ตอนที่ 25 : EP.24
การเตรียมงานที่ดูเหมือนจะราบรื่นแต่คงจะแค่เหมือนเพราะว่าที่บ่าวสาวยังถกเถียงกันเรื่องชุดแต่งงานไม่เสร็จไม่สิ้นสักทีจนเจ้าของร้านและดีไซน์เนอร์อย่างวทานิกาต้องยกมือกุมขมับยอมแพ้เรื่องการไม่ยอมคนของคนทั้งคู่และตอนนี้ทั้งสองก็นั่งเงียบเหมือนกำลังเล่นสงครามเย็นกันอยู่
"เอ่อ..แพรว่าเรื่องชุดของคุณคริสเดี๋ยวแพรออกแบบใหม่ดีไหมคะ"
วทานิกาเสนอความเห็นทำให้ทั้งสองหันมามองเธออย่างสนใจและสายตาของคนทั้งคู่ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่น่าพูดอะไรออกไปเลย
"ถ้าคุณแพรออกแบบคุณก็เข้าข้างบีนะสิ"
"ถ้าคริสไม่ให้แพรออกแบบนั้นก็เอาแบบเดิมนะ เราจะได้เห็นแพรตัดชุดสักที"
"ไม่ค่ะ ชุดของคริส คริสอยากเลือกเอง"
น้ำทิพย์ถอนหายใจอย่างหมดหวังเพราะชุดที่เธออยากให้ศิรินใส่มันเป็นชุดที่เธอบอกให้วทานิกาออกแบบตามที่เธอต้องการแต่ดูเหมือนมันจะไม่ถูกใจศิรินสักเท่าไหร่ เธออยากจะตามใจศิรินหรอกนะแต่ชุดที่ศิรินต้องการมันไม่แมทกับชุดของเธอเลยสักนิดอีกอย่างชุดของเธอก็ตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
น้ำทิพย์ลุกออกจากห้องไปทันทีโดยไม่ง้อศิรินสักนิดวทานิกาเองก็ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไงดีเพราะเธอเองก็ไม่กล้าเข้าไปปลอบศิรินตอนนี้หรอกเธอเลยโทรเรียกตัวช่วยอย่างวุ้นเส้น
"วุ้น!"
วทานิกาปรี่เข้าไปหาวุ้นเส้นทันทีที่เธอเดินเข้ามาในร้านก่อนจะลากหล่อนไปอีกมุมของร้าน ไม่อยากให้น้ำทิพย์ที่นั่งอยู่โซนหน้าร้านเห็น
"สองคนนี้ยังเถียงกันไม่เลิกอีกหรอคะ" วทานิกาส่ายหน้าทันที
"ทำยังไงดีคะ"
"ตอนนี้คริสอยู่ไหนคะ"
"บนห้องทำงานแพรค่ะ"
วุ้นเส้นให้วทานิกาไปเกลี่ยกล่อมน้ำทิพย์ส่วนเธอจัดการกับศิรินเองถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมคนอย่างศิรินถึงได้ดื้อดึงขนาดนี้เพราะปกติเพื่อนเธอมักจะตามใจน้ำทิพย์เสมอไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
"ไงยะ ว่าที่เจ้าสาวเขาเรื่องมากแบบนี้ทุกคนป่ะเนี่ย"
ศิรินหันไปมองเพื่อนสาวแต่สีหน้ายังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิมแค่เห็นวุ้นเส้นโผล่มาที่นี่ก็รู้ทันทีว่าเพื่อนของเธอมาเพราะเรื่องอะไร
"นี่ ถามจริงแกอยากแต่งงานกับคุณบีเขาจริงๆหรือเปล่า" ศิรินถึงกับมองหน้าวุ้นเส้นไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงถามแบบนี้
"มีอะไรจะบอกฉันหรือเปล่า"
"งานแต่งงานสำหรับแกคืออะไรหรอคริส"
ศิรินเริ่มจะหงุดหงิดที่วุ้นเส้นเอาแต่ถามคำถามที่มันไม่น่าตอบเลยสักนิดเพราะคำถามง่ายๆแบบนี้ใครๆก็ตอบได้กันทั้งนั้นแหละ
"ก็พิธีการตามจารีตประเพณีไง"
"ก็ใช่ แต่อีกความหมายหนึ่งคือการที่คนสองคนตกลงปรงใจจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันใช่ไหมล่ะ"
"อืม รู้แล้วถามทำไมอ่ะ"
"แล้วที่นี่รู้หรือยังว่าชุดแต่งงานมันก็แค่ประกอบฉากไม่ใช่ปัจจัยสำคัญของการแต่งงานเลยสักนิด สิ่งที่สำคัญคือตัวแกกับคุณบีต่างหาก คนฉลาดแบบแกฉันคงไม่ต้องพูดซ้ำหรอกเนาะ"
คนฉลาดรอบรู้ประสบการณ์รอบด้านอย่างศิรินก็ไม่คิดว่าตัวเองจะตกม้าตายกับเรื่องง่ายๆแบบนี้ สิ่งที่เพื่อนพูดมามันถูกหมดทุกอย่างเธอคงคิดแต่จะเอาชนะน้ำทิพย์จนลืมนึกถึงสิ่งสำคัญว่าเธอแต่งงานกับน้ำทิพย์เพราะอะไร
วทานิกานั่งลงข้างๆน้ำทิพย์เขายังดูหงุดหงิดเรื่องที่โดนศิรินขัดใจไม่แปลกหรอกเพราะคนเอาแต่ใจอย่างน้ำทิพย์เวลาอะไรไม่ได้ดั่งใจก็เป็นแบบนี้ทุกที
"แพรจะบอกว่าบีเอาแต่ใจใช่ไหมล่ะ"
น้ำทิพย์พูดดักทางไว้ก่อนเพราะรู้ว่าวทานิกากำลังจะพูดอะไรออกมาที่จริงก็รู้แหละว่าตัวเองนิสัยเสียในเรื่องนี้แต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้จริงๆ
