โอ๋เล็ก VS ตี่ตี๋ (ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น ภาคพิเศษ)
เป็นเรื่องหลังจากที่โอ๋เล็กได้รับตั๋วคอนเสิร์ตจากตี่ตี๋ค่ะ น่ารักมากๆค่ะ ไม่อ่านแล้วจะเสียใจ.... อ่านจบแล้ช่วยติชมด้วยนะคะ แล้วจะแต่งเรื่องใหม่ๆมาให้อ่านอีกค่ะ ขอบคุณค่ะ
ผู้เข้าชมรวม
728
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
โอ๋เล็ก VS ตี่ตี๋ (ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น ภาคพิเศษ)
หลังจากที่โอ๋เล็กได้รับบัตรคอนเสิร์ตที่ตี่ตี๋ส่งมาให้ เธอก็ได้เฝ้านับวันรอให้ถึงวันนั้นเร็วๆ วันที่หัวใจของเธอจะพองโตและเต้นรัวไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง เมื่อจะได้เห็นใบหน้าของซุปเปอร์สตาร์ผู้เป็นที่หมายตาของสาวๆเกือบครึ่งเอเชียและเธอก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นด้วย
แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง คอนเสิร์ตถูกเนรมิตขึ้นภายในฮอล์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง โอ๋เล็กมาถึงหน้างานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มกว่าทุกๆวัน หน้างานคับคั่งด้วยแฟนเพลงทั้งผู้ชายและผู้หญิงมากมายหลายรุ่น ที่ต่างก็มีจุดประสงค์เดียวกันที่มาในวันนี้วันนี้ เธอแต่งตัวด้วยชุดแซคสีชมพูอ่อนที่มีลายดอกไม้สีแดงเล็กๆหลายดอกอยู่ตรงชายกระโปรง ส่วนทรงผมของเธอก็ถูกเซทเป็นรอนสวยรับกับใบหน้าและก็ชุดสวย(ก็ทรงเดียวกับนางเอกในหนังที่แสดงกับคู่ตี่ตี๋ในฉากตอนไปดูคอนเสิร์ตนั่นแหละ) เธอนัดเพื่อนอีกสองคนไว้ที่หน้างาน(ก็เพื่อนสองคนที่อยู่ในหนังนั่นแหละ)
“โอ๋เล็กทางนี้” ว่านแก้ว(ชื่อแต่งเอง)ตะโกนเรียกเพื่อนซี้ที่ยืน(เอ๋อ)หันไปหันมาอยู่ท่ามกลางผู้คนมายมาย
“Hi!!ไอ้ว่าน ไอ้ลี่ รอนานมั้ยโทษทีว่ะรถมันติดน่ะ” ลืมแนะนำอีกคนค่ะ ลิลลี่ (ผันมาจากเหลิมหรือชื่อเต็มๆว่าเฉลิมนั่นเอง) กะเทยร่างท่วมเพื่อนร่วมแก๊งค์อีกคนค่ะ
“ฉันนึกว่าแกจะไม่มาแล้วเดี๋ยวประตูก็จะเปิดแล้วด้วย” ลิลลี่โวย
“โธ่!!ยังไงก็ไม่ให้พลาดหรอกคอนเสิร์ตตี่ตี๋ของฉันทั้งที คราวที่แล้วที่พลาดไปยังเสียดายไม่หายเลย”
“หนอยตี่ตี๋ของฉัน ช่างกล้านะหล่อน ตี่ตี๋เป็นของเราทุกคนย่ะ ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของใครนะยะ”ลิลลี่โวยวายไม่พอใจ
“แกสองคนจะกัดกันอีกนานมั้ยดูสิประตูเปิดแล้วรีบไปกันเถอะ”ว่านแก้วรีบห้ามทัพก่อนที่สงคราม(น้ำลาย)จะเกิดขึ้น
คนที่มีบัตรทุกคนต่างยืนเข้าแถวรออยู่หน้าประตูเข้างานกันยาวเหยียด ซึ่งในแต่ละแถวก็จะแยกตามราคาของบัตรที่ซื้อนั่นเอง
“น้องบัตรราคาเท่าไหร่”พี่สตาฟที่ทำหน้าที่ควมคุมการจัดแถวถามพวกโอ๋เล็ก
