ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Psychopath : Creepy The Clown.

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 15 : Before the missing.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 80
      12
      7 เม.ย. 63

    ตอนที่ 15 : ก่อนการหายตัว


    เมื่อคำเตือนสุดท้ายของเขาไม่สำคัญ ความตายจึงมาเยือนผู้ท้าทาย เพื่อนๆ ต่างไว้ทุกข์ให้กับ คริสติน่า โควาร์ด คนที่สมควรได้รับโอกาสเรียนที่ดีๆ มีอนาคตที่สดใส แต่ถูกคร่าชีวิตไปก่อนวัยอันควร

    เธอถูกฆาตกรรมโดยหญิงไร้บ้านข้างถนน ซึ่งไม่มีความแค้น หรือผลประโยชน์อะไรเกี่ยวข้องกับเธอ แต่ประเด็นที่สำคัญคือ เธอถูกพบเป็นศพทันทีหลังจากที่หายตัวไปอย่างลึกลับหลายวัน ราวกับว่ากำลังหนีบางอย่าง


    วันสุดท้ายก่อนการหายตัวไปของคริสติน่า


    ปึง! เสียงฝ่ามือทั้งสองตบโต๊ะ เจ้าตัวทำเสียงดังยังคงยืนค้ำ เธอเงยหน้าขึ้นจากถาดอาหาร และพบว่าเป็นโทมัส เขากำลังยิ้มกริ่มตามเคย คนรอบข้างต่างเหลียวมองกันเป็นเกลียว ก่อนรีบหันขวับกลับไปสนใจธุระตัวเองทันทีที่เขาเอะใจหันไปมอง

    "มีอะไร?" เธอถาม โทมัสนั่งลงฝั่งตรงข้าม ประสานมือข้างหน้าวางบนโต๊ะ กัดริมฝีปากล่างประหนึ่งมีความลับอยากบอกใจจะขาด

    "ไปปาร์ตี้กับฉัน" เขาว่า ยังคงกัดปากตัวเองอย่างมันเขี้ยว เธอขมวดคิ้ว สั่นหน้า ไม่เห็นว่าปาร์ตี้จะสลักสำคัญตรงไหน "วันเกิดฉัน แต่งตัวธีมแฟนซี คอสเพล อะไรก็ได้ที่ไม่ธรรมดามานะ ฉันมีบางอย่างสำคัญให้เธอดู สำคัญมาก ต้องมาจริงๆ" เขาพูดจบตบโต๊ะเบาๆอีกสองทีแล้วลุกจากไป ไม่รอให้เธอตอบโต้

    โทมัสเดินก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ และกลับไปนั่งกลุ่มแก๊งตัวเอง เงยมองเธอจากไกลๆ มีรอยยิ้มจางๆแช่บนใบหน้า ไม่ทันไรมือถือทุกคนในโรงอาหารดูเหมือนจะได้รับแจ้งเตือนข้อความจากโทมัส เธอได้รับเช่นกัน และเปิดดูพบว่ามันคือคำเชิญไปปาร์ตี้วันเกิด แม้แต่คริสติน่ากับแบรนดอนยังได้รับ เชิญทั้งที่ไม่ชอบขี้หน้ากัน และเพราะอย่างนั้น ปาร์ตี้ครั้งนี้จะไม่น่าสงสัยได้ยังไง?


    จากนั้นคริสติน่าโทรมา หล่อนนั่งหันหลังอยู่ตรงเสา แต่ทำไมไม่เดินมาพูดกับเธอตรงๆ?

    "คริสตี้" เธอรับสาย

    "อย่าให้ใครรู้ว่าเราคุยกัน เด็ดขาด" เสียงในสายย้ำขึงขัง เธอทำเป็นเสมองตรงไปข้างหน้า "โดยเฉพาะแบรนดอน ฉันอยากแอบเข้าบ้านเขา เธอพอมีวิธีไหม ที่ซ่อนกุญแจสำรองหรือขอยืมเขาให้หน่อยได้หรือเปล่า?"

    "เดี๋ยวนะ เธอจะเข้าบ้านเขาทำไม? มีอะไร เขาทำอะไรเธองั้นหรือ?"

    "ขอร้องโอลิเวีย เธอไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ได้ ขอแค่วิธีเข้าไปในบ้านฮิลลิส แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว" โอลิเวียเงียบ ครุ่นคิดและถามกลับ

    "บอกฉันว่าเธอคิดจะทำอะไร?" เธอเหลือบมองแบรนดอนที่เพิ่งลุกจากเก้าอี้ เขาชายตามองเธอแวบหนึ่งก่อนเดินไปเก็บถาดอาหาร ทิ้งกล่องนมลงถังขยะและออกไป

    "ฉันทนไม่ไหวแล้วโอลิเวีย ไม่เคยสงสัยเรื่องครอบครัวของเขาบ้างเหรอ ที่มาที่ไปของเขา ตั้งแต่อยู่ที่นี่ฉันไม่เคยเห็นพ่อแม่จริงๆของเขาเลย นอกจากโซเฟีย ฮิวจ์น้าแท้ๆ…" โอลิเวียไม่รอให้คริสตี้พูดจบ

    "ฉันเคยเห็นรูปพวกเขา ฮิลลิสน่ะ แม่เขาชื่อซาร่าอยู่ต่างประเทศ ส่วนพ่อชื่อแจ็กสัน เขาทิ้งครอบครัวเพราะขัดแย้งกันเอง" เธอสรุปจากที่แบรนดอนเล่า เพราะเขาไม่ค่อยพูดถึงพ่อมากนัก เท่าที่รู้คือพ่อเป็นคนเลว


    "ทิ้งครอบครัว? แบรนดอนบอกเธออย่างนั้นเหรอ เธอควรเช็กข่าวคนหายโอลิเวีย ไม่ใช่ทุกเรื่องจากปากเขาจะเป็นเรื่องจริงไปหมดหรอกนะ"

    "คริส-"

    "ช่างเถอะ ฉันนึกไว้อยู่แล้วว่าเธอจะไม่ช่วยฉัน เรื่องแค่นี้ฉันหาทางเข้าไปด้วยตัวเองก็ได้"

    "เดี๋ยวก่อน-" หล่อนตัดสาย ลุกพรวด เดินฉับๆอย่างมีอารมณ์ เธอรู้ว่าคริสตี้เป็นคนจริงจังแค่ไหน และเธอพูดจริงทำจริงแน่ ทำไมหล่อนถึงอยากรู้ที่มาของเขานัก เธอทนอะไรไม่ไหวงั้นเหรอ?

