Loveตลอดไป - Loveตลอดไป นิยาย Loveตลอดไป : Dek-D.com - Writer

    Loveตลอดไป

    ขอบคุณนะที่รักกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    61

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    61

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 ธ.ค. 64 / 19:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ครืด ครืดครืด ครืดครืดครืด

    “ว่าไงเตอร์”

    ‘อิงอย่าลืมนัดของเรานะ’

    “อิงไม่ลืมหรอก งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ”

    ‘ครับผม’

    เธอชื่ออิงฟ้า ตอนนี้เรียนปีสุดท้ายส่วนคนที่พึ่งคุยกับเธอเมื่อกี้ชื่อเตอร์เป็นแฟนเธอเราคบกันตั้งเธออยู่ปีสอง อืมมมมก็ถือว่าคบกันได้ไม่นานหรอก

    เธอออกมาจากบ้านก็เห็น ไอติม ชื่อน่ากินใช่มั้ยล่าาาาาที่กำลังจะไปโรงเรียนด้วยรถบิ๊กไบค์ของตัวเอง ตอนแรกที่เธอเห็นรถบิ๊กไบค์ก็คิดว่าเป็นรถของผู้ชายที่ไหนซะอีก ก็แหมมมมมจะไม่ให้คิดว่าเป็นของผู้ชายได้ไงก็เล่นคันใหญ่ขนาดนั้นแถมบ้านหลังนั้นก็มีแต่ผู้หญิง แต่สรุปรถคันนั้นก็เป็นของเด็กที่ชื่อไอติมแถมเจ้าตัวยังบอกว่าซื้อเองด้วยนะเก่งใช่ไหมล่ะเด็กตัวแค่นี้ซื้อด้วยตัวเอง

    พอเธอเข้าไปทักไอติม ไอติมก็อาสาไปส่งเธอและแน่นอนว่าเธอต้องนั่งรถบิ๊กไบค์คันนี้ไป บิ๊กไบค์ก็สูงสุดๆ อ่ะขึ้นก็ยาก พอรถเคลื่อนตัวเธอต้องกอดเอวไอติมอัตโนมัติ แล้วก็ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบไอติมมีซิกแพคด้วย นี่แข็งแรงขนาดนั้นเลยเหรอ เธอก็กอดเอวไปตลอดทางจนถึงที่เธอนัดเตอร์ไว้

    เธอคุยกับเตอร์อยู่ดีๆ เด็กที่มาส่งเธอก็บิดรถออกไปอย่างเร็ว เธอเรียกยังไงก็ไม่คิดจะหยุดหรือหันมามองเธอเลยสักนิด เป็นอะไรของเขานะ

    “คนเมื่อกี้ใช่เด็กที่อยู่แถวบ้านอิงใช่ไหม” ถ้าจำไม่ผิดเด็กคนนั้นที่เห็นบ่อยๆ ตอนไปส่งอิงที่บ้าน

    “ใช่ พอดีเขามาส่งอิงน่ะ” เธอบอกแฟนเธอ

    “อื้ออแล้วนี่ทานอะไรมาหรือยัง”

    “ยังอ่ะ ใครจะไปกินทันเล่นนัดเช้าขนาดนี้”

    “ก็จะนัดไปทานข้าวเช้าด้วยกันไง ป่ะไปกันเดี๋ยวคนเยอะ” เตอร์พาเธอไปที่ตลาดเช้าที่มีร้านอาหารเยอะมากกกกก และแน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นคนจีน

    “เป็นไงอร่อยมั้ย”

    “อื้ออร่อยดีนะ เตอร์รู้จักร้านอร่อยๆ เยอะจัง” ที่เธอถามไม่ใช่อะไร เพราะเตอร์พาเธอไปกินอาหารร้านไหนอร่อยทุกร้าน

    เธอถามเตอร์ แต่เตอร์ก็เงียบไปสักพักแล้วก็ตอบเธอ “....เพื่อนมันพาไปกินน่ะ เลยอยากให้อิงได้ลองบ้าง”

