ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
"ไม่เอา ใยไหมไม่ไปโรงเรียน ใยไหมจะไปทำงานกับคุณอาก้อง"
ใยไหม สาวน้อยอายุ10ขวบ หลานสาวคนเดียวของตระกูลอัครปรีชากุล เกรี้ยวกราดเเต่เช้าตรู่ เพราะไม่อยากไปโรงเรียน ก้องภพผู้เป็นอา หนักใจที่สุดกับการต้องดูเเลหลานสาวสุดเเสบเพียงลำพังมาเป็นวันที่10 หลังจากที่ครูพี่เลี้ยงคนที่ 7 ของเจ้าหลานสุดเเสบขอลาออกไปเพราะโดนเจ้าหลานตัวเเสบเเผลงฤทธิ์ใส่จนเจ็บตัว และตอนนี้เขาก็ยังหาคนมาแทนไม่ได้ ใยไหมออกฤทธิ์งอแงกับเขาทุกเช้า จนเเทบไม่เป็นอันไปทำงาน วันนี้เป็นวันสำคัญที่ต้องเจรจาสัญญากับซัพพลายเออร์คนสำคัญด้วย เขาไม่ควรไปสายเลยสักวินาที...
"ใยไหมค่ะ ใยไหมคนดี หนูไปโรงเรียนเถอะนะคะ เดี๋ยวอาก้องไปส่ง แล้วตอนเย็นตอนไปรับอาก้องสัญญาว่าจะพาใยไหมไปกินไอศกรีมที่ใยไหมชอบ ดีมั้ยค่ะ" ก้องภพ คิดไม่ออกเเล้วว่าจะเกลี้ยกล่อมเจ้าหลานสุดเเสบอย่างไร "มุขไอศครีมน่าจะพอใช้ได้" เขาคิดในใจ
สาวน้อยยนิ่งเงียบไปพักนึงจึงเอ่ยขึ้นมาว่า "หลังจากกินไอศครีม อาก้องต้องพาใยไหมไปซื้อชุดสวยๆ ด้วย"
"โอเคเลยค่ะ อาก้องสัญญา" ก้องภพคิดในใจ ตอนนี้เจ้าหลานสาวอยากจะได้อะไรเค้าจะให้ให้หมด ขอเเค่ให้ใยไหมยอมไปโรงเรียนและเค้าเองก็จะได้ไปทำงานสักที แค่นี้ก็พอเเล้ว
"โอเคค่ะ งั้นใยไหมจะไปโรงเรียน" สาวน้อยเดินนำออกไปที่รถอย่างง่ายดาย เเตกต่างจากพายุอารมณ์ก่อนหน้านี้จากหน้ามือเป็นหลังมือ
ก้องภพได้เเต่ยิ้มเเละมองตามหลานสาวสุดแสบซึ่งเป็นเหมือนดวงใจของเค้า ทำให้เค้านึกถึงเหตุการณ์เมื่อ10ปีที่เเล้ว ใยไหมยังเล็กนัก ทารกน้อยที่ต้องกำพร้าทั้งพ่อเเละเเม่ไปในคราวเดียวกัน จากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ซึ่ง"พรรณิภา"เเม่ของใยไหมเป็นพี่สาวคนเดียวของเขาเอง จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นไม่ใช่ใยไหมเพียงคนเดียวที่ต้องสูญเสียทั้งพ่อและเเม่ ตัวเขาเองก็ต้องกำพร้าทั้งพ่อเเละเเม่ ผู้เป็นตาและยายของใยไหมไปในคราวเดียวกันด้วย
ตระกูล "อัครปรีชากุล" ที่มีชื่อเสียงร่ำรวยล้นฟ้า จึงเหลือสมาชิกของตระกูลอยู่เพียงสองคนที่ไม่ได้โดยสารไปพร้อมเครื่องบินลำนั้น ซึ่งก็คือใยไหม ทารกน้อยที่ไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาลในประเทศไทย และก้องภพที่กำลังศึกษาจนกำลังจะได้รับปริญญาด้านดนตรี อยู่ที่นิวยอร์ค จากโศกนาฎกรรมครั้งนั้น ทำให้แผนที่การเดินทางในชีวิตของเขาพลิกผันไปตลอดกาล....
ก้องภพต้องเลิกเรียนและบินกลับประเทศไทยเพื่อมาดูเเลหลานสาวและกิจการอันเป็นมรดกของตระกูล ในวันที่เขาตัดสินกลับมาประเทศไทย เป็นวันสุดท้ายที่เขาได้จับเครื่องดนตรีอันเป็นทั้งชีวิตของเขา และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่กลับมาจับมันอีก เพราะมันจะทำให้เขาเจ็บปวดเมื่อนึกถึงความสุขที่เขาเคยมีและต้องสละไว้เบื้องหลัง เพื่อมารับผิดชอบในเส้นทางที่เค้าจำเป็นต้องรักษาไว้ซึ่งก็คือ อนาคตของหลานสาวตัวน้อย และความยิ่งใหญ่ของ "อัครปรีชากุล"
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย