ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลี่เหม่ยจูสตรีผู้ทรนง

    ลำดับตอนที่ #3 : ความสัมพันธ์ (rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 36.6K
      1.17K
      20 พ.ย. 62


    www.printerest.com

     

    หลังเสร็จสิ้นจากการปราบกบฏและชนเผ่านอกด่านเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้เหล่าทหารกล้าที่เสียสละ และเหน็ดเหนื่อยจากการออกรบมาแรมปี ฮ่องเต้จงหวินตี้เองก็ทรงรู้สึกปิติยินดีกับความสงบสุขของบ้านเมืองจึงทรงมีรับสั่งให้จัดงานฉลองร่วมกับประชาชนในวันขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้ายเป็นงานลอยโคมหรือเทศกาลหยวนเซียว[1] งานลอยโคมยิ่งใหญ่กว่าทุกปีถูกจัดอยู่ใจกลางเมืองหลวงภายในงานและบ้านเรือนต่างก็ประดับด้วยโคมไฟหลากสีส่องสว่างเป็นวงกว้างราวกับเวลากลางวันผู้คนต่างแคว้นต่างก็เข้ามาเที่ยวชมเทศกาลไม่ขาดสายทำให้ภายในงานคึกคักยิ่งนัก

    เหล่าบุรุษและสตรีวัยออกเรือน วัยปักปิ่นต่างพากันมาเที่ยวงานด้วยความตื่นเต้น ภายในงานทั้งยังมีร้านรวงมากมายไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้เครื่องประดับ ผ้าไหมมีให้เลือกซื้อมากมายละลานตา เหล่าขุนนาง คหบดี ต่างก็นิยมจับจองพื้นที่ชั้นบนของโรงเตี๊ยม โรงน้ำชา เหลาอาหารไว้เพื่อจิบน้ำชาและชมบรรยากาศยามค่ำคืนอีกด้วยไม่เพียงแต่เป็นการฉลองที่แคว้นสงบสุขเท่านั้นแต่ยังเป็นการส่งเสริมการค้าของเมืองหลวงอีกด้วย

    บริเวณริมแม่น้ำ มีทั้งศาลาเล็กใหญ่ที่ถูกสร้างเพื่อให้พักผ่อนหย่อนใจ ตามริมแม้น้ำและศาลาเองล้วนถูกตกแต่งและแขวนโคมหลากสีให้เข้ากับเทศกาลหยวนเซียว

    คุณหนูเจ้าคะข้าว่าเราเดินไปทางอื่นเถิดเจ้าค่ะ " ซือซือสาวใช้คนสนิทอ่ยขึ้นทั้งมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง เพราะดูบริเวณที่นายสาวกำลังมุ่งหน้าไปนั้นล้วนไกลห่างจากออกจากบริเวณจัดงานซ้ำยังมืดและเปลี่ยวไกลจากผู้คน

    "ซือเออร์ ข้าจะไปรอมี่อิงที่ศาลาริมน้ำตรงนั้น ตอนนี้ข้ารู้สึกเมื่อยขามาก ข้าเองก็เดินมาหนึ่งชั่วยาม[2]แล้วนะลี่เหม่ยจูชวนจวงมี่อิงสหายสนิทเพียงคนเดียวมาเที่ยวงานด้วยกันเหตุใดนางถึงมาช้านักนะ...ปกติแล้วมี่อิงมิใช่คนเหลวไหลนี่นา" ร่างเล็กบ่นพึมพำคนเดียวเมื่อเห็นว่าเลยเวลานัดมานานแล้วสหายสนิทเองก็ยังไม่มาสักที

    “คุณหนูจวงจะรู้หรือไม่เจ้าคะว่าท่านจะไปรอนางที่ศาลาไกลผู้คนเช่นนี้...ท่านนัดกับนางที่ท่าน้ำทางนั้นมิใช่หรือ” ซือซือยังคงเอ่ยถามเรื่อยๆ

    “ข้ากับนางเป็นสหายกันมาตั้งนาน ข้ารออยู่ที่ใดมีหรือว่านางจะไม่รู้” ลี่เหม่ยจูเชิดคางเอ่ยตอบสาวใช้คนสนิทอย่างมั่นใจ ซือซือได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา แม้นางเป็นสาวใช้ติดตามคุณหนู่มาหลายปีทว่าเรื่องเช่นนี้ให้ตายนางก็เดาไม่ออกอยู่ดี