"รู้ตัวก็ดีแล้ว แพรจะได้ไม่ต้องพูดอีก"
"นี่แพรกำลังซ้ำเติมบีหรอ"
"เปล่าซะหน่อย แพรแค่อยากเตือนสติบีว่าความเอาใจแต่ใจของบีมันกำลังทำให้เกิดปัญหา"
"แล้วแพรจะให้บีทำยังไงล่ะ คริสเขาไม่ฟังบีเลยอ่ะ"
วทานิกาอยากจะเดินออกไปจากตรงนี้ซะจริงเพราะน้ำทิพย์ไม่ต่างอะไรจากเด็กเอาแต่ใจที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย
"บีอยากให้คุณคริสเขาฟังบี แล้วบีลองฟังคุณคริสเขาดูหรือยังล่ะแพรรู้นะว่าบีอยากให้งานมันออกมาดีแต่บีถามความต้องการของคุณคริสหรือยังว่าเขาต้องการอะไร"
"แต่ความต้องการของบีกับคริสมันไม่เหมือนกันสักนิด"
"ถ้างั้นก็เจอกันครึ่งทางสิ" น้ำทิพย์ยิ้มรับเพราะทางออกที่วทานิกาเสนอให้มันดูโอเคกับเธอและศิริน
"ขอบคุณนะแพร"
น้ำทิพย์เตรียมจะลุกและเดินไปหาศิรินแต่เจ้าตัวก็เดินมาเสียก่อนยังไม่ทันที่น้ำทิพย์จะได้พูดอะไรศิรินก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"คริสอยากกลับแล้ว"
แม้จะงงว่าเพราะอะไรศิรินถึงเดินออกจากร้านไปเลยเธอก็ได้แต่เดินตามคิดว่าศิรินต้องโกรธเธอมากแน่ๆเรื่องที่เธอเอาแต่ใจและไม่ยอมฟังหล่อน
"คริสคะ"
"พรุ่งนี้เช้าคริสต้องกลับไร่ บีจะไปด้วยกันไหม" นี่ศิรินต้องโกรธเธอมากแน่ๆถึงได้หนีกลับไร่แบบนี้
"แล้วเรื่องชุดละคะ"
"เรียบร้อยแล้วนิคะ"
มันจะเรียบร้อยได้ยังไงกันก็เธอยังไม่ได้ตกลงว่าจะเรื่องแบบไหนและเธอยังไม่ได้คุยกับศิรินด้วยซ้ำอย่าบอกว่าศิรินเลือกชุดตามใจตัวเองโดยไม่บอกเธอ
"ที่จริงชุดที่บีเลือกก็โอเคนะ"
"แต่คริสไม่ชอบ" น้ำทิพย์ว่าเสียงแผ่วเหมือนกำลังน้อยใจ
"คริสแค่บอกว่ามันโป๊ไป ไม่ใช่ไม่ชอบแล้วทำไมบีถึงอยากให้คริสใส่ละคะ"
"บีอยากให้คริสเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในงานและทำให้พวกเพื่อนๆบีตะลึงไปเลยว่าแฟนของบีสวยแค่ไหน" แววตาน้ำทิพย์ดูมีความสุขเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองพูด
"ถ้าบอกกันแบบนี้ตั้งแต่แรกก็ยอมใส่ไปตั้งนานแล้วแหละ"
ศิรินเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถทิ้งให้น้ำทิพย์ยืนอึ้งอยู่คนเดียวกว่าจะได้สติก็ตอนเธอเลื่อนกระจกและตะโกนบอกว่าอยากกลับบ้านนั้นแหละ
ตกลงเรื่องชุดกันได้เรียบร้อยแล้วก็เหลือสถานที่จากที่หาดูตามเว็บและเพื่อนแนะนำก็ยังไม่มีที่ไหนเข้าตาบางที่ราคาก็สูงลิ่วแต่จุคนได้น้อยส่วนที่รับคนได้เยอะก็ไม่โดนใจ มีเพื่อนสมัยเรียนของน้ำทิพย์ทำรีสอร์ทอยู่พัทยาและเสนอให้จัดงานที่นั้นเหมือนจะไปได้สวยแต่เมื่อวันก่อนเพื่อนของน้ำทิพย์พึ่งโทรมาบอกว่ามีกรุ๊ปทัวร์ของเพื่อนพ่อมาจัดสัมมนาตรงกับวันแต่งของน้ำทิพย์เลยไม่เหลือที่พักไว้เลย
"ยังหาสถานที่ไม่ได้อีกหรอคะ"
ศิรินเอ่ยถามน้ำทิพย์เพราะเธอเห็นเขาเครียดเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว
"ถ้าหาไม่ได้ทำไมเราไม่จัดที่ไร่นี้ละคะ"
น้ำทิพย์เงยหน้ามองศิรินเหมือนบรรลุนิพพานเธอดึงตัวศิรินเข้ามานั่งตักและกอดร่างนุ่มนิ่มแนบแน่นแฟนเธอเหมือนนางฟ้ามาโปรดชัดๆ
"บีลืมไปสนิทเลย ว่ายังมีไร่นี้อยู่ทำไมคริสไม่บอกบีให้เร็วกว่านี้คะ"
"ก็นึกว่าบีไม่อยากจัดที่นี่ซะอีก"
"ทำไมคิดแบบนั้นละคะ เอาเป็นว่าสถานที่เราจัดที่นี่เนาะส่วนเรื่องที่พัก..เออ..คริสช่วยไปคุยกับคุณเปรมเจ้าของรีสอร์ทหน่อยได้ไหมคะ"
"ได้สิคะ เดี๋ยวเรื่องนั้นคริสจัดการเอง"
"ขอบคุณนะคะ"
น้ำทิพย์หอมแก้มคนบนตักแทนการขอบคุณศิรินตีเข้าที่แขนคนรักแก้เขินเพราะน้ำทิพย์ทำอะไรประเจิดประเจ่อเธอกับเขานั่งกันอยู่กลางถ้าใครเดินมาเห็นได้เป็นเรื่องแน่ๆ แต่คนอย่างน้ำทิพย์ไม่เคยจะแคร์เรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ใบหน้าเปื้อนยิ้มโน้มเข้ามาหาเธอช้าๆ ทำให้ศิรินหลับตาอย่างรู้ทันว่าน้ำทิพย์กำลังจะทำอะไร
