คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : คู่แข่ง
ตอนที่ 2 : คู่แข่ง
โลกที่เคยวุ่นวายดูสงบสุขพิกลในวันนี้ นัยน์ตากลมโตของนักร้องสาวมองดูรถราที่ติดเป็นปลากระป๋องบนท้องถนนอย่างสบายใจและไม่รีบร้อนแม้ว่าตอนนี้เวลาจะสายมากแล้วก็ตาม เธอขับรถอย่างสบายๆเพราะยังคงอารมณ์ดีจากเมื่อวานที่ได้ไปดูคอนเสิร์ตของนักร้องซูเปอร์สตาร์ในดวงใจ ซ้ำยังได้พูดคุยกับเขาแบบส่วนตัว นี่มันโชคดีสุดๆไปเลย!!!
“สวัสดีค่ะ...คุณมิยาบิ!!!” สต๊าฟคนหนึ่งเอ่ยทักหญิงสาวทันทีที่เธอเดินเข้ามาในโซน T&M ทำให้เรียวสุเกะรีบกระทุ้งศอกใส่เพื่อนอย่างรวดเร็ว
“ไปทักตอนนี้ทำไม จำไม่ได้เหรอ ว่า...คุณมิยาบิไม่ชอบให้ใครพูดคุยตอนมาทำงานสายเพราะรถติดเพราะมันทำให้เธออารมณ์เสีย...เดี๋ยวก็โดนวีนหรอก!”
“จริงด้วย...ลืมไปเลย” คนทักเริ่มชักสีหน้าแหยๆอย่างหวาดกลัวการตอบรับ ทว่า...สิ่งที่คิดไว้นั้นผิดคาดเพราะนักร้องสาวหันมาส่งยิ้มแล้วเอ่ยตอบว่า
“สวัสดีจ้ะทุกคน...วันนี้ตั้งใจทำงานกันนะ เพราะฉันก็จะตั้งใจทำงานเหมือนกัน และถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกได้เลย”
โหววว...อะเมซิ่งเจแปน!!! ทีมงานทุกคนในที่นั้นอ้าปากหวอราวกับพบเจอปรากฏการณ์มหัศจรรย์อันเป็นไปไม่ได้อย่างอุกกาบาตพุ่งชนฝุ่นอวกาศ
“กินอาหารผิดสำแดง!!!”
“กินยาลืมเขย่าขวด!!!”
“ประจำเดือนมาไม่ปกติ!!!” หลายเสียงเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ แม้นักร้องสาวจะได้ยินแต่ก็ไม่สามารถดึงอารมณ์เบิกบานของเธอให้ลดต่ำลงได้
“เป็นอะไรกัน...ทำไมวันนี้ทำหน้าตื่นๆกันทั้งออฟฟิศ?” เอมิที่เพิ่งเข้ามาเอ่ยทักเหล่าสต๊าฟที่ยังคงปั้นหน้ากันไม่ถูก เรียวสุเกะได้ทีรีบปรี่เข้าหาผู้จัดการสาวพลางพยักเพยิดให้ดูมิยาบิที่นั่งอยู่ตรงโซฟากำลังเปิดอ่านนิตยสารผู้หญิงอย่างสบายอารมณ์
“วันนี้คุณมิยาบิมาสายแถมยังทักทายทีมงาน ว่า...ถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกได้เลย”
“จริงเหรอ!!! แล้วทำไมพวกเธอไม่เรียกหมอมาดูอาการล่ะ ถ้านักร้องคนสำคัญของค่ายเป็นอะไรไป...ท่านประธานได้เฉดหัวไล่ออกกันทั้งทีมแน่ๆ” เอมิโวยวายอย่างตกใจไปด้วยเพราะไม่เคยพบเคยเจอมาตลอดสองปีที่ผ่านมา
( “นินทากันเบาๆหน่อยสิยะ!” จาก มิยาบิ ) นักร้องสาวขมวดคิ้วนิดหน่อยเมื่อได้เห็นคนนั้นคนนี้กำลังประหลาดใจในตัวเธอ ก่อนที่ผู้จัดการส่วนตัวจะปรี่เข้ามานั่งข้างๆแล้วเอ่ยบอกว่า
“ที่มิยาบิพูดน่ะจริงหรือเปล่า ว่า...อยากให้ช่วยอะไรก็ขอให้บอกน่ะ?”