    “อื้ออองั้นเหรอ” เธอไม่ได้ถามอะไรมาก

    “แล้ววันนี้อิงมีเรียนหรือเปล่า ถ้าไม่มีไปดูหนังกับเตอร์มั้ยเราไม่ได้ดูหนังด้วยกันนานแล้วนะ”

    “เรามีเรียนตอนบ่ายอ่ะ วิชาสำคัญซะด้วย ไว้วันหลังแล้วกันนะ”

    “ก็ได้”

    “วันนี้เตอร์ไม่มีเรียนเหรอ”

    “ใช่พอดีอาจารย์ยกคลาส”

    “งั้นเหรอ อิงไม่ว่างเลยอ่ะ ช่วงนี้งานเยอะมากเลยอ่ะ”

    “ก็ใกล้จบแล้วนี่หน่าา”

    “ก็จริง....”

    เราสองคนทานข้าวกันได้สักพักเธอก็กลับบ้านโดยที่เตอร์เป็นคนมาส่งเธอ “งั้นอิงไปนะ” เธอพูดพร้อมกับเปิดประตูรถแล้วเตอร์ก็ตะโกนเรียกเธอ

    “เดี๋ยวอิง....”

    “หืมมีอะไรหรือ” เธอถามเตอร์ ที่ลงมาจากรถ

    “อิงเรียนจบแล้วเราแต่งงานกันนะ”

    เล่นเอานิ่งไปเลยเหมือนกัน ไม่คิดว่าเตอร์จะพูดคำนี้ “เออออมันไม่เร็วไปเหรอเตอร์ เราพึ่งคบกันสองปีจะเข้าปีที่สามแล้วอีกอย่างเราพึ่งเรียนจบกันเองงานมั่นคงก็ยังไม่มี”

    “งั้นเตอร์ขอหมั้นอิงไว้ก่อนได้มั้ย ถึงว่าเตอร์จองอิงไว้ก่อน”

    “....อืม งั้นอิงเข้าบ้านแล้วนะเดี๋ยวไปเรียนสาย” เธอตอบไปเตอร์แค่นั้น

    “งั้นเตอร์ไปก่อนนะ” เตอร์พูดเสร็จก็ขับรถออกไป

     

     

    “แม่คะ”

    “ว่าไงเรา เป็นอะไรหรือเปล่าดูเราแปลกๆ นะ” แม่ถามเธอด้วยความเป็นห่วง นี่เธอแปลกขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย

    “คือเมื่อเช้า เตอร์บอกหนูว่าเรียนจบจะขอหนูหมั้นไว้ก่อน คุณแม่คิดยังไงคะ”

    “แม่ก็แล้วแต่ลูกนะ แล้วเราไม่ดีใจเหรอ”

    “มันก็ดีใจค่ะ แต่ก็มีบางเรื่องที่หนูไม่พร้อม”

    “เรื่องเวลาในการคบกันใช่ไหม”

    “แม่รู้ได้ไงคะ” แม่เธอรู้ได้ไงนั้นเป็นกรณีลองเลยนะที่เธอกังวล “นั้นมันก็มีส่วนค่ะ แต่อิงก็รู้สึกว่าอิงไม่รู้จักเตอร์มากพอ” เนี่ยแหละกรณีหลักของเธอ ถึงเธอจะคบกับเตอร์มาเกือบสามปีแต่เหมือนเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเตอร์เลย มันรู้สึกเหมือนเตอร์มีอะไรปิดบังเธออยู่ และมันก็แค่ความรู้สึก แต่ความรู้สึกก็ผู้หญิงมันมักจะถูกซะด้วยสิ

    “ยังไงก็จนกว่าหนูจะเรียนจบไม่ใช่เหรอ แล้วถ้าเกิดก่อนวันนั้นมาถึงลูกก็ดูว่าเตอร์คือคนที่หนูอยากอยู่ด้วยจริงหรือเปล่า มันเหมือนกับความสุขถ้ารักเขาอยู่กับเขาแล้วมีความสุขมันก็ดีกับลูกเอง”

    “ค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอพูดแล้วเข้าไปผู้เป็นกอดแม่

    “เดี๋ยวเอากินข้าวไปให้บ้านแม่ไอตินให้แม่หน่อย แม่ทำไว้ซะเยอะเลย”