"วันก่อนก็หอมแก้มโชว์ วันนี้จูบเลยหรอครับ"
เสียงของไม้ทำให้ศิรินผละตัวออกจากน้ำทิพย์แต่ก็ยังไม่ลุกจากตักคนรักเพราะน้ำทิพย์รั้งเอวของเธอเอาไว้
"ช่วยไม่ได้ นายชอบโผล่มาจังหวะแบบนี้เอง" น้ำทิพย์ตอบกลับอย่างยียวน
"เอาเป็นว่าให้อภัยครับผมไม่ถือสาคนกำลังจะแต่งงาน"
"คริสคะบีว่าคนสนิทของคริสเริ่มจะพูดไม่เข้าหูซะแล้วค่ะ"
"คริสเห็นด้วยค่ะ"
ศิรินยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ปกติเธอมักจะเป็นฝ่ายแพ้เมื่อต่อกลอนกลับไม่แต่ครั้งนี้เธอกลับรู้สึกว่าเธอชนะเพราะน้ำทิพย์ช่วยเธอต่อกลอน
"สองรุมหนึ่งแบบนี้ไม่แฟร์เลยนะครับ"
"เอาน่า แพ้สักครั้งให้นายหญิงชื่นใจถือว่าฉันขอละกัน"
"คุณบีพูดแบบนี้ผมจะยอมให้ก็ได้ครับ"
จากที่ยิ้มเมื่อกี้ศิรินถึงกับยู่หน้าอยู่ดีๆเหมือนเธอกำลังโดนลูกน้องคนสนิทและคนรักรวมหัวมันแหย่เธอ อย่าให้ถึงทีเธอเอาคืนบ้างก็แล้วกันนะ..บี น้ำทิพย์
น้ำทิพย์ยืนคุมงานออร์แกไนที่วทานิกาจัดหามาให้เพราะเจ้าของบริษัทเป็นคนรู้จักของวทานิกาบริษัทนี้ถือว่าทำงานได้ตรงตามความตรงการของน้ำทิพย์เป็นอย่างมากแทบไม่มีตรงไหนต้องปรับแก้เลย ด้านศิรินเธอยังต้องเคลียออร์เดอร์ที่สั่งเข้ามาแม้ว่าจะหยุดรับออร์เดอร์ไปแล้วก็ตามแต่ออร์เดอร์เก่าก็ถือว่าเยอะพอสมควร
ภายในบ้านดูวุ่นวายไปเสียหน่อยเพราะเต็มไปด้วยทีมงานที่ช่วยกันจัดของให้เข้าที่เข้าทางเพราะอีกสองวันจะถึงวันงานตอนนี้โครงเหล็กที่เป็นซุ้มดอกไม้ก็เสร็จเรียบร้อย เหลือแต่ดอกไม้ที่ต้องนำมาตกแต่งก่อนวันงาน
"น้ำค่ะคุณบี" แม่บ้านถือน้ำมาให้เพราะเห็นว่าน้ำทิพย์ไม่ยอมพักกลัวว่าจะเหนื่อยเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน
"ขอบคุณค่ะ"
ทุกอย่างถูกดำเนินไปอย่างรวดเร็วเพราะไม่มีจุดไหนให้ต้องปรับแก้ จนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาจนถึงเย็นน้ำทิพย์ให้ทีมงานกลับไปพักก่อนเพราะส่วนที่เหลือก็แค่ตกแต่งด้วยดอกไม้เท่านั้น
"ป้าค่ะ ถ้าคริสกลับมาแล้วถามหาบีบอกว่าขึ้นไปอาบน้ำนะคะ"
"ค่ะคุณบี"
ไล่หลังเพียงครึ่งชั่วโมงศิรินก็กลับมายังบ้านพักและสิ่งแรกที่เธอทำคือการถามหาน้ำทิพย์เพราะตั้งแต่เดินเข้าบ้านมาเธอยังไม่เห็นอีกคนเลย ป้าแม่เลยตอบตามที่น้ำทิพย์ได้บอกเอาไว้ ศิรินเองก็ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนกันเพราะวันนี้อากาศค่อนข้างร้อน เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่
"บี เปิดประตูให้คริสหน่อยสิ"
ศิรินเอ่ยเรียกคนในห้องเพราะประตูมันล็อกแต่ไม่มีเสียงตอบรับเลยสักนิดศิรินต้องเรียกซ้ำอีกครั้งก็ไม่มีทีท่าว่าน้ำทิพย์จะออกมาเปิดประตูให้เธอ คิดว่าน้ำทิพย์คงกำลังอาบน้ำอยู่แล้วไม่ได้ยินเสียงเธอ
"นายหญิงไม่ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหรอคะ"
"บีล็อกห้องน่ะ เรียกก็ไม่ได้ยินสงสัยอาบน้ำอยู่"
"ทำไมวันนี้คุณบีอาบน้ำนานจังเลยคะ นี่ก็ครึ่งชั่วโมงได้แล้วนะคะ"
ได้ยินแบบนั้นศิรินก็ขอกุญแจสำรองจากแม่บ้านเพราะปกติน้ำทิพย์ไม่เคยอาบน้ำนานขนาดนี้ พอได้กุญแจมาแล้วศิรินก็ไขเข้าไปทันทีเพราะกลัวว่าถ้าน้ำทิพย์เป็นอะไรขึ้นมาจะช่วยไม่ทัน
"บี!"
"เห้ย!"
เสียงตกใจของคนในห้องพร้อมกับมือที่รวบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาปิดตัวแทบไม่ทันเหมือนเวลากำลังหยุดเดินเพราะทั้งสองเอาแต่ยืนจ้องกันด้วยความตกใจ ศิรินเองก็ทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าเปิดเข้ามาแล้วจะเจอน้ำทิพย์อยู่ในสภาพแบบนี้
"เออ..คริสคะ บีว่า.."