“1,500 ค่ะพี่”ว่านกับลิลลี่ตอบพร้อมกับยื่นบัตรให้ดู
“งั้นไปยื่นแถวโน้น แต่เอ๊ะ....”สตาฟต้องงงเมื่อเห็นบัตรในมือของโอ๋เล็ก
“นี่มั้นบัตรซุปเปอร์VIPนี่” พอทั้งสามได้ยินสตาฟบอกก็มองหน้ากันอย่างแปลกใจ
“น้องคนนี้ต้องแยกไปอีกประตูนะ มันเป็นประตูลับใช้เข้า - ออกเฉพาะคนในเท่านั้น”
“ว๊าย!!!!ไอ้โอ๋เล็กแกได้บัตรมาจากไหนว่ะ ทำไม่มันถึง...”ไม่ทันที่ลิลลี่จะโวยวายต่อ พี่สตาฟก็รีบเอามือปิดปากกะเทยตื่นตูมไว้ก่อน เพราะเสียงของหล่อนกำลังเรียกความสนใจของผู้คนรอบข้างไม่ใช่น้อย
“ชูว์!!!!เงียบหน่อยมันเป็นความลับนะ” ลิลลี่พยักหน้าเข้าใจพี่สตาฟจึงยอมเอามือที่ปิดปากออก
“ว่าแต่น้องเอาบัตรมาจากไหนล่ะ บัตรนี้จะต้องให้ตี่ตี๋เป็นคนเซ็นต์อนุมัติเท่านั้นนะถึงจะให้ได้”
“ฮ้า....ฉันสองคนก็อยากรู้เหมือนกัน” ว่านแก้วสงสัย
“เอ่อ....เอ่อ....” โอ๋เล็กอึดอัด ไม่รู้จะตอบว่ายังไง เพราะตั้งแต่เธอได้บัตรใบนี้มาเธอก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ใหัใครฟังเลย และที่ทำให้เธอตกใจไม่แพ้คนอื่นๆ เมื่อเพิ่งรู้ความหมายของบัตรซุปเปอร์VIPในวันนี้ ที่ผ่านมาโอ๋เล็กก็คิดว่ามันคงมีความพิเศษแค่ว่าคงเป็นที่นั่งที่สามารถเห็นหน้าตี่ตี๋ของเธอได้ชัดเจนกว่าคนอื่นก็เท่านั้น
“เอ่อๆ ช่างมันเถอะ ไหนๆก็มีบัตรแล้วเดี๋ยวน้องตามพี่มาก็แล้วกันนะ ส่วนอีกสองคนก็เข้าแถวตรงช่องประตู 1,500 เลยก็แล้วกัน”
“งั้นฉันไปก่อนนะ แล้วจะเล่าให้ฟังทีหลังแล้วกัน”
แล้วโอ๋เล็กก็เดินตามสตาฟไปโดยมีสายตาที่อิจฉาปนสงสัยของเพื่อนทั้งสองคนมองตาม พอเดินผ่านประตูลับเข้าไป โอ๋เล็กก็ถูกพาไปนั่งที่เก้าอี้พิเศษที่ติดกับขอบเวทีเลย มีสายตาของแขกผู้มีบัตรเช่นเดียวกับเธอที่นั่งอยู่ใกล้ๆประมาณสิบกว่าคนต่างซุบซิบกันด้วยความสงสัย โอ๋เล็กก็ทำตัวไม่ถูกก็เลยทำได้แค่ส่งยิ้มแหยๆกลับไป ไม่นานเสียงดนตรีเพลงจังหวะเร็วก็ดังขึ้น มันเป็นเพลงที่มีจังหวะเร้าใจสนุกสนานชวนให้คนดูต้องเต้นตามโดยอัตโนมัติ แสงไฟหลากหลายสีก็สาดส่องสลับไปมาทั่งฮอล์ แล้วก็ตามด้วยเอฟเฟคระเบิดดังขึ้นกลางเวทีพร้อมประกายไปจากพุลพุ่งขึ้นกลางเวที ทันใดนั้นคนที่ทุกๆคนรอคอยก็ปรากฏตัวขึ้นกลางเวทีท่ามกลางกลุ่มควันที่เกิดจากเอฟเฟคที่ค่อยๆจางหายไป
“กริ๊ด!!!!!!!!!! ตี่ตี๋ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ตอนนี้ภายในฮอล์นั้นดังกังวานไปด้วยเสียงกริ๊ดและเสียงเรียกชื่อของคนที่เป็นดาวเด่นในวันนี้ ดังสั่นสนั่นฮอล์ ตีตี๋โบกมือให้แฟนๆ และกล่าวทักทายทักทายเป็นภาษาไทย
“ ซา หวัด ดี ค๊าบ”