หญิงสาวเงยหน้าจากหนังสือในมือพลางส่งยิ้มหวานให้อย่างเป็นกันเอง
“ใช่ค่ะ...คุณเอมิต้องการอะไรล่ะคะ?”
“เอ่อ...ถ้างั้น...ชงกาแฟให้ฉันสักแก้วได้มั้ย?”
“โอเคค่ะ...ต้องการกาแฟกี่ช้อน น้ำตาลกี่ช้อน และ ครีมเทียมกี่ช้อนคะ?” เธอเอ่ยถามพลางปิดหนังสือแล้ววางลงบนโต๊ะ ราวกับจะเตรียมตัวไปปฏิบัติตามคำสั่งทำเอาทุกคนถึงกับอึ้ง ทึ่ง เสียว อีกระลอก
ในตอนนั้นเองประตูกระจกก็เปิดออกพร้อมร่างของนักร้องหนุ่มที่เดินเข้ามา นัยน์ตากลมโตเหลือบมองหญิงสาวซึ่งนั่งเชิดอยู่กับผู้จัดการส่วนตัวเลยอดไม่ได้ที่จะเข้าไปทักทายอย่างเช่นทุกครั้ง
“ปรากฏตัวได้แล้วเหรอวันนี้?” น้ำเสียงกวนประสาทนั้นทำให้มิยาบิต้องเงยหน้ามองทาเครุแล้วพยายาม...ย้ำว่า...พยายาม เหยียดยิ้มอย่างฝืนๆ!
“ก็งั้นสิ...นายเห็นฉันที่นี่ก็เท่ากับว่าฉันมา...ถูกมั้ยล่ะ?”
“ออเหรอ...แล้วเมื่อวานที่ฉันไม่เห็นล่ะ?” ชายหนุ่มสวนกลับอย่างรวดเร็ว
“ก็เท่ากับว่าฉันไม่ได้มาไง ถามอะไร...โง่ๆ!!!” หญิงสาวเริ่มขึ้นเสียงสูงอย่างไม่พอใจที่ระรานหาเรื่องแต่เช้า?
“ฉันก็รู้ว่าเธอไม่ได้มา เพราะงานการที่จะต้องทำเมื่อวานมันสะดุดไปหมด คนอะไร้...ทำงานมาตั้งสองปีกว่ายังไม่รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง ไม่รู้หรือไงว่ามันเสียหายขนาดไหน!!!” เขาเอ่ยตำหนิอย่างไม่พอใจที่หญิงสาวไปไหนไม่บอกเลยสักคำ
“นี่มันเป็นช่วงปิดเทอมนะฉันก็อยากมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้างสิ ไหนจะต้องเรียน ไหนจะต้องทำงาน ยังกับว่าแค่หยุดงานวันเดียวจะทำให้ค่ายเพลงล้มละลาย นายบ้าหรือเปล่า...ห๊ะ!!!” มิยาบิสวนกลับไปอย่างเหลืออด เพราะไม่พอใจที่ทาเครุชอบมาจู้จี้จุกจิกกับเธอในเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“เอาน่าๆ...ใจเย็นๆนะทั้งคู่ เลิกทะเลาะกันเถอะ!” เอมิพยายามไกล่เกลี่ยให้นักร้องดูโอยุติศึกสงคราม
“คุณเอมิเงียบไปเลยค่ะ นี่มันเป็นปัญหาระหว่างฉันกับอีตาบ้านี่” มิยาบิเอ่ยบอก
“ใช่ครับ...คุณเอมิไม่เกี่ยว” ทาเครุสนับสนุน เล่นเอาผู้จัดการสาวชักสีหน้าเหวอเพราะโดนเหวี่ยงกระเด็นออกมาจากสมรภูมิรบอย่างรุนแรง