"อ๋อ คือ..คริส คริสว่าคริสออกไปก่อนดีกว่าเนอะ"
ศิรินรีบเดินออกจากห้องด้วยความเร็วเหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้เธอลืมไปเลยว่าเธอขึ้นไปทำอะไรจนเสียงแม่บ้านดึงสติเธอกลับมา จากที่คิดว่าจะขึ้นไปอาบน้ำต่อน้ำทิพย์ก็เปลี่ยนใจว่าทานข้าวเย็นก่อนจะดีกว่า
วันนี้น้ำทิพย์ขอให้ศิรินอยู่บ้านเฉยๆส่วนเรื่องงานให้ไม้จัดการแทนไปก่อนเพราะเธอไม่อยากเห็นเจ้าสาวหน้าตาอิดโรยในวันแต่งงาน ศิรินก็รับปากอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเธอนั่งมองน้ำทิพย์ที่ดูจริงจังกับการจัดงานมีบ้างที่เขาเดินเข้ามาถามเธอว่ามีตรงไหนอยากให้แก้ไขไหม เธอก็ตอบปฏิเสธเพราะทุกอย่างที่น้ำทิพย์วางไว้มันดูโอเคแล้ว
"คริสคะ เดี๋ยวสายๆแพรจะเอาชุดแต่งงานมาให้ลองนะคะ"
"ค่ะ"
"อ๋อ แล้วเดี๋ยวช่วงบ่ายทีมงานจะเอาดอกไม้มาตกแต่งบีเลือกดอกไม้ไว้เยอะเลยถ้าคริสไม่ชอบอันไหนก็สั่งให้เอาออกได้นะคะ"
"ค่ะ"
"แล้ว.."
"เหนื่อยไหมบี"
ศิรินถามขึ้นก่อนที่น้ำทิพย์จะพูดต่อเธอเคยคิดว่างานแต่งถ้าเราจ้างทีมงานแล้วเราก็จะได้นั่งสบายๆรอเข้าพิธีเท่านั้นแต่เปล่าเลยเจ้าของงานต่างหากที่ดูวุ่นวายกว่าคนอื่นๆ เธอดูจากแววตาของน้ำทิพย์ก็รู้ว่าเขาเหนื่อย
"เหนื่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า"
น้ำทิพย์กุมมือเธอไว้รอยยิ้มเขาบอกว่าเขามีความสุขจริงๆถึงแม้จะเหนื่อยกับการจัดงานก็ตาม เหนื่อยถึงขั้นที่เมื่อวานตอนเย็นน้ำทิพย์เผลอนอนแช่น้ำจนไม่ยินเสียงเรียกของเธอ
"ได้มองหน้าคริสแบบนี้ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ"
"ถ้าบีเหนื่อยบีก็พักสิ เดี๋ยวคริสจัดการต่อเอง"
"ไม่เป็นไรค่ะ บียอมเหนื่อย"
ศิรินไม่ตอบอะไรเพราะรู้ว่าต่อให้เธอหาเหตุผลมาลบล้างน้ำทิพย์ก็ไม่ยอมให้เธอต้องทำอะไรแน่นอนนอกจากชี้นิ้วสั่งการเท่านั้น นี่แหละน้ำทิพย์คนเอาแต่ใจ
"คุณบีคะ" เสียงทีมงานเอ่ยเรียก
"เดี๋ยวบีมานะ"
ช่วงบ่ายวทานิกานำเอาชุดที่เธอออกแบบมาให้ศิรินลองก่อนเพราะหากมีตรงไหนต้องปรับแก้เธอจะได้แก้ทัน ศิรินมองตัวเองผ่านกระจกแล้วอมยิ้ม
"พอดีเลยค่ะ"
วทานิกาเอ่ยบอกเพราะไม่มีตรงไหนให้ต้องปรับแก้ศิรินขอดูชุดของน้ำทิพย์เพราะเจ้าตัวไม่ว่างมาลองเพราะมัวแต่เตรียมงานอยู่ด้านล่าง ชุดของเธอและชุดของน้ำทิพย์เป็นโทนเดียวกันเนื้อผ้าก็ใส้สบายไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด
"ขอบคุณนะคะคุณแพร ถ้าไม่ได้คุณแพรบีต้องแย่แน่ๆเลยค่ะ"
นึกแล้วก็ขำตอนที่รู้ว่าน้ำทิพย์พยายามแค่ไหนกับการจัดหาร้านเช่าชุดเพราะจำนวนเงินที่มีมันไม่ได้มากมายถึงขั้นที่หาชุดราคาแพงได้ และเขาก็ไม่ยอมปรึกษาเธอด้วยกลัวว่าศิรินจะเสนอตัวเข้ามาช่วย
"ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานนะคะ ถ้าถึงงานแพรบ้างคงต้องรบกวนไวน์ชั้นดีจากไร่คุณคริส"
"ได้สิคะ ว่าแต่ว่าที่เจ้าบ่าวเป็นใครกัน บอกได้ไหมคะ"
ถึงก่อนหน้านี้จะมีเรื่องบาดหมางกันแต่พอเวลาผ่านไปศิรินและวทานิกาก็กลับมาคุยหยอกล้อและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะช่วยเหลือจุนเจือกันในหลายๆเรื่อง
"คุณคริสจะลองชุดใส่ตอนกลางคืนไหมคะ"
"ไม่ดีกว่าค่ะ ไว้ใส่วันงานทีเดียวเลยดีกว่า"
วันงานที่ศิรินหมายถึงก็คือวันพรุ่งนี้จากที่ใช้เวลาเตรียมงานหนึ่งเดือนเศษๆไม่คิดว่ามันเร็วขนาดนี้ อาจจะเพราะน้ำทิพย์ได้ดีไซน์เนอร์อย่างวทานิกาที่มีคนรู้จักในงานด้านนี้มาช่วยอีกแรง
เกือบจะเย็นทีมงานพึ่งนำดอกไม้มาตกแต่งเพราะตอนกลางวันแดดร้อนเกินทำให้ดอกไม้เหี่ยวได้ง่ายๆ ตอนนี้แดดเริ่มอ่อนลงทีมงานก็ช่วยกันตกแต่งอย่างขมักเขม้น ศิรินมองหาน้ำทิพย์พึ่งสังเกตได้ว่าน้ำทิพย์ไม่ได้อยู่แถวนี้เลย
"ป้าคะ เห็นบีหรือเปล่า"
"เห็นบอกว่าจะไปจัดการเรื่องไวน์และเครื่องดื่มที่จะใช้ในงานน่ะค่ะ"
"ขอบคุณค่ะป้า"