    ก่อนตามง้อคริสติน่า เธอใช้เวลาครู่หนึ่งพิมพ์หารายชื่อคนหายในอินเทอร์เน็ต

    จอ-แอะ-กอ-สอ-อะ-นอ และนามสกุล ฮอ-อิ-ลอ-ลอ-อิ-สอ กดปุ่มค้นหา 'แจ็กสัน ฮิลลิส' ไม่รู้ว่าคริสตี้ทำการบ้านมามากแค่ไหน แต่ปรากฏว่าพ่อแบรนดอนอยู่ในประกาศคนหายจริงๆ

    บางทีเขาอาจหนีไปโดยไม่บอกกล่าวจึงกลายเป็นบุคคลสูญหาย? แต่ถ้าเขาคิดหนี ทำไมไม่เก็บเสื้อผ้าไปด้วย? โอลิเวียรีบส่งข้อความกลับไปหาคริสตี้


    -ข้อความจากโอลิเวีย

    'ฉันไม่เห็นด้วยที่เธอเสี่ยงบุกรุกบ้านคนอื่น แต่ฉันรู้ว่าคงห้ามเธอไม่ได้ ฉะนั้นระวังตัวด้วย กุญแจสำรองอยู่ในบ้านนก และอาจมีบางอย่างสำคัญในลิ้นชักโต๊ะทำงาน เพราะมันล็อก เธอจะไปวันไหน ตอนกี่โมง?'


    -ข้อความจากคริสติน่า

    'ขอบใจ แต่จะดีกว่าถ้าเธอรู้ให้น้อยที่สุด ฉันจะระวังตัว'


    เวลาปาร์ตี้วันเกิดโทมัสเริ่มขึ้นพร้อมเสียงเฮและเสียงเพลงดังลั่น แสงสีวูบวาบเฉิดฉายผ่านแสงสลัวสีน้ำเงิน เครื่องดื่มมึนเมาถูกจัดวางอย่างโจ่งแจ้ง ผู้คนแต่งตัวแปลกประหลาด แต่งเป็นสัตว์บ้างหรือสวมหน้ากากมินิมอลจากกระดาษบ้าง ผู้หญิงแต่งตัวเต็มเหนี่ยว ขนตาดกดำหนาสวมชุดรัดรูปถุงน่องตาข่ายก็มี ปากทาสีแปลกๆ เรืองแสงบ้าง กากเพชรบ้าง ทุกคนดูเจิดจรัส กระโดดโลดเต้นกันนัวเนีย และก็มีคนกลุ่มหนึ่งเล่นเกมเด้งลูกปิงปองลงแก้วอย่างไม่สนโลก

    ตรงห้องชั้นสอง ประตูเปิดออกพร้อมโทมัสที่เดินออกมาจากห้อง เธอแทบจำเขาไม่ได้หากเขาไม่ถอดหน้ากากกันพิษกับฮูดออก ชุดเขาเป็นชุดกันไวรัสสีขาวซึ่งปกปิดทุกส่วนของร่างกาย มีแว่นตาใสครอบครึ่งหน้า ถุงมือยางสีฟ้าอมเขียว สีเดียวกับรองเท้า ดูเหมือนหลุดออกมาจากในหนังไซไฟ

    เธอมองอย่างสอดรู้สอดเห็นในห้องเรืองแสงสีชมพูนั้น เพื่อนสนิทเขาหลายคนอัดแน่นอยู่ในห้อง เขามองลงมาจากชั้นสอง มือเกาะราวกั้น ชูมือกวักทักทาย เธอยืนรอข้างล่างให้เขาเป็นฝ่ายเดินลงมา


    "สุขสันต์วันเกิด"

    "ดีใจที่เธอมา" โทมัสพูด มองชุดที่เธอใส่ มันคือชุดชั้นในสีดำสวมทับด้วยเสื้อซีทรูสีดำ และเสื้อคลุมคอตั้งสีดำ กางเกงยางรัดรูปสีดำ รองเท้าส้นสูงปลายเปิด และแต่งหน้าโทนสีแดงดำน้ำตาลตามแบบฉบับผีดิบสมัยใหม่ อายไลน์เนอร์สีดำเขียนรูปหยดเลือดสีดำใต้หางตา

    "โว้ว…"

    "ฉันไม่มีชุดแฟนซีกว่านี้แล้ว" เธอว่า เขายิ้มกริ่มมุมปากแล้วเลิกคิ้ว ยังคงมองการแต่งตัวแปลกๆของเธอ

    "สวยดี แต่มันไม่ใช่ตัวเธอเท่าไหร่" แน่นอนต้องไม่ใช่อยู่แล้ว เพราะถ้าใช่ เธอจะแต่งชุดนอนและสวมเสื้อฮูดกันหนาวมาแทน โอลิเวียกวาดตามองผู้คนรอบๆ และเบี่ยงหลบคนที่เกือบเดินเข้ามาชน

    "นายบอกว่ามีเรื่องสำคัญ คืออะไร?" เขายกแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้นมาซด ก่อนตะแคงศีรษะไปทางห้องชั้นบน ซึ่งยังคงมีคนเข้าออกไม่ขาดสาย ส่วนมากถือแก้วเครื่องดื่มแบบเดียวกับโทมัสเข้าไปด้วย

    "เธอทำตัวน่าเบื่อชะมัด ฉลองวันเกิดกับฉันก่อน เล่นเกมกับเพื่อนๆฉันข้างบน แล้วจากนั้นเราจะคุยเรื่องคดีแม่เธอกัน" ทำไมเขาถึงได้ใจเย็นนัก เธอคิดบ่น

    "ฉันอยากคุยตอนนี้ ที่นี่ ให้จบๆ ฉันไม่อยากกลับดึก"

    "งั้นกลับได้เลย" โทมัสพลิกข้อมือ ถกแขนเสื้อดูเวลา ฉีกยิ้มกว้าง รู้ว่าเธอต้องยอม เขากลับหลังหันจะขึ้นบันไดแต่เธอคว้าแขนไว้ เธอไม่ทันพูดอะไร เขาพูดอีก "ลาก่อน" แล้วขึ้นบันไดเดินเข้าห้องชมพู โอลิเวียถอนหายใจ...


