ไอจีสตรอรี่เป็นเหตุ
I love เข้าพรรษา
I love ข้าวต้มมัด
นี่เป็นสตรอรี่ไอจีที่ผมเปิดซ้ำไปซ้ำมา ถ้าเปรียบผมเป็นน้ำแข็งก้อนใหญ่เหมือนมันจะถูกทำให้ละลายสลายไปในพริบตา
ดวงตาของเธอกลมโตเป็นประกาย แต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน แม้จะมีฟิลเตอร์หมีสามตัว ตัวหนึ่งเป็นหมีพนด้า อีกตัวเป็นหมีสีน้ำตาล ส่วนตัวสุดท้ายเป็นหมีสีขั้วโลกสีขาว อยู่บนใบหน้าอันแสนหวานของเธอ ฉันดูไปยิ้มไปถ้าสตรอรี่ไอจีมันเล่นได้นานกว่านี้คงจะดีมาก จะกดย้อนไปย้อนมาถ้ามันบอกยอดวิวได้แบบยูทูปฉันนี่แหละคนปั๊มยอดวิวให้เธอะเอง
แต่ขึ้นชื่อว่างานดี ผมก็ได้แค่ใช้สายตาสาส่องไปยังหน้าจอ จะให้ผมบอกว่าหยุดทำตัวน่ารักแบบนี้ได้ไหมก็คงไม่ได้
ผมไม่รู้จะเอื้อนเอ่นบทสนทนาอะไรกับช่องแชทนั้น แม้ผมอยากจะทักทายอยู่เสมอยาวเมื่อได้เปิดดูข้อความ ไม่มีที่ผมจะไม่เลื่อนเข้าไปดู กดชื่ออักษรภาษาอังกฤษ แล้วกดเข้าไปดู ไม่ออนก็แล้วไปถ้าออนผมก็รู้สึกกระปี้กระเปร่า แต่ก็ไม่ได้ทักไป
พอวันไหนมีใจกล้ามันเข้าสิง พิมพ์ไว้ดิบดีอย่างกับเรียงความสุดท้ายก็กดปุ่มลบยาวๆ กลายช่องแชทเปล่าเช่นเคย
ผมเคยเลื่อนไปดูข้อความเก่า มีช่วงเวลาที่เหมือนจะคุยกันไปด้วยดี แต่ข้อความไม่ได้ต่อเนื่องสักเท่าไร เป็นการบอกเป็นนัย
มันไม่ใช่ความผิดอะไรของเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะคนที่เริ่มและคนที่จบต้องเป็นเดียวกัน ถ้าอีกฝ่ายไม่มีใจใคร่ชอบด้วยแล้ว
เธอบอกผม “คุยกันไปก่อน เธอยังไม่อยากมีแฟน”
เธอออกจะชัดเจนในความสัมพันธ์ แต่มันน่าแปลกที่เธอยังไม่เคยมีแฟน แต่ก็ไม่แปลกอีกเพราะเธอเองเลือกที่จะไม่มี
ถ้าพูดถึงทรวดทรงองเอว หน้าตา รูปปาก ผิวพรณ มันคือส่วนลงตัวที่ผู้หญิงคนหนึ่งมีครบครัน เธอไม่ใช่คนโดดเด่นออกจะเงียบขรึม (อาจจะเป็นเพราะฉันไม่ได้สนิทกับเธอ) แต่ก็ไปสืบสาวราวเรื่องจากเพื่อนของเธอบางคนก็ได้ความว่า เธอก็คุยเก่งแต่เฉพาะกับคนที่สนิท เพราะตอนที่มีกิจกรรมที่มีโอกาสได้พบหน้าสบตาเธอ ไม่เคยได้ยินเสียงเธอเต็มๆสักที
ได้ยินเพียงเสียงขอบคุณค่ะ แผ่วเบาที่เสียงยังอยู่ในคอคล้ายกับกลัวอีกฝ่ายจะได้ยินเสียที่ไพเราะแล้วหลงมันเข้าให้
ขาของเธอแม้จะใส่กางเกงขายาว แต่ก็รับรู้ถึงขาที่ไม่เรียวแบบตะเกียบและไม่ใหญ่จนเกินไป ก็ผมบอกแล้วไงเธอคือความพอดี ความพอดีที่ผู้หญิงคนหนึ่งพึงจะมีมัน และมีครบไปเสียหมด ยิ่งท่าเดินเฉิดฉายของเธอ อาจจะดูเก๊กไปหน่อย แต่ก็ดูอ่อนช้อยเป็นผู้หญิงเรียบร้อย โดยเฉพาะวันที่เธอใส่กระโปรง ลมพัดแผ่วเบาพอให้กระโปรงขยับ ผมอยากจะลอยไปกับสายลมที่ได้ชื่นชมตัวเธอ ซึ่งผมก็ได้แต่มโนยิ่งเธอเป็นคนที่ชอบอยู่กับเพื่อน ยากที่ผมจะพาตัวเองโอบไปกับสายลมแทรกสอด ผ่านช่องว่างระหว่างเธอและเพื่อน
