If not you ถ้าไม่ใช่นายก็ไม่ใช่ - นิยาย If not you ถ้าไม่ใช่นายก็ไม่ใช่ : Dek-D.com - Writer
×

    If not you ถ้าไม่ใช่นายก็ไม่ใช่

    “นาย อู๋เซี่ยเหลียนนายคุมอารมณ์ตัวเองหน่อยได้ไหม!!” ผมบอกเขาทันทีที่เขาถอนริมฝีปากออก อู๋เซี่ยเหลียนเหมือนไม่ได้สติ เขาค่อยๆถอดเสื้อผ้าผมออกช้าๆ ตามมาด้วยเสื้อผ้าของเขาเหมือนกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    297

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    297

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 ส.ค. 65 / 01:50 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สวัสดีผู้อ่านทุกคน ผมชื่อเสิ่นฉางหยู เป็นนักศึกษามหาลัยX อยู่ปีหนึ่ง ผมหน้าตาดีมากๆเลยล่ะผมไม่ได้อวยตัวเองนะเพื่อนๆผมบอกมา ผมเป็นคนผิวขาว มีผมสีฟ้า รูปร่างเล็กแต่มีซิกแพคนะครับมาลองลูบไล้ได้ฮ่าๆ ล้อเล่นครับล้อเล่น ปัจจุบันผมเป็นแค่นักแสดงที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไหร่ เอ..หรือว่ามีมั้งนะแหะๆ อาจจะเป็นเพราะผมหน้าหวานเกินผู้ชายด้วยมั้งครับกระแสเลยค่อนข้างเงียบ แต่ช่างมันครับขอแค่ได้แสดงมีตังมาส่งตัวเองเรียนก็พอแล้ว ใช่แล้วครับผมจนฮ่าๆ 

              “เฮ้ เสิ่นฉางหยู ฉางยู้ มองมาทางนี้สิเจ้าทึ่ม” อ่า..คนที่เรียกผมแบบนี้มีแต่เพื่อนผมเท่านั้นแหละครับ

              “ไง เสี่ยวเยว่” ผมทักทาย ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยใบหน้าที่คิดว่าน่าจะเป็นมิตรกับตรี..เอ้ย เท้าเพื่อนมากกว่าให้เสวี่ยวเยว่

              “ยิ้มแบบนี้คาดว่านายจะหิวเท้า” โป๊ะเช๊ะเลยเห็นไหมล่า ยิ้มแบบล่อเท้านี่จริงใจสุดๆแล้วครับ

              “ไม่กล้านะไม่กล้า นายมาหาฉันแต่เช้ามีอะไรรึเปล่า” ผมถามขณะที่มือก็สาละวนอยู่กับการยัดเสื้อเข้าในกางเกงให้เรียบร้อย เพราะผมกำลังจะต้องเดินขึ้นตึกไปเข้าห้องเรียน

              “คืนนี้ไปผับกับฉันหน่อยสิ”

              “ทะเลาะกับเหวิ่นอี้มารึไง” ผมถามแบบไอ้โบ้เลยละกัน เพราะกับเพื่อนคนนี้กินเพ็ดดีกรีไม่พักเลยครับ

              “รู้อยู่แล้วยังจะถาม”

              “ไปก็ได้ ถ้านาย..”

              “เออฉันเลี้ยง พอดีบ้านรวย”

              “โอเคดีล เจอกันพวกร้านเดอะทรัคที่เดิมตอนสามทุ่มใช่ไหม” ผมไม่ว่าเปล่า จับแขนเพื่อนคนนี้เขย่าเป็นอันรับรู้แล้ววิ่งหนีขึ้นตึกมาเลย เดี๋ยวเพื่อนเปลี่ยนใจฮ่าๆ 