ดอกไม้ที่ใช้จัดในงานแทบจะไม่เหมือนงานแต่งงานงานอื่นเลยเพราะมันหลากสีสันไปหมดอย่างเช่นดอกกุหลาบสีขาวและสีชมพูไหนจะมีดอกลิลลี่และดอกไม้ชนิดอื่นอีก ถึงมันจะดูหลากหลายแต่พอจัดออกมาทันกลับดูเข้ากันเสียอย่างนั้น
"เออ..คุณคริสต้องการแก้ตรงไหนไหมคะ"
ทีมงานเดินเข้ามาถามตามที่น้ำทิพย์ได้บอกไว้เพราะเขากลัวว่ามันจะไม่ถูกใจศิรินแต่เท่าที่ดูก็ยังไม่มีตรงไหนที่จะไม่ถูกใจมันดูดีซะจนศิรินไม่อยากให้แก้ตรงไหนเลย
"ไม่ค่ะ แค่นี้ก็สวยแล้วค่ะ"
งานเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นกว่าเมื่อวานที่แม่แต่โครงเหล็ก และภายในบ้านก็เป็นทีมงานอีกกลุ่มที่ช่วยเตรียมของในพิธีหมั้นซึ่งดูละเอียดและปราณีตกว่างานด้านนอก ศิรินกำลังจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"ฮัลโหลบี"
'คริสคะ ให้คนรถไปรับแม่ที่สนามบินหน่อยสิคะ'
"ไหนบอกว่าแม่จะมาพรุ่งนี้เช้าไม่ใช่หรอคะ"
'พอดีว่าไฟท์พรุ่งนี้เช้าไม่มีน่ะค่ะ ตอนนี้บีไม่สะดวกด้วยคริสช่วยเป็นธุระให้บีหน่อยนะคะ'
"ก็ได้ค่ะ"
ศิรินมองหาคนรถของเธอเพราะเมื่อกี้เธอยังเห็นเขาเดินอยู่แถวนี้อยู่เลยแต่ตอนนี้เธอกลับมองไม่เห็นเขาซะอย่างนั้น ศิรินจึงหันไปหาแม่บ้าน
"อ้อน ช่วยไปตามคนรถให้หน่อยนะ"
"เออ..พอดีทีมงานขอยืมรถทางเราไปช่วยขนดอกน่ะค่ะ"
ตอนนี้เหมือนว่าเธอกำลังงานเข้าเพราะไม่มีรถไปรับแม่ส่วนไม้ก็อยู่กับน้ำทิพย์อีก เธอมองหาคนช่วยก็ไม่เห็นว่ามีใครจะว่างเลย
"มีอะไรหรือเปล่าคะคุณคริส" เหมือนเสียงสวรรค์
"คุณแพร"
ศิรินฉีกยิ้มกว้างจนวทานิกาไม่เข้าใจว่าเธอไปอารมณ์ดีมาจากไหนกว่าจะเข้าใจก็ตอนขึ้นรถมาเรียบร้อยแล้ว
"ขอบคุณนะคะ ไม่ได้คุณแพรคริสต้องแย่แน่ๆ"
"วันนี้คุณคริสขอบคุณแพรหลายรอบแล้วนะคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะเรื่องแค่นี้เอง"
"ถึงจะอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณอยู่ดีค่ะ"
ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยพร้อมสำหรับงานหมั้นและงานแต่งในวันพรุ่งนี้ ศิรินยืนมองพื้นที่ด้านล่างที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามคิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นงานของเธอ
"มายืนทำอะไรตรงนี้คะ"
น้ำทิพย์สวมกอดกันจากทางด้านหลังกลิ่นครีมอาบน้ำอ่อนๆและอ้อมกอดอุ่นจากตัวน้ำทิพย์กับลมเย็นๆทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูกแต่มันรู้สึกดีมากๆเลยล่ะ
"ตื่นเต้นจังเลยเนาะ"
ศิรินไม่ได้ตอบคำถามที่น้ำทิพย์ได้เอ่ยถามไปแต่เธอกลับบอกความรู้สึกที่ตัวเองกำลังรู้สึกอยู่ ทำให้น้ำทิพย์แอบยิ้มและเข้าใจว่าเพราะอะไรทำถึงทำให้ศิรินออกมายืนตากลมอยู่ตรงนี้
"บีอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆค่ะ อยากเห็นคริสในชุดเจ้าสาวจะแย่อยู่แล้ว"
ศิรินยิ้มให้กับคำพูดนั้นและบิดตัวหันหน้าเข้าหาน้ำทิพย์
"ทำไมต้องเป็นคริสล่ะบี"
น้ำทิพย์ไม่เข้าใจว่าศิรินหมายถึงอะไร สีหน้าเธอคงแสดงออกชัดเจนไปหน่อยจนศิรินต้องขยายความ
"ทำไมถึงเลือกคริสเป็นเจ้าสาว"
แววตาที่จดจ่อรอคำตอบทำให้น้ำทิพย์นึกแกล้งแต่คิดว่าเวลาแบบนี้มันไม่ควรเพราะศิรินคงอยากรู้คำตอบจริงๆว่าเพราะอะไรถึงได้เกิดงานแต่งงานขึ้น
"เพราะบีรักคริสไง"
ถึงตรงระเบียงจะมืดยังไงเธอก็เห็นว่าศิรินกำลังหน้าแดงและที่เงียบไปก็คงเพราะว่าเขินอยู่ก็เป็นซะแบบนี้จะไม่ให้เธอรักได้ยังไงกัน
"ดึกแล้ว คริสว่าเราไปนอนกันดีกว่านะ"
ศิรินบ่ายเบี่ยงเปลี่ยนเรื่องเพื่อแก้อาการเขินของตัวเอง ทำทีว่าจะเดินหนีแต่ก็ถูกน้ำทิพย์รวบตัวเองไว้
"ไหนๆก็ต้องนอนแยกห้องกันแล้วขออยู่แบบนี้อีกห้านาทีนะคะ"
ตามประเพณีก่อนวันแต่งบ่าวสาวต้องห้ามเจอหน้ากันและแยกกันอยู่แต่ในกรณีของน้ำทิพย์แม่บอกว่าให้แยกกันนอนก็พอแล้ว น้ำทิพย์จึงกอบโกยอ้อมกอดของศิรินให้ได้มากที่สุดเพราะกว่าจะเช้าก็อีกหลายชั่วโมง
