หมอแสนดีกับหัวใจที่เจ็บช้ำ
การที่ต้องเสียสละคนรักให้กับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเค้าทำร้ายจิตใจเรามาตลอด แต่เป็นเพราะหน้าที่ ซึ่งหน้าที่นี้เองทำให้เค้าและเธอต้องแยกจากกัน ตราบนานแสนนาน.....T_ T การเสียสละครั้งนี้นำความปวดร้าวเข้ามาหาตัวเค้าเป็นอย่างมาก ถ้าทุกคนมีความรักก็ควรเก็บความรักให้น
ผู้เข้าชมรวม
287
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หมอแสนดีกับหัวใจที่เจ็บช้ำ
อณิภัทรลูกบุญธรรมของอรรถนพพ่อบ้านของตระกูล “ เศรษฐวรกฤติกุล ” มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ อณิภัทรถูกส่งไปเรียนแพทย์เพื่อช่วยในการรักษาปิยะทายาทคนเดียวของตระกูลเศรษฐวรกฤติกุลซึ่งเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ปิยะไม่เคยมีเพื่อนสักคนนอกจากอณิภัทรซึ่งเป็นทั้งน้องชาย เพื่อนรัก และหมอประจำตัว แต่ปิยะก็ยังทำร้ายจิตใจอันซื่อบริสุทธิ์ของอิณภัทรบ่อยครั้ง อณิภัทรถูกอรรถนพเก็บมาเลี้ยงเป็นลูกเพราะเหตุการณ์บังคับ มีผู้หญิงคนหนึ่งเอามาฝากไว้ก่อนที่เธอจะสิ้นใจ อรรถนพจึงต้องเลี้ยงดูอณิภัทรต่อจากนั้นมาจนโต แต่อณิภัทรก็ตอบแทนบุญคุณของอรรถนพตลอดเวลาแม้เค้าไม่รู้เลยว่าเค้าไม่ใช่ลูกชายที่แท้จริงก็ตาม นิสัยของปิยะทำให้อณิภัทรเอื่อมระอามากแต่ก็ต้องทนเพราะมันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ
วันหนึ่งมีการประชุมที่บริษัทแต่ปิยะกลับขับรถเที่ยวตามใจไปทั่วจนทำให้อรรถนพต้องโทรตามอณิภัทรออกตามหาปิยะ เมื่อตามหาปิยะพบอณิภัทรก็พาปิยะกลับมาที่บ้านแต่ไม่วายปิยะก็โวยวายอะลาวาทใส่อณิภัทรเป็นใหญ่
ในคืนนั้นปิยะก็คิดหนีเที่ยวนอกบ้านอีกแต่พอเดินมาที่รถก็พบอณิภัทรนั่งคล่อมรถจักยานยนต์ของเค้าไว้
“ นายจะทำอะไรของนาย..! ”ปิยะโวยวายใส่อณิภัทร
“ ชั้นต่างหากที่ต้องถามนายว่านายจะไปไหน ”อณิภัทรย้อนถามเสียงขรึม
“ แล้วไง..... ? ”ปิยะถามเยาะ ๆ แล้วหันไปเปิดประตูรถยนต์โดยไม่แยแสคำห้ามปราม
“ ธุรกิจไม่ได้มีแต่นายคนเดียว....นายเคยคิดถึงพวกเค้าบ้างไหม...?..ถ้านายเป็นอะไรคนอีกเป็นพันต้องตกงาน ”อณิภัทรพูดเตือนสติปิยะ
“ ถ้านายมีเวลาว่างมาสั่งสอนชั้นทำไมไม่เอาเวลานั้นไปคิดถึงคนอื่นแทนชั้นบ้างล่ะ ”พูดจบปิยะก็สตาร์ทเครื่องแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
อณิภัทรก็ได้แต่ยืนมองอย่างเจ็บใจที่ไม่อาจห้ามปิยะได้ จากนั้นก็เดินกลับไปที่ตึกใหญ่อย่างเซ็ง ๆ แต่แล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นอรรถนพออกมาพอดี
“ เสียงรถอะไร..... ? แล้วใครออกไปไหน..... ? ”อรรถนพถามลูกชาย
“ จะใครอีกล่ะครับ ” อณิภัทรพูดเบา ๆ และจะเดินเลี่ยงไป แต่ก็ถูกอรรถนพพูดถามต่อ
“ ทำไมไม่ห้ามคุณปิยะเค้า นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ปล่อยออกไปได้ไง ”คำตำหนิทำให้อณิภัทรน้อยใจพ่อตัวเอง
“ เค้าโตแล้วนะครับ แต่ถ้าพ่ออยากให้ผมไปตาม ผมก็จะไปตามให้ ”อณิภัทรพูดออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
“ งั้นออกไปตามเลย ถ้าหาไม่เจอไม่ต้องกลับ ! ”อรรถนพพูดจบแล้วเดินกลับห้องตัวเอง
ส่วนอณิภัทรที่ได้ยินคำนั้นก็เสียใจเอามาก ๆ แล้วออกไปตามหาปิยะ แต่ตามหาเท่าไหร่ก็ตามหาไม่เจอ อณิภัทรซึ่งเหนื่อยจากการตามหาปิยะเมื่อตอนเช้าและผ่าตัดผู้ป่วยตอนบ่าย และวันพรุ่งนี้ก็มีเคสผ่าตัดอีกตั้งแต่เช้า อณิภัทรจึงตัดสินใจกลับบ้านแต่ระหว่างทางกลับอณิภัทรก็ขับมาเรื่อย ๆ จนจะถึงหน้าบ้านอยู่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นรถของปิยะที่ขับกลับบ้านมาอย่างรวดเร็วพุ่งชนกับรถที่อณิภัทรขับมาอย่างจัง เสียงดังโครม อรรถนพได้ยินเสียงรถชนก็รีบวิ่งออกมากับพิมพ์คนใช้ เมื่ออกมาถึงหน้าบ้านก็ถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูก อรรถนพเดินมาหาปิยะที่ศรีษะแตกจากการปะทะของรถ ส่วนพิมพ์ก็วิ่งไปดูคนขับรถอีกคันเมื่อพิมพ์เห็นถึงกับร้องออกมา
“ คุณภัทร !! ”พิมพ์ร้องออกมาอย่างตกใจ
อรรถนพได้ยินเสียงของพิมพ์ก็รีบวิ่งไปหาพิมพ์
“ เป็นอะไรพิมพ์ ..... ? ”อรรถนพถามพิมพ์
“ คุณ .....ภัทร ... ”พิมพ์พูดตะกุกตะกัก
“ ภัทรอะไร ..... ? ”อรรถนพยังถามไม่หยุดเพราะฟังไม่รู้เรื่อง
“ คุณภัทรนอนอยู่ในรถ ”พิมพ์พูดแล้วชี้ไปที่รถ
อรรถนพเหลียวไปดูแล้วตกใจสุดขีดหัวใจเหมือนจะหยุดเต้นเพราะเห็นร่างของอณิภัทรอัดกับรถอยู่เลือดเปื้อนเสื้อและหน้าเต็มไปหมด
“ ภัทร !! ”อรรถนพร้องโฮออกมา
“ เดี๋ยวพิมพ์ไปตามรถพยาบาลนะค่ะ ”พิมพ์วิ่งไปโทรศัพท์
“ ภัทรอย่าเป็นอะไรนะ พ่อไม่น่าให้ลูกออกไปเลย ”อรรถนพพยายามเอาร่างที่ไร้สติของอณิภัทรออกจากซากรถ โดยมีปิยะที่ยืนนิ่งเงียบสีหน้ารู้สึกผิดเป็นอย่างยิ่ง ไม่ถึง 5 นาทีรถพยาบาลก็มา
ที่โรงพยาบาล
เมื่อปิยะทำแผลเสร็จก็เดินมาหาอรรถนพซึ่งนั่งไม่ติดเก้าอี้อยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดโดยข้าง ๆ ของอรรถนพก็มีพิริสสาลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาลที่แอบปลื้มอณิภัทรนั่งน้ำตาไหลอยู่ข้าง ๆ
“ ผมขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ”ปิยะมาขอโทษอรรถนพเรื่องขับรถชนอณิภัทร
“ ไม่เป็นไรครับคุณปิยะ คุณคงเหนื่อยมากคุณกลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อนเถอะครับ ส่วนผมจะรออณิภัทรออกมาก่อน ”
“ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนเองครับ ”
“ คุณใช่ไหมที่ขับรถชนหมออณิภัทร คุณเกลียดเค้ามากหรอถึงทำแบบนี้ ถ้าหมออณิภัทรเป็นอะไรไปชั้นจะไม่ให้อภัยคุณแน่นอน ”พิริสสาพูดกับปิยะ
เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมงหมอองอาจก็ออกมาจากห้องผ่าตัด
“ องอาจตาภัทรเป็นอย่างไรบ้าง ”อรรถนพถามหมออย่างร้อนใจ
“ ภัทรตอนนี้อาการยังทรงตัวอยู่แต่ถ้าผ่าน 24 ชั่วโมงนี้แล้วก็มีโอกาสรอดเยอะ ”
“ คุณลุงครับนายภัทรไม่เป็นไรหรอกถ้ามีผมคอยดูแล ผมคงไม่ให้เค้าเป็นอะไรไปหรอกครับ เค้าเป็นเพื่อนของผม และเป็นหมอที่ดีที่สุดและมีคนรักเค้าอีกมาก ผมคงไม่ปล่อยให้เค้าไปง่าย ๆ หรอกครับ ”
“ ขอบใจนะองอาจ ”
“ ครับคุณลุง ”
จากนั่นหมอองอาจก็เดินออกไป
“ คุณปิยะครับคุณกลับบ้านเถอะครับ เดี๋ยวมีประชุมตอน 8 โมงไม่ใช่หรอครับ ”
“ ครับเดี๋ยวผมจะไป แต่ขอผมไปดูอณิภัทรก่อนนะครับ ”ปิยะขอเข้าไปดูอาการของอณิภัทร
“ ครับคุณปิยะเชิญเลยครับ ”
10 วันผ่านไป ตั้งแต่วันที่ปิยะขับรถยนต์ชนอณิภัทรจนอาการปางตาย ตั้งแต่วันนั้นปิยะก็รู้สึกผิดมาตลอดแต่มุ่งหน้าทำงานพอเลิกงานก็ไปเฝ้าอาการของอณิภัทรตลอดถ้ามีเวลาว่าง ส่วนคนที่เฝ้าอาการของอณิภัทรตลอดเวลาคือพิริสสาเธอเฝ้าดูแลอณิภัทรตลอดเวลา
“ หมอภัทรหายไวไวนะค่ะ ”พิรสสาถามอณิภัทร
“ ผมขอบคุณคุณมากนะครับที่ดูแลผมมาตลอด ”อณิภัทรขอบใจพิริสสาที่ดูแลตนเองมาตลอด 10 วัน
“ คุณหมอองอาจบอกว่าคุณหมอจะออกโรงพยาบาลได้ในวันพรุ่งนี้ ”
“ ขอบคุณมากครับ ”
ก๊อก ก๊อก
“ เชิญครับ ”
“ เป็นไงบ้างลูก ค่อยยังชั่วหรือยัง ”อรรถนพเดินเข้ามาพร้อมกับปิยะ
“ ครับ ไม่เป็นไรแล้ว ”
“ ไม่เป็นไรก็หายไว ๆ นะ ”อรรถนพตีแขนลูกชายเบา ๆ
“ ชั้นขอโทษนายจริง ๆ นะชั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้นายเป็นแบบนี้ ”ปิยะขอโทษอณิภัทร
“ ถ้าชั้นเป็นอะไรไป แล้วทำให้นายเปลี่ยนเป็นคนที่ดีได้ชั้นก็ยอม ”
“ นายก็ต้องหายไว ๆ นะจะได้มารักษาชั้นต่อ ”
“ รู้แล้วน่า ชั้นไม่ตายง่าย ๆ หรอกเพราะยังมีคนที่รอให้ชั้นไปรักษาพวกเค้าอยู่ ”
วันที่อณิภัทรออกจากโรงพยาบาลอรรพนพก็มารับถึงโรงพยาบาล
“ หายไว ๆ นะไอ้หมอ ผู้ป่วยถามหานายตลอดเวลาเลย กลับมาเป็นหมอสุดหล่อที่โรงพยาบาลเร็ว ๆ ล่ะ ไม่งั้นชั้นคงเหี่ยวตายเลยเพราะนายเจ็บแบบนี้ไม่มีพยาบาลสาวสวยมาบริการชั้นเลย หายไว ๆ นะ ”องอาจพูดน้อยใจนิด ๆ ที่อณิภัทรตัวนำโชคป่วยแล้วไม่มีพยาบาลมาคอยดูแล
“ ชั้นจะหายไว ๆ แล้วกัน ชั้นไปก่อนนะ ขอบใจมากนะไอ้เพื่อนรัก ”
อณิภัทรขอบคุณองอาจเสร็จก็เดินทางกลับบ้านพร้อมพ่อ