“ตกลงเธอลาหยุดทำไม...แต่ฉันคิดว่าตัดประเด็นเรื่องป่วยไปได้เลย เพราะไม่งั้นคงไม่มีแรงเอาปากมาจากบ้านแล้วเถียงฉอดๆในที่ทำงานแบบนี้ได้หรอก สารภาพมาซะ...เธอแอบหนีไปเที่ยวใช่มั้ย?” ทาเครุประเมินสถานการณ์อย่างแม่นยำเล่นเอาหญิงสาวถึงกับสะดุ้งนิดหน่อย เพราะมีแค่ผู้จัดการสาวเท่านั้นที่รู้ว่าเธอไปดูคอนเสิร์ตของ ฮิโรกิ คู่แข่งคนสำคัญ
“ฉันจะทำอะไรหรือไปไหนมันก็เรื่องของฉันไม่ได้เกี่ยวกับนายเลยแม้แต่นิดเดียว อีกอย่างฉันก็แจ้งเรื่องขอลาหยุดกับท่านประธานไปแล้วด้วย” มิยาบิพยายามอ้างเหตุผล
“แต่เธอควรจะบอกฉันด้วยเพราะยังไงเราก็เป็นนักร้องคู่กัน มองข้ามหัวแบบนี้มันไม่ให้เกียรติกันเลยนี่หว่า!!!” นักร้องหนุ่มยังคงต่อว่าไม่เลิกรา
“ฉันจะต้องประเคนเรื่องส่วนตัวให้นายทราบทั้งหมดหรือไงห๊ะ อีกหน่อยไม่ต้องบอกด้วยเหรอว่าจะกินข้าวตอนไหน เข้านอนเมื่อไร!!!”
“ถ้าเธอทำได้มันก็ดี!!!”
“นายยยย...!!!” มีคำด่ามากมายอยากหลุดออกมาจากปาก แต่เธอไม่อยากพูดเพราะเกรงใจทีมงานคนอื่นๆที่กำลังจ้องมองอย่างสนใจ ( แม้จะเกรงใจช้าไปหน่อย...ก็เถอะ ) มิยาบิไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ริมฝีปากบางเม้มแน่นแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆ
“เถียงไม่ออกแล้วสิท่า เฮอะ...ไปทำงานดีกว่า!!!” พูดจบทาเครุก็หยิบกีต้าร์เดินแยกออกไปอีกห้องอย่างรวดเร็ว แต่ไม่วายผิวปากลัลล้ายั่วโมโหหญิงสาวตบท้ายอย่างมีความสุขที่เอาชนะได้
“คุณเอมิคะ...ฉันจะไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่ค๊อฟฟี่ช็อปด้านล่าง ถ้ามีงานด่วนแบบจริงๆจังๆก็ค่อยโทรมาตามนะคะ ( แต่ถ้าไม่ด่วนหรือไม่สำคัญจริงๆแล้วริอาจโทรมา...อย่าหาว่าไม่เตือน!!! )” หญิงสาวพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปทำให้ผู้จัดการสาวรีบร้องเรียกเอาไว้
“เอ่อ...มิยาบิจัง”
“มีอะไรคะ?”
“แล้วกาแฟที่บอกว่าจะชงให้ล่ะ ( แบบว่ายังไม่ลืม )”
“ก็ไปทำเองสิคะ มีมือมีเท้าไม่ใช่เหรอ?” นักร้องสาวเอ่ยพลางสะบัดหน้าเชิดเดินออกไป ทิ้งให้คนในออฟฟิศรู้สึกโล่งใจขึ้นมา...นึกว่าคุณเอมิจะต้องตายเพราะกาแฟฝีมือมิยาบิซะแล้ว...
