[SF TVXQ YAOI] มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน - [SF TVXQ YAOI] มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน นิยาย [SF TVXQ YAOI] มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน : Dek-D.com - Writer

    [SF TVXQ YAOI] มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน

    เรื่องราวความรักระหว่างเพื่อนกับเพื่อน ... จะลงเอยเช่นไร เมื่อต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ หัวใจตนเอง

    ผู้เข้าชมรวม

    3,081

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    3.08K

    ความคิดเห็น


    12

    คนติดตาม


    5
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 ก.ย. 51 / 01:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    WARNING !!! ฟิคเรื่องนี้เป็นแบบชายรักชายนะฮับ ถ้าใครรับไม่ได้หรือไม่ชอบก็ปิดไปเนอะ อย่าผิดใจกันเลยฮับ ... ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้กันเลยดีกว่า (เน้นหวานแหววนิดๆ)




    ตัวละครหลัก


    cc0274ce0373bf38c1195c282352a4fd.jpg picture by Naniki_kei

    คิมแจจุง = นิสัยเหมือนเด็ก ขี้อ้อนเสมอเวลาอยู่กับคนข้างล่าง แต่แจจุงจะรู้ใจตัวเองหรือเปล่านั้น ยังคงเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาได้


    1_204984161l.jpg


    ชองยุนโฮ = เงียบขรึม แต่เวลาหึงก็ แรงใช่ย่อย ... แอบรักแจจุงหัวปักหัวปำแต่ดันไม่รู้ใจตัวเอง เพราะ คิดว่า เป็นรักแบบเพื่อนธรรมดาๆ 







    พวกเขาจะรู้ใจตัวเองเมื่อไหร่ คงต้องติดตามในเรื่อง

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      [SF] มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน
      - กิ๊กนะหรือ ก็ไม่ใช่(?)
      Story by :: Tachi_Naniki @HTF
      Pearing :: [YUNJAE]
      Category :: ROMAN

      Talk~ ฟิคเรื่องนี้ปลอดภัยต่อหัวใจฮับ อิอิ ^^

      ---------------------------






      แฟน – คนที่คอยเทคแคร์และมอบความสุขให้กับเรายามหัวใจห่อเหี่ยวไร้น้ำหล่อเลี้ยง .... เพียงแค่ได้อยู่ใกล้ ก็กระชุ่มกระชวยไปทั้งสัปดาห์ แต่ในทางกลับกันก็สร้างความทุกข์ให้กับเราได้เช่นกัน

      กิ๊ก – บุคคลที่คอยอยู่ข้างๆเรายามตัวจริงไม่อยู่ หรือออกไปทำธุระที่ไหนไกลๆ ... ภาษาชาวบ้าน เรียกว่า “ตัวสำรอง” ไม่มีสิทธิ์หวง ไม่มีสิทธิ์หึง ...

      บางคนบอกว่า นอกจากแฟนแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถมาแทนที่ได้อีก
      บางคนบอกว่า คบทีละหลายๆคนสนุกกว่าเยอะ ... ควงคนไม่ซ้ำหน้า คือความสุขของชีวิต (เข้าข่ายกิ๊ก)

      พวกเรามักจะพูดถึงความสัมพันธ์ในแนวนี้อยู่บ่อยๆ โดยลืมไปว่า ยังมีความสัมพันธ์ในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเรามักจะลืมในช่วงเวลาที่เรายังมีความสุขกับ แฟน กิ๊ก ชู้ หรืออะไรก็ตามที่เข้าข่ายเชิงชู้สาว ...


      ถ้าหากพวกคุณได้พบกับความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ลึกซึ้งมากจนถึงขนาดต้องใช้คำว่า “แฟน” และไม่สามารถใช้คำจำกัดความว่า “กิ๊ก” ได้ ....





      มันแตกต่างจากคำว่า “แฟนและกิ๊ก” เพียงนิดเดียวเท่านั้น ...


      “เพื่อน” ยังไงละ






      4
      3
      2
      1
      .
      .
      .

      BEGIN !!!!





      “แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ... เฮ้อออ !!!” ชายหนุ่มร่างสูงหอบหายใจถี่รับเอาออกซิเจนเข้าไปในร่างกายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ... เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามใบหน้าจนปอยผมสีน้ำตาลเข้มเปียกชุ่ม ... เสื้อทีมฟุตบอลสีน้ำเงินเข้มแนบลู่ไปกับผิวกายเผยให้เห็นเหงื่อมากมายที่เปียกเลอะเป็นวงกว้าง ...ดูเซ็กซี่ไปอีกแบบ

      “พอได้แล้ว ... ยุนทำแบบนี้ แจเป็นห่วงนะ” ร่างบางในชุดเสื้อโค้ทสีขาวยื่นผ้าเช็ดหน้าลายหมีเทดดี้สีน้ำตาลส่งให้คนตรงหน้าที่เพิ่งวิ่งรอบสนามฟุตบอลของโรงเรียนเกิน 20 รอบได้แล้ว ... ใบหน้าหล่อรีบหันไปมองเสียงเล็กน่ารักที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะ ไม่ค่อยเชื่อหูตนเองมากนัก ... ดึกดื่นป่านนี้แจจุงน่าจะนอนหลับอยู่ในหอพักแล้วไม่ใช่เหรอ? ..

      แต่เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาสีหวานแฝงด้วยความเป็นห่วง ... ยุนโฮจึงได้แต่รับผ้าเช็ดหน้าผืนบางมาซับใบหน้าชื้นเหงื่อลวกๆ

      “ยังไม่นอนอีกเหรอ?” ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนแจจุงอดที่จะสงสัยไม่ได้ ... เมื่อเย็นเขาทะเลาะกับยุนโฮ เพียงเพราะ ยุนโฮมัวแต่โทษตัวเองที่ไม่สามารถเอาชนะการแข่งขันฟุตบอลนัดที่ผ่านมาได้ .. อาจจะเป็นเพราะ ชายร่างสูงตรงหน้ารับภาระหน้าที่ของกัปตันทีมก็เป็นได้ละมั้ง ...

