ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหมือน(ไม่)​รัก

    ลำดับตอนที่ #20 : ระหว่างเรา : ช่วงกลาง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 517
      10
      7 พ.ย. 62



    มาแล้ว อ่านให้สนุกน้าาาาา ❤️❤️❤️❤️❤️


    “รับประทานอาหารเช้ากันอิ่มแล้วหรือคะ​ เป็นอย่างไรบ้างคะ​ กังวานเสียงแหบหวานดังขึ้นเมื่อมาถึง​ ขณะทุกคนพร้อมใจลุกกันหมด​ ผู้ช่วยงานแพ็คคู่เพิ่ง​เดินพาอุปกรณ์บางส่วนไปเก็บ​ ตวัดตามองมาทางหล่อนปราดเดียว​ โดยไม่คิดรอให้ใครได้ตอบอะไร นายแม่กรองผกากล่าวต่อเคร่งขรึม​ นี่บุปผาจะทิ้งคู่หมายทิ้งเพื่อนไปไหนหรือ

    หนูกำลังจะไปในไร่

    ไปทำไม​ ไม่ต้องหรอก​​ ไม่มีมารยาทเลยนะจ๊ะ ใช่แต่ถ้อยคำจะตำหนิ อีกทั้งดวงตาคมหวานนั่นด้วย

    ดื้อดึงผ่านสายตาแต่เพียงครู่​ อย่างไรก็ต้องจำยอม​ กลีบปากอิ่มขยับ 

    หนูบอกให้คำเกี๋ยงจัดเซตชาเป็นของฝาก​แก่ดาราฉาย​ คุณชายปาริวรรต​คุณหญิงรัตนาวดี​ และบอกให้ยี่เป็งจัดส้มสองลัง​ น้ำสองลังแก่คุณชายปาริวรรตกับคุณหญิงรัตนาวดี​ ไม่กล้ามอบอะไรไปมากกว่านี้ เกรงจะอึดอัดกันเสียเปล่า​ ๆ 

    ดีแล้วลูก ​ อีกฝ่ายยิ้มเห็นด้วย​  น้อยแต่พองาม ​ หันไปทางคุณชายปาริวรรตและคุณหญิงรัตนาวดี​ แล้วคุณน้าจะฝากไปให้ที่วังอีกทีผ่านทางขนส่งนะคะคุณชายคุณหญิง 

    อย่าลำบากเลยครับคุณน้า​ แค่นี้ผมก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว​ เอ่อคุณน้าครับ 

    คะคุณชาย ​ นัยน์ตากลมโตประสบการณ์ชีวิตเผยชัดตรงหางตาหลายเส้น​ฉายแววฉงน

    จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง​ หากคุณน้าจะบอกให้บุปผชาติสละเวลาให้ผมสักนิดก่อนผมจะกลับ เคร่งขรึมจริงจังในคำพูดกับหญิงวัยกลางคน​ ทว่ามองตรงมาทางหล่อน​ บีบคั้น​ 

    ประสานสบนัยน์ตาคร้ามคมชั่วอึดใจ​ ขณะคนอื่นพากันนิ่ง​ และเงียบ ปรายตามองแม่​ ท่านพยักหน้า​ ดึงสายตากลับมองชายหนุ่ม

    ถ้าคุณชายต้องการเช่นนั้น​ดิฉันกับคุณแม่หรือจะกล้าขัด​ อย่าว่าแต่เพียงนิด​ แม้กระทั่งจากนี้ไปจนกว่าคุณชายจะกลับดิฉันก็มีให้​ ดีเหมือนกันค่ะ​ เราจะได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว​เสียที​  

    เธอคงมีคำตอบเด็ดขาดอยู่ในใจแล้ว​  

    โต้กลับอย่างรู้เท่าทันระคน​ตัดพ้อ​ ใช่เขาตัดพ้อทันทีเชียว บุปผชาติอยากจะเสียมารยาทยกมือขยี้ตาแรง​ ๆ​ แล้วเพ่งมองเข้าไปในพลอยนิลเจียรนัยหม่นแสง​ แต่แววนั้นมันหายไปเสียแล้ว

    แต่เอาเถอะ​ บางทีเวลาน้อยนิดที่เหลืออยู่อาจจะทำให้เธอใคร่ครวญให้ถ่องแท้แน่นอนอีกครั้ง​ ว่าจะยืนกรานตามนั้น​หรือเปลี่ยนใจ​ เรื่องราวเราจะคุยกันตอนเวลา​สิบสองนาฬิกาสี่สิบห้านาที​ 

