คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #53 : Day 5 .:: ถูกหรือผิด ::.
THe REALITy 5
[WEEK 2 :: DAYS 5]
นกต่างบินโผออกกลับเข้ามาในรังของมัน ฟ้าเริ่มร้องคำรามมากยิ่งขึ้นจนเม็ดฝนเม็ดเล็ก ๆ เริ่มตกลงมาเป็นระยะ ๆ กลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าโบสถ์ต่างกำลังยืนอึ้งกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มหันมามองหน้าของเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า แก้มของเขาชาและแดงไปหมด
“นี่คุณตบผมเรื่องอะไรกัน?” ฌอร์นไม่คิดว่าเด็กสาวเปรี้ยวซ่าอย่างคิวคิวจะกล้าทำอะไรแบบนี้
“นายพูดออกมาแบบนี้ได้ยังไงกัน!!? นายไม่เป้นห่วงคนที่อยู่ข้างล่างบ้างเหรอ บางทีเขาอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราก็ได้ .. บางที ... ทุกคนข้างล่างกำลังรอพวกเราอยู่ ... แต่ทำไมนายพูดออกมาแบบนั้น” คิวคิวเหลืออดแล้วกับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“.....” เขาได้แต่นิ่งเงียบ มองใบหน้าของหญิงสาวที่เลอะไปด้วยคราบน้ำตาโดยที่เขาพูดอะไรไม่ออก
“แก ... ใจเย็นก่อนสิ” เก๋เก๋รีบเดินมาจับแขนของเด็กสาวเพื่อให้เธอใจเย็นลงกว่านี้
“นายน่ะไม่เข้าใจเหรอไง .. ว่าคนที่เสียของรักไปมันรู้สึกยังไง ... แล้วถ้าเกิดว่าคนที่อยู่ข้างล่างกลับเป็นนายบ้าง ฉันเชื่อ ว่านายกก็ต้องการความช่วยเหลือเมื่อกัน หัดเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างสิ ... หรือว่าคนมีการศึกษาอย่างนายจะไม่เข้าใจถึงความรู้สึกพวกนี้ .... การศึกษาดีแต่ทำตัวแย่ ๆ แบบนี้ ... อย่าหวังว่านายจะได้เพื่อนเลย บอกเอาไว้!!!” คิวคิวตะโกนใส่หน้าของชายหนุ่มมารยาทแย่คนนั้น
“แรงกว่า ...” นกยูงกระซิบกับดาร์จีลิ่งที่ยืนอึ้งอยู่ตรงหน้า
“ผมไม่ได้มาที่นี่เพราะผมมาตามหามิตรภาพอะไรไร้สาระพวกนั้น ผมมาที่นี่เพื่อแข่งขันเกม มันคือเกมนะคุณ ต่อให้คุณรักกันมากมายแค่นไหน สักวันถ้าคนที่คุณรักจากไป คุณจะเสียใจมากกว่านี้หลายร้อยเท่า เก็บอาการความรักจอมปลอมของพวกคุณไว้ในไม่ต้องแสดงออกมาให้เห็นหรอก ทุกคนก็มาที่นี่เพราะเงินกันทั้งนั้น หรือคุณจะบอกว่ามันไม่จริง!”
“ฉันไม่เถียงหรอกนะ เรื่องความคิดของคุณ แต่คุณลองคิดดูสิ คุณจะมาเล่นเกมตลอดเพื่อที่จะมาเป็นผู้ชนะโดยที่ไม่มีเพื่อนเลยยังงั้นเหรอ ... เราไม่จำเป็นต้องแสดงอาการแย่ ๆ อะไรออกมาหรือเฟคให้คนดูเห็นว่าเราเป็นคนดีหรอกนะ ถึงฉันจะไม่ใช่คนดีอะไร ... ถึงจะไม่ได้เรียนเก่งหรือฐานะดีอย่างคุณ แต่สิ่งที่ฉันมีดีกว่าคุณ .... คือฉันมีเพื่อนในขณะที่คุณกลับไม่มีเลยสักคน ....”