      “ยังหรอก .. “

      “พรุ่งนี้มีเรียน แจจุงรีบๆไปนอนเถอะ ”

      “ยุนยังไม่นอน แจจะนอนได้ยังไง” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แจจุงพูดออกมาแบบนนี้ ยุนโฮเลยไม่ค่อยแปลกใจนักที่เพื่อนร่างบางพูดในสิ่งที่คิดออกมาได้ตรงมาก... แจจุงอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่เขานี่สิ ... คิดไปถึงไหนถึงไหนแล้วก็ไม่รู้

      คิดเล่นๆแล้วมันก็จั๊กจี้พิกล(?)

      แจจุงก็ผู้ชาย เขาก็ผู้ชาย .... จะมีความสัมพันธ์ในแบบนั้นเห็นทีก็คงไม่ไหว


      “...........”

      “ยุนหายโกรธแจแล้วใช่มั้ย ... อ๊ะ ???” ยังไม่ทันที่ร่างบางจะพูดจบประโยคดี ..ร่างหนาก็โถมตัวเข้าหาอีกคนที่ยังไม่ทันตั้งตัวจนร่างบางๆเซปะทะเข้าหาอกกว้าง ..คางหนาเกยอยู่บนไหล่บางอย่างออดอ้อน... เรียวแขนแกร่งถูกส่งไปโอบรัดรอบเอวบางคอดกิ่วเกินชายของเพื่อนหลวมๆ ... แจจุงซุกหน้าของตนลงบนแผงอกแข็งแกร่งตรงหน้าอย่างไม่รังเกียจ ต่างคนต่างถ่ายทอดความอบอุ่นให้แก่กันและกัน จนแจจุงต้องเป็นฝ่ายผละออกมาก่อน เพราะ เหม็นเหงื่อของยุนโฮ(?)

      “กอดต่ออีกหน่อยเถอะนะ” ยุนโฮเริ่มอ้อนเป็นเด็กๆ

      “เหม็นเหงื่อยุนอ่ะ ... ยุนกลับห้องไปอาบน้ำแล้วแจจะให้ยุนกอดทั้งคืนเลยก็ได้”


      (Naniki - สาบานได้ว่า เขาเพื่อนกัน TTTT_TTTT)



      ซ่า ซ่า ซ่า

      เสียงน้ำตกกระทบพื้นกระเบื้องดังเป็นระยะๆเมื่อร่างสูงขอตัวเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย .. ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ร่างสูงที่แจจุงรอคอย(?) ก็เสด็จตัวเองออกมาจากห้องน้ำ ...

      ฟังเสียงน้ำในห้องน้ำที่ยุนใช้อาบตอนกลางคืน ร่างบางก็อดที่จะยอมรับไม่ได้ว่า มันคือเพลงกล่อมเด็กชั้นดีเลยทีเดียว เกือบทำแจจุงเคลิ้มหลับไปหลายครั้งแล้วด้วยซ้ำไป

      “อะไรกัน ... ง่วงแล้วทำไมไม่นอน” เมื่อสังเกตเห็นนัยน์ตาหวานฉ่ำเยิ้มของเพื่อนร่างบาง ... ยุนโฮก็อดที่จะถามไม่ได้ .. ทั้งๆที่ก็รู้คำตอบดีอยู่แล้วแท้ๆ

      “ก็รอยุนนั่นแหละ” ว่าแล้วเชียว






      “ยุน ... มันจั๊กจี้นะ ... คิกๆ ... “ เมื่อผมแห้งดีแล้ว ยุนโฮไม่รอช้า กระโดดทับร่างบางๆของเพื่อนให้ล้มลงไปนอนด้วยกันทั้งคู่ .. แถมยังเอาคางที่เต็มไปด้วยไรหนวดแข็งๆถูไถใบหน้าหวานน่ารักสร้างเสียงหัวเราะคิกคักทั้งคนแกล้งและคนถูกแกล้ง

      ร่างบางพยายามหนีไรหนวดแข็งๆที่สร้างความจั๊กจี้ให้เขาถึงขีดสุดด้วยการส่งมือบางขาวไปดันอกกว้างของคนข้างบน ... แต่คนข้างบนก็เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วทันใจเสียเหลือเกิน

      “....... .. “ แจจุงถูกพลิกให้ขึ้นไปอยู่ข้างบน นัยน์ตาสีหวานฉายแววสงสัยเมื่อยุนโฮเอาแต่จ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้น

      “นายรักฉันหรือเปล่า?” คำถามที่ร่างสูงมักจะถามเพื่อนร่างบางเสมอในเวลาที่ทั้งสองคนได้ใช้เวลาร่วมกันในหอพักยามใกล้เข้านอน .. เพราะเรียนกันคนละสาย เลยไม่ค่อยได้เจอกัน .. จะมีก็แต่ตอนนี้เท่านั้นที่เป็นช่วงเวลาแห่งความอบอุ่น

      “รักสิ” ยิ้มหวานส่งไปให้คนข้างใต้ให้ได้ชื่นใจ ..


      พูดจบ ...ใบหน้าหวานก็ซุกซบเข้าที่อกแข็งแกร่งของเพื่อนแล้วถูหัวกลมๆไปมาราวกับลูกแมวอ้อนเจ้าของ .. ยุนโฮยิ้มรับการกระทำนั้น พร้อมกับส่งมือหนาไปลูบหัวคนข้างบนเป็นการตอบแทนความรักที่มีให้กัน

      “นอนเถอะ ...” ร่างสูงคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายของตนกับเพื่อนแล้วเอื้อมมือไปปิดโคมไฟสีทองข้างๆเตียง ... ความมืดและความเงียบเข้าปกคลุมห้องพักแห่งนี้อีกครั้ง แต่น่าแปลกที่หัวใจของทั้งสองคนไม่ได้มืดมัวตามไปด้วยเลย ตรงข้าม ....

      กลับหลับอย่างเป็นสุขท่ามกลางไออุ่นของกันและกันไปตลอดคืน ....





      เช้าวันต่อมา

      “แจไปเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วนะ ^^ จุ๊บ” ร่างบางยืดตัวหอมแก้มร่างสูงอย่างที่ทำเป็นประจำทุกเช้า เพราะ ต้องแยกไปเรียนกันคนละห้องตามสายเรียนที่เลือกเอาไว้ตั้งแต่ต้น ...

