ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    D-D คู่อันตรายนายวายร้ายยกกำลังสอง!! ( Sw_Iris & Fayya )

    ลำดับตอนที่ #2 : บทเริ่มต้นของเรื่องวุ่นๆ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 655
      4
      18 ก.ค. 52

    ตอนที่ 1 : บทเริ่มต้นของเรื่องวุ่นๆ

     

                    ในช่วงพักเที่ยงแบบนี้นักเรียนส่วนใหญ่ของโรงเรียนเอกชนคามิมักจะมายืนพูดคุยหรือเล่นกันบริเวณระเบียงทางเดินอาคาร เช่นเดียวกับตึกสี่ที่ตั้งเยื้องไปทางด้านหลังมีนักเรียนหลายคนเล่นเอ็ดตะโรโวยวายและวิ่งพล่านกันให้ทั่ว ทำให้ ยามางุจิ ทานาดะ อาจารย์หนุ่มฝ่ายปกครองคนใหม่ซึ่งย้ายเข้ามาแทนคนเก่าที่ประสบอุบัติเหตุแล้วลาออกไปต้องเดินขึ้นบันไดมาเพื่อตรวจตราความเรียบร้อย

                    เงียบๆกันหน่อยได้มั้ย เสียงพวกเธอดังลงไปถึงห้องพักอาจารย์ชั้นล่างเลยนะ!”

                    ดวงตาหยีเล็กมองดูเหล่าลิงทโมนที่ยังไม่สะทกสะท้านอย่างหงุดหงิดใจ วันนี้เป็นวันแรกของการทำงานเขาจึงถูก ยามาโมโตะ ทาเคชิ อาจารย์ฝ่ายปกครองคนเก่าสั่งให้มาดูแลตึกนี้โดยจะให้กำลังใจอยู่ห่างๆ =_=” ดังนั้นควรแสดงอำนาจตามหน้าที่อย่างเด็ดขาดเพื่อให้นักเรียนเกรงกลัวและให้ความเคารพ

                    ขณะนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นนักเรียนชายคนหนึ่งแต่งตัวผิดระเบียบ สวมใส่ต่างหูห่วงเล็กๆและสร้อยคอจึงปรี่เข้าไปจับข้อมือเอาไว้ทันที ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

                    นายน่ะ...แต่งตัวผิดระเบียบ ไปห้องปกครองกับฉันเดี๋ยวนี้เลย!”

    ใบหน้าหล่อเหลาและดวงตาสีนิลคมเข้มตวัดหันไปมองผู้อาจเอื้อมคนใหม่ที่สะดุ้งเฮือกเล็กๆ ความวุ่นวายรอบตัวและเสียงดังเอ็ดตะโรเมื่อสักครู่หายไปทันที นักเรียนทุกคนหยุดนิ่งราวกับรูปปั้นมองดูอาจารย์ฝ่ายปกครองคนใหม่กำลังยืนประจันหน้าหาเรื่องกับบุคคลน่ากลัวที่สุดในโรงเรียน หรือ...อาจที่สุดในโตเกียวหรือประเทศก็เป็นได้

    มะ...ไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง?

    ไม่รู้ทำไมในตอนนี้อาจารย์ทานาดะรู้สึกว่าเขาอาจทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไปทั้งที่มันเป็นเรื่องถูกต้อง ยิ่งดวงตาคู่งามแต่แฝงไปด้วยความลึกลับนั้นจ้องมองกลับมาเขาก็ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่น

    อาจารย์ทานาดะ!” อาจารย์ทาเคชิรีบวิ่งเข้ามาหาเพื่อนร่วมงานคนใหม่แล้วคว้าตัวออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

    โอ้ย...ทำอะไรของคุณน่ะอาจารย์ทาเคชิ

    ผมลืมบอกไปว่าคนที่จะยุ่งไม่ได้เพียงคนเดียวในโรงเรียน คือ เท็นโนะ ริวยะ นักเรียนที่คุณกำลังจัดการเมื่อสักครู่