“พอเถอะ ...” อาร์มเริ่มห้ามศึก แต่ทว่าสองหนุ่มสาวกลับไม่ได้สนใจเสียงของเขาเลย
“งั้นเรามาพิสูจน์กันมั้ย ว่าคนอย่างพวกคุณกับมันสมองอัจฉริยะอย่างผม ใครจะตายก่อนกัน!” ฌอร์นจ้องหน้าของหญิงสาวตรงหน้า
“พอสักที!!!” อาร์มโวยวายก่อนที่จะดึงฌอร์นและคิวคิวให้แยกออกจากกัน
“เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกันนะ ... พวกเราต้องหาทางช่วยคนข้างล่างอย่างที่คิวคิวพูด ตอนนี้น่ะ เรื่องกุญแจน่ะเอาไว้ก่อน ชีวิตของเพื่อน ๆ สำคัญกว่านะ!” อาร์มพยายามพูดให้เบาลงเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ในขณะที่ฝนเองเริ่มตกลงมาห่าใหญ่
“เรามาคิดหาทางช่วยคนข้างล่างกันดีกว่า ... ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าตอนนี้เก๋เกตันสุดฤทธิ์ ... ” เก๋เก๋พยายามหาคำพูดตลกมาคลายเครียดสองหนุ่มสาวที่กำลังโมโหเลือดพร่าน พวกเขาทั้งสองต่างเดินไปนั่งคนละมุมโบสถ์เพื่อคิดหาทางช่วยสี่คนข้างล่าง
“ใบชาว่ามันต้องเกี่ยวกับเลข 13 ที่พวกเราเห็นในรูปแน่ ๆ เลย ”
“แต่เกมส์ว่าเลขนั้นมันเป็นเลขอันตรายสำหรับพวกคนต่างชาติเขาไม่ใช่เหรอ ... มันเป็นเลขอาถรรพ์ที่ไม่ค่อยมีใครชอบหรอก” เกมส์โพล่งขึ้นมาในขณะที่หล่อนเองเริ่มพิงฝาผนังโบสถ์
“เลข 13 มันน่ากลัว ... เลขผีปีศาจ” นกยูงช่วยเสริม
“สิบสามเกมสยอง ...หนังผีที่ฝรั่งชอบทำเป็นเลขเกี่ยวกับ 13 .... ที่เก๋เก๋พูดพอจะเป็นประโยชน์อะไรได้มั่งไหมเนี่ย???” เก๋เก๋มองหน้าของเพื่อนสลับกันไปมา
“ช่วยได้เยอะเลยล่ะ ....” ดาร์จีลิ่งพูดเชิงประชดประชัน จนหลุดหัวเราะออกมา
รันเวย์ที่ยืนอยู่ข้างใบชาเริ่มเปิดกล้อง DSLR ดูอีกครั้งเพื่อสังเกตอะไรบางอย่างที่ติดอยู่บนภาพ นอกจากเลข 13 ที่สลักอยู่บนฐานแล้ว ก็มีเพียงไม้กางเขนและช่อดอกไม้เก่า ๆ ที่วางประดับไว้แค่นั้น
“ใบชา ... กับฌอร์น!!” รันเวย์เรียกชื่อของทั้งสองออกมาแทบจะในทันที สองเจ้าของชื่อหันมามองพร้อมกันก่อนที่จะเดินมาหาเด็กสาว
“ลองดูนะ ว่าภาพมันพอจะช่วยอะไรได้บ้าง” รันเวย์พูดพรางยื่นกล้องให้กับทั้งสอง ใบชาเป็นคนรับมันมา ทั้งคู่พยายามมองหาจุดผิดพลาดที่เกิดขุ้นในภาพใบนี้
“ เลข 13 ไม้กางเขนและช่อดอกไม้ ......” ฌอร์นทวนสิ่งของที่ปรากฏในภาพ
“ เลข 13 คือเลขที่เป็นตัวเลขแห่งความโชคร้าย ตามความเชื่อของคนส่วนมาก .... มันเป็นเลขแห่งความตาย!” ฌอร์นมองหน้าของใบชา
“ความตาย .... จุดสูงสุดของความตายคือไม้กางเขนที่ถูกตราตรึง .... ไม้กางเขนก็เป็นสัญลักษณ์ของความตาย .... ถ้างั้น” พวกเขาทั้งสองหันมองไปยังวัตถุที่น่าสงสัยแทบจะพร้อม ๆ กัน