เมื่อมาถึงบ้านก็พบปิยะนั่งรออณิภัทรอยู่ที่ห้องรับแขกในตึกใหญ่
“ คุณภัทรมาแล้วค่ะ ”พิมพ์วิ่งมาบอกปิยะ
“ เค้าอยู่ไหน ”
“ ขึ้นไปข้างบนแล้วค่ะ ”
อณิภัทรเดินขึ้นบันไดโดยมีพิริสสาพยุงขึ้นไปบนห้อง
“ คุณไม่ทำงานหรอครับ คุณมาอยู่ที่นี่คุณแม่คุณไม่ว่าหรอครับ ”อณิภัทรถามพิริสสาเพราะพิริสสาไม่ยอมไปทำงานเพราะมัวแต่มาดูแลตน
“ ไม่เป็นไรค่ะชั้นจะดูแลคุณอยู่ที่นี่ ”
“ ผมไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ พักอีก 1-2 วันผมก็จะไปทำงานแล้ว ”
“ ชั้นขอคุณแม่ให้คุณพักต่ออีก 1 สัปดาห์ไม่ต้องห่วงนะค่ะ ”
“ คุณมาเฝ้าผมอยู่ที่นี่คุณไม่อายบ้างหรอครับ ผมเป็นลูกคนใช้นะครับ แต่คุณเป็นถึงลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาล คุณไม่ควรลงมาเกลือกกลั้วกับคนอย่างผมเลย ”อณิภัทรพูดดูถูกตัวเองและน้อยใจที่เป็นได้แค่นี้
“ อย่าพูดอย่างงั้นสิค่ะ ชั้นไม่สนหรอกค่ะว่าคุณจะเป็นใคร ”
พูดจบพิริสสาก็เข้ากอดอณิภัทรซึ่งหน้าของอณิภัทรดูจะตกใจเอามาก ๆ เพราะไม่เคยถูกใครกอดมาก่อน จังหวะนั้นปิยะก็เดินเข้ามาพอดี เมื่อเห็นพิริสสากอดกับอณิภัทรก็ถึงกับโรคหัวใจกำเริบ เพราะปิยะหลงรักพิริสสาตั้งแต่แรกเห็นที่โรงพยาบาลในวันนั้น
“ ปิยะ !! ”อณิภัทรกระโดลงเตียงวิ่งตรงมาประคองปิยะลุกขึ้น
“ คุณหมอค่ะ คุณยังไม่หายดีนะค่ะเบา ๆ หน่อยค่ะ ”
พิริสสาเดินมาประคองอณิภัทรซึ่งอณิภัทรก็กำลังประคองปิยะอยู่มาที่เตียงของอณิภัทร
“ หายใจลึก ๆ เอาไว้ ”อณิภัทรสั่งให้ปิยะหายใจลึก ๆ
“ คุณริสาครับผมวานให้คุณไปตามพ่อผมมาได้ไหมครับ ”อณิภัทรวานให้พิริสสาไปตามพ่อให้
“ ค่ะ ”
เมื่อพิริสสาออกไปอณิภัทรก็ทำการตรวจปิยะอย่างตั้งใจ
“ คุณปิยะเป็นอะไรครับ ”อรรถนพวิ่งมาอย่างตกใจ
“ เป็นลมหน้ามืดครับพ่อ ”อณิภัทรบอกพ่อ
“ แล้วทำไมถึงหน้ามืดได้ล่ะ ”อรรถนพถามลูกชาย
“ ไม่รู้สิครับ เห็นเดินเข้ามาแล้วก็ล้มลงไป ”
“ คุณลุงค่ะหนูขอตัวกลับก่อนนะค่ะ ”พิริสสาลาอรรถนพ
“ ผมขอบคุณคุณมากนะครับที่ดูแลลูกชายผม ”
“ ค่ะ หนูเต็มใจค่ะ ”
“ ขอบคุณมากนะครับคุณริสสาที่ดูแลผมมาตลอด ”อณิภัทรขอบคุณพิริสสา
พิริสสาเดินตรงมาหาอณิภัทรแล้วหอมแก้มอณิภัทรแล้วเดินออกไป
อณิภัทรตกใจอีกรอบเพราะถูกหอมแก้ม แล้วก็ยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
“ พ่อรู้แล้วเหตุผลที่คุณปิยะเป็นแบบนี้ ”อรรถนพพูดเหมือนรู้ทุกอย่างแล้ว
“ พ่อครับผมขอตัวก่อนนะครับ คืนนี้ให้ปิยะนอนที่ห้องผมแล้วกันนะครับพ่อผมจะไปนอนที่เรือนรับรองข้างล่างก็ได้ครับ ผมไปแล้วนะครับ แล้วพ่ออย่าลืมเอายาให้เค้ากินด้วยนะครับ”พูดจบอณิภัทรก็เดินออกห้องไป
เมื่ออณิภัทรเดินออกไปปิยะก็ลุกขึ้น
“ ค่อยยังชั่วหรือยังครับคุณปิยะ ”
“ ชั้นไม่เป็นไร แต่คุณริสสาเค้าเป็นอะไรกับภัทรหรอ ”
“ ผมก็ไม่ทราบน่ะครับ ดูท่าจะเป็นคุณริสสาที่ชอบตาภัทร แต่ตาภัทรผมว่าคงไม่ใช่เพราะตอนที่คุณริสากอดดูท่าทางเจ้าภัทรจะตกใจน่าดู เหงื่อออกเต็มหน้ายืนตัวแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ ผมว่าเจ้าภัทรเค้ายังอ่อนต่อผู้หญิงแยะ ไม่มีทางคิดเกินไปกว่าเพื่อนร่วมงานหรอกครับ ”
“ ผมหวังว่าเค้าจะเป็นอย่างที่คุณพูด ”ปิยะพูดแล้วเดินออกห้องของอณิภัทรไป
ได้ยินอย่างนั้นแล้วอรรถนพก็เดินไปหาอณิภัทรที่ห้องรับรองข้างล่าง
“ ยังไม่นอนหรอภัทร นี่ก็ดึกแล้วนะทำไมไม่นอนอีก ”อรรถนพพูดกับลูกชายอย่างเป็นห่วง
“ ผมยังไม่ง่วงครับพ่อ ผมขอทำงานที่ค้างไว้เสร็จก่อนแล้วกัน ”
“ งั้นพ่อขอถามเรื่องอะไรหน่อยได้ไหม ”
“ ครับ พ่ออยากถามอะไรเชิญถามมาได้เลยครับ ”
“ ภัทรกับคุณริสสาเป็นแฟนกันใช่ไหม ”
“ พ่อคิดว่าผมกับคุณริสสาเป็นแฟนกันหรอครับ ”
“ แล้วถ้าไม่ใช่ ทำไมเค้าถึงหอมแก้มแกต่อหน้าพ่อ ”
“ เค้าชอบผมมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เป็นนักศึกษาแพทย์ ”
“ แล้วแกหล่ะชอบเธอหรือเปล่า ”
“ คือว่า....เออ ”อณิภัทรพูดตะกุกตะกักเพราะไม่มั่นใจในหัวใจของตน
“ แล้วสุดท้ายแกก็ไม่มั่นใจในหัวใจของตนเองว่าชอบหรือไม่ชอบ ”
“ ผมชอบเธอครับ แต่ผมคงไม่มีสิทธิ์ที่จะรักเธอใช่ไหมครับพ่อ ”อณิภัทรยอมเปิดใจแล้วน้ำตาก็คลอเบ้า
“ นี่เป็นเรื่องจริงหรอเนี่ย พ่อขอสั่งเลยนะว่าเลิกยุ่งกับเธอซะ ”อรรถนพสั่งลูกชายตัวเองอย่างหนักแน่นแต่ในใจแล้วเค้ากลับเสียใจมาก ๆ ที่ต้องพูดออกไป
“ ใช่สิครับพ่อ ผมมันต้อยต่ำจะไปสู้อะไรกับคุณปิยะของพ่อหล่ะครับ เค้าทั้งรวยทั้งหล่อนี่ครับ ผมสิไม่มีอะไรเลยแม้แต่ผู้หญิงที่รักยังไม่มีสิทธิ์ที่จะรักเธอ ”อณิภัทรพูดอย่างน้อยใจตนเอง
“ ภัทร ..... ”อรรถนพพูดเพราะเห็นใจลูกชายเอามาก ๆ
“ พ่อครับแสดงว่าชีวิตของผมต้องถูกปิยะกำหนดใช่ไหมครับ พ่อสั่งให้ผมไปเป็นหมอก็เพราะเค้า ขนาดผู้หญิงที่ผมรักก็ต้องยกให้เค้าใช่ไหมครับ ผมทนไม่ไหวแล้วนะครับ ก็ได้ครับงั้นเค้าอยากได้อะไรจากผมอีกพูดมาเลยครับผมจะให้ จะเปลี่ยนหัวใจเลยไหมครับ ผมจะสละให้เอาไปเลยครับ ”อณิภัทรพูดแล้วหยิบมีดพกที่อยู่ในลิ้นชักออกมา แล้วหันปลายแหลมเข้าที่หน้าอกตัวเองแล้วค่อย ๆ แทงแล้วเลือดค่อย ๆ ซึมออกมา
“ จะทำอะไรตาภัทร หยุดนะตาภัทร ! พ่อบอกให้หยุดไงเล่า ! ”เมื่อพูดแล้วอณิภัทรไม่ยอมฟังอรรถนพจึงเข้ามาดึงมีดออกจากมือของอณิภัทร
“ พิมพ์ !! พิมพ์ !! เอากล่องยามาให้หน่อย ”อรรถนพตะโกนเรียกพิมพ์
“ ค่ะมาแล้วค่ะ ”พิมพ์ถือกล่องยามาให้อรรถนพ
“ ไปเอาผ้าขนหนูแล้วก็ชามใส่น้ำมาด้วย แล้วก็เอาเสื้อคุณภัทรมาด้วยเร็วหน่อยนะ ”อรรถนพสั่งพิมพ์เป็นชุด
เมื่อสั่งพิมพ์เสร็จแล้วก็หันมาทางอณิภัทรลูกชายซึ่งนั่งนิ่งพิงกับเก้าอี้เอนน้ำตาไหลออกจากดวงไม่หยุด
“ เดี๋ยวพ่อจะทำแผลให้ ”อรรถนพมาหาหาอณิภัทรแล้วถอดเสื้ออณิภัทร
“ นี่ค่ะคุณนพ ”
เมื่อทำแผลให้อณิภัทรเสร็จอรรถนพก็เดินออกห้องไป แต่ก็ออกไปอรรถนพก็พูดกับลูกชาย
“ พ่อขอโทษนะ ”
รุ่งขึ้นเมื่อตรวจอาการของปิยะ แล้วอณิภัทรก็ไปโรงพยาบาลทันที
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็มาพบกับพิริสสาทันที
“ มาหาชั้นตั้งแต่เช้า ”
“ ผมอยากขอร้องคุณให้ช่วยดูแลปิยะแทนผมด้วย ”
“ แล้วคุณจะไปไหนค่ะ ”
“ คือว่าผมจะต้องไปศึกษางานที่อเมริกา มันเป็นคำสั่งของโรงพยาบาลน่ะครับ ”
“ คุณไม่ไปก็ได้นะค่ะเดี๋ยวชั้นบอกคุณแม่ให้ ”
“ ไม่เป็นไรครับ ผมจะไปประมาณ 3 เดือนฝากดูแลปิยะด้วยนะครับ ”
“ ค่ะชั้นจะดูแลคุณปิยะให้คุณ แต่คุณต้องสัญญาว่าจะไม่มีใครเมื่ออยู่ที่โน่น ”
“ ครับผมสัญญา ผมไปก่อนนะครับ ”
พูดจบอณิภัทรก็กำลังจะเดินออกนอกห้องแต่ต้องหยุดเพราะพิริสสาวิ่งมากอดทางด้านหลัง แล้วร้องไห้ฟูมฟายอยู่ข้างหลังอณิภัทร
“ ริสสาครับอย่าร้องไห้นะครับ ถ้าคุณร้องไห้ผมก็ยิ่งผิดนะครับ หยุดร้องไห้นะครับ ”อณิภัทรพูดแล้วเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาให้พิริสสา เมื่อพิริสสาหยุดร้องไห้เธอก็กอดอณิภัทร
“ ไปกันเถอะค่ะ ชั้นจะไปส่งคุณที่บ้านไปช่วยเก็บเสื้อผ้า ”
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางมาที่บ้านธนะเศรษฐวรกฤติกุล
“ ทำไมมาเร็วจัง เลิกงานแล้วหรอตาภัทร ”อรรถนพเดินมาถามลูกชายเพราะวันนี้กลับบ้านเร็วกว่าปกติ
“ สวัสดีค่ะคุณลุง ”
“ สวัสดีครับคุณริสสา ”
“ ผมมาเก็บเสื้อผ้า ”
“ เก็บเสื้อผ้าจะไปไหน ”อรรถนพถามลูกชายทันที
“ ผมต้องไปศึกษาดูงานที่อเมริกา 3 เดือน ถ้าผมไปแล้วผมจะให้คุณริสสามาดูแลปิยะแทนผม ”
“ งั้นจะไปเมื่อไหร่ ”
“ ผมจะต้องไปเย็นนี้ งั้นผมไปเก็บเสื้อผ้าก่อนนะครับ ”อณิภัทรขอตัวขึ้นข้างบนโดยมีพิริสสาเดินตามขึ้นมาด้วย
ส่วนอรรถนพเมื่อรู้ว่าอณิภัทรจะไปต่างประเทศก็ได้โทรบอกปิยะว่าอณิภัทรจะไปต่างประเทศแล้วยังให้พิริสสามาดูแลปิยะแทนเค้าด้วย เมื่อรู้ข่าวปิยะก็กลับบ้านทันที
“ ภัทรนี่เงินเอาไว้ใช้ตอนอยู่ที่โน่น ”อรรถนพยื่นเช็คให้ลูกชาย
“ ไม่เป็นไรครับพ่อ เงินเดือนผมก็มีนะครับ พ่อเก็บไว้เถอะครับ ”
เมื่อได้เวลาขึ้นเครื่องอณิภัทรก็ลาพ่อและพิริสสา
“ พ่อครับผมไปนะครับ ”
“ โชคดีนะภัทรตั้งใจทำงานหน่อยนะ ”
“ ครับ ”
“ ริสสาผมไปก่อนนะ ”
“ โชคดีนะค่ะภัทรชั้นจะรอคุณ ”