      “อืม ... ตั้งใจเรียนดีๆละ” ยุนโฮโบกมือลา จนร่างบางเดินขึ้นตึกเรียนไปนั่นแหละ ร่างสูงจึงจะเดินเข้าห้องเรียนของตัวเองที่อยู่อีกตึกหนึ่ง ซึ่งเป็นตึกสายวิทย์



      ห้องเรียน

      “เฮ้ย ยุน ..” ฮันกยองกระทุ้งศอกเข้าที่สีข้างของเพื่อนร่างสูงสองสามครั้ง

      “อะไร”

      “มีคนรุ่นพี่ฝากให้ฉันมาจีบแจจุงวะ ... นายอนุญาตมั้ย?” กระซิบกระซาบเบาๆเมื่ออาจารย์สอนวิทยาศาสตร์(ฟิสิกส์) เริ่มหันมาใช้ยุทวิธีสายตาพิฆาตพิชิตนักเรียนปากไม่มีหูรูด

      “ผู้หญิงหรือผู้ชาย” เสียงที่เข้มอยู่แล้ว กลับเข้มมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเจ้าตัวจงใจกดให้มันต่ำลงแลดูน่ากลัวในสายตาของฮันกยอง เพื่อนร่วมชั้นเรียน

      “ไม่เห็นต้องดุเลย ถ้าไม่อนุญาตก็บอกมาสิ ฉันจะได้ช่วยพูดให้ไง”

      “เออ ก็ไม่อนุญาตนะสิ” ยุนโฮลุกพรวดพราดยืนยันคำพูดของตัวเองจนเก้าอี้ไม้สีน้ำตาลที่ใช้นั่งเป็นประจำทุกวันลงไปนอนเล่นอยู่บนพื้น เสียงดังโครมครามไปหมด



      “ชองยุนโฮ ... ฮันกยอง ... แบกถังน้ำหน้าห้องจนกว่าจะหมดชั่วโมง ... “



      ซวยไป ^^”




      “จุนซู ... แจหิวข้าว ไปกินข้าวกันเถอะ” แจจุงลากข้อมือบางของเพื่อนโลมาให้ออกเดินทางไปยังโรงอาหารใต้ตึกเรียน ... จนร่างเล็กต้องรีบโยนหนังสือเข้าไปนอนแน่นิ่งอยู่ในเก๊ะชั่วคราว

      การบ้านยังปั่นไม่เสร็จ อิแจมันจะรีบไปไล่หมีที่ไหนวะ (???)

      แต่ก่อนที่โลมาน้อยจะทันได้ตั้งตัว ร่างบางของเพื่อนที่จงใจลากเขาไปก็หยุดชะงักลงเมื่อเจอเข้ากับหนุ่มหล่อประจำโรงเรียน ...

      คุณเชวดองวุค รุ่นพี่ปี 3 ที่ใครๆต่างก็อยากได้มาควง


      “คิมแจจุงใช่มั้ย?” ดองวุคถามอย่างสุภาพ

      “อื้อ ...มีธุระอะไรกับผมเหรอครับ?” ขึ้นชื่อว่ารุ่นพี่ แจจุงจำเป็นต้องสุภาพตอบเช่นกัน

      “ทานข้าวกับพี่สักมื้อได้มั้ย? เดี๋ยวให้ยูชอนทานข้าวเป็นเพื่อนน้องจุนซูแล้วกัน เราจะได้คุยเรื่องของเราด้วย ^^” ยิ้มอย่างมีเลศนัยเสียจนจุนซูและแจจุงยังรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆที่แผ่ซ่านออกมาตลอดเวลาจากรุ่นพี่

      แจจุงมีท่าทางอ้ำอึ้งเมื่อหวนคิดถึงตอนที่เขาถูกซีวอนตามตื๊อ ... จนยุนโฮหวงเขาจนหน้ามืดเป็นหมีถูกตอน

      “แจจุงจะไปทานข้าวกับผมครับ .. รุ่นพี่” เสียงทุ้มโทนเบสของคนที่แจจุงคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้นข้างหลัง จุนซูและแจจุงรีบเข้าไปหลบอยู่ข้างหลังยุนโฮทันทีโดยไม่รีรอ

      “เป็นแค่เพื่อนกัน .. มีสิทธิ์หึงด้วยเหรอ ? ... ชองยุนโฮ”ดองวุคเดินเข้ามาประจัญหน้ากับรุ่นน้องนิสัยเกินอายุ นัยน์ตาของทั้งคู่สบประสานกันอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดสายตาลงเลย ...ตรงข้าม จะมีแต่ยืดเยื้อ ร่างบางเห็นท่าไม่ดีเลยรวบรวมความกล้าทั้งหมดดึงแขนหนาของเพื่อนให้ถอยออกมา ... ถ้าเกิดมีปัญหากับรุ่นพี่ดองวุคละก็ ...

      ยุนโฮต้องแย่แน่ๆ

      “ยุนโฮ .. ไปเถอะ” แจจุงกระตุกชายเสื้อของยุนโฮแรงๆเมื่อสังเกตเห็นนัยน์ตาสีเข้มที่เคยอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นความแข็งกร้าวจนเขายังกลัว

      นานพอดู กว่าแจจุงจะลากยุนโฮออกมาจากสถานการณ์แสนอันตรายได้

      “อ๊ะ ยุน .. ทำบ้าอะไร?” มือหนาออกแรงฉุดข้อมือบางขึ้นไปตามทางบันไดหนีไฟจนไปสิ้นสุดอยู่บนดาดฟ้าอาคารเรียน ...

      กว่าจะรู้ตัว ข้อมือของแจจุงก็ช้ำจนขึ้นสีแดงไปแล้ว


      “ขะ ขอโทษ แจจุง” ยุนโฮรีบส่งมืออีกข้างไปลูบข้อมือแดงช้ำอย่างอ่อนโยน พร้อมกับดึงมือนุ่มนิ่มข้างนั้นขึ้นมาสัมผัสเข้าที่แก้มกร้านของตน ... นี่เป็นการกระทำที่แจจุงไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริงๆ นับตั้งแต่คบกันมา

      “ฮึก .. “ น้ำตาใสๆไหลอาบข้างแก้มเนียนสวยตั้งแต่เมื่อไหร่ ยุนโฮก็ไม่ทันได้สังเกต .. เสียงสะอื้นไห้เบาๆเรียกให้ดวงหน้าคมต้องหันไปมองใบห้นาเปื้อนคลาบน้ำตาอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก .. นี่เขาทำให้แจจุงเจ็บจนร้องไห้เลยงั้นเหรอ?

