ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อีกตัวตน

    ลำดับตอนที่ #4 : 第四集 |เหตุเกิดจากสิ่งเล็ก ๆ

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 64


     

    .

    .

    .

    .

    เหตุการณ์หลังจันทรากลับเรือนทาสไป เมื่อคืนวาน <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<,

    เรือนคุณพี่นิล

    “พ่อไม้ ออกมาได้แล้ว” พ่อไม้ที่หลบอยู่ห้องรับรองฝั่งซ้ายของคุณพี่นิลสะเดาะประตูออกมา หลังจากแอบสืบน้องจันทราแบบเงียบ ๆ “เมื่อครู่ เจ้าได้ยินฤาไม่ ?”

    “ได้ยินหมดเลยขอรับ แต่กระผมฟังไม่ค่อยถนัดตรงที่จันทราเริ่มท่องกลอนบท..ละครอะไรซักอย่างขอรับ”

    “แปลก เป็นบทละครที่แปลกหูแปลกใจข้าอย่างมาก ข้ายิ่งชักอย่างจะรู้ว่านักว่าคนชื่อจันทรากระไรเนี่ย ข้าตีสนิทแล้วข้ายิ่งรู้อะไรกับไอ้เจ้านี่มากขึ้น ข้ารู้สึกว่า….อาจจะไม่ใช่คนในพระนครของเรา”

    “กระผมคิดเช่นเหมือนที่พ่อนายคิดเลย ผู้ชายที่ไหนจะแต่งกลอนพรรณาได้แบบสด ๆ เยี่ยงนั้น อีกประนึ่งกลอนบทละครอะไรเนี่ย ไม่มีสัมผัสนอก สัมผัสใน แลทั้งครุและลหุ ต่างจากละครนอกมากเสียจริงที่กระผมกับพ่อนายเคยได้ยลชมเมื่อหลายปีก่อน”

    “แต่ข้าชอบนะ กลอนบทละครที่เจ้าจันมันพรรณนาเอาเสียขาแทบจะอดทนเสียไม่ได้ ยิ่งแปลกกว่านั้นมันเป็นบทละครของพวกผู้ชายที่เล่นสวาทกัน…”

    “เอ่อ….กลอนบทละครเล่นสวาทกันกระนั้นหรือขอรับ ?”

    “ใช่ ข้าฟังแล้วรู้สึกอยากฟังอีก อยากฟังมากกว่าละครในกรุงศรีที่มีแต่อะไรเดิม ๆ ข้าคร้านเอือมระทนกับของพวกนี้ จนอยากได้ของแบบใหม่เสียแล้ว แต่นั่น…ไม่ใช่เหตุหลัก ข้าอยากจะให้เจ้าจับตาดูไอ้เจ้านี่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะแน่ใจได้”

    “ขอรับพ่อนาย” พ่อไม้หน้าหวานผู้มีเอวคลอนลอนกล้ามเรือนหน้าท้องสวยสง่าพิศสมัยคลานเข่าออกไป เมื่อหมดหน้าที่การทำงาน ผู้เป็นนายนั่งอยู่บนตั่งกลางเรือน ใช้สายตามองไปไกล ๆ เพื่อนึกสำรับเย็นที่ได้ร่วมทานกับทาสคนแรก

    อรุณสวัสดิ์ พระพายพัดยามเช้า เจ้าจันตื่นทำงาน ตัวไม่คร้านขี้เกียจ

    ข้าทาสเบียดแต่เช้า เพราะไม่อยากงานเข้า ท่าน้ำจึงเติม หมู่คน 

    ร่ายสุภาพ และ โคลงสองสุภาพ

     

    “ท่าน้ำเต็มเร็วว่ะ เมื่อวานยังไม่เห็นเต็มเลย…” จันทราผ่อนเรือนอกหินผา เรือนกายกำยำล่ำสันแกร่ง หัวไหล่พาดผ้าเช็ดตัว โพกท่อนส่วนล่างด้วยโจงกระเบนยาวถึงตาปลารแบบระบายอากาศโล่ง ๆ สำหรับอาบน้ำอาบท่า จู่ ๆ พ่อไม้ก็เดินดุ่ม ๆ เข้ามาพูดทักทายแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงแต่หัววัน