และมันก็ทำให้เสียงกริ๊ดดังขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า คอนเสิร์ตดำเนินไปเรื่อยๆทั้งเพลงช้าและเพลงเร็วสลับกันไป น่าแปลกที่โอ๋เล็กนั้นได้แต่นั่งยิ้มมองตี่ตี๋อยู่เงียบ ต่างจากคนอื่นที่ทั้งร้องทั้งเต้นและกริ๊ดกันอย่างมันหลุดโลก ซึ่งโอ๋เล็กก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น หรือว่าคงจะเป็นเพราะมันดีใจจนทำอะไรไม่ถูกก็ได้ว่ามั้ย และก็มาถึงช่วงสัมภาษณ์พูดคุยกับตี่ตี๋ พิธีกรวัยรุ่นชายหญิงชื่อดังของไทยซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีเดินออกมาจากข้างเวทีพร้อมกับล่ามผู้หญิชาวจีนอีกหนึ่งคน
“Welcome toThaind ตี่ตี่” พิธีกรกล่าวทักทาย
“ค๊าบ ซา หวัด ดี ค๊าบ” ตี่ตี๋ทักทายตอบ
“ได้มาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทยในวันนี้ คุณรู้สึกยังไงบ้างค่ะ “คำถามแรกเริ่มขึ้นล่ามก็ทำหน้าที่แปล
“ ดีใจมากครับ คนไทยน่ารักทุกคน” ตี่ตี๋ตอบเป็ภาษาจีน และมันก็ถูกแปลโดยล่ามอีกเช่นเดิม
“นี่คงไม่ใช่การมาประเทศไทยครั้งแรกของคุณใช่มั้ยครับ เพราะเราทราบมาว่าบรรพบุรุษทางคุณแม่ของคุณเป็นคนเชื้อสายจีนที่อพยพมาอยู่ที่ประเทศไทยใช่มั้ยครับ”
“อ๋อ...ใช่ครับ ที่จริงผมจะมาประเทศไทยเกือบทุกปีถ้าผมว่าง คือมาเยี่ยมญาติๆบ้าง มากราบไหว้บรรพบุรุษบ้างน่ะครับ ผมจึงรู้สึกว่าผูกพันกับประเทศไทยมากน่ะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณคงพูดและฟังภาษาไทยได้บ้างสิคะ”
“ก็ได้นิดหน่อยครับ คุณแม่เคยสอนบ้างครับ”
“และคุณชอบหรือประทับใจอะไรในประเทศไทยบ้างครับ”
“ก็หลายอย่างนะครับ ทั้งอาหาร ที่เที่ยวและผู้คน โดยเฉพาะ “ผู้หญิงไทย” น่ารักมากๆครับ” ตี่ตี๋พูดพร้อมกับแอบเหล่สายตามองหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าเวที (ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยก็โอ๋เล็กของเรานั่นเอง) สายตาคู่นั้นที่จ้องมาเล่นเอาหัวใจของคนที่ถูกมองโดยไม่ทันตั้งตัวตกใจ และตื้นตันใจจนทำอะไรไม่ถูก ยังดีที่ตี่ตี๋แค่แอบเหล่มองจึงไม่มีใครทันสังเกตว่าเขากำลังมองใคร ไม่เช่นนั้นโอ๋เล็กก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น และแล้วการสัมภาษณ์ก็ดำเนินต่อไปอีกสี่ห้าคำถามจนจบซึ่งตลอดที่ตี่ตี๋ตอบคำถามนั้นโอ๋เล็กไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลยว่าเธอถูกสายตาของซุปเปอร์สตาร์ขวัญใจของสาวๆหลายคนแอบจ้องมองอยู่เป็นระยะ