    กลิ่นแอลกอฮอล์และบุหรี่คลุ้งห้อง ไม่รวมกลิ่นยาสูบที่เหม็นแปลกๆกับน้ำหอมผู้หญิงอีก โอลิเวียย่นจมูกพยายามรับแค่อากาศบริสุทธิ์ แต่ทำได้สักที่ไหน

    "กัญชาน่ะ" ผู้หญิงนั่งขัดสมาธิบนเตียงในชุดฮาล์ลี่ควีนพูด สองนิ้วคีบมวนบุหรี่ที่ว่า "สักหน่อยมั๊ยจ้ะแม่ยาหยี?"

    "อย่าเผาเตียงฉันนะเวร่า" โทมัสติง ชี้นิ้วพลางอมยิ้ม หล่อนทำท่าจะจี้บนผ้าปูแล้วเหลือบมองเชิงท้าทาย ส่งยิ้มร้ายกาจ

    "นายจะได้เปลี่ยนเตียงสักทีไงเจ้านักบินอวกาศ" เธอมองชุดของโทมัส "ชุดนี้ไม่จ๊าบเลย ฉันเผาชุดนายก่อนดีกว่า"

    "ชุดป้องกันไวรัส" เขาแก้ สั่นหัวและหันไปพูดกับชายในชุดวาบหวิวโดยมีเพียงผ้ากันเปื้อนพลาสติกสีฟ้า มันปกปิดด้านหน้า ส่วนด้านหลังเปลือยทั้งหมด มือสวมถุงมือยางสีขาว เธอเบิกตาโตตอนที่โทมัสตีก้นขาวๆของชายคนนั้นดังเพี๊ยะ

    "เอาออนเดอะร็อกให้ฉัน" หันมองโอลิเวียที่นั่งไม่ติด "นั่งกับเราสิ เอาอะไร?"

    "เอ่อ เหมือนนาย" เธอไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ เขาหัวเราะหึหึและพยักหน้าให้ชายคนนั้น เธอรู้สึกว่าตัวเองทำพลาดมหันต์ น่าจะบอกเขาไปตามตรงว่าไม่ดื่ม แต่ในใจเธอคิดว่าจะดีกว่าถ้าทำตัวกลมกลืนกันกลุ่มเข้าไว้ แต่ผลตรงกันข้าม นั่นทำให้เธอกลายเป็นตัวตลก


    ออนเดอะร็อกสีอัมพันเสิร์ฟในแก้วใสทรงเตี้ย โทมัสดื่มนำ ขณะที่คนในห้องจับคู่คุยกัน บ้างก็แบ่งกันสูบกัญชาและพ่นควันขาว โทมัสเหล่มองเธอ และทุกคนในห้องก็ดูเหมือนแอบรอให้เธอดื่มมันเข้าไป เธอหายใจเข้าและกลั้นใจซดทั้งที่รู้ว่ามันต้องขม และทันทีที่เธอพ่นพรวดทั้งห้องก็ระเบิดหัวเราะเยาะ ผู้หญิงบนเตียงทำหน้าสะอิดสะเอียน มันน่าอายเหลือเกิน แถมยังทำน้ำลายยืดหยดลงพื้นอีก แย่ชะมัด

    เธอแทบลุกหนีออกจากห้อง แต่โทมัสไม่ยอมให้ออกไป เขาแก้ตัวให้เธอว่าเธอไม่เคยดื่มมาก่อนและยกย่องในความใจกล้า แต่เธอรู้สึกเหมือนถูกเหน็บแนมว่าไม่เจียมตัวเสียมากกว่า ซึ่งเรื่องไม่เคยดื่มเป็นความจริง แต่แล้วเขาก็สั่งน้ำผลไม้แทน

    อาการปวดหนึบๆที่ศีรษะเริ่มขึ้นอย่างไม่ทันรู้ตัว และรู้สึกเหมือนมีใครบางคนเอากระป๋องโลหะเย็นๆมาให้ดื่ม บรรยากาศโดยรอบคล้ายเคลื่อนที่ตลอดเวลาราวกับดวงดาวในอวกาศเคลื่อนผ่านท้องฟ้า เสียงกึกก้องของเพลงทะลุประตูเป็นเสียงหึ่งๆและดังสนั่นจนแตกพร่าทุกครั้งที่มีใครเปิดเข้ามา

    แสงชมพูสลัวตัดกับแสงสะท้อนระยิบระยับจากลูกแก้วคริสตัสเจียรไน หมุนและหมุน ผิวกายและใบหน้าทุกคนดูวิบวับสวยงาม ยิ่งกระทบกับกากเพชรและลูกปัดบนใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่งด้วยแล้ว ยิ่งงดงาม หล่อนมีผมยาวม้วนเป็นลอนสีอ่อน นั่งอยู่ข้างๆเธอ ดวงไฟเล็กๆสีเหลืองเบื้องหลังส่องแสงวูบวาบ เป็นสายไฟสำหรับตกแต่งต้นคริสต์มาส ดูเหมือนหิ่งห้อยและเธอเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายสักเรื่อง


    พวกเขาพูดเรื่องอะไรสักอย่างที่เธอฟังไม่รู้เรื่อง กีฬาโรงเรียน คู่เกย์ หรือบางอย่างที่คล้ายชื่ออาหาร กระทั่งผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามของวงกลม ทาปากดำ ใส่ต่างหูไข่มุกเม็ดเป้งและแต่งหน้าจัดจ้านจนต้องยอมแพ้ เขาถามคำถามเธอ

    ".....ได้ยังไง?" เธอได้ยินไม่ชัด โอลิเวียส่ายหน้า "ทำไมถึงเป็นเพื่อนกับโทมัส เล่าเรื่องของเธอให้เราฟังบ้างสิ"

    "ฉันเกลียดเขา" เธอพูดเนิบๆ ไม่แน่ใจว่าพูดออกมาแล้ว และเพราะอะไรบางอย่างมันทำให้เธอเกือบหัวเราะออกมา "ใครๆก็เกลียดเขาทั้งนั้นแหละ แต่เพราะเขาเป็นลูกตำรวจ…"

    "โอเค เธอเมาน้ำผลไม้ของฉันแล้วโอลิเวีย" โทมัสขัด ไม่ให้เธอพูดอะไรเลยเถิด "ฉันว่าเราถามตอบงี้มันง่ายไป เราต้องเล่นเกมกัน เอาเป็น...เกมอมถามตอบจูบ"

