คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #53 : บทเรียนที่ 48 ประกายแสงของโล่และดาบ
บทเรียนที่ 48 ประกายแสงของโล่และดาบ
“ ในเมื่อผู้เข้าแข่งขันจากโรงเรียนฮิงะที่เหลืออยู่ไม่สามารถสู้ต่อไปได้ ดังนั้นจึงถือว่าทีมิราเคิล จากโรงเรียนอับดุล อินเตอร์เป็นฝ่ายชนะในรอบนี้ไป ” ชายนักประกาศหน้านิ่งกล่าวก้อง
วาที่นั่งอยู่ข้างซาซาไรไม่ได้สนใจเรื่องชัยชนะของทีม หรือแม้กระทั่งสภาพที่ดูอิดออดของตัวเองเลยแม้แต่น้อย เขารีบวิ่งตรงไปยังเวทีเพื่อดูอาการของทั้งดีว่า และโซเฟีย
“ เฮ้ๆ ไหวไหม ” วาเขย่าตัวดีว่า
โซเฟียประหลาดใจที่จู่ๆวาก็โผล่พรวดมา แต่ก่อนที่จะถามว่าหายไปไหนมานั้น เธอก็รีบบอกให้วาช่วยกันประคองตัวดีว่าขึ้นมาก่อน
“ สงสัยจะหมดสติเพราะใช้พลังปราณเมื่อสักครู่นี้แน่เลย นายช่วยประคองไปส่งห้องพยาบาลก่อนนะ ” กล่าวจบเธอก็รีบวิ่งไปดูอาการทางฝั่งโคทาโร่ที่หมดสติไปเช่นกัน
“ คุณโคทาโร่ ” มาซาซึมุที่ลุกขึ้นมาได้แล้วกำลังเขย่าเรียกโคทาโร่
“ คงแค่หมดสติน่ะ ” โซเฟียกล่าวปลอบ “ นายช่วยประคองเขาไปที่ห้องพยาบาลก่อนก็แล้วกันนะ ”
มาซาซึมุเงยหน้ามองโซเฟียพร้อมส่ายหน้า “ ไม่คิดเลยว่าพวกนินจาเงาอัคคีจะมีวิชาฝีมือที่โหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ”
โซเฟียที่ได้ยินหัวเราะแหะๆ
“ แต่ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ ความมีน้ำใจของพวกเจ้านินจาเงาอัคคีกลับน่าสรรเสริญยิ่งนัก ขอบคุณมากๆ ” มาซาซึมุก้มหัวคาราวะ ซึ่งโซเฟียที่ห้ามไว้ไม่ทันก็ต้องตามน้ำก้มหัวรับเป็นการขอบคุณไป “ หากตอนยุคสมัยของ ฮัตโตริ ฮันโซมีพวกเจ้า นินจาเงาอัคคีเข้าร่วมด้วยแล้วละก็การสังหารโนบุนากะก็คง
”
‘ หมอนี่ท่าจะเป็นเอามาก ’
“ อืม ขอโทษด้วยนะ ข้านี่พล่ามเพ้ออะไรก็ไม่รู้ ” มาซาซึมุเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว ยื่นมือมาให้แก่โซเฟีย “ ตอนนี้ข้าก็คงจะพูดได้แค่ว่า พวกเจ้าเก่งมาก และก็สนุกมากที่ได้มีโอกาสมาประลองด้วยกัน หวังว่าปณิธานอันแน่วแน่ของพวกเจ้าที่จะกอบกู้เงาอัคคีจะช่วยให้พวกเจ้าโชคดีในการแข่งรอบต่อๆไปนะ ”
‘ ก็บอกแล้วยังไงว่าไม่ใช่นินจาเงาอัคคี ’ โซเฟียยิ้มแหย่งๆ จับมือตอบ
หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างก็ช่วยกันพาเพื่อนร่วมทีมของตนไปยังห้องพยาบาล โดยมาซาซึมุมีนักเรียนนินจาอีกคนมาช่วยประคองตัวโคทาโร่ไปด้วย ซึ่งมองๆดูแล้วนักเรียนนินจาที่น่าจะเป็นรุ่นน้องคนนั้นดูท่าจะเพี้ยนกว่ามาซาซึมุเสียอีก เพราะร้องไห้ครวญครางไม่หยุดเลยทีเดียว
ระหว่างที่โซเฟียกำลังเดินไปยังห้องพยาบาลโดยมีวาเป็นคนช่วยประคองตัวดีว่า และซาซาไรที่ตามมาด้วยนั้น วาที่เดินผ่านทางแถวห้องพักนักกีฬาปิงปองก็เหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้
“ แย่แล้วสิ ”
“ มีอะไร ดีว่าเป็นอะไรไปงั้นหรอ ?! ” โซเฟียที่เหน็ดเหนื่อยจากการแข่งอยู่ตกใจตาม
“ เปล่าๆ ” วาหัวเราะ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียด “ เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้มีการแข่งปิงปองอยู่น่ะ แล้วก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มไปนานแล้วด้วยสิ ”
ถึงจะกล่าวเช่นนั้นแต่วาก็รู้ว่าการที่จะทิ้งดีว่าที่อาการไม่ค่อยดีอยู่ แล้วหนีไปดูการแข่งปิงปองก็ออกจะดูใจดำไปหน่อย แต่ถ้าพลาดดูการแข่งครั้งนี้เขาก็คงจะต้องเสียใจไม่น้อยเลยทีเดียว นั่นก็เพราะว่านี่เป็นการแข่งระหว่างสองคู่เอก (ในความคิดของวา) เลยก็ว่าได้
ใช่แล้วนั่นคือการแข่งระหว่างโรงเรียนบริงเกอร์ และโรงเรียนเรนครอส ซึ่งมีสองนักปิงปองที่เขาสนใจเป็นอย่างมาก คือ วิสด้อม และไลร่านั่นเอง
ดาบอัคคีทมิฬ และโล่น้ำแข็งแห่งแสงกำลังต่อสู้กันอยู่ !