“หลุมศพหมายเลข 13!!! ” พวกเขาตะโกนออกมาจนคนที่ยืนอยู่รอบ ๆ ถึงกับสะดุ้ง
“ถ้าเป็นอย่างที่พวกเราคิด ... ต้องมีทางเชื่อมไปยังด้านล่างด้วยหลุมศพหมายเลข 13 แน่ ๆ” ใบชาสรุปความหมายของตัวเลขตามที่เธอและฌอร์นเข้าใจตรงกัน
เมื่อคำตอบปรากฏขึ้นตรงหน้า คิวคิวรีบลุกเดินออกจากหน้าโบสถ์เพื่อตรงมายังหลุมศพหมายเลข 13 หากแต่ว่ากลับมีมือหนึ่งมายื้อข้อมือของหล่อนเอาไว้
ฌอร์น!!!
“เธอจะออกไปไหน?”
“ฉันก็จะไปช่วยพี่สาวฉันน่ะสิ .....”
“แต่ตอนนี้ฝนตกอยู่นะ ... ขืนออกไป ....” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ คิวคิวสะบัดมือของฌอร์นออก “ถ้าเรารอให้ฝนตกแล้วคนข้างล่างเกิดเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ” เธอเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
“ฉันไม่อยากเสียพี่สาวไปนี่นา ....” เธอพูดก่อนที่จะรีบวิ่งไปยังหลุมศพเป้าหมาย ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มกระหน่ำ เธอเริ่มนั่งลงก่อนที่จะใช้มือทั้งสองคุ้ยเศษดินอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เราต้องไปช่วยยัยชะนีแฝดนั่นนะ” เก๋เก๋มองหน้าของหล่อนก่อนที่จะเริ่มเสียงสั่น
“แคต่ฝนมันตกนะ ขืนออกไปจะไม่สบายเอา” นกยูงพูด แต่เก๋เก๋กลับลากแขนของนกยูงออกไปหาคิวคิว เธอแหงนหน้ามามองสองเกลอที่เดินมาท่ามกลางสายฝน
“เดี๋ยวเก๋เก๋จะช่วยเอง!!”
“ไม่ใช่ว่าฉันอยากช่วยหรอกย่ะ .. ยัยเก้งนี่มันลากฉันมา!!” นกยูงพูดเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย ทั้งที่จริงเธออยากจะช่วยเพื่อนจะตาย
“ขอบใจนะ” คิวคิวยิ้มให้ทั้งสองก่อนที่พวกเขาจะเริ่มลงมือคุ้ยเศาดินขึ้นมา
“ทำแบบนั้น มันเปล่าประโยชน์ ขุดไปเท่าไรมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก ” อาร์มและเพื่อนเดินมายังสามคนที่นั่งอยู่
“ไม่ช่วยก็เงียบไปย่ะ!” เก็เก๋โวยวายก่อนที่จะยืนเท้าเอว
“เดี๋ยวก่อนสิเก๋เก๋ .... พวกเราไม่ได้หมายความแบบนั้นซะหน่อย ” เกมส์พูดก่อนที่จะหยิบเสียมที่วางพิงผนังโบสถ์ออกมา
“มันต้องนี่ต่างหาก ฉันรู้ว่าพวกเราจำเป็นต้องใช้มัน ....” ใบชาพูด
“อย่าเพิ่งเหวี่ยงสิเก้งน้อย” ดาร์จีลิ่งพูด พวกเขาทั้งหมดยิ้มให้กัน อาร์มอาสาเป็นคนขุดดิน พวกเขาทั้งหมดยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มกระหน่ำขึ้น
ถ้าเป็นจริงอย่างที่พวกเขาคิด ต้องเจอประตูสิน่า!!!