เหตุการณ์เงียบสงบลงได้แค่เพียงชั่วโมงกว่าๆ โซน T&M ก็ต้องกลับเข้าสู่สถานการณ์ลุ้นระทึกอีกครั้งเมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งซึ่งจะรับจดหมายและพัสดุจากไปรษณีย์มาส่งให้ที่ออฟฟิศต่างๆในค่ายเพลงทุกวันได้นำกล่องใส่จดหมายเหล่านั้นเดินเข้ามา
“รับจดหมายด้วยครับ!!!” บุรุษไปรษณีย์จำเป็นเอ่ยบอกทีมงานจากด้านหน้าประตูทางเข้าออฟฟิศ เรียวสุเกะที่เป็นทั้งช่างแต่งหน้ายามมีคอนเสิร์ตในเวลาปกติก็ยังรับหน้าที่เป็นเจเนอรัลเบ๊อีกด้วย เขาเดินออกไปรับจดหมายมากมายราวร้อยกว่าฉบับที่ใส่กล่องใบหนึ่งมาไว้กับตัว จากนั้นก็นำกล่องใส่จดหมายมาวางตรงบริเวณโต๊ะรับรองซึ่งเป็นที่ประจำเมื่อมีจดหมายรวมถึงของขวัญจากแฟนๆส่งมาให้ T&M
ซองจดหมายฉบับหนึ่งที่จ่าหน้าถึง นิโนมิยะ มิยาบิ ดึงความสนใจให้เรียวสุเกะต้องหยิบขึ้นมาดูเมื่อพบว่าไม่มีแสตมป์และตราประทับ เพราะปกติแล้วทางค่ายเพลงมีนโยบายไม่รับจดหมายและของขวัญโดยไม่ผ่านการตรวจตราจากระบบรักษาความปลอดภัยในที่ทำการไปรษณีย์ หรือผู้ส่งคนนี้จะมีเส้นใหญ่จนสามารถนำจดหมายเข้ามาได้ง่ายๆ เขาพลิกซองจดหมายไปมาก่อนพบชื่อและที่อยู่ของผู้ฝากส่งก็ต้องตาเหลือกอย่างตกใจ
“กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!”
“เป็นอะไรเรียวสุเกะ กลัวคนอื่นๆเขาไม่รู้หรือไงว่าจิตใจเป็นสาวถึงได้ร้องซะลั่นขนาดนั้น” ทีมงานคนหนึ่งเอ่ยแซวอย่างเป็นกันเอง เจ้าตัวไม่พูดพร่ำทำเพลงหรืออธิบายอะไรรีบยื่นซองจดหมายฉบับนั้นให้ทุกคนดูชื่อและที่อยู่ของผู้ฝากส่ง เพียงเท่านั้นเสียงกรีดร้องก็ดังระงมไปทั่วออฟฟิศ
“อ้ากกกกกกกกกกก!!!”
“ไม่จริงงงงงงงงงงงง!!!”
ตื้ดดดดดดดดดด...
เสียงมือถือดังขึ้นขัดอารมณ์ของนักร้องสาวที่กำลังจิบชาคาโมมายส์อยู่ในค๊อฟฟี่ช็อป เธอชักสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยพลางหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพายขึ้นมาดูหน้าจอก็พบว่าเป็นเบอร์ภายในออฟฟิศนั่นเอง
“ฮัลโหล...อ๊ะ...เรียวสุเกะเหรอ มีอะไร...ถ้าไม่ใช่ธุระด่วนไม่ต้อง...โทร...ห๊ะ...อะไรนะ!!!”