              บรรยายเพื่อนผมสักหน่อย เสี่ยวเยว่ลูกชายนักธุรกิจชื่อดังบ้านรวยเวอร์วังอลังการสุดๆ แต่เสี่ยวเยว่เองก็ผันตัวมาเป็นนักแสดงเช่นกัน ผมสีทอง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกลมโต ผิวขาวตัวเล็กกว่าผมนิดหน่อยแต่ตัวสูงกว่าผมอยู่นะผมสูงร้อยเจ็ดสิบเก้า เสี่ยวเยว่สูงร้อยแปดสิบสองนับว่าสูสีล่ะเนอะ เสี่ยวเยว่เป็นคนตรงๆโนสนโนแคร์ตามสไตล์เด็กโดนตามใจล่ะครับ ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ประกาศชัดออกสื่อว่าตัวเองเป็นเกย์และได้คบหากับหนุ่มนอกวงการมาสักพักแล้ว ผมไม่ตกใจหรอกที่เพื่อนเป็นเกย์ (เพราะผมก็เป็น ฮา) แต่ที่ผมตกใจคือไอ้หนุ่มนอกวงการที่ว่าดันเป็นพี่รหัสผมนี่สิครับ ไปกินกันตอนไหนผมยังไม่รู้เลยเอิ้กๆ (ขอโทษท่านผู้อ่านที่เคารพผมอาจจะเผลอกินบะหมี่ที่น้ำซุปอาจจะผสมใบเขียวลงไปในหม้อก็ได้)

              “เสิ่นฉางหยูจ๋า นายมาพอดีเลย”

              “ไป๋หรง มายืนทำอะไรตรงนี้ไม่เข้าไปข้างในล่ะเพื่อนคนอื่นๆก็ด้วย” ผมทักทายไป๋หรง หญิงสาวสุดฮอตของคณะศิลปะการแสดง ผมแดงขับกับผิวสีขาวเธอมากๆ

              “นายไม่ได้ข่าวหรอ วันนี้อู๋เซี่ยเหลียนเขาย้ายมาเรียนกับเราที่นี่”

              “หา อะไรนะอู๋เซี่ยเหลียนนะหรอ เขาๆมาเรียนกับพวกเราหรอขอฉันดูหน่อย” ผมไม่ว่าเปล่าผลักหัวไป๋หรงออกไปด้วยความตื่นเต้น

              ไป๋หรง “....”

              นั่นมันเขา เขาจริงๆด้วยอู๋เซี่ยเหลียน ว้าวตัวจริงหล่อกว่าในจอเงินเป็นไหนๆ รูปร่างสูงโปร่ง อกผาย สะโพกสอบ ผมสีดำสนิท ผิวขาวราวกับหิมะ หน้าเรียวแต่คมรับกับจมูกโด่งๆคิ้วหนาๆนั่นเป็นอย่างดี หล่อ หล่อชิบเป๋งเลย เกิดกี่ชาติถึงจะหล่อได้สมบูรณ์แบบอย่างเขาได้

              “เสิ่นฉางหยู นายอยากตายรึไง” เสียงเย็นๆเนิบๆดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากผมนัก รู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆแฮะ

              “อ่า ไป๋หรง” ผมผิดไปแล้ว ตอนนี้ไป๋หรงน่ากลัวเอามากๆเลยล่ะครับท่านผู้อ่าน หน้าแบบโกรธสุดขีด ไอหยา เลือดกำเดาใช่ไหม

              “อ่า ไป๋หรงงั้นหรอ ตายตอนนี้เลยไหม?!!” 

              “อ๊ากกก ฟ้าดินเป็นพยานถ้าผมตายวันนี้แสดงว่านังมารชั่วร้ายไป๋หรงฆ่าผมนะครับ ขอให้พระทำโทษอย่างหนักด้วยเถอะ” ผมร้องลั่นขณะที่ไป๋หรงกระชากผมของผมวิ่งไปทั่ว

              (ปุกาศ ปุกาศ เกิดเหตุฆาตรกรรมสยองขวัญเกิดขึ้น คาดว่าผู้ตายถูกหยุมหัวโดยไม่ทราบสาเหตุ) 

              ไอ้คนเขียนหุบปากไปเลย!!

              “พระทำโทษบ้านนายสิ” หลังจากหยุมผมเสร็จเป็นเรียบร้อยพวกเราก็เจรจาสงบศึก

              “ขอโทษครับไป๋หรง ผมไม่รู้จริงๆว่าผมผลักโดนหัวของเธอไหนๆขอผมดูหน่อย หือตรงไหนนะตรงนี้หรอ พู่ววว หายแล้วนะครับคนดี” พูดจบผมก็ฉีกยิ้มหวานอันแสนบริสุทธ์ให้สาวน้อย

              อ่า ไป๋หรงหน้าแดงแฮะ หรือว่าเมากลิ่นปากผม

              “พู่ว ก็ไม่มีกลิ่นนะ”  (´͈ ᵕ `͈ )

