คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : The Eleventh Story ' Remember Me' (Intro)
- Intro -
เรื่องของไสยศาสตร์ ความเชื่อ หรือวิญญาณ เป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้
ไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่ามันมีอยู่จริง เห็นได้ด้วยตาเปล่า สัมผัสได้
ความเชื่อ.. ของคนที่อยู่ในกฏเกณฑ์ของวิทยาศาสตร์ อย่าง ’ผม’ ไม่มีทางเชื่อ
แต่เพราะเป็นเธอ ... ผมถึงเชื่อ ว่าเธอกลับมา
แม้ว่าไม่ใช่ฐานะคนๆเดิม แต่ผมรู้สึกได้ว่า.. นั่นแหละ คือ เธอ...
คนที่ผมเชื่อว่า.. เธอคือความรักบริสุทธิ์ ที่ผมมอบให้เธอ .. ไปแล้ว.. ตั้งแต่ตอนนั้น ..
ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ หรือใครตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้
พูดไปใครจะไปเชื่อ .. ว่าฉัน .. ยังไม่ตาย
ใครจะไปเชื่อ ... ว่าเรื่องวิญญาณสลับร่างจะมีอยู่จริง
ฉันเองก็ไม่เชื่อ ... แต่เพราะเกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ ฉันถึงได้เชื่อ
แล้วเขาเชื่อฉันหรือเปล่า ... เราอยู่ใกล้กันขนาดนี้ .. เธอเชื่อใช่มั้ยว่า ‘ฉัน’ คือคนๆนั้น
คนที่เธอเคยรัก ฉันเคยรักเธอ ... เธอเชื่อหรือเปล่าว่าฉันเป็นคนๆนั้น ..
ภายในห้องกระจกปลอดโปร่งบนอาคารของโรงพยาบาลเก่าแก่และมีชื่อเสียง มีสติ๊กเกอร์ขนาดใหญ่แปะเอาไว้ที่หน้าห้องเขียนว่า เขตปลอดเชื้อ ร่างของคนทั้งสองที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นอนเคียงข้างกันบนเตียงผู้ป่วย แต่คนละฝากฝั่งของห้อง สายระโยงรยางค์ของเครื่องมือทางการแพทย์หลายชนิดนับไม่ถ้วนพันรอบตัวของผู้ป่วยทั้งสองแลดูเหมือนเถาวัลย์พันเกี่ยวต้นไม้ก็ไม่ปาน
คงเป็นเรื่องบังเอิญ...ที่หญิงสาวทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน อาการป่วยเดียวกัน สภาวะการทำงานของหัวใจผิดปกติเช่นเดียวกัน ไม่สามารถหายใจได้เองเหมือนกัน และเธอ.. ต่างก็เป็นเจ้าหญิงนิทรามาแล้วในเวลาเท่าๆกัน..
เขายืนมองร่างของหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงฝั่งซ้ายของห้องผ่านทางกระจกผนังของห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตาเต็มไปด้วยความหวังและการรอคอย หวังว่า.. คนที่นอนอยู่ตรงนั้นจะลืมตา แล้วลุกขึ้นมานั่งพูดคุยกับเขาอีกครั้ง มือทั้งสองทาบกระจก ไม่ขยับไปไหน สายตายังคงจับจ้อง แทบจะไม่อยากกระพริบ นึกในใจอยากจะทุบกระจกทิ้ง และเดินเข้าไปเขย่าตัวคนขี้เซาที่นอนอยู่ได้
ตื่นขึ้นมาคุยกับเขาได้แค่สามวัน แล้วหลับลงไปอีกทำไม?
ในหัวสมองวนเวียนอยู่แค่นี้ จนลืมนึกไปว่า หน้าที่ของตัวเองในตอนนี้ที่มีสถานภาพนักศึกษาแพทย์พิเศษที่ถูกเรียกตัวมาช่วยอาจารย์ทำงาน เขายืนนิ่งไม่เดินไปไหนเลย แม้กระทั่งอาจารยืเรียกตัวก็ยังไม่ไป !