เป็นวันแรกที่มิยาบิรู้สึกว่าลิฟท์ของค่ายเพลงช้าเหลือเกิน กว่าจะพุ่งจากชั้นหนึ่งไปถึงชั้นสามสิบได้มันใช้เวลานานเกินไปทั้งที่แค่ราวๆสามสิบวินาทีเท่านั้น เธอปรี่เข้าไปในออฟฟิศแล้วพุ่งตัวคว้าจดหมายฉบับนั้นจากมือเรียวสุเกะมาดู
“ถึงคุณ นิโนมิยะ มิยาบิ จาก ฮิโรกิ ค่ายเพลง H.R. Club “
นักร้องสาวแทบหยุดหายใจเมื่ออ่านชื่อและที่อยู่ของผู้ฝากส่ง ไม่ได้ๆ...เธอจะแสดงอาการตื่นเต้นมากไปกว่านี้ไม่ได้ ( แค่นี้ก็เกินพอแล้ว ) ไม่แน่ว่าอาจมีใครบางคนกำลังเล่นตลกก็เป็นได้ เมื่อคิดดังนั้นหญิงสาวก็ไม่รอช้าที่จะเปิดซองจดหมายท่ามกลางสายตาอันอยากรู้อยากเห็นของทีมงานทุกคน
กระดาษเขียนจดหมายใบเล็กๆฉบับหนึ่งถูกแนบมาพร้อมกับบัตรแฟนคลับ VIP ของ ฮิโรกิ แห่งค่ายเพลง H.R. Club มือของมิยาบิสั่นเล็กๆพลางคลี่กระดาษใบนั้นขึ้นมาอ่าน
“ถึง คุณมิยาบิ ฉันทำตามที่สัญญา นี่คือบัตรแฟนคลับ VIP จาก ฮิโรกิ”
แม้ไม่มีใครมายืนยันเธอก็จำได้ว่า นี่คือ...ลายมือของฮิโรกิจริงๆ เพียงแค่นั้น...
“กรี๊ดดดดดดดด!!!” มิยาบิกรี๊ดออกมาอย่างไม่รักษาภาพพจน์ ( ที่ไม่ค่อยจะมี ) อีกต่อไป
“ว้าย...อะไรกันคุณมิยาบิ อย่าบอกนะคะว่ามาจากฮิโรกิคุงจริงๆ” เรียวสุเกะอุทานพลางยกมือขึ้นทาบอก
“ตายแล้ว...น่าอิจฉาจังเลย ความจริงฉันก็แอบปลื้มๆเขาอยู่เหมือนกันนะเนี่ย” ทีมงานอีกคนเอ่ย เช่นเดียวกับทุกคนที่พากันอิจฉานักร้องสาวอย่างออกนอกหน้า เป็นจังหวะที่เอมิกับทาเครุกลับมาจากการประชุมในห้องท่านประธานพอดิบพอดี ผู้จัดการสาวชักสีหน้างุนงงเมื่อพบว่าออฟฟิศของตนกลายเป็นแหล่งครื้นเครงไปเสียแล้ว
“งานการไม่มีทำกันหรือไง ห๊ะ!!!” เอมิส่งเสียงดุ
“คุณเอมิคะ...มาดูนี่สิ...ฮิโรกิ ค่าย H.R. Club ส่งบัตรแฟนคลับ VIP มาให้คุณมิยาบิด้วย!!!” เรียวสุเกะได้ทีรีบฟ้อง...เอ้ย...รีบเล่าให้ผู้จัดการสาวฟัง
เอมิไม่ค่อยตื่นเต้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้สักเท่าไรเพราะรู้ดีว่ามิยาบิชื่นชอบฮิโรกิยิ่งกว่าอะไร ซ้ำเธอยังหาตั๋วคอนเสิร์ตของฮิโรกิให้เองเมื่ออาทิตย์ก่อน ทว่า...คนที่หงุดหงิดใจมากกว่า คือ ทาเครุ เขาปาดเข้าไปหานักร้องสาวที่ยังคงกรี๊ดกร๊าดอวดบัตรแฟนคลับ VIP ใบนั้นให้ทีมงานดูอย่างไม่ปิดบังอีกต่อไป ก่อนกระชากของสำคัญชิ้นนั้นมาถือไว้ในมือ