พอช่วงการสัมภาษณ์สิ้นสุดลง ตี่ตี๋ก็เริ่มร้องเพลงต่อไปอีกสองสามเพลงจนมาถึงงเพลงสุดท้ายนั่นก็คือเพลงช้าที่โด่งดังไปทั่วเอเชียในขณะนี้(ก็เพลง “เติ่ง ไต้ เจอะ หนี่” หรือ “รอเธอหันมา”เวอร์ชั่นจีน ไง)ที่จริงเพลงนี้ได้ถูกร้องเป็นเพลงที่สามตอนต้นคอนเสิร์ตไปแล้ว แต่พอมาถึงตอนท้ายก็ได้นำกลับมาร้องอีกครั้งแต่คราวนี้มันพิเศษตรงที่ว่า ตี่ตี๋ได้ร้องมันพร้อมกับดีดเปียนโนด้วยตัวเองโดยไม่มีเสียงดนตรีอื่นประกอบเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
‘เสียงเพลงที่คลอไปพร้อมกับเสียงเปียนโนช่างไพเราะจริง’ หลายคนที่ได้ยินคงมีความคิดไม่ต่างจากโอ๋ล็กเลยสินะตอนนี้
ในที่สุดเสียงเพลงก็จบลงพร้อมๆกับเสียงเปียนโน แต่คนดูต่างยังร้องเป็นเสียงเดียวกันหลังจากเพลงจบลงว่า....
“เอาอีกๆๆๆๆๆ”
“ตี่ตี๋ เราไม่ให้คุณไป”
“เรารักคุณ”
“เราจะฟังอีกๆๆๆๆๆ”
ฯลฯ
แต่ทันใดนั้นสียงของทุกคนก็เงียบลงโดยอัตโนมัติ เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเดินถือดอกไม้ช่อใหญ่เดินออกมาจากหลังเวทีเพื่อมอบให้กับคนที่เพิ่งกำลังละมือจากเปียนโนตรงหน้าแล้วยืนอึ้ง สักพักก่อนจะยื่นมือไปรับช่อดอกไม้อย่างงงๆ พร้อมกับส่งสายตามาทางโอ๋เล็กเหมือนกับอยากจะบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องด้วยเลย
ผู้หญิงคนนั้นโอ๋เล็กและทุกคนนั้นรู้จักเธอดีเพราะเธอคือนางเอกที่แสดงละครคู่กับตี่ตี๋นั่นเอง เธอชื่อเอลลี่(แต่งเองอีกแล้ว)ตอนนี้มีข่าวว่าเธอแอบกิ๊กกับตี่ตี๋อยู่ ก็หล่อนมักจะแอบให้ข่าวกับนักข่าวเสมอว่าเธอคือแฟนของตี่ตี๋ ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นแค่รักpromoteเท่านั้น แต่อีกหลายก็พูดว่าเธอสนใจตี่ตี๋ แต่ตี่ตี๋คิดกลับเธอแค่เพื่อน
คนหนึ่งเท่านั้นเอง และก็มีอีกหลายกระแสที่ดังตามๆกันมา จนไม่รู้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง
“เฮ้ย!!!มาได้ไงวะ”
“อะไรกันนี่ ตี่ตี๋ของฉันนะ”
“เราไม่ยอมๆๆๆๆ”
ฯลฯ
และไม่นานม่านเวทีก็ปิดลงพร้อมกับเสียงโห่ร้องที่เริ่มซ่าลงเรื่อยๆของแฟนเพลง ที่ค่อยๆเดินหน้าบูดออกจากฮอล์ด้วยอารมณ์ที่บ่อยจอยเท่าไหร่
ส่วนโอ๋เล็กขณะนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าน้ำตามันใหลออกมาตั้งแต่ตอนไหน เธอรู้แค่ว่าในใจมันโหวงๆ เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม และไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว โอ๋เล็กเดินออกจากฮอล์เรื่อยโดยไม่พูดอะไรสักคำและก็ไม่รอว่านกับลิลลี่ด้วย จนไปถึงที่ป้ายรถเมล์หน้าห้างฯ แต่พอรถเมล์สายที่เธอจะโดยสารกลับเข้ามาจอดเทียบท่าเท่านั้นโอ๋เล็กก็ตองร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก จนคนแถวนั้นพากันมองดูอย่างแปลกใจ ก็รูปที่ติดข้างรถน่ะสิดันเป็นรูปpromoteหนังที่ตี่ตี๋กับเอลลี่เล่นคู่กันซะนี่ (ไอ้รถเมล์บ้านี่ก็มาไม่รู้เวล่ำเวลาเล๊ย!!)
