อุบัติการแห่งอนาคต - นิยาย อุบัติการแห่งอนาคต : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    อุบัติการแห่งอนาคต

    ประเทศสุดท้ายของมนุษยชาติ ที่กำลังเจอวิกฤตครั้งใหญ่ได้ถูกพาไปยังอนาคตอันแสนห่างใกลและลึกลับ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,340

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    366

    ผู้เข้าชมรวม


    1.34K

    ความคิดเห็น


    23

    คนติดตาม


    62
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  5 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  24 เม.ย. 67 / 22:08 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง, มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ไม่ว่าคุณจะมีพรสวรรค์หรือพลังอะไรเราพร้อมรับทุกคนตราบไดที่คุณเป็นประชาธิปไตยนิยม


    ประธานาธิบดีกุสตาฟ





    ประวัติศาสตร์แห่งโลก(?)





    โลกดาวเคราะห์สีฟ้าที่เต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมมากมายธรรมชาติที่สมบูรณ์พืชพันธุ์และสิ่งมีชีวิตนาๆชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่หมื่นกี่แสนปีพวกเขาก็มีรูปร่างที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยแต่มีกายภาพที่อ่อนแอมาโดยตลอด แต่ก็ทดแทนด้วยสมองอันล้ำเลิศที่ไม่ว่าจะกี่ศตวรรษพวกเขาก็พัฒนาสิ่งต่างๆเพื่อสนองต่อเผ่าพันธุ์ของตนมาโดยตลอดนับแสนปี

    จนกระทั่งการมาของยุคอุตสาหกรรมมันคือจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติโดยเฉพาะมนุษย์จากทวีปยุโรปพวกเขานั้นก้าวหน้าและขยายดินแดนออกไปอย่างกว้างขวางจนกระทั่งเมื่อถึงตอนกลางของศตวรรษที่20สงครามครั้งใหญ่นามสงครามโลกที่เกิดขึ้นถึง2ครั้งได้คร่าชีวิตมนุษย์มากมายนับล้านคนจนเมื่อสงครามครั้งนั้นจบผู้คนทั่วโลกก็คิดว่ามันคงไม่เกิดขึ้นแล้วและจะมีเพียงสันติภาพเท่านั้น



    สงครามเย็น


    แต่ไม่ใช่เลยเพราะเมื่อสองมหาอำนาจใหม่อย่างสหภาพธรัฐอเมริกาอเมริกาผู้นำชาติโลกเสรีได้ทำสิ่งที่เรียกว่าสงครามเย็นกับมหาอำนาจยักษ์ อีกฟากของโลกอย่างสหพันธรัฐโซเวียตในเวลาตั้งแต่1945สงครามเย็นแทบจะเรียกว่าปะทุขึ้น1วันหลังจากที่ฝ่ายสัมพันธมิตรโลกได้ยึดครองกรุงเบอร์ลิน่าของอดีตมหาจักรวรรดิออสไรซ์ที่3พวกเขาต่างแบ่งกรุงเบอร์ลิน่าออกเป็นสองส่วนและได้ประกาศตั้งรัฐใหม่ภายใต้ต้นเองขึ้นในนามสหรัฐเยอรมันเนียตะวันตกและสาธารณรัฐประชาธิปไตยเบอร์ลิคตะวันออก

    การพัฒนาเทคโนโลยีของพวกเขานั้นมีเป็นไปอย่างรวดเร็วเป็นอย่างมากจนแทบจะเรียกได้ว่าปี1950ในโลกของพวกเขาคือปี1970ในโลกของเรา(ชีวิตจริง) จนกระทั่งในปี1952นักวิทยาศาสตร์ของอเมริกาที่ได้ไปวิจัยสสารลึกลับที่แผ่ออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟเซนต์เฮเลนจนพวกเขาคิดว่าในนี้ภูเขาไฟลูกนี้มีแร่ธาตุที่ไม่เคยเห็นแน่นอนจนได้มีการตั้งฐานทัพและศูนย์วิจัยที่นั่น

    จนกระทั่งปี1952พวกเขาได้นำเครื่องมือชนิดหนึ่งที่รู้ร่างคล้ายกับแท่นขุดเจาะขนาดใหญ่ที่สามารถเจาะใต้พื้นโลกได้มากถึง90กิโลเมตรจนนี้กลายเป็นเครื่องขุดเจาะที่ขนาดใหญ่โตที่สุดในโลกและในเดือนสิงหาคมของปีนั้นมันก็ได้ประจำที่ฐานวิจัยโดยมีการบอกกับประชาชนว่านี่คือการจุดเจาะเพื่อค้นห้าทรัพยากรเพื่อมนุษย์ชาติจนกระทั่ง.....