“น้องบุ๊คคะ อาจารย์หมอเรียกพบค่ะ” พยาบาลสาวพยายามสะกิดแล้วสะกิดอีกให้นักศึกษาแพทย์ที่ยืนแน่นิ่ง ตกอยู่ในภวังค์ได้สติ และสนใจที่ตนเรียกเขา แต่ทำยังไงแล้วเขาก็ยังคงมองแต่คนที่นอนในห้องนั้น
“นักศึกษาแพทย์บริรักษ์ อู้ง้าน หยิ่งยโส ไม่ยอมมาพบอาจารย์จนต้องให้อาจารย์มาตามถึงนี่ !” เสียงพิฆาตของอาจารย์หมอผู้เป็นอาแท้ๆของเขาเอง ทำให้ชายหนุ่มร่างสูงใจลอยได้สติทันที
“ผมเปล่านะ.. ผมแค่... =[]=”
“ไม่ต้องมาแก้ตัว เดี๋ยวให้เฝ้าห้องดับจิตเพิ่มซะหรอกนะ!”
“พอแล้วครับอาหมอ ผมกลัวจนขี้หดตดหายแล้ว”
“อยู่ที่นี่ฉันไม่ใช่อาแก! แกเป็นนักศึกษาแพทย์ปี 2 ที่อยู่ในชั้นเรียนพิเศษของฉัน” คุณหมอรุ่นดึกทำหน้าโหดพลางจะเอาแฟ้มเขกหัวหลานชายตัวดีก่อนจะมองเข้าไปในห้องกระจกนั้น .. เขาเป็นแพทย์เจ้าของไข้ของหญิงสาวทั้งสองคนภายในห้องนั้น
“ฉันไม่แน่ใจว่านัตจะฟื้นขึ้นมามั้ย แม้ร่างกายด้านในจะทำงานอยู่แต่มันอ่อนแรงมาก มันอยู่ที่ใจของนัตว่านัตจะอยากอยู่ต่อไปหรือเปล่า..”
บุ๊คได้แต่พยักหน้าพยายามจะเข้าใจ เขารู้ดีว่าอาการป่วยเป็นหลักวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์กันได้เห็นๆ วิธีการรักษาทีมแพทย์ทุกคนพยายามช่วยเหลือ ‘เธอ’ คนที่เขารัก รักในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ที่ไม่อยากให้เธอตายจากไปไหน .. ไม่สิ เขาไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกต่อเธอแบบไหนกันแน่ .. แม้ตัวเขาเองจะมีใครอีกคนที่อยู่ฐานะ ‘แฟน’ อยู่แล้ว เขาสับสนกับหัวใจตัวเองอีกครั้ง เมื่อเธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา .. และเขาต้องการที่จะดูแล และรักษาเธอ
“ส่วนคนไข้อีกคน ... โห อ่อนแอกว่าเยอะ อาการเดียวกัน แต่เหมือนใจเขาจะไม่สู้ อาจจะไปก่อน ...”
“ไม่ๆ ผมสนแค่ว่าเพื่อนผมจะฟื้นหรือเปล่า... ผมไม่ได้สนคนอื่น”
“จรรยาบรรณแพทย์แกคงต้องไปเรียนใหม่ อย่าลำเอียงในการเลือกรักษาหรือใส่ใจอาการคนไข้ !” แฟ้มพิฆาตฟาดลงบนหัวของบุ๊คอีกครั้ง ก่อนแพทย์เจ้าของไข้จะเดินเข้าไปในห้องกระจกนั้นเพื่อตรวจสภาพร่างกายคนไข้ประจำวัน
ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม..
อัตราการเต้นของหัวใจต่ำกว่าปกติ...
อัตราการหายใจไม่สม่ำเสมอ แผ่วลงบ้าง ดีขึ้นบ้าง..
เป็นอย่างนี้ทุกวัน ...
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด..
เสียงเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจกำลังทำงานไปอย่างปกติของมันทุกวัน เขาจดบันทึกค่าที่อ่านได้ลงไปในแฟ้มพลางถอนหายใจสลับกันไป วันนี้เป็นวันแรกที่เขาได้เข้ามาดูและตรวจอาการป่วยของเพื่อนตัวเองที่นอนแน่นิ่งอยู่เอง เพราะอาหมอเจ้าของไข้ติดประชุม อาหมอไว้ใจในตัวหลานชายว่ามีความสามารถพอที่จะทำได้ เพราะบุ๊คเป็นคนที่เก่งที่สุดในชั้นปี
“เธอตื่นมาคุยกับฉันสิ.. ตื่นได้แล้ว” เขาคงเหมือนพระเอกในหนังที่นั่งคุยกับนางเอกที่นอนแน่นิ่งไม่พูดไม่จา แต่ความจริงเขาไม่ใช่..
