ตอนที่ 43 : ต้นตอของรอยร้าว
อีธานเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ เมื่อแรงสั่นไหวจากการเคลื่อนที่ของยานพาหนะที่นั่งอยู่หยุดลง
ประตูจากฝั่งที่อยู่ด้านข้างซ้ายเปิดออก แสงแดดเจิดจ้าอบอุ่นยามเย็นพร้อมกับกลิ่นไอสดสะอาดแสนคุ้นเคยไหลทะลักเข้ามาโอบล้อมร่างกาย จนอีธานต้องหลับตาพร้อมกับกลั้นหายใจ รู้สึกเหมือนหลายอย่างตรงหน้าพุ่งเข้าใส่อย่างกะทันหันเกินกว่าที่จะรับไหว ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง
ร่างสูงก้าวเท้าลงจากรถคันใหญ่ หันมองสถาปัตยกรรมอันสวยงามโออ่าของเมืองที่ตัวเองเติบโตมาราวกับว่ามันเป็นสิ่งแปลกตาที่ไม่คุ้นเคย พร้อมกันนั้นหูก็ได้ยินเสียงชื่อตัวเองแว่วมาจากทางด้านหลัง
หญิงวัยกลางคนรูปร่างค่อนข้างผอมสาวเท้าเร็วๆ เข้ามาหา เส้นผมที่จัดทรงอย่างดี กับชุดกระโปรงที่เนี้ยบกริบแทบไม่มีรอยยับนั้นราวกับออกมาจากหุ่นโชว์
“อีธาน...แม่คิดว่าจะไม่ได้เจอลูกแล้ว รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วงแค่ไหน” ดวงตาสีน้ำเงินอมเขียวที่มีเอ่อคลอด้วยน้ำตา ไล่มองอีธานอย่างสำรวจตรวจตรา จากนั้นก็ใช้สองมือปัดไปตามเนื้อตัวที่สกปรกไปด้วยฝุ่นทราย ก่อนจะดึงตัวอีธานเข้าไปกอดไว้
อีธานผ่อนลมหายใจแผ่วเบา การหายตัวอย่างไร้ร่องรอยยาวนานของเขาคงทำให้ผู้เป็นแม่เป็นห่วงมาก มากขนาดทำให้ท่านยอมกอดเขาที่เนื้อตัวสกปรกแบบไม่ห่วงเรื่องเสื้อผ้าของตัวเองจะเปื้อนไปด้วยได้
“ขอโทษที่ผมทำให้เป็นห่วงนะครับ”
“กลับมาได้ก็ดีแล้ว” เสียงทุ้มสากกล่าว อีธานจึงหันไปมอง
ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างสมส่วน แต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบของคณะสภาเมืองเป็นชุดสีดำเทาที่คล้ายสูทผสมกับชุดทหาร เส้นผมที่ตัดแต่งอย่างดีถูกหวีเรียบกริบอยู่บนศีรษะ โครงหน้านั้นคล้ายคลึงกับอีธานแต่แฝงแววดุดันน่าเกรงขามมากกว่า ดวงตาเรียวสีน้ำเงินเข้มคล้ำ ร่องระหว่างคิ้วสลักลอยแห่งวัยที่สร้างบรรยากาศเข้มงวดให้เจ้าตัวมากขึ้นไปอีก
ชายคนนี้เป็นผู้นำสูงสุดของเซ็นโทร และเป็นพ่อแท้ๆ ของอีธาน ... เลนเนิร์ด แซฟเฟลอร์
อีธานก้าวเท้าเข้าไปยืนต่อหน้าบิดา เขามีคำพูดมากมายในหัว มากจนไม่รู้จะเริ่มต้นจากจุดไหนก่อนดี
“พรุ่งนี้ 9 โมงมีประชุมบรรดาสมาชิกสภาเมืองและหัวหน้ากองกำลังระดับสูง” ชายวัยกลางคนกล่าวขึ้นโดยไม่ปล่อยให้อีธานได้พูด “เตรียมตัวชี้แจ้งเรื่องทั้งหมดเอาไว้ด้วย...”
เสียงทุ้มสากฟังดูราบเรียบและดุดันในเวลาเดียวกัน เลนเนิร์ดวางฝ่ามือหนักๆ ลงที่ไหล่ของบุตรชาย
“แล้วฉันก็หวังว่าแกจะมีเหตุผลที่ฟังขึ้น...สำหรับเรื่องทั้งหมด”
อีธานนิ่งเงียบ ขณะมองร่างของบิดาหันหลังเดินจากไป ทิ้งไว้แต่เพียงแรงกดดันหนักหนาบนไหล่ของเขา
“คุณอีธานคงเหนื่อยมาก ผมว่ากลับบ้านไปนอนพักก่อนดีกว่าครับ” โจเซฟคนสนิทของอีธาน ก้าวลงจากรถก้าวมายืนข้างๆ
“ฮืม” อีธานส่งเสียงตอบรับในลำคอ
“ไม่ต้องห่วงนะครับ เป็นการรายงานตามกฎเท่านั้น ข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นผมจะจัดเตรียมและนำมาให้พรุ่งนี้เช้า...”