    ทำไมจะยุ่งไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อเขาเป็นนักเรียนในตึกที่ผมต้องรับผิดชอบ อาจารย์ทานาดะถามกลับไปอย่างไม่พอใจสักเท่าไร

    ไม่ใช่ยุ่งไม่ได้...แต่ผมไม่อยากให้คุณเป็นเหมือนอาจารย์ฝ่ายปกครองคนเก่าที่ทำให้คุณต้องเข้ามารับหน้าที่แทนน่ะ อาจารย์ทาเคชิเอ่ยบอกอาจารย์ใหม่ไฟแรงที่ค่อยๆกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นพร้อมกับดับไฟในตัวจนมอดไปด้วย... =_=”

    เป็นยังไงบ้างเท็นโนะ?

    เท็นโนะนายจะจัดการไอ้หน้าใหม่นั่นเลยมั้ย? เสียงลูกสมุนหลายคนปรี่เข้ามาถามไถ่เขาที่กำลังปัดร่องรอยการจับตรงแขนเสื้อแล้วเชิ่ดหน้าเหยียดยิ้มนิดๆที่มุมปาก

    ยังหรอก...ฉันสงสารผ.อ.ที่ต้องวิ่งวนหาอาจารย์คนใหม่มาแทนที่!”

    ใช่แล้ว...เขาเป็นคนจัดการอาจารย์ฝ่ายปกครองคนเก่าด้วยมือของตัวเอง เพราะไอ้หมอนั่นบังอาจมาย่างกรายในสถานที่ส่วนตัวหรือที่คนอื่นๆรู้จักในนาม สวรรค์ ข่มขู่จะทำเรื่องรื้อถอนโรงยิมเก่าเพื่อต่อรองให้เขาแต่งตัวและทำอะไรถูกระเบียบ ก็เลยสั่งสอนโดยจับทุ่มแต่แรงไปหน่อยจนพื้นกระดานหักพังลงไปพร้อมกับกระดูกแขนอาจารย์แก่ที่หักหลายท่อน เฮ้อ...เสียเวลาต้องมาซ่อมแซมพื้นใหม่อีก น่ารำคาญชะมัด!

    แต่นั่นก็แค่ปัญหาเล็กๆเพราะนักเรียนและอาจารย์ส่วนใหญ่รู้ว่าเขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตและเรื่องส่วนตัวจึงพยายามละ ลด เลิก เนื่องจากไม่อยากเจ็บตัวโดยไม่จำเป็น

    เว้นเสียแต่...คนๆหนึ่งที่เข้ามายุ่มย่ามแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้

    คุณริวยะ...ขอโทษนะคะพอดีฉันติดสอบเทสต์เลยทำให้มาช้า

    หญิงสาวผมยาวสลวยรับกับใบหน้ารูปไข่ที่งดงาม ผิวพรรณผ่องใสราวกับอัญมณีที่น่าทนุถนอม ยื่นกล่องข้าวสีเทามาให้เขาที่ยืนอยู่

    บอกแล้วไงว่าไม่เอาข้าวกล่อง เธอเลิกเอามาให้ฉันสักทีได้มั้ย!” เขาเอ่ยอย่างรำคาญใจ

    แต่วันนี้คุณแม่ทำโคโรเกะมันฝรั่งที่คุณริวยะชอบมาให้ด้วยนะคะ

    ก็ช่างแม่เธอสิ!”

    นัยน์ตากลมโตนั้นฉายแววเศร้าขึ้นมาจนเขาอดใจแป้วไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากรับความหวังดีนั้นแต่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวต่างหาก เพราะผู้หญิงตรงหน้าคือ ฮินาชิมะ ยูริ น้องสาวคนละแม่นั่นเอง

    หลังจากที่แม่เขาเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน พ่อเขาก็แต่งงานใหม่กับแม่ของเธอ แล้วจะให้ยอมรับง่ายๆได้ยังไงต่อให้รู้สึกดีที่เธอกับแม่พยายามเข้าหาก็เถอะ! และที่สำคัญเขาไม่เคยมองว่ายูริเป็นน้องสาวของตัวเองเลยสักครั้งนอกเสียจากในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง...