    "มันเล่นยังไง?" ชายคนเดิมถาม โทมัสหยิบซองพลาสติกใสเล็กๆขึ้นมา ข้างในบรรจุยาสีชมพูจำนวนสามเม็ด "โอ้โห" และคว้าขวดไวน์เปล่าวางตรงกลางวงล้อม

    "คนอมยามีสิทธิ์ถามคำถามคนที่ถูกปากขวดชี้ คนที่ถูกถามมีสิทธิ์ปฏิเสธแต่มีข้อแม้ว่าต้องจูบใครก็ตามที่คนอมยาสั่ง ส่วนคนอมยาจะได้หมุนขวดต่อ แต่ถ้าคนถูกชี้ตอบได้คนอมยาจะต้องส่งต่อยาทางปาก และคนๆนั้นจะได้หมุนขวด"

    "ส่งต่ออำนาจ" ฮาล์ลี่ควีนเสริม ยังไม่ยอมวางยาสูบแท่งเดิม "ใครเริ่มก่อน" โอลิเวียยกมือ "เธอเหรอ?"

    "ฉันขอผ่าน" เธอพูด เกมนี้ไม่ต่างจากการฉวยโอกาสจูบคนแปลกหน้า และอาจติดโรคอะไรมาก็ได้

    "แต่เกมนี้เพื่อเธอนะ เด็กใหม่ เราอยากรู้เรื่องเธอ" หล่อนตอบ เธอหันมองหญิงสาวผมลอนจากเทพนิยายตอนที่เธอออกความเห็น

    "ฉันด้วย" โอลิเวียยิ้มและจิบน้ำผลไม้ของโทมัส


    ขวดไวน์ถูกหมุนโดยเจ้าของวันเกิด ก่อนหมุนช้าลงและหยุดที่ชายปากดำสุดเริศ แต่เขาดูดีอกดีใจที่โดนถาม โทมัสหยิบยาจากซองวางบนลิ้นให้ทุกคนเห็น

    "ฉันตอบได้หมดแหละเพื่อจูบนาย" โทมัสยิ้ม ยักไหล่และเริ่มถาม

    "ฉันใส่กางเกงในสีอะไร?" หนุ่มนั่นชะงักและยู่หน้า

    "นี่ขี้โกงหรือเปล่า นายต้องถามเกี่ยวกับฉันสิ?"

    "ตอบ"

    "โอเคๆ สี...สีดำ" โทมัสกระดิกนิ้วเรียกฮาล์ลี่ควีนมาเป็นพยาน แหวกชุดดูข้างใน หล่อนอ้าปากค้างและปิดปากตัวเอง

    "เขาไม่ได้ใส่!" โทมัสทำหน้าตาลอยประมาณว่าไม่ได้แอ้มหรอก ส่วนเขาทำหน้าเบี้ยวอย่างเสียดาย

    "นายไม่ได้บอกว่าตอบผิดต้องทำยังไง"

    "จูบเวร่า" คนตอบผิดจะต้องทำตามคำสั่งเหมือนคนไม่ตอบ ผู้หญิงแต่งฮาล์ลี่ควีนหันขวับและคัดค้าน

    "ได้ไงเนี่ย?" แล้วถูกคว้าคอไปจูบสั้นๆแบบไม่ทันตั้งตัว "แหวะ พระเจ้าช่วย"

    เขาหมุนอีก ครั้งนี้ตกที่หญิงสาวที่นั่งข้างๆโอลิเวีย "ฉันขอถามเธอลอร่า จูบครั้งล่าสุดกับใคร?" หล่อนกลืนน้ำลาย "ห้ามโกหก"

    "คริสติน่า" โอลิเวียอึ้งและโทมัสไม่อยากเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ คริสตี้มีแฟนแล้ว คบกับเฮนรี่ ไม่มีท่าทีชอบผู้หญิงสักนิด


    "คริสติน่าโควาร์ดเนี่ยนะ?" เขาถามให้แน่ใจ

    "นั่นคำถามที่สองแล้วโทมัส" เวร่าแย้งไม่ให้เขาผิดกติกา "หมดเวลากุมอำนาจแล้ว"

    โทมัสลุกขึ้นบนเข่าและโน้มเข้ามาจูบลอร่า ก่อนที่ผละออกไป หล่อนแลบลิ้นให้ดูเม็ดยาที่ถูกส่งต่อแล้ว หมุนขวด

    และมันหยุดที่เธอ โอลิเวียจ้องมันแบบไม่แน่ใจว่าใช่เธอจริงๆหรือ ตั้งแต่น้ำผลไม้แก้วที่สามเธอก็เคลิ้มๆคล้ายจะเสียสติรู้ตัวไปเล็กน้อยถึงปานกลาง

    "เคยชอบผู้หญิงไหม?" ใบหน้าของหล่อนดูวิบวับจนยากเกินละสายตา แวบหนึ่งเธอสงสัยว่าลอร่ามีตัวตนจริงหรือเป็นแค่จินตนาการณ์จากฤทธิ์กัญชาที่เวร่าสูบกันแน่

    "ถึงคราวเธอต้องตอบแล้วโอลิฟ" โทมัสเรียกสติ

    "ไม่เคย" แล้วหล่อนก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบ ริมฝีปากอ่อนนุ่มประกบ เธอหลับตารู้สึกถึงเส้นผมยาวของหล่อนปรกสัมผัสใบหน้า มีกลิ่นเหล้าเคล้ารสเชอร์รี่ตอนที่เธอกำลังนัวเนียและล้วงลิ้นรุกล้ำ โอลิเวียรับยาเข้ามาตอนที่หล่อนถอนกลับไป ก่อนจับขวดแก้วไวน์ตรงหน้าและเริ่มหมุน ขวดชี้หาหนุ่มปากดำ

    "ถามมาเลยน้องแวมไพร์" เขากระดี้กระด้า กวาดตามองทุกคนในวงล้อมอย่างมีความสุข

    "นาย...สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่นายเคยทำ...คืออะไร?" เธอพูด แล้วเขาก็เลิกคิ้วคาดไม่ถึงกับคำถามนั้น

    "ฉันชอบคำถามนี้นะ" หนุ่นนั่นครุ่นคิด ยืมยาสูบจากเวร่ามาดูดและพ่นควันโขมงใส่ เธอกระแอม "ฉันไม่ตอบ"