    เมื่อไปถึงศาลาริมน้ำที่คิดเอาไว้ว่าจะเข้าไปนั่งรอสหายให้คลายเมื่อยลี่เหม่ยจูก็ต้องผิดหวัง เพราะภายในศาลาที่นางหมายจะเข้าไปนั้นกลับมีคนอยู่ก่อนแล้ว หากมองไม่ผิดคงจะเป็นคู่รักที่กำลังหยอกเย้ากันเพราะมีเสียงหัวเราะลอยตามลมมาให้ได้ยิน

    อาจเป็นเพราะคืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงทำให้ลี่เหม่ยจูเห็นเสี้ยวใบหน้าที่แสนคุ้นเคย หากนางตาไม่ฝาดสตรีร่างเล็กบอบบางผู้นั้นคือน้องสาวต่างมารดาของนางอย่างแน่นอน และบุรุษที่อยู่กับนางคงเป็นผู้ใดไปมิได้นอกจาก เฉินหย่งหมิงแม่ทัพใหญ่ของแคว้น สหายสนิทของฮ่องเต้ ข่าวลือคู่ยวนยางระหว่างเขากับลี่เหม่ยเจินนั้นมีผู้ใดบ้างจะไม่รู้ แต่นางไม่คิดว่าทั้งสองจะนัดพบกันในที่ลับตาผู้คนเช่นนี้

    “คุณหนูเจ้าคะ...นั่นคุณหนูรอง...” ซือซือเอ่ยตะกุกตะกักน้ำเสียงขาดหายเข้าไปในลำคอ นางแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าคุณหนูรองผู้เรียบร้อยจะนัดพบปะกับบุรุษตามลำพัง

     

    “ชู่.. เงียบก่อนซือเออร์ เจ้าอยากให้นางรู้หรือว่าข้ากำลังแอบฟังพวกนาง” ลี่เหม่ยจูรีบเอามือปิดปากสาวใช้คนสนิทที่ทำหน้าเหรอหราตกใจตอนนี้นางอยากรู้ว่าเหตุใดทั้งสองคนจึงแอบพบกันในที่ลับตาผู้คนเช่นนี้

    เจินเออร์หากข้าปรารถนาอยากออกเรือนกับเจ้า" แม่ทัพหนุ่มเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนร่างสูงสมส่วนสวมชุดสีน้ำเงินเข้มดูองอาจน่าเกรงขาม น้ำเสียงห้าวที่เอ่ยทำให้คนฟังอ่อนระทวยรื่นหู       

    ท่านแม่ทัพล้อข้าเล่นแล้วเจ้าค่ะ อีกอย่างท่านมีอนุอีกสองนาง หากข้าแต่งเข้าไปจะมิถูกรังแกหรือเจ้าคะ" เสียงหวานออดอ้อน ใบหน้างามพลันเศร้าสร้อยลง นัยน์ตาดอกท้อเต็มไปด้วยหยดน้ำตาคลอ ไหลอาบพวงแก้มนวลอย่างน่าสงสาร เห็นแล้วบีบคั้นหัวใจยิ่ง

    "เจ้าอย่าได้ใส่ใจพวกนางเลย อีกอย่างสตรีสองนางนั้นฝ่าบาททรงประทานให้ข้าจะมิรับก็มิได้" แม่ทัพหนุ่มส่งแววตาหนักใจเพียงครู่เมื่อเอ่ยถึงฮ่องเต้สหายผู้สูงศักดิ์

    “ท่านจะให้ข้าแต่งเข้าไปในตำแหน่งใดหรือเจ้าคะ” ลี่เหม่ยเจินเงยหน้าตามแรงพยุงที่ปลายคางจากนิ้วแกร่ง ดวงตาดอกท้อช้อนมอง

    ข้าสัญญาจะแต่งเจ้าเป็นฮูหยินเอกเพียงคนเดียว" คำยืนยันของแม่ทัพหนุ่มทำให้ลี่เหม่ยเจินแววตาเป็นประกายดีใจ ริมฝีปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มอ่อนหวาน

     