“ ครับผมก็จะรอคุณเช่นกัน ”
“ โชคดีเพื่อนตั้งใจทำงานหล่ะ ”องอาจพูดขึ้นแต่ก็หวิว ๆ
“ ดูแลพ่อกับริสสาให้ชั้นด้วยหล่ะ ”
“ เออ ไม่ต้องห่วง ”
“ ปิยะชั้นมีเรื่องต้องพูดกับนาย ”อณิภัทรเรียกปิยะมาพูด
“ ชั้นรู้ว่านายชอบริสสาชั้นหวังว่าเวลา 3 เดือนจะทำให้นายพิชิตใจเธอได้นะ ”อณิภัทรพูดด้วยสีหน้าแสดงความยินดีกับปิยะแต่ในใจกลับตรงกันข้ามยิ่งปวดรวดร้าว และเค้าก็พยายามผืนยิ้มอย่างจาง ๆ
“ ขอบใจมากนะภัทร ”
“ ชั้นต้องไปแล้วล่ะรักษาสุขภาพด้วย ”
เมื่อลาทุกคนเสร็จอณิภัทรเดินทางไปอเมริกา
ส่วนปิยะที่มีพิริสสาดูแลอาการก็ดีขึ้น ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความรู้สึกของเค้าก็เก็บไว้ในใจตลอดเวลาโดยไม่ยอมปริปากพูดแต่พิริสสาก็รับรู้มาโดยตลอดว่าปิยะหลงรักตนเอง จนทำให้พิริสสาเริ่มใจอ่อนกับความดีที่ปิยะมอบให้ตลอดเวลาเกือบ 3 เดือนและอีกไม่วันก็จะได้กำหนดกลับของอณิภัทรแล้ว
ทางอณิภัทรที่อยู่อเมริกาก็ได้แต่มุ่งหน้าทำงานอย่างขยันขันแข็งจนทำให้ทางโรงพยาบาลของอเมริกาติดต่อขอตัวอณิภัทรไว้ทำงานที่อเมริกา แต่ต้องรอการตัดสินของอณิภัทรเพียงคนเดียว
ดังนั้นอณิภัทรจึงโทรมาปรึกษาพ่อที่เมืองไทย
“ พ่อครับผมเองนะครับ ”
“ ภัทรหรอลูก นี่ภัทรอยู่ที่โน่นเป็นยังไงบ้าง รักษาสุขภาพหน่อยนะ ”
“ พ่อครับปิยะเป็นไงบ้าง ”
“ คุณปิยะตอนนี้อาการดีขึ้นมาก แล้วตอนนี้ก็กำลังจะพิชิตใจคุณริสสาได้แล้ว ”
“ จริงหรอครับ งั้นผมฝากแสดงความยินดีกับเค้าด้วยนะครับ พ่อครับที่ผมโทรมาผมมีเรื่องจะบอกพ่อ ”
“ เรื่องอะไรหรอ แล้วลูกจะกลับมาเมื่อไหร่ ”
“ พ่อครับผมคงจะไม่ได้กลับแล้วครับ เพราะผมต้องทำงานที่อเมริกา พ่อคงไม่ว่าผมนะครับ ”
“ อยู่ต่อเถอะพ่อไม่ห้ามลูกแล้วล่ะ ลูกจะทำอะไรก็ตามใจลูกแล้วกันเพราะพ่อทำร้ายจิตใจลูกมามากพอแล้ว ”
“ พ่อครับเท่านี้ก่อนนะครับ ผมต้องไปประชุมต่อแล้วผมจะโทรไปใหม่ ”
“ พักผ่อนมาก ๆนะลูกดูแลสุขภาพด้วย ”
“ ครับพ่อก็เหมือนกัน ผมต้องไปแล้ว ”
เมื่อได้คำตอบที่แน่นอนอณิภัทรก็มาตอบตกลงทันที
ส่วนปิยะที่รู้ข่าวจากอรรถนพว่าอณิภัทรจะปักหลักทำงานที่อเมริกาก็ดีใจแทนแต่ก็ทำให้ใจหายไม่น้อยเพราะทุกครั้งก็จะมีอณิภัทรที่คอยดูแลและคอยตามหาตอนที่เค้าหนีออกจากบ้าน
ส่วนพิริสสาก็เสียใจที่อณิภัทรไม่กลับมาก็ได้แต่ร้องไห้เสียใจแต่ก็มีปิยะคอยปลอบข้าง ๆ ทำให้พิริสสามอบใจครึ่งหนึ่งให้ปิยะและตกลงจะแต่งงานกับปิยะหลังจากการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจอีก 1 เดือนข้างหน้า
อณิภัทรเมื่อทำงานที่อเมริกาก็รู้สึกมีความสุขกับการทำงาน วันหนึ่งซึ่งเป็นเวรของอณิภัทรพอดีก็มีผู้ป่วยรายหนึ่งถูกส่งตัวมาอย่างเร่งด่วน ผู้ป่วยรายนี้ต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนไขกระดูก ซึ่งผู้ป่วยรายนี้คือนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของอเมริกา ซึ่งเค้าชื่อแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์อณิภัทรจึงรีบโทรตามให้แพทย์ประจำตัวของแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์มารักษาต่อ
“ ท่านเป็นยังไงบ้างหมออณิภัทร ”แพทย์ประจำตัวของแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์
“ ตอนนี้อาการก็ยังทรง ๆ อยู่ แล้วท่านเป็นอะไรครับ ”
“ ท่านกำลังรอเปลี่ยนไขกระดูกสันหลัง ”
“ แล้วตอนนี้เจอคนที่มีไขกระดูกสันหลังตรงกับท่านหรือยังครับ ”
“ ยังครับเรากำลังตามหาอยู่ ”
“ หวังว่าจะเจอไว ๆ นะครับ ”อณิภัทรพูดจบก็เดินกลับไปที่ห้องพักของแพทย์เวร
เมื่อถึงเวลาออกเวรอณิภัทรจึงเข้าไปเยี่ยมแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ที่ห้อง
ก็พบว่าในห้องแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ท่านกำลังโวยวายขว้างปาข้าวของใส่ลูกน้องอย่างบ้าคลั่งจนลูกน้องต้องวิ่งออกมาจากห้อง
จังหวะที่อณิภัทรเปิดประตูเข้าห้องไป ขวดน้ำก็ลอยมาปะทะกับหน้าผากอย่างจัง เลือดอุ่น ๆ ค่อย ๆ ไหลซึมออกมา แต่อณิภัทรก็ไม่พูดอะไร ก็ก้มหน้าก้มตาเก็บขวดที่แตกอยู่กับพื้น อย่างบรรจงโดยเลือดก็ไหลเปื้อนลงพื้นเรื่อย ๆ เสื้อของอณิภัทรก็เปื้อนไปด้วยเลือด จังหวะนั้นสร้อยคอที่อณิภัทรใส่มาตั้งแต่เกิดก็ได้หลุดออกจากคอ ตกลงกับพื้น แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์สังเกตเห็นสร้อยเส้นนั้นก็เหมือนคับคล้ายคับคาเหมือนเคยเห็นที่ไหน เมื่อเก็บเศษแก้วเสร็จอณิภัทรก็เดินมาหาแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์อย่างสงบ
“ เป็นยังไงบ้างครับท่าน ”อณิภัทรถามอาการของแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์อย่างอ่อนโยน
“ เป็นไงบ้างครับคุณหมอผมขอโทษนะครับ ”
“ ไม่เป็นไรครับ แล้วท่านโกรธเรื่องอะไรหรอครับ บอกผมได้ไหม เผื่อผมจะช่วยอะไรได้ ”
“ หมอช่วยผมไม่ได้หรอกครับ แม้แต่ลูกน้องผม ตำรวจก็ช่วยผมไม่ได้ ”
“ เรื่องอะไรหรอครับ บอกผมได้นะครับ ”
“ เช็ดเลือดก่อนไหมครับหมอเปื้อนหมดแล้ว เดี๋ยวผมเช็ดให้นะ ”
แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์นำผ้ามาซับเลือดให้อณิภัทรอย่างอ่อนโยน มือของแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ทำให้อณิภัทรรู้สึกอบอุ่น อ่อนโยนอย่างไม่เคยได้รับจากพ่ออรรถนพเลย
“ ขอบคุณครับท่าน แต่ผมว่าผมเช็ดเองดีกว่าครับ ”
“ ตามใจครับหมอ ”
“ เดี๋ยวผมเรียกแม่บ้านมาเก็บข้าวของให้นะครับ ตอนนี้ผมขอตัวไปทำแผลก่อน ถ้าท่านมีเรื่องอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้นะครับ ”อณิภัทรพูดจบก็เดินออกห้องไป
เมื่ออณิภัทรออกห้องไปแล้วแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ก็ลุกของจากเตียงแล้วลุกไปเก็บสร้อยของอณิภัทรที่ตกล่นขึ้นมาดู แต่ก็ต้องตกใจเพราะมันเป็นสร้อยที่เค้าให้กับลูกชายเมื่อ 26 ปีก่อนก่อนที่ลูกชายจะถูกแม่ของเค้าลักพาตัวไป
ตกเย็นอณิภัทรก็มาเยี่ยมแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ก่อนเข้าเวร
“ สวัสดีครับท่าน ผมซื้อผลไม้มาฝาก ”
“ ขอบใจมากนะหมอ ผมมีเรื่องจะบอกหมอหน่อยจะได้ไหม ”
“ ครับเชิญพูดมาเลยครับ ”
“ คุณหมอทำของหล่นไว้เมื่อวานนี่ครับ ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์หยิบสร้อยคอที่อณิภัทรทำหล่นไว้คืนให้
“ ขอบคุณครับที่เก็บไว้ให้ ”อณิภัทรดีใจมากที่เห็นสร้อยนี่อีกครั้ง
“ เมื่อ 26 ปีก่อนผมได้สูญเสียลูกชายคนเดียวที่ผมมีไป เค้าถูกแม่ของเค้านำตัวไปโดยไม่บอกให้ผมรู้ เธอนำลูกของเราไปได้แค่ 2 วันผมก็ได้ข่าวว่าเธอถูกรถชนเสียชีวิตที่เมืองไทย ส่วนลูกชายผมไม่ได้ข่าวว่าเค้าจะเป็นยังไง แต่ตลอดเวลา 26 ปีผมก็ตามหาเค้ามาตลอด ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์พูดไปร้องไห้ไป
“ แล้วคุณตามหาเค้าเจอหรือยังครับ ”อณิภัทรพูดเสียงสั่น ๆ
“ เมื่อก่อนผมไม่เจอ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าผมเจอแล้วหล่ะ ”
“ ใครหรอครับ แล้วเค้าอยู่ไหนผมจะไปตามเค้ามาหา ”
“ ไม่จำเป็นหรอ เพราะตอนนี้เค้าอยู่กับผมแล้ว ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์พูดแล้วหันหน้าสบตากับอณิภัทร
“ แล้วตอนนี้เค้าอยู่ไหน ”อณิภัทรทำหน้างง
“ คุณหมอคุณอายุเท่าไหร่แล้ว ”
“ ปีนี้ก็ 26 ย่าง 27 ท่านถามผมมีอะไรหรอครับ ”
“ แล้วบ้านคุณอยู่ที่ไหนหรอครับ ผมอยากไปเที่ยว ”
“ บ้านผมหรอครับ ผมไม่มีบ้านเป็นของตัวเองหรอกครับ ผมเป็นแค่ลูกคนใช้ต้องอาศัยบ้านเค้าอยู่ แล้วท่านอยากไปจริง ๆ หรอครับ ”
“ ไปสิถ้าคุณหมอพาผมไป ”
“ ตกลงครับผมจะพาคุณไปเที่ยวและถือโอกาสช่วยคุณลุงตามหาลูกด้วย ”
“ ขอบคุณมากนะหมอ ถ้าผมออกจากโรงพยาบาลเราก็จะเดินทางไปเมืองไทยทันที ”
“ ครับ งั้นตอนนี้ผมขอตัวไปขึ้นเวรก่อนนะครับ ถ้าผมว่างจะแวะมาเยี่ยม ผมไปก่อนนะครับ ”
พูดจบอณิภัทรก็เดินออกห้องไป
