คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #72 : Destinesia (72) ปิดภาคเรียนปีที่สาม
Destinesia (72) ปิดภาคเรียนปีที่สาม
“ฮาา.. เอ่ออ..ฮ่าาา….”
“รีมัส! รัมัสเพื่อนรัก! นายกินยามารึเปล่า ตอบสิ! ”
“อะ .. อ่ะ อ๊ากกกกกกก!”
เพียงเสียงร้องโหยหวนบางอย่าง กระตุ้นสัญชาตญาณในตัวเด็กชายให้เกิดขึ้น …
นัยน์ตาสีมรกตเปิดพรึ่บขึ้นในทันใด .. ความรู้สึกที่กำลังถูกแรงบางอย่างรัดไว้ ยิ่งพอเห็นใบหน้าของร่างสูงที่เริ่มเคร่งเครียดกับสถานการณ์บางอย่าง ทำให้เด็กชายเริ่มสำรวจรอบตัว…
เสื้อผ้าที่ฉีกขาดจากการขยายจนเกิดเสียงแคว่กดังขึ้นไม่หยุด ร่างกายของเพื่อนสนิทของพ่อแปรเปลี่ยนเป็นบางอย่างที่อันตราย ส่งเสียงร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง ส่ายไปมาเพื่อหลุดจากการเกาะกุมของซีเรียส...
“วิ่ง! วิ่ง!!” เสียงคุ้นเคยของซีเรียสร้องตะโกนบอกคนด้านหลัง ..
ความหวาดผวาจากหลายเรื่องเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีที่ผ่านมา … รอนสั่นตัวกอดร่างของเฮอร์ไมโอนี่ที่ใจเย็นที่สุด กำลังพยุงตัวรอนที่บาดเจ็บที่ขาเพราะการถูกลากจากซีเรียสก่อนหน้านี้ …
“ว้ากกก!” ชั่วอึดใจ.. แรงเฮือกใหญ่พัดร่างของซีเรียสลอยไปตกที่อีกด้าน .. คนดวงซวยรายต่อมาก็คงจะเป็นพวกเขาที่ยืนล่อเป้าไม่ห่าง ..
แรงกอดรัดเขาแน่นราวกับปกป้อง แฮรี่อดไม่ได้ที่จะลอบยิ้มกับตัวเองภายใต้เงาของร่างอีกฝ่าย … เซเวอร์รัสคงยังคิดว่าเขาหลับอยู่ .. แต่ความหวาดกลัวในจิตใจของสเนปก็มีมากเกินกว่าจะมาใส่ใจคนเพิ่งตื่นเช่นเขา ..
“สตูเปฟาย”
แสงสีขาวของคำสาปสะกดนิ่งพุ่งจากปลายไม้กายสิทธิ์กระทบร่างมนุษย์หมาป่าน่าเกรงขามเบื้องหน้าจนลอยไปตกฟากเดียวกับทางที่ซีเรียสตกลงไปไม่ไกล …
ในที่สุดความสนใจก็มาตกที่เด็กชายที่อาจหาญกล้าเสกคาถาอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งที่ตัวเองเพิ่งทำตัวเป็นภาระนอนนิ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคนอื่นเขาเลย …
“กลับกันเถอะฮะ .. ผมไม่ไหวแล้ว” เด็กชายทำท่าจะหลับลงอีกครั้งเมื่อเอ่ยจบ
สเนปกำลังจะกล่าวว่า แต่ก็ชะงัก เสียงหอนดังจากทิศทางนั้นจนไม่อาจไว้วางใจได้ … ไม่รู้ว่าหมาป่าที่หล่นไปจะกระโจนกลับมาเมื่อไหร่ ..
ใบหน้าเด็กชายดูเพลียมากเพียงแค่ปล่อยเพียงคาถาเดียว ..
ตรงนี้มีเด็กไร้ประโยชน์ถึงสามคน หนึ่งในนั้นดันเจ็บตัวอีก..
ร่างสูงไม่ตั้งคำถามกับความคิดเห็นของเด็กชาย กระชับร่างเล็กที่กำลังจะหลับหันกลับไปทางปราสาท.. โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของใครๆทั้งสิ้น ..