    ขอบพระคุณในความเมตตาของท่าน แต่ว่า...ข้าพึ่งเลยวัยปักปิ่นมาได้ไม่นาน อีกทั้งตอนนี้พี่ใหญ่ของข้าก็ยังมิได้ออกเรือน หากข้าผู้เป็นน้องสาวออกเรือนก่อนเกรงจะมีผู้คนติฉินนินทาเอาได้เจ้าค่ะ" เสียงหวานใสเอ่ยขึ้น ร่างบอบบางบิดม้วนเขินอายแบบมีจริต ใบหน้าที่แสดงออกมาล้วนทำให้ผู้ที่พบเห็นเข้าใจว่านางคิดเช่นนั้นจริงๆ แต่ทว่าภายในใจนั้นลี่เหม่ยเจินสะใจอย่างยิ่งที่ตอนนี้ตนกำลังจะเหนือกว่าลี่เหม่ยจูเวลานี้นางนึกอย่างให้พี่สาวต่างมารดาบังเอิญมาพบเห็นว่ามีบุรุษที่เพียบพร้อมกำลังขอนางออกเรือนไปเป็นเอกฮูหยิน

    ข้าจะทูลขอสมรสพระราชทานแต่งเจ้าเข้าจวนทันทีหากพี่สาวของเจ้าออกเรือนดีแต่ถ้าหากพี่สาวเจ้ามิได้แต่งงานเล่าข้าจะมิรอจนใจขาดรึ" น้ำเสียงห้าวที่นุ่มนวลของบุรุษช่างขัดกับใบหน้าและดวงตาที่เย็นชาเพียงครู่เท่านั้นทุกอย่างก็จางหายไปอย่างรวดเร็วทำให้หญิงสาวไม่ทันได้สังเกต

    ลี่เหม่ยจูทวนคำพูดของบุรุษผู้นั้นอย่างโมโห เขากล้าดีอย่างไรมาสบประมาทว่านางจะไม่ได้ออกเรือน ร่างระหงเตรียมมุ่งหน้าไปที่ศาลาเพื่อสอบถามให้แน่ชัดว่าสิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่หมายความเช่นไรกันแน่

    "อย่าเจ้าค่ะคุณหนู....ท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่าไม่อยากให้คุณหนูรองทราบว่าท่านกำลังแอบฟังพวกนาง"ซือซือดึงรั้งคุณหนูของตนไว้สุดแรง

    " เฮอะ!..ไปเถิด ข้าไม่เห็นอยากรู้เรื่องของนางสักนิด”ลี่เหม่ยจูขบเขี้ยวอย่างโมโหพร้อมใช้มือลูบคลำใบหน้าของตน ซึ่งก็รู้ว่านางไม่ได้อัปลักษณ์ขนาดนั้น

     

    "เจ้าค่ะ... ป่านนี้...คุณหนูจวงคงตามหาคุณหนูอยู่แล้วกระมัง" ซือซือรีบดึงแขนของผู้เป็นนายย้อนกลับไปทางเดิมอย่างรวดเร็ว

    ขณะกำลังเดินไปตามทางลี่เหม่ยจูก็อดคิดเรื่องที่พบเจอเมื่อครู่ไม่ได้ น่าแปลกยิ่งนัก นางไม่คิดว่าข่าวลือระหว่างลี่เหม่ยเจินกับเฉินหย่งจะไม่ใช่เพียงข่าวลืออีกทั้งน้องสาวต่างมารดาผู้นี้มักวางตัวสูงส่งมิสนใจผูกสมัครรักใคร่กับบุรุษใดเป็นพิเศษ แม้จะแม่สื่อแม่ชักเข้ามานำเสนอบุตรชายบ้านต่างๆ อยู่มิขาด อีกทั้งลี่เหม่ยเจินเป็นผู้มีความสามารถโดดเด่น ทั้งงานเย็บปัก หมากล้อม พิณ กลอน มีความเป็นกุลสตรีชั้นสูง รูปร่างหน้าตางดงามอีกทั้งยังชอบสมาคมพบปะกับเหล่าหาคุณหนูจวนต่างๆ อยู่เสมอจึง จริงๆ แล้วลี่เหม่ยเจินอาจยังไม่พบบุรุษที่ดีพอให้นางเลือกกระมัง และเฉินหย่งหมิงผู้นี้ก็อนาคตไกลไม่ใช่ย่อย ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะรีบคว้าเอาไว้