    “ยังไม่เต็มได้อย่างไรพ่อจัน พ่อจันตื่นตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น แลนี่ก็เข้าเดือนลมว่าว ตอนเช้าดวงตะวันจะโผล่ขึ้นจากขอบฟ้าช้าเสียหน่อย” ลมว่าว หรือ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ จะเริ่มพัดในเดือนสิบ เป็นอากาศที่พัดพาความหนาวเย็นจากจีนมายังกรุงศรีอยุธยา อากาศจะหนาวที่สุดในเดือนปลายเดือนสิบสองจนถึงเดือนอ้าย

    แสดงว่าวันก่อนที่ไปท่าน้ำแล้วไม่มีคนนี่คือ…… ตื่นสายเหรอกู….

    ดีนะนายนั่นเขาไม่เฆี่ยนกู เกือบหลังลายแล้วมั้ยไอ้ห่าจัน

    “ไปเขียนนิยายเล่นดีกว่า…”

    “อ้าว ๆ ไม่อาบน้ำอาบท่าแล้วฤาพ่อ” พ่อไม้หันตามจันทราที่เดินลั้นลาตัวปลิวกับไปที่เรือนทาส และเกาหัวเป็นลำดับถัดมา

     

    สนธนาท่าน้ำหน้าเรือน

    อยากรู้ฤาไม่ว่าข้าหลงรักผู้ใด ?

    ผู้ใดหรือขอรับคุณพระ ?

    เจ้าเดินไปข้างหน้าสองก้าว…. ถอยหลังสี่ เขยิบห่างจากข้า…. เขยิบเข้ามาใกล้หน้าอกข้า

    นายทาสคนสนิทของคนพระค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าใกล้แบบช้า ๆ เพราะคนต้องหน้าเป็นเจ้าเป็นนาย ยศรั้งตำแหน่งออกพระ จนในที่สุด อกที่แน่นจนแทบระเบิดเพราะนมทั้งสองข้างแข็งจากมวลมัดกล้ามเนื้อนั้นค่อย ๆ แตะกัน ยอดปลายเขาไกรลาศสีดำทั้งสองของผู้เป็นนายแลสีชมผูหวานขัดข้ามนั้นได้ชนแตะกัน คุณพระผู้นั้นใช้มือจับไปที่ไหล่แกร่งขาวผ่องใสของผู้เป็นบ่าวคนสนิท แลพูดคำว่า

    “เขาผู้นั้นเขาคือคนที่เอาปลายหัวนมมาชนที่หัวนมของข้าอย่างไรเล่า รู้ฤาไม่”

    นายทาสผู้นั้นค่อย ๆ เผยยิ้มเหนียมอายออกมาจนไม่เป็นเนื้อเป็นตัว ขาค่อย ๆ ถอยหลัง เพราะผู้เป็นนายใหญ่ของเรือนโน้มลำตัวแกร่งเข้ามา จนเขานั้นตกน้ำตกท่า ผู้เป็นคุณพระเองก็ตกน้ำตกท่าไปพร้อมกับนายทาสผู้เป็นที่รักยิ่ง

    ข้านี้ทาสหนุ่มหนียากมากกว่าเดิม เพราะผู้เป็นนายล็อกตัวเขาเอาไว้ แลอยู่ในน้ำยิ่งหนีอยากกว่าคราอยู่บนบก ปลายปากกระกบลงเบียดเสียด แลกไออุ่นแลสอดสิ้นเข้าไปในโพรงปากของกันและกัน ฝ่ายนายทาสตอนแรกก็ทำเป็นห้ามปรามผู้เป็นนาย แต่ผู้เป็นนายนั้นทำให้เคลิ้มไปเสียก่อน จึงห้ามใจไม่ทันเสียแล้ว…..