“ไม่เป็นไร ฉันจัดการเองได้”
แม้จะมองอีธานด้วยสายตาเป็นห่วง แต่สุดท้ายโจเซฟก็ทำได้แค่พยักหน้าตอบรับโดยไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก
อีธานก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องพักกว้างขวาง มันตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยโทนสีขาวดำ เน้นประโยชน์การใช้สอยเป็นหลัก เพราะเขาไม่มีรสนิยมชื่นชมของประดับหรูหรา เบื้องหน้ามีเตียงนอนหนานุ่มขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษรองรับสรีระโดยเฉพาะของอีธาน
ร่างสูงยืนมองเตียงนอนนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่ง สิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้สร้างความรู้สึกอยากพักผ่อนให้เขาสักนิด อีธานก้าวเท้าออกห่างเลือกที่จะทิ้งตัวนั่งกับพื้น ใช้หลังพิงฝาผนังห้องแทน
กระทั่งแสงตะวันของวันใหม่สาดส่อง อีธานก็ยังไม่ได้หลับเลยสักงีบ เสื้อผ้ายังเป็นชุดเดิมกับเมื่อวานที่สกปรกเปื้อนเศษดินทราย ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเวลานี้แห้งแสบเพราะอดนอนและขาดน้ำ มองเห็นเส้นเลือดที่ชัดเจนบริเวณตาขาว
อย่าว่าแต่นอนหลับเลย แค่ปิดเปลือกตาลงเพียงครู่เดียว ภาพของใครคนนั้นก็จะแวบขึ้นมา ดวงตาสีเงินคมกริบที่จ้องมองเขาอย่างโกรธแค้น ทั้งที่ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มเล็กน้อยแบบที่เห็นบ่อยครั้ง
‘เหนี่ยวไกเลยสิ...’
‘เพราะถ้าฉันรอดไปได้ นายจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง...สาบานได้!’
เสียงทุ้มที่อีกฝ่ายกล่าวออกมายังสะท้อนก้องอยู่ในหัวของเขา
อีธานก้มหน้าลง ขณะที่ยกมือทั้งสองข้างของตัวเองขึ้นมาจ้องดู มันไม่ได้สั่นไหวเหมือนตอนจับอาวุธก่อนหน้านี้แล้ว แต่มันกลับดูไร้เรี่ยวแรงและอ่อนแอยิ่งกว่า
ตลอดมาอีธานไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองเลือก ไม่เคยเลยสักครั้ง แต่ตอนนี้เขากลับ...ไม่แน่ใจ
ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ตัดสินใจลุกขึ้นยืน ถอดเสื้อผ้าสกปรกทิ้งลงพื้นและเดินตัวเปล่าไปยังห้องน้ำ ยังมีหลายอย่างรออยู่ และต่อให้รู้สึกย่ำแย่อย่างไร เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี
ห้องโถงที่มีเพดานสูงลิบเต็มไปด้วยอุปกรณ์สื่อสารทันสมัย รวมถึงมีระบบป้องกันอย่างดีจนสามารถใช้เป็นที่หลบภัยได้ ส่วนกลางจัดวางที่นั่งล้อมกรอบเป็นทรงครึ่งวงกลม ผนังด้านหลังเป็นจอภาพขนาดใหญ่ที่ควบคุมการสั่งการด้วยระบบเสียง นอกจากนี้ที่นี่สามารถเปิดส่วนขยายด้านซ้ายและขวาออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ในกรณีที่ต้องการจัดประชุมขนาดใหญ่
อีธานอยู่ในชุดสูทสีดำสนิททั้งชุด เส้นผมถูกเสยไปด้านหลัง เนี๊ยบกริบตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า มองจากภายนอกคงไม่มีใครดูออกว่าเขาไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน ร่างสูงเดินผ่านบานประตูอัตโนมัติเข้าไปด้านใน เห็นสมาชิกที่มีตำแหน่งสำคัญในสภาเมืองนั่งประจำที่กันอยู่ก่อนแล้ว นอกจากนี้ยังมีฝ่ายกองกำลังอีกหลายคนรวมอยู่ด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ หัวหน้ากองเซท