ที่เมืองไทยก็เหลืออีก 10 กว่าวันที่ปิยะต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจใหม่ พิริสสาก็ดูแลปิยะอย่างใกล้ชิด พิริสสาติดต่อทางโรงพยาบาลที่อณิภัทรทำงานอยู่ให้ส่งตัวอณิภัทรกลับมาช่วยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ และทางโรงพยาบาลก็มีคำสั่งส่งตัวอณิภัทรกลับเมืองไทย ดังนั้นอณิภัทรก็ต้องกลับเมืองไทยให้เร็วที่สุด ดังนั้นอณิภัทรจึงต้องมาลาแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ก่อนกลับเมืองไทย
“ ท่านครับผมมีเรื่องมาบอก คือว่าผมต้องกลับเมืองไทยไปผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้ปิยะลูกชายของเจ้านายพ่อของผม ดังนั้นผมจึงมาลาท่านนะครับ ”
“ หมอกลับไปก่อนเถอะ แล้วผมจะตามไป ”
“ ครับ รอให้หายดีก่อนแล้วค่อยตามไปหาผมก็ได้ ผมต้องไปแล้วนะครับ ”
“ มาหาผมหน่อยสิหมอ ”
“ ครับมีอะไรหรอครับ ”
“ ขอผมกอดหมอได้ไหม ผมคิดถึงลูกชาย คุณหมอก็รุ่นราวคราวเดียวกับลูกผม ”
เมื่อกอดอณิภัทรแล้วแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ก็น้ำตาไหลออกมา
“ ได้เวลาแล้วผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะตกเครื่อง ”
“ โชคดีนะ ”
เมื่ออณิภัทรเดินทางมาถึงเมืองไทยอรรถนพก็มารับถึงสนามบิน
“ พ่อครับ ”อณิภัทรวิ่งมากอดพ่อ
“ เป็นไงบ้างทำงานที่โน่นสนุกไหม ”
“ ครับมีเรื่องให้ทำมากมายกว่าที่เมืองไทย ”
“ กลับบ้านกันดีกว่าทุกคนกำลังรอลูกอยู่ ”
เมื่อเดินทางมาถึงบ้านเศรษฐวรกฤติกุลอณิภัทรก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
“ คุณภัทรกับคุณนพมาแล้วค่ะ ”พิมพ์วิ่งมาบอกทุกคนที่รอ
“ คุณปิยะครับตาภัทรมาแล้วครับ ”อรรถนพบอกปิยะอย่างตื่นเต้น
“ ภัทรกลับมาแล้ว ”ปิยะพูดแล้ววิ่งมาหาอณิภัทร
“ โอ้โหทำงานเมืองนอกเกือบ 1 ปีดูท่าทางดูดีขึ้นมาก ๆ ”ปิยะพูดชมอณิภัทร
“ นายก็เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน จากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ”ทั้งคู่หยอกล้อเล่นกัน
“ สวัสดีค่ะภัทร ไม่ได้เจอกันนานดูดีขึ้นมาก ๆ ราศีจับเอามาก ๆ ”พิริสสาทักทายอณิภัทร
“ ครับคุณก็เหมือนกัน แล้วคุณทั้งคู่จะมีข่าวดีเมื่อไหร่ก็บอกผมนะ ผมขอเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวแล้วกัน ”
“ เมื่อผ่าตัดเสร็จเราก็จะแต่งงานกันทันที ”ปิยะพูดแล้วโอบกอดพิริสสา
“ พ่อครับผมไปพักผ่อนก่อนนะครับ ผมเหนื่อยมามากขอพักผ่อนก่อนนะครับก่อนมายังไม่ได้พักผ่อนเลย ผมไปก่อนนะครับ ”อณิภัทรเดินขึ้นข้างบนด้วยหัวใจที่ปวดร้าว
เมื่อถึงห้องอณิภัทรก็ล้มตัวลงนอนที่นอนน้ำตาก็เอ่อล้นออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“ ภัทรพ่อเข้าไปได้ไหม ”
“ ครับพ่อ ”
“ ร้องไห้ทำไม ”
“ พ่อครับ ผมเป็นหมอรักษาโรคหัวใจ แต่กลับต้องมาเป็นโรคหัวใจซะเอง มันตลกใช่ไหมครับ ”
“ ทำใจเถอะภัทร ผู้หญิงดี ๆ ยังมีให้ภัทรเลือกอีกตั้งเยอะ พ่อขอบใจนะที่ภัทรเสียสละให้กับคุณปิยะ ”
“ ครับ ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่ พ่อครับผมขอพักผ่อนนะครับ ”อณิภัทรพูดประชดพ่อแล้วนำผ้าห่มมาคลุมหัวไว้
“ ได้พ่อไปแล้วนะ ขอบใจมากนะ ”เมื่ออรรถนพออกไปแล้วอณิภัทรก็ร้องไห้ออกมา
และมื่อถึงวันที่ต้องผ่าตัดให้ปิยะ อณิภัทรก็ทำอย่างเต็มที่และแล้วการผ่าตัดก็สิ้นสุดไปอย่างราบรื่นตลอดเวลา 9 ชั่วโมง พิริสสา อรรถนพร่ออยู่ที่หน้าห้องอย่างใจจดใจจ่อ เมื่ออณิภัทรเดินออกห้องผ่าตัดมาด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อน หน้าซีดเหมือนจะไม่มีแรง
“ คุณปิยะเป็นไงบ้างภัทร ”อรรถนพถามอาการของปิยะจากลูกชายอย่างใจจดใจจ่อ
“ เค้าไม่เป็นไรแล้ว เค้าปลอดภัยดี ทำไมพ่อไม่ถามผมบ้างว่าเหนื่อยไหม พ่อก็ได้แต่ห่วงปิยะอะไรอะไรก็ปิยะ... ”พูดจบอณิภัทรก็หน้ามืดทรุดลงกับพื้น พยาบาลต่างวิ่งมาช่วยอณิภัทร
“ ภัทร !! ”อรรถนพรีบพยุงลูกชายก่อนที่พยาบาลและหมอจะมาช่วย
เมื่อตรวจอาการของอณิภัทรแล้วอรรถนพก็เดินเข้ามาเยี่ยมลูกชายพร้อมสอบถามอาการ
“ องอาจภัทรเป็นไงบ้าง ”
“ เค้าเหนื่อยจากการผ่าตัด และถูกกดดันจนทำให้เค้าเครียดจัด เวลาพักผ่อนไม่ค่อยมีจึงทำให้เค้าเป็นลมล้มลง ผมว่านอนหยอดน้ำเกลือสัก 3 ชั่วโมงก็ไม่มีอะไรแล้ว อย่าเป็นห่วงเลยครับ ”
อา มู รี คี ตา รยอ โต นัน มด กา ....... เสียงโทรศัพท์ของอณิภัทรดังขึ้น
“ สวัสดีครับ ตอนนี้หมอภัทรป่วยยังไม่ได้สติครับ ”องอาจรับโทรศัพท์แทนอณิภัทร
“ ผมแอลเบิร์ท ตอนนี้ผมมาเมืองไทยแล้ว แล้วหมออณิภัทรก็สัญญาจะมารับผม แล้วตอนนี้ผมจะไปยังไงครับ ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์พูดขึ้น
“ งั้นเดี๋ยวผมจะไปรับแทนหมอภัทรเองนะครับ ท่านรออยู่ที่สนามบินนะครับเดี๋ยวผมจะรีบไปรับ ”
เมื่อวางสายเสร็จองอาจก็รีบไปรับแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์แทนอณิภัทร เมื่อรับเสร็จก็มุ่งหน้ามาที่โรงพยาบาลทันที
“ ท่านครับหมอภัทรพักอยู่ห้องนี้ครับ ”
องอาจพาแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์มาหาอณิภัทร
“ สวัสดีครับคุณเป็นพ่อของหมอภัทรใช่หรือเปล่าครับ ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ถามอรรถนพ
“ ครับเค้าเป็นลูกชายของผม ”อรรถนพตอบอย่างเรียบง่ายสงบเสงี่ยม
“ แล้วตอนนี้อาการหมออณิภัทรเป็นยังไงบ้างครับ ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ถามอาการของอณิภัทร
“ ก็ไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ เครียดจัด โหมทำงานไม่หยุด ”
“ แล้วปิยะคือใครหรอครับ ทำไมหมออณิภัทรถึงต้องดูแลเค้ามากขนาดที่ว่าตนเองล้มป่วย ”
“ มันเป็นหน้าที่ที่อณิภัทรต้องทำ เพื่อตอบแทนบุญคุณ ”
“ บุญคุณ .....? ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ไม่เข้าใจคำว่าบุญคุณ
“ แล้วคุณเป็นใครถึงรู้จักกับอณิภัทรลูกชายผมได้ ”
“ เค้าเป็นหมอที่ดีมาก เค้าดูแลผู้ป่วยดีเอามาก ๆ และเค้ารับปากผมว่าจะช่วยตามหาลูกชายผมที่หายตัวไปเมื่อ 26 ปีก่อน เพราะแม่เค้าโกรธผมจึงนำตัวเค้ามาที่เมืองไทย แต่เธอก็โชคร้ายถูกรถชนเสียชีวิต ส่วนลูกชายคนเดียวของผมก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ”เมื่อเล่าทุกอย่างแล้วแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ก็เริ่มน้ำตาซึม
ส่วนอรรถนพก็ได้ฟังแล้วก็คิดในใจว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นพ่อที่แท้จริงของอณิภัทรหรือเปล่า
“ แล้วคุณทิ้งของอะไรไว้กับลูกชายบ้างหล่ะ ”
“ ก็สร้อยคอพร้อมล็อกเกตสลักคำว่า “ อเล็กซานเดอร์ ” ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ผมให้ลูก ”
เมื่อได้ยินดังนั้นอรรถนพก็ลุกขึ้นเดินไปที่เตียง เปิดคอเสื้อของอณิภัทรแล้วดึงสร้อยออกมา แล้วมาถามแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์
“ สร้อยเส้นนี้ใช่ไหมครับ ”
“ ใช่แล้วเส้นนี้แหละ สร้อยเส้นนี้ที่ผมให้ลูกชายเอาไว้ ”
แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์แสดงละครเพราะความจริงแล้วแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์รู้ตั้งแต่วันนั้นแล้ว
“ งั้นอณิภัทรก็คือลูกชายของคุณที่สาบสูญไปเมื่อตอน 26 ปีก่อน ”
อรรถนพพูดเหมือนโล่งใจที่หาพ่อที่แท้จริงให้อณิภัทรแต่อีกใจก็ใจหายเพราะเลี้ยงอณิภัทรมา 26 ปีความผูกพันธ์ก็มีมาก
“ งั้นผมก็พบทายาทธุรกิจหมื่นล้านได้แล้ว ผมคงนอนตายตาหลับสักที ”
แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์พูดออกมาอย่างโล่งใจ
“ แฮก ๆ แฮก ๆ ”อณิภัทรตื่นขึ้นมาแล้วลุกขึ้นทันที
“ นี่ลูกจะทำอะไร ”อรรถนพถามลูกชาย
“ งานผมยังไม่เสร็จ ผมต้องไปทำต่อ ”
“ พักผ่อนบ้างเถอะหมอ หมอเหนื่อยมามากแล้ว ถึงเวลาที่ต้องพักผ่อนสักที ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์บอกให้อณิภัทรพักต่อ
“ ถ้าหมอมีเวลาพักแล้วผู้ป่วยล่ะครับจะเป็นอย่างไร พวกเค้ากำลังรอผมไปรักษาอยู่นะครับ ”อณิภัทรไม่ยอมพัก เค้าดึงสายน้ำเกลือออกแล้วเดินออกห้องไป
“ ผมไม่เคยเห็นเค้าเป็นแบบนี้เลย เหมือนเค้าจะทำงานให้ลืมเรื่องอะไรบางอย่าง ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์พูดออกมา