“ตาล ... เธอไม่เป็นไรนะ” บีบีพยายามห้ามเลือดที่ไหลออกมาจากหัวเข่า จากที่เธอล้มไปเมื่อครู่ ในขณะที่พวกพิมและดัฟกำลังหาทางออก จู่ ๆ กลับเกิดกลิ่นไหม้ประหลาดฟุ้งเข้ามาในห้องนั้น
“ได้กลิ่นไรไหมพิม?” ดัฟถามพรางทำจมูกฟืดฟาด
“ดูนั่นสิ!” พิมชี้ไปยังทางที่พวกเขาเพิ่งผ่านมา ....
กองไฟเริ่มก่อประกายไฟขึ้นอย่างช้า ๆ คงเป้นเพราะตะเกียงของตาลที่ทำแตกทำให้เกิดเพลิงไหม้ขนาดเล็กแน่ ๆ
“ต้องรีบหาทางออกแล้ว!!” ดัฟพูดพรางขึ้นไปเหยียบแท่นหินหลางห้องก่อนที่จะใช้มือทุบประตูให้เปิดออก
“ช่วยด้วยค่ะ ... มีใครอยู่ข้างนอกมั้ย?” พิมพยายามส่งเสียงช่วยดัฟ บีบีและตาลได้แต่นั่งมองกันไปมาก่อนที่น้ำตาไหล พวกเขาไม่อยากต้องมาตายอยู่ที่นี่หรอกนะ!
โพล๊ะ!!!
ประตูไม้เหนือเพดานถูกเสียมกระแทกจนเศษไม้กระเด็นไปคนละทิศละทาง คนที่อยู่ด้านบนเริ่มเปิดประตูให้อ้าขึ้น
“พวกนาย!!!” ดัฟดีใจเมื่อเห็นคนที่อยู่ด้านบน
“ส่งมือมา!” อาร์มยื่นมือออก ดัฟส่งพิมขึ้นมาเป็นคนแรกส่วนบีบีนั้นพยายามประคองตาลมา
“ตาล เธอขึ้นไปก่อน ....” บีบีพูด ดัฟและเธอรีบส่งตัวเพื่อนขึ้นไปก่อน ตามมาด้วยบีบีและดัฟ ชายหนุ่มเป็นคนสุดท้าย
พวกเขาทั้งสี่ขึ้นมาเหนือพื้นดินได้สำเร็จ สายฝนเริ่มกระหน่ำออกมามากยิ่งขึ้น สองพี่น้องรีบกอดกันแน่น ส่วนใบชากับเก๋เก๋รีบประคองตาลขึ้นมา
“รีบกลับบ้านกันเถอะ!” นกยูงพูดอย่างเป็นห่วงเพื่อน
“แต่เรายังหากุญแจไม่เจอเลยนะ” ฌอร์นบอก
พิมหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเสื้อก่อนที่จะชูไปมาอย่างดีใจ ภารกิจถูกปิดลงเมื่อกุญแจถูกเจอโดยกลุ่มใต้ดินที่อยู่ด้านล่าง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้กุญแจมา แต่สถานที่แห่งใหม่กลับเปิดต้อนรับพวกเขาจริง ๆ
เพียง 8 คนเท่านั้น!!!
ระบบ Face To Face Mode [ส่งทางข้อความลับก่อนวันเสาร์เวลา 12.00]
ชื่อเล่นของคุณที่ใช้การแข่งขันพร้อมรหัส .:
คิดว่าเกมในสัปดาห์นี้เป็นอย่างไร .............................
คิดว่า 4 คนที่ต้องออกจากเกมเป็นใคร เพราะอะไร ..........................
อยากระบายอะไร เชิญ .................... (เกี่ยวกับภารกิจ . คนอันตรายในสัปดาห์นี้.คิดว่าใครน่าจะออกเกมการแข่งขัน)
ความคิดเห็น