ชายรูปร่างบึกบึนอยู่ในชุดเครื่องแบบกองกำลังเซ็นโทร เจ้าตัวดวงตาสีน้ำเงินอมเทาเหมือนนกเหยี่ยวมายังอีธาน ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงทักทาย ส่วนอีธานก็ก้มศีรษะเล็กน้อยกลับไป
“คุณอีธาน ท่าทางไม่ค่อยดีเลยนะครับ” ชายรูปร่างเล็กก้าวเท้าเข้ามาหา ดวงตารีสีน้ำเงินม่นจ้องมองอีธาน
“ไม่เป็นไรหรอก” อีธานตอบกลับคนสนิท
เมื่อเห็นโจเซฟถอนหายใจ เหมือนกำลังกังวลใจเรื่องบางอย่าง อีธานจึงได้เอ่ยถาม
“อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ครับ แต่ผมสังหรณ์ใจ ว่ากลุ่มคนที่ไม่พอใจแนวความคิดของคุณอีธานตั้งแต่เมื่อก่อน อาจจะกำลังวางแผนหาเรื่องเล่นงานคุณอยู่ก็ได้” โจเซฟตอบกลับ
อีธานหันมองไปยังกลุ่มสภาพเมืองที่มีชายวัยกลางคนหลายคนนั่งคุยกันอยู่ คนพวกนี้ถือเป็นคนที่มีอิทธิพล ขนาดที่ว่าต่อให้ทำเรื่องเลวร้ายแค่ไหน ก็ได้รับการยกเว้นโทษอยู่บ่อยครั้ง
“ท่านผู้นำมาแล้วครับ” โจเซฟเอ่ยบอก
เลนเนิร์ดก้าวเท้าด้วยท่วงท่ามั่นคงสง่างาม บรรยากาศเฉพาะตัวทำให้ภายในห้องประชุมพลันเงียบกริบ อีธานมองผ่านร่างของผู้เป็นพ่อไปด้านหลัง ยังคนที่ไม่คิดว่าจะมาปรากฏตัวในที่แบบนี้
อีเลียตก้าวเท้าตามผู้เป็นพ่อมาห่างๆ ร่างโปร่งที่มีดวงตาสีฟ้าสดดูโดดเด่นในชุดสีขาวเรียบร้อย เมื่อเห็นอีธานยืนอยู่เจ้าตัวก็สาวเท้าตรงเข้ามาหา
“เมื่อวานผมติดธุระ ไม่ได้ไปรอรับพี่กลับ ขอโทษทีนะ” อีเลียตกล่าว
“ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น”
ผู้เป็นน้องชายเหยียดยิ้มเล็กน้อย “ผมดีใจที่พี่กลับมา”
อีธานพยักหน้าตอบกลับ “ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนาย หลังจากนี้...”
“ช่วงนี้ผมยุ่งๆ เอาไว้ค่อยนัดอีกทีดีกว่า”
เพราะต้องเริ่มประชุมแล้ว อีธานจึงไม่มีโอกาสได้พูดกับน้องชายไปมากกว่านั้น อีเลียตเดินเลี่ยงไปทิ้งตัวลงนั่งด้านหลังของเลนเนิร์ด ซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าสุด ส่วนอีธานก็ก้าวเท้ายาวมั่นคงไปยังพื้นที่ส่วนกลางโถงที่ยกพื้นขึ้นไปสองระดับ และจัดวางเก้าอี้กับโต๊ะแบบเรียบง่ายเอาไว้
อีธานคิดมาตลอดว่าที่นี่ดูเหมือนศาลพิพากษา เก้าอี้ที่เขากำลังนั่งก็ช่างไม่ต่างกับเก้าอี้ผู้ต้องหา จนในวันนี้เขาก็ได้รู้ว่าตัวเองคิดไม่ผิด เมื่อเจ้าหน้าที่หนุ่มคนหนึ่งซึ่งพูดจาวกวนเยิ่นเย้อในตอนแรกเริ่มเข้ามาสู่ประเด็นหลักที่เป็นวาระการประชุม
“จากที่กล่าวมาทั้งหมด เราอยากให้คุณช่วยอธิบายเหตุผลที่ไม่ยอมสังหารชายในภาพ ทั้งที่มีโอกาส และได้รับคำสั่งให้จับตายได้ในทันที ด้วยครับ”
อีธานไม่แม้จะเหลือบมองภาพที่กำลังฉายอยู่บนจอภาพขนาดใหญ่นั้น ชายหนุ่มปิดเปลือกตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ย
“ทั้งหมดเป็นเพราะ...
###ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเลยค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามกันค่า###
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แต่สิ่งที่จีแอลทำกับอีธานคือความรัก
ฮือออ สงสารจีแอล