“นี่มันอะไร?” ทาเครุเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าบัตรใบนั้นเป็นของจริง
“มีตาก็ดูเอาเองสิ แล้วก็เอาคืนมา...คนไม่มีมรรยาท!” เธอพูดพลางกระชากบัตรใบนั้นกลับคืนไป
“นี่เธอไม่สามัญสำนึกเลยเหรอห๊ะ ว่า...ไอ้บ้านี่มันเป็นคู่แข่งของเรานะ แล้วเธอยังไปชื่นชอบมันขนาดสมัครเป็นแฟนคลับ VIP นี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ” เขาตำหนิหญิงสาวอย่างไม่พอใจ
“ไม่รู้อะไรก็อย่ามาพูดดีกว่า ฉันไม่ได้สมัครแต่ฮิโรกิเป็นคนส่งมาให้ฉันเอง” หญิงสาวเอ่ยบอก
“ส่งมาให้!!! นี่เธอไปรู้จักมักจี่เขาถึงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร ฉันจำได้ว่าเมื่อเดือนก่อนตอนที่เราไปร่วมงานสังสรรค์ของสื่อมวลชน เธอกับไอ้หมอนั่นยังไม่ได้สนิทขนาดพูดคุยกันสักคำ” นักร้องหนุ่มซักไซ้ เพราะจำได้ว่าไม่มีครั้งไหนที่มิยาบิได้เข้าไปพูดคุยหรือทักทาย ฮิโรกิ คู่แข่งคนสำคัญ แม้จะต้องบังเอิญมาร่วมงานในสถานที่เดียวกันก็ตาม
“ก็ฉันเจอเขาเมื่อวานในงานคอนเสิร์ต...อุ๊บบบส์” ในที่สุดเธอก็เผลอหลุดพูดความจริงออกมา ว่า...เมื่อวานหยุดงานไปเพราะอะไร ทำให้ทีมงานร้องอ๋อไม่ต่างจากทาเครุที่ชักสีหน้าโมโหมากกว่าเดิม
“เธอไปดูคอนเสิร์ตของไอ้หมอนั่นมาเหรอ!!!”
“เอ่อ...ก็ใช่น่ะสิ แล้วจะทำไมล่ะ” หญิงสาวเอ่ยตอบ ไหนๆความลับก็ถูกเปิดเผย ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป
“บ้าหรือเปล่า...เธอไปดูคอนเสิร์ตมันทั้งที่รู้ว่าเป็นคู่แข่งเนี่ยนะ ถ้าพวกนักข่าวมาเห็นเข้าจะเกิดอะไรขึ้น...นักร้องสาว นิโนมิยะ มิยาบิ แห่ง T&M ยังอดไม่ได้ที่จะคลั่งไคล้ฮิโรกิคู่แข่งคนสำคัญ เป็นอันสรุปได้ว่าค่าย H.R.Club เจ๋งกว่าค่าย J คอเปอร์เรชั่น แบบนี้สินะ...ทำไมไม่คิดบ้างว่าการกระทำของเธออาจทำให้ค่ายเพลงของเรามีปัญหา!!!” คำพูดของทาเครุทำเอามิยาบิชะงักไป ไม่ต่างจากเอมิที่แอบเหงื่อตกเพราะเป็นผู้สมรู้รวมคิดตัวฉกาจ
“แหม...มันคงไม่โดนจับง่ายขนาดนั้นหรอกน่า ฉันไม่ได้โง่นะเพราะตอนนั้นปลอมตัวเข้าไปไม่เห็นมีใครจำได้เลยสักคน ( แถมยังคิดว่าฉันเป็นป้าด้วย )” หญิงสาวพยายามแถ...เอ้ย...เถียง
“แล้วถ้าจำได้ล่ะ?”
“เอ่อ...ก็...แล้วจะทำไมล่ะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันแล้วก็เป็นความชอบของฉัน นายไม่มีสิทธิ์มายุ่ง!!!”