โอ๋เล็กไม่ยอมขึ้นรถเมล์คันนั้น แต่กลับตัดสินใจเดินร้องไห้ไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจสายตาผู้คนแถวนั้น เธอเดินไปเรื่อยๆจนมาหยุดตรงหน้าสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวห้างนัก เธอหย่อนก้นของเธอลงบนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ริมทะเลสาบขขนาดเล็ก มุมนี้เป็นมุมสงบลับตาคน ที่สำคัญท้องฟ้าตอนนี้ก็ครึ้มๆเหมือนว่าฝนกำลังจะตกจึงไม่ค่อยมีคนออกมาเที่ยวที่นี่มากนัก โอ๋เล็กได้แต่เอามือปิดหน้าร้องไห้อยู่ตรงนั้นคนเดียว
“ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
แล้วความสงบเงียบตรงนั้นก็ถูกทำลายลงด้วยเลียงใครบางคนที่เดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าโอ๋เล็กพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอ
“เชด...นาม...ตา....ซะ”
โอ๋เล็กตกใจมาเมื่อเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอเต็มๆตา แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะใส่หมวกและสวมแว่นตาปิดบังใบหน้าไว้แต่แต่สำหรับแฟน(คลับ)ตัวจริงอย่างเธอแล้วสามารถจดจำเขาได้ทุกสถานการณ์
“ตี่ตี๋”โอ๋เล็กเรียกชื่อคนที่อยู่ตรงหน้า
“โอ้เละ เอ๊ย! อกเหล็ก เอ๊ย!! โอเลี้ยง โอ๊ย!!!!sorry ชื่อคูณเรียกยากจิงจิง”
“555555+ฮือๆๆๆๆๆๆ”
โอ๋เล็กระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาเมื่อได้ยินคำพูดของตี่ตี๋
“ง๊านว่าผมจ่าเรียกคูณว่า เสี่ยวอ้าย แล้วกาน” แล้วโอ๋เล็กก็มีชื่อใหม่อีกชื่อด้วยฝีมือการตั้งชื่อของตี่ตี๋
“เสี่ยว อ้าย . อ้าย ที่แปลว่า รักน่ะเหรอ ”
‘โอ๊ย!!!!ยายโอ๋เล็กหล่อนลืมตัวถามอะไรออกไปนี่ จะบ้าไปแล้วเหรอ’
“อืม ช่าย อ้าย ที่แปลว่า...รัก” ไม่นึกเลยว่าตี่ตี๋จะตอบกลับมาด้วยท่างทางทีขัดเขินเช่นเดียวกัน
“คุณมาได้ไง ไม่กลัวใครจำได้เหรอ แล้วเอ่อ...เอลลี่ล่ะ” โอ๋เล็กแกล้งเปลี่ยนเรื่องแก้เขิน
“ผมแอบหนีออกมาหลางจากม่านปิด แล้วเดินตามคูณมาจนถึงที่นี่”
“ ฮ้า!!!!แอบหนีออกมาเหรอ” โอ๋เล็กตกใจเมื่อได้รู้เรื่องจากปากของตี่ตี๋
“ช่าย ผมเห็นคูณร้องไห้ตั้งแต่ยืนบนเวทีแล้ว สาเหตุเกิดจากผมช่ายมม้าย ผมอยากบอกว่า ผมขอโทษ”
“ไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอก ฉันผิดเองที่คิดอะไรเกินตัว แอบตั้งความหวังที่มันเป็นไปไม่ได้ ฉันน่าจะรู้ดีว่าของบางอย่างมันก็เหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า สวยงามแต่ไม่มีทางได้เป็นเจ้าของ แค่ได้เฝ้าดูอยู่ตรงนี้ก็น่าจะดีแล้ว ในเมื่อมันอยู่ไกลเกินกว่าที่เราจะเอื้อมมือไปหยิบมันได้ คุณเข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ย”