    1953จุดเริ่มต้นของหายนะ(?)



    เดือนพฤศจิกายนของปีนั้นที่บริเวณรอบๆภูเขาไฟเซนท์เฮเลนได้เกิดแผ่นดินใหวขนาด3.5จนถึง4.1มาตรวัดริกเตอร์ที่เกิดขึ้นห่างกันเพียง2อาทิตย์ส่วนความเคลื่อนใหวของฐานวิจัยก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากเพราะโครงสร้างมันออกแบบมาเพื่อกันภัยธรรมชาติและอาวุธหลายรูปแบบอยู่แล้ว แต่เพียงหลังจากนั้น1เดือนภูเขาไฟเซนต์เฮเลนก็ได้เกิดการปะทุครั้งใหญ่ขึ้นภาพของเศษซากฐานขุดเจาะขนาดใหญ่ที่ได้กระเดนออกมาจบมันเป็นภาพที่คนแถวนั้นต่างจินตนาการว่ามันคืออุกาบารติที่กำลังตกสู่พื้นโลก

    เขม่าควันจากภูเขาไฟได้กระจายไปทั่วทั้งพื้นที่รอบๆ100กิโลเมตรและขาดว่าน่าจะแพร่ไม่หยุดด้วยจนกระทั่งเข้ามาในปีใหม่เขม่าควันสีดำก็ได้ปกคลุ่มไปทั่วทั้งอเมริกาพืชผลมากมายค่อยๆล้มตายจากการขาดแสงอาทิตย์และซึ่งคาดว่ามันก็จะลามไปที่สหพันธ์อเมริกากลางและรัฐแคนนาเดียด้วย

    จนกระทั่งความผิดปกติก็ได้เกิดขึ้นเมื่ออยู่ๆผู้คนรอบๆเขตภูเขาไฟเซนท์เฮเลนก็ได้มีการติดเชื้อประหลาดขึ้น แต่ไม่เพียงเท่านั้นรัฐอื่นไปทั่วอเมริกาก็ได้ประกาศพบการระบาดที่คล้ายกันเช่นกันจนกระทั่งมีรายงานมากมายถึงคนที่มีอาการแปลกๆที่ไล่กัดหรือรุมกินคนได้ไปถึงหูของรัฐบาลกลางมากขึ้นจนทำให้ไม่นานหลังจากที่พวกเขาได้ส่งกองทัพเข้าไปดูจนก็ได้รู้เลยว่านี่มันไม่ใช้การระบาดของไวรัสที่ปกติแล้วแต่มันคือการระบาดของเชื้อโรคประหลาดที่เปลี่ยนคนเป็นผีดิบหรือซอมบี้ซึ่งข่าวนี้ก็ได้แพร่ออกไปนอกประเทศเช่นกันพร้อมกับรัฐบาลอเมริกาที่ขอให้ชาติพันธมิตรนาโต้มาช่วยแต่ข้อความที่รัฐบาลได้มาก็คือ 


    "เราขอปฏิเสธเราไม่ต้องการจะเสี่ยงเพื่อไม่ให้ไวรัสปริศนาเข้ามาในประเทศของเราได้จะส่งคนไปเพื่ออพยพคนของเรามาเท่านั้น"


    และนั่นคือสิ่งที่ทำให้สถานการณ์ในอเมริกาเริ่มย่ำแย่ลงเมื่อเริ่มมีการลักลอบหนีออกจากประเทศมาขึ้นรวมถึงบริษัทใหญ่ๆที่ได้ประกาศย้ายฐานใหญ่อย่างรวดเร็วและเหตุการณ์ในอเมริกาก็เริ่มเกิดขึ้นกันประเทศรอบๆเช่นกัน จนได้เกิดเหตุการณ์ที่ชาวอเมริกันจำนวนนับล้านต่างอพยพออกไปทั่วโลกด้วยเรือไม่ก็เครื่องบินรวมไปถึงกานอพยพของกองทัพอเมริกันทั้งสาทเหล่าทัพด้วย