              “นายทำบ้าอะไร เข้าคลาสได้แล้ว” พูดจบเจ้าหล่อนก็รีบจ้ำอ้าวไปเลย เอ้าเห้ย! หนีกันเฉยเลยแล้วฉันจะนั่งกับใคร วันนี้เสี่ยวเยว่หนีคลาส

              “เอาล่ะทุกคนตั้งใจฟังให้ดี ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีเพื่อนใหม่ขอย้ายเข้ามาเชิญคนอู๋เซี่ยเหลียนแนะนำตัว”

              “ฟู่ว หาที่นั่งได้สักที”

              “สวัสดีครับ ผมอู๋เซี่ยเหลียนยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ” ว้าวเชื่อเขาเลยในจอเย็นชายังไงนอกจอเย็นชายิ่งกว่า อ๊ะ เขามองมาทางนี้ทำไม เขาเดินมาแล้ว 

              ตึกตัก ตึกตัก โอ้วหัวใจเต้นแรงสุดยอด

              “ขอนั่งตรงนี้ด้วยคนนะครับ” 

              “ด..ได้ครับ นั่งเลย” สงบสติไว้ สงบไว้ นายจะตื่นเต้นไปทำไมผู้ชายเหมือนๆกัน

              “นายชื่ออะไร?” น้ำเสียงเย็นๆ ของอู๋เซี่ยเหลียนถามขึ้น เมื่อกี้เขาเรียกผมว่านายหรอ ตีสนิทผมงั้นหรอ (มโนแล้วจ้า มโนเรียบร้อยไปแล้ว)

              “เอ่อ เสิ่นฉางหยู” 

              “นายกับฉันเราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า”

              “ไม่เคยครับ” ผมตอบไปอย่างนั้นแหละ จริงๆแล้วผมเจอเขาทุกครั้งที่มีงานแฟนมีตติ้งหรือออกกองถ่ายแหะๆ เอ...หรือว่าเขาจำผมได้ตอนไปงานแฟนมีตติ้งกันนะ

              “หึ” 

              เหมือนผมได้ยินเสียงแค่นหัวเราะ ฮ่าๆแต่อาจจะคิดไปเอง

              กลางดึกคืนนั้นเอง

                “เห้ ฉางหยู เสิ่นฉางหยูนายมาสายตั้งสามนาทีแหนะ” อื้อหือ เสียงหวานใสแจ๋วมาเลย

              “โทษทีพอดีฉันอาบน้ำช้าน่ะ นายยังไม่ดีกันอีกหรอ”

              “ไม่ ไม่เลย เอาพี่รหัสนายคืนไปเลยนะ งี่เง่า งี่เง่าน่ารำคาญที่สุดเลย” ไหงเป็นงั้นไปได้ ตอนรักกันกันยังฮันนี่เบบี๋กันอยู่เลย 

              “ใจเย็นๆ นี่นายเมาก่อนฉันแล้วหรอ กินน้ำเปล่าหน่อยไหม?”

              “ไม่อาวว เอาเหล้ามาให้ฉันอีกหน่อยสิ”

              “ไม่ได้ นายเมาแล้วฉันขับรถนายไม่เป็นนะไปส่งนายคงลำบาก”

              “ก็จอดมันไว้นี่สิ ฉันจะไปนอนห้องของนาย”

              “เฮ้ยๆ หมวกจะร่วงแล้ว ปิดไว้ดีๆสิกลัวเขาไม่รู้หรือไงว่านายเป็นดาราเจ้าบ้า” ผมไม่ว่าเปล่ารีบกระชากหมวกปิดไว้ ให้ตายทำไมผมต้องมาเป็นเพื่อนกับไอ้หมอนี่ด้วย อ่า...จะปล่อยไว้แบบนี้ก็ไม่ได้

              “ฮัลโหล” ผมเรียกปลายสายทันทีที่ทางนั้นกดรับ

              “ฮัลโหล เสิ่นฉางหยูหรอ นายมีอะไร?”

              “เกอเกอ นายช่วยมารับเสี่ยวเยว่ได้ไหม หมอนี่คอพับไปแล้ว” 

              “ที่ไหน?” อ่า ทางนั้นเหมือนโมโหเลยแฮะ

              “เดอะทรัค ไม่ต้องเอารถมานะ เกอเกอมาขับรถหมอนี่ไปเลย”

              “อืม” 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น