“แต่! แฮรี่ พวกเขาจะเป็นอันตรายนะ มนุษย์หมาป่าจะคุมสัญชาตญาณตัวเองไม่ได้ และซีเรียสก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขารึเปล่า ..” เธอถามอย่างร้อนรนแต่ก็ละออกจากรอนไปช่วยใครไม่ได้เลย ..อย่างน้อยก็น่าจะปล่อยสเนปไปช่วยเขา .. พยุงรอนตามพวกเขาไปติดๆ
แฮรี่ยกยิ้มหันใบหน้าซีดขาวของตัวเองทบทวนคำพูดเพื่อนสนิทที่ร้อนใจยิ่งกว่าเขาเสียอีก ..
เขามีเพื่อนที่ดีจริงๆ ..
“ไปเถอะ เฮอร์ไมโอนี่ .. ถึงเราไป อาจจะช่วยอะไรได้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้..” พวกเขาสบตากันอย่างมีนัยยะสำคัญบางอย่าง .. ดวงตาของแฮรี่นิ่งสงบ แต่ดวงตาภายใต้กรอบแว่นกลบฉายแววบางอย่างลึกลงไป จนเฮอร์ไมโอนี่หัวเราะอย่างไร้ทางเลือก
บางทีคนที่ไม่พูดอะไร ก็เป็นคนที่รู้เรื่องมากที่สุด …
พวกเขารีบเร่งออกจากสถานที่อันตราย เสียงร้องบางอย่างยังคงดังอยู่เบื้องหลังสร้างความน่าหวาดหวั่นให้กับคนที่ได้ยินมัน ..
ยังไงเขาก็ .. ไม่ทำอะไรโดยไม่คิดอยู่แล้ว..
เด็กชายหลับไหลอีกครั้งเพื่อเก็บพลังงานของตัวเอง ..
คืนนี้ยังอีกยาวไกล …
.
.
“อืม..” เสียงหวานครางแผ่วเมื่อลางสังหรณ์ร้องเรียกอีกครั้ง … มันเป็นแบบนี้เสมอ ต่อให้เขาอยากจะหลับ แต่ถ้าเกิดจะมีบางอย่างเกิดขึ้น ยังไงร่างกายเขาก็จะบังคับให้เขาลืมตาตื่น…
“เธอตื่นแล้ว แฮรี่..ขอบคุณพระเจ้า” เฮอร์ไมโอนี่มาดูอาการเขาทันทีเมื่อเขาเริ่มขยับตัว แฮรี่คว้าแว่นตาหัวเตียงกลับมาด้วยท่าทีสงบ ทั้งที่ซีเรียสกำลังถูกคุมตัว ..
ถึงแฮรี่จะทำเหมือนว่า ทุกอย่างจะต้องโอเค แต่ที่ได้ยินมันไม่ใช่แบบนั้นเลย..
“พวกเขากำลังจะดูดวิญญาณซีเรียสไป .. เราต้องไปช่วยเขา” สีหน้าเธอเปลี่ยนแทบจะทุกนาทีที่สูญเสีย แต่เธอไม่สามารถจัดการเรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวเองได้ ..
แฮรี่ลุกจากเตียงบิดขี้เกียจสร้างความตื่นตัวให้กับร่างกายพร้อมปฎิบัติภารกิจหลักสำหรับวันนี้ ..เฮอร์ไมโอนี่แทบจะโกรธที่แฮรี่ทำตัวสงบเกินไป ..
ตึง!
ร่างของชายชรารับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว และมาเพื่อปลอบใจเด็กๆ และเสนอแนะแนวทางบางอย่างแก่พวกเขา .. ทั้งคู่เดินเข้าหาอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์อย่างร้อนใจ และแฮรี่ก็ทำตัวสมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเสียที..
รอนนอนนิ่งบนเตียงด้วยสภาพผ้าพันแผลครึ่งขา มีเรื่องในใจอยู่มากมายที่อยากจะถามแฮรี่ให้ชัดเจน แต่ส่วนใหญ่ก็ได้เฮอร์ไมโอนี่ตอบเขาให้หมดแล้ว ..