    “ได้ค่ะ”

     

     

    “คุณป้าคะ”

    “อาวว่าไงหนูอิง ช่วงนี้ป้าไม่ค่อยเห็นหนูเลยนะ”

    “เรียนหนักนิดหน่อยน่ะค่ะพอดีใกล้จบแล้ว แล้วนี่ค่ะแม่บอกให้เอามาให้ค่ะ”

    “บอกแม่ด้วยว่าขอบใจมากนะ น่ากินเชียว ว่าแต่วันนี้ป้าเห็นแฟนเรามาหนิ...ใช่มั้ย”

    “ค่ะ...”

    “หวานกันจังเลยนะวัยรุ่นเนี่ย เหมือนป้าตอนสาวๆ เลยหึหึ”

    เธอฟังแม่ของไอติมก็ขำไป แม่ไอติมเขาเป็นคนตลกขี้เล่นด้วยนะ

    “มายืนให้เมื่อยทำไมเนอะป้าเนี่ย ป่ะๆๆ เขาไปนั่งในบ้านกันดีกว่า” พูดเสร็จป้าเธอก็พาเธอเข้าไปในบ้านทันที

    “อ่ะน้ำจ้ะ”

    “ขอบคุณค่ะ”

    “อืมจะว่าไปป้าได้ยินแฟนเราของแต่งงานหนิ แล้วเราว่ายังไงล่ะ”

    เธอดื่มน้ำอยู่เกือบสำลักน้ำที่ดื่มไป

    “ไม่ต้องมองป้าขนาดนั้น ป้าก็แค่ได้ยินตอนออกไปข้างนอกแล้วแฟนเราก็เล่นตะโกนขนาดนั้น”

    “ไม่ได้จะแต่งหรอกค่ะ ถ้าเอาจริงๆ คงหมั้นกันก่อน”

    “อืมมก็ดีนะ”

    แม่ไอติมถามเรื่องของเตอร์เหมือนจะให้คำแนะนำเธอไปในตัว แน่นอนว่าเธอไม่อึดอัดเลยสักนิดที่แม่ของไอติมถามโน่นถามนี่เธอ เพราะแม่ไอติมก็เหมือนแม่เธออีกคน

    “แม่! หนูได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ! ....พี่อิง!!!”

    เธอคุยกันอยู่ไอติมก็วิ่งเข้ามาแถมตะโกนอย่างดังแต่พอเห็นเธอกับทำหน้าตาตกใจ แต่ว่าเมื่อกี้ได้ยินอะไรนะเรื่องเรียนใช่มั้ย

    พอเธอถามก็รู้ว่าติมได้สอบชิงทุนเรียนต่อที่อังกฤษได้

    “....งั้นเหรอ พี่ดีใจด้วยนะ”

    เธอก็ได้แต่ยินดีกับความสำเร็จของอีกคนที่เหมือนน้องสาวเธอ ไม่คิดว่าติมจะไปสอบชิงทุนกับเขาด้วย เก่งขนาดนั้นเลยเหรอแต่ก็นะผลสอบมันก็บอกให้รู้แล้วว่าติมเก่งขนาดไหน

    “แล้วพี่มีอะไรหรือเปล่าคะถึงได้มาหาแม่ติม” อยู่ๆ ติมก็ถามเธอขึ้นมา

    “อาวไอ้ลูกคนนี้ พี่เขาจะมาหาแม่บ้างไม่ได้หรือไง พี่เขามาบอกเรื่องหมั้น”

    “หมั้น!”

