[FIC SAO​ x​ Berserk] ตำนานนักรบดำสะท้านภพ - นิยาย [FIC SAO​ x​ Berserk] ตำนานนักรบดำสะท้านภพ : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    [FIC SAO​ x​ Berserk] ตำนานนักรบดำสะท้านภพ

    เด็กชายผู้ถูกเชื่อมโยงโดยสายใยจากอดีตตัวตนของเขาคือผู้กุมชะตาของคนทั้งมวล เขาคือเด็กชายผู้ถือดาบใหญ่สวมเกราะดำ ชื่อของเขาคือ "กัทซึโอะ" นักดาบทมิฬ

    ผู้เข้าชมรวม

    2,626

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    38

    ผู้เข้าชมรวม


    2.62K

    ความคิดเห็น


    31

    คนติดตาม


    95
    จำนวนตอน :  10 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  28 พ.ค. 65 / 06:28 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    คำเตือน

    เนื้อหาในแฟนฟิกเรื่องนี้เกิดจากการปรับแต่งเนื้อเรื่องมาจากอนิเมะเรื่อง​ Sword​ Art​ Online​ และ​ มังงะเรื่อง​ Berserk​ อาจมีการปรับแต่งนิสัยของบางตัวละครและอาจมีเนื้อเรื่องบางส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปถ้าหากไม่เป็นที่ประทับใจสำหรับท่านผู้อ่านท่านใดก็กราบขออภัยมา ณ​ ที่นี้ด้วยนะครับ

     

    ปีศักราชที่ 1641

    สงครามใหญ่ได้ลุกลามมาถึงดินแดนเอลฟ์เหล่านักรบต่างจับดาบลุกขึ้นสู้สุดหัวใจเพื่อต่อกรกับปีศาจและเหล่ามนุษย์จากมิดแลนด์ที่บุกรุกเข้าโจมตีเกาะแห่งนี้อย่างรุนแรง

    ชายฉกรรจ์ผมดำร่างสูงใหญ่กวัดแกว่งดาบยักษ์คู่ใจของเขา​ เคียงข้างด้วยแคสก้าหญิงสาวผู้เป็นที่รักของเขารวมถึงเหล่าสหายกองพันเหยี่ยวดำผู้ร่วมติดตามเขาตลอดมา

    พวกเขาต่างล้วนต่อสู้อย่างห้าวหาญอย่างไรก็ตามสถานการณ์ก็เริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ​ ทัพของมิดแลนด์มีจำนวนมากมายมหาศาลจนพวกเขาเริ่มตกเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อนเสียแล้ว

    “คุณกัซศัตรูมีมากมายเหลือเกินข้าว่าพวกท่านรีบลงเรือหลบหนีไปจากเกาะนี้เถอะข้าได้เตรียมเรือไว้ให้พวกท่านแล้ว”  ราชินีแห่งเกาะเอลฟ์เอ่ยขึ้นในระหว่างที่เธอใช้ปีกโจมตีใส่อสูรกายตนหนึ่งจนล้มลง

    “จะหนีไปที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยแล้ว ไม่มีที่ไหนที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรมิดแลนด์ไปได้หรอก" กัซตอบ

    “แต่พวกท่าน”

    “เงียบเถอะน่าให้ลูกพี่กัซอยู่ช่วยพวกท่านเถอะ​” อิซิโดร เด็กหนุ่มผมสั้นเกรียนวัยไม่เกินสิบเจ็ดปีตะโกนตอบ​" พวกท่านน่ะมีบุญคุณต่อพวกเรามากเพราะฉะนั้นให้พวกเราได้ตอบแทนน้ำใจเล็กๆน้อยๆที่พวกท่านให้เราอาศัยอยู่ที่นี่มาตลอดสามปีเถอะ"

    “ท่านเกจฟริกได้โปรดห้ามพวกเขาที” ราชินีเอลฟ์ตะโกนร้องบอกมหาจอมเวทย์แห่งเหล่าผู้วิเศษผู้ดูแลเหล่าแม่มดบนอาณาจักรเอลฟ์แห่งนี้

    “ข้าน่ะไม่อาจห้ามพวกเขาได้หรอก​ พวกเขาน่ะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญในประวัติศาสตร์โลกเราไม่อาจหักห้ามชะตากรรมที่จะเกิดกับพวกเขาได้หรอก” เกจฟริกตอบก่อนจะบอกให้เหล่าแม่มดหน่วยสนับสนุนร่ายเวทย์มนต์เสริมความแข็งแกร่งให้กับทุกคน

    “มาสเตอร์สเคอบิลช่วยสนับสนุนเวทย์ไฟโจมตีใสพวกมัน​ มาสเตอร์เทรนน์ท่านช่วยสกัดฝูงอันเดตที่ปีกขวา​ มาสเตอร์จินนาช่วยข้าร่ายมหาเวทย์โจมตีใส่มันด้วย” ดานันสั่ง