    "งั้นฉันสั่งให้นายจูบ…" เธอมองโทมัสกับชายในชุดวาบหวิว "ชายคนนั้น" เธอพยักหน้าให้ชายในชุดกันเปื้อน

    "ฉันรักเธอเข้าแล้วโอลิเวีย" เขาพูดแล้วเข้าไปเหนี่ยวคอชายคนดังกล่าวจูบ และทั้งวงต้องรอทั้งสองจูบกันนานกว่าปกติ

    "หมุนอีกรอบสิ" โทมัสเร่ง และรอบนี้มันหยุดที่โทมัส ช่างบังเอิญเหลือเกิน เขาปัดผมสีดำและรอคำถามจากเธอ เวร่าสาวคอสเพลสุดแซ่บกำลังแย่งบุหรี่กับหนุ่มคนเดิมหันมาสนใจดูคู่นี้ทันที แล้วปรี่เข้ามากระซิบข้างหูโอลิเวีย โทมัสหรี่ตาสงสัยว่าทั้งสองหัวเราะคิกคักอะไรกัน

    "เรื่องที่นายอายที่สุดในชีวิตของนาย?" โทมัสกลอกตา ไม่อยากตอบ แต่เขาไม่อยากให้โอลิเวียครองขวดนานไปกว่านี้

    "ฉี่ราดต่อหน้าเพื่อน" กัดฟันส่งสายตาแค้นเวร่าเล็กๆ "พ่อจับได้ว่าฉันขโมยปืนมาเล่น แต่ฉันจัดการเธอทีหลังแน่" เขากระซิบตอนท้าย

    โอลิเวียขำกับเวร่าครู่หนึ่งก่อนนึกขึ้นได้ว่าต้องทำอะไร คลานช้าๆเข้าไปเหมือนลูกหมา ยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าของโทมัสจนรู้สึกถึงลมหายใจเป็นจังหวะ ยังไม่ทันส่งต่อก็รีบผละออกมา


    "โทษที ฉันเคี้ยวไปแล้ว" เธอว่า เขายิ้มเหมือนรู้ทันว่าเธอคิดอะไร

    "ยานั่นแรงนะ แต่ไม่เป็นไร สมมติว่าเธอส่งให้ฉันแล้วละกัน" เขานำยาเม็ดใหม่ออกมาใส่ปากตัวเองแล้วเริ่มหมุนขวด ทุกอย่างดูช้าลง แม้แต่เพลงที่กึกก้องอยู่ในหู หรือยานั่นจะแรงอย่างที่โทมัสว่าจริงๆ แต่มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีผิวกายเป็นฟองสบู่หลากสี

    ปากขวดหมุนติ้วก่อนชี้ไปทางเธออีก "ตาฉัน" เขามองเธอ กัดริมฝีปากล่าง "ความลับสุดยอดของเธอ"

    "ความลับของฉัน" เธอพูดย้ำคำถามช้าๆ "ฉันชอบ...เล่น...บทนายบ่าว" เสียงตบมือและหัวเราะอย่างเหลือเชื่อดังจากคนหลายคน

    "ทำไม?" โทมัสหลอกถามอีก

    "เพราะมันทำให้ฉันรู้สึก ต่ำต้อย...ถูกคุกคาม..."

    "เธอกำลังตอบเกินคำถาม" เวร่าเตือนแต่ถูกหนุ่มอีกคนปิดปากเพราะอยากฟังต่อ และเธอไม่ทันสังเกตเห็นว่ากำลังถูกลอร่าถ่ายวีดีโอ

    "แต่นายของฉันไม่อยู่แล้วน่ะสิ มันแย่มาก" เธอพร่ำเพ้อ คิ้วขมวดเศร้าใจ แต่ยังคงมองโทมัส เขาถอดแว่นออก ใบหน้าเขามีสีชมพูมัวๆเพราะแสงในห้อง ใครบางคนถามแทรกเบาๆและเธอก็ตอบไป

    "เขาคนนั้นคือแบรนดอน?"

    "ไม่...ไม่ใช่เขา แต่เป็นเจสัน เจนสันคนที่ออกข่าวนั่นแหละ"

    "ใช่ที่เกิดอุบัติเหตุคืนฮัลโลวีนหรือเปล่า?" หนุ่มต่างหูมุกซักต่อ เสียงเพลงข้างนอกดูจะดังชัดขึ้นเมื่อทุกคนในห้องนี้เงียบ

    "เขานั่นแหละ แต่มันไม่ใช่อุบัติเหตุ เขาทำให้ทำตำรวจเชื่อแบบนั้น พระเจ้า...ฉันก็ช่วยเขาด้วย"

    "พอก่อน หล่อนเพ้อไปใหญ่แล้ว" โทมัสพยายามหยุดเรื่องนี้

    "เขา? เขาเป็นใคร เธอกำลังจะบอกว่ามีคนฆ่าเขางั้นเหรอ?" หนุ่มนั่นเริ่มตาตื่น ดึงกัญชาจากเวร่ามาอัดเข้าปอด แต่ไม่หยุดตะล่อมให้เธอคายความลับทั้งที่โทมัสพยายามหยุด

    "ฉันไม่รู้" เธอก้มหน้าพึมพำ ส่ายหน้ายึกยัก

    "เธอช่วยเขาฆ่าคนหรือเปล่า?"

    "ฉัน-" โทมัสจูบหุบปากเธอก่อนที่เธอจะพูด โอลิเวียไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขา โทมัสคิดว่าความลับของเธอคือแค่ให้ที่ซ่อนฆาตกรในวันนั้น ไม่คิดว่าเธอปิดบังอย่างอื่นร้ายแรงขนาดนี้

    "เธอเป็นหนี้ฉัน" เขาถอนจูบเพื่อกระซิบ ก่อนจูบอีกครั้งและส่งต่อยาทางปาก ค่อนข้างรุนแรง โทมัสขบปากเธอก่อนปล่อย หล่อนส่งสายตามอมเมา ทั้งคู่ไม่ได้ยินเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มตอนที่มีคนเปิดประตูเข้ามา


    แบรนดอนจับคางโอลิเวียและใช้นิ้วล้วงเอายาออกมาจากปากทันที ชูเม็ดยาเสพติดสีชมพูให้เธอดู บีบแก้มเธอเรียกสติ "เธอเล่นห่าเหวอะไร" มองดูแก้วน้ำผลไม้ผสมแอลกอฮอล์วางเกลื่อนพื้น ก่อนตวัดสายตาเกรี้ยวกราดมองคนในวงล้อม ซึ่งแต่ละคนหน้าซีดเซียวราวกับเพิ่งเห็นเรื่องสยอง "พวกเธอมอมยาโอลิเวีย"