"พอแล้วค่ะ ไปพักผ่อนกันพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะ"
"เดี๋ยวบีเดินไปส่งที่ห้องนะคะ"
ถึงจะปฏิเสธแต่น้ำทิพย์ก็ดื้อดึงจะเดินมาส่งให้ได้เธอรู้หรอกว่าเขาต้องการจะยืดเวลาให้อยู่กับเธอนานๆ ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากอยู่กับน้ำทิพย์หรอกนะ แต่งานพรุ่งนี้มันหนักอาจจะทำให้เธอและน้ำทิพย์เหนื่อยกันทั้งคู่เลยอยากให้พักผ่อนเอาแรงให้เต็มที่
"บอกฝันดีบีหน่อยสิคะ"
"ฝันดีนะคะ"
ศิรินเอ่ยบอกอย่างว่าง่ายเพราะไม่อยากให้น้ำทิพย์งอแง ส่วนเจ้าตัวก็ยิ้มไม่หุบและเอ่ยบอกกลับพร้อมกับดึงว่าที่เจ้าสาวมาจูบอยากไม่กลัวว่าจะมีใครผ่านมาเห็น
"ฝันดีค่ะ"
นาฬิกาบอกว่าตอนนี้ตีสามครึ่งศิรินลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพราะนัดกับช่างแต่หน้าไว้ตอนตีสี่และเขาก็มาตรงตามเวลาเป๊ะเอ่ยทักทายทำความรู้จักกันสองสามประโยคเขาก็เริ่มทำหน้าที่ของเขาทันที ส่วนเธอก็ต้องนั่งนิ่งๆให้ช่างแต่งหน้าทำงานได้สะดวก
"ผิวหน้าคุณคริสเนียนมากๆเลยนะคะสวยสมวัยมากๆเลยค่ะ เผลอๆหน้าเด็กกว่าคนวัยเดียวกันซะอีก"
"วัยเดียวกันนี่หมายถึงวัยไหนหรอคะ"
"วัยเบญจเพศไงคะ"
ศิรินอมยิ้มเล็กน้อยเพราะช่างแต่งหน้าคงจะยังไม่ทราบว่าเธอน่ะอายุเลยวัยเบญจเพศไปตั้งหนึ่งรอบแล้วแต่กลัวว่าเขาจะหน้าแตกหากไปพูดกับคนอื่นศิรินเลยบอกไปว่าเธออายุเท่าไหร่
"ที่จริงคริสเลยวัยนั้นมานานแล้วค่ะ"
"ตายจริง ถ้าให้เดาคงจะสามสิบต้นๆใช่ไหมคะ"
"สามสิบเจ็ดค่ะ"
"ว้าย จริงหรอคะเนี่ย ไม่ได้อำกันเล่นหรอกนะคะ"
พี่ช่างแต่งหน้าหญิงในร่างชายคนนี้ดูจะตกใจเอามากๆพอเธอย้ำว่าจริงเขาก็เอ่ยถามถึงเรื่องการดูแลผิวหน้าไหนจะถามเรื่องครีมบำรุงต่างๆนานา เกิดเสียงพูดคุยตลอดการแต่งหน้าทำให้ศิรินเริ่มเรื่องความง่วงไปเสียสนิท
ตอนนี้ตีห้าครึ่งวุ้นเส้นช่วยวทานิกาถือชุดแต่งงานเข้ามาในบ้านเจอแม่เข้าพอดีเพราะกำลังเช็คความเรียบร้อยกันอยู่
"สวัสดีค่ะแม่"
"สวัสดีจ๊ะหนูแพร"
"บ่าวสาวล่ะคะ"
"แต่งหน้าอยู่น่ะจ๊ะ หนูแพรขึ้นไปได้เลยนะ"
"ค่ะ แพรขอตัวก่อนนะคะ"
วทานิกาเดินเข้ามาในห้องของศิรินช่างแต่งหน้าก็พึ่งแต่งหน้าให้เจ้าสาวเสร็จพอดี
"ลงจากคานได้สักทีนะแก"
"นี่คุณ พูดอะไรแบบนั้นล่ะ" วทานิกาถึงกับตีแขนวุ้นเส้นที่พูดจาไม่เข้าหู
"ไม่เป็นไรค่ะคุณแพร คริสไม่ถือสาคนพูดจาไม่รู้เรื่อง"
"แหม เดี๋ยวนี้เข้าขากันจังเลยนะ"
วุ้นเส้นแอบจิปากนิดๆที่สองคนนี้กำลังรุมเธอ
"เดี๋ยวแพรขอเอาชุดไปให้บีก่อนนะคะ"
วทานิกาเดินออกจากห้องไปปล่อยให้เพื่อนสนิทอย่างศิรินและวุ้นเส้นคุยกันระหว่างที่ศิรินทำผมไปด้วย วทานิกาเดินมายังอีกห้องที่อยู่เยี่ยงๆกัน เห็นช่างแต่งหน้าทำผมเดินกลับมาทางเธอ
"เสร็จแล้วหรอคะ"
"ยังไม่ได้แต่งเลยค่ะ พวกเราเคาะห้องตั้งนานคุณบีไม่ยอมเปิดประตูเลยค่ะ"
วทานิกาเดินนำช่างทั้งสองมายังห้องน้ำทิพย์อีกครั้งเธอลองเคาะประตูแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับเคาะอีกรอบพร้อมเอ่ยเรียกน้ำทิพย์แต่ข้างในก็เงียบสนิท วทานิกาเลยต่อสายหาคนเป็นแม่ทันที
"แม่คะ ให้คนมาเปิดประตูห้องบีหน่อยสิคะ"
เมื่อเปิดประตูเข้ามาได้แล้วสิ่งที่เห็นคือน้ำทิพย์หลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย คนเป็นแม่จึงจัดการเดินเข้าไปปลุกส่วนคนที่เหลือก็ยืนกดดันน้ำทิพย์อยู่รอบเตียง
"บีลูก สายแล้วนะ"
"อื้อแม่ บีง่วงอ่ะ" อีกคนงอแงและนอนต่อ
"สงสัยงานแต่งวันนี้คงต้องยกเลิกแล้วมั้งคะเพราะว่าเจ้าบ่าวไม่ยอมตื่น"
วทานิกาเน้นคำว่าเจ้าบ่าวเสียงดังฟังชัดสักพักเหมือนคนที่นอนอยู่จะระลึกได้ว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของตัวเองผ้าห่มถูกถีบออกพร้อมร่างเพียวบางที่ดีดตัวลุกขึ้น
"แม่ ตอนนี้กี่โมงแล้วอ่ะ"
"จะหกโมงแล้ว"
"ตายๆๆ สายแล้วอ่ะแม่ ทำไงดีๆ"
