คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
ถ้าเอ่ยถึงโรงเรียนเอกชนสุดหรูในโตเกียวคงไม่มีที่ไหนโด่งดังเท่า “โรงเรียนเอกชนคามิ” ซึ่งมีอาคารเรียนสุดหรูถึงสี่ตึกตั้งอยู่บนอาณาบริเวณกว้างขวาง ข้าวของเครื่องใช้ล้วนแต่มีราคาสูงลิบ สวมใส่เครื่องแบบเป็นชุดสูทสีดำสนิททับเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวและเนคไทสีเทาสลับดำลายสก็อต มีตราสัญลักษณ์ปักด้วยด้ายสีแดงรูปกางเขน ทุกอย่างล้วนบ่งบอกถึงฐานะทางการเงินของผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานเข้าเรียนว่าร่ำรวยขั้นมหาเศรษฐีไม่ก็เป็นผู้ดีมีชาติตระกูลเก่าแก่
แต่ถึงกระนั้นภายนอกที่ดูสว่างเจิดจ้ากลับมีไอหมอกปกคลุมดำทะมึนอยู่ภายในซึ่งเกิดจากบริเวณโรงยิมเก่าหลังอาคารเรียนสี่ ที่พวกคณะอาจารย์และนักเรียนต่างรู้จักในนาม “สวรรค์” เป็นแหล่งซ่องสุมสำหรับกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลในโรงเรียนราวๆสามสิบคน และไม่เคยมีผู้ใดกล้าย่างกรายเข้าไปนอกเสียจากสมาชิกในกลุ่ม ซึ่งพวกเขาเหล่านี้มีผู้นำที่เก่งกาจ นั่นคือ
“เท็นโนะ ริวยะ” ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมคายเหมือนเทพบุตร ผมสีดำสนิทเช่นเดียวกับนัยน์ตาที่นิ่งเฉยนั้น หากแต่แอบซ่อนไว้ด้วยนิสัยเงียบขรึมและความโหดร้ายที่ไม่มีใครกล้าต่อกรราวกับลูซิเฟอร์ที่พร้อมจัดการทุกคนที่เข้ามายุ่งวุ่นวายให้สิ้นซาก
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : เท็นโนะ ริวยะ
อายุ : 18 ปี
ระดับชั้น : มัธยมปลายปีสามห้อง A
ตำแหน่ง : ผู้คุมกฎสวรรค์ ( ง่ายๆ...หัวหน้าอันธพาล =_=” )
โรงเรียน : โรงเรียนเอกชนคามิ
ประวัติการต่อสู้ : ชนะ/55 , แพ้/1 , เสมอ/- , ไม่รู้ผล/10
แน่นอนว่า...สาเหตุที่แพ้เป็นเพราะครั้งนั้นเขาไม่ได้ไปร่วมกลุ่มด้วยจึงทำให้สมาชิกเสียขวัญ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ประวัติด่างพร้อยเท่ากับไม่รู้ผล เพราะคู่อริที่ไม่สามารถเอาชนะหรือพ่ายแพ้แต่ก็ไม่เสมอทุกครั้งที่ต่อสู้ คือ พวกของโรงเรียนนานาชาติจิเตกิ ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนประจันหน้าเข้าหากันราวกับต้องการท้าทายตลอดเวลา
หากเห็นเครื่องแบบนักเรียนแบบสูทแขนยาวสีน้ำเงินเข้มทับเสื้อเชิ๊ตสีขาว ตัดด้วยเนกไทสีแดงเลือดนก ที่หน้าอกข้างซ้ายมีตราโรงเรียนปักเด่นด้วยด้ายสีเงินสลับแดง คงไม่มีใครที่จะไม่รู้ว่าผู้ที่ใส่ฟอร์มแบบนั้นเป็นเด็กโรงเรียนไหน เพราะเครื่องแบบนักเรียนแบบนี้มีเพียงโรงเรียนเดียวเท่านั้นที่สวมใส่ และถ้าเอ่ยชื่อก็รับรองได้ว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
โรงเรียนนานาชาติจิเตกิ (CHITEKI INTERNATIONAL HIGH SCHOOL) โรงเรียนนานาชาติที่แพงและหรูที่สุดที่โตเกียว โรงเรียนนานาชาติจิเตกิเริ่มก่อตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ของการเป็นโรงเรียนนานาชาติที่ดีที่สุดในประเทศ ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ย้ายมาทำงานที่ญี่ปุ่นแล้วจะมองข้ามโรงเรียนนานาชาติแห่งนี้ไปได้ จิเตกิสร้างขึ้นภายใต้นโยบายความสะดวกสบายอย่างแท้จริง ด้วยห้องเรียนและระบบการเรียนที่ทันสมัยเป็นหนึ่งใน โรงเรียนชั้นแนวหน้าที่มีอุปกรณ์การสอนที่ดีที่สุดในประเทศ และเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้นโรงเรียนนานาชาติจิเตกิก็มีหอพักสำหรับนักเรียนที่ผู้ปกครองที่ไม่ได้ทำงานในเขตโตเกียวอีกด้วย เรียกว่าเป็นโรงเรียนที่พร้อมรองรับในทุกด้าน
และก็เป็นธรรมดาที่ทุกโรงเรียนจะมี “ผู้นำ” ที่จิเตกิเองก็เช่นกัน แต่การเป็นผู้นำก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นับตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมาไม่เคยมีผู้นำคนไหนที่ครองตำแหน่งได้นานเกินหกเดือนแม้แต่คนเดียว แต่เมื่อสองปีก่อนประวัติศาสตร์ของจิเตกิต้องถูกพลิกหน้าใหม่เมื่อเด็กหนุ่มสัญชาติเกาหลีคนหนึ่งย้ายเข้ามา ด้วยฝีมือการต่อสู้ระดับเทพ เขาสามารถล้มผู้นำรุ่นก่อนของจิเตกิได้ในเวลาเพียงสองนาทีเท่านั้น และเขาก็เป็นเพียงผู้เดียวที่ยึดตำแหน่งผู้นำของจิเตกิไว้ได้ถึงสองปีอย่างไม่มีสั่นคลอน ตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมามีพวกอยากลองดีมากมายมาท้าทายเขาเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง แต่ไม่มีใครเลยที่จะเอาชนะเขาได้ และชื่อของเขาก็คือ “ลี จียง” หนุ่มสุดหล่อที่แสนจะเฟอร์เฟค ทั้งหน้าตา ความสามารถและการเรียน รวมทั้งฝีมือในการต่อสู้ที่ไม่เป็นสองรองใครด้วย
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : ลี จียง
อายุ : 18 ปี
ระดับชั้น : Special Class เกรด 12 หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า SC-12
ตำแหน่ง : ผู้นำอันดับหนึ่งของจิเตกิ
โรงเรียน : โรงเรียนนานาชาติจิเตกิ (CHITEKI INTERNATIONAL HIGH SCHOOL)
ประวัติการต่อสู้ : ชนะ/42 , แพ้/- , เสมอ/- , ไม่รู้ผล/10
แน่นอนว่าหากพูดถึงโรงเรียนนานาชาติจิเตกิแล้วจะไม่พูดถึงโรงเรียนเอกชนคามิไม่ได้ เพราะสองโรงเรียนนี้อยู่คนละฟากฝั่งของถนน ด้านหน้าของโรงเรียนหันมาเผชิญหน้าอย่างท้าทาย ไม่มีเด็กจิเตกิคนไหนอยากข้ามเส้นแบ่งเขตระหว่างทั้งสองโรงเรียน แต่ในทางตรงกันข้ามหากเด็กคามิคนไหนกล้าข้ามเขต จิเตกิก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน การปะทะกันของนักเรียนทั้งสองโรงเรียนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่มันเป็นการปะทะกันของนักเรียนระดับล่างๆ เท่านั้น สำหรับการปะทะกันระหว่างผู้นำของทั้งสองโรงเรียนนั้นเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้ง แต่มันก็เป็นที่กล่าวขานไปทั่ว การปะทะที่ไม่สามารถตัดสินได้ว่าฝ่ายใดเหนือกว่า ยังไม่มีฝ่ายใดแพ้และไม่มีฝ่ายใดชนะ ยังไม่มีใครเสียทีหรือได้เปรียบ
...แต่สักวันเวลาแห่งการตัดสินนั้นคงจะมาถึงอย่างแน่นอน...
+ +
ความคิดเห็น