เขาเดินไปที่เตียงอีกฟากฝั่งของห้อง คนไข้ที่เขาไม่รู้จัก ใครก็ไม่รู้ที่เขาไม่สนใจ เขาเลื่อนแฟ้มอ่านประวัติของคนไข้คนนั้นก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความขำ
“ชื่อณัฐกานต์.. ? เหมือนนัตเลยแฮะ”
และเมื่อเลื่อนลงมาอีก มีชื่อเล่นที่พยาบาลเขียนโน้ตเอาไว้ มันทำให้เขาตกใจไม่ใช่น้อย
“นัต .. เขียนเหมือนกันด้วย?” เขามองเตียงทั้งสองสลับไปมา ทุกอย่างเหมือนกันหมด ต่างแค่.. รูปร่างและหน้าตาของคนทั้งคู่เท่านั้น เขานึกสงสัยในใจว่าทำไมทุกอย่างมันช่าง.. บังเอิญเหมือนขนาดนี้ แต่ช่างเสียประไร คนที่เขาสนใจ คือคนที่นอนอยู่อีกด้านต่างหาก
“ยัยนี่อ้วนกว่านัตเยอะ =^=”
เขาเป็นแค่ผู้ชายปากเสียคนหนึ่งเท่านั้นแหละ ! แม้แต่คนไข้ที่นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราเขายังแอบว่าได้ลงคอ !
ในคืนวันที่ฝนตกพายุโหมกระหน่ำ เขากำลังถือแฟ้มอาการคนไข้จากห้องต่างๆของตึกผู้ป่วยในไปเก็บที่ระเบียนคนป่วย จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ เขาตั้งใจจะไม่รับสายเพราะต้องเคลียร์งานตรงหน้าให้เสร็จก่อน แต่เมื่อมันดังจนทำให้เขารำคาญ เขาจึงต้องรับสายด้วยอาการหงุดหงิด
“บุ๊ค .. บุ๊ค ! ฮึก.. นายอยู่ไหน”
“อะไรยัยฮันนี่ มีอะไร ? ร้องไห้ทำไม”
“ขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ .. นัต ฮึก .. นัตแย่แล้ว .. ฮึก รีบขึ้นมา”
เขาไม่ฟังเสียงจากปลายสายต่อ เขาฉลาดพอรู้ว่าสถานการณ์เป็นเช่นไร เขาทิ้งงานที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะรีบวิ่งออกไปห้องนั้น เขาไม่รอลิฟท์ที่มันเคลื่อนช้า ประตูไม่เปิดออกมารับให้เขาเข้าไปสักที เขาทิ้งเสื้อกาวน์ที่ได้มันมาก่อนคนอื่นในชั้นปี เขาทิ้งทุกอย่างที่จะทำให้เขาวิ่งไปที่ห้องกระจกนั้นได้ไวที่สุด รองเท้า ถุงเท้า เสื้อกาวน์ หูฟัง เขาทิ้งมันตามรายทางพลันทำให้คนแถวนั้นงุนงง เมื่อเขามาอยู่ที่หน้าห้องกระจก เขาเห็นภาพทุกคนกำลังร้องไห้ แม่ พี่สาว น้องสาว และเพื่อนสาวคนสนิทของนัตต่างก้มหน้าร้องไห้แข่งกับฝนที่ตกกระหน่ำด้านนอก เขาเดินช้าลง ก่อนจะเข้าไปในห้องกระจกนั้นโดยไม่คิดอะไร ไม่สนใจคำห้ามปรามของพยาบาล ไม่สนใจคนทักท้วงไม่ให้เขาเข้าไป
“เข้ามาไม่ได้บุ๊ค แกไม่ได้ใส่ชุดปลอดเชื้อ มันจะอันตรายต่อคนไข้เตียงข้างๆ” อาหมอพูดกับเขาก่อนจะหันไปสนใจอาการคนไข้ของนัตต่อ สายระโยงรยางค์ถูกถอดออกไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงเครื่องช่วยหายใจกับ เครื่องวัดอัตรการเต้นหัวใจเท่านั้น
“ห้ามผมไม่ได้แล้ว ผมเข้ามาแล้ว”