      “ระ ร้องไห้ทำไม เจ็บมากเหรอ?” คิดหาเหตุผลอื่นไม่ออกจนต้องเดาไปมั่วๆ

      “ปะ เปล่า ..”

      “แล้วเป็นอะไร บอกฉันได้หรือเปล่า?” นัยน์ตาสีเข้มฉายแววเจ็บปวดเมื่อได้เห็นน้ำตาของเพื่อนที่เขาไม่ได้เห็นมานานแล้ว

      “วันหลังยุนอย่าทำแบบนี้อีกนะ ... แจกลัวว่ายุนจะโดนพี่เขาทำร้ายเอา”




      บ้าเอ๊ย!!! ข้อมือเจ็บขนาดนี้ ยังจะมาเป็นห่วงเขาอีก ... !!!

      มันน่านัก .. ชองยุนโฮ ... นายมันเห็นแก่ตัว



      เมื่อเห็นว่า เพื่อนร่างสูงเงียบไป แจจุงค่อยๆเดินเข้าไปมองใบหน้าคมช้าๆหวังคลายความตึงเครียดให้กับคนตรงหน้า แต่ก็เปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย ... พูดอะไรก็คงไม่ได้ผล ถ้าสัมผัสเอา ยุนโฮคงรับรู้ได้มากกว่า ...

      คิดได้ดังนั้น แขนเรียวบางของแจจุงก็สอดเข้าใต้รักแร้ของเพื่อนร่างสูงอย่างที่ทำเป็นประจำเวลาที่ยุนโฮมีเรื่องไม่สบายใจ .. มือเล็กถูกส่งไปลูบแผ่นหลังหนาเป็นการปลอบโยนเบาๆ ... ร่างสูงมีท่าทีอ่อนลงเมื่อรับรู้ถึงความอบอุ่นบริเวณอกกว้างของตนเนื่องจากหัวทุยๆของแจจุงที่ซุกซบหาความอบอุ่นจากเขา ..


      ไม่รู้ทำไม ...

      ยุนโฮถึงได้กลัวว่า สัมผัสอบอุ่นเหล่านี้จะหายไปเมื่อแจจุงไปมีเพื่อนคนใหม่

      ไม่รู้ทำไม

      ยุนโฮถึงได้กลัวว่า สักวันหนึ่ง แจจุงจะทิ้งเขาไป อย่างที่เพื่อนคนอื่นๆทำกับเขา เมื่อแจจุงได้เจอกับคนรู้ใจ

      ไม่รู้ทำไม

      ยุนโฮถึงได้กลัวว่า แจจุงจะเดินจากเขาไป แล้วทิ้งให้เขาอยู่เพียงลำพังคนเดียว ...


      เขาผิดมั้ย? ที่จะรักเพื่อนคนหนึ่งมากเกินไป จนกลายเป็นขาดแจจุงไม่ได้ ......


      แจจุงจะอึดอัดบ้างมั้ย ? ที่เขาคิดแบบนี้




      “ยะ .. ยุน .. ยุนร้องไห้ทำไม .. ใครทำอะไรยุน?” แจจุงสัมผัสได้ถึงน้ำตาอุ่นๆที่เปียกเรอะเสื้อนักเรียนบริเวณไหล่บางของตัวเอง ... ร่างสูงยังคงกระชับอ้อมกอดแน่น เพราะ ไม่อยากให้แจจุงเห็นด้านที่อ่อนแออย่างถึงที่สุดของเขาในตอนนี้ ...

      “ฉันขอโทษนะ ที่หวงนายไม่เข้าเรื่อง .. ”

      “เอ๋ ? ..”

      “ฉันรักนายมากนะ … แจจุง”

      “..............”

      นี่คือครั้งแรก ที่ยุนโฮเอ่ยคำว่า “รัก” ออกมา






      “ยุน ... ไปทำอะไรมา ... นั่งลงเลยนะ .. เดี๋ยวแจทำแผลให้”

      “ยุน ... แจซื้อไอติมมาฝาก ... กินด้วยกันนะ”

      “ยุน ... เหนื่อยหรือเปล่า ... เดี๋ยวแจไปเอาน้ำเย็นๆมาให้นะ”

      “ยุน ... ดองวุคมาจีบแจอีกแล้วอ่ะ TT^TT แจไม่ชอบเลย”

      “ยุนบ้า .. มันจั๊กจี๋นะ คักๆ คิกๆ 55+ ง๊ากกก”


      ตลอดมา แจจุงเป็นคนทำอะไรๆ ให้เขาเสมอ โดยไม่ได้รู้เลยว่า คนร่างบางคนนี้ก็กำลังรอคอยคำว่า “รัก” จากเขาเสมอมา .. ทุกๆวัน แจจุงจะบอกรักเขา แต่เขาก็ไม่เคยย้ำให้ชัดเจนว่า รักแจจุงบ้างหรือเปล่า ...




      ถ้าอยากให้แจจุงอยู่กับเขาไปนานๆ เขาคงต้องหันมาเปิดใจยอมรับเรื่องราวบางอย่างบ้าง ... การจำกัดอิสระหรือรั้งคนร่างบางเอาไว้กับตัวเอง อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ความผูกพันที่สร้างมาด้วยกันตลอดหลายปีพังทลายลงได้ ... ยังไงซะ มันก็เป็นเรื่องของอนาคต ... มัวแต่ไปกังวลว่า ใครจะมาตามจีบแจจุงก็เห็นทีจะไม่ไหว ... หันมาสร้างความผูกพันกับแจจุงให้เหนียวแน่นมากกว่าเดิมคงจะง่ายกว่า


      “แจจุง ... ฉันรักแจจุงนะ^^”

      “เอ๋? .. ทีพูดได้ละ พูดใหญ่เลยนะ ^///^”

      “ไม่ดีเหรอ ..”

      “เปล่า ... แค่รู้สึกแปลกๆนะ ที่ยุนพูด .. ปกติแจจะเป็นคนพูดนี่นา”



      เพื่อน ... เขาไม่รั้งกันด้วยการกระทำ แต่เขารั้งกันด้วยความผูกพันต่างหากละ ....