    ลายมือนั้นเวลาเขียนโดยใช้ปากกาขนนกของพ่อจันก็ไม่ต่างกับปากกาลูกลื่นในสมัยกระโน้น มันใช้งานลำบากตรงที่ต้องคอยจิ้มหมึก ๆ บ่อยครั้ง แต่ก็ยังมีดีตรงที่ขวดหมึกที่ผู้เป็นนายให้มาใช้ทั้งปีทั้งชาติจะหมดหรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้

    “โอ๊ย แม่ย้อยเขินโว้ยยยยยยยยยย” เสียงอาการเขินอายทุ้ม ๆ ลั่นไปทั่วบริเวณจนถึงเรือนใหญ่ ทั้งทาสแลนายสดุ้งตกกะใจกันพักใหญ่ เมื่อคุมสติกับเสียงอาการเขินอายทุ้ม ๆ ได้จึงทำธุระของแต่ละคนต่อไป

    จันทราเดินออกจากเรือนทาสเพราะว่าตอนนี้พระอาทิตย์เริ่มทอแสงรำไร ซึ่งทาสในเรือนน่าจะอาบน้ำกันไปเยอะ เมื่อเขาเดินออกไป พวกทาสทั้งหนุ่มและสาวมองมาที่เขาพร้อมกับหัวเราะหัวใคร่คนที่ทำเสียงดั่นไปทั่วอาณาบริเวณ เขาเกาหัวให้หายจากอาการอาย ก่อนจะเดินไปอาบน้ำอาบท่าที่ท่าน้ำ

    เสียงดังขนาดนั้นเลยเหรอวะ อายเลยกู….

    .

    .

    .

    .

     

     

    โรงกระดาษ ข้างเรือนใหญ่

    “วันนี้ประเดี๋ยวข้าจะสอนเจ้าพายเรือ”

    “เห้ยจริงดิ !!….จริงหรือขอรับ”

    “จริง พายเรือไม่ยากหรอก ถ้าตั้งใจ”

    เพียงไม่กี่วันจันทราเริ่มชินกับการงทำงานในที่แห่งนี้ จันทราหยิบม้วนกระดาษจำนวนสิบมวนใหญ่ลงหีบกำปั่นเพื่อเตรียมไปส่งเรือนอีกฝากของแม่น้ำ เป็นเรือนของขุนนางคนหนึ่ง โดยวันนี้ที่คุณพี่นิลอาสาสอนเจ้าจันพายเรือได้ ก็เพราะเรือนนั้นอยู่ไม่ไกลเหมือนคราไปเขตพระราชฐานเมื่อวันก่อน จึงทำให้ทั้งคู่จริงไม่ต้องรีบร้อนไปส่งกระดาษ

    ทั้งคู่ค่อย ๆ หย่อนก้นลงบนเรือ โดยตำแหน่งการนั่งเรือเหมือนกับวันก่อน โดยคุณพี่นิลนั่งด้านหลังเรือ ส่วนเจ้าจันนั่งอยู่ตรงหน้าของคุณพี่นิล และหีบกำปั่นที่อยู่ด้านหน้าของจันทรา

    “เมื่อปลดเชือกออกจากเรือแล้วนั้น ให้ใช้ไม้พายค่อย ๆ จ้วงน้ำ โดยจ้วงเข้าหาตัวเรือ และงัดไม้ออกทางด้านข้าง แต่ถ้าจ้วงอย่างเดียวและไม่งัด เรือก็จะวนอยู่แบบไหนไม่ต้องทำมาหากินกันไปเสีย”

    อ๋ออ…. เห็นภาพตอนพวกเพื่อนไอ้นาคพายเรือวนสามรอบ เพราะแม่งรีบจ้วงกันอย่างเดียว ไม่ได้งัดออกจากตัวเรือกันนี่หว่า ถึงว่า…

    จันทราค่อย ๆ ทำตามที่พ่อนิลบอกสอน ตอนนี้เจ้าจันยังไม่ชินแรงดันของน้ำที่กระทำต่อไม้พาย แม้จะร่างแกร่ง อกแน่น แต่ก็ยังไม่ชินกับแรงดันของน้ำ

    กูยกเวทมาได้สิบกว่าโลที่ว่าแน่ แต่กูมาแพ้น้ำว่ะ โคตรหนักเลย กว่าจะได้แต่ละที แต่ไม่เป็นไร พายบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชินแรง

    “อย่าลืมเปลี่ยนไปซ้ายทีขวาทีนะ อย่าพายแต่ด้านเดียว” จันทรากุลีกุจอเปลี่ยนข้างในการพายไปทางด้านซ้ายจากที่พายข้างขวามาซักประเดี๋ยวหนึ่ง 

    “มานี่มา….” คุณพี่ ค่อย ๆ เอื้อมตัวโน้มเขามาจนชิดแผ่นหลังแกร่งของเจ้าจันทรา หารู้ไม่ว่าอีกคนนั้นหูแดงจนบานเป็นดอกกุพชกะดังวรรณคดีเรื่องมัทนะพาธาเสียแล้ว แต่เจ้าจันก็ไม่ได้ตอบโต้ทั้งการกระทำและคำพูดออกไป ปล่อยให้คุณพี่อกใหญ่จับมือทำไปอย่างดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น เมื่อนั้นสายตาวาวทั้งสองจ้องประกบสายนัยน์กันอยู่นาน จนคนที่สัญจรเรือผ่านไปมาโดยเฉพาะอีแรมกับอีนิ่ม สตรีวายสายสวาทคู่หูนิ่มแรมในพระนครคู่เดิมพายเรือมาปะกับเรือทั้งสองคนอีกครา

    “อีนิ่มมึงดู ๆๆ กูม้วยมรณาแล้วมึงเอ๊ยยยยยยย”

    “อะไรอีกอีแรม มึงนั่งให้มันนั่งให้มันดี ๆ ประเดี๋ยวก็ตกน้ำตกท่าหรอก ไหนมีอะไร” อีนิ่มมองตามที่อีแรมเกลอสาวที่สนิท และภาพตรงหน้าคือ คุณพี่อกใหญ่กำลังจับมือเจ้าจันพายเรือไปอย่างช้า ๆ “ว้าย ตาเถรยายชีตีกัน !! นั่นมัน….คู่นั้นนิอีแรม ใช่ฤาไม่วะ !!?” อีนิ่มเมื่อบ่นอีแรมได้ไม่นาน ก็ต้องสะดุ้งเขินแก้มแดงราวกับผลมะเขือเทศ

    “กูว่าพ่อสองคนนี้เขามีใจให้กันแน่เลย กูไม่นึกว่ากูจะได้เจอพ่อสองคนนี้อีก คราแรกแค่พายเรือคู่กัน คราสองอีกคนจับมืออีกคนพายเรือ อ๊ากกกกกกก กูสู่วิมานละอีนิ่ม”

    “เห้ ! พ่อหนุ่มสองคนนั้น ได้ยินข้ามั้ย ?”

    คุณพี่นิลอกใหญ่เมื่อได้ยินพวกนางทั้งสอง ก็ค่อย ๆ ปล่อยไม้พายเรือเบา ๆ ส่วนอีกคนนั่งแข็งเป็นจระเข้หน้าแดงที่ถูกกลายเป็นรูปปั้นโบราณวัตถุชิ้นหนึ่งก็ไม่ปาน “?”

    “พ่อสองคน……เหรอจ๊ะ ?” อีนิ่มอีแรมม้วนตัวเขินจนเรือโคลงเคลง จนเกือบตกน้ำตกท่า

    “เปล่าดอก ข้าสอนไอ้นี่มันพายเรือ มันเป็นคนงานในเรือนข้า มันพายเรือไม่เป็น”

    “อ่าาาาาาาาา เป็นอย่างนี้เสียนี่ ข้านึกเสียว่า…..อั้ย ไม่พูดดีกว่า” คุณพี่นิลโปรยยิ้มที่เหมือนจะไม่ยิ้มบนใบหน้าของคุณเขาให้นางทั้งสอง ก่อนสองนางนิ่มแรมเกลอตัวดีจะพายเรือผ่านพ้นไป

     

    “ฮือ… พายเรือได้แล้วฤาไม่ ?”

    “เอ่ออ….”

    “มัวแต่ทำแชเชือน มา..ประเดี๋ยวข้าสอนเจ้าอีกรอ --”

    “กระผมพายเรือเป็นแล้วขอรับ” จันทราหันไปมองคนที่ตอนแรกโน้มลำตัวอกใหญ่เข้ามา แต่ต้องผละตัวกลับไป

    “ฝึกบ่อย ๆ อกจะได้ใหญ่ขึ้น”

    !!! 

