[Fic TVXQ].....Lovin'You....[Yaoi] - [Fic TVXQ].....Lovin'You....[Yaoi] นิยาย [Fic TVXQ].....Lovin'You....[Yaoi] : Dek-D.com - Writer

    [Fic TVXQ].....Lovin'You....[Yaoi]

    รู้มั้ย? "ความรัก" มีค่าขนาดไหน ฟิคนี้อาจทำให้คุณเสียน้ำตา

    ผู้เข้าชมรวม

    2,626

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    2.62K

    ความคิดเห็น


    12

    คนติดตาม


    13
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 ส.ค. 50 / 12:43 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    มาแย้วคร่า  เพิ่งเเต่งร้อนๆ หุหุ

    ด้วยความขี้เกียจแต่งอันเก่าเลยได้อันใหม่

    อีก 2 เรื่องยังไม่ถึงไหนอัพใหม่อีกและ - -"

    อย่าเพิ่งเบื่อเชอร์เบตนะคะ

    ตามมาอ่านเรื่อยๆนะ


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Story:....Lovin'You
      Date:    09-08-07
      Actor:   Yoochun&Jaejoong
      By:   Strawberry_cherBet

      ----------------Flash Back------------------
      คนเราน่ะมักมีของดีอยู่ใกล้ตัว  แต่กลับมองไม่เห็นค่าของมัน
      ถึงแม้......มันจะเป็นเพรชเม็ดงามก็ตาม
      เรามักจะมองข้ามมันไป
      อย่างเช่นตัวผมเอง

      ผม ปัค ยูชอนและคนรักของผมที่กันมานาน 2 ปี คิม แจจุง    เรา 2 คนต่างมีความฝันเหมือนกันนั่นก็คือ
      "การได้ยืนอยู่บนเวทีที่มีแฟนคลับ  และเราร้องเพลงไปด้วยกัน"
      ดังนั้นเราจึงตัดสินใจหนีไปโซลด้วยกันเพื่อตามความฝัน

      "ยูชอน  ฉันช่วยมั้ย?" ร่างบางเดินมายืนใกล้ผม

      หลังจากที่เรามาโซลกันได้ 3 ปี  เราได้ไปสมัครเป็นนักร้องที่บริษัทค่ายดังแห่งหนึ่งและผมก็ผ่านการออดิชั่นด้วยเพลงที่แจแต่งให้ผม
      แจไม่สามารถเข้าร่วมแข่งได้เพราะมีเกิดเหตุบางอย่างกับปอดของเค้า.....การจะเป็นนักร้องจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเค้า
      เป็นเวลานานพอสมควรกว่าเราจะเริ่มตั้งตัวได้  จนกระทั่งเราเริ่มก้าวมาอยู่ในจุดๆหนึ่งเราเริ่มมีบ้านหลังเล็กๆ และมีรถขับ

      "ไม่เป็นไร....ฉันไปนะ" ผมลูบหัวร่างบางเบาๆ....แล้วลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานเตรียมจะไปที่บริษัท

      เมื่อผมเริ่มก้าวไปเพื่อสู่จุดหมาย   แน่นอนระยะทางเริ่มยากขึ้น......เช่นกันเวลาของผมเองก็ค่อนข้างจำกัด     การได้อยู่กับแจจุงอย่างคู่รักทั่วๆไปจึงทำได้ยาก
      แต่ถึงอย่างนั้นร่างบางตัวเล็กๆ คนนี้ก็ไม่เคยบ่นเลยสักนิด

      "แล้วนายจะกลับกี่โมง?......ให้รอทานข้าวเย็นด้วยมั้ย?" เสียงหวานเอ่ยถามอีกรอบ
      ความห่วงใยยังคงถูกส่งมาให้สม่ำเสมอ......แม้ผมจะแทบไม่เคยตอบกับไปเลยก็ตาม

      "ช่วงนี้งานเริ่มผ่อนลงกว่าเมื่อก่อนแล้วคงจะกลับประมาณ 3-4 ทุ่มน่ะ.....ข้าวเย็นทานก่อนได้เลยครับ" ผมตอบแล้วยิ้มให้
      "งั้นหรอ......ดีจัง" ริมฝีปากบางกุหลาบคลี่ยิ้มน่ารักให้.....ผมอดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบริมฝีปากบางนั่น
      "ดูแลตัวเองดีๆนะ.......แล้วจะรีบกลับ" ผมบอกก่อนที่จะจูบอีกทีที่หน้าผากมนของแจจุงอีกครั้ง

      นี่แหละคือชีวิตประจำวันของผม.....เพียงไม่นานผมก็เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้องหน้าใหม่ที่กำลังจะก้าวไปสู่วงการบันเทิง
      งานของเริ่มมีตารางแน่นเอี้ยด......ไปทัวร์คอนเสิร์ตบ้าง   ไปเปิดตัวนู่นนี่บ้าง  ไปถ่ายเอ็มวี   โฆษณาต่างไ และอีกสารพัด

      ใช่.....ผมมีความสุขมาก
      จนบางครั้งหัวใจผมมันว่า "นายลืมบางอย่างไปรึป่าว"

      ----------------------------------------
      วันนี้ผมนั่งแต่งเพลงตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้เวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่า.....
      ทั้งความเครียดและเหนื่อยล้าก็เริ่มรุมเร้าผม
      ถ้าเป็นปกติ........ผมจะนั่งแต่งกับคนรัก  เพราะแจจุงนั้นแม้จะร้องเพลงไม่ได้
      แต่ความสามารถการแต่งเพลงของเค้าก็ยังคงอยู่