    เอ่อ...ถ้าไม่ทานข้าวกล่องนี้แล้วคุณริวยะจะทานอะไรล่ะค่ะ เดี๋ยวฉันลงไปซื้อให้ เธอยื่นข้อเสนออย่างไม่ลดละ

    ยัยโง่...ป่านนี้ร้านค้าปิดหมดแล้วล่ะ มันใกล้เวลาเรียนคาบบ่ายแล้วไม่เห็นเหรอ!”

    ขอโทษค่ะ...เอ่อ...แล้วทำยังไงดีล่ะ เธอกระวนกระวายเพราะไม่อยากทำให้พี่ชายต้องอารมณ์เสีย ริวยะถอนหายใจเบาๆพลางเอ่ยปัดๆไป

    ฝั่งโรงเรียนนานาชาติจิเตกิมีร้านมินิมาร์ทเปิดอยู่ ถ้าเธอกล้าไปซื้อมื้อเที่ยงจากที่นั่นมาให้ ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้จะยอมรับข้าวกล่องที่แม่เธอทำ!” คำสั่งนั้นทำให้หลายคนที่ได้ยินถึงกับเหวอไปเพราะรู้ดีว่ามีกฏห้ามข้ามเขตแดน...

    ก็ได้ค่ะ คำตอบนั้นทำให้ริวยะชะงัก เขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้ารับปากเพราะมันเป็นแค่ข้ออ้างที่จะไม่รับข้าวกล่องและไล่หญิงสาวไม่ให้มาวุ่นวายช่วงพักเที่ยงทุกวันเท่านั้น

    ริวยะมองดูยูริที่วิ่งลงบันไดไปอย่างอึ้งๆ พลางหันไปเอ่ยกับลูกสมุนสามถึงสี่คนที่ยืนอยู่ห่างๆอย่างรวดเร็ว

    นาโอยะ...เคโตะ พวกแกตามไปเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ถ้ามีปัญหาอะไรให้โทรมารายงานฉันด่วน...ไป!”

    ยูริกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูรั้วโรงเรียนเอกชนคามิ ดวงตาคู่สวยมองโรงเรียนนานาชาติจิเตกิที่ตั้งประจันอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างหวั่นๆ ก่อนถอนหายใจเบาๆเพื่อระงับความฟุ้งซ่านแล้วตัดสินใจวิ่งข้ามถนนไปทันที!

     

    เวลาเดียวกันฝั่งโรงเรียนนานาชาติจิเตกิบริเวณสวนด้านหลังของโรงเรียน ผู้ชายคนหนึ่งนอนทรุดกองอยู่บนพื้นเสื้อผ้าขาดหวิ่นเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดเลือดและฝุ่น ไม่ไกลจากใบหน้าที่สะบักสะบอมนั้นคือปลายรองเท้าหนังสีดำอย่างดี

    เจ้าของรองเท้าราคาแพงนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ลี จียง ผู้นำของโรงเรียนนานาชาติจิเตกิ เขานั่งไขว่ห้างด้วยท่าทางสบายๆ อยู่บนเก้าอี้บุนวมอย่างดีซึ่งเคยเป็นของผู้อำนวยการโรงเรียน เพียงแค่จียงเอ่ยปากว่าต้องการผู้อำนวยการก็รีบยกเก้าอี้ตัวนี้ให้เขาทันที

    ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของจียงไม่แม้แต่จะชายตาแลบุคคลที่นอนกองอยู่แทบเท้าเขาด้วยซ้ำ