    ทางฝั่งกัซซึ่งนำกองพันเหยี่ยวดำเข้าโจมตีพวกเขาบุกฝ่าทะลวงทัพหน้าของมิดแลนด์ได้อย่างไม่ยากเย็นเหล่าปีศาจหรือเหล่ามนุษย์ที่เข้าเผชิญหน้ากับสมาชิกกองพันเหยี่ยวดำล้วนถูกฆ่าตายหมด

    “แคสก้าระวัง” 

    กัซตะโกนเสียงดังก่อนจะโถมตัวเข้าไปปัดการโจมตีจากลูกศรของฝ่ายศัตรู​ ลูกศรโลหะจำนวนมากถูกชายวัยกลางคนปัดทำลายจนเกือบหมดจะมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่จมลงบนเสื้อเกราะของเขาเสียงดังแคร้งๆ

    “กัซเป็นอะไรมากไหม” แคสก้าร้องเสียงหลงก่อนจะหยิบหอกซัดขึ้นมาเล่มหนึ่งแล้วปามันกลับไปทางผู้ยิงอย่างสุดแรง

    “ไม่ได้ออกศึกนานชักรู้สึกว่าตัวฉันเหมือนกับขึ้นสนิมเลยแฮะ” กัซบ่นอุบอิบ

    “ขอโทษนะกัซข้า.. ” แคสก้าทำท่าเหมือนจะร้องไห้แต่กัซกลับโน้มศีรษะลงมาจูบใบหน้าของหญิงสาวไว้

    “น่า.. ไม่ต้องขอโทษหรอกน่า” กัซเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนที่หญิงสาวจะยื่นตัวขึ้นมาจูบอีกฝ่ายเช่นกัน

    “เฮ้ย..เฮ้ย…หวานจนมดจะขึ้นไข่แล้วน่าลูกพี่กัซ ทำอะไรเกรงใจคนอื่นซะบ้างเซ่” เสียงเด็กหนุ่มตะโกนร้องขณะที่เขากำลังรับมือกับปีศาจมิโนทอร์ตัวโตที่ถือขวานใหญ่อยู่

    “เออ.. รู้แล้วน่า..” กัซตอบอย่างรำคาญใจก่อนจะหันมาทางหญิงสาวผู้เป็นที่รัก

    “เธอกลัวไหมแคสก้า” 

    “ก็กลัวล่ะ.. นี่น่ะมันอาจจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของพวกเราเลยนะ” แคสก้าว่า​ “ถ้าเราพลาดทุกอย่างก็จะจบสิ้นหมด​ แต่ถ้าเราชนะความทุกข์ทรมานของผู้คนก็จะจบลงที่นี่” 

    “ถ้าเช่นนั้นก็มาพยายามไปด้วยกันเถอะ” กัซตอบ

    แคสก้ายิ้มตอบรับก่อนที่ทั้งสองจะจับดาบของตนขึ้นและมุ่งหน้าต่อสู้กับเหล่าศัตรูของตนต่อไป

    เสียงระเบิดดังกัมปนาทกึกก้อง​ แสงสีแดงเพลิงลุกโชนแผดเผาต้นไม้ลง​ เสียงโลหะกระทบกันดังกังวาน​ เสียงคำรามโห่ร้องของเหล่านักรบเพื่อปลุกใจในสมรภูมิอันรุนแรง

    กองพันเหยี่ยวดำได้บุกทะลวงไปถึงใจกลางกองทัพของศัตรู​ การต่อสู้ระหว่างมนุษย์และเหล่าอมนุษย์จึงทวีความรุนแรงขึ้น

    ไม่มีใครรู้หรือทราบเรื่องราวต่อจากนี้สมาชิกกองกำลังเหยี่ยวดำได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกับเศษซากสมรภูมิที่พังยับเยินซึ่งเต็มไปด้วยศพของเหล่าทหารจักรวรรดิ​ ไม่มีใครพบเห็นศพของราชากรีฟิซผู้ยิ่งใหญ่และเหล่าสมุนที่ซื่อสัตย์ของพวกมัน

    สงครามจบลง​ในท้ายที่สุดไม่มีใครทราบว่าชะตากรรมของทั้งสองเป็นเช่นไรบ้างก็ว่าพวกเขาตายตกตามกันไปจากการต่อสู้อันสุดหฤโหด​ บ้างก็ว่าพวกเขาหายสาปสูญจากการถูกเบื้องบนที่มีอิทธิพลสูงกว่าเข้าแทรกแซง​ ซึ่งจะเหตุใดไก็ตามก็สุดแล้วแต่จะคิดได้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น