“ ผมคิดว่าผมรู้แล้วล่ะ เหตุผลที่ทำให้ภัทรเป็นแบบนี้ ต้นเหตุก็คือผม ผมกีดกันระหว่างภัทรกับลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาลซึ่งทั้งคู่รักกันมาก หลังจากที่ผมรู้ว่าปิยะชอบกับแฟนของภัทร ผมก็สั่งให้เค้าเลิกกับเธอทันที และตอนนี้ปิยะก็กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นด้วย ”อรรถนพพูดด้วยความรู้สึกผิดที่สุด
“ ปล่อยเค้าไปก่อน เวลาจะรักษาใจเค้าเอง ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์พูดแล้วเดินออกห้องไป
อณิภัทรกลับมาทำงานต่อทั้ง ๆ ที่ร่างกายก็ไม่เต็มร้อย หน้ายังซีด แต่ก็พยายามทำงานเต็มที่กับผู้ป่วยทุกราย
และเมื่อหลังการผ่าตัดของปิยะผ่านไป 1 เดือน ทั้งบ้านก็เตรียมงานหมั้นและแต่งงานระหว่าง ปิยะ และ พิริสสา ทำให้อณิภัทรไปเป็นอันกลับบ้านได้แต่แลกอยู่เวรกับหมอคนอื่นตลอด ก่อนถึงงานแต่งงานของปิยะกับพิริสสา 2 วันแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ก็เดินทางมาพบกับอณิภัทรที่โรงพยาบาล
“ คุณหมอค่ะ คุณพ่อมาพบค่ะ ”พยาบาลมาบอกกับอณิภัทร
“ เชิญเข้ามาสิ ”
“ ภัทรลูกพักผ่อนหรือยัง ตอนนี้ดูลูกผอมเอามาก ๆ หน้าก็ยังซีดไม่เปลี่ยน ”อรรถนพพูดอย่างเป็นห่วง
“ ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับพ่อ ”
“ วันนี้พ่อพาคุณแอลเบิร์ทมาเยี่ยมลูก ”
“ สวัสดีครับ ไม่เจอกัน 1 เดือนเต็ม ๆ นะครับ นี่ท่านยังไม่กลับหรอครับ ”อณิภัทรถามแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์
“ ก็คุณแอลเบิร์ท จะกลับไปกับลูกชายของท่านไง ท่านกำลังรอลูกชายอยู่ ”
“ หรอครับ งั้นลูกชายของท่านอยู่ไหนครับ ”
“ ลูกชายของท่านมีสร้อยคอเส้นหนึ่งซึ่งสลักคำว่า อเล็กซานเดอร์ ไว้ที่ล็อกเกต ”อรรถนพตอบ
ได้ยินดังนั้นอณิภัทรก็ดึงสร้อยคอของเค้าออกมาเพราะมันมีข้อความที่พ่ออรรถนพพูด
“ สร้อยเส้นนี้ใช่ไหมครับ ”อณิภัทรโชว์สร้อยขึ้นมาพร้อมถาม
“ ใช่แล้วสร้อยเส้นนี้พ่อให้ลูกตอนลูกอายุได้ 1 เดือนก่อนที่แม่จะเอาตัวลูกมาที่เมืองไทย แล้วก็โชคร้ายต้องเกิดอุบัติเหตุ ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์พูด
“ งั้นพ่อที่แท้จริงของผมคือท่าน...... ”อณิภัทรพูดแล้วลุกขึ้นมากอดแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์แล้วร้องไห้
ส่วนอรรถนพก็ได้ยืนแสดงความยินดีที่อณิภัทรพบพ่อแล้ว
“ พ่อครับผมขอบคุณนะครับที่เลี้ยงดูผมมาตลอด ผมจะไม่ลืมบุญคุณของคุณพ่อแน่นอนครับ ”อณิภัทรพูดขอบคุณพ่ออรรถนพ
“ ไม่เป็นไรหรอก ไปใช้ชีวิตที่เหลือที่อเมริกาเถอะทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่ ”อรรถนพพูดแล้วลูบหัวอณิภัทรเบา ๆ
“ ผมขอบคุณคุณมากนะครับที่เลี้ยงดูลูกผมมาตลอด ถ้าไม่ได้คุณไม่รู้ว่าลูกชายผมคนนี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์พูดขอบใจอรรถนพที่เลี้ยงดูอณิภัทรมาตลอด
“ ใครจะไปทิ้งเด็กหน้าตาน่ารักได้ลงหล่ะครับ ”อรรถนพพูดหยอกเล่นให้หายเศร้า
“ ผมว่าเราสองคนพาลูกชายไปทานอาหารก่อนดีกว่า เพราะตอนนี้แห้งผอมเหมือนกระดูกแล้ว ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ชวนอรรถนพ
“ ผมต้องกลับไปช่วยทางบ้านจัดงาน ผมต้องขอตัวก่อน ”อรรถนพพูดจบก็ขอตัวออกไป
“ ป่ะ ไปทานอาหารเดี๋ยวพ่อพาไป แล้วก็ต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าเพื่อไปงานอีก 1 วัน ”
“ ครับ ”
อีก 1 วันก่อนจะมีพิธีแต่งงานของปิยะและพิริสสา ทั้งคู่ต่างตื่นเต้นกันมากซึ่งเป็นข่าวใหญ่แห่งปี แต่เมื่อนักข่าวได้รับทราบข่าวที่ว่าท่านประธานแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รายใหญ่ของอเมริกาได้พบทายาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข่าวนี้ดังจนกลบข่าวการแต่งงานของปิยะและพิริสสาทันที
“ คุณนพแล้วภัทรหล่ะเค้าไปไหน ทำไมไม่เห็นหน้าเลย ”ปิยะถามหาอณิภัทรจากอรรถนพ
“ ตอนนี้เค้าคงจะเตรียมตัวไปต่างประเทศหลังจากงานแต่งของคุณปิยะสิ้นสุดลง ”
“ จะไปอีกแล้วหรอ ผมยังไม่ทันได้ขอบคุณเค้าเลย ”
“ วันพรุ่งนี้เค้าก็จะมาอย่าห่วงเลยนะครับ ”
วันนี้คือวันที่สำคัญต่อปิยะมากที่สุดเพราะเป็นวันแต่งงานของเค้ากับพิริสสา งานนี้มีนักข่าวจำนวนมากมาร่วมงาน
“ คุณนพเมื่อไหร่ภัทรจะมา ”ปิยะถามหาอณิภัทร
“ สักครู่คงมา ”อรรถนพพูดแล้วเหลียวไปที่บันได
“ คุณปิยะครับ ภัทรมาแล้ว ”อรรถนพพูดแล้วชี้ให้ปิยะดู
เมื่ออณิภัทรมาถึงที่งานกับแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์คุณพ่อที่แท้จริง นักข่าวต่างรุมล้อมถ่ายรูป
“ นั่นภัทรเค้ามากับใครครับ ”ปิยะถามอรรถนพอีกครั้ง
“ เดี๋ยวเค้ามา คุณปิยะก็ถามเค้าเองสิครับ ”
“ ยินดีด้วยนะครับคุณปิยะ คุณพิริสสามีความสุขมาก ๆ นะครับนี่ครับของขวัญ ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์แสดงความยินดีแล้วยื่นกล่องให้ปิยะและพิริสสา ซึ่งข้างในมีปากกาคู่รักฝังเพชร
“ ขอบคุณนะครับสำหรับของขวัญ ”ปิยะและพิริสสาขอบคุณแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์
“ ไม่เป็นไร อ่อ ลืมไป นี่ครับลูกชายของผมที่หายไปเมื่อ 26 ปีก่อน เค้าคือทายาทที่จะสืบทอดกิจการของผม ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์แนะนำตัวให้ปิยะและพิริสสารู้จนคนในงานอึ้งไปตาม ๆ กัน
“ ยินดีด้วยนะเพื่อนมีความสุขมาก ๆ นะ ”อณิภัทรพูดแล้วโอบกอดอย่างเป็นมิตรกับปิยะ
“ ขอบใจ ”
“ ยินดีด้วยนะครับริสสา มีความสุขกับปิยะมาก ๆ นะครับ เมื่อเสร็จงานผมจะต้องกลับไปอเมริกาทันที ”
พูดจบอณิภัทรก็ยื่นกล่องสร้อยคอคู่รักที่ทีแรกจะให้เค้ากับพิริสสาแต่ตอนนี้ก็มอบให้พิริสสาเป็นของขวัญวันแต่งงาน
“ นี่มันเป็นสร้อย ...... ”เมื่อพิริสสาเห็นสร้อยนี้ก็จำได้
“ ตอนนี้ผมให้คุณแล้ว รักษามันไว้ให้ดีล่ะครับ ถ้ามีเจ้าตัวน้อยแล้วส่งข่าวบอกผมด้วยนะจะได้มาดูหน้าหลานซะหน่อย ”อณิภัทรพูดหยอกล้อ
“ ได้ชั้นจะโทรไปบอกนายและก็จะให้นายมาทำคลอดลูกให้ชั้นด้วย เอาไหม ”
“ โห ชั้นเป็นหมอโรคหัวใจนะ ไม่ใช่หมอทำคลอดนะ ”อณิภัทรพูดแล้ตบไหล่ปิยะเบา ๆ
เมื่องานแต่งงานเริ่มขึ้นทุกคนต่างยินดีกับปิยะและพิริสสาอย่างล้นหลาม ส่วนอณิภัทรงานนี้ก็ได้ขึ้นมาโชว์ลูกคอเป็นครั้งแรกในงานเพื่อนรัก และแฟนเก่า
“ สวัสดีครับทุกท่านผมนพ.อณิภัทร ผมเป็นเพื่อนของปิยะวันนี้ผมก็ขออวยพรให้ทั้งคู่มีความสุขกันมาก ๆ และก็มีทายาทตัวน้อย ๆ ไว ๆ วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่ได้อยู่เมืองไทย ผมก็อยากจะมอบเพลงนี้ให้กับคนคนหนึ่งซึ่งผมยังลืมเธอไม่ลง และคงไม่มีวันที่จะลืม เชิญรับฟังได้เลยนะครับ ”
พิริสสาเธอยืนมองแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา เธอจ้องมองไปที่อณิภัทรที่กำลังจะเล่นเปียโนอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนอรรถนพและแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ก็นั่งนิ่งสงสารลูกชาย
“ ไม่ว่ายังไงผมก็จะรอ และจะไม่ไปไหน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับคนบ้าที่มาร้องไห้อยู่ข้าง ๆ คุณ สิ่งที่คุณให้ไว้ก็มีแค่รอยแผล แต่ผมก็จะรอ แม้ว่าคุณจะจากผมไป ผมคิดถึงคุณ ผมคิดถึงคุณ ผมเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ อยากจะร้องไห้ออกมา.....คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคุณ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้เกิดขึ้น ความทรงจำที่ผมเคยรักคุณอย่างมากมาย ในความทรงจำเหล่านั้นผมกำลังตามหาคุณ แต่ผมไม่สามารถรั้งคุณไว้ได้ด้วยคำว่า “ รัก ” ผมไม่สามารถขังคุณเอาไว้ไม่เคยจะทำได้ แต่ผมคิดถึงคุณจนแทบขาดใจ ผมคิดถึงคุณ...ผมคิดถึงคุณ ผมเกลียดที่เป็นอย่างนี้ อยากจะเชื่อว่าทางที่ถูกนั้น ผมต้องลืมคุณไปเป็นความรักที่เหมือนจะโหดร้าย ในความทรงจำเหล่านั้นผมตามหาคุณอยู่แต่ผมไม่สามารถรั้งคุณไว้ ด้วยคำว่ารักได้อีก ผมไม่สามารถกักขังคุณเอาไว้ได้แม้จะเปลี่ยนอะไรไม่ได้แต่ ผมก็ยังรักคุณแทบขาดใจ อยากจะลืมแทบขาดใจ
..~~~....”