“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ยุ่ง ฉันทำงานร่วมกับเธอ ทุกคนทำงานร่วมกับเธอ ถ้าใครคนใดคนหนึ่งมีปัญหามันก็ต้องกระทบกันไปหมด” ทาเครุเอ่ยอย่างมีเหตุผล
“แล้วทำไมฉันจะชอบเขาไม่ได้ ฉันก็เป็นผู้หญิงนะ...อยากมีศิลปินที่ชื่นชอบเหมือนกับคนอื่นๆที่มาชื่นชอบฉันหรือใครๆบ้าง ทำไมผู้หญิงทุกคนถึงมีสิทธิ์แต่ฉันไม่มีสิทธิ์ล่ะ แค่เพราะไอดอลของฉันคือคู่แข่งงั้นเหรอ...ผู้ชายอย่างนายไม่มีวันเข้าใจจิตใจของผู้หญิงหรอก!” มิยาบิตะคอกใส่หน้าทาเครุพลางวิ่งออกไปจากตรงนั้น นักร้องหนุ่มทำท่าจะวิ่งตาม แต่ก็ชะงักไว้แล้วกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจตัวเอง
“บ้าที่สุดเลย...ทำไมอีตานั่นต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันแบบนี้นะ” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดขณะขับรถส่วนตัวไปตามถนนเส้นหลัก พยายามฟังเพลงจากอัลบั้มของฮิโรกิเพื่อปลอบจิตใจที่ฟุ้งซ่านให้สงบลง พลัน...นัยน์ตากลมโตก็เหลือบไปพบผู้หญิงมากมายยืนออรออยู่หน้าร้านเบเกอร์รี่ชื่อดังแถวชิบุย่า เลยค่อยๆเลียบรถไปตามทางอย่างช้าๆก็เห็นทีมงานสต๊าฟของค่าย H.R. Club กำลังกันสาวๆที่พยายามแหกด่านปราการเข้าไปภายในโดยร้องเรียกชื่อ “ฮิโรกิ”
มิยาบิไม่รอช้ารีบเลี้ยวรถเข้าไปจอดในซอยข้างๆแล้วสวมแว่นตาแฟชั่นเลนส์สีชมพูก่อนเดินอ้อมไปยังด้านหลังของร้านเบเกอร์รี่นั้น แน่นอนว่าตรงนี้ไม่มีกลุ่มแฟนคลับอาจเพราะเป็นมุมอับเลยไม่มีใครคิดถึง ทว่า...ก็ยังมีสต๊าฟสามถึงสี่คนคอยคุมเชิง แต่จะไปสนใจตัวประกอบทำไมล่ะ...ไม่พูดพร่ำทำเพลงนักร้องสาวก็ปรี่เข้าไปทันที
“ช้าก่อนครับ...เข้าไม่ได้!!!”
หญิงสาวชะงักเมื่อถูกกันเอาไว้ไม่ให้เข้า เลยงัดไม้ตายโดยการถอดแว่นตาแฟชั่นนั้นออกแล้วส่งยิ้มหวานให้เหล่าสต๊าฟที่ถึงกับอึ้งไป ยังไม่สาแก่ใจเธอหยิบบัตรแฟนคลับ VIP ที่เพิ่งได้รับมาโชว์ด้วย
“เข้าได้หรือยังจ้ะ?”
“เอ่อ...ครับๆ” สต๊าฟคนหนึ่งเอ่ยพลางเปิดทางให้นักร้องสาวได้เข้าไป แต่ก็ยังรู้สึกอึ้งไม่หายพลางหันไปกระซิบกระซาบกับเพื่อนๆ
“เฮ้ย...นั่นมิยาบิ วง T&M ใช่มั้ยวะ?"