    ติมดูตกใจมากของมากตะโกนออกมาอย่างดัง แถมหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไปตอนแรกยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าแต่ตอนนี้กับนิ่ง นิ่งมากเธอไม่เคยเห็นหน้าของติมที่นิ่งมาก่อน

    “....ติมยินดีกับพี่ด้วยนะคะ...” ติมเงียบไปสักพักก็พูดขึ้นมา น้ำเสียงนั้นมันไม่เหมือนคนยินดีเลยสักนิด เด็กที่เคยสดใสร่าเริงเมื่อก่อนเหมือนมันหายไป

    หลายเดือนต่อมา

    อีกหนึ่งเดือนเธอก็จะจบรายงานก็เยอะขึ้นจนแทบไม่มีเวลา ตั้งแต่วันนั้นที่เธอคุยกับติมหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันเลย ติมหายไปไหนพักหลังๆ เธอก็เห็นรถของเจ้าตัวจอดอยู่ที่บ้าน แถมโรงเรียนก็ปิดเทอมแล้วด้วยแต่กับไม่เห็นเจ้าตัวเลย

    “คุณป้าคะ”

    “ว่าไงหนูอิง”

    “ติมอยู่มั้ยคะ ทำไมเดี๋ยวนี้อิงไม่เห็นติมเลย” เธอเข้าไปถามแม่ของติมที่ยืนอยู่หน้าบ้าน นี่มันผิดสังเกตแล้วนะที่เธอไม่เห็นเจ้าเด็กนั้น

    “อาวอิงไม่รู้เหรอลูก ติมมันไปเรียนต่อแล้วนะ ไหนติมบอกว่าบอกหนูแล้วไง” แม่ของติมพูดแล้วทำท่างงๆ

    “ไม่ค่ะติมไม่ได้บอกอะไรอิงเลย” นี่ไปไม่บอกเธอยังจะไปโกหกแม่ตัวเองอีกเหรอ แล้วทำไมต้องโกหกว่าบอกเธอแล้ว

    “มันน่าจริงๆ เลยลูกคนนี้ ป้าก็อุตส่าห์ถามแล้วว่าบอกหนูแล้วหรือยัง เจ้าตัวก็บอกว่าบอกแล้ว”

    คุณป้าบอกเธอว่าพักหลังๆ ติมก็ดูเงียบๆ พอกลับมาจากโรงเรียนก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง

    “แล้วป้าได้โทรคุยกับติมบ้างมั้ยคะ”

    “คุยอยู่แต่ก็ไม่ได้เยอะหรอก เพราะป้าโทรไปเจ้าตัวก็หลับอยู่เพราะเวลาไม่ตรงกัน”

    “งั้นเหรอคะ แล้วติมปิดเทอมจะกลับมาหรือเปล่าคะ” ทำไมเธอต้องถามเรื่องเด็กนั้นด้วยเนี่ย ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ

    “อันนี้ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เจ้าตัวเองก็ไม่ได้บ่นอยากกลับเลย”

    “ติมคงกลับมาหาคุณป้าอยู่แล้วแหละค่ะ ติมรักคุณป้าจะตาย”

    “รักอะไรกันตั้งแต่เจ้าตัวไปไม่เคยบอกรักป้าเลย เหมือนคนไม่อยากกลับมาที่นี่เลยด้วยช้ำ”

    ทำไมถึงได้ทำถ้าเหมือนจะไม่อยากกลับมาที่นี่ล่ะ เมื่อก่อนยังพูดอยู่เลยจะคอยอยู่ข้างๆ เธอ หรือโตขึ้นแล้วความคิดก็เปลี่ยน “....งั้นเหรอคะ”

     

     

    “วันนี้อาจารย์ใจดีอ่ะ ไปไหนดีแก”

    “กลับบ้านไปนอนไงถามได้”

    “แต่ฉันอยากไปกินติมอ่ะ”

    กินติมบ้าๆๆๆ คิดอะไรของเธอเนี่ย

    นี่กลุ่มเพื่อนเธอเอง วันนี้อาจารย์กับยกคลาสขึ้นมาแบบไม่บอกร่วงหน้า เลยตกลงกันอยู่ว่าจะไปไหนดี

    “แล้วแกล่ะอิงจะไปไหนหรือเปล่า หรือจะไปหาไอ้เตอร์”

    “วันนี้เตอร์บอกมีเรียนน่ะ” เธอบอกเพื่อนเธอ เมื่อเช้าเธอคุยกับเตอร์เขาบอกว่ามีเรียนยันเย็นเลยบอกว่าจะไม่ได้มาหาเธอ

    “อืมมมงั้นไปกินติมกับฉันป่ะ แต่จ่ายเองนะ”