ซาซาไรที่สังเกตเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของวาออกก็แย้มยิ้มขึ้น
“ กำลังคิดมากอยู่สินะครับ ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปดูการแข่งปิงปองที่เคยเล่าให้ฟังก่อนเถอะครับ ทางนี้เดี๋ยวผมจะเป็นคนดูแลให้เอง ”
“ มันจะดีหรอครับมาสเตอร์ ” วากล่าวอย่างเกรงใจ
“ รีบไปเถอะครับ ก่อนที่จะต้องเสียใจภายหลัง หนี้ในครั้งนี้ก็ขอค่าตอบแทนเป็นการตั้งใจสู้ให้เต็มที่ในการประลองแทนก็แล้วกันนะครับ ”
วารีบก้มหัวกล่าวขอบคุณซาซาไรในทันที
“ เฮ้ นั่นนายจะไปไหนน่ะ ” โซเฟียที่ยังปะติดปะต่อเรื่องไม่ถูกถามขึ้น แต่ไม่ทันจะรู้ตัวก็ถูกวาดึงแขนให้ตามไปด้วยเสียแล้ว
พร้อมด้วยรอยยิ้มทิ้งท้ายจากซาซาไรที่ทำหน้าที่ประคองตัวดีว่าแทน
“ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ตามคุณวาไปดูการแข่งให้สนุกเถอะครับ ”
“ นี่นายหายไปไหนมา แล้วทำไมถึงต้องรีบไปดูขนาดนี้ละ ” โซเฟียพยายามถาม แต่ดูเหมือนว่าวาไม่ว่างจะตอบคำถามนั้นเลย เขากำลังรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุด
“ เรื่องนั้นเดี๋ยวไว้จะเล่าให้ฟังทีหลังก็แล้วกัน ” วากล่าวพร้อมก้มดูนาฬิกาข้อมือ นี่เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วหรือเนี่ย ถ้าอย่างนั้นไลร่ากับวิสด้อมได้แข่งกันรึยังนะ แล้วผลจะออกมาเป็นยังไง ขอให้ไปทันทีเถอะ
วานึกถึงภาพใบหน้าไลร่าเมื่อคืนวานที่ชวนให้ตนเองไปเชียร์การแข่งครั้งนี้ให้ได้ เขาไม่อยากจะคิดภาพเลยว่าหากไลร่าเกิดแพ้ขึ้นมา แถมยังรู้ว่าตนเองนั้นไม่ได้ไปดูการแข่งของเธอจะถูกเคืองขนาดไหน
“ เธอว่าถ้าเกิดโล่ที่ปกป้องได้ทุกสิ่ง สู้กับดาบที่สามารถทำลายได้ทุกอยาง ฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายชนะหรอ ” จู่ๆวาก็ถามโซเฟียขึ้น อาจเป็นเพราะต้องการจะสงบอารมณ์ของตนลงก็ได้
“ ก็คงจะพังทั้งคู่ละมั้ง ถามแปลกๆนะ ไม่สบายรึเปล่าเนี่ยนายน่ะ ” โซเฟียตอบตามประสา
ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีทางเป็นอย่างนั้นแน่นอน แต่ก่อนที่วาจะคิดหาคำตอบอะไรต่อไปนั้น เขาก็มาหยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่ที่เมื่อเปิดเข้าไปแล้วก็จะพบคำตอบในทันที
วากลั้นหายใจก่อนที่จะผลักประตูปราสาทนั้นเข้าไปยังห้องแข่งปิงปอง
เมื่อมองไปยังสกอร์บอร์ดก็พบว่า ทีมโรงเรียนบริงเกอร์กำลังเสมออยู่กับโรงเรียนเรนครอส โดยผลัดกันชนะหนึ่งแพ้หนึ่ง และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ตัวแทนคู่สุดท้ายจะมาแข่งขันกันเพื่อตัดสินผลแพ้ชนะ ซึ่งตัวแทนคู่สุดท้ายนั้นก็ต้องเป็นไลร่ากับวิสด้อมโดยไม่ต้องสงสัย
วาดีใจมากที่ได้มาทันดูการแข่งขัน เขารีบพาโซเฟียเดินไปยังที่นั่งที่ใกล้การแข่งให้ได้มากที่สุด โดยที่ไม่ได้สนใจที่จะมองหาพวกพรีสไซ โซลีนหรือแม้แต่ลมดำเลยแม้แต่น้อย เพราะการแข่งที่กำลังจะเกิดขึ้นที่เบื้องหน้าของเขานั้นได้ดึงดูดความสนใจทั้งหมดของเขาไปเสียแล้ว
วิสด้อมที่เขาเองเคยได้เห็นฝีมือในการเล่น คนที่แม้แต่ลมดำก็ยังสู้ไม่ได้ หรือแม้กระทั่งตัวของเขาเองยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ กับไลร่าที่เคยได้ซ้อมมือมาด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถตีชนะได้เลยแม้สักลูกเดียวนั้น ใครกันที่จะเป็นฝ่ายชนะ
“ เฮ้ ระวังหน่อยนะ คู่ต่อสู้ของนายเป็นคนที่เรียกได้ว่าสุดขั้วกับนายเลยละ หล่อนไม่เคยปล่อยให้ใครได้แต้มเลยแม้สักแต้มเดียวนะ ” คิงสตั้นกล่าวเตือนวิสด้อม
“ จะเป็นคู่ต่อสู้แบบไหนชั้นก็ไม่ประมาทอยู่แล้วละ ” วิสด้อมเด็กหนุ่มแว่นฟ้าจอมกวนกล่าว ซึ่งโทโมะที่นั่งอยู่ข้างๆคิงสตั้นก็ส่ายหน้าแสดงอาการว่า ‘ไม่จริง’ ออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ จะแพ้ก็ไม่ว่าหรอกนะ เพราะทางนั้นก็เป็นถึงคนที่ได้ฉายาว่า สุดยอดแห่งการตั้งรับ โล่ห์น้ำแข็งแห่งแสงเลยนี่นะ แต่ถ้าไม่เล่นให้มันจริงจังละก็นายโดนแน่ ” โทโมะพูดเหมือนเช่นทุกครั้งที่วิสด้อมจะแข่ง ซึ่งคำพูดนั้นแทนที่จะทำให้วิสด้อมใจเย็นขึ้น กลับคล้ายเป็นฉนวนจุดไฟให้กับวิสด้อมเสียมากกว่า