      พวกคุณเชื่ออย่างนั้นมั้ยครับ ?




      THE END 













      SPECIAL PART ฮับ (สนองนี๊ดคนแต่ง)



      [SF] มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน
      - กิ๊กนะหรือ ก็ไม่ใช่(?)
      Story by :: Tachi_Naniki @HTF
      Pearing :: [YUNJAE]
      Category :: ROMAN DRAMA ETC.





      BEGIN !!!!


      “แจชอบมันงั้นเหรอ?” เสียงเข้มกดต่ำเสียจนร่างบางสั่นเทิ้มด้วยความกลัว ... นัยน์ตาสีเข้มฉายแววโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด ..

      แจจุงไม่เคยชอบสายตาคู่นี้เลย และก็ไม่อยากจะเห็นมันโดยเฉพาะกับคนที่เขารักมากที่สุด


      “แจไม่รู้ ... แจรู้อย่างเดียว ... ว่า ...” ร่างบางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดปลดปล่อยเสียงหวานเล็กออกมา แต่ดูเหมือนจะช้าไม่ทันใจคนถาม

      “ว่าอะไร?”

      “ว่าอยู่กับรุ่นพี่คังอินแล้วรู้สึกอบอุ่นเหมือนตอนอยู่กับยุน ....” พูดออกไปตามที่ใจคิดโดยไม่ได้รู้เลยว่า เพื่อนร่างสูงใกล้จะหมดความอดทนแล้ว ...มือหนากำหมัดแน่นเสียจนเล็บที่ตั้งใจไว้ยาวเล็กน้อยจิกลึกเข้าไปในเนื้อเกิดเป็นแผลเลือดไหลซิบๆ

      แหมะ !?

      นัยน์ตาสีหวานเบิกกว้างเมื่อสังเกตเห็นของเหลวสีแดงสดไหลเยิ้มจากฝ่ามือหนา ... พื้นกระเบื้องสีขาวในห้องพักที่เคยอบอวลไปด้วยความรักถูกทำให้ด่างแดงคล้ายกับเป็นลางบอกเหตุว่า หายนะกำลังจะเกิดขึ้น

      “ยุน ...” เสียงเล็กเบาหวิวเสียจนคนฟังหัวใจแทบหล่นวูบ ... แต่มีหรือที่คนหวงแรง หึงแรงจะยอมเลิกราง่ายๆ

      “นายไม่รู้หรือไงว่า ฉัน ... ฉันหวงนายนะ”

      “จะไปรู้ได้ไง ที่ผ่านมา ยุนเคยบอกแจมั้ยว่า ยุนหวงแจกับรุ่นพี่คังอิน??”

      “...........”

      “ยุนไม่เคยพูด ยุนไม่เคยบอก แล้วแจจะรู้ได้ยังไง ... ออกไปเลยนะ ... แจไม่รักยุนแล้ว ฮือออ ”

      “ฉะ .. ฉัน “

      “ออกไปๆๆๆ ทำแบบนี้ มันมากเกินไปแล้วนะ ... ยุนไม่เคยรู้หรอกว่า แจก็อึดอัดเป็นเหมือนกัน”

      “..........”

      “ยุนต้องการอะไรกันแน่ .... แจไม่เข้าใจ ... ฮึก ฮือ ” ร่างบางสะอื้นหายอย่างน่าสงสาร กี่ครั้งแล้วที่ทะเลาะกันแบบนี้ กี่หนแล้วที่ต้องทนเห็นน้ำตาของแจจุง ... ไอที่แจจุงถามเขามันก็ถูก ....


      เขามัวแต่หวง มัวแต่หึง ..........


      เขาต้องการอะไรกันแน่ เขาก็ยังไม่เข้าใจ .. ที่ผ่านมาแจจุงอยู่กับเขาตลอด ไปไหนก็ไปด้วยกันนอกจากตอนเรียน ... ไหนจะคอยเทคแคร์ซื้อขนมมาฝากเขาทุกๆวัน เวลาที่เขาไม่ได้ลงไปกินข้าว เพราะ ต้องนั่งทำงานอยู่บนห้องเรียน ...ไหนจะความอบอุ่นอ่อนโยนจากอ้อมกอดเล็กบางที่คอยเป็นกำลังใจให้เขาเสมอ .. ไหนจะความห่วงใยที่แจจุงมีให้เขาอีก

      นั่นสินะ ......เขาต้องการอะไรกันแน่ แค่นี้มันยังไม่พออีกงั้นเหรอ????






      ตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านมาได้ 3 วันแล้ว ..........

      วันที่ไม่มีร่างบางอยู่ข้างๆ

      วันที่ไร้เสียงหัวเราะ

      วันที่ ชองยุนโฮ ....... เหมือนไร้หัวใจ .........


      3 วันงั้นเหรอ? ........

      เหมือน3 ปีนะสิไม่ว่า




      “แจจุง ... นั่นยุนโฮนี่ ไม่เข้าไปหาหรอ?” เพื่อนโลมาร่างเล็กอดจะถามไม่ได้เมื่อเห็นเพื่อนร่างสูงที่ตัวติดกับแจจุงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่หน้าห้องเรียนของแจจุง ... แถมแจจุงยังไม่มีท่าทีว่าจะขยับตัวไปไหน .. มีแต่จะเดินหนีด้วยซ้ำไป ...

      หมับ !!!?

      ร่างบางสะดุ้งสุดตัวเมื่อรับรู้ถึงแรงบีบที่ข้อมือของตนเอง ... ถึงแรงที่ส่งผ่านมาจะไม่มาก แต่ก็สร้างความปวดหนึบให้กับเขาได้ไม่น้อยเลย ...

      “ปล่อย ... นะ” เสียงเล็กที่เคยหวานหู บัดนี้กลับขาดห้วงไปเมื่อแจจุงเผลอสบเข้ากับนัยน์ตาสีเข้มของเพื่อน


      สายตาที่อ้อนวอน

      สายตาที่ต้องการการให้อภัย


      ถึงยุนโฮจะไม่ได้พูดอะไรออกมา .........