    กูอกใหญ่ ก็ชอบบอกว่ากูอกเล็กจริง ๆ ทำไม..ตอนเด็กมีปมเรื่องหน้าอกไง !!

    นั่น ๆ ชิ ! ยังมาหัวเราะใส่กูอีก นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นบ่าวเป็นลูกน้อง กูด่าแบบไม่เกรงใจละ

    .

    .

    .

     

     

     

     

    เมื่อนั้นตะวันตกร่วงสู่พสุธา ดวงจันทรายกตัวสูงขึ้นเวหา พึ่งอาบน้ำได้เสร็จมา ลงปากกาตัวอักษรบนใบขาว……

    ทุก ๆ ก่อนนอนจันทรามักจะเขียนไดอารี่ก่อนนอนทุกคืน แม้ตัวจะอกแกร่ง กล้ามใหญ่ ปกป้องใครก็ได้ แต่ก็ยังเป็นผู้ชายสายนักเขียนอยู่ดี ก็เพราะเขาชอบเขียนมาตั้งแต่เด็ก เขียนได้ไม่มีวันเบื่อ จริง ๆ จันทรานั้นแต่งกลอนได้หลายแบบ หลายบท แต่ก็ไม่เคยได้แต่ง เพราะเขานั้นไม่เคยแต่งจบได้ซักบทเลยซักครั้ง

     

    วันนี้ไอ้พ่อนายนั่นมันจับมือกูพายเรือด้วย แถมมันยังล้อกูว่าอกกูเล็ก ร่างกูกับมันก็ใหญ่โตโอฬารพอ ๆ กัน ทำไมมันชอบแหย่กูเรื่องอก แม่งมีปัญหากับอกกูเสียจริง

    เอ่อ….แล้วกูก็พึ่งรู้ว่า สาววายแม่งมีมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณละ เปิดโลกทัศน์ชิบหายเลย…..

    จันทรา….

    กี่โมงไม่รู้ เพราะไม่มีนาฬิกาว่ะ ปฏิทินก็ไม่มีบอก

     

    ลายมือเขาเวลาเขียนด้วยปากกาขนนกนั้นเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ก็ยังคงลายมือแบบคนสมัยยุคของจันทราเอาไว เขายลมองไดอารี่ของวันนี้ ยิ้มหวานไปมา ซึ่งไม่รู้ว่าเขายิ้มออกมาได้อย่างไร เขาคงบอกตัวเองว่า จะเขินทำไม เขินทำไมกัน….

    จากนั้นจันทราก็เสียบปากกาขนนกลงในถ้วยน้ำหมึกสีดำทมิฬ พร้อมวางแผ่นกระดาษที่พึ่งเขียนไปลวก ๆ เพราะตอนนี้เขาเอามือปิดปากอาการหาวหวอ จันทราไม่ได้ใช้อะไรทับกระดาษไดอารี่ใบนั้นไว้ ในตอนนี้จันทราปู่เสื่อและผ้าบาง ๆ เตรียมตัวห่มนอนเข้าสู่ห้วงนิทรา โดยหารู้ไม่ว่า กระดาษแผ่นนั้นซึ่งเป็นไดอารี่ ขึ้นชื่อว่าไดอารี่นั่นคือเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน แต่เมื่อกระดาษไดอารี่่แผ่นนั้นปลิวออกจากตัวเรือนมุงจาก ลอยฟุ้งผ่านพร่างกาศไปจนถึงเรือนของใครบางคนผู้เป็นเจ้านายของจันทรา กระดาษใบนั้นกระทบลงบนพื้นตั่งกลางเรือน ในขณะที่จันทราตอนนี้จันทรากำลังอาบน้ำอยู่บนเรือน