    "เปล่า หล่อนเดินเข้ามาเองต่างหาก เล่นกับเราสิ นายเพิ่งพลาดบางอย่างไปหวุดหวิดเลยนะ" เวร่าพูด เลื้อยลิ้นเลียฟันยั่วประสาท "หล่อนเพิ่งบอกความลับเราน่ะ"

    "ฉันไม่สน" เขาดึงแขนโอลิเวีย ฉุดให้ลุกขึ้น เธอไม่ยอมลุกดีๆ ดื้อไม่ดูเวลา

    "แน่ใจเหรอสุดหล่อ?" เขาไม่เหลียวแลด้วยซ้ำ "แล้วถ้าแฟนนายเป็นฆาตกรล่ะ" ในที่สุดก็เรียกความสนใจจากแบรนดอนได้ เขาชะงักก่อนหันขวับมาจ้อง

    "เธอโกหก" เขาพูดเสียงเข้มลึก โทมัสรีบเสริมตาม

    "ใช่ เลิกพูดจาพล่อยๆสักทีเวร่า" แอบทำสายตาถลึง เขม่นไม่ให้พูดเรื่องนี้

    "ลอร่ามีคลิป อยากฟังไหมล่ะ?" แต่เธอไม่หยุดเถียง ส่วนสาวลอร่าที่กำลังถ่ายวีดีโอรีบซ่อนกล้อง

    "ฉันไม่สน" แบรนดอนตวัดสายตากลับมา พูดย้ำคำเดิม ก่อนฉุดโอลิเวียให้ลุกอีกรอบ แต่เธอยืนขึ้นพร้อมหยิบขวดไวน์ขึ้นมา ปากขวดชี้จิ้มหน้าอกเขา แล้วใช้ปากฮุบยาที่นิ้วแบรนดอน รูดยาออกมา เธอช้อนตาสู้สายตาจองหองของร่างสูงที่กำลังมองชุดที่เธอใส่อย่างตำหนิ โอลิเวียทำหน้ายียวนและท้าทายเพราะรู้ว่าเขาต้องหัวเสียจนแทบคลั่ง

    "ฉันขอถามนายหนุ่มซีด" เธอยิ้ม เลื่อนปากขวดไวน์ที่อกเขาเลื่อนต่ำลงมายังท้องน้อย หยุดชะงักใต้สะดือเพราะเขาจับไว้ "นายอยากทำอะไรกับฉัน เวลานายโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงกันล่ะ? ตีฉัน ข่มขืนฉัน หรือบดขยี้ฉัน"

    เขาคว้าขวดไวน์กระชากจากมือ เหวี่ยงใส่กำแพงจนเศษแก้วแตกกระจาย เธอยังคงยิ้มหยาดเยิ้ม เงยมองดวงตาสีดำโตที่แทบลุกเป็นเพลิงโลกันณ์บนใบหน้าเกร็งเขม็งของเขาโดยไม่ตกใจสักนิด แต่คนในวงล้อมเริ่มตื่นตัว แบรนดอนกัดฟัน "หยุดพูด"

    "นายอยากทำร้ายฉันล่ะสิ นายชอบมัน ทำให้ฉันพังยับเยินน่ะ"


    "ใช่" เขาตอบและคว้าเธอเข้ามาจูบอย่างดุดัน ลิ้นดุนดันเข้ามาล้วงยาในปากเธอก่อนกลืนมันลงไป "เกมอุบาทจบแล้ว" เขาลากโอลิฟออกจากห้องชมพูคลุ้งกลิ่นกัญชา และปิดประตูโครม

    "ควรบอกเขาไหมว่ายานั่นมันแรง?" หนุ่มต่างหูมุกพูด คนในวงล้อมที่เหลือยังนั่งนิ่งสนิทกับที่ แล้วโทมัสก็หยิบยาเสพติดเม็ดสุดท้ายออกมา

    "เหลือหนึ่งตา" ปรายตามองครบทุกคนอย่างช้าๆ "ใครเคี้ยวอีก ฉันจะคิดเงิน"


    คริสติน่าแฝงตัวในห้องที่มีคนชุกชุมที่สุด นั่นคือห้องเต้นและดื่ม มนุษย์หมาป่าขนดกเป็นดีเจ และผู้หญิงไม่มีคิ้วแต่งหน้าเขียวเรืองแสงเป็นเอเลี่ยนคอยชงน้ำและผสมผงบางอย่างลงไป

    ดังนั้นเธอจึงไม่แตะเครื่องดื่มหรืออาหาร เพียงแต่ทำตัวกลมกลืนเท่านั้น คริสตี้เคลื่อนไหวตามจังหวะเพลง สะบัดปลายผมไฮไลท์สีเขียวน้ำทะเลซึ่งดูสว่างใต้แสงแบล็กไลท์ ผิวและเสื้อกั๊กตำรวจจราจรสีส้มเรืองแสงดูพิลึก ในขณะที่ผู้คนสังสรรค์อย่างไม่ลืมกูลืมตา สายตาเธอคอยสอดส่องรอให้แบรนดอนมาถึงงาน ทันทีที่เขาปรากฎที่ประตูทางเข้า คริสตี้แทรกตัวสวนออกทางประตูหลังและจัดการกับสิ่งที่ต้องทำบางอย่างก่อนขับรถมุ่งไปยังบ้านแบรนดอน

    บ้านทั้งหลังปิดไฟมืด รถเขาจอดอยู่ที่ปาร์ตี้ ทุกอย่างเปิดทางให้เธอเข้าไปอย่างสะดวก บ้านนกควรอยู่บนต้นไม้สักต้น คริสติน่าเปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ และย่างกรายเข้าสวนหลังบ้าน แสงไฟส่องเห็นพืชผักบางส่วนบนพื้นดิน และสาดขึ้นไปยังต้นไม้สองต้นติดรั้วข้างบ้าน บ้านนกขนาดเล็กสีน้ำตาลแขวนใต้กิ่งก้าน เธอส่องเข้าไปเจอซองพลาสติกซิปล็อก ก่อนเขี่ยออกมาและพบกุญแจอยู่ในนั้น