      แต่แจจุงก็สามารถรับรู้ได้



      “อย่าหนีอีกเลยนะ ... เย็นนี้ ฉันจะรออยู่ที่ห้อง” ร่างสูงออกแรงดึงคนตัวบางให้เข้ามาใกล้มากขึ้น แล้วก้มลงไปกระซิบอะไรบางอย่างซึ่งแจจุงได้ยินทุกคำ

      “.............”

      “รัก .. นายนะ ...” ประโยคที่ฟังกี่ทีๆ แจจุงก็รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้ฟัง แต่ตอนนี้มันกลับแฝงไปด้วยความเจ็บปวดมากมาย ..........

      กว่าจะรู้ตัวอีกที ม่านน้ำตาสีใสก็บดบังนัยน์ตาสีหวานจนภาพแผ่นหลังหนาๆของใครบางคนที่กำลังเดินจากเขาไปพร่ามัว ... ร่างบางพยายามกลืนก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคออยู่หลายครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้เสียที ...

      จุนซูที่ยืนอยู่ข้างๆจึงได้แต่กอดปลอบเพื่อนสนิทประจำสายเรียนเอาไว้หลวมๆเพื่อปลอบโยน ...

      “ฮึก ฮือออ “

      น้ำตาอุ่นๆเปียกเรอะเสื้อนักเรียนตัวบางของจุนซูจนเป็นวงกว้าง ... แถมแรงสะอื้นก็ยังไม่ลดลงไปเลย ...


      อ้อมกอดใครก็คงไม่อบอุ่นเท่าอ้อมกอดของคนๆนั้นสินะ ...... แจจุง







      จ๋อม

      ก้อนหินก้อนที่เท่าไหร่ ยุนโฮก็ไม่ได้สนใจจะนับ ... เขาได้แต่โยนมันลงไปในทะเลสาปครั้งแล้วครั้งเล่าหวังให้ธรรมชาติคลายความปวดหนึบที่หน้าอกด้านซ้าย แต่มันก็ไม่ได้จางหายไปเลย แถมมีแต่จะพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ...

      “หนีเรียนหรือไง ยุนโฮ?” เสียงทุ้มที่เขาเกลียดแสนเกลียดดังขึ้นข้างหลัง .. เขาไม่คิดที่จะตอบหรือหันไปมอง แค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่า คนๆนี้เป็นใคร


      เชวดองวุค ... นั่นเอง


      “...........”

      “อย่ามัวแต่ทำตัวเป็นเด็กไปหน่อยเลยน่า .. รีบๆทำอะไรให้มันชัดเจนได้แล้ว” พอนั่งข้างๆปุ๊บ รุ่นพี่ก็เปิดศึกปั๊บ ... นี่คิดจะมาซ้ำเติมกันใช่มั้ย?

      “แค่นี้ยังชัดไม่พออีกหรือไง?” ยุนโฮย้อมถาม ไม่ได้ดูตัวเองเลยว่า เรดาห์ส่วนเพื่อนกับแฟนมันพันกันยุ่งจนแยกแทบไม่ออก

      “ยังไม่รู้ตัวงั้นสิ ว่า นายรักแจจุงแบบไหนนะ” รุ่นพี่ตีสีหน้าเครียด อยากจะหยิบก้อนหินสักร้อยก้อนปาใส่หัวทึ่มๆของไอรุ่นน้องความรู้สึกเต่าล้านปีเสียจริง -*-

      “...........”

      “อ้าว ? แล้วนั่นจะไปไหน?” พอเตือนสติได้ไม่ถึง 10 วิ รุ่นน้องร่างสูงที่อายุสมองไม่ถึง 15 ขวบก็ลุกพรวดพราดวิ่งเสียจนป่าแทบราบ

      “รุ่นพี่อย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน” ตะโกนสุดเสียงจนรุ่นพี่ได้แต่ส่ายหัวเบาๆเป็นเชิงโล่งใจปนเจ็บปวดนิดๆที่ดันไปช่วยศัตรูให้หายโง่

      “ว้า ~ อย่างนี้เราก็ต้องมานั่งจับเจ่าปาก้อนหินแก้เซ็งแทนยุนโฮนะสิ” รุ่นพี่ดองวุคอกหักไปแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังเล่นมุขได้ถึงใจ (???)







      ตึ่ก ตึ่ก ตึ่ก

      ร่างสูงยังคงออกแรงวิ่งตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้นเรียนของเพื่อนร่างบางโดยมีแรงขับเคลื่อนเป็นความรู้สึกที่มีทั้งหมด ... นี่ก็ใกล้เวลาเลิกเรียนของแจจุงมากแล้ว .... จะไปรับทันหรือเปล่า ยุนโฮก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก


      จนกระทั่ง .......

      “รุ่นพี่ยูชอน ... แจจุงเป็นลม ... ฮึก ฮือออ” ร่างเล็กคุ้นตา ซึ่งยุนโฮจำได้ดีว่าเป็นเพื่อนของแจจุงกำลังนั่งร้องไห้โฮอยู่หน้าประตูห้องเรียน ... ร่างเพรียวหน้าตาหล่ออีกคนกำลังช้อนตัวใครบางคนที่เขาก็คุ้นตามากเช่นกันแล้วออกแรงวิ่งไปอีกทาง ซึ่งเป็นห้องพยาบาล


      ร่างสูงหัวใจหล่นวูบเมื่อเห็นร่างของเพื่อนรักที่กำลังจะได้เลื่อนสถานะ(?) เปลี่ยนไปจากเมื่อบ่ายมากเสียจนเขาแทบจำไม่ได้ ... ปากสีเชอรี่สีแดงสด บัดนี้มันซีดอย่างกับพุงปลา ไหนจะลำแขนเรียวขาวซีดเซียวที่ห้อยลงมาเนื่องจากไม่รู้สึกตัวว่ากำลังโดนหามส่งเข้าห้องพยาบาลนั่นอีก ....

      ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกผิดจนแทบบ้า


      “ทำบ้าอะไรของนาย !!! “ ยูชอนเบรคตัวเองทันทีเมื่อเห็นคนๆหนึ่งวิ่งเข้ามาขวางทาง และก็ต้องเบิกตาด้วยความตกใจเมื่อรุ่นน้องร่างสูงคุกเข่าลงกับพื้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

      “ผมขอบคุณที่รุ่นพี่มีน้ำใจ อุ้มเพื่อนผมมาส่ง แต่ว่า .. ต่อจากนี้ ผมอยากจะทำเอง ...”