    “เรื่องนั้นรู้แล้วน่าาา ไปก็ไป” หลังจากนั้นพวกเธอก็แยกย้ายกัน

     

     

    “ฉันเห็นแกเดี๋ยวนี้เงียบๆ เป็นอะไรหรือเปล่าอิง”

    เรากำลังนั่งกินไอติมอยู่เพื่อนเธอก็ถามขึ้นมา ว่าแต่เธอดูเงียบขนาดนั้นเลยเหรอแต่ก็น่ะเธอมีอะไรเพื่อนคนนี้ก็ดูออกทุกที่ “ฉันดูเงียบขนาดนั้นเลยเหรอ” เธอถามเพื่อนเธอกลับ เพื่อนเธอก็พยักหน้าทั้งที่ในปากกำลังคาบซ้อนอยู่ “ก็แค่มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อยไม่มีอะไรหรอก” เธอบอกเพื่อนไปว่ามันไม่มีอะไร

    “อืมถ้ามีอะไรก็ปรึกษาฉันได้ เข้าใจมั้ย! ฉันเป็นเพื่อนแกนะอย่าลืม”

    “รู้แล้วค่าาาาา มีปัญหาฉันจะปรึกษาแกคนแรกเลย”

    “ดีมาก”

    ตกลงเป็นเพื่อนหรือแม่ฉันแน่เนี่ย

     

     

    “ไปไหนต่อป่ะแก”

    “ไม่นะหรือแกอยากไปไหนต่อฉันจะได้ไปเป็นเพื่อน” เธอบอกเพื่อน เพราะยังไงวันนี้เธอก็ว่างอยู่แล้ว

    “ไม่อ่ะแกกลับกันเถอะ”

    “งั้นป่ะ”

    “เดี๋ยวแก” เธอเดินยังไม่ถึงสามเก้าเพื่อนเธอก็ตะโกนเรียกเธออย่างดัง ทั้งที่ก็ยืนอยู่ข้างๆ กัน “....นั้นมันไอ้เตอร์หนิไหนแกบอกมันมีเรียนไง แถมเดินกับผู้หญิงอีก อ่ะ อะ อาวอิงเดี๋ยวรอฉันด้วย”

    “เตอร์!!” เธอเรียกเตอร์อย่างดัง

    “อิง!! ...มะ มาได้ไงอ่ะ”

    พอเตอร์เห็นว่าเป็นเธอก็ทำท่าทางตกใจมากแล้วเตอร์ก็ปล่อยมือที่จับผู้หญิงอีกคนออก นี่เหรอคนที่บอกรักเธอ อยากแต่งงานกับเธอ อยากอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต หึมันก็แค่ผู้ชายตอแหลคนหนึ่ง “มาเดินเล่น ทำไมอิงจะมาเดินบ้างไม่ได้เหรอ แล้วเตอร์ล่ะมาได้ไงไหนบอกอิงว่ามีเรียน!” เธอถามเจ้าตัวกลับ

    “อาจารย์ยกคลาสน่ะ....”

    “พี่เตอร์ผู้หญิงคนนี้ใครคะ”

    เตอร์คุยกับเธออยู่ผู้หญิงที่มาเตอร์ก็ถามเตอร์ขึ้นมา

    “ค คือแฟ....”

    “แค่คนรู้จักค่ะน้อง!!!” เตอร์กำลังจะพูดแต่เธอพูดแทรกขึ้นมาก่อน

    “อิง!!!!”

    “เราเลิกกัน!!!!” เธอบอกเลิกเตอร์ทันทีแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น ใช่มันจบแล้ว ไม่น่าเสียเวลาคบกันมาตั้งหลายปี

    เตอร์ก็ได้แต่ตะโกนชื่อเธอ เพราะผู้หญิงที่มาด้วยไม่ยอมให้เตอร์ตามเธอมา “ดะ เดี๋ยวสิอิง อิง!”