แค่พูดเพียงว่า .. ‘ถึงบอกนายไป นายก็ไม่เชื่ออยู่ดี สู้ให้เห็นกับตาเลยจะดีกว่า’
“อาจารย์ใหญ่ คุณต้องหยุดพวกเขา .. พวกเขาจับผิดคนค่ะ” เธอเร่งอธิบายโดยมีแฮรี่เป็นลูกรับ ที่เธอถึงกลับหันมองหน้าเขาที่เพิ่งมาทำเป็นร้อนใจเนี่ยนะ
“จริงครับอาจารย์ ซีเรียส แบล็ก บริสุทธิ์”
“สแคบเบอร์เป็นคนทำ” รอนบอกต่อ จนทุกคนหันไปหาร่างคนเจ็บ..
“สแคบเบอร์หรอ?”
ถ้าหากเป็นเขา เขาคงจะสงสัยก่อน ว่าคนที่เอ่ยถึงหมายถึงใคร...
“คือหนูของผมครับ เขาเป็นหนูจริงๆ คือ-..”
เฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนสีหน้าหน่ายๆ ก่อนจะหันกลับไปพูดกับชายชราที่รอฟังคำตอบ..
“เขาเป็นแอนิแมจัสค่ะ ...ได้โปรด เชื่อพวกเรา..”
“ฉันเชื่อคุณ คุณเกรนเจอร์ แต่เสียใจที่จะบอกว่า คำพูดของเด็กของเด็กอายุสิบสามคงมีคนเชื่อไม่กี่คน.. และ! ถึงเธอจะอ้างถึงศาสตราจารย์ปรุงยาของพวกเธอ แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรนอกเหนือจากนี้..”
คำพูดของเธอถูกขัดหมดตั้งแต่ยังไม่เอ่ยปาก.. ดัมเบิลดอร์เดินผ่านพวกเขาไปดูอาการของรอนด้วยการแตะปุบๆไปที่เฝือกขา ..รอนเบ้ปากกลั้นเสียงร้องไม่ให้เปล่งออกไปจนดูยู้ยี้..
“เสียงของเด็ก ต่อให้ซื่อและจริงแค่ไหน ก็ไร้ความหมายกับคนที่ไม่สนใจจะรับฟัง” และบางทีก็ไร้สาระแม้กับคนที่ตั้งใจจะฟังก็ตาม..
“สิ่งที่ลึกลับ เวลามีพลังมาก เมื่อมันเกี่ยวข้องกับอันตราย” ชายชราพูดยามเดินผ่าน สามารถดึงความสนใจมุ่งไปอยู่ที่ใจความของคำพูดของเขาได้อย่างดี ..
จวนได้เวลาแล้ว..
“ซีเรียส แบล็กถูกขังอยู่ที่ชั้นบนสุดของหอคอยมืด” สถานที่ถูกกำหนดจุดมุ่งหมาย เหลือแค่ลงมือทำ.. และความตั้งใจที่แรงกล้า..
“เธอรู้กฎดี คุณเกรนเจอร์ ต้องไม่ให้ใครเห็นตัว..และจะต้องทำได้ ฉันรู้ และจะกลับมาก่อนเสียงระฆังสุดท้ายหรือไม่ ผลที่ตามมามันน่ากลัวเกินกว่าที่จะบอก ” ดัมเบิลดอร์ที่กำลังจะออก เดินกลับมาใกล้เฮอร์ไมโอนี่ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด เต็มไปด้วยความคิด ตั้งใจฟังคำพูดของอีกฝ่ายทุกประโยค
ทุกการกระทำมีค่าพอจะเปลี่ยนทุกอย่าง.. แม้เพียงเล็กๆน้อยๆ มันก็อาจจะเปลี่ยนอนาคตไป จนไม่เหมือนเดิม .. และแฮรี่ก็เข้าใจจุดนั้นดียิ่งกว่าใครๆ..