เมื่อเสียงเพลงสิ้นสุดลง แขกในงานก็ต่างปรบมือเสียงดังลั่นบางคนถึงกับน้ำตาซึม ส่วนอณิภัทรก็น้ำตาไหลไม่หยุด
“ ผมขอบคุณทุกคนนะครับที่ทนฟังเสียงไม่ได้เรื่องของผม ขอบคุณมากครับ ”พูดจบอณิภัทรก็วิ่งออกจากงานไปนั่งอยู่ที่ห้องรับรองชั้นบนสุดของโรงแรม
เมื่องานจบลงปิยะจึงรีบมาหาอณิภัทรที่ห้องแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาอณิภัทรเลย ปิยะก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที ระหว่างเดินกลับมาหาพิริสสาโทรศัพท์ก็มี SMS เข้ามา มันเป็นข้อความก่อนที่อณิภัทรจะขึ้นเครื่องกลับอเมริกา
“ ขอโทษนะที่ชั้นไม่ได้อยู่ถึงงานเลิก นายคงรู้นะว่าทำไม แต่ชั้นขอไปทำใจและไปพบกับสิ่งใหม่ที่รอชั้นอยู่ ชั้นคงจะลืมเธอได้ นายไม่ต้องเป็นห่วงชั้นนะ ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้นเก็บไว้เพียงความทรงจำที่ดีของชั้นเอาไว้แล้วกัน ชั้นอยากจะไปลานายด้วยตัวชั้นเอง แต่....นายเข้าใจชั้นนะ ตอนที่นายได้รับข้อความนี้ชั้นคงจะขึ้นเครื่องแล้ว มีความสุขนะเพื่อนรัก ......... ”
เมื่ออ่านจบปิยะก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
“ เจอคุณภัทรไหม .... ? ”พิริสสาถามปิยะ
“ เค้าไปแล้ว เค้าไปแล้ว ”ปิยะพูดอย่างอ่อนแรง
“ ทำไมเค้าไม่มาลาเราก่อนไป ”
“ คุณปิยะครับ อย่าเสียใจไปเลยครับ ภัทรเค้าฝากบอกด้วยว่าเสียใจด้วยที่ไม่ได้มาลาด้วยตัวเอง ”
อรรถนพพูดแล้วเดินออกห้องไป
เมื่อกลับมาถึงอเมริกาอณิภัทรก็มุ่งทำงานสองอย่างพร้อม ๆ กันทั้งคุณหมอและนักธุรกิจ อณิภัทรมุ่งแต่ทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งทำให้อณิภัทรซูบผอมจนครั้งหนึ่งต้องหามเข้าโรงพยาบาล ส่วนพ่อของเค้าก็ได้ผ่าตัดเปลี่ยนไขกระดูกจนแข็งแรงมากกว่าเดิม
จนเวลาเวลาผ่านไป 4 ปี
แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์พ่อของอณิภัทรจึงให้อณิภัทรเลิกหยุดการเป็นหมอและให้เลือกเป็นนักธุรกิจ และแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์กับอรรถนพก็มีแผนที่จะหาผู้หญิงดี ๆ ให้อณิภัทรสักคนเพื่อมาดามหัวใจที่เจ็บช้ำของอณิภัทรตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนปิยะก็ได้ทายาทตัวน้อย ๆ ตั้ง 3 คน เป็นฝาแฝดหญิง ปิยะก็ดีใจมาก ๆ ที่ได้เป็นพ่อคนและสัญญาว่าจะเป็นพ่อที่ดีของลูก ๆ
“ ภัทรพ่อว่าลูกไปพักผ่อนที่ไหนก็ได้ ไปเที่ยวให้หายเหนื่อยแล้วค่อยกลับมาทำงานต่อเดี๋ยวงานทางนี้พ่อจะจัดการเอง ”แอลเบิร์ท อัลคูเลอร์มาบอกลูกชาย
“ ผมยังไหวครับพ่อ ไม่ต้องห่วง ”
“ นี่ตั๋วเครื่องบิน บินไปดูหน้าหลานที่เมืองไทยก่อนไปที่อื่น พ่อขอล่ะนะเชื่อพ่อสักครั้ง ”
“ ครับผมจะไป แต่ผมขอเคลียร์งานให้เสร็จก่อน ”
เมื่อทุกอย่างลงตัวแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ก็ส่งอณิภัทรมาเมืองไทย โดยหารู้ไม่ว่าเป็นแผนการของอรรถนพและแอลเบิร์ท อัลคูเลอร์ที่ต้องการให้ลูกชายพบรักใหม่เพื่อลืมรักเก่า
เมื่ออณิภัทรเดินทางมาถึงเมืองไทย อณิภัทรก็เดินทางมาที่บ้านเศรษฐวรกฤติกุลทันที
“ มาแล้วหรอเป็นไงบ้าง ไม่ได้เจอกันตั้ง 2 ปีดูนายผอมลงมากเลย ทำงานหนักสินะ ”ปิยะถามอณิภัทรอย่างเป็นห่วง
“ ไม่เป็นไรหรอก แล้วเป็นไงบ้างเป็นคุณพ่อลูกแฝด 3 เหนื่อยไหม ”
“ ไม่เหนื่อย ก็มีพี่เลี้ยง และก็แม่เค้าเลี้ยงอีกงานนี้พ่อสบาย ”
“ ขอให้ชั้นไปดูหน้าหลานตัวน้อย ๆ หน่อย ”
“ ไปสิอยู่ห้องด้านบน ”
ปิยะพาอณิภัทรขึ้นไปหาลูก ๆ ของเค้า
“ ลูกพ่อดูสิใครมาเยี่ยมเอ่ย ”ปิยะพูดกับลูกที่อายุ 1 ปีครึ่งแล้ว
“ มาแล้วหรอค่ะ อยู่ที่โน่นสบายดีไหมค่ะ ”พิริสสาถามอณิภัทร
“ ครับสบายดี เหนื่อยไหมครับเลี้ยงลูกทีเดียวตั้ง 3 คน ”อณิภัทรถามพิริสสาแล้วเหนื่อยใจแทน
“ ไม่เหนื่อยค่ะ ลูกคือกำลังใจทั้งหมดของชั้น ”
“ เจ้าตัวเล็กให้อาอุ้มหน่อยเร็ว ”อณิภัทรพูดแล้วเดินไปหาเด็ก ๆ
“ ลูกนายนี่น่ารักจริงนะ อยากมีบ้างจัง ”อณิภัทรพูดแล้วทำหน้าเศร้า ๆ นิด ๆ
“ แล้วหนูชื่ออะไรบ้างครับ ”อณิภัทรยังพูดกับเด็กที่ไม่รู้เรื่อง
“ อ๋อ คนนั้นชื่อ ต้นข้าว คนนั้น ต้นน้ำ ส่วนคนนั้น ต้นหญ้า ”ปิยะพูดแนะนำชื่อลูก ๆ ให้อณิภัทร
“ ชื่อน่ารักดี แต่มันดูทะเม่งทะเม่งอยู่นา ”อณิภัทรพูดขึ้นเพราะงงกับชื่อที่ปิยะตั้งให้ลูก ๆ
“ นี่นายไปอยู่แค่ 5 ปีลืมภาษาไทยได้เลยหรอเนี่ย ตอนนี้ฟังดูสำเนียงก็แปลก ๆ ไป ”ปิยะพูดแล้วทำท่าหัวเราะ
“ ก็อยู่ที่โน่นชั้นไม่ได้ใช้ภาษาไทยแม้แต่คำเดียว จะไม่ให้ลืมได้ยังไง ”อณิภัทรแก้ตัว
“ แล้วมาเที่ยวคราวนี้กี่วัน ”ปิยะถาม
“ ก็ประมาณ 10 วันแล้วชั้นจะบินไปพักที่ยุโรป ล่องเรือยอร์ชตามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเท่านี้แหละแล้วคงจะกลับไปทำงานตามเดิม ”
“ แล้วจะพาสาวที่ไหนไปเที่ยวด้วยล่ะ ”ปิยะพูดกับอณิภัทร แต่ก็โดนพิริสสาตีไหล่
“ ก็คงไปคนเดียว ”
“ ไม่เหงาแย่หรอ ชั้นหาคนไปเป็นเพื่อนให้นะเอาไหม ”ปิยะเสนอความคิดเห็น
“ ไม่เป็นไร งั้นชั้นไปเยี่ยมองอาจที่โรงพยาบาลก่อนนะ ไม่ได้เจอกันนาน ”พูดจบอณิภัทรก็วางลูกของปิยะแล้วเดินออกจากห้องไป
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลองอาจและพยาบาลก็ไม่เป็นอันทำงานต่างมาห้อมล้อมคุยสอบถามข่าวคราวจากอณิภัทรกันยกใหญ่
“ เป็นไงบ้างหว่ะภัทรทำงานที่โน่นสนุกไหม ”องอาจถามเพื่อนอย่างตื่นเต้น
“ เป็นไงบ้างค่ะหมอ ”และพวกพยาบาลก็ต่างถามกันอย่างสนใจ
เมื่อคุยเสร็จอณิภัทรก็กลับบ้าน
“ มาแล้วหรอภัทรพ่อรอตั้งนาน ”อรรถนพมารับอณิภัทรที่หน้าบ้าน
“ ทำไมหรอครับพ่อ พ่อมีธุระอะไรกับผมหรอครับ ”
“ คือว่าพ่อหาเพื่อนมาให้ภัทร คนหนึ่ง เธอจะมาหาภัทรวันพรุ่งนี้ แล้วเธอก็จะพาภัทรไปเที่ยวที่ภูเก็ต ”
“ ครับพ่อ ”
พูดจบอณิภัทรก็เดินขึ้นห้องไปและก็ยังงงงงกับคำพูดที่อรรถนพพูดเพราะตนเองก็ไม่ได้ป่วยอะไร
“ คุณนพค่ะตั้งโต๊ะเสร็จแล้วค่ะ จะให้เชิญคุณปิยะและคุณริสสาเลยหรือเปล่าค่ะ ”พิมพ์ถามอรรถนพเมื่อตั้งโต๊ะเสร็จ
“ เดี๋ยวชั้นไปตามเอง เธอไปตามอณิภัทรมาดีกว่า ”
เมื่อทุกคนมาพร้อมที่โต๊ะอาหาร ทุกคนก็ต่างรับประทานอาหารจนอิ่ม และปิยะกับอณิภัทรก็เดินคุยกันขึ้นไปข้างบน เดินผ่านห้องของลูก ๆ ของปิยะก็ได้ยินเสียงเด็ก ๆ ร้องไห้ ปิยะกับอณิภัทรจึงเปิดประตูเข้าไป เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าภายในห้องว่างเปล่าเสียงที่เกิดขึ้นเป็นเสียงเปิดเทป ปิยะถึงกับเข่าอ่อนเพราะลูกสาวตัวน้อย ๆ ของเค้าลูกลักพาตัวไป อณิภัทรตั้งสติรีบวิ่งลงไปดูที่หน้าต่างกำลังเห็นผู้ชายสองคนอุ้มหลาน ๆ ของเค้าแล้วมีรถยนต์รออยู่ที่หน้าบ้าน เมื่อเห็นดังนั้นแล้วอณิภัทรจึงรีบวิ่งลงบ้าน เมื่อจับรถได้อณิภัทรก็ขับรถไล่ผู้ร้ายลักพาตัวไป ส่วนปิยะก็วิ่งหน้าตาตื่นลงบ้านมาบอกอรรถนพและพิริสสา