    "จูเออร์... จูจู" แรงกระตุกที่มือทำให้ลี่เหม่ยจูได้สติคืนมาจากการขบคิดเรื่อยเปื่อย เสียงหวานที่เรียกนางนั้นก็คือสหายสนิทนั่นเอง ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ พบว่านางเองก็ได้เดินย้อนกลับเข้ามาใกล้บริเวณงานแล้ว

    มี่อิง...ข้าตกใจหมด" ลี่เหม่ยจูเอ่ยบอกและจับจูงแขนสหายเดินเล่นในงานพร้อมกัน

    กว่าจะตามหาเจ้าเจอ..." ใบหน้างามซีดเซียวเล็กน้อยนัยน์ตาหวานซึ้งมีแววเศร้าปนจางๆ อยู่ตลอดเวลา จมูกโด่งรับกับริมฝีปากที่แดงดั่งผลอิงเถา[3] อย่างลงตัว ผมดกดำถูกเกล้าหลวมๆ ด้วยปิ่นผีเสื้อหากจวงมี่อิงไม่เจ็บป่วยบ่อยๆ นางเองก็คงเป็นสตรีที่งดงามล่มเมืองเลยก็ว่าได้

    เจ้าคงจะเหนื่อยเลยใช่หรือไม่ดูสิเหงื่อไหลเต็มเลย เราเดินไปพักทางนั้นดีกว่า" ลี่เหม่ยจูพูดพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้จวงมี่อิงก่อนจะจูงมือเล็กให้เดินไปด้วยกันทันทีที่สัมผัสมือเนียนนุ่มลี่เหม่ยจูก็รับรู้ถึงมือเหงื่อที่ซึมออกมาอีกทั้งยังสั่นเบาๆ

    เมื่อเดินมาถึงที่นั่งพัก ทั้งสองก็นั่งลงเพื่อขับไล่ความเมื่อยล้ามองดูผู้คนที่กำลังเดินเที่ยวงานกันอย่างคึกคักแต่ความสนใจของลี่เหม่ยจูกลับอยู่ที่ขนมและของกินตรงหน้าเท่านั้น ตั้งแต่บ่ายคล้อยจนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องแม้แต่น้อย ตอนนี้นางรู้สึกว่าท้องของนางเริ่มมีเสียงราวกับเสียงฟ้าที่กำลังคำรามอย่างหนักเมื่อได้กลิ่นหอมของขนมที่ยั่วยวนใจ

    "เจ้าอยากไปที่ใดเป็นพิเศษหรือไม่ลี่เหม่ยจูเอ่ยถามสหายรักหากแต่แววตายังจดจ้องร้านขนมที่อยู่ห่างออกไป

    ไปกินของอร่อยๆดีกว่า ข้ารู้ว่าเจ้าหิวแล้ว" จวงมี่อิงยิ้มหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นแววตาของลี่เหม่ยจูที่เอาแต่จ้องมองขนม

    จวงมี่อิงกับลี่เหม่ยจูนั้นเติบโตและเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กจึงสนิทสนมกัน จวงมีอิงเป็นเพียงคุณหนูสามขี้โรคอ่อนแอตั้งแต่เด็ก ส่วนบิดาเป็นขุนนางกรมคลังขั้นสองส่วนมารดาเป็นเพียงฮูหยินสี่ของจวน บิดาเองก็ไม่ได้ใส่ใจนางนัก แต่ยังดีที่เขายังมีเมตตาให้นางได้ไปร่ำเรียนมารยาทอย่างคุณหนูตระกูลสูงจนทำให้มาพบกับลี่เหม่ยจูซึ่งเป็นสหายเพียงคนเดียวในตอนนี้

    "ไปกันเถิด" ลี่เหม่ยจูเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าสหายเริ่มเหม่อลอยอีกครั้งแล้วสตรีสองนางก็ลุกขึ้นเดินต่อเพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านน้ำชา



    [1]เทศกาลหยวนเซียว คือ คืนที่พระจันทร์เต็มดวงเป็นครั้งแรกของปี (วันตรุษจีนหรือวันปีใหม่) มีการปล่อยโคมไฟเฉลิมฉลอง

    [2]1 ชั่วยาม เท่ากับ 2 ชัวโมง

    [3]อิงเถา คือ เชอรี่


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×