     

     

    “แกนี่โคตรเจ๋งอ่ะ แค่คนรู้จัก!!! เป็นผู้หญิงสตรองมากอ่ะ”

    เพื่อนเธอพูดใหญ่หลังจากที่เดินออกมา ก็นะไม่เคยมีใครเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อน “พอได้แล้วน่ะแก ป่ะกลับกัน”

    “นี่แกไม่เสียใจเลยหรือไงย่ะถามจริง”

    เพื่อนเธอถามเธออีกครั้ง ก็จริงทำไมเธอไม่รู้สึกเสียใจไม่ร้องไห้เลยสักนิด หรือความจริงเธอไม่ได้รักเตอร์ “ก็นิดหน่อย แต่เสียใจที่ฉันคบกับคนแบบนั้นมาได้ตั้งเกือบสามปี”

    “สตรองสุดเพื่อนฉัน”

     

     

    ” อ่ะหายไปไหนน่ะ หรือว่าเธอให้ติมยืมไป”

    นี่มันก็สองเดือนได้ตั้งแต่เธอเรียนจบ ส่วนเตอร์ก็มาพยายามขอคืนดีกับเธอบอกได้เลยว่าเธอไม่เอา! พอเธอบอกว่าไม่เอา เตอร์ก็กับมาโวยวายใส่เธอ บอกเธอมันเป็นคนน่าเบื่อ จับนิดจับหน่อยไม่ได้ ต้องบอกปากร้ายยิ่งกว่าผู้หญิงอย่างเธออีก ไม่รู้ว่าเธอคบกับผู้ชายคนนี้มาได้ไง

    “คุณป้าคะ”

    “ว่าไงหนูอิง”

    “คืออิงขอเข้าไปเอาหนังสือในห้องติมได้มั้ยคะ”

    “ได้จ้ะ หนูขึ้นไปเอาเลยนะ ห้องเดิมนั้นแหละ”

    เธอขึ้นไปบนห้องของติมที่มันเป็นห้องเรียบๆ ไม่ได้มีอะไร พอเธอเห็นหนังสือขอเธอที่วางอยู่บนโต๊ะเธอก็หยิบมันขึ้นมา

    ตุบ!

    “หืมหนังสืออะไร” มันมีหนังสือที่ติดกับหนังสือของเธอแต่มันตกลงพื้น “ไดอารี่” เธอหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่ามันเป็นไดอารี่ ติมเขียนไดอารี่ด้วยเหรอ

    “เปิดดูดีมั้ยนะ แต่ยังเด็กนั้นก็ไม่รู้หรอก” เธอเปิดไดอารี่ดูทันที เหมือนเด็กนั้นจะเขียนเรื่องใครสักคน

    เวลายิ้มน่ารักดีนะ ติมชอบยิ้มบ่อยๆ นะ

    ทำไมชอบทำตัวน่ารักอยู่เรื่อย

    เมื่อไหร่จะกล้าบอกรักเขาสักทีนะไอ้ติม

    จบกันเขามีแฟนซะแหละ แอบรักมาตั้งหลายปี

    ทำไมกูต้องมาเจอเขาหวานใส่กันด้วย

    หรือกูควรตัดใจจากเขาดี

    จบยิ่งกว่าจบ เขากำลังหมั้นกัน มึงต้องดีใจกับเขาเข้าใจมั้ย

    ขอให้พี่มีความสูขมากๆ นะ

    ดีแล้วที่กูสอบติด จะได้ไม่ต้องเห็นเขารักกัน

    เราคงไม่ได้เจอกันอีก ขอโทษนะที่ไม่ได้ทำตามสัญญา

     

    ลาก่อนพี่อิงความรักของติม

     

     

    นี่ไดอารี่ของติมที่เขียนเกี่ยวกับเธอ แถมนานแล้วด้วยทำไมเธอไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นชอบเธอเลยสักนิด แล้วทำไมเขาถึงไม่บอกเธอเลย ถ้าเธอไม่ขึ้นมาก็คงไม่รู้

     

     

    สี่ปีต่อมา

    “คุณป้าคะ ปีนี้ติมจะกลับมาหรือเปล่าคะ” เธอมาถามแม่ของติมทุกปีที่รู้ว่าติมปิดเทอม แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยกับมาเลยสักปี

    “เห็นเจ้าตัวบอกว่าไม่กลับนะหนูอิง คงไม่รักป้าแล้วมั้งเนี่ยไม่ยอมกลับมาหาป้าเลย”

    แม่ขอติมพูดตัดพ้อกับเธอ “อย่าคิดมากสิคะเดี๋ยวติมก็คงกลับมาค่ะ” เธอพูดกับแม่ของติม แต่มันก็เหมือนบอกตัวเองด้วย

    “ป้าก็ไม่ได้อะไรหรอก ยังไงป้าก็เป็นคนอนุญาตให้เจ้าตัวไปเรียนต่อเอง”

    จริงสิถึงแม่ของติมจะพูดตัดพ้อกับเธอเรื่องติมแต่เธอยังไม่เคยเห็นแม่ของติมดูเศร้าเลยสักนิด “แล้วติมโทรหาคุณป้าอยู่มั้ยคะ”

    “ก็เหมือนเดิมนั้นแหละจ้ะป้าก็ต้องเป็นคนโทรไปหาเจ้าตัวทุกครั้ง นานๆ เจ้าตัวจะโทรมาหาป้าที แต่โทรไปทีไรก็มีเสียงผู้หญิงอยู่ด้วยตลอดสงสัยจะอยู่กับเพื่อน หรือมั้ยก็แฟน”

    “งะ งั้นเหรอคะ” แฟนเหรอ

     

     

    •ปัจจุบัน

    “คิดอะไรอยู่หืมมม”

    เขาถามเธอแล้วเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง “เรื่องเก่าๆ น่ะ” เธอตอบ ชอบจังเวลาที่เขากอด “ติม”

    “คะ...”

    “ทำไมถึงไม่ยอมบอกอิงว่าชอบอิงล่ะ” ศัพท์เธอเปลี่ยนตั้งแต่เราสองคนคบกัน

    “ก็...กลัวอิงเกลียดติมหนิ ถ้าเกิดอยู่ๆ ติมไปบอกว่าชอบอิง แล้วอิงเว้นระยะห่างจากติม ติมจะทำยังไงสู้ให้อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่า...แต่มันผิดคาด...”

    ติมอธิบายให้เธอฟัง ก็จริงถ้าอยู่ๆ ติมมาบอกเธอว่าชอบเธอ เธออาจจะไม่คุยกับติมอีกก็ได้ “แต่อิงก็ดันมีแฟนใช่มั้ย”

    “ก็ใช่ เพราะอิงมีแฟน ติมเลยคิดว่าน่าจะบอกอิงไปให้มันจบๆ รู้มั้ยว่าตอนอิงหวานกับแฟนอิง ติมเจ็บมากเลยอยากจะหนีไปจากตรงนั้น”

    จริงสิเวลาติมเห็นเธออยู่กับเตอร์หรือว่าเล่นกับเตอร์ ติมจะหนีออกไปตลอด

    “ว่าแต่ทำไมอิงถึงได้ยกเลิกงานหมั้นล่ะ”

    “ถามแบบนี้อยากให้อิงกับไปหมั้นกับเตอร์หรือไงหืมมมม” เธอหันเข้าหาอีกคนแล้วใช้มือบีบไปที่จมูกของอีกคน ทั้งที่อีกคนยังกอดเธออยู่

    “อื้ออ ติมแค่อยากรู้เฉยๆ”

    อีกคนพูดเสียงขึ้นจมูกนิดๆ เธอปล่อยจมูกของอีกคน “เตอร์เขานอกใจอิงน่ะ พออิงจับได้อิงก็บอกเลิกเตอร์ทันที”

    “เขาไม่น่านอกใจอิงได้เลยนะ อิงสวยขนาดนี้”

    พอติมพูดแบบนั้นหน้าเธอมันรู้สึกร้อนยังไงไม่รู้

    “แล้วติมล่ะ นอกใจอิงบ้างหรือเปล่า” ถามอะไรของเธอเนี่ย ก่อนหน้าเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย

    “ไม่นะติมไม่เคยนอกใจอิงเลยสักครั้ง ถึงอิงจะมีแฟนติมก็รักอิง”