    หนึ่งนาทีไม่ขาดไม่เกิน ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันอย่างชัดเจน คนอื่นๆ ที่รายล้อมอยู่ใกล้ๆ แม้จะไม่พูดแต่สายตาก็มองมายังชายที่นอนอยู่แทบเท้าลีจียงเช่นกัน

    ลากมันออกไปซะ เกะกะลูกตา!!!” จียงสั่งเสียงเข้มด้วยท่าทางเบื่อหน่าย และหงุดหงิด

    ทั้งที่เป็นพักกลางวันแท้ๆ ทำไมต้องมาเสียเวลากับเรื่องแบบนี้ด้วย เขาน่าจะได้นอนหลับสบายก่อนกลับขึ้นไปเรียนคาบบ่าย

    แต่ก็ใช่ว่าการเรียนคาบบ่ายจะสำคัญนักหรอก ก็แค่เข้าไปหลับสบายในห้องแอร์เท่านั้นล่ะ

    นายเพลาๆ มือบ้างก็ได้นะ เสียงหวานเอ่ยขึ้น ดึงสายตาสีน้ำตาลอ่อนให้เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงพูดที่นั่งอยู่บนที่เท้าแขนบนเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่

    หญิงสาวสัญชาติอเมริกัน ผมสีบลอนด์หยักโศกเด่นเป็นสง่าในระยะสามร้อยเมตร ดวงตาสีฟ้าสว่าง พร้อมด้วยความสูงแบบชาวตะวันตก คนเดียวที่สามารถพูดจาเล่นหัวกับจียงได้...อลิซาเบธ จีน รอส

    แล้วทำไมไม่จัดการเองล่ะ?

    ขี้เกียจ...อีกอย่างฉันไม่ได้เป็นท่านผู้นำอย่างนายนี่

    จียงทำเพียงยิ้มมุมปากเท่านั้น ความจริงตัวเขาเองตอนที่เข้ามาเรียนที่จิเตกิก็ไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะเป็นผู้นำอะไรอย่างที่อลิซาเบธบอก แต่เพราะผู้นำคนก่อนมาหาเรื่องเขาก่อนต่างหากล่ะ

    เสียงโวยวายดังมาแต่ไกลเรียกความสนใจของจียงและอลิซาเบธ ผู้ชายคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นมาทางทั้งสองคน มีเด็กคามิข้ามเขตมาที่มินิมาร์ทหน้าโรงเรียน!!”

    ทันทีที่ได้ฟังจียงก็รีบลุกขึ้นและเดินออกไปทันที เมื่อมาถึงที่หน้ามินิมาร์ทเขาก็พบผู้ชายใส่ยูนิฟอร์มจิเตกิสามคนกำลังยืนล้อมเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ จียงรู้สึกผิดหวังนิดๆ ที่พบว่าเด็กคามิที่ได้รับรายงานเป็นผู้หญิง เพราะหวังว่าคนที่กล้าข้ามเขตมาจะเป็น เท็นโนะ ริวยะ

     เกิดอะไรขึ้น? จียงร้องถาม

    เด็กจิเตกิหันควับกลับมามองเหมือนขัดใจที่ถูกขัดจังหวะ แต่เมื่อพบว่าคนถามเป็นใคร ต่างก็มีท่าทางลนลาน และไปยืนรวมกันอยู่ที่มุมหนึ่งทันที จียงมองทั้งสามคนอย่างรำคาญลูกตา ก่อนหันมาให้ความสนใจกับเด็กผู้หญิงท่าทางน่ารักเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่น

    อะไรก็ดูดี...แต่ไม่ดีอย่างเดียวเท่านั้นก็คือ ยัยตุ๊กตาญี่ปุ่นนี่ใส่ยูนิฟอร์มของนักเรียนคามิ

    จียงเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้ายูริ ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตมองจียงตรงๆโดยไม่หลบสายตา อีกทั้งยังไม่ฉายความกลัวแม้แต่น้อย