“ รู้แล้วน่า โล่น้ำแข็งแห่งแสงงั้นรึ ” วิสด้อมขยับแว่นขึ้น แสงไฟสะท้อนจนไม่เห็นประกายตา “ แต่ชั้นเป็นคนที่ได้ฉายาว่า ดาบอัคคีทมิฬเชียวนะ ”
จากนั้นก็เดินไปยังโต๊ะโดยไม่สนคำกล่าวของโทโมะหรือคิงสตั้นที่ว่าให้ตนเองถอดเหล็กถ่วงน้ำหนักที่ข้อมือออกเสียก่อน
“ สู้ๆนะค่ะรุ่นพี่ ” เด็กสาวรุ่นน้องทีมเดียวกันกับไลร่าให้กำลังใจ
“ อืม ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ว่าเป็นห่วงเรื่องนั้นจะดีกว่านะ ” ไลร่ากล่าว
“ ค่ะ เรื่องนั้นหนูฝากให้เพื่อนจัดการให้แล้วค่ะ ” เด็กสาวรุ่นน้องยิ้ม
ไลร่าเมื่อได้ยินก็อุ่นใจ จากนั้นก็เดินไปยังโต๊ะปิงปองโดยที่หล่อนก็ยังไม่ได้ถอดเสื้อคลุมสีน้ำเงินที่ผูกอยู่ออกแต่อย่างใด ซึ่งก็เหมือนกันกับทุกครั้งที่แข่ง
ขณะที่กำลังเดินไปยังโต๊ะปิงปองนั้นสายตาของหล่อนก็กวาดมองผ่านเจอวาพอดี ซึ่งก็เห็นวาชูกำปั้นให้ หล่อนโค้งหัวยิ้มกลับเป็นการให้สัญญา
เมื่อทั้งสองคนก้าวมายืนหยุดตรงข้ามโต๊ะก็คล้ายบังเกิดรังสีกดดันขุมหนึ่งแผ่ออกมา เป็นความกดดันที่วาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน ทางหนึ่งคือวิสด้อมที่ดูเหมือนจะไฟร้อนจนเครื่องติดแล้ว ราวกับดาบปีศาจที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่ง ส่วนทางด้านหนึ่งคือ ไลร่าที่ดูสงบเยือกเย็น แถมยังไม่มีท่าทีกดดันเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงกระนั้นวาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จริงอยู่ที่แม้ว่าไลร่าจะไม่เคยเสียลูกให้แก่ใครเลยแม้แต่ลูกเดียว แต่ฝีมือในการตบลูกกลับไปของวิสด้อมนั้นก็ใช่ว่าจะประมาทได้
“ ผ้าคลุมไหล่นั่นจะไม่ถอดออกจริงๆหรอ ” วิสด้อมเริ่มกล่าวอย่างจริงจัง
ไลร่ายิ้มพลางส่ายหน้า
“ ประมาทไปแพ้มาก็อย่าหาว่าไม่เตือนก็แล้วกันนะ ” โทโมะที่ได้ยินแทบอยากจะวิ่งไปซัดกำปั้นใส่หัววิสด้อม แต่ติดตรงที่อยู่ในระหว่างกำลังจะทำการแข่งแล้ว
“ ขอบคุณนะที่เป็นห่วง แต่ชั้นไม่เคยประมาทคู่ต่อสู้มาก่อน ปลอกแขนที่คุณใส่อยู่นั่นต่างหากที่กำลังบอกว่าคุณกำลังประมาท ” ไลร่าตอบกลับอย่างสงบสมกับที่เป็นหล่อน แต่นั่นกลับยิ่งทำให้วิสด้อมเครื่องร้อนยิ่งขึ้น
“ ชั้นไม่ได้ประมาทหรอก แต่มันไม่จำเป็นจะต้องถอดออกต่างหาก ”
นั่นละที่เรียกว่า ประมาท !
วิสด้อมที่เป็นฝ่ายทายหัวเหรียญถูกจึงเลือกฝั่งแทนที่จะเลือกเสิร์ฟจากนั้นก็กล่าวดังๆขึ้นกับกรรมการ
“ ผมขออนุญาตใช้กฎพิเศษครับ จะขอตัดสินการแข่งกันในลูกเดียว ” นั่นทำให้กรรมการมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย เพราะไม่มีการใช้กฎแบบนี้มาก่อน
“ ขอโทษด้วยนะ แต่ไม่มีการขอใช้กฎแบบนี้ ” กรรมการซึ่งเป็นอาจารย์วัยกลางคนกล่าว
“ ถ้าอย่างนั้นก็แย่น่ะสิครับ ถ้าผมเกิดชนะฝั่งนั้นแม้แต่ลูกเดียวผมก็คงจะหมดสนุกแล้ว เพราะพอทำลายฉายาโล่ห์น้ำแข็งแห่งแสงลงได้แล้ว ก็คงเหมือนเล่นกับคนธรรมดาไม่เห็นจะน่าสนุกตรงไหนเลย ”
กรรมการที่ฟังข้ออ้างที่ยังไงก็ฟังไม่ขึ้นนั้นก็กล่าวเตือนวิสด้อมทันที เพราะหากขืนยังประพฤติตัวที่ถือว่าเป็นการกล่าวยั่วคู่แข่งขันจะโดนใบเหลืองในทันที แต่ขณะที่กำลังกล่าวตักเตือนอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงนุ่มเสียงหนึ่งกล่าวขึ้นว่า
“ ได้ค่ะ หนูขอรับคำท้านั้น ” วาก็ได้ยินแทบจะไม่อยากเชื่อหูของตนเองว่าไลร่าที่สงบเยือกเย็นจะยอมรับขอเสนออันบ้าบิ่นของวิสด้อม
“ จริงอยู่ที่ว่าไม่มีการใช้กฎแบบนี้ แต่ถ้าหากสองฝ่ายตกลงกันได้ และอาจารย์แต่ละโรงเรียน หรือตัวแทนโรงเรียนไม่ขัดข้องก็สามารถใช้กฎพิเศษได้ใช่ไหมละค่ะ ที่สำคัญการแข่งแบบลูกเดียวก็ไม่ใช่กฎพิเศษที่น่าเกลียดแต่อย่างใดนิค่ะ ”
“ ต้องให้มันได้อย่างนี้สิ ถึงจะสมเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าสนใจหน่อย ” วิสด้อมยิ้มย่อง