    คนบ้าพูดอะไรเนี่ย “อย่านะ แม่ติมบอกว่าโทรมาทีไรก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตลอด”

    “หืมผู้หญิง...ออนั่นมาร์ธาเพื่อนขอติมเอง ถามเรื่องผู้หญิงแบบนี้ หึงติมเหรอคะ”

    “บะ บ้าใครหึงกัน ก็แค่ถามไปงั้นแหละ”

    “หึหึเวลาเขินยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ เชื่อติมได้เลยค่ะ ติมไม่มีใครหรอกก็ยังลืมคนนี้ไม่ได้หนินะ”

    “จุ๊บ ขอบคุณนะที่ไม่ลืมกัน”

    “จุ๊บ ขอบคุณนะที่มาหาติม ติมรักอิงนะ”

    “รักเหมือนกันค่ะ”

     

     

    “ติมเสร็จยังลูกเดี๋ยวไม่ทันฤกษ์”

    “เสร็จแล้วค่าาาาา” เธอรีบลงมาทันที

    “มาลงมาแล้วก็ไปบ้านหนูอิงกัน”

    วันนี้เป็นวันแต่งงานเธอกับพี่อิงเป็นงานแต่งที่จัดภายในครอบครัว เราสองคนคบกันมาได้สามปีเธอก็ขอพี่อิงแต่งงานแน่นอนว่าอีกคนตอบตกลงทันทีที่เธอพูดจบ และแน่นอนว่าการที่เธอคบกับพี่อิงทางผู้ใหญ่รับรู้และไม่ได้กีดกันไดๆ และเธอหลังเรียนจบก็ย้ายกลับมาที่ไทย ตอนนี้มีงานทำ พร้อมที่ดูแลพี่อิง

    “เจ้าสาวมาแล้ว”

    เธอหันตามเสียงก็เห็นที่อิงกำลังเดินลงมาจากบันได วันนี้พี่อิงสวยมากถึงปกติจะสวยมากอยู่แล้วก็เถอะ

    “นั่งลงข้างๆ น้องสิลูก” แม่ขอพี่อิงพูด

    “งั้นเราเริ่มกันเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียฤกษ์ฯ”

     

     

    “เหนื่อยมั้ยคะ”

    “นิดหน่อยค่ะ ติมเหนื่อยกว่าพี่อิงอีกนะคะต้องคอยจัดงานทุกอย่าง”

    “ก็งานแต่งเราทั้งที่หนิค่ะ เหนื่อยนิดหน่อยเอง”

    “แต่เราต้องอยู่ในห้องกันทั้งวันเลยเหรอคะ นี่พึ่งเย็นเองนะ”

    “ก็ผู้ใหญ่เขาบอกมาแบบนั้นก็คงต้องทำตาม แล้วอีกอย่างเล่นล็อกกุญแจข้างนอกแบบนี้ เราก็คงออกไปข้างนอกไม่ได้อยู่ดี”

    “จริงเหรอคะ” เธอพูดพร้อมเดินไปเปิดประตูแต่มันกับเปิดไม่ได้ “เล่นใหญ่ไปมั้ยเนี่ย” เธอพูดแล้วกลับมานั่งที่เตียง

    “อิงไปเปลี่ยนชุดเถอะ จะได้ไม่อึดอัด”

    “ค่ะ” เธอเดินไปเปลี่ยนชุดตามที่ติมบอก เดี๋ยวนี้เธอฟังเขามากขึ้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอนนี้ เขาได้ขึ้นชื่อว่าสามีเธอหรือเปล่า

    “อื้ออ ติมคะนี่มันยังเย็นอยู่เลยนะ” พอออกมาจากห้องน้ำเขาก็เข้ามากอดเธอ มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของเธอกับติมก็เถอะ แต่เธอก็ตามเขาไม่ทันสักที

    “เราจะได้มีเวลากันเยอะๆ ไงคะ”

     

    จากเด็กที่รู้จักตอนนี้กลายเป็นเจ้าขอชีวิตเธอ ขอบคุณนะที่รักกันมาโดยตลอด ขอบคุณที่เข้ามาอยู่ในชีวิตเธอ อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปนะ

    The end

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×