[RO Fiction] Legend of Glass :: ตำนานเศษแก้ววิบัติภพ

เกริ่น

หลังจากที่ผมเอง "เคย" เขียนฟิคชั่นเมื่อครั้งเนิ่นนานมาแล้ว แล้วก็หยุดยาวไป  วันดีคืนดีนึกครึ้มอยากกลับมาตั้งต้นใหม่ ..

ก็เอาสักหน่อยครับ ลองแต่งดะมันสักเรื่องล่ะ

เกี่ยวกับ RO ครับ ....ประมาณว่ารื้อฟื้น เพราะเป็นเรื่องแรกและเรื่องล่าสุดที่ผมแต่งและกำลังจะแต่งอีกครั้ง ^^"

บางตอน ผมจะแปะเพลงประกอบที่คิดว่าเหมาะสมกับเนื้อหาในตอนด้วยนะครับ
ซึ่ง  เพลงทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่ได้รับมาจากเว็บโฮสเพลงแห่งหนึ่งนั่นคือ

daitrombe.net

และ  เพลงเหล่านี้ส่วนใหญ่มากจากเกมที่อ้างอิงได้ ถ้าใครรู้จักอะไรยังไงก็คงไม่ว่ากันนะครับ - -"
เพราะคิดว่าเอามาใช้ประกอบแล้วมันดูเข้าท่าดี อนึ่งว่าเป็นการกระจายเพลงด้วย
เพราะบางคนก็อาจไม่รู้จัก ..(แต่ก็ต้องมีคนรู้จักอยู่ดีล่ะ)

ยังไงก็ลองอ่านกันดูแล้วกันนะฮะ อยากคอมเม้นต์รึมี คห. อะไรยังไงเกี่ยวกับการแต่งรึเนื้อเรื่อง
บอกได้นะครับ อิสระ Free for all

ขอบคุณผู้ให้ควมสนใจเข้ามาอ่าน / ติ / ชมทุกท่านนะครับ

Credit :: Blue Phonix / Rossnarie / ~Lord~ / MOony Light / HawX / XiaoXian(พี่ Dora)
เอ้อเฟื้อตัวละคร
(ของเก่ามากมาย ขุดมาใช้อีกทีครับ - w -')

*********************************************

ปฐมบท....

เมื่อครั้งหลายศตวรรกาลมาแล้ว ได้เกิดมหาสงครามสามพิภพขึ้นอย่างไม่อาจทราบต้นเหตุและฉนวนใด ๆ ได้ ณ  มิดการ์ด  ทุกคนเรียกมหาสงครามครั้งนั้นว่า  "แร๊คน่าร๊อค"  หรือ  "มหาสงครามวันสิ้นโลก"  เกิดขึ้นยังรอบ ๆ มหาพฤษาแห่งพิภพอันเชื่อมต่อสามโลกเข้าด้วยกัน  "อิกดราซิลล์"  สามภพนั้นคือ...

มิดการ์ด  ดินแดนของมนุษย์เดินดินผู้เป็นกลางในทุกสิ่งผู้ตื่นตัวขึ้นเพื่อขับไล่เหล่าทูติสวรรค์อันดูหมิ่นและเหยียดหยามมนุษย์ว่าเป็นสัตว์ต่ำต้อย  และเหล่าอสูรวิญญาณจากขุมนรกกับดินแดนคนตายเพื่อปกป้องแผ่นดินของตนด้วยความสามารถของเพียงมนุษย์เดินดินธรรมดาและสุดกำลังที่พวกเขาจะทำได้

นิฟเฮม  ดินแดนคนตายที่ก้ำกึงระหว่างนรกและโลกมนุษย์อันคอยพิภากษาดวงวิญญาณที่ดับสูญแล้วเพื่อการชดใช้ขะตากรรมทั้งปวง  พวกเขาเดือดดาดขึ้นเพื่อทวงความเป็นธรรมเพราะเหล่ามนุษย์และทูติสวรรค์นั้นต่างหมิ่นเหม่พวกเขาว่าเป็นดวงวิญญาณที่ไร้ค่าและมากด้วยบาปกรรมทั้งสิ้น  ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นไม่ไช่มีทั้งหมดที่มีแต่กรรมเเลวและบาปกรรม