     กล้ามากนะ...ที่ข้ามเข้ามาในเขตฉัน!” จียงเอ่ยเสียงต่ำ

    ฉันแค่มาซื้อของ ไม่ได้คิดจะมาหาเรื่องกับใคร ยูริตอบกลับเสียงเย็นไม่แพ้กัน

    แม้จะหวั่นใจอยู่บ้าง แต่สิ่งเดียวที่คิดในตอนนี้ก็คือต้องนำข้าวกลางวันกลับไปให้พี่ชายก่อนหมดเวลาพักกลางวันให้ได้

    แต่การที่เธอกล้าเหยียบเขตของจิเตกิก็เท่ากับเธอคิดจะมีเรื่องไม่ใช่หรือไง? จียงถามกลับอีก

    เขารู้สึกแปลกใจนิดๆ ผู้หญิงตรงหน้าไม่เพียงแต่ไม่กลัวเท่านั้น เธอยังไม่สนเขาเลยด้วยซ้ำ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงมองเขาตาค้างน้ำลายไหลไปแล้ว

    ฉันไม่คิดจะหาเรื่องกับใคร ยูริย้ำอีกครั้ง

    จียงเอียงคอมองหญิงสาว ก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปยังป้ายชื่อซึ่งติดอยู่ที่อกเสื้อ

    ฮินาชิมะ ยูริงั้นเหรอ?

    ยูริไม่ตอบ เธอไม่สนใจสิ่งที่จียงพูดด้วยซ้ำ ในใจตอนนี้เริ่มกังวลหนักขึ้นเพราะใกล้หมดเวลาพักแล้ว หากเธอนำข้าวกลางวันไปให้พี่ริวยะไม่ทันล่ะก็ จะต้องโดนโมโหและไม่ยอมรับข้าวกล่องของคุณแม่ตลอดไปแน่ๆ

    ฉันถามทำไมไม่ตอบ จียงเริ่มรู้สึกหงุดหงิดนิดๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกมองข้าม

    ยัยเด็กนี่เหมือนมีเรื่องอื่นให้สนใจกว่าตัวเขา ซึ่งมันเป็นสิ่งที่จียงไม่ชอบเอาซะเลย พลางก้มลงมองถุงในมือยูริก่อนจัดการแย่งมา และแน่นอนว่ามันดึงความสนใจของหญิงสาวได้ทันที

    เอาคืนมานะ!” ยูริร้องพลางพยายามไขว่คว้าถุงคืน

    ทำไมเด็กคามิอย่างเธอถึงต้องถ่อมาซื้อของถึงที่นี่ล่ะ? จียงยิ้มนิดๆ อย่างชอบใจ อย่างน้อยแม่สาวเย็นชาคนนี้ก็สนใจเขาบ้างแล้ว

    ยูริกัดริมฝีปากแน่น สายตาเธอจับจ้องอยู่ที่ถุงซึ่งถูกจียงแย่งไป

    เอาถุงของฉันคืนมา แล้วฉันจะไม่ข้ามมาฝั่งนี้อีก

    แล้วถ้าฉันไม่คืนล่ะ? จียงถามกลับพร้อมมองอย่างท้าทาย

    เสียงออดเข้าเรียนดังลั่นทำให้ยูริหันไปมองทางประตูโรงเรียนทันที ออดเข้าเรียนดังแล้ว...และเธอเอาข้าวกลางวันไปให้พี่ริวยะไม่ทัน หญิงสาวหันมาตวัดสายตามองจียงอย่างโกรธจัด

    นายไม่ละอายใจบ้างหรือไง ฉันก็แค่ข้ามมาซื้อของแต่กลับมาหาเรื่องฉันแบบนี้

    จียงอึ้งไปเล็กน้อย ขณะที่อลิซาเบธและนักเรียนจิเตกิอ้าปากค้าง

    เธอ!” จียงตวาดเสียงดังพร้อมกระชากเนกไทของยูริ จนร่างบางปลิวตามแรงกระชากไปแนบชิดอกเขา

    ลี จียง!” เสียงเรียกจากอีกฝั่งของถนนเรียกสายตาทุกคนให้หันไปมองผู้ชายสองคนกำลังยืนอยู่พร้อมจะก้าวข้ามมา และนั่นไม่มีทางที่จียงกับอลิซาเบธจะไม่รู้จัก

    ไอ้นาโอยะกับไอ้เคโตะงั้นเหรอ? จียงพึมพำก่อนหันมามองยูริที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอรู้จักพวกมันหรือเปล่า?