“น่าจะใช่นะ...ตัวจริงโคตรสวยเลย”
“ไม่ยักรู้มาก่อน ว่า...เธอเป็นแฟนคลับของฮิโรกิด้วย”
ภายในร้านเบเกอร์รี่ค่อนข้างเงียบทั้งที่ภายนอกวุ่นวายราวกับมีจลาจลแท้ๆ นัยน์ตากลมโตของหญิงสาวจ้องมองไฟสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่ซึ่งกำลังสาดส่องไปยังนักร้องซูเปอร์สตาร์ขวัญใจสาวๆทั้งประเทศกำลังทำท่าจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะไม้ตัวหนึ่ง เป็นการถ่ายแบบในเวอร์ชั่นมุมสบายๆสไตล์ฮิโรกิที่มิยาบิอดกรีดร้องในใจไม่ได้
“โอเคครับ...คุณฮิโรกิเท่มาก รับรองว่านิตยสารเล่มนี้ต้องขายดีแน่ๆ” ทีมงานทุกคนเอ่ยชมนักร้องหนุ่มที่ลุกจากโต๊ะหลังถ่ายแบบเสร็จ ในตอนนั้นเขาก็เหลือบไปพบนักร้องสาวกำลังแอบยืนมองจากบริเวณหลืบเล็กๆตรงหลังร้านเลยค่อยๆเดินเข้าไปหาแล้วเอ่ยทักทาย
“นี่คือความบังเอิญหรือความตั้งใจ?” เป็นคำทักทายที่เล่นเอาหญิงสาวต้องฉีกยิ้มแห้งๆ
“บังเอิญและตั้งใจค่ะ ( แต่ตั้งใจอาจมากกว่านิดหน่อย )” เธอยอมรับอย่างว่าง่าย
“มีอะไรหรือเปล่า?” เขาเอ่ยถาม
“เอ่อ...ฉันอยากขอบคุณเรื่องบัตรแฟนคลับ VIP น่ะค่ะ” เธอพูดพลางหยิบมันขึ้นมาโชว์ให้ดู
“ไม่เป็นไรหรอก...แค่ของเล็กน้อย” เขาตอบ
( “ถ้างั้นคราวหน้าช่วยส่งใบทะเบียนสมรสพร้อมเซ็นชื่อมาให้ด้วยได้มั้ยคะ” จาก มิยาบิ ) หญิงสาวครุ่นคิดแล้วส่งยิ้มนิดๆให้
“คุณฮิโรกิทำอะไรอยู่ตรงนั้นครับ รีบๆไปกันเถอะเดี๋ยวมีคิวนัดสัมภาษณ์ที่ค่ายอีก” ทีมงานเอ่ยเร่งเพราะไม่มีใครสังเกตเห็นนักร้องสาวที่ยืนแอบอยู่
“เดี๋ยวฉันจะต้องกลับค่ายแล้ว” เขาบอกเธอ
“เอ่อ...ค่ะ” น้ำเสียงหญิงสาวสลดลงเล็กน้อย
ทั้งที่ได้เจอกันแต่ก็ไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันนานกว่านี้ ความจริงเธอก็รู้ว่าเขาต้องทำงานเยอะแยะไม่ต่างกันแต่อาจเพราะความชื่นชอบทำให้การพบเจอแค่ไม่กี่นาทียังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ในตอนนั้นเองฮิโรกิก็หยิบปากกาที่เตรียมเอาไว้แจกลายเซ็นให้แฟนคลับออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วจับมือหญิงสาวขึ้นมาเขียนอะไรบางอย่างลงไป
ฮิโรกิจับมือ!!! มิยาบิถึงกับช็อค น้ำหนักของปลายปากกาซึ่งกำลังตวัดลงบนฝ่ามือนั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงไม่ต่างจากมือที่เริ่มเย็นเพราะความตื่นเต้น และ เมื่อเขียนเสร็จเขาก็เอ่ยว่า
“ฉันว่างทุกวันตอนสองทุ่ม” พูดจบก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวยังคงรู้สึกช็อคอยู่ในหลืบเล็กๆของร้าน เธอค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นดู เบอร์โทรศัพท์มือถือของฮิโรกิ!!! นี่มันหมายความว่า...เขาอนุญาตให้นัดพบได้สินะ...
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!
ความคิดเห็น