ซึ่งหลังจากกรรมการได้ทำตรวจสอบความสมัครใจของตัวแทน และอาจารย์ของแต่ละโรงเรียนโดยฝั่งโรงเรียนบริงเกอร์นั้นโทโมะถึงจะไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะเสียเปรียบกว่าในด้านของความประมาทของวิสด้อมที่มีอยู่เต็มร้อย แต่ด้วยความที่รู้นิสัยของวิสด้อมเป็นอย่างดีว่ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุจึงต้องยอมอนุญาตไป ส่วนทางโรงเรียนเรนครอสอาจารย์ประจำโรงเรียนที่ได้ยินข้อเสนอของวิสด้อมก็เกิดเลือดร้อนขึ้นมาจึงอนุญาตให้ตกลงในทันที ก็สรุปออกมาได้ว่า การแข่งรอบนี้จะใช้กฎพิเศษคือ จะตัดสินกันด้วยผลจากการแข่งเพียงลูกเดียวเท่านั้น
หลังจากที่ประกาศกฎพิเศษออกไปนั้นเสียงเชียร์ ระคนกับเสียงพูดคุยด้วยความฉงนของผู้คนรอบห้องก็ดังขึ้นทันที บางคนก็คิดว่าเป็นการดีเหมือนกันจะได้รู้กันเลยว่าใครแน่กว่าใคร บางคนก็คิดว่าออกจะเป็นความคิดที่บ้าบิ่นไปเสียหน่อย
โดยส่วนตัวของวาเองก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งหากเปลี่ยนเป็นตัวเขาเองแล้ว เขาคิดว่าเขาไม่มีทางตกลงตัดสินกับวิสด้อมด้วยลูกเพียงลูกเดียวแน่ ทั้งนี้เพราะเขารู้สึกไม่มั่นใจนั่นเอง
คนที่เอาชนะลมดำได้ไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน
ยิ่งคิดวายิ่งรู้สึกเป็นห่วงไลร่าขึ้นมา แต่ตอนนี้สิ่งที่วาทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือการเชื่อมั่นในตัวของไลร่าเท่านั้น
นี่นับว่าเป็นการแข่งโดยมีศักดิ์ศรีของฉายาเป็นเดิมพันจริงๆ
“ ชั้นให้เธอเป็นฝ่ายเสิร์ฟก็แล้วกัน เพราะชั้นเป็นฝ่ายเลือกทั้งกฎแล้วก็ฝั่งแล้ว ” วิสด้อมโยนลูกปิงปองให้แก่ไลร่า ซึ่งเธอก็รับได้อย่างแม่นยำ
“ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เกรงใจละนะ ” ไลร่าสะบัดผ้าคลุมสีน้ำเงินไปด้านหลังอย่างสง่างาม จากนั้นแบมือที่มีลูกปิงปองอยู่ตามท่าเสิร์ฟมาตราฐานออกก่อนที่จะโยนลูกปิงปองขึ้น
และแล้ววินาทีแห่งการตัดสินเริ่มขึ้น เมื่อไม้ปิงปองในท่าจับแบบแบคแฮนด์ถูกเสิร์ฟออก
ลูกปิงปองกระเด้งข้ามตาข่ายไป แม้จะไม่เรียกว่ารวดเร็วนัก แต่ก็ไม่ถึงกับเชื่องช้า ทั้งยังแฝงพลังสปินเล็กน้อยด้วย
วิสด้อมไม่ลังเลแม้แต่น้อย เมื่อลูกปิงปองอยู่ในตำแหน่งก็ตวัดไม้ตบออกไปในทันที
ลูกปิงปองพุ่งกลับด้วยความเร็วสูง แม้จะดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแต่ทว่าก็ถูกไลร่าที่ตั้งไม้รอรับไว้อย่างสงบโต้กลับไปได้ราวกับเป็นเรื่องง่ายดาย
‘ Reflect Shield ’
ลูกปิงปองกระเด็นกลับไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไลร่าไม่จำเป็นต้องออกแรงเลยแม้แต่น้อย เพราะแรงตบจากวิสด้อมนั้นเพียงพอที่จะใช้สวนกลับได้อยู่แล้ว
นับว่าเป็นหนึ่งในอาวุธที่ไลร่าใช้จัดการกับคู่ต่อสู้ที่ชอบตบลูกใส่เธออย่างได้ผลอันหนึ่งเลยทีเดียว
พริบตาที่ลูกปิงปองกระเด้งกลับมาด้วยความเร็วสูงวิสด้อมก็ตวัดไม้ออกในทันที ไม้ปิงปองตวัดโดนลูกปิงปองเข้าเต็มเปาแม่นยำราวจับวาง หากเปลี่ยนเป็นคู่แข่งคนอื่นๆที่ไลร่าเคยสู้ด้วยแล้วละก็ โดนสวนกลับด้วยลูกตบของตัวเองด้วยความเร็วขนาดนี้ก็ไม่สามารถรับได้แล้ว
แต่ไลร่าไม่มีเวลาให้คิดถึงเรื่องอื่นนอกจากลูกตบความเร็วสูงที่พุ่งกลับมาชนิดที่หากไม่ตั้งสมาธิตั้งรับให้ดีๆละก็จะต้องผ่ายแพ้แน่นอน
พริบตานั้นไลร่าสวนลูกตบแรงสูงกลับไปได้เหมือนเช่นเคย หากเป็นคนดูที่ไม่ได้เชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยก็คงไม่ลุ้นสักเท่าไหร่ แต่หากเปลี่ยนเป็นคนที่กำลังเชียร์ไลร่าอยู่เช่นเดียวกับวาแล้วละก็ วาคิดว่านี่เป็นการแข่งที่น่าหวาดเสียวที่สุดเท่าที่เขาเคยดูมาเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่นับรวมกับตอนที่ตัวเองแข่งกับซิลเวอร์แล้วเกือบจะรับลูกไม้ตายครั้งสุดท้ายของซิลเวอร์ไม่ได้
วาแทบจะลืมหายใจเมื่อเห็นวิสด้อมตบกลับไปแต่ละลูก เขายอมรับเลยว่าความแม่นยำในการตบลูกของวิสด้อมสูงกว่าตัวเองมาก แต่เท่าที่ผ่านมาสองลูกก็พบว่าวิสด้อมนั้นเพียงแค่ตบกลับไปตรงๆเท่านั้นยังไม่ได้พลิกแผลงอะไรเลยแม้แต่น้อย
หรือว่าวิสด้อมจะสามารถตบกลับได้เพียงแค่ลูกตรงๆเท่านั้น ?