    ทำไมถึงไม่คุยเสียตั้งแต่ตอนนี้​ล่ะคะ​ ดิฉันกับคุณชาย 

    เพราะฉันรู้คำตอบของเธอ​ แต่ฉันยังไม่พร้อมจะรับฟังในเวลานี้​ ผมขอตัวก่อนนะครับคุณน้า ​ หันไปค้อมศีรษะกับนายแม่กรองผกา​ ตวัดตาไปทางน้องสาวกับอีกหนึ่งสตรี​ ชายหนุ่มพูดเรียบขรึม​  ขอเวลาเป็นส่วนตัวของพี่​ ห้ามใครรบกวนเข้าใจไหม

    ค่ะ ​ รับคำพร้อมกัน​ สองคนหันมองซึ่งกันและกันก่อนหันมาทางหล่อน​ 

    ผิดหวังวูบหนึ่ง​ ไม่เข้าใจวาววาบแต่เพียงชั่วขณะ​ คุณหญิงรัตนาวดีคลี่ยิ้มเฝื่อน

    ระแวงระวัง​ ฉายชัด​ระคนสมใจคราวนี้ไม่เร้นแอบ ประสานสบนัยน์ตาดาราฉายบุปผชาติตัดสินใจ

    ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ​ ดาราฉาย​ หากเธอสะดวก​  

    ฉันสะดวก​ แต่คุณน้ากับหญิงรัตนาวดีล่ะ ​ ปรายนัยน์ตาเฉี่ยวไปทางเพื่อนสนิท​ ก่อนเลื่อนไปทางนายแม่กรองผกาเผยยิ้มหยันตรงมุมปาก

    หล่อนไม่ใช่ลูกไม้หล่นใต้ต้น​ แต่ก็ไม่ได้กระเด็นกระดอนไปไกล

    กรีดลึกด้วยสายตาตอบโต้ชั่วครู่​ เจ้าบ้าน​เหยียดยิ้ม ก่อนจะหันไปทางคนวงนอก​ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนสีหน้าอารมณ์ซ่อนรอยตะเข็บ​  คุณหญิงรัตนาวดีมากับคุณน้าดีกว่าค่ะ​ จะได้ไม่เบื่อ​ 

    ค่ะ​คุณน้า ​ พยักหน้า​รับกับผู้สูงวัยวุฒิ​ ร่างสะโอดสะอง​ ใช้สายตากับหล่อนเชิงขอร้อง​ ส่วนกับอีกคน​ บุปผชาติไม่มั่นใจ​ 

    เธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันหรือ 

    เมื่ออยู่ตามลำพังสองคน​ ฟ้าสีคราม​ ตะวันผ่าวระอุ​สีเงินยวง ใบไม้หยักสีเขียวเข้มสดใส​ ดอกกุหลาบสีชมพูหวาน​ สนามหญ้า​ ต้นไม้​ ทิวเขา​ บ้านเรือน ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นโทนสีผ่าวร้อนตามห้วงสถานการณ์​ ​ต่างฝ่ายต่างไม่จำเป็นต้องสงวนท่าทีอันใดอีก​ คุณแม่ลูกแฝดล้วงกระเป๋ากางเกง​ 

    นี่ของเธอ​” แบมือ​​ เผยให้เห็นต่างหูดอกไม้ส่องประกายแสงระยิบระยับ  มันตกอยู่ใกล้ตู้ลิ้นชักหน้าห้องครัว​ 

    ฉันคิดแล้ว​ว่ามันต้องอยู่แถวนั้น​ ไอ้ค้างคาวบ้า ​ เอื้อมมือ​หยิบ​ หล่อนพลิกตัว​เยื้องย่างสง่างามออกนอกร่มเงา​ ก่อนจะชูต่างหูเล่นกับแสง​  เมื่อเช้าเธอทำแบบนี้ใช่ไหม​...แล้วก็แบบนี้ด้วย ​ 

    โยนคว้างคว้าหมับเลียนแบบไม่ผิดเพี้ยน​ ทว่าดาราฉายไม่ได้นำหลักฐานชิ้นสำคัญใส่กระเป๋าอาภรณ์​ กลับเอาไปทัดหู​ พลางปรายตายิ้มแสยะ​ ก่อนจะเชิดหน้า​มองหยันตรง​ ๆ​ 