    ซ่า ซ่า ซ่า 

    เสียงน้ำกระทบลงบนพื้นดังซาบซ่า ก่อนที่คุณหน้าอกใหญ่จะโพกผ้าขาวหมา และผ้าเช็ดหน้าพาดไว้ตรงไหล่แกร่ง เดินเข้าไปในหอนอนของตัวเองซักชั่วประเดี๋ยว ก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดโจงกระเบนที่ทรงคล้ายกางเกงวอร์มสมัยใหม่ แต่ยังคงรูปโจงกระเบนเอาไว้ เปลือยกายหยาบท่อนบน ผมกึ่งเปียกกึ่งแห้ง รัดด้วยที่รัดเอว เดินเข้ามาที่ตั่งกลางเรือเพื่อจะยกตะเกียงเข้าไปในหอนอน แต่ก่อนที่ลำขาใหญ่จะก้าวเดินลงจากตั่งกลางเรือน ก็สดุดตาเข้ากับใบกระดาษที่พึ่งเฉียดหางตาของคุณพี่อกใหญ่เมื่อชั่วครู่ จนต้องฉายตะเกียงกลับไปจนเจอกระดาษ

    เมื่อนั้นคุณพี่นิลอกแกร่งของเราถือกระดาษแผ่นนั้นเดินเข้าไปในหอนอน ภายในหอนอนของคุณพี่นิลนั้นมีหีบกะปั่นเสื้อผ้า หีบกำปั่นกระดาษ และฟูกนอนสีขาวขนาดนอนได้สองคนตั้งอยู่กลางห้องหอนอน ข้างฟูกนอนสีขาวบริเวณฝั่งซ้ายคือทวารหน้าต่าง ที่ตอนนี้กำลังเปิดอากาศและแสงจันทร์ที่วันนี้ไม่ได้เต็มดวง คุณพี่นิลวางตะเกียงไว้ตรงหัวนอน และนอนคว่ำบนฟูกสีขาว ยลมองไดอารี่แผ่นนั้นของบุคคลปริศนาของเขา

     

    วันนี้ไอ้พ่อนายนั่นมันจับมือกูพายเรือด้วย แถมมันยังล้อกูว่าอกกูเล็ก ร่างกูกับมันก็ใหญ่โตโอฬารพอ ๆ กัน ทำไมมันชอบแหย่กูเรื่องอก แม่งมีปัญหากับอกกูเสียจริง

    เอ่อ….แล้วกูก็พึ่งรู้ว่า สาววายแม่งมีมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณละ เปิดโลกทัศน์ชิบหายเลย…..

    จันทรา….

    กี่โมงไม่รู้ เพราะไม่มีนาฬิกาว่ะ ปฏิทินก็ไม่มีบอก

    “หึ…หืม ?” คุณพี่นิลอ่านได้เพียงไม่กี่คำกี่ตัวอักขระอักษร ก็รู้แล้วว่าผู้ใดเป็นคนเขียน

    เขียนถึงตัวกูโดยขึ้นมึงเขียนกู หึ ไม่เคยเห็นผู้ใดกล้าเขียนหยาบกับเจ้ากับนายว่ะ แปลกดี…..

    คุณพี่นิลไม่ได้มีอารมณ์โหโหพาลพาโลกับผู้เป็นเจ้าจัน เพราะเขาแค่ตกใจและหัวเราะในลำคอกับไดอารี่เจ้าจัน ที่กล้าเขียนแสดงความรู้สึกของตนได้มากขนาดนี้

    ไอ้จันมันเอามาวางไว้ หรือมันปลิวลมมาวะ….

    สภาพแบบนี้หรือวะจะปลิวมา เรือนก็ห่างตั้งไกล

    แต่คุณพี่อกแกร่งสะดุดคำหลายคำในประโยคตัวอักษรหลายคำในนี้…

    สาววาย…. กี่…โมง… นาฬิกา…. ปฏิทิน…..