แอสการ์ด  ภพแห่งทุติสวรรค์ผู้ทรนงในศักดิ์ศรีและอำนาจเมื่อเห็นเหล่ามนุษย์ประพฤติตัวเกินหน้าเกินตาเหยียดหยามและท้าทายอำนาจของเบื้องบนจึงเกิดระอุขึ้นด้วยโทสะด้วยในยุคนี้ยังไม่มีกษัตริย์ครองบัลลังค์เหนือเมฆแห่งนี้

มหาสงครามดำเนินยืดเยื้ออย่างนับวันเดือนแทบไม่ได้  มีเพียงการดับสูญและสูญเสีย  วี่แววการสงบศึกเจรจาปรองดองกันนั้นหามีไม่  ยอดพฤษาโลกค่อย ๆ แห้งเฉาลงช้า ๆ ตามความสมดุลของสามพิภพที่เคยสงบมาตลอด  ลูกแห้วมหาธาติทั้งหลายอันเวียนว่ายรอบ ๆ ไม้โลกาคงด้วยหน้าที่ในการรักษาสมดุลของสามโลกตามธาตุของมันนั้นเริ่มปรากฎรอยร้าวนับไม่ถ้วนและสาหัสขึ้นทุกที  ....

วินาทีสุดท้ายของมหาสงครามได้ถึงคราวสิ้นสุด  เหลือเพียงเทวดาปีกหัก  มนุษย์แขนด้วน  และอสูรปางตายเพียงฝ่ายละหนึ่งชีวิต  ต่างโรมรันอาวุธเข้าแลกกันในครู่วินาทีเดียวสามศาสตราสะบั้นชีพจรทั้งสามขาดวิ่นพร้อมกันอย่างสุดมหัสจรรย์สามชีวิตล้มลงพื้นไม้ที่แห้งกรอบของพฤษาโลกาอย่างไร้ทางหลีกเลี่ยง  .....พริบตาสามร่างนั้นปะทะพื้นลูกแก้วมหาธาติทั้งหมดพลันระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ ปรากฎเป็นสายฝนดาวตกขนาดใหญ่สาดกระจายทั่วน่านฟ้าของรูน - มิดการ์ด  เบื้องล่างของท้องฟ้าอันเป็นฝนดาวตกสีรุ้งห่าใหญ่นั้นมีร่างไร้ชีวิตของสามเผ่าพันธุ์นอนเรี่ยราดทั่วพื้นปฐพี  ......ไม่มีชีวิตใดเหลือรอด

โลกเกิดมหาพัยพิบัติตามมาในช่วงเวลาอันสั้น  พายุอสูร  น้ำโถมปิศาจ  เพลิงผลาญบรรลัย  ภูเขาไฟพินาศ  จากความไร้ซึ่งสมดุลของแก้วมหาธาติของไม้โลกา  รูนเปลี่ยนแปรสภาพไปอย่างไร้เวลาสิ้นสุด  ........จนกระทังช่วงเวลาสุดท้ายภัพพิบัติทั้งหมดล้วนสงบลงในเวลาใกล้เคียงกันเศษแก้วมหาธาติที่กระจายตัวกันออกไปเริ่มปรับสภาพของมันตามจุดต่าง ๆ ที่มันตกลงได้คงที่มากขึ้นจนแสดงอานุภาพต่อกันทั่วภพคืนสมดุลบางส่วนกลับแก่รูนอีกครั้งหนึ่งถึงแม้จะไม่ลงตัวมากก็ตาม

แผนที่โลกของรูนเปลี่ยนไป  ตามเขตต่าง ๆ นั้นล้วนมีบรรยากาศที่ไม่แน่นอนมากมายนักเกิดจากอำนาจของเศษแก้วมหาธาติที่อาจอยู่ในบริเวณนั้นเป็นตัวสร้างความไม่สมดุลให้กับพื้นที่รอบ ๆ ..