ไม่ใช่แน่นอนเพราะวาเคยได้เห็นลูกตบอันน่าสะพรึงกลัวตอนที่วิสด้อมโต้ลูกไม้ตายของลมดำกลับไปได้ด้วยท่าตบแบบพิสดารนั่นแล้ว
เพราะฉะนั้นนี่คงเป็นเพียงแค่สัญญาณที่บอกว่า ทุกอย่างแค่กำลังเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง
การแข่งขันที่แทบจะหยุดลมหายใจของคนดูนั้นยังคงดำเนินต่อไปโดยที่ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย
ดาบอัคคีทมิฬที่จ้องจะทำลายทุกสิ่งก็โจมตีโล่น้ำแข็งแห่งแสงที่พร้อมจะปกป้องทุกสิ่งด้วยลูกตบความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ถูกโต้กลับไปได้ทุกลูกราวกับว่าไม่มีอะไรที่จะทำลายป้อมปราการน้ำแข็งแห่งนี้ลงได้เลยแม้แต่น้อย
การโต้ตอบระหว่างทั้งสองคนดำเนินต่อไปด้วยความรวดเร็วโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงเมื่อไหร่ นับลูกตบของวิสด้อมที่ผ่านมาก็ปาเข้าไปห้าหกลูกเข้าแล้ว
ขนาดแม้แต่โซเฟียที่ไม่ค่อยสันทัดด้านปิงปองเมื่อได้มาเห็นแล้วยังอดทึ่งไม่ได้ สมแล้วที่เป็นคู่ที่ทำให้วาอยากจะมาดูให้เห็นกับตาได้ถึงขนาดนี้
“ สมแล้วที่ได้ชื่อว่าโล่น้ำแข็งแห่งแสง การตั้งรับใช้ได้เหมือนกันนี่ ” วิสด้อมกล่าวขณะตบลูกออก
“ คุณเองที่ได้ฉายาว่า ดาบอัคคีทมิฬก็คงจะไม่ได้มีเพียงแค่นี้หรอกจริงไหม ” ไลร่าโต้กลับลูกตบความเร็วสูงไปได้อย่างสบายๆเช่นทุกครั้ง
“ หึหึ แน่นอนอยู่แล้ว ”
ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลยนะวิสด้อม
กล่าวจบวิสด้อมก็ง้างไม้ปิงปองไปด้านหลัง จากนั้นตวัดไม้ขึ้นตีออกด้วยลูกท๊อปสปินความแรงสูง
ลูกท๊อปสปินความแรงสูงพุ่งข้ามตาข่าย จากนั้นเมื่อสัมผัสกับโต๊ะก็ดีดตัวออกอย่างรวดเร็วและทรงพลัง
ในพริบตานั้นไลร่าก็เปลี่ยนท่าจากการตั้งรับที่ผ่านมาเป็นจับไม้ด้วยท่าแบคแฮนด์ (หลังมือ) พร้อมตวัดไม้ตบลูกท๊อปสปินนั้นกลับไปโดยไม่มีท่าทางหวั่นเกรงว่าลูกจะกระเด็นหลุดออกจากโต๊ะเลย (ปกติลูกท๊อปสปินจะเหมือนลูกสองจังหวะคือหลังจากสัมผัสกับโต๊ะแล้วลูกจะเหมือนหยุดอยู่วูบหนึ่งก่อนที่จะกระเด้งออกตัวต่อ ซึ่งมีความแรงสูงมาก หากตั้งรับด้วยหน้าไม้ที่ไม่ได้มุมพอแรงที่ได้รับจากลูกจะทำให้ลูกกระเด็นออกแบบคุมทิศทางไม่ได้ ถึงขั้นกระเด็นออกนอกโต๊ะเลยก็ได้ ดังนั้นหากคิดจะตบลูกท๊อปสปินกลับจำเป็นต้องอาศัยการควบคุมแรง และการตั้งหน้าไม้ให้ตรงมุมอย่างเชี่ยวชาญที่สุด เพราะถือว่าเป็นหนึ่งในลูกที่ค่อนข้างอันตรายมาก แถมการตบลูกท๊อปสปินนั้นการใช้ด้านแบคแฮนด์ยังยากกว่าการใช้ด้านโฟว์แฮนด์เสียอีก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้เล่นด้วย)
ลูกท๊อปสปินความเร็วสูงพอๆกันกระเด้งกลับไปยังวิสด้อมทันที ถ้าหากนี่ไม่ใช่เกมที่ตัดสินกันด้วยลูกเพียงลูกเดียวแล้วละก็วาคงจะรู้สึกหายใจได้สะดวกกว่านี้มาก เพราะลูกตบที่โต้ตอบกันแต่ละลูกเรียกได้ว่า เป็นสุดยอดแห่งการรุกและรับจริงๆ
วาเช็ดเหงื่อเม็ดโป้งที่ไหลผ่านแก้มของเขาไป ทั้งๆที่อากาศภายในห้องหนาวขนาดนี้แท้ๆแต่การแข่งครั้งนี้กลับทำให้วาเหงื่อตกได้นับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับตัวของวาเองแล้วก็รู้สึกเหมือนเพิ่งเห็นการแข่งที่ดุเดือดแบบนี้เป็นครั้งแรก ถึงกับลุ้นยิ่งกว่าตอนดูลมดำแข่งเสียอีก
ไม่ว่าวิสด้อมจะตบไปด้วยลูกอะไร ไลร่าก็จะโต้ลูกประเภทเดียวกันกลับไปได้ราวกับเป็นกระจกเงา หากสองคนนี้ฝึกซ้อมปิงปองด้วยกันบ่อยๆคงจะเป็นคู่ซ้อมที่สมน้ำสมเนื้อกันไม่ใช่น้อย
ประกายแสงของโล่และดาบกำลังเชือดเฉือนกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเองคงไม่อาจเชื่อได้ว่านี่เป็นการแข่งกันเพียงลูกเดียวเท่านั้น เพราะรวมเวลาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มการแข่งมานี่ก็ปาเข้าไปห้านาทีกว่าๆแล้ว ทั้งยังโต้กันด้วยความเร็วขนาดนี้ น่าจะโต้กันเกินร้อยลูกไปได้แล้ว เล่นเอาคนดูเหนื่อยแทนไปตามๆกัน
‘ ชักเริ่มเหนื่อยแล้วสิ ’ วิสด้อมที่เอาแต่รุกอยู่ฝ่ายเดียวเริ่มมีเหงื่อซึมผ่านกรอบแว่น
จริงอยู่ที่ว่าเวลาเล่นเพียงห้านาทีไม่น่าจะทำให้คนอย่างวิสด้อมเหนื่อยได้ง่ายๆ แต่ที่เหนื่อยอาจจะเป็นเพราะต้องทนรับความกดดันที่ตีพลาดไม่ได้เลย ทั้งยังด้านฝั่งนั้นตั้งแต่เล่นมาก็ดูเหมือนจะไม่มีจุดอ่อนเลย
ยิ่งตบลูกไปแรงเท่าไหร่ ความรุนแรงที่ได้รับกลับมาก็ยิ่งรุนแรงเท่านั้น ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่ทำให้วิสด้อมรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
หรือดาบอัคคีทมิฬที่อ้างตนว่าสามารถทำลายได้ซึ่งทุกสิ่งจะไม่สามารถทำลายกำแพงป้องกันของโล่น้ำแข็งแห่งแสงไปได้จริงๆ ?