“อือ ผมเข้าใจ แต่คูณคงลืมไปแล้วนะว่า ผมเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเหมือนกาบคูณ และผมก็ม่าย
ช่ายดวงดาวด้วย”ตี่ตี๋บอกพร้อมกับหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเธอ
“เพราะฉะนั้นคูณก็ไม่ต้องเอื้อมมือออกปายคว้าอาราย ผมขอแค่คูณจับมือผมไว้อยากนี้ตาลอดปายก็พอ จ่าด้ายม้าย เสี่ยวอ้าย” ตี่ตี๋พูดพร้อมกับจับมือของคนที่ตอนนี้กำลังร้องให้ออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันคือน้ำตาแห่งความตึ้นตันใจและดีใจที่สุดในชีวิต
“แล้วเอลลี่ล่ะ”
“เขาก็ส่วนเขา ไม่เกี่ยวกับ เรา นี่”
‘เรา’เหรอ โอ้!!!พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เขาใช้คำว่าเรา
“งั้นฉันจะไม่ยอมปล่อยมือนี้เด็ดขาดไม่ว่ายังไงก็จะขอจับมันไว้ตลอดชีวิตเลย ตกลงมั้ย” โอ๋เล็กพูดพร้อมกับยื่นมืมไปกุมมือชองตี่ตี๋ ทำให้เขาหัวใจพองโตเต้นเป็นจังหวะเดียวกับเธอในที่สุด
“ช่ายแล้วเราจ่าจับมือกันและกานตาหลอดปาย” ตี่ตี๋ก้มลงกระซิบที่ข้างๆหูของโอ๋เล็ก
“หว่อ อ้าย หนี่ ” ตี่ตี๋พูดมันอีกครั้งหลังจากที่หอมแก้มเสี่ยวอ้ายของเค้าไปฟอดใหญ่
“ฉันก็รักคุณค่ะ” โอ๋เล็กพูดพร้อมกับเอียงหัวไปซบกับไหล่คนที่ทำให้หน้าของเธอกลายเป็นสีแดง
มะเรื่อด้วยความเขินอาย
“เอ๊ะ!!!แต่ฉันสงสัยจังว่าคุณรักฉันตั้งแตตอนไหนกัน”
“ก็ตอนที่ผมเห็นหน้าคูณในจอTVที่คุณอัดวีดีโอส่งไปฮ้ายผมงายจำด้ายม่าย ผมดูแล้วยางขำไม่หายเลย ผู้หยิงอารายร้องเพลงจีบผู้ชายได้เสี่ยวสุดๆเลย แต่ผมก็ชอบมานมากนะ” แล้วกำปั้นน้อยๆของคนที่ร้องเพลงเสี่ยวๆจีบผู้ชายก็ทุบรัวไปทั้งตัวของคนปากหาเรื่อง(จริงๆ)อย่างเหลืออด แต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด
ซ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วอยู่ดีฝนก็ตกลงมาจนได้
เดี๋ยว!!!!! ยังไม่จบค่ะขอต่ออีกติ๊ดหนึ่งนะคะ
เรื่องของโอ๋เล็ก.... ปะป๊า หม่าม๊า และเจ้ของโอ๋เล็ก กำลังนั่งดูTVอยู่ที่ห้องโถงชั้นบน .เมื่อโอ๋เล็กกลับมาถึงบ้านด้วยสภาพที่ไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำ ต่างพากันมองอย่างตกใจ
“อาโอ๋เล็ก ทำมายมานกลับมาสภาพนี้วะ” ปะป๊าถาม
“ไปตกน้ำที่ไหนมาว่ะ” หม่าม๊าถามอีก
“ดูไม่ได้เลย เฮ้อ!!” เจ้สมทบ