    และในเดือนเมษายนปี1954อเมริกาก็ได้ล่มสลายไปพร้อมกับรัฐบาลที่ติดท่ามกลางวงล้อมของผู้ติดเชื้อแถมยังมีการขโมยเทคโนโลยีกันทั้งชาติพันธมิตรและชาติศัตรูที่เข้ามาอพยพคนของพวกเขาและเพียง8เดือนหลังจากนั้นข่าวที่น่าตกใจได้เกิดขึ้นเมื่อไซบีเรียของสหพันธรัฐโซเวียตได้พบเจอกับผู้ติดเชื้อ2,000คนเข้าพร้อมกับจักรวรรดิบริเทน,เยอรมันเนียตะวันตก,สาธารณรัฐฟรังซัว,จักรวรรดิสแกนดิเนเวีย,ราชอาณาจักรญี่ปุ่น,จีน,อินเดีย,แอฟริกาใต้,ไทย,สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ประกาศแล้วว่าพบผู้ติดเชื้อเช่นและเมื่อมันผ่านไปอีกหลายปีในปี1970ใน80%ของทวีปเอเชียและยุโรปต่างกลายเป็นดินแดนที่ไม่ต่างจากในหนังแนวโลกล่มสลาย

    ตัดภาพมายังในตะวันออกกลางที่รัฐปกคริงตนเองทางศาสนาเยรูซาเล็มได้ทำการเปิดตัวการก่อสร้างกำแพงที่ทอดยาวใกลหลายพันกิโลเมตร(ขนาดใหญ่กว่าอิสราเอลในโลกจริง2เท่า)สำหรับการอยู่รอดของมนุษยชาติจนทำให้เกิดการเข้ามาตั้งถื่นฐานในนี้มาขึ้นจนได้มีกลุ่มรัฐบาลจากหลายประเทศที่ยังเหลือรอดได้เข้ามาในนี้จนได้ประกาศก่อตั้งประเทศใหม่ในนามสหพันธ์เทอร์ร่าภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบสหพันธรัฐมีการก่อตั้งสภาไปจนถึงการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับแรกขึ้นและในรัฐบาลที่มีคนจากหลายเชื้อชาติในรัฐบาลเดียวกันและมีกฏเหล็กนั่นก็คือห้ามนำเรื่องศาสนาหรือเชื้อชาติเข้าสภาหรือรัฐบาลเด็ดขาดพร้อมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ทางการทหารแะพลเรือนมากมายที่ได้รวมตัวกันเป็นบริษัทใหญ่ในนาม Earth Cooperation พร้อมกับมีการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีที่เร็วขึ้นในทุกภาคส่วนพร้อมกับประเทศเล็กๆที่ยังเหลือรอดก็ได้พากันเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเทอร์ร่า

    และเมื่อหลังจากนั้นในอีกสองปีต่อมาในปี1974คลื่นผู้อพยพก็ได้ถาโถมเข้ามาน้อยลงจากที่เมื่อก่อนมาทีเป็นสิบล้านตอนนี้เหลือเพียงหลักแสนพร้อมกับคลื่นผู้ติดเชื้อมากมายต่างตามมาด้วยจนรัฐบาลเทอร์ร่าได้ส่งกองทัพไปยันผู้ติดเชื้อพร้อมมีการคัดกรองผู้เสี่ยงติดเชื้อและสิ่งที่น่าตกใจเมื่อพบว่าผู้คนกว่าหลายพันล้านได้กลายเป็นผู้ติดเชื้อจนเหลือคนปกติเพียง98ล้านคนซึ่งอยู่ในประเทศสหพันธรัฐเทอร์ร่าเกือบทั้งหมด

    ในช่วงเดือนมกราคมปี1975อยู่ๆสหพันธรัฐเทอร์ร่าก็ได้หายสาบสูญไปจากโลกทิ้งไว้พื้นที่หลายแสนตรารางกิโลเมตาที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน




    และทิ้งไว้เพียงความหายนะของมนุษย์ชาติ



    คำเตือน


    อาจะมีการเปลี่ยนแนวบางอย่างของนิยายอย่างไม่บอกกล่าว ตอนแต่ละตอนจะอัพช้ามากๆเพราะติดงานกับนิยายอีก2เรื่องแรกๆ


    เนื้อเรื่องช่วงแรกจะเน้นที่ประเทศหลักของเรื่องก่อนนะครับ

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น