    เธอใจเย็น​ และมักจะคิดอะไรในแง่ดีเกินไปบุปผา​ ต่อให้ฉันยังไม่ได้บอกอะไรท่านหญิง​ แต่เรื่องของเธอก็กระฉ่อนไปทั่วแล้ว 

    หมายความว่าอย่างไร” หญิงสาวเค้นเสียง​  

    หึ​ อยู่บ้านอกจนเคยชิน​ ต่อให้บ้านทิพย์วารีของเธอกับคุณน้าจะสะดวกสบายไปเสียทุกสิ่ง​ แต่ยังไงก็ยังเป็นบ้านนอก​ วิถีการดำรงชีวิตต่างกัน​ ถ้าเพียงแต่คุณชายจะไม่เป็นข่าวกับฉัน​ ก็คงไม่มีใครสนใจคนทำตัวเหลวแหลกจนท้องป่องอย่างเธอหรอก  

    นี่หมายความว่า​...” พยายามแล้วจะไม่แสดงออกให้อีกฝ่ายหลงระเริง​ ทว่าตาของหล่อนก็ยังอดเบิกกว้างไม่ได้​

    ใช่​ ฉันบอกให้ผู้จัดการส่วนตัวกระซิบนักข่าวรีทวีต​ และโหมประโคมในสื่ออื่นด้วย​ ต่อให้เธอไม่มีท่าทีอะไรกับคุณชาย​ แต่ความชะล่าใจเป็นวิถีของคนโง่เท่านั้น​ ดอกไม้ละมุนกลิ่นหอมเพียบพร้อมอย่าง​เธอ​ สุดท้ายมันก็ฉาวโฉ่กว่าดอกไม้เล็ก​ ๆ​ ไร้กลิ่น​ ไร้วงศ์สกุลอย่างฉัน” ยิ้มหยันกล้ำกลืนขืนความเจ็บปวด​ อีกฝ่ายเค้นเสียงลอดไรฟันต่อ​ ฉันอยากจะซับน้ำตาปลอบประโลมท่านหญิงเสียเหลือเกิน 

    ท่านย่าชุบเลี้ยงเธอมาอย่างดี รู้เต็มอก​ ยามท่านหญิงกนกเลขา​ละสายตาผินหน้าทางอื่น​ นัยน์ตาเฉี่ยวคู่นั้นมักเปิดความเปิดเผยความจงชังเสมอ​ หากก็ยังพยายามคิดในแง่ดี​ ​ 


    'คุณแม่ขา...' ขณะขมุบขมิบปากรำพึงอย่างยากลำบากและอ่อนระโหยแรง ราวลมหายใจกำลังเอื้อนเอ่ยโบกมือลา มันจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ถึงเวลานั้นก็คงไม่รู้สึกทรมานอีก ความประหวั่นพรั่นพรึงของเด็กหญิงลดน้อยถอยลง ตาพร่าเลือนพยายามเพ่งมองแสงสว่างส่องผ่านผิวน้ำจุดเล็ก ๆ นั่น

    ความเย็นเยียบผจญอยู่ ไม่ได้ก่อให้เกิดความหนาวสะท้านในหัวใจเช่นก่อนหน้า กลับกันมันอุ่นซ่านอย่างแปลกประหลาด เมื่ออัตราการเต้นของก้อนเนื้อตรงหน้าอกด้านซ้ายค่อย ๆ แผ่ว ความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว หากแต่สวยงามมากกว่าสิ่งใดพบมาในชีวิตทั้งหมด กลีบปากจิ้มลิ้มคลี่ยิ้ม

    ทว่าในห้วงยามเปลือกตาหนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ แขนขากำลังนิ่งและแข็ง ราวกับได้ยินบทเพลงไพเราะขับกล่อมดังมาจากที่ไกลแสนไกล พลันอีกเสียงหนึ่งของสติสัมปชัญญะอันน้อยนิดกู่ก้องบอกให้วิ่งตามหาที่มาของเสียง แรงฮึดเฮือกสุดท้ายส่งกำลัง แล่นริ้วซ่านกระจายทั่วทั้งร่าง ทั้งมือทั้งเท้ากระเสือกกระสนตะกุยน้ำ... 