น้ำทิพย์ถึงกับรนรานเพราะเธอตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งแต่ตีห้าแต่เหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยินเสียงมันตอนนี้เจ้าตัวก็เดินวนไปวนมาจนทุกคนเริ่มจะเวียนหัว
"ใจเย็นๆบี แพรว่าบีไปอาบน้ำนะจะได้มาแต่งหน้าแต่งตัว"
"โอเคๆ"
ใช้เวลาแค่สิบนาทีในการอาบน้ำเท่านั้น น้ำทิพย์ก็มานั่งให้ช่างแต่งหน้าทำผมวทานิกาและแม่ก็ต้องกับต้องปาดเหงื่อการเข้านอนไวไม่ได้ช่วยให้น้ำทิพย์ตื่นเช้าได้เลย
แม่อยู่ช่วยน้ำทิพย์แต่งตัวส่วนวทานิกาก็กลับมายังห้องของศิรินเพราะเธอจะมาช่วยศิรินแต่งตัวอาจจะด้วยชุดศิรินที่มันยุ่งยากกว่าของน้ำทิพย์ รอจนถึงเจ็ดโมงครึ่งช่างทำผมก็ทำผมให้ศิรินเสร็จพอดี
"หิวไหมแกทานไรก่อนไหม"
วุ้นเส้นเอ่ยถามเพื่อนเพราะถ้าศิรินไม่ทานตอนนี้กว่าจะได้ทานอีกทีก็น่าจะตอนบ่าย ศิรินพยักหน้ารับวุ้นเส้นก็จัดการเดินไปหาอะไรที่ทานรองท้องมาให้
"ระหว่างรอวุ้นแพรแต่งตัวให้คุณคริสเลยดีกว่าค่ะ"
เนื่องจากชุดของศิรินเป็นเกาะอกและพาดทับด้วยสไบและข้างล่างก็เป็นผ้าซิ่นวทานิกาเลือกออกแบบโดยใช้ผ้าที่ใส่สบายเป็นผ้านิ่มใช้เวลาอยู่นานพอสมควรเพราะรายละเอียดในการใส่ชุดไทยค่อนข้างเยอะ
"สวยมากเลยค่ะคุณคริส"
วทานิกามองศิรินผ่านกระจกจากที่เมื่อวานแค่ลองชุดก็ว่าสวยแล้ววันนี้ศิรินแต่งหน้าด้วยยิ่งสวยเข้าไปอีก ผมที่เกล้าขึ้นและมีการถักเปียเล็กน้อยตกแต่งด้วยดอกไม้สดสีขาวกับปิ่นปักผมสีทองให้เข้ากับชุด
การแต่งหน้าก็จะเป็นโทนอ่อนดูหวานๆรับกับชุดสไบเปิดไหล่ทุกอย่างดูลงตัวไปหมดไหนจะผิวขาวเหมือนน้ำนมของศิรินยิ่งทำให้ชุดที่เป็นสีทองดูดึงดูดเข้าไปอีก
"โห นี่ใช่นายหญิงเจ้าของไร่หรือเปล่าเนี่ย"
วุ้นเส้นที่เดินเข้ามาก็ยังอดแซวไม่ได้เพราะเธอไม่เคยศิรินแต่งตัวด้วยชุดไทยแบบนี้มาก่อนอย่าว่าแต่แต่งชุดไทยเลยหน้าศิรินปกติก็ไม่ค่อยจะแต่งหรอกแม้ตอนอยู่เมืองนอกจะเที่ยวกันบ่อยศิรินก็เพียงแค่แต่งอ่อนๆเท่านั้น
"ถ้ารู้ว่าแกจะสวยขนาดนี้ ฉันจีบแกไปนานล่ะ"
ศิรินเหลือบไปมองวทานิกาเพราะวุ้นเส้นดันเผลอพูดจาแบบนั้นออกมาแต่วทานิกาก็ไม่ได้อะไรคงจะรู้ว่าวุ้นเส้นก็แค่พูดเล่นไปตามประสาคนพูดมากนั้นแหละ
"พูดอะไรเกรงใจคนข้างๆหน่อยไหม"
"คุณแพรคะ ฉันไม่ได้หมายความอย่างที่พูดจริงๆหรอกนะ"
"แพรเข้าใจค่ะ ถึงคุณจีบคุณคริสจริงแพรว่าคุณคริสเข้าไปเอาคุณหรอก จริงไหมคะคุณคริส"
"จริงค่ะ"
"อ้าว นี่ฉันโดนรุมอีกแล้วหรอ"
ทั้งสองหัวเราะออกมาพร้อมกันทำให้วุ้นเส้นได้แต่ยิ้มแห้งๆก่อนจะขอตัวไปดูขบวนเจ้าบ่าวเสียหน่อยว่าเตรียมพร้อมหรือยัง
"เฮ้อ เสร็จสักที"
น้ำทิพย์ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงแต่ก่อนจะไปรวมกับขบวนขันหมากก็แอบส่องกระจกดูตัวเองเสียหน่อยก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง
ชุดของน้ำทิพย์เป็นเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสวมทับด้วยสูทสีครีมและข้างล่างนุ่งโจงกระเบนสีทองเข้มเพราะจะได้เข้ากับชุดเจ้าสาวน้ำทิพย์ดูจะภูมิใจกับชุดที่ดูเข้ากับตัวเองไม่น้อย
"ลงไปเตรียมตัวได้แล้วบี"
ตอนนี้ทุกอย่างถือว่าพร้อมหมดแล้วรอก็แต่ขบวนขันหมากเท่านั้นรออีกแค่หนึ่งนาทีตามฤกษ์เก้าโมงเก้านาที พอได้เวลาขบวนเจ้าบ่าวก็แห่กันมาเสียงดนตรีดังบอกว่าได้เวลาแล้ว
ทางด้านศิรินความตื่นเต้นเริ่มก่อตัวขึ้นทุกทีที่ใกล้ถึงเวลาทุกอย่างทำให้ศิรินเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองใจมันก็เต้นแรงแทบจะหลุดออกมาสองมือบีบกันแน่นพยายามหายใจเข้าลึกๆและทำตัวให้นิ่งเข้าไว้แต่ก็ไม่เป็นผลจนวทานิกาต้องช่วยปลอบ
เมื่อขบวนขันหมากฝ่าด้านประตูเงินประตูทองเข้ามาได้แล้วก็มานั่งรอเจ้าสาวซึ่งวุ้นเส้นอาสาเดินมาตามศิริน ทุกคนจดจ่อรอดูความสวยงามของเจ้าสาวและก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเพียงแค่ศิรินก้าวออกมาสายตาทุกสายตาจับจ้องด้วยความชื่นชม
"บี!"