รู้มั้ยครั้งสุดผมทำอะไรลงไป หลังจากแชทที่เคยได้คุยกับเธอบ้างร้างราไปเป็นปี อยู่ดี ๆวันนั้นเห็นเธอตรงสะพานลอย นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์วิน กำลังจะจอดลง ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ในหัวก็ครุ่นคิดว่าจะทักทายเธอดีไหม แล้วยังทักว่าอะไร
ทักแล้วเธอจะตอบไหม ถ้าตอบแล้วผมจะทำอย่างไรต่อ ผมก็เดินไปต่อไปแล้วก็ตัดสินใจระหว่างเดินอยู่นั่นแหละเป็นไงเป็นกันแค่อยากทักทายเธอก็เท่านั้น
“ใช่เธอไหมตรงสะพาน”ข้อความจากผมในรอบหลายเดือน
“ใช่ๆ” อีกสักพักเธอก็ตอบกลับมา
ผมอั้มอึ้งสักพัก ทั้งดีใจ ตื่นเต้น แล้วจะทำยังไงต่อในเมื่อเธอตอบกลับมา ไม่มีประโยคคำถามตามมา มีเพียงประโยคคำตอบแค่นั้น ผมทำอะไรลงไป ทักเธอไปทำไม คิดถึงเธอเหรอ อยากทักทาย ยังชอบเธออยู่อีกเหรอ ผมเป็นอะไรเนี่ย
“โอเคครับ” ใช่ผมตอบกลับไปแค่นั้น แค่นั้นแหละ
ปิดอินเตอร์เน็ตไม่อยากรับรู้ว่าเธอจะอ่านข้อความจากผมอีกไหม ถ้าเธออ่านก็คงคิดในใจว่ามันเป็นบ้าอะไรของมันขึ้นมาอีก ถ้าไม่อ่านผมก็อาจจะเสียใจหรือดีใจที่ไม่ต้องไปทำอะไรให้เธอขุ่นเคืองหมองใจอีก
ปรากฏว่าเธออ่าน แล้วผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ปล่อยแชทไว้แบบนั้น ไว้แบบนั้นแหละ
“เรื่องมันก็เป็นประมาณนนี้” มึงเข้าใจกูไหมเพื่อน
“กูไม่เข้าใจ ว่ามึงทำแบบนี้ทำไม” เสียงเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้ามตอบกลับ
“กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” ผมตอบมันกลับไปอย่างงี้
“กูยังชอบเขาอยู่เหรอ ไม่น่าใช่เพราะระหว่างนั้นที่ไม่ได้คุย กูก็เจออีกคนที่กูชอบหรือกูไม่ได้ชอบวะ”
“เรื่องของมึง ไปถามตัวเองให้แน่ใจก่อน กูไปละเม่ง เสียเวลา” เพื่อนลุกแล้วโบกมือจากไป
ผมยังจ่อมจมอยู่กับความรู้สึกสับสน ผมว่าช่วงที่ไม่ได้คุยกัน ผมแทบจะลืมเรื่องเธอไป แต่พอมีอะไรมากระตุ้น
I love เข้าพรรษา
I love ข้าวต้มมัด
ผมอยากจะพิมพ์ตอบไป I Love you ได้ไหม
นั่นแหละผมก็ได้แค่คิดแล้วก็อมยิ้ม ดูวกวนไปมากลัวเจ้าตัวจะรู้ สอบถามใครต่อใครก็บอกว่าหายห่วง เจ้าตัวไม่รู้ว่าใครส่องสตอรรี่กี่รอบ หลังจากสบายใจเรื่องนี้แล้ว ผมก็เข้าไปดูอีกหลายรอบ แววตากลมโต หน้านวล ชวนมอง
ระหว่างที่ผมกำลังพิมพ์ผมว่าจะเข้าไปอีกสักรอบ (ผมไม่รับประกันเหมือนกัน) ก่อนจะหายไปหลังจากครบ24 ชั่วโมง
แล้วคุณคิดว่า ผมยังชอบเธออยู่ไหม (ผมไม่ใช่ไอจีสตรอรี่ที่มีความจำแค่24ชั่วโมงนะ)