    ไม่รู้จักก็บ้าแล้ว ยัยนี่เรียนอยู่คามินะ อลิซาเบธสวนขึ้นทันที และจียงก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

    ปล่อยเด็กคนนั้นซะ ถ้านายไม่อยากมีเรื่อง!” นาโอยะตะโกนบอกพร้อมเดินมาหยุดที่เส้นแบ่งเขตแดน หรือก็คือเส้นแบ่งเลนนั่นเอง

    ยัยนี่เป็นคนข้ามเขตมาเองนะ จียงตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ

    นาโอยะกับเคโตะได้แต่มองหน้ากัน เขาสองคนยืนดูสถานการณ์มาตั้งแต่ต้นเกือบจะข้ามฝั่งมาช่วยยูริอยู่แล้วถ้าไม่เพราะลีจียงโผล่มาเสียก่อน การปรากฏตัวของจียงทำให้นาโอยะกับเคโตะต้องหยุดรอเพื่อดูสถานการณ์ ทั้งๆที่ภาวนาว่าอย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นแต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องอยู่ดี และเมื่อเห็นว่าจียงกระชากเนกไทของยูริพวกเขาทั้งสองจึงต้องปรากฏตัว

    นายเป็นผู้ชายนะ จะทำร้ายผู้หญิงด้วยเรื่องแค่นี้มันไม่ดูน่าเกลียดไปหน่อยเหรอ!” เคโตะพูดบ้าง

    ปากดีไปเถอะ!” จียงว่ากลับ

    ปล่อยเด็กนั่นไปเถอะน่า อย่างนายน่ะต้องเจอกับ เท็นโนะ ริวยะ มากกว่า...ถึงจะสมศักดิ์ศรี นาโอยะพูดขึ้นอีก และคราวนี้มันทำให้จียงปล่อยมือจากเนกไทของยูริหันมามองพวกเขาสองคนด้วยสายตาเย้ยหยัน

    ถึงตอนนี้ฉันกับไอ้หมอนั่นจะยังสู้กันไม่รู้ผล แต่สักวันฉันจะทำให้เท็นโนะ ริวยะ คุกเข่าลงอ้อนวอนตรงหน้าฉัน

    เพียะ!!!

    เสียงฝ่ามือกระทบแก้มดังสนั่น พร้อมกับที่หน้าของจียงสะบัดหันไปตามแรงตบ แก้มซีกซ้ายรู้สึกคันยิบๆ

    ค่าที่นายดูถูกเท็นโนะ ริวยะ!” ยูริพูดจบก็หันหลังเดินออกไปทันที

    จียงและเด็กจิเตกิกว่าสิบคนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ ถึงกับตะลึงงันและรวมไปถึงนาโอยะกับเคโตะด้วย แต่ทั้งสองคนไม่มีเวลาตกใจมากนัก เพราะต้องวิ่งตามยูริกลับเข้าไปในโรงเรียน

    จียงนายเป็นอะไรรึเปล่า? อลิซาเบธร้องถาม เมื่อเห็นเพื่อนซี้ดูเหมือนจะยังตะลึงไม่หาย

    ถ้าให้สารภาพตรงๆเธอเองก็อึ้งเหมือนกันเพราะไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำแบบนี้ แต่อีกใจก็นึกสงสารเด็กคามิคนนั้นด้วย...ลีจียงคงไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่

    ยัยเด็กนั่น!” จียงคำรามลอดไรฟัน พร้อมมองไปทางประตูโรงเรียนเอกชนคามิที่ยูริเพิ่งจะเดินหายเข้าไป

    ก็แค่เด็กผู้หญิงน่า อลิซาเบธพยายามทำให้จียงใจเย็นลง

    ยัยเด็กบ้านั่นกล้าตบหน้าฉัน!”