อาหมอไม่ได้พูดต่อ ได้ส่ายหน้าเบาๆ เขาเองเริ่มไม่มั่นใจในสิ่งที่เห็นตรงหน้า ทุกอย่างทำงานช้าลง ทำไมชีพจรถึงได้แผ่วนักล่ะ ทำไม..การหายใจดูโรยรินทั้งๆที่มีเครื่องช่วยหายใจอยู่ คำถามมากมายผุดขึ้นมาในสมองของเขา เขาพยายามงัดความรู้ทุกอย่างที่มี เท่าที่นึกได้ออกมา แต่.. กับสถานการณ์ตรงหน้า ความรู้ที่มีมันไม่ช่วยอะไรได้เลย เขาก็แค่นักศึกษาแพทย์ปี 2
ติ๊ด ... ติ๊ด... ติ๊ด... ติ๊ด... ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
เขาทรุดตัวลงไปกับพื้นทันทีที่สายตามองเห็นและได้ยินเสียงเครื่องวัดชีพจรแสดงผลว่าคนที่นอนอยู่ตรงนั้น ..ไม่อยู่แล้ว น้ำตาจากคนที่ร้องไห้ยากอย่างเขาพลันไหลออกมาแบบที่กลั้นไม่อยู่ มือของเขาพยายามเอื้อมไปจับมือของคนที่นอนอยู่ แต่เอื้อมไม่ถึง เพราะตัวเขาอ่อนแรง ได้แต่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น อาหมอได้แต่ตบบ่าเขาเชิงบอกเป็นนัยว่าทำใจซะ ก่อนจะออกไปพูดคุยและบอกสิ่งที่เกิดแก่ครอบครัวของคนไข้
“ผิดสัญญา ไหนบอกว่าจะให้ฉันเป็นคนทำคลอดให้เธอคนแรก ทำไม?..” เขาร้องไห้ออกมาโดยไม่อายใครแถวนั้น เผลอๆ ร้องมากพอๆกับสาวๆด้านนอกห้องเสียอีก ราวกับว่า.. เขาเองเป็นคนรักของเธอ และเธอเป็นคนรักของเขา ทั้งๆที่สถานะนั้นมันเป็นเมื่อนานมาแล้ว ไม่ใช่ในตอนนี้...
เปลวควันล่องลอยออกจากปล่องของเมรุเผาศพ ท้องฟ้าในยามนี้ไม่สดใสเอาเสียเลย มีแต่ความหม่นหมองเพราะเถ้าควันหรือเพราะในจิตใจไม่มีความสว่างสดใสก็ไม่รู้ เขายืนมองควันที่ลอยบนท้องฟ้าพลางกอดไดอารี่เล่มสีชมพูสดใส ครั้งที่คนที่จากไปได้เคยทำให้ไว้ ในสมัยที่รักกันแน่น แม้เจ้าของจะบอกว่ามันเป็นความรักแบบเด็กๆ ของเด็กอายุสิบสี่สิบห้า ไร้สาระ แต่เขากลับไม่เคยมองว่าไร้สาระ มันเป็นเรื่องราวที่ทำให้เขายิ้มได้
แต่วันนี้.. เขาจะยิ้มได้อีกมั้ย.. ในเมื่อเธอได้จากไปแล้ว
“เก็บเอาไว้มั้ยลูก?”
“ครับแม่จิ๊ก?” เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ ก่อนจะเอาแขนเสื้อปาดน้ำตาตัวเองไม่อยากให้ใครเห็น
“อยากให้นัตอยู่ด้วยมั้ย?” รอยยิ้มบางๆของผู้เป็นแม่ของนัตส่งมาให้เขาพร้อมกับห่อผ้าที่บรรจุเถ้ากระดูก เขาไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่พยักหน้าและฝืนยิ้มกลับไปให้แก่หญิงวัยกลางคน
“นัตไม่ชอบให้ใครฝืนยิ้มนะ :) ดูแลนัตด้วยนะ” เธอตบบ่าเขาก่อนจะเดินไปพร้อมกับห่อผ้าบรรจุเถ้ากระดูกที่หลายๆห่อเล็ก เขามองห่อผ้าในมือแล้วเก็บมันสอดเข้าไปในไดอารี่ที่คนบนท้องฟ้าได้เขียนไว้ให้เขา
“คุณได้ตัวนัตไปอยู่ด้วยแล้ว .. สมใจมั้ย?” เขาเผลอพูดอย่างที่อยู่ในด้านมืดของจิตใจ เขารู้ตั้งแต่ต้น รู้ว่าทำไมจู่ๆเธอต้องมาจากไป ทำไมเธอถึงป่วย ทำไมเธอถึง.. หนีเขาไป
‘อะไรกัน ร่างของฉันโดนเผาไปแล้ว ฉันจะกลับเข้าร่างได้ยังไงกันคุณยมทูต’
‘ออกจากร่างไปเที่ยวเล่นเพลินเอง’
‘ไหนท่านบอกว่าฉันยังไม่หมดอายุขัยไง!’