“หากเธอทำสำเร็จวันนี้ จะช่วยคคนบริสุทธิ์ได้มากกว่าหนึ่งคน” ดัมเบิลดอร์ขยิบตาส่งสัญญาณบางอย่างที่เธอเข้าใจ .. มือถูกันไปมาตั้งใจบอกบางอย่าง “หมุนแค่สามรอบก็พอแล้วมั้ง” ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยการตัดสินใจไว้กับนักเรียนเช่นพวกเขา..
“โอ้ อีกอย่างนะ ถ้าข้องใจ ฉันว่าเดินตามรอยเท้าเดิมน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะ โชคดี ” และประตูก็ถูกปิดลง…
เมื่อจุดเริ่มต้น โอกาส และจุดหมายปลายทางถูกกำหนด .. ทุกอย่างก็ครบองค์ประกอบของการเดินทางแล้ว ..
“งั้นไปกันเลยมั้ย เฮอร์ไมโอนี่ อืออ!! เฮ้อออ ฉันพักเต็มที่แล้ว” แฮรี่บิดขี้เกียจอีกครั้ง ต่างจากตะกี้ที่แสดงสีหน้าลนลานได้สมบูรณ์แบบจริงๆจนเฮอร์ไมโอนี่เกือบหลงเชื่อ
“นี่เธอรู้อยู่แล้วใช่มั้ย!? ให้ตายเถอะ ฉันไม่อยากจะเชื่อเธอเลย” เธอแห้วเสียงแข็งตีไหล่เพื่อนตัวเองจนแฮรี่หัวเราะชอบใจ .. “โทษทีนะ รอน แต่เป็นเพราะเธอเดินไม่ได้”
เหมือนเป็นอีกครั้งที่รอนรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยเข้าใจอะไรกับคนอื่นเขาเลยสักนิด เฮอร์ไมโอนี่คล้องสร้อยคอบางอย่างเข้ากับคอของแฮรี่ที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว เสียงแกร๊กๆจากการบิด ก่อนที่ตัวจี้จะหมุน และภาพรอบด้านก็ฉายย้อนกลับอย่างรวดเร็ว…
จนภาพทุกอย่างหยุดลง กับเวลาที่ย้อนกลับสามชั่วโมง ..
แฮรี่และเฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับรู้กัน ออกวิ่งตั้งแต่ห้องพยาบาลไปตรงจุดที่พวกเขาน่าจะอยู่ก่อนหน้านี้ ..
ถ้าเขาเดาไม่ผิด ตอนนี้น่าจะเป็นตอนที่พวกเขาอยู่ที่บ้านแฮกริดสินะ …
“เธอรู้อยู่แล้วสินะ ว่าเราจะไปช่วยพวกเขาด้วยเครื่องย้อนเวลา ”
“ก็ประมาณนั้น.. ” ถึงที่จริงเขาจะจัดการได้ทั้งหมดด้วยตัวเขาเองก็ตาม แต่เขาก็ไม่อยากทำตัวผิดสังเกตมากเกินไป …
ก็แค่… เขาอยากดูท่าทีของใครบางคนเท่านั้น …
บางทีการได้กลับมาเห็นมาได้ยินมันอีกครั้ง
ก็ทำให้เขาเห็นมุมมองที่แตกต่าง…
“เธอต้องคุยกับรอนอีกเยอะเลยนะ อย่าลืมหาข้อแก้ตัวดีดีไว้ด้วยล่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่ว่าขำๆ ถึงเธอจะอธิบายไปเกือบหมดแล้ว แต่คงจะดีกว่าถ้าให้พวกเขาพูดกันตรงๆสักที ..
เขาก็ว่าอย่างนั้น … จัดการเรื่องวันนี้ให้เสร็จสักที..
นอกจากต้องปรับความเข้าใจกับเพื่อนตัวเองแล้ว
คงไม่ลืมพ่อทูนหัวหรือป๋าหรือปู่ที่ค่าเรือแพงแพ๊ง
เรามีแผนให้ปู่อยู่ เพราะงั้นใครชอบเรือปู่ คงอีกนาน
เรือหลักเป็นป๋าเนป55555
เรือพี่เดรจะมาหนักๆปีหน้า พร้อมประเด็นแน่นอน..
PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง
ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์
ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น