เสียงร้องไห้ดังขึ้นระงม เด็กน้อยวัยหกขวบใบหน้าเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตาสะอื้นไห้ซุกลงในอกบนตักของน้าชาย
"ฮึก น้าปันขา คุณแม่ไปสบายแล้วใช่มั๊ยคะ" มือน้อยยกขึ้นปาดน้ำตาบนแก้มเบาๆ จมูกเล็กพลางสูดน้ำมูกที่ไหลออกมา
"คุณแม่พักผ่อนสบายแล้วครับ มะนาวเห็นมั๊ยงานของคุณแม่มีดอกไม้เต็มเลย" ปริญญ์หรือปันกระชับกอดเด็กน้อยพลางชี้ไปยังดอกไม้ที่วางเรียงอยู่หน้ารูปถ่ายแสนสวยของพี่สาว
"คุณตาก็คงสบายเหมือนคุณแม่ใช่มั๊ยคะ ฮรึก" น้าชายวัยยี่สิบสองที่เพิ่งจบการศึกษาระดับมหาลัยมองตามที่หลานสาวบอก แทนที่พวกเขาจะได้อยู่ฉลองจบการศึกษาพร้อมหน้ากัน กลับเป็นเขามาจัดงานไว้อาลัยให้กับผู้เป็นพ่อและพี่สาวที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างไปดูงานจนถึงแก่ชีวิต
"ใช่ครับ มะนาวไม่ร้องนะครับ น้าปันจะดูแลมะนาวเอง" มือนุ่มยกขึ้นเช็ดน้ำตาข้างแก้มของหลานสาว ชีวิตจากนี้ไปของเขาจะเป็นยังไง ไหนจะงานบริษัทที่เพิ่งได้เริ่มเรียนรู้จะทำมันออกมาได้ดีหรือเปล่ายังไม่แน่ใจเลย
"ปัน" เสียงทุ้มนุ่มเรียกขึ้นพร้อมนักธุรกิจวัยยี่สิบเจ็ดนั่งลงข้างๆ
"พี่ซัน ขอบคุณที่มาครับ" ปริญญ์ยกมือไหว้
"พี่เสียใจด้วยนะ ไม่คิดว่าจะกลับมาเจอนายในสถานการณ์แบบนี้" รวินันท์หรือซันมองคนที่ไม่เจอมานาน โตขี้นอย่างเต็มตัว ใบหน้าออกไปทางหวานกับความส่วนสูงที่พอๆกันกับเขา หากอีกคนใส่ผมยาวคงสวยไม่ต่างจากพี่สาวที่เพิ่งจากไป
"ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกันครับ มะนาวสวัสดีลุงซันซิครับ" เด็กสาวแหงนหน้ามองมือน้อยๆประกบขึ้น
"สวัสดีค่ะลุงซัน" ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาคลี่ยิ้มบางๆ
"สวัสดีค่ะน้องมะนาว" สัมผัสอบอุ่นลูบลงบนหัวน้อยๆ
"พ่อของน้องล่ะ อยู่ไหน" รวินันท์กล่าวถาม ตั้งแต่เข้ามาเขายังไม่เห็นคนที่เป็นพ่อของเด็กน้อยที่ควรจะอยู่ข้างๆลูกเลย
"พี่ไม่รู้จริงๆใช่มั๊ย" ปริญญ์กอดกระชับหลานสาวแน่นเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ในตอนนี้
"ค่อยคุย" มือเรียวแตะไหล่ ยามเมื่อเห็นดวงตากลมสะท้อนความเศร้ายิ่งกว่าเดิม
"พี่โซลกับพี่ลีออนล่ะครับ"
"กลับไปเยี่ยมแม่อังกฤษ น่าจะมาทันวันสุดท้าย" ปริญญ์พยักหน้าเข้าใจ
"แล้วแม่ผม" ก้อนสะอื้นตีขึ้นจนถามต่อไม่ไหวยามเมื่อนึกถึงบุพการีที่เคยให้กำเนิด
"น่าจะตามมาทีหลัง" ถึงปากจะตอบไปแต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าคนที่ถูกถามถึงจะกลับมาทันหรือเปล่า เพราะฝ่ายนั้นไปร่วมทัวร์กับกลุ่มคุณหญิงคุณนายถึงต่างแดน
"ช่างเขาเถอะครับ" ปริญญ์โพล่งออกอย่างจนใจ
"น้าปันไม่ร้องค่ะ" มือเล็กเอื้อมเช็ดน้ำตาให้น้าชายที่ไม่รู้ว่าไหลออกมาตั้งแต่ตอนไหน ปริญญ์ส่งยิ้มบางพลางกอดหลานสาว คนที่มองอยู่ใกล้ๆขยับตัวจับหัวทุยให้มาซบลงตรงไหล่มือเรียวยกขึ้นลูบเพื่อปลอบโยนความเศร้าที่อยู่ในใจให้บางลง
"ฮึก" เหมือนความรู้สึกที่กลั้นไว้ถูกปลดล็อค เมื่อได้รับสัมผัสอ่อนโยน ราวกับว่าหัวใจที่แตกสลายมีที่ให้พึ่งพา ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ความอ่อนแอถูกระบายออก มือเรียวที่เคยลูบหัวเปลี่ยนเป็นกระชับกอดคนร่างเล็กไว้ในอก ปล่อยให้หยาดน้ำตารินไหลเปียกชุ่มสูทตัวแพง
ความคิดเห็น