“ป๊า ม๊า เจ้ พออั๊วจบมอหก อั๊วจะไปเรียนต่อเมืองจีนนะ” โอ๋เล็กยิ้มแล้วบอกกับทุกคน จากนั้นก็เปิดประตูเดินเข้าห้องทันทีโดยไม่สนใจว่าคนที่ได้ยินเต็มหกรูหูจะพากันมองหน้ากันด้วยความงุนงง
“แล้วจอกันนะตี่ตี๋ที่รัก จุ๊บๆ \(*o*)/”โอ๋เล็กหันไปพูดพร้อมกับส่งจูบให้กับรูปภาพขนาดเท่าตัวจริงของตี่ตี๋ที่วางอยู่ในห้องและยิ้มกับตัวเองอย่างมีความสุข
เรื่องของตี่ตี๋....เมื่อเขาสร้างความโกลาหลให้กับทีมงานทุกคนด้วยการแอบหนีตามหัวใจตัวเองออกไปหลังจากม่านบนเวทีได้ปิดลง และเมื่อเขาจัดการเรื่องหัวใจตัวเองเรียบร้อยแล้วเขาก็กลับเข้ามาในสถานที่จัดงานคอนเสิร์ตอีกครั้ง ซึ่งสภาพของเขาตอนนี้ไม่เหลือคาบของซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังเลย ก็ในเมื่อสภาพของตี่ตี๋นั้นมันไม่ต่างจากโอ๋เล็กเลยน่ะสิ ที่สำคัญสิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจก็คือไม่ว่าใครจะถามอะไร ตี่ตี๋ก็ไม่ยอมตอบทั้งนั้นเอาแต่นั่งยิ้มอย่างเดียว การกระทำเช่นนี้มันช่างขัดใจคนที่อยากรู้อยากเห็น(โดยเฉาะยายเอลลี่)ซะจริงๆ ว่ามั้ย
เรื่องของ ว่านแก้ว กับ ลิลลี่ (เฉลิม) .หลังจากงานคอนเสิร์ตทั้งสองก็ได้ตั้งศาล(เตี้ย)สอบสวนโอ๋เล็กเรื่องบัตรซุปเปอร์VIPว่าหล่อนได้จากใดมา จำเลยอย่างโอ๋เล็กจึงจำเป็นต้องโกหกผู้พิพากษาทั้งสองว่า....
‘เธอแอบให้ญาติที่อยู่ประเทศจีน ไปขอเพื่อนที่ทำงานในค่ายเพลงที่ตี่ตี๋สังกัดอยู่มาให้”
ซึ่งว่านแก้วกับลิลลี่ก็เชื่อสนิท แต่ก็แอบงอนนิดๆเพราะว่าโอ๋เล็กไม่ยอมขอบัตรเผื่อบ้าง
“กริ๊ด!!!!อกอีลี่จะแตก ตี่ตี๋ ตี่ตี๋ มีแฟนแล้ว” เสียงลิลลี่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้องเรียน
“นี่ดูข่าวในหนังสือนี่สิ” เพื่อนๆในห้องต่างกรู่เข้ามามุ่งดูหนังสือในมือลิลลี่
“ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังก้องเอเชีย เทพบุตรขวัญใจสวยๆทั้งหลาย ตี่ตี๋ มีข่าวว่าตอนนี้กำลัง In Love กับสาวปริศนา นามว่า ‘เสี่ยวอ้าย’ ซึ่งเป็นคนนอกวงการและที่สำคัญเธอคนนั้นเป็นคนไทยด้วย เห็นทีงานนี้สาวทั้งหลายคงต้องเตรียมอกหักกันทั้งเอเชียแน่นอน ขอบอก”
พอลิลลี่อ่านข่าวจบเสียงกริ๊ดของบรรดาสาวจริง และสาวปลอม(พวกเดียวกับเฉลิม)ก็ดังกึกก้องทั่วห้อง ต่างสงสัยกันว่าผู้หญิงไทยที่โชคดีคนนั้นคือใคร โดยไม่มีใครแอบสังเกตเห็นว่า โอ๋เล็กผู้ที่คลั่งไคล้ตี่ตี๋เป็นชีวิตจิตใจนั้นเอาแต่นั่งอมยิ้มอย่างเงียบๆ ไม่สะทกสท้านกับข่าวที่ได้ยินเลยสักนิด
THE END
BY
.TANYINGLIN
ผลงานอื่นๆ ของ tanyinglin ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ tanyinglin
ความคิดเห็น