สิ่งมีชีวิตกำเนิดขึ้นใหม่ตามกาลเวลา  ..กำเนิดมนุษย์  อัญเชิญอสูร  จุติเทวดาขึ้นยังสามภพอีกครั้งเพื่อเริ่มต้นใหม่ในทุก ๆ เรื่องราวที่ผ่านมา ..จะถูกจารึกไว้เป็นบทเรียนแก่คนรุ่นหลังให้ศึกษาและทำความเข้าใจในแง่คิดที่ดีกว่าเดิม

ผ่านไปอีกหลายทศวรรศเริ่มเกิดข่าวคราวเรื่องเศษแก้วมหาธาติตามที่ต่าง ๆ ในรูน  ลือกันว่าเศษแก้วเพียงชิ้นเดียวนั้นมีอำนาจมหาศาลกว่าสื่ออัญเชิญจอมอสูรหลายชิ้นนักและพลังของมันมากพอจะทำให้เกิดพัยภิบัติขนาดย่อมเยาจนถึงใหญ่หลวงได้เลยทีเดียว   จึงเกิดนโยบายจากมหานครนักปราชญ  "จูโน่"  สื่อสารผ่านทั่วผืนแผ่นดินรูนเพื่อการรวบรวมเหล่าเศษแก้วเหล่านั้นเพื่อสะสมมันคืนสู่ถิ่นที่มันเคยอยู่และไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนทรามทั้งปวง  เขาตั้งราคาของเศษแก้วชิ้นเพียงนิ้วก้อยนั้นไว้สูงถึง 3 ล้านเซนี   (3,000,000  เซนี)  กระนั้นเพื่อช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากทางการเงินและราคาระดับนี่ล่อใจเหล่านักหาเงินนักแล  ผนวกกับการเดินทางมาที่นี่อย่างทุลักทุเลและการตัดสินใจของตัวบุคคลเกี่ยวกับมันนับว่าคุ้มค่าอย่างพอดี   และจัดกลุ่มนักวิจัยนักค้นหากระจายออกไปทั่วแผ่นดินเพื่อแข่งขันหากับเหล่านักผจญภัยทั้งหลายด้วยเช่นกัน  การตลาดที่เกิดขึ้นบ้างก็เริม่ขายให้กับผู้อื่นในราคาที่ถูกกว่าด้วยความร้อนเงินและขี้เกียจ  เป็นต้น

การณ์นี้จึงเกิดเหล่านักวางแผนสิปแปดมงกุฏทั้งหลายคิดสร้าง  "ของปลอมทำเทียม"  ขึ้นเพื่อใช้ในการแลกมาซึ่งเงินตราเท่านั้นโดยการใช้หินเจม  และหินธาตุทั้งหลายหลอมรวมเข้าด้วยกันเจียระไนจนได้รูปลักษณ์ที่ต้องการก่อนนำไปส่ง  แต่กระนั้นก็ไม่พ้นความละเอียดอ่อนของยอดนักปราญแห่งจูโน่ไปได้  .....แต่ของปลอมเหล่านั้นเริ่มทวีคุณภาพมากขึ้นทุกทีจนเริ่มใกล้เคียงกับของจริงมากขึ้นทุกที  สร้างความลำบากใจให้กับทุก ๆ ฝ่ายด้วยกันทั้งยังทำให้การตลาดปั่นป่วนไปหมด ....

ในช่วงเวลาเดียวกัน .....กลาสเฮล์มได้เกิดการรวมตัวของเหล่าจอมมารมนต์ดำทั้งหลายที่สุมรวมอายุกันได้แทบหมื่น ๆ ปีอันเอาตัวรอดจากมหาสงครามวันสิ้นโลกมานับครั้งไม่ถ้วน  จนถึงเวลานี้ได้สร้างกลุ่มวางแผนการครั้งใหญ่แผนหนึ่งขึ้นอันเกี่ยวข้องกับการช่วงชิงเศษแก้วมหาธาติมาเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกับแผนการของพวกเขา  ชื่อของแผนการนั้นคือ  "สร้างโลกใหม่"  ไม่มีใครภายนอกรับรู้ถึงแผนการเหล่านั้นมีแต่พวกเขาและเครือข่ายผู้ใช้พลังแห่งความมืดเท่านั้นที่รับรู้ .....พวกเขาจะออกตาหมาผู้ใช้พลังอันเกี่ยวข้องกับมนต์ดำและความมืดทั่วทั้งอาณาจักรเพื่อชักชวนมาร่วมแผนการของเขาและรับผลประโยชน์ร่วมกัน  กระนั้นแล้วเขายังเลือกที่อุปนิสัยของตัวบุคคลอีกด้วยจุดประสงค์ของแผนการพวกเขาคืออะไรกันแน่ ... ?