‘ ชิ ตั้งรับได้ทุกลูกอย่างนั้นหรือ ’ วิสด้อมเริ่มฉุนขึ้นมาเมื่อลูกตบทุกลูกที่พยายามตบไปไม่สามารถอะไร ไลร่าได้เลย ‘ มันจะไปมีคนแบบนั้นอยู่ได้ยังไงกัน ชั้นคนนี้ละจะเป็นคนทำลายให้ดู เพราะชั้นคือคนที่ตบลูกที่ทุกคนไม่สามารถตั้งรับกลับได้ยังไงละ ’
พริบตานั้นวิสด้อมตั้งรับลูกท๊อปสปินของไลร่าด้วยท่าแบคแฮนด์ โดยเพียงแค่อาศัยแรงจากลูกที่ไลร่าตีมาเพื่อสะท้อนกลับจากโจมตีเท่านั้น แรงของลูกปิงปองที่เด้งกลับจึงไม่รุนแรงเช่นทุกครั้ง
และในจังหวะที่ลูกปิงปองเด้งกลับไปหาไลร่านั่นเอง
‘ ปัก ปัก ’
แท่งเหล็กท่วงข้อมือของวิสด้อมก็ถูกปลดออกด้วยความรวดเร็ว นี่คงแสดงให้เห็นว่าวิสด้อมยอมรับในตัวของไลร่า และกำลังจะเอาจริงเพื่อเผด็จศึกในครั้งนี้ให้ได้แล้ว
แต่ไลร่าก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้สูญเปล่า เมื่อวิสด้อมไม่ตบลูกกลับทำให้เป็นการเปิดโอกาสให้ไลร่าเปิดเกมรุกอย่างเต็มตัวได้เป็นครั้งแรก
ไลร่าอาศัยจังหวะที่ลูกปิงปองพุ่งกลับมาอย่างธรรมดา เอียงไม้ด้านแบคแฮน์ดอย่างได้มุมที่สุดก่อนที่จะตวัดเฉียงๆออก ส่งลูกลูกพุ่งตัดโค้งจากซ้ายของฝั่งหล่อนข้ามตาข่ายโค้งไปยังฝั่งขวามือของวิสด้อม
‘ ฟ้าว ! ’
ช่างเป็นลูกโต้กลับที่น่ากลัวจริงๆ ลูกตัดความเร็วสูงที่เรียกได้ว่าเป็นการเปิดการโจมตีอย่างเต็มตัวของไลร่าลูกแรกเมื่อสัมผัสโต๊ะก็กระเด็นพุ่งออกไปด้านขวาในทันที
รับไม่ทันทีเถอะ ขอให้รับไม่ทันทีเถอะ วานั่งลุ้น
แต่พริบตานั้นเงาร่างของวิสด้อมจากด้านซ้ายของโต๊ะก็วิ่งตามลูกปิงปองไปอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยการตวัดไม้ตบลูกตัดความเร็วสูงกลับโดยไม่กลัวว่าลูกจะสูญเสียทิศทางหลุดออกแต่อย่างใด
การโต้กลับอย่างคาดไม่ถึงของวิสด้อมนี้แทบจะทำให้ทุกคนหยุดลมหายใจ
รวดเร็ว และทรงพลัง
เมื่อลูกตัดถูกตบกลับไปตรงๆ การหมุนของลูกที่ยังคงมีอยู่ โดยที่ไม่ได้รับการตัดหมุนกลับไปอีกด้านยังคงอยู่ เมื่อบวกเข้ากับแรงลูกจากการตีของวิสด้อมที่ปลดแท่นเหล็กถ่วงน้ำหนักแล้ว ยิ่งเสริมพลานุภาพของลูกโต้กลับนี้ให้น่ากลัวเกินกว่าจะบรรยายได้
ลูกปิงปองที่ถูกตบอย่างหนักหน่วงพุ่งกลับไปอย่างไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ หากไม่ใช่วิสด้อมเป็นผู้ตบออกแม้แต่วาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีใครที่ตบลูกแบบนั้นลงโต๊ะได้ราวกับมีเวทมนต์
เมื่อวิสด้อมปลดที่ถ่วงน้ำหนักออกมาแล้ว พลังของดาบอัคคีทมิฬที่แท้จริงก็ถูกปลดออกมา
แล้วอย่างนั้นโล่น้ำแข็งแห่งแสงจะยังสามารถตั้งรับได้อีกหรือไม่ ?
‘ ฟึ่บ ’
ไลร่าเอียงไม้ด้านแบคแฮนด์อย่างได้มุม จากนั้นตวัดเบาๆอย่างไม่ลังเล คล้ายรู้อยู่แล้วว่าลูกจะตบลงมายังทิศทางนี้
ผ้าคลุมสีเงินไสวไปตามแรงลมดูสง่างามงามยิ่งนัก
ลูกตบพลังแรงสูงที่แฝงทั้งพลังตัดด้วย ถูกไลร่าที่เพียงสบัดไม้เบาทำให้สิ้นฤทธิ์เด้งหมุนกลางอากาศข้ามตาข่ายไปอย่างแผ่วเบา
กลายเป็นลูกหยอดที่น่าสะพรึงกลัวในทันที !