      “รู้แล้วน่า ๆ ลุกขึ้นๆ นายมัวแต่คุกเข่าขวางทางอย่างนี้แล้วนายจะอุ้มเพื่อนไปส่งได้ไง” เมื่อยุนโฮลุกขึ้นตามที่ยูชอนต้องการ ... ยูชอนไม่รอช้า รีบส่งคนป่วยให้กับอีกคนเพื่อนำไปส่งที่ห้องพยาบาล





      “เพื่อนเธอไม่เป็นอะไรมากหรอก ... แค่พักผ่อนไม่พอ แล้วก็กินข้าวน้อย ... ครูไม่รู้หรอกนะว่า เพื่อนเธอมีปัญหาอะไร แต่มันคงหนักพอดูเลยละ ... ถึงได้เป็นลมหมดสติจนไม่รู้สึกตัวแบบนี้” คุณครูสาวประจำห้องพยาบาลร่ายยาวเป็นกลอนสุรางคนา 28 เมื่อเธอก็เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกันว่า ชองยุนโฮกับคิมแจจุงเปนคู่ PURPLE LINE ที่ถูก(แอบ)โหวตให้เป็นคู่ที่ป๊อบที่สุดในโรงเรียน

      “.............”

      “พาเพื่อนกลับห้องพักเถอะ ... ให้เขาพักมากๆ ... หาอะไรให้เขากิน เดี๋ยวก็ดีขึ้น^^”

      “ครับ”


      ระหว่างทางเดินกลับหอพัก ... ยุนโฮต้องทนต่อสายตามากไปด้วยคำถามของรุ่นพี่และรุ่นน้องร่วมสถาบันอย่างที่สุด เมื่อเขาอุ้มร่างเล็กบางของเพื่อนมาได้สักพักใหญ่แล้ว ... แต่เขาก็ไม่ได้คิดอาย เพียงแค่ไม่ค่อยชอบที่คนอื่นมองมาทางเขาเท่านั้น ... ตลอดชีวิตนักเรียน เขาเป็นพวกชอบเก็บตัวมาแต่ไหนแต่ไร .. นี่ถ้าไม่ได้เจอแจจุง เขาคงกลายเป็นคนเงียบขรึมไม่น่าเข้าใกล้ขึ้นมาจริงๆ

      “ยุน .......?” เสียงก้องกังวานหวานใสกลับกลายเป็นเสียงแหบแห้งจนแทบไม่ได้ยิน ... ยุนโฮก้มลงมองเพื่อนในอ้อมแขนแกร่งของตนด้วยอาการปั้นหน้าไม่ถูก ...

      ไม่คิดว่าจะตื่นเร็วเลยยังไม่ได้ทำใจ

      “ดีขึ้นบ้างหรือเปล่า?” เสียงเข้มทุ้มต่ำที่แสนจะอบอุ่นอ่อนโยนถามด้วยความเป็นห่วง แจจุงยิ้มรับพร้อมกับพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบ

      “เอ่อ .. ยุน ... แจขอโท ..”

      “คำๆนั้นฉันต้องเป็นคนพูด ... นายอย่าพูดเลยนะ ...” แจจุงเงยหน้ามองเพื่อนร่างสูงอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก ถึงแม้จะจ้องเข้าไปในดวงตาของยุนโฮ แจจุงก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ... ไม่นาน ..ร่างบางก็เลิกที่จะคิดมาก แล้วส่งแขนเรียวเล็กไปโอบรอบลำคอหนาพร้อมกับซุกหน้าหวานๆลงบนอกแกร่งอย่างที่เคยทำ ... การกระทำที่เหมือนทุกๆครั้ง แต่ยุนโฮกลับใจเต้นแรงเสียจนแทบทะลุออกมานอกอก








      “แจไม่รู้หรอกนะว่า ยุนต้องการอะไร แต่แจรู้อย่างเดียวว่า แจรักยุนเสมอนะ”

      รัก ....... ยิ่งฟัง ยุนโฮก็ยิ่งใจสั่น .......

      ทำไมเพิ่งมารู้ตัวเอาตอนนี้นะ ...... ชองยุนโฮ






      “ยุน ... แจหิวข้าว ^^” พอคืนดีกับเพื่อนเท่านั้นแหละ กระเพาะน้อยๆก็เริ่มทำงานทันทีเลย

      “งั้น... กินไปด้วย ฟังฉันไปด้วยได้มั้ย?” ยุนโฮหยิบจานข้าวต้มร้อนๆที่เขาเพิ่งออกไปซื้อมาเมื่อกี้มาเสิร์ฟถึงเตียงคนป่วย แถมตั้งท่าเตรียมตัวจะป้อนเพื่อนร่างบางเสียเต็มที่ ... เล่นเอาแจจุงอดที่จะสงสัยไม่ได้ เพราะ ปกติ ยุนโฮจะไม่ค่อยชอบทำอะไรแบบนี้มากนัก อย่างเก่งก็แค่เสิร์ฟน้ำเสิร์ฟข้าวให้ถึงเตียงเท่านั้น

      “อืม .. เรื่องที่ยุนโฮอยากจะพูดกับแจใช่มั้ย? ^^”

      “อ่าฮะ”

      “อ่า ... ฟังๆๆ” ร่างบางอ้าปากงับช้อนข้าวต้ม(?)ที่ยุนโฮตั้งใจเอามาจ่อที่ปากสีชมพูหวาน ซึ่งบ่งบอกว่าเจ้าเพื่อนตัวเล็กของเขากำลังจะกลับมาสู่โหมดปกติ

      แต่กว่ายุนโฮจะพูดเรื่องที่อยากจะพูด ข้าวต้มก็หมดถ้วยไปแล้ว (?)

      “ยุน... ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรนะ แจไม่ว่าอะไรยุนหรอก” เมื่อเห็นว่า เพื่อนร่างสูงตีสีหน้าเครียดเหมือนไม่อยากจะพูด แจจุงเลยพูดปลอบใจออกไป

      “ไม่ได้ไม่อยากพูด แต่มันพูดยากนะ - -“

      “..............”