‘ก็ยัง แต่ร่างของเจ้าเป็นเถ้าธุลีหมดแล้ว’
‘ก็แปลว่า..ฉัน...’
‘เป็นวิญญาณเร่ร่อน’
‘ไม่เอานะ !’
‘เจ้าซนทำไมล่ะ? มีอยู่อีกทาง ตามบัญชีแล้วมีวิญญาณตนหนึ่งหมดอายุขัยแล้วแต่ร่างยังอยู่’
‘ฮะ? อะไรนะคุณยม’
‘ยมทูต =_=’
‘นั่นแหละๆ’
‘เจ้าเต็มใจจะไปอยู่ร่างนั้นมั้ยล่ะ ?’
‘คะ?’
‘จนกว่าเจ้าจะหมดอายุขัย ถ้าไม่อยากเร่ร่อน เจ้าไปอยู่ร่างนั้นได้’
‘ใคร?’
‘คนที่นอนอยู่ในห้องกระจกห้องเดียวกับเจ้านั่นไง’
‘....’
‘แต่เจ้าต้องทำใจเอาไว้ว่าเมื่อใดที่เจ้าอยู่ร่างนั้นแล้ว ก็แปลว่าเจ้าเป็นคนอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเจ้า ไม่มีใครจำเจ้าได้ แต่เจ้าจะมีความทรงจำในชีวิตเดิมของเจ้า แต่มันจะตีกันกับความทรงจำของเจ้าของร่างนั่นด้วย’
‘ทำไมล่ะ?’
‘เป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่ยมทูตอย่างข้าก็ไม่เข้าใจ =_=’
‘ตอนท่านเป็นมนุษย์ท่านไม่ตั้งใจเรียนวิทย์หรอ’
‘เจ้านี่มันน่านัก ! นี่ยมทูตนะไม่ใช่เพื่อนเล่น ตกลงว่ายังไง?’
‘เอ่อ...’
‘เด็กผู้หญิงคนนั้นมีหลายอย่างเหมือนกับเจ้า ต่างก็แค่หน้าตา แต่ทุกอย่างเหมือนกันหมด ทั้งชื่อ นิสัย ลักษณะทางครอบครัว เจ้าพร้อมจะสละชีวิตเดิมเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นวิญญาณเร่ร่อนมั้ย? วิญญาณเร่ร่อนไม่ปลอดภัยหรอกนะ’
‘ทำให้ข้าหมดอายุขัยเลยได้มั้ย ถ้าอย่างนั้น..’
‘ทำได้ที่ไหนกันล่ะเจ้าปัญญาอ่อนใช่มั้ยเนี่ย ตกลงยอมหรือไม่ สวรรค์ไม่ได้ใจร้ายอะไรกับเจ้านักหรอก มีอยู่สองสามคนที่จะจำเจ้าได้’
‘ใครบ้าง?’
‘ข้าตอบไม่ได้แล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต ตกลงจะเอาอย่างไร? ถ้าเป็นวิญญาณเร่ร่อนข้าอยู่กับเจ้าไม่ได้นะ ข้าจะมาเจอเจ้าอีกทีเมื่อเจ้าหมดอายุขัย’
‘โอเคๆ ตีๆกันไปเป็นคนบ้าแน่ๆ’
‘ตามนั้นนะ ตกลง ขอให้โชคดีกับร่างใหม่’
“คุณหมอคะ!!!! คนไข้ฟื้นแล้วค่ะ !!!!”….
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต้องบอกก่อนว่าฟิคเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ่นจริงใน Lovevilla ในปัจจุบัน
เป็นฟิคที่แต่งเก็บไว้นานแล้ว แล้วรู้สึกว่าอยากแต่งต่อ
ดังนั้นอิมเมจ อาจไม่ตรงกับ Lovevilla และไม่ได้ใช้ใน Lovevilla
This is Fiction not true story
:) Shalunla ( Support : Internet Explorer / Firefox )
ความคิดเห็น