    อย่าไปถือสาเลย ไม่เสียลุคนายเท่าไหร่หรอกน่า

    ต้องจับยัยเด็กนั่นมาให้ได้!” จียงประกาศลั่น

    อลิซาเบธเองก็ได้แต่กลุ้มใจ เพราะรู้สึกสงสารยูริไม่น้อยทีเดียว แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อยัยเด็กนั่นทำตัวเอง แต่ความคิดของเธอต้องชะงักเมื่อจียงเอ่ยประโยคต่อมา

    ถูกใจซะแล้วสิ...ฮินาชิมะ ยูริ

    หา!? อลิซาเบธและเด็กจิเตกิคนอื่นๆ ร้องออกมาพร้อมกัน

     

    แม้ออดหมดคาบพักกลางวันจะดังแล้วแต่ริวยะยังคงยืนรออยู่ที่ระเบียงอาคารไม่ยอมเข้าห้องเรียน  แน่นอนว่าอาจารย์ก็ไม่กล้าวุ่นวายสอนตามหน้าที่ของตนไปเรื่อยๆ นัยน์ตาคมเข้มแม้นิ่งสนิทแต่แฝงความกังวลเอาไว้จนเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเดินกลับขึ้นมาบนอาคารเรียน ความไม่สบายใจนั้นก็ทุเลาจนหายเป็นปลิดทิ้ง

    ขอโทษนะคะคุณริวยะ ฉันไม่ได้มันมา... น้ำเสียงและสีหน้าของหญิงสาวเศร้าสลดลงจนเห็นได้ชัด แต่นั่นไม่ได้ทำให้ริวยะโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปมากกว่า

    มือเรียวบางยกขึ้นทำท่าจะเอื้อมแตะไหล่เพื่อปลอบประโลม แต่เมื่อเหลือบเห็นลูกสมุนสองคนที่วิ่งตามมาก็ลดมือลงโดยเร็ว

    ช่างมันเถอะ...ฉันคิดอยู่แล้วล่ะว่าเธอทำไม่ได้ ต่อไปก็เลิกเอาข้าวกล่องมาให้ฉันสักที มันน่ารำคาญรู้มั้ย!!!”

    ค่ะ...

    ไปได้แล้ว!” เขาสั่งเสียงเข้มทำให้หญิงสาวต้องเดินออกไปอย่างจำยอม ก่อนที่นาโอยะกับเคโตะจะตรงเข้ามาแทนที่

    มีอะไรเกิดขึ้นมั้ย? ริวยะถามไถ่ทันที

    ไอ้จียงมันมาหาเรื่องยูริ แต่พวกเราไปช่วยได้ทัน นาโอยะรายงาน

    แค่นั้น? ริวยะถามต่ออย่างไม่ปักใจเชื่อเพราะรู้สันดาน เอ้ย...นิสัยของศัตรูคู่อาฆาตเป็นอย่างดี

    มันแย่งของที่เธอซื้อไปยูริเลยตบหน้ามัน ฉันว่าเรื่องคงไม่จบเพียงเท่านี้แน่คำพูดของเคโตะทำให้ริวยะกำหมัดแน่น...

    หนอย!!! ลีจียง กล้ามากนะ....กล้ามายุ่งกับผู้หญิงที่เขา...

    ริวยะหยุดความคิดไว้เพียงเท่านี้ก่อนหันไปบัญชาลูกสมุนคนสนิทว่า

    หาคนไปเฝ้าเวรยามรอบๆโรงเรียนเพิ่ม ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้รายงานฉันได้ตลอดเวลา!!!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×