"คะ"
"เดินไปรับหนูคริสสิลูก"
น้ำทิพย์ที่มัวแต่ตกอยู่ในภวังค์โดนคนเป็นแม่สะกิดให้เดินไปรับเจ้าสาวมานั่งข้างก่อนที่พิธีจะดำเนินการและทุกอย่างก็รายรื่นไปได้ด้วยดีจนจบพิธี
"จะมองอีกนานไหมคะ" ศิรินเอ่ยถามเพราะตอนนี้เข้ามาในห้องแล้วน้ำทิพย์ยังมองเธอไม่เลิก
"ก็แฟนบีสวยนี่นา ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าเมียต่างหาก"
"บี!"
"หรือไม่จริงล่ะ คริสเป็นเมียบีแล้วนะ"
น้ำทิพย์ดึงศิรินเข้ามากอดจนจมูกของทั้งคู่แทบจะชนกันความดีใจและอาการเขินของศิรินมันแสดงออกผ่านใบหน้าที่แดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด น้ำทิพย์อดใจไม่ไหวที่จะหอมแก้มอีกคนฟอดใหญ่ทำให้ศิรินเขินหนักกว่าเดิมไปอีก
"ปล่อยได้แล้ว คริสจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า"
"บีว่าเราเข้าห้องหอตอนนี้เลยดีไหมคะ"
"ทะลึ่ง!"
งานตอนกลางคืนดูจะผ่อนคลายลงมาหน่อยเพราะไม่ได้มีพิธีการอะไรมากมายและแขกที่มาร่วมก็เป็นพวกเพื่อนๆของน้ำทิพย์เสียส่วนใหญ่ส่วนแขกฝั่งศิรินล้วนแต่เป็นคู่ค้าซะมากกว่าเพราะเพื่อนสมัยเรียนไม่สามารถบินมาร่วมงานได้ แต่แขกคนพิเศษของศิรินที่ไม่มาไม่ได้เลยพี่ชายของเธอ
"โอโห้ นายหญิงของพี่สวยที่สุดเลยค่ะ"
"ทำไมมาช้าจังละคะ คริสนึกว่าจะไม่มาซะแล้ว" ศิรินอดที่จะงอแงไม่ได้ก็เคนเล่นมาซะใกล้เวลางาน
"ไฟท์มันดีเลนิดหน่อยค่ะ"
ทุกอย่างคล้ายงานแต่งของเคนและซินดี้ต่างกันตรงที่ว่างานแต่งของศิรินและน้ำทิพย์ดูสดใสมีสีสันกว่าก็ดูจากดอกไม้ที่หลากหลายสายพันธ์บางคนอาจจะคิดว่าคนจัดต้องจัดแบบมั่วๆที่คิดจะจับอะไรใส่ก็ใส่ไป ซึ่งก็คิดถูกเพราะน้ำทิพย์เป็นคนบอกให้จัดแบบนั้นและมันก็ออกมาดูลงตัว
และเพื่อคลายความสงสัยตอนพิธีกรถามน้ำทิพย์เลยบอกว่าเหตุที่ใช้ดอกไม้หลายสายพันธุ์เพราะเธอและศิรินค่อนข้างแตกต่างกันการที่ดอกไม้ไม่ในโทนเดียวกันมันก็เหมือนกับชีวิตของเธอและศิริน ถึงแม้จะต่างแต่มันก็มีบางอย่างที่ทำมันทำให้เข้ากันได้ก็คือความลงตัว
เสร็จพิธีก็มีปาร์ตี้ชุดใหญ่งานแต่งของน้ำทิพย์ทั้งทีจะน้อยหน้าคนอื่นได้อย่างไรกันเธอก็จัดดีเจที่กำลังเป็นขวัญใจวัยรุ่นพร้อมกับพิตตี้สาวมาต้อนรับแขกในงาน และศิรินก็พึ่งได้รู้ว่าที่น้ำทิพย์บอกว่ายุ่งๆที่แท้ก็ยุ่งเรื่องนี้
"มองพริตตี้ตาไม่กระพริบเลยนะคะ"
"บี บีก็แค่..เช็คความเรียบร้อยค่ะว่าแขกเขาชอบหรือเปล่า"
ที่จริงพริตตี้พวกนี้ก็จ้างมาเพื่อสนองนีดตัวเองทั้งนั้นศิรินก็ไม่ได้ติดใจอะไรหากน้ำทิพย์จำทำอย่างนั้นเพราะวันนี้เธออยากให้เขาปลดปล่อยให้เต็มก่อนที่หลังจากนี้จะไม่มีโอกาศ
Happy Ending
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เตรียมรับชะตากรรมตัวเองได้เลยคนบีบี
ปล.คงคิดถึงคุณบีกับนายหญิงแย่เลย T____T
ขอตอนพิเศษนะไรท์pls