HISTORIA: ยุทธการสงครามกองทัพประวัติศาสตร์แห่งฮิสโธเรีย

วันที่ 21 มีนาคม ค.ศ.2037 ณ จักรวรรดิโลกคู่ขนานในระหว่างการซ้อมรบของนักเรียนครีกส์โธเรียในช่วงฤดูใบไม้ผลิ กองทัพจากจักรวรรดิต่างโลกนามว่า "IMPERIUM" ได้ยกทัพโจมตีแบบสายฟ้าแลบใส่เมืองหลวงและเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศ ในเวลาเพียงไม่ถึง 5ชั่วโมง กองทัพชาติต่างๆได้ถูกทำลายไปถึง 50% จนเกือบหมดสภาพ

กองกำลังเดียวที่ยังยืนหยัดต่อสู้กับผู้รุกรานจากต่างโลกคือกองกำลังนักเรียนติดอาวุธเพื่อยุทธกีฬาทางทหาร "ครีกส์โธเรีย" ซึ่งทั้งหมดเป็นนักเรียนทหารจากโรงเรียนนายร้อยประถม, โรงเรียนนายร้อยมัธยม, และมหาวิทยาลัยเสนาธิการทหารได้ร่วมมือกันระดมทุกๆสรรพกำลังที่มีเข้าต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดนบ้านเกิดของแต่ละคน แต่ด้วยจำนวนที่น้อยนิดบวกกับความขัดแย้งกันเองภายในระหว่างฝ่ายอนุรักษ์นิยมกับฝ่ายรักชาติรุ่นใหม่ก็ได้ส่งผลให้ในเวลาไม่นานแนวรบของนักเรียนเหล่านี้ต้องพังทลายลงในเวลาไม่นานนัก

ทว่าความหวังของพวกเขาเหล่านี้ก็ยังไม่สูญสิ้น เมื่อได้มีกองทัพนิรนามจากห้วงเวลาในประวัติศาสตร์ได้ปรากฏตัวขึ้นทุกๆสนามรบทุกๆแนวรบ พวกเขาต่างจับอาวุธและร่วมต่อสู้กับเหล่านักเรียนครีกส์โธเรียขับไล่ศัตรูผู้รุกรานจากต่างโลกไปได้

และเพื่อสร้างอำนาจทางการทหารใหม่ให้แข็งแกร่งและพร้อมรับมือกับภัยจากต่างโลกจึงได้มีการก่อตั้งกองทัพแนวร่วมต่อต้านแห่งกองทัพประวัติศาสตร์และกองกำลังนักเรียนครีกส์โธเรียขึ้นมา กองทัพประวัติศาสตร์จึงถูกสถาปนาขึ้นมาและได้มีการระดมกองทหารประวัติศาสตร์ที่กระจัดกระจายจากทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อทำสงคราม 

ในขณะเดียวกันได้มีการพบดินแดนต่างโลกที่ชื่อ “ฮิสโธเรีย” เมื่อกองเรือรบประวัติศาสตร์และกองเรือรบครีกส์โธเรียกำลังทำการสำรวจดินแดนอยู่ พวกเธอจึงได้เป็นตัวแทนในการเจรจาเจริญสัมพันธไมตรีเพื่อหาพันธมิตรใหม่ในการทำสงครามกับกองทัพจักรวรรดิต่างโลก

บัดนี้มหาสงครามครั้งใหม่ได้อุบัติขึ้นแล้วระหว่างฝ่ายพันธมิตรแห่งกองทัพประวัติศาสตร์กับกองทัพสหพันธมิตรแห่งจักรวรรดิต่างโลก

นิยายเรื่องนี้ไรท์มีเปิดบน ReadAWrite ด้วย ลิ้งค์: https://www.readawrite.com/a/7f3c026f8bd4f5d9b6d75d94a1b3a312

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้ถูกเขียนขึ้นเพื่ออวยหรือเชิดชูกองทัพหรือประเทศใดประเทศหนึ่งในโลกใบนี้และในโลกสมมุติที่ถูกสร้างขึ้นในนิยายเรื่องนี้ หากแต่เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่ถูกหันหลังและหลงลืมไปกับกาลเวลาที่มาพร้อมกับคำถามของผู้เขียนที่ว่า "จะเป็นอย่างไรหากเราหันหลังให้กับประวัติศาสตร์ หากมนุษย์ได้ปฏิเสธที่จะศึกษาเรื่องราวในอดีตแล้วสนใจแต่จะก้าวไปข้างหน้าโดยไม่สนกลับมาดูบทเรียนในอดีตของตน แล้วถ้าเกิดในอนาคตอันใกล้ประวัติศาสตร์ได้หวนกลับมาในรูปแบบของสงครามที่เกือบจะทำให้โลกนี้พบกับอวสานอีกครั้ง"