนือกว่า แถมยังส่งกระแสไม่เป็นมิตร พอเห็นเส้นเลือดกระตุกบนขมับซีซาร์ เขาก็พอจะเดาออกว่า สาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มผู้เก็บอารมณ์เก่งถึงกับต้องเดินหนีออกมา คืออะไร

    “อ้อ” ซีซาร์หันกลับมาระหว่างกำลังจะก้าวออกนอกประตู “โทรเรียกหลวงพ่อมาพรมน้ำมนต์ไล่เสนียดด้วยล่ะ” เจ้านายหนุ่มของเขาสั่ง ก่อนจะเดินออกไปตากสายฝนที่กระหน่ำลงมาอีกรอบ


     [R1]Federal Bureau of Investigation เป็นหน่วยงานด้านข่าวกรองและความมั่นคงภายในของสหรัฐ และเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในระดับกลางของสหรัฐ ปฏิบัติหน้าที่ภายในเขตอำนาจของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ทั้งเป็นสมาชิกของประชาคมข่าวกรองสหรัฐ รายงานตรงต่อทั้งอัยการสูงสุดสหรัฐและผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ[4] อนึ่ง เอฟบีไอยังเป็นองค์การหลักของสหรัฐในการต่อต้านการก่อการร้าย การต่อต้านข่าวกรอง และการสืบสวนอาชญากรรม โดยมีเขตอำนาจเหนือการละเมิดกฎหมายในกลุ่มอาชญากรรมกลางกว่า 200 กลุ่ม (วิกิพีเดีย)

     [R2]ไม่มีการคืนกุญแจ แต่ไม่มีการเช็คเอาท์ แม่บ้านและผู้จัดการจึงไขประตูห้องเข้ามาดูและเห็นศพ

     [R3]Modus operandi หรือ method of operation – MO 

     [R4]Cognitive Behavioral Therapy 

     [R5]Cock & Ball Torture

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น