“ อะไรนะลูกหาย ! ”พิริสสาพูดแล้วเป็นลมล้มพับไป
“ แล้วคุณปิยะรู้ไหมครับว่าพวกนั้นเป็นใคร ”อรรถนพถสอบถามปิยะ
“ และภัทรล่ะครับ เมื่อกี้เห็นเค้าวิ่งไปดูที่หน้าต่างแล้ววิ่งออกมาเลย ไม่รู้ว่าเค้าเจออะไร ”ปิยะพูดเพราะยังงงงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ ผมก็ไม่รู้เพราะผมเห็นเค้าวิ่งลงมาด้วยความรีบร้อนและขับรถออกไปโดยไม่บอกกล่าว ”
กริ๊ง ! กริ๊ง ! เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น
“ บ้านเศรษฐวรกฤติกุลค่ะ จะพูกับคุณนพหรอค่ะ ได้ค่ะ ”พิมพ์ยื่นโทรศัพท์ให้อรรถนพ
“ ว่าไงภัทรตอนนี้อยู่ไหน ”
“ ตอนนี้ผมอยู่แถว ๆ ทางไปบ้านสวน ตอนนี้ผมกำลังขับรถตามพวกนั้นอยู่ถ้ารู้ที่แล้วผมจะโทรบอกนะครับ ”
พูดจบอณิภัทรก็วางสายทันที
“ คุณปิยะครับ ภัทรโทรมาบอกว่าพวกนั้นจับคุณหนูไปแถว ๆ ทางไปบ้านสวน ”
“ งั้นเราตามไปดีกว่าถ้าให้ผมรออยู่ที่นี่คงอกแตกตายแน่ครับ ”ปิยะพูดจบก็วิ่งไปโรงรถ
“ ให้ชั้นไปด้วย ชั้นจะไปช่วยลูก ”พิริสสาวิ่งขึ้นรถ
“ ผมว่าคุณรอฟังข่าวที่บ้านดีกว่าเดี๋ยวผมไปกับคุณนพเอง ”
“ ไม่ค่ะชั้นจะไปด้วย ชั้นเป็นห่วงลูก ”
“ ครับคุณปิยะไปเถอะครับ ตอนนี้ช้ามากแล้ว ”
ทางด้านอณิภัทรที่ขับรถตามมาก็เจอที่ที่พวกโจรเก็บเด็กไว้ มันเป็นสวนส้มที่ใหญ่โตภายในมีแต่ต้นไม้ทางเข้าไปแสนลำบาก อณิภัทรวิ่งเข้าไปเรื่อย ๆ เห็นพวกนั้นกำลังจะอุ้มตัวหลาน ๆ ของเค้าเข้าไปในกระท่อมเล็ก ๆ
เมื่อตัดสินใจได้แล้วอณิภัทรจึงค่อย ๆ ย่องเข้าไปแต่ด้วยความไม่ระวังอณิภัทรถูกพวกนั้นจับได้
“ รนหาที่ตาย แต่ก็ดีเราจะได้เงินที่เยอะกว่าเดิม ตอนนี้เรามีตัวประกันตั้ง 4 คน งานนี้เรารวยแน่นอน ”หัวหน้าพวกนั้นพูดขึ้นพร้อมหัวเราะ
“ ปล่อยหลานผมเถอะนะ แกยังเด็กไม่รู้เรื่องอะไร ”อณิภัทรพยายามขอร้อง แต่การขอร้องแต่ละครั้งเค้ากลับถูกพวกนั้นรุมชกต่อยและกระทืบเป็นยกใหญ่
“ ปล่อยมันไว้ แล้ววันพรุ่งนี้เราค่อยติดต่อญาติของมัน ”หัวหน้าพวกนั้นพูดแล้วเดินออกไป
อณิภัทรรีบตะเกียดตระกายมาหาหลานที่ร้องไห้อยู่
“ ไม่ร้องนะครับ อาอยู่ที่นี่แล้ว อย่าร้องนะครับคนเก่ง ”อณิภัทรปลอบจนต้นน้ำ ต้นข้าว ต้นหญ้าหลับไปอ้อมกอดของเค้า
ส่วนปิยะ อรรถนพและพิริสสาก็ตามมาและเจอกับรถที่อณิภัทรขับมาก็เดินตามทางที่อณิภัทรทำเครื่องหมายไว้
เมื่อเดินมาสุดทางก็เจอกระท่อม
“ คุณนพทำไมภัทรไม่ออกมา เค้าไปไหนแล้ว ”
“ ผมว่า ภัทรคงถูกจับตัวไปด้วยแน่นอนเลย ตอนนี้เรารู้ที่ซ้อนตัวพวกมันแล้วเรากลับไปที่บ้านสวนแล้วแจ้งความเพื่อหาทางช่วยภัทรและเด็ก ๆ ดีกว่าครับ ถึงเราเข้าไปตอนนี้เราคงถูกจับกันหมดแน่ ”อรรถนพเสนอความคิดเห็น
“ ครับผมก็ว่าอย่างงั้นแหละ ”
เมื่อมาถึงที่บ้านสวนอรรถนพก็โทรแจ้งตำรวจ ไม่ถึง 10 นาทีตำรวจก็มาทั้งหมดช่วยกันวางแผนในการเข้าไปช่วยอณิภัทรและเด็ก ๆ
เสียงโทรศัพท์ของปิยะดังขึ้น หัวหน้าแก๊งค์ลักพาตัวนั้นโทรมา มันต่อราคาค่าตัวประกันทั้ง 4 คนไว้ที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
“ เงินมากมายขนาดนั้นเราจะไปเอาที่ไหนมาตั้ง 1,900,000,000 มันเป็นเงินที่มากมายมหาศาล ”อรรถนพพูดขึ้นมา
“ ผมจะหามาให้ได้เพื่อลูกผม ”ปิยะพูดหนักแน่น
“ ผมรู้แล้วว่าจะได้เงินอย่างไร ”อรรถนพนึกถึงพ่อของอณิภัทรขึ้นมาได้
“ ใครหรอ ”ปิยะถามอย่างใจจดใจจ่อ
“ ก็พ่อของภัทรไงครับ คุณแอลเบิร์ท ”
“ จริงสิครับ แต่ผมคงไม่มีหน้าไปขอความช่วยเหลือจากท่านได้หรอกครับ ”
“ เดี๋ยวผมจัดการเอง ”
ดังนั้นอรรถนพจึงโทรไปขอความช่วยเหลือจากพ่อของอณิภัทร เมื่อพ่ออณิภัทรตอบตกลง แต่ต้องมีเงื่อนไขว่าลูกชายคนเดียวของเค้าต้องปลอดภัย
เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากพ่อของอณิภัทรแล้วทั้งหมดก็วางแผนกับตำรวจเพื่อช่วยอณิภัทรและเด็ก ๆ จนรุ่งเช้าก็ไม่ได้นอน
ทางด้านอณิภัทรที่ถูกขังกับเด็ก ๆ เมื่อเด็ก ๆ ตื่นก็งอแงหิวนม
“ คุณครับเด็ก ๆ หิวนมพี่มีนมให้เด็กกินหรือเปล่า ไม่งั้นแกจะร้องไห้นะครับ ”อณิภัทรตะโกนบอก
“ นี่ชั้นเตรียมไว้แล้วนี่เอาไป แล้วอย่าให้เด็กพวกนี้ร้องไห้ ”ลูกสมุนเอานมมาให้
“ หยุดร้องไห้ได้แล้วครับ นี่ครับนม คงหิวกันแล้วใช่ไหมครับกินนมก่อนนะครับ ”อณิภัทรเจาะกล่องนมให้หลาน ๆ ดื่ม
“ นี่อาหารเช้าคงกินได้นะ และนี่น้ำ ”ลูกสมุนอีกคนเอาข้าวมาให้อณิภัทร
“ ขอบคุณครับ ”
เมื่อได้น้ำและข้าวมาแล้วอณิภัทรก็ป้อนข้าวหลาน ๆ ส่วนหลาน ๆ ก็ยอมกินข้าวโดยไม่งอแงและไม่ดื้อเหมือนรู้ว่ากำลังถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่ ทั้งที่หิวข้าวแต่ก็จำต้องเสียสละให้หลานที่หิว อณิภัทรก็ได้แต่ดื่มน้ำไปพลาง ๆ และป้อนข้าวหลาน ๆ
“ แค่เห็นพวกหนูไม่เป็นไรอาก็ดีใจแล้ว เดี๋ยวไม่ช้าพ่อหนูคงมาช่วยหนูแล้วไม่ต้องกลัวนะ ”อณิภัทรพูดกับหลานๆ
เมื่อได้เวลาแลกเปลี่ยนตัวประกัน อณิภัทรและเด็ก ๆ ก็ถูกนำตัวมาที่ตึกร้างแห่งหนึ่ง อณิภัทรอุ้มเด็ก ๆ ไว้
“ มาแล้วหรอ แล้วลูกสาวชั้นกับเพื่อนชั้นอยู่ที่ไหน ”ปิยะถามอย่างขรึม ส่วนตำรวจและอรรถนพ พิริสสารอดูสถานการณ์รอบนอก
“ อยู่นี่ แล้วเงินชั้นล่ะอยู่ที่ไหน ”
เมื่อทำการตกลงกันแล้วก็แลกเปลี่ยนตัวประกันปิยะยื่นกระเป๋าเงินให้ผู้ร้ายส่วนอณิภัทรก็อุ้มหลาน ๆ มาหาปิยะด้วยสภาพเหนื่อยล้า
“ ชั้นไม่ให้พวกมันนำเงินไปหรอก ”อณิภัทรพูดจบก็คว้าปืนที่หลังของปิยะ ซึ่งอณิภัทรรู้ดีว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ปิยะมักพกปืนไว้ที่หลังเสมอ
“ นายจะทำอะไร อย่านะภัทร ”ปิยะพยายามห้ามอณิภัทร
“ นายเอาลูกออกไปก่อน ”
เมื่อพูดกับปิยะเสร็จอณิภัทรก็หันไปพูดกับพวกโจรนั้น
“ พวกแกคิดว่าชั้นจะปล่อยพวกแกไปง่ายๆ หรอ ”อณิภัทรพูดขึ้น
“ ชั้นก็ไม่อยากปล่อยพวกนายไปเหมือนกัน ”พวกนั้นหันมาพร้อมยกกระบอกปืนหันมาทางอณิภัทร
อณิภัทรเห็นดังนั้นจึงดึงปืนออกมา จังหวะนั้นพิริสสาก็วิ่งออกมาจากมุมเสา พวกนั้นเห็นพิริสสาจึงจับมาเป็นตัวประกัน
“ แล้วถ้าชั้นยิงผู้หญิงคนนี้ จะเป็นยังไงนะ คงจะดีไม่น้อยนะ ”หัวหน้าโจรพูดเยอะ ๆ อณิภัทร
“ อย่าทำผู้หญิงนะ ปล่อยเธอ ”อณิภัทรพูดด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด
“ วางปืนลง ไม่งั้นผู้หญิงนี่ตาย ”เมื่อได้ยินดังนั้นอณิภัทรก็วางปืนลงทันที
“ ปล่อยภรรยาชั้นนะ ”ปิยะวิ่งมาหาอณิภัทร
“ รักกันดีนะ งั้นก็ตายพร้อมกัน ”หัวหน้าโจรเล่งปืนมาที่ปิยะแล้วยิง ปั้ง !~ ลูกกระสุนโดนที่แขนเฉียด ๆ
“ ปิยะ !! ”พิริสสาแสดงความห่วงใยปิยะออกมา
“ ไป ! ”หัวหน้าโจรผลัดพิริสสามาหาปิยะที่นั่งกองกับพื้น แล้วหันกระบอกปืนยิง สองนัด ปั้ง ! ปั้ง !