     

    ดาราฉายไม่ใช่คนเลว​ ถ้าเลว​ อีกฝ่ายคงไม่ยื่นมือดึงหล่อนกลับมาจากความตาย ท่านรักและเอ็นดูเธอมากกว่าหลานในไส้อย่างฉันเสียอีก 

     รักและเอ็นดู แต่ไม่เคยให้ความเท่าเทียม​” เปล่งกังวานเสียงเฉียบ​ แววในดวงตาดั่งเพลิงร้อนแผดเผา​  ไพร่ในบ้าน​ ยังไงก็เป็นไพร่ในบ้าน ไม่ใช่ลูกไม่ใช่หลาน ​ 

    นั่นเป็นสิ่งที่เธอกับแม่ของเธอกดตัวเองให้ต่ำตมกว่าสิ่งปฏิกูลเหม็นเน่าต่างหากเล่า​ คำว่าไพร่ในบ้าน​ ฉันไม่เคยได้ยินท่านย่ากล่าวถึง​ เพราะท่านไม่เคยคิดว่าใครเป็นไพร่​ เป็นแต่เพียงคนในรั้วเดียวกันมีระดับขั้นตามครรลอง​ เช่นสังคมปกติทั่วไป 

    หึ​ คนเพียบพร้อมอย่างเธอพูดอะไรก็ได้ 

    คนเพียบพร้อมอย่างฉันครั้งหนึ่งเคยตกเป็นเหยื่อของแม่เธอมาก่อน​ จำไม่ได้หรือ​ ไพร่ที่ไหนจะสามารถกุมอำนาจรองลงมาจากผู้เป็นใหญ่ของบ้านถ้าไม่ใช่คนสนิท 

    คนสนิท​ หึ  นั่นเป็นแต่เพียงหน้าฉากที่เธอกับแม่ของเธอคิดไปเอง​ ถ้าท่านหญิงรักและไว้วางใจแม่ของฉันจริง​ ๆ​ ท่านคงไม่จับแม่ของฉันแต่งงานกับผู้ชายถึงสองคน​ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้แม่ของฉันไต่เต้าขึ้นเป็นสะใภ้ของท่านหรอก ​ 

    พูดกับเธอ​รังแต่จะเปล่าประโยชน์ ในเมื่อเธอบอกให้ผู้จัดการส่วนตัวของเธอกระซิบนักข่าวรีทวีต​ และโหมประโคมข่าวของฉันไปแล้ว​ ทำไมเธอไม่ปากสว่างกับคุณชายและคุณหญิงเสียด้วยล่ะ จะได้สมมาดตามปรารถนาของเธอ 

    หึ เธอไม่ได้รู้จักคุณชายอย่างที่ฉันรู้จัก​ และเธอไม่ได้สนิทกับหญิงรัตนาวดีเช่นที่ฉันสนิท  

    อ๋อ ​ ครางเสียงเหยียด​ เชือดเฉือนด้วยสายตา​ ก่อนจะหยามหยันซ้ำย้ำด้วยคำพูด​  “ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่ต่างกับแม่ของเธอ​ ทำไมไม่ยึดอาชีพนักแสดงเสียด้วยล่ะ 

    อีกฝ่ายเปล่งกังวานเสียงหัวเราะแจ่มใสยิ่งกว่าแสงแดดสว่าง​ ครั้นลมแรงพัดวูบ​ปะทะ เรือนผมปลิวลู่​ หล่อน​ยกมือจับปอยผมหลุดรุ่ยทัดใบหู​ ก่อนจะขยับริมฝีปากได้รูป​ ก็กำลังดู​ ๆ​ บทอยู่​ มีผู้จัดการหลายค่ายติดต่อมา ​ 

    ดีสำหรับตัวเธอแล้วนี่​ รายได้เพิ่มขึ้น​ จะได้เลิกรับเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนจากท่านย่าเสียที 

    ทำไมฉันจะต้องหยิ่งทรนงตัดช่องน้อย​ ถึงเงินนั่นจะไม่มากไม่มาย แต่มันก็ช่วยสร้างภาพให้ฉันได้อย่างดี​ เธอคงไม่รู้ว่าเศษเงินของท่านหญิงกนกเลขา​ ฉันบริจาคให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า​ ในนามของดาราฉายและคุณแม่ทุกเดือน 

    ใจจริงอยากจะขับไล่ไสส่งคนตรงหน้าเสียตอนนี้​ ทว่าป่วยการ​เปล่า อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็กำลังจะไป ยิ้มเอือมระอาแผ่ซ่านทั้งดวงหน้าของบุปผชาติ​

     

    ❤️❤️❤️❤️❤️






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×