วิสด้อมที่ไม่ทันตั้งตัว และไม่คาดคิดว่าจะโดนสวนกลับด้วยลูกแบบนี้ ถึงกับต้องรีบสับขาดีดตัวไปยังมุมซ้ายซึ่งถูกหยอดในทันที
แต่ทว่าไม่ทันการณ์เสียแล้วลูกตัดหยอดนั้นกระเด้งลงบนโต๊ะครั้งหนึ่งก็ดีดตัวตกไปยังด้านข้างของโต๊ะทันที
‘ ยังไม่จบแค่นี้หรอก ’ วิสด้อมกัดกรามจากนั้นตวัดไม้ด้วยท่าแบคแฮนด์ออกยังลูกที่หล่นจนเกือบจะถึงพื้นแล้วอย่างไม่ลังเล
พริบตานั้นลูกปิงปองพุ่งหมุนตัวขึ้นจากใต้โต๊ะไปยังฝั่งซ้ายของไลร่าในทันที ราวกับปีศาจที่กลับขึ้นมาจากขุมนรก
ระหว่างที่วากำลังตั้งหน้าตั้งตาดูวินาทีแห่งการตัดสินนั้น จู่ๆที่เบื้องหน้าก็มีหญิงสาวท่าทางรีบร้อนคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบเดียวกันกับไลร่าขอทางเดินผ่านหน้าของตนไป
“ ขอโทษนะค่ะ ขอทางหน่อยค่ะๆ ” หญิงสาวคนนั้นก้าวขอทางจากผู้นั่งคนอื่นๆ เพื่อรีบวิ่งไปหาเพื่อนที่นั่งดูอยู่ข้างโต๊ะปิงปองฝั่งโรงเรียนของตนให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นก็พูดคุยกับเพื่อนร่วมโรงเรียนอีกคนหนึ่งสีหน้าวิตกกังวลอย่างบอกไม่ถูก กลายกำลังปรึกษาอะไรกันอยู่
แต่วาไม่ได้สนใจ ทั้งนี้เพราะเมื่อหญิงสาวคนนั้นเดินผ่านหน้าเขาไปเขาก็รีบหันไปมองยังการแข่งที่โต๊ะปิงปองกลางห้องทันที
พริบตานั้นก่อนที่ลูกตัดความเร็วสูงจะพุ่งหลุดจากโต๊ะฝั่งไลร่าไป วาก็เห็นไลร่าที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของมุมโต๊ะหมุนตัวรอบหนึ่งจากนั้นเอื้อมมือตีเสยลูกนั้นให้ขึ้นสูง
ช่างเป็นการโต้กลับที่เหนือความคาดหมายเสียจริงๆ แต่หากไม่ใช้การโต้กลับที่เหนือความคาดหมายแบบนี้คงยากที่จะจัดการกับวิสด้อมได้จริงๆ
ลูกปิงปองลอยคว้างขึ้นสูงกลางอากาศ ไม่มีใครทราบได้ว่ามันจะตกลงยังตำแหน่งใดบนโต๊ะ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะไม่ว่ามันจะตกลงยังตำแหน่งใด ลูกแบบนี้ก็ใช่ว่าจะยากต่อการรับมือ ซ้ำหากเปลี่ยนเป็นผู้มีฝีมือแล้วยังจะเป็นการเปิดโอกาสให้ถูกตบกลับไปได้ โดยเรียกได้ว่า อาจจะถึงขั้นแพ้เลยทีเดียวก็ว่าได้
“ รุ่นพี่ค่ะ ” หญิงสาวท่าทางร้อนรนคนนั้นตะโกนเรียกไลร่า สีหน้าวิตกอย่างสุดขีด ระคนกับรู้สึกสำนึกเสียใจที่ต้องเรียกไลร่าในสถานการณ์ที่คับขันแบบนี้
ไลร่าที่ได้ยินเสียงเรียกก็หันไปมองยังต้นเสียงวูบหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นเพียงวูบเดียวที่ทำให้เธอต้องเกือบจะสำนึกเสียใจไปอีกนานก็ได้
เสี้ยววินาทีนั้นลูกตบความแรงสูงก็พุ่งแหวกอากาศตรงข้ามตาข่ายกลับมายั่งไลร่าในทันที ราวกับดาบปีศาจที่มุ่งเอาชีวิตของเหยื่อในยามที่ไม่ทันระวังตัว
เป็นภาพที่แทบจะทำให้หัวใจวาแทบหยุดเต้น ลูกตบที่รวดเร็วขนาดนั้นไม่มีทางที่จะรับได้ทันแน่นอน
‘ เป๊ก ’
แต่ทว่าพริบตานั้นไลร่าเพียงตวัดมือขึ้นตั้งหน้าไม้เบาๆลูกตบอันรุนแรงนั้นก็ต้องลอยคว้างขึ้นกลางอากาศอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้พุ่งขึ้นสูงกว่าครั้งที่ผ่านมา
ช่างสมกับที่ได้ฉายาโล่น้ำแข็งแห่งแสงจริงๆ หญิงสาวผู้ไม่เคยปล่อยให้คู่ต่อสู้ได้แต้มจากตนเองมาก่อนแม้แต่แต้มเดียว สามารถตั้งรับได้อย่างสมบรูณ์แบบ
สีหน้าของไลร่าที่หันกลับมาแทนที่จะแฝงด้วยความตื่นตระหนกจากการรุกอันดุเดือดของวิสด้อม กลับกลายเป็นสงบนิ่งจนน่าประหลาด เป็นความเยือกเย็นแบบที่วาไม่เคยเห็นมาก่อน เพียงแต่ในแววตานั้นกลับตรงกันข้ามกันอย่างชัดเจน ในแววตาของไลร่าตอนนี้ฉายแววร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด ไม่ทราบว่าเป็นผลมาจากการร้องเรียกของรุ่นน้องคนเมื่อสักครู่นี้หรือไม่
‘ ไม่ได้การณ์แล้ว เราคงจะต้องรีบปิดฉากแล้วละ ’ ไลร่าคิด เมื่อมองไปยังเบื้องหน้าก็พบวิสด้อมที่ง้างไม้ขึ้นสูงเตรียมตบลูกปิงปองที่กำลังร่วงลงยังโต๊ะ
และเมื่อลูกปิงปองกระเด้งลงยังโต๊ะและดีดตัวขึ้นสูง วิสด้อมก็ออกแรงขากระโดดขึ้นจากพื้นคืบหนึ่งจากนั้นตวัดไม้ตบเฉียงไปยังฝั่งของไลร่าอย่างไร้ความปราณี
“ จงแพ้ไปซะ ! ”
ลูกปิงปองพุ่งกระทบกับโต๊ะด้วยความรวดเร็ว ราวกับดาบอัคคีทมิฬที่เตรียมปิดฉากการต่อสู้ครั้งนี้อย่างสมบรูณ์แบบ เป็นลูกตบที่เรียกได้ว่าสามารถทำลายโล่น้ำแข็งให้พังทลายลงได้จริงๆ
ลูกตบแบบนี้ไม่ว่าใครเจอก็ได้แต่เตรียมตัวรับความผ่ายแพ้ได้แล้ว
‘ พรึ่บ ! ’
เสื้อคลุมสีน้ำเงินปลิวไสวขึ้นกลางอากาศ แต่ร่างเจ้าของเสื้อคลุมกลับหายไปเสียแล้ว
ลูกปิงปองพุ่งออกไปไกลด้วยความรวดเร็ว เพราะผลจากแรงตบที่วิสด้อมทุ่มเทไปเต็มๆนั่นเอง
‘ ยะ อย่าบอกนะว่าเธอคิดจะวิ่งตามลูกนั่นไป ถึงต่อให้วิ่งทันแต่รับลูกด้วยระยะไกลขนาดนั้นไม่มีทางโต้กลับมาได้หรอก ’ วิสด้อมถึงกับตะลึงกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า
‘ ตะ แต่ถึงจะโต้กลับมาได้ชั้นก็ชนะอยู่ดี ’ แม้แต่วิสด้อมเองก็ยังไม่มั่นใจในความเชื่อของตนเอง ดังนั้นจึงได้แต่คิดให้กำลังใจตัวเอง เพราะถึงแม้จะรับลูกที่ไกลขนาดนั้นได้ หากโดนตบสวนกลับไปอีกครั้งก็คงไม่มีทางรับได้อีกต่อไปแล้ว
ไลร่าที่ปลดเสื้อคลุมสีน้ำเงินออกภายในพริบตานั้น กำลังวิ่งตามลูกตบความเร็วสูงที่กระเด้งออกไปไกลแล้วอย่างไม่คิดชีวิต
ห้า สิบ สิบห้า ยี่สิบ
.