อณิภัทรวิ่งมารับลูกกระสุนแทนพิริสสา อณิภัทรนั่งหันหลังพิริสสา เลือดที่ค่อย ๆ ไหลออกมาจากหน้าท้องและหน้าอกที่ละน้อย
ตำรวจสามารถจับกุมโจรแก๊งค์นี้ได้
“ ภัทร !! ”ปิยะตกใจที่อณิภัทรโดนยิงเพราะตน
“ คุณภัทร !! ”พิริสสามองไปที่อณิภัทรที่กำลังจะนอนล้มลง
“ ภัทร !! ”อรรถนพรีบวิ่งมารับร่างของอณิภัทร
“ ปลอดภัยใช่ไหม แฮก ๆ ๆ ”อณิภัทรถามพิริสสาและปิยะ
“ ชั้นไม่เป็นไร แต่นาย..... ”ปิยะพูด
“ ลูก...ลูกนาย......ปลอดภัย.....กันทุก....คนนะ ”อณิภัทรถามถึงความปลอดภัยของลูก ๆ ของปิยะ
“ พวกเค้าปลอดภัยดี ชั้นว่านายทำใจเย็น ๆ นะ ยังไม่ต้องพูด เดี๋ยวรถพยาบาลก็มา ”ปิยะพูดแล้วน้ำตาซึม
“ ภัทรอย่าเป็นอะไรนะ ถ้าภัทรเป็นอะไรพ่อของภัทรเอาพ่อตายแน่ ”อรรถนพพูดไปร้องไห้ไป
“ ครั......บ....ครับผมสัญญาผมจะไม่เป็นอะไร..... ”
เมื่อรถพยาบาลมาถึงอณิภัทรก็ถูกส่งตัวไปรักษาด่วน การผ่าตัดเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะกระสุนได้เข้าไปถูกจุดที่สำคัญ
“ หมอครับภัทรเป็นยังไงบ้าง ”อรรถนพถามหมอที่ผ่าตัดอณิภัทร
“ ตอนนี้อาการเค้ายังน่าเป็นห่วง ถ้าพ้นคืนนี้ไปได้เค้าคงจะรอด ”
“ เค้ามีสิทธิ์ที่จะรอดมากไหมครับ ”ปิยะถามอย่างเป็นห่วงอาการของอณิภัทร
“ เราคงต้องรอปฏิหารย์ที่จะเกิดกับคนดี ๆ อย่างเค้าเท่านั้น ”หมอพูดแล้วเดินออกไป
“ โถ่ ~-~ ภัทรทำไมนายต้องช่วยชั้นตลอด ทั้งที่ชั้นทำร้ายนายมาตลอด ”ปิยะพูดแล้วร้องไห้ออกมา
“ ตอนนี้เราคงต้องรอปฏิหารย์ ”อรรถนพพูดแล้วทำหน้าเศร้าสร้อย
ทั้งหมดเข้ามาเยี่ยมอาการของอณิภัทรที่ห้องไอซียู
“ ภัทรนายต้องสู้นะ กลับมาเป็นหมอที่ดีไง เป็นหมออย่างที่นายรักไง กลับมาเป็นหมอที่รักษาคนไข้อย่างที่นายเคยทำ ตอนที่นายไม่อยู่ผู้ป่วยเค้าถามหานายตลอดว่าเมื่อไหร่นายจะกลับมารักษาพวกเค้า และตอนนี้พวกเค้าก็รอนายอยู่นะภัทรนายพื้นสิ ! ”องอาจพูดไปร้องไห้ไป
“ ภัทรนายต้องหายนะ นายเป็นหมอต้องมารักษาคนป่วยสิ ไม่ใช่มานอนเป็นคนป่วยซะเอง ตื่นสิ ! ตื่น ! ”ปิยะก็ร้องไห้จนตาแดง
“ ภัทรลูกต้องพื้นนะ ....... ”อรรถนพพูดแล้วจับมืออณิภัทรเพราะเชื่อว่าอณิภัทรต้องพื้นขึ้นมา
ณัฐชญาคนที่จะมาเป็นเพื่อนตอนที่อณิภัทรอยู่เมืองไทย เมื่อเธอได้ข่าวว่าอณิภัทรถูกยิงเธอก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันที
“ คุณนัตคุณมาได้ยังไงครับ ”อรรถนพถามณัฐชญา
“ คุณภัทรเป็นยังไงบ้างค่ะ ”
“ เค้าอยู่ในห้อง ICU และตอนนี้ก็ยังไม่รู้สึกตัว ”
“ ชั้นขอไปเยี่ยมเค้าได้ไหมค่ะ ”
“ เชิญครับ ”
เมื่อเข้าไปเห็นสภาพที่ไร้สติของอณิภัทรณัฐชญาถึงกับเข่าอ่อน เธอค่อย ๆ เดินไปที่เตียงของอณิภัทรช้า ๆ
“ ภัทรนี่นัตเองนะ ภัทรจำได้ไหม จำได้ไหมตอนที่เราอายุ 15 เราเคยเป็นเพื่อนรักกันไง เราเล่นด้วยกันและชอบทำอะไรเหมือน ๆ กัน ภัทรบอกว่าเมื่อภัทรโตขึ้นภัทรอยากเป็นตำรวจ เราจำได้นะ เราเคยเล่นตำรวจไล่จับผู้ร้ายบ่อย ๆ ที่สวนหลังบ้านของเรา เรายังจำได้นะตอนนั้นเราตกน้ำกำลังจะจมน้ำแต่ภัทรก็กระโดมาช่วยเรา ทั้งที่ตอนนั้นภัทรก็ว่ายน้ำไม่เป็น...... ”ณัฐชญาพูดไปร้องไห้ไปพูดเรื่องตอนเด็ก ๆ กับความทรงจำดี ๆ ที่มีต่ออณิภัทร
อรรถนพยืนฟังอยู่ข้างนอกก็รู้สึกใจหวิว ๆ แต่ก็ดีใจที่ยังมีคนที่รักอณิภัทรตั้งแต่เด็กจนถึงเวลานี้ก็ยังรักอยู่ และก็เพิ่งรู้ว่าทั้งคู่แอบเล่นด้วยกัน เพราะตนเองไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้มาก่อน
คืนวันนั้นอณิภัทรพื้นขึ้นมาแล้วได้หนีออกจากโรงพยาบาลเดินทางมาที่บ้านของปิยะ ซึ่งเวลานั้นปิยะยังคงทำงานที่ค้างอยู่ ส่วนอรรถนพก็ไปเป็นตัวแทนของปิยะไปประชุมด่วนที่ภูเก็ต ทำให้บ้านนั้นมีแต่พิริสสาและลูก ๆ ทั้ง 3 และพิมพ์คนใช้ อณิภัทรเดินขึ้นไปที่ห้องของเด็ก ๆ ก็เจอกับพิริสสา เมื่อพิริสสาเจออณิภัทรก็ตกใจเพราะเมื่อเช้ายังเห็นนอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาล
“ คุณภัทรคุณมาได้ยังไงค่ะ คุณยังป่วยอยู่ไม่ใช่หรอค่ะ ”
“ ผมป่วยแต่ตอนนี้ผมหายแล้ว ผมมาหาคุณไงคุณไม่ดีใจหรอ ”อณิภัทรพูดแล้วเอามือกุมไว้ที่หน้าท้อง
“ คุณควรจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล งั้นเดี๋ยวชั้นโทรตามให้ปิยะมารับคุณไปที่โรงพยาบาล ”พิริสสาพูดพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือ
“ อย่าโทร ! ”อณิภัทรพูดขอร้อง
“ ทำไม...? ”พิริสสาพูด
“ ผมอยากอยู่กับคุณ ขอเวลาผมแค่ 10 นาที ผมขอแค่ 10 นาทีเท่านั้น ครับ 10 นาทีเมื่อไหร่ผมจะไปเมื่อนั้น ”
“ โอเคค่ะ แค่ 10 นาที ”
เมื่อพิริสสาตกลงอณิภัทรก็พาพิริสสามานั่งที่โซฟาและอณิภัทรก็นอนลงตักของพิริสสา โดยที่เค้ายังเอามือกุมที่แผลอยู่
“ ผมขอหลับที่ตักคุณ ถ้าครบ 10 นาทีเมื่อไหร่คุณปลุกผมนะ ”พูดจบอณิภัทรก็หลับตา
“ คุณต้องสัญญาว่าถ้าชั้นเรียก คุณต้องตื่น ”พิริสสาพูดแล้วน้ำตาซึม
“ ผมจะตื่น ”พูดจบอณิภัทรก็หลับตาลง ใบหน้าที่แสนซีดเซียวของภัทรมีแต่เหงื่อซึม
ส่วนพิริสสาก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่มีเสียงน้ำตาอุ่น ๆ ของเธอก็ไหลตกลงที่ใบหน้าของอณิภัทร
“ นี่คุณร้องไห้หรอ ”อณิภัทรเอามือป้ายน้ำตาของพิริสสาที่หน้าของเค้าแล้วเอามือไปเช็ดน้ำตาที่หน้าของพิริสสา โดยที่เค้าลืมมองไปว่ามือของเค้าได้เปื้อนเลือดที่ไหลออกจากแผล
เมื่อพิริสสาเห็นเธอก็ตกใจมองไปที่แผลของอณิภัทรแล้วพูดออกมา
“ แผลคุณ..! ”
“ อย่าห่วงเลยผมไม่เป็นไร ”พูดจบอณิภัทรก็หลับตาลง
“ อย่าหลับนะ ! ตื่นสิ ! ภัทรคุณตื่นสิ ! อย่าหลับ ! ”พิริสสาพูดร้องไห้แล้วเขย่าตัวของอณิภัทร
แต่อณิภัทรก็ไม่ตื่นขึ้นมา น้ำตาของอณิภัทรไหลย้อยเหมือนเป็นสัญญาณบอกว่า “ ผมขอโทษ ” พิริสสาพยายามเขย่าอณิภัทร แต่อณิภัทรก็ไม่ยอมตื่น
“ อย่าล้อเล่นสิ ! ตื่นสิภัทร ! คุณตื่นสิ ! ชั้นยังรักคุณอยู่นะภัทร ! ได้ยินไหมชั้นยังรักคุณอยู่นะภัทร ! ภัทรคุณตื่นขึ้นสิ ! ”พิริสสาพูดและเขย่าอณิภัทร ซึ่งเธอไม่ได้สังเกตว่าปิยะยืนอยู่ที่ประตู แต่ปิยะก็ไม่ออกมาหา ปิยะยืนร้องไห้อยู่ที่ประตู
“ ภัทรคุณตื่นสิ !... ”เมื่อเรียกเท่าไหร่อณิภัทรก็ไม่พื้นพิริสสาจึงกอดร่างที่ไร้วิญาณของอณิภัทรขึ้นมากอดอย่างเสียใจ ......
ดังนั้นจึงเกิดนิยามรักขึ้นมาว่า
ในวันที่ฟ้าหมอง ใจหมายปองที่จะหา
ทุกทีที่ลืมตา ใจยังหาใคร
ครั้งได้ใจหวั่นไหว กายก็เหน็บหนาว
ที่เดิมยังมีเรา ในวันนี้มันเหงาแทบขาดใจ
คิดวันวานครั้งก่อน เวลานอนก็ฝันหา
ถึงเธอทุกเวลา ยังอยากมากลับเหมือนเดิม
"ฉันมองแต่เธอคนเดียว"
난 당신만을 봐요
การที่ต้องเสียสละคนรักให้กับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเค้าทำร้ายจิตใจเรามาตลอด แต่เป็นเพราะหน้าที่ ซึ่งหน้าที่นี้เองทำให้เค้าและเธอต้องแยกจากกัน ตราบนานแสนนาน.....T_ T การเสียสละครั้งนี้นำความปวดร้าวเข้ามาหาตัวเค้าเป็นอย่างมาก ถ้าทุกคนมีความรักก็ควรเก็บความรักให้นาน ๆ อย่าเป็นคิดถึงเรื่องอื่น เช่น ฐานะ หรือเงิน สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้คุณพลาดรักครั้งที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นได้ และจงจำไว้ว่ารักแท้ก็อย่าแพ้อุปสรรค
จบแล้วเรื่องของเรา
วันเก่าๆกับเรื่องราวที่แสนหวาน
หอมละมุนกลิ่นกรุ่นของวันวาน
ที่แค่คิดก็พาล..จะมีน้ำตา
คุณเลือกเขา...
มีแค่เงาของความเหว่ว้า
เรื่องราวของเราก็เหลือเพียงรอยน้ำตา
ที่มันไม่มีค่า..แก่การจดจำ
ภาพวันวานที่ไม่อาจลืม
แม้จะซักกี่ตื่นก็ไม่อาจฝืนลืมเธอได้
ความรัก..ที่เอ่อล้นเต็มหัวใจ
แม้วันไหนๆ..ก็ยังคงเท่าเดิม
แม้เรื่องของเรามันจะผ่านมานาน
แต่อดีตแสนหวานยังแจ่มชัดอยู่เสมอ
หน้าเธอยังคงวนเวียน..ทำยังไงก็ไม่ลืมเธอ
ฉันไม่อยากเพ้อเจ้อ....อยู่กับคราบน้ำตา
ผลงานอื่นๆ ของ 고마워요ขอบคุณนะ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ 고마워요ขอบคุณนะ
ความคิดเห็น