      “ที่ผ่านมา ... ฉันคิดผิดมาตลอด”

      “หมายความว่ายังไง?” แจจุงเริ่มใจเสีย นี่ยุนโฮจะเลิกคบกับเขาหรือเปล่า?

      “ฉันรักนาย ...ไม่ได้รักแบบเพื่อนหรือพี่ชายน้องชาย ... แต่.... รักแบบคนรัก”

      “............”

      ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วห้องอีกครั้ง หลังจากยุนโฮพูดความในใจจบลง .. ถึงแจจุงจะยังมีนิสัยแบบเด็กๆมากแค่ไหน แต่การที่ได้ฟังอะไรที่มีความหมายตรงมากขนาดนี้ ก็ง่ายต่อการเข้าใจโดยไม่ต้องขยายความซ้ำ ....

      ร่างบางนิ่งไปนานก่อนจะเผยยิ้มบางๆออกมาเป็นครั้งแรก ... ยิ้มที่อบอุ่นสดใสแต่แฝงไปด้วยความสุข



      “แจรู้อยู่แล้วละ”

      “...........”

      “มีเพื่อนที่ไหน เขาทำกันแบบนี้บ้างละ ... หายากนะ”

      “หมายความว่า แจจุง รู้มาตลอด???”

      “อืม ...ก็รอให้ยุนรู้ตัวนั่นแหละ”

      "งั้นเรื่องที่แจชอบรุ่นพี่คังอินก็ ...?"

      "แจโกหก"

      หมายความว่าที่ผ่านมา คนโง่มีแต่เขาคนเดียวงั้นสิ ... ขนาดแจจุงที่ไม่ค่อยประสีประสายังรู้ตัวก่อนเขาเลย ...



      ในขณะที่ร่างสูงกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เขาไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่า มีร่างบอบบางของเพื่อนโถมตัวเข้าหาเขาทั้งๆที่เขายังนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง ... ดีที่ยุนโฮทรงตัวเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงล้มลงไปทั้งคนทั้งเก้าอี้ .. ก่อนจะตัดสินใจประคองเพื่อนตัวบางให้ยืนอยู่ด้วยกัน

      นัยน์ตาของทั้งคู่สบประสานกันพอดี ส่งผลทำให้หน้าหวานๆแดงระเรื่อราวกับผลตำลึงสุก




      ใบหน้าคมค่อยๆโน้มเข้าหาริมฝีปากสีชมพูช้าๆ ... ประกบเข้าหาอีกฝ่ายอย่างไม่รีบร้อน สัมผัสที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนถูกส่งผ่านมาทางริมฝีปากหยัก

      “อื้อ ...” ร่างบางครางอือในลำคอ เมื่อเรียวลิ้นหนาถูกส่งไปขออนุญาตก่อนเป็นอันดับแรก... แจจุงค่อยๆเผยอปากออกอย่างเต็มใจ ทำให้อีกฝ่ายส่งลิ้นเข้าไปสัมผัสความหอมหวานภายในได้อย่างสะดวก ...

      ลิ้นเล็กถดหนีเมื่อเจอเข้ากับสิ่งแปลกปลอมซึ่งพยายามเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กของตน สัมผัสที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น กำลังทำให้ร่างบางละลายลงคาอ้อมกอดอุ่นของอดีตเพื่อนรัก

      “อ๊า .. แฮ่กๆ” จูบร้อนแรงถูกถอนออกเมื่ออากาศหายใจเหลือน้อยจนหน้าหวานๆเริ่มขึ้นสีแดงเรื่อ ... ยุนโฮผละออกมาอย่างเสียดายแต่ก็กลัวว่า ถ้าทำอะไรเอาแต่ใจ แจจุงจะไม่ไหวเอาได้


      ยุนโฮยิ้มน้อยๆ ก่อนจะอ้าแขนออกรับร่างบางๆเข้ามากอดหลวมๆ ... ร่างบางซุกซบอยู่บนอกอุ่นๆที่เขารู้สึกอุ่นมากกว่าเดิมหลายเท่าอย่างออดอ้อน ... นัยน์ตาสีหวานหลับลงช้าๆเพื่อซึมซับความอบอุ่นที่ร่างสูงกำลังมอบให้

      เรียวแขนแกร่งค่อยๆกระชับกอดแน่นมากขึ้นจนแจจุงอดที่จะเงยหน้าขึ้นมามองสีหน้าของอดีตเพื่อนไม่ได้

      “ยุน ... ?”

      “ต่อจากนี้ .... นายเป็นของฉันนะ ... แจจุง”

      “อ่ะ .. เอ่อ ... อืม ^///^”


      “บอกรักฉันในฐานะ คนรักได้มั้ย?” ยุนโฮกระซิบอยู่ที่ใบหูนุ่ม เล่นเอาคนถูกบังคับ(?) ต้องหน้าแดงขึ้นมาอีกเป็นรอบที่ร้อยของวัน

      “..........”

      “พูดหน่อยนะ”

      “ระ ... รัก ... รักยุนโฮนะ”

      “ฉันก็รักแจจุงเหมือนกัน ......”


      ในที่สุด ประโยคบอกรักของทั้งสองคนก็สมบูรณ์เหมือนคู่รักคนอื่นๆจนได้





      ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน แฟน กิ๊ก หรือชู้ .... ความสัมพันธ์ทั้งหมดทั้งมวลมักมีเส้นใยบางๆที่บอบบางเสียจนบางครั้งก็ไม่สามารถขวางกั้นความรู้สึกของใครบางคนได้ จนต้องมีใครหลายๆคนผิดหวังกับความรักมากมาย

      ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนรักเพื่อน

      เพื่อนของเราไปรักแฟนเรา

      แฟนเราไปรักเพื่อนเรา

      หรือถ้าโชคดีหน่อย


      เพื่อนก็แอบหลงรักกันเอง.....



      ความจริงอาจจะไม่ได้สวยงามแบบในนิยายหรือฟิคชั่น แต่คนแต่งสาบานได้ว่า แต่งแล้วมีความสุขมาก (เฮ่ย ??? กลายเป็นความคิดคนแต่งซะงั้น 555+)



      แล้วคุณละ.....เคยมีความสัมพันธ์แบบไหนบ้าง ^^?


      THE END !!!

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×