หลังจากก้าวขาออกอย่างไม่คิดชีวิตหล่อนก็สะบัดไม้ในท่าหันหลังให้กับลูกทันที จังหวะก่อนที่ไม้จะสัมผัสโดนลูกปิงปองนั้นหล่อนก็หันหน้ากลับไปมองยังโต๊ะปิงปองได้ทัน ก่อนที่จะส่งลูกปิงปองที่ดูไร้ซึ่งพลังให้ลอยกลับไปยังโต๊ะ
ทุกผู้คนต่างอุทานให้กับลูกรับที่บ้าบิ่นของไลร่า ที่ไม่น่าแม้แต่จะสามารถวิ่งตามลูกตบชนิดนี้ได้ทัน แถมยังสามารถตีลูกโดนได้ ถึงแม้จะตีไม่ลงโต๊ะก็นับว่าได้คะแนนจากคนดูไปเต็มๆแล้ว
ร่างกายหลังจากตีลูกออกของไลร่าเสียการทรงตัว เนื่องจากการหยุดวิ่งแบบกะทันหัน ถึงกระนั้นหล่อนก็รีบยันตัวขึ้นโดยไม่สนใจแม้แต่จะลุ้นว่าลูกจะลงโต๊ะหรือไม่ เพราะหล่อนรู้ว่าทางด้านวิสด้อมจะต้องตบกลับในทันทีที่ลูกสัมผัสโต๊ะ
ลูกปิงปองค่อยๆลอยข้ามไปยังโต๊ะปิงปองอย่างช้าๆ เล่นเอาหัวใจคนดูเกือบจะหยุดเต้น รวมถึงวิสด้อมเองก็เช่นกัน เขายังคงตะลึงกับความสามารถในการตั้งรับของไลร่าได้อย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ตั้งแต่เล่นปิงปองมาไม่เคยมีใครที่จะสามารถตั้งรับการรุกตบของเขาได้นานถึงขนาดนี้มาก่อน ยิ่งเป็นลูกตบแบบนี้แล้วด้วยยิ่งไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
‘ ตั้งสติไว้สิ ลูกแบบนี้ไม่มีทางลงโต๊ะได้หรอกน่า ’
ใช่แล้วลูกที่ตีด้วยระยะห่างยี่สิบกว่าก้าวด้วยสภาพที่ไม่ได้เตรียมตัวขนาดนั้นไม่มีทางที่จะตีลงโต๊ะได้หรอก
ไม่มีทางที่จะลงได้
หากไม่ใช่ลูกที่ตีออกจากไม้ของไลร่าหญิงสาวผู้ซึ่งได้รับฉายาว่า โล่น้ำแข็งแห่งแสง !!!
‘ ปัก ’
ลูกปิงปองสัมผัสโดนขอบโต๊ะด้านซ้ายก่อนที่จะหล่นลงสู่พื้นในทันที
เป็นพริบตาที่อาจจะเรียกว่า ปาฏิหาร์ยก็เป็นได้
นี่สินะที่เรียกว่า การตั้งรับที่สมบรูณ์แบบ ?!
“ บะ บ้าน่า !!! ” วิสด้อมคำรามลั่น แม้จะเตรียมตั้งรับไว้แล้ว ก็ไม่อาจคาดคิดได้ว่าจะโดนสวนกลับด้วยลูกแบบนี้ ลูกที่มีเพียงหนึ่งไม่กี่ร้อยลูกที่จะโต้กลับมาได้สักครั้งหนึ่ง
พริบตาก่อนที่ลูกจะตกลงสัมผัสกับพื้นนั้นวิสด้อมก็กัดกรามฟุบตัวลงเอามือข้างซ้ายยันพื้นไว้จากนั้นตีลูกขึ้นไปจากด้านล่างด้วยท่าโฟว์แฮนด์
นี่ไม่ใช่ลูกตบ ไม่ใช่ทั้งลูกสปิน หรือลูกตัด เป็นเพียงการตีลูกเพื่อยืดชีวิตให้ได้เท่านั้น
แต่ด้วยระยะตีที่ประชิดโต๊ะถึงเพียงนี้โอกาสที่จะเด้งขึ้นไปสัมผัสโดนขอบโต๊ะนั้นมีสูงมาก หรือต่อให้ข้ามขึ้นไปบนโต๊ะได้ก็ใช่ว่าจะข้ามตาข่ายไปได้ เพียงแต่ในหัวของวิสด้อมนั้นไม่สามารถคิดถึงข้อนั้นได้แล้ว
เขาเพียงแค่วิ่งพยุงตัวขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว ในใจไม่เคยรู้สึกหวาดเสียวขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เมื่อลูกปิงปองที่พุ่งขึ้นไปนั้นเกือบเฉียดขอบโต๊ะไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น ก่อนที่จะลอยไปโดนด้านบนของตาข่าย
จากนั้นลูกปิงปองค้างอยู่ที่บริเวณกึ่งกลางของตาข่ายวูบหนึ่ง
เป็นวูบเดียวที่ตัดสินผลแพ้ชนะระหว่างทั้งสองฝ่าย หากลูกปิงปองหล่นกลับมาทางวิสด้อมเขาก็จะแพ้ทันที แต่หากหล่นไปยังฝั่งของไลร่าละก็
..
“ หล่นไปฝั่งนั้นสิ !!! ” วิสด้อมตะโกนก้องกำไม้แน่น หัวใจเย็นเฉียบอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
‘ เกร้ง ! ’
ในที่สุดดาบอัคคีทมิฬเริ่มเกิดรอยร้าวขึ้นจนได้ คงเป็นผลจากการโหมโจมตีใส่โล่ที่ไม่มีวันถูกทำลายลงได้นั่นเอง
แล้วโล่น้ำแข็งแห่งแสงที่ไม่มีวันถูกทำลายลงได้ เมื่อถูกโจมตีด้วยดาบที่ทำลายได้ซึ่งทุกสิ่งนั้นใช่เริ่มจะเกิดรอยร้าวขึ้นบ้างแล้วหรือไม่
.
ท้ายที่สุดแล้วเทพธิดาแห่งชัยชนะจะเข้าข้างฝ่ายไหน หรือว่าสุดยอดศาสตราวุธทั้งสองจะต้องแตกสลายไปด้วยกันทั้งคู่อย่างที่โซเฟียคิดไว้กันแน่ ?
_______________________________________________
ความคิดเห็น