    มันเป็นกุญแจประตูหลังบ้าน คริสติน่าเช็ดรองเท้าเปรอะดินกับพรมกาบมะพร้าว และเดินอย่างระวังเข้าสู่ภายในบ้านที่ครั้งหนึ่งเธอเคยมาเยือนอย่างถูกต้อง แต่ครั้งนี้แตกต่างสิ้นเชิง เพราะมันคือการบุกรุก

    เธอลงไปที่ห้องใต้ดิน ถ่ายรูปตู้แช่แข็ง แต่พบว่ามีแต่อาหารแช่แข็ง และห้องใต้หลังคาซึ่งว่างเปล่า หากไม่นับของเก่าๆเช่น จักรยาน กระจก กล่องลัง แต่อากาศข้างบนนี้มีกลิ่นสาปรุนแรงและพื้นมีฝุ่นหนาบางจุด แต่พื้นบริเวณตรงกลางห้องสะอาดเหมือนเพิ่งทำความสะอาดไม่ถึงสัปดาห์ โดยรวมไม่มีอะไรแปลกประหลาด

    คริสติน่าลงจากบันไดห้องใต้หลังคาช้าๆ กลัวว่าใครบางคนอาจรออยู่ข้างล่าง กระทั่งเสียงรองเท้าเบียดพื้นตอนเธอลงน้ำหนัก ยังไม่มีใครกลับมา ทั้งบ้านเงียบสงัด เธอตามหาห้องทำงานที่โอลิฟพูดถึง สาดแสงไฟที่มีอยู่น้อยนิด และเงาดำพาดผ่านเร็วไวทำเธอตกใจ ทั้งที่มันเป็นเงาของตัวเองที่เคลื่อนไหวบนผนัง


    นอกหน้าต่าง ไม่มีเสียงรถ ไม่มีใครเดินผ่าน เหมือนผู้คนในเมืองทั้งเมืองแห่ไปที่ปาร์ตี้กันหมด เธอหันกลับมาถ่ายรูปตู้เสื้อผ้าที่สงสัยว่าเป็นของพ่อแบรนดอน มีรองเท้าหนัง เข็มขัดสามสี่เส้น และเสื้อแน่นตู้ โต๊ะทำงาน ชั้นวางหนังสือ และรูปครอบครัว ก่อนพยายามดึงลิ้นชักที่ล็อกเกือบทุกชั้น มีบางอย่างน่าสงสัยอย่างที่โอลิเวียว่าจริงๆ แต่เธอไม่มีกุญแจผี ไม่มีเครื่องมือใดๆเลย

    ชะแลงเหล็ก สำหรับเกี่ยวบันใดห้องใต้หลังคา เธอนึกได้แล้วหยิบมันมางัดโดนไม่สนว่าจะทำให้โต๊ะพังหรือถูกจับได้ เพราะเวลากำลังนับถอยหลังและเธอจะไม่ยอมกลับไปมือเปล่า

    เสียงโครมแรกฟังน่าหวาดหวั่น เสียงกระแทกโลหะครั้งต่อมาดูน่าตกใจน้อยลง และครั้งที่นับไม่ถ้วนเสียงดังนั้นดูไม่น่ากังวลอีกต่อไป

    ด้วยพละกำลังที่เสียไปกับการทำลายโต๊ะ ในที่สุดลิ้นชักทั้งหมดก็ถูกงัดเปิดออก ทรัพย์สินเสียหายอย่างชัดเจน ถลอกและแตกหัก เขารู้แน่ว่ามีคนบุกเข้ามาและไม่มีใครนอกจากเธอ แต่สิ่งที่อยู่ข้างในถือว่าคุ้มค่า…

    ตุ๊กตาจากก้านสำลี เจ้าสิ่งนี้มีค่าถึงกับต้องล็อกกุญแจเชียวหรือ? ประเมินด้วยสายตาแล้วมันไร้ค่า ลูกกวาดยังมีค่ามากกว่า คริสติน่าวางมันบนโต๊ะ ถ่ายรูปและฉายไฟในลิ้นชักใหญ่ ใช้นิ้วกรีดนับแฟ้มแล้วสุ่มหยิบเอกสารขึ้นมาหนึ่งเล่ม

    แจ็กสัน ฮิลลิส บุคคลสูญหาย เป็นแผ่นประกาศจากกรมตำรวจซันเซต ซึ่งแนบกับซองจดหมายหนึ่งซอง มีลายมือเขียนด้วยปากกาหมึกดำ มันจ่าหน้าซองถึง ซาร่า ฮิลลิส แต่ไม่ได้ลงที่อยู่ผู้รับ


    "แด่ซาร่าที่รัก,

    ผมคิดถึงคุณ ผมไม่เข้าใจเลยทำไมจู่ๆคุณถึงหยุดตอบผม เกิดอะไรขึ้น หรือคุณเกลียดผมแล้ว ผมมีเหตุผลแล้วผมก็อธิบายอย่างละเอียดผ่านจดหมายฉบับก่อนหน้าหมดแล้ว ได้โปรดกลับมาอยู่ด้วยกันอีก...ผมไม่เหลือใครแล้ว

    ผมแค่อยากให้เขาหายไป เพื่อเราทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และผมทำสำเร็จ ตอนนี้เขาทำอะไรคุณกับผมไม่ได้อีก ส่วนเรื่องที่ผมโกหกหมอผมไม่ได้ตั้งใจ ทุกอย่างที่ทำไปนั้นก็เพื่อปกป้องคุณจากไอ้ชั่วแจ็ก

    ผมทนทรมาณจากการสำนึกผิดในห้องมืดทุกวันโดยหวังว่าสักวันคุณจะให้อภัย ผมเขียนจดหมายสารภาพและขอโทษคุณมาหลายฉบับ แต่คุณไม่เคยตอบผมเลย และนี่คงเป็นฉบับสุดท้ายแล้ว ถ้าคุณอ่านบ้างคุณจะเข้าใจและให้อภัยผม แต่ให้ผมสารภาพความจริงกับตำรวจคงทำไม่ได้ ทำแบบนั้นเท่ากับว่าเราจะพรากจากกันอย่างถาวร

    ผมขอโทษถ้าผมไม่ใช่ลูกที่ดีอย่างที่คุณปรารถนา บางครั้งผมรู้สึกถึงเลือดชั่วของแจ็กวนเวียนในร่างกาย แต่ผมไม่ใช่เขา ได้โปรดอย่ารังเกียจผม เพราะผมรักคุณจริงๆ หวังว่าคุณจะกลับมา ไม่ทอดทิ้งไปอย่างไม่ใยดีเหมือนแม่นิสัยเสียคนอื่น ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คนประเภทนั้น แต่การที่คุณทำเย็นชาแบบนี้หมายความว่าอะไรวะ มันไม่ใช่นิสัยคุณเลย

    รักและรอเสมอ,

    แบรนดอน ฮิลลิส."