    “ภาษาอะไร เขียนไม่รู้ความ….” สีหน้าขมวดคิ้วจนเป็นเครื่องหมายอนันต์เป็นรอยขึ้นมา “หรือว่า…” 

    ไม่ ไม่ หวังว่าคงจะไม่ใช่หอกข้างแคร่ก็แล้วกัน ถ้าใช่…กรุงศรีวิบัติฉิบหายแน่

    คุณพี่นิลที่ใช้มือหนาจับกระดาษเอาไว้ในตอนแรก ที่มีรอยยิ้มปนความเอ็นดูของเจ้าจัน แต่ความเคลืองแคลงในใจก็ก่อกำเนิดขึ้นมาฉับพลัน มือหนาจับกระดาษจนกระดาษถูกทำให้เปลี่ยนรูป นิ้วมือที่สะท้อนแสงจากตะเกียง ในตอนแรกเป็นผิวสีน้ำผึ้งแทน กับขึ้นเป็นสีชมพูแดง เพราะแรงกดกำกระดาษหนักขึ้น

    หวังว่าคงไม่ใช่พวกไส้สึกที่เข้ามาบุกตามบ้านดอกนะ กูอุส่าห์ช่วยเหลือให้มีข้าวมีปลาให้กิน มีงานการให้ทำ ดูแลอย่างดี หวังว่ากูคงไม่เลี้ยงหนอนเอาไว้ในพระนครดอกนะ ถ้าเป็นจริง กูยังบอกอีกรอบ ว่ากูไม่ปล่อยเอาไว้ให้มันลามบานปลายแน่……

    แผ่นกระดาษเป็นเหตุจากพระพาย แลลางร้ายเริ่มก่อตัวเตรียมผลาญเผา รอดหรือไม่หามิคาดเดา คงต้องเฝ้าติดตามตอนต่อไป….


     

    ไรท์ว่าบางครั้งเรื่องร้าย ๆ ก็เกิดจากสิ่งเล็ก ๆ แม้กระทั่งกระดาษแผ่นเดียว นับประสาอะไรกับฝุ่นผง ที่อาจจะทำอันตรายกับตัวคุณได้ อาทิเช่น ฝุ่นพีเอ็มทูพ้อยท์ไฟว์ ที่ทำร้ายดวงตาและปอด

     

    อัพช้าหน่อยนะทุกคน ห่างกันเกินอาทิตย์นึงเลย บางวันมัวแต่เรียนออนไลน์ และการบ้านสารเลวหลายงานที่ distract ไม่ให้ไรท์มาแต่งนิยายได้ หรือบางทีไรท์ก็แอบไปไถ TikTok ดูคลิปวีดีโอชายชาย ติดตามข่าวการเมือง และก็ไปอ่านนิยายคนอื่น ๆ บ้าง จนบางทีก็ลืมแต่งนิยายของตัวเองไปเลย แต่ไรท์บอกรีดเดอร์ทุกคนนะครับ เราจะอยู่ไปด้วยกันจนถึงตอนอวสานนิยายเรื่องนี้นะ

     ร่างใหญ่ ร่างบาง ร่างหนา ร่างสูงได้ แต่อย่าร่างนานนะ เพราะรีดมารอไรท์ที่ท่าน้ำทุกวันเลย

    เอ๊ะ ! ประโยคคุ้น ๆ 555555555

     

    TBC >>>

    ลงเมื่อวันที่ 19 / 06 / 2564 เวลา 01.18 น.

    แก้ไขครั้งที่ 1 : ยังไม่มี

    __________________________________________________________

    ฝากติดแฮชแท็กน้อย ๆ ในทวิตเตอร์ด้วยนะครับ 

    #อีกตัวตน มาพูดคุยมโนสาเร่กัน 

    ไรท์จะเปิดแท็กอ่านตลอดเรื่อย ๆ นะครับ ทุกคำติชม คำวิจารณ์ทุกคำไรท์จะเก็บไว้พินิจพิจารณาทุกคำนะครับ และรบกวนไม่ใช้คำหยาบคาย หรือคำด่าทอที่หยาบคายนะครับ

     

    นามปากกา : SriRunhn (ศรีรันหณ์) 

    Twitter : teerarunhn

    E-mail : teerapatthanakit@gmail.com (ติดต่องาน)

    Facebook Fanpage : SriRunhn 
    (เพิ่งสมัคร เพจมันว่าง ๆ อยู่นะ ยังไม่ได้โพสต์หรืออัพเดตอะไร5555 อยากติดตามสามารถติดตามได้นะ)

     

     

    อ่านวันละนิด ลดความเสี่ยงการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้นะ =)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×