เกิดสถานะการณ์การช่วงชิง "เศษแก้วสีดำ"  ขึ้นทั้งอาณาจักรจนแผนการ  "สร้างโลกใหม่"  เริ่มกระจายข่าวสารแผ่ขยายออกไปกว้างขึ้นเรื่อย ๆ  นักผจญภัยทั่วอาณาจักรล้วนเกิดอคติขึ้นในเวลาเดียวกัน  ไม่มีใครทราบว่าแผนการนี้จะดำเนินอย่างไร่เมื่อไหร่ และถึงคราวลุล่วงวันใดแต่หากถูกจัดขึ้นด้วยเหล่าจอมมารทั้งหลายแล้วย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่จึงตื่นตัวขึ้นเพื่อการต่อต้าน  ....แต่ในทางตรงกันข้ามกลับมีกลุ่มผู้ฝักใฝ่ในความอกุศลหน้ามืดตามัวสนับสนุนแผนการเหล่านี้และหันหน้าเข้าหาถนนสีดำที่ไม่ทราบจุดหมายที่แน่นอน  ต่างตั้งกลุ่มปลีกย่อยขึ้นเพื่อสะกัดการต่อต้านของเหล่านักผจญภัยทั้งหลายด้วยเช่นกัน

ช่วงเวลาหนึ่ง  ได้ปรากฎบุคคลอันมีความสามารถพิเศษเหนือความสามารถอื่น ๆ ขึ้นยังจุดต่าง ๆ ของอาณาจักร   พวกเขานั้นมีความโดดเด่นในการใช้ความสามารถที่เห็นได้อย่างเด่นชัดและไม่มีใครทำได้อย่างเด็ดขาด  อาทิ

ตัวแทนแห่งเพลิง  ผู้มีความสามารถอันร้อนแรงของเปลวไฟ พร้อมจะผลาญเผาอริให้มอดไหม้ไร้ความปราณี

ตัวแทนแห่งสายน้ำ  ผู้ควบคุมการไหลเวียนของสารธารจากแอ่ง  แม่น้ำ ผืนทะเลได้ดั่งใจนึก

ตัวแทนแห่งสายฟ้า  ผู้อัญเชิญวชิระบรรลัยฟาดถล่มศตรูได้ดั่งใจนึก

ตัวแทนแห่งวิทยาการ   ผู้มากความสามารถในการสร้างเครื่องยนกลไกที่ซับซ้อนหรืออาวุธล้ำหน้านำสมัยหาพบที่ไหนไม่ได้ในพภออกมาใช้ในชั่วเวลาเพียงอึดใจ  และความสามารถในการวิจัยที่เหนือชั้นกว่าคนทั่วไปหลายขุมนัก

และตัวแทนแห่งความถูกต้องอีกมากมายอันยากที่คนทั่วไปจะได้พบเห็น  พวกเขานั้นเป็นบุคคลผู้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งในการปกป้องแผ่นดินจากความไม่ถูกต้องทั้งปวง  และเป็นแกนสำคัญอย่างหนึ่งที่จถคืนความสมดุลทั้งหมดกลับสู่แผ่นดินมิดการ์ด ....

ชะตากรรมของอาณาจักร  มิดการ์ด  จะเป็นอย่างไรนั้น  ขึ้นอยู่กับผู้กล้าทั้งหลายแล้ว ..........

=เปิดตำนาน  เศษแก้ววิบัติภพ  ณ  บัดนี้=