    แสงแฟรชและเสียงถ่ายภาพดังขึ้น เธอบันทึกภาพหลังอ่านจบ คริสติน่าเจอบางอย่างสำคัญเข้าแล้ว และมันมีเอกสารอีกหลายแฟ้ม สักสี่หรือห้าเล่มเห็นจะได้ คริสตี้ทะยอยส่งให้โอลิเวียทีละภาพ แต่เธอไม่ยอมเปิดอ่านเสียที

    จากนั้นเธอเจอเอกสารจากโรงพยาบาลจิตเวช จดหมายรับรองว่าแบรนดอนหายดีจากอาการป่วยทางจิต ประเภทใช้ความรุนแรง ก้าวร้าว แต่เธอไม่ทันอ่านรายละเอียดมากกว่านี้ เพราะไม่มีเวลาเหลือเฟือจึงถ่ายรูปเก็บไว้อ่านทีหลัง…

    รูปถ่ายมุมขวาบนเป็นรูปเด็กชายผิวขาว เขาตอนเด็กน่าจะประมาณ 10 ขวบ เธอหยิบกล่องอะลูมิเนียมขนาดเท่ากล่องดินสอขึ้นมาจากในลิ้นชักและเขย่า มันมีเสียงกระทบกัน คล้ายมีบางอย่างแข็งๆขนาดเท่าก้อนกรวดหลายๆก้อน

    เธอเปิดฝาและปรากฎว่าเป็น ฟันมนุษย์ เขี้ยวสัตว์ กระดูกสีขาวขุ่นออกไปทางเหลือง จงอยปากนกกระจอก หางกระรอก อุ้งเท้าหนู เมื่อเธอตระหนักว่าถืออะไรอยู่เธอก็ทำกล่องบัดซบนั่นร่วง เสียงกรูกราวของฟันซี่น้อยๆกระจัดระจายเกลื่อนพื้น เธอประคองโทรศัพท์ด้วยมือสั่นระริก ถ่ายภาพสิ่งนั้นบนพื้นด้วยสติที่จวนขาดผึงเต็มที

    เธอรีบถ่ายหลักฐานที่เหลือว่าเขาป่วย กระทั่งพบอีกสิ่งในลิ้นชักอีกฝั่ง เสียงกระทบของเหล็กหนา มันคือโซ่ตรวน กุญแจมือ ปอกคอเชื่อมกับโซ่ตรวนอีกเส้น และขวดยาน้ำสีน้ำตาล อาจเป็นยาสลบ…

    คริสติน่าน้ำตาเอ่อ เธอรับไม่ไหวแล้ว และในนั้นมีพวงกุญแจอยู่พวงหนึ่ง ประกอบด้วยลูกกุญแจหลายดอก คริสติน่านำไปไขห้องหนึ่งที่ถูกล็อกเอาไว้อย่างรีบร้อน ซึ่งมีอยู่ห้องเดียวเท่านั้น


    เธอผลักประตูเข้าไป และเปิดไฟให้แสงสว่างสีขาวขับไล่ความมืด เผยให้เห็นห้องอีกห้องซ้อนอยู่ในนี้ มันคือห้องเก็บเสียงแบบสองชั้นและอย่างดีเสียด้วย คริสตี้กระตุกสายม่านสีขาวเปิดออก เตรียมใจพบกับความสยดสยอง แต่ไม่มีอะไรเบื้องหลังบานกระจกใบใหญ่นอกจากผนังบุฟูกสีเทาทรงสามเหลี่ยม เธอถ่ายภาพทุกอย่างเอาไว้และเดินเข้าไปในนั้น เธอจึงเห็นฟูกที่นอนเก่าๆวางบนพื้นพรมติดฝั่งกระจก เพราะอยู่ชิดกำแพงเกินไปจึงทำให้เธอมองไม่เห็นจากด้านนอกในครั้งแรก และในนี้ก็มีกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ที่เธอไม่อยากจินตนาการณ์ถึงที่มา

    คริสติน่าสำรวจภายใน ใช้นิ้วลูบจิ้มฟูกแหลมๆบนผนังเก็บเสียง ก่อนหัวแม่โป้งจะเตะเข้ากับบางอย่างแข็งโป๊ก พาให้สะดุดจนล้มหน้าขมำ เธอขดตัวงอตรู่หนึ่ง ก่อนสำรวจที่มาของมัน พบว่าบนพื้นมีห่วงเหล็กรูปตัวยูฝังอยู่ เธอไม่ทันสังเกตเห็นและนั่นแทบทำเธอร้องไห้เพราะพอเดาได้ว่ามันมีไว้เพื่ออะไร คล้องกับโซ่ตรวนสำหรับกักขังใครบางคน

    หลังจากได้หลักฐานทุกสิ่งอย่างคริสติน่าพยายามติดต่อและโทรบอกให้โอลิเวียออกมาจากปาร์ตี้อย่างด่วน ย้ำให้อยู่ห่างๆแบรนดอน แต่ไม่มีการตอบรับ เธอส่งข้อความนับสิบ จนเมื่อเธอขึ้นรถเตรียมติดเครื่องออกจากบ้านเพื่อไปหาที่ปาร์ตี้ โอลิเวียก็ตอบกลับมาพอดิบพอดี…


    -ข้อความจากโอลิเวีย

    'พระเจ้า แล้วเธอแจ้งตำรวจหรือยัง?'


    -ข้อความจากคริสติน่า

    'ทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันบุกรุกบ้านเขานะ ยังไงเราต้องปรึกษากันก่อน'


    -ข้อความจากโอลิเวีย

    'ตกลง ตอนนี้รีบออกมาจากที่นั่นเดี๋ยวนี้ แบรนดอนกำลังกลับไป'


    -ข้อความจากคริสติน่า

    'กำลังออกไป อีกสิบนาทีเจอกันที่บ้านฉัน'



    จบตอนที่ 15 : ก่อนการหายตัว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×