      "ยูชอน........ฉันทำข้าวต้มมาให้      อ๊ะ!!!!" แล้วข้าวต้มร้อนๆ ก็หกใส่แผ่นงานที่ผมเพิ่งแต่งเสร็จจนเลอะเทอะไปหมด
      "นายจะทำอะไรน่ะ ห๊ะ!!!!!"  ผมยอมรับในตอนนั้นผมโกรธมาก......ผมตวาดใส่แจจุงทันทีทั้งๆที่มันแทบจะหกใส่ร่างบางเกือบทั้งหมด
      "อ๊ะ!!.....ฉันขอโทษนะ   ฉันเห็นยูชอนทำงานดึกฉันนึกว่านายจะหิว.....ฉันขอโทษจริงๆนะ......ฉันแค่........."  เสียงใสสั่นเครือ   ผมรู้  ผมได้ยิน
      แต่ถึงอย่างอารมณ์โกรธของผมก็ไม่ได้หาย
      "ไม่ต้องเลย!!!!     หยุด!!!!    ฉันทำเอง!!!!"  ผมพลักร่างบางจนล้มลงไปกองกับพื้นทั้งๆที่เค้าพยายามจะช่วยเก็บ
      "ฉันขอโทษ......ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำงานของนายพังนะ........ฉัน......   "
      "หยุดพูดไปเลย!!!!.......นายอิจฉาที่ฉันดังกว่ารึไง!!!  ถึงได้ทำแบบนี้น่ะ!!!  ห๊ะ!!!"  ผมแทรกตวาดใส่คนรักด้วยความโมโห
      พร้อมกับคำพูดที่ร้ายกาจ.....ผมยอมรับจริงๆ ในตอนนั้นผมโมโหจนเเทบควบคุมไม่ได้

      "ฉัน....ขอ....ฮึกๆๆ....ขอโทษจริงๆนะ....ฮึก   ฮือๆๆๆ"  น้ำตาใสๆไหลลงอาบแก้มชมพูของร่างบาง......ผมควบคุมสติลงได้
      แล้วมองร่างบางวิ่งเข้าห้องนอนไป........ตอนนั้นผมก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที

      .........ไม่นานผมก็เริ่มดงขึ้นเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง  หลายๆอย่างในชีวิตผมเปลี่ยนไป
      ผมทะเลาะกับแจบ่อยมาก    แต่ร่างบางกลับไม่เคยโกรธหรือโทาผมเลยสักครั้ง  เพียงเดินเข้าไปในห้องแล้วออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
      น่ารักๆ สดใส ที่ผมชอบ  โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันซ่อนอะไรไว้

      ผมมักจะชอบแต่งเพลงกับแจด้วยคีบอร์ดตัวโปรดอยู่เป็นประจำ แต่ปัจจุบันผมกลับเอาแต่ออกไปเที่ยว
      กับนักร้องสาวรุ่นน้องและพวกเพื่อนๆในวงการจนถึง 5ทุ่ม เที่ยงคืน จนเป็นข่าวกับคนนู้นคนนี้บ้างบางครั้ง

      " วันนี้กลับดึกจัง.......เหนื่อยมั้ย?"  แจจุงเดินมาเปิดประตูบ้านให้ผม
      "อืม"  ผมตอบแค่นั้น
      "อ๊ะ....สวัสดีค่ะ ฉันมินอาค่ะ แวะมาส่งพี่ยูชอนน่ะค่ะ...เพื่อนพี่ยูชอนหรอคะ?"  นักร้องสาวรุ่นน้องหันมาถามผม
      "ใช่.......คิม  แจจุงน่ะ"  ผมหันไปคุยกับเธอก่อนนิดหน่อย  แล้วเธอก็หอมแก้มผมอย่างเร็วแล้วขอตัวกลับบ้าน

      "ทานอะไรหน่อยมั้ย?......."   ถ้าผมมีตาสักนิดผมคงเห็นน้ำตาคลอหน่วยอยู่ที่ตากลมโตนั่น
      "ไม่ล่ะ.....จะนอนแล้ว" ผมบอก

      ...........นานวันผ่านไปผมก็เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นไปเรื่อยๆอีกจนเป็นนักร้องดังที่ใครๆก็รู้จักและนี่ก็คือความสำเร็จของผม
      ที่พยายามไคว่คว้ามานานเป็นเวลากว่า 5 ปีนับตั้งแต่ผมมาโซล

      ............................แต่บางสิ่งที่ผมลืมไป
      ...................บางอย่างที่สำคัญที่สุด
      ...........ผมไม่รู้มันคืออะไร  ผมจำไม่ได้แล้ว


      ----------------------------------------------------------------------
      วันนี้เป็นวันหยุดของผม  ซึ่งก็เป็นเวลาที่จำกัดอีกเพราะตอนเย็นผมต้องไปซ้อมร้องเพลงต่อเพราะพรุ่งนี้จะมีการประกาศรางวัลครั้งยิ่งใหญ่
      ผมจึงต้องเตรียมแต่งเพลงแล้วเตรียมซ้อมร้องเอาไว้

      ผมหันไปมองอีกร่างที่ยังคงหลับอยู่.......ผมจึงลุกขึ้นไปทำธุระเตรียมทำกับข้าวเอาไว้

      "ยูชอนวันนี้ว่างมั้ย?"  ร่างบางหน้าหวานเดินมานั่งใกล้ที่โซฟาหลังจากเก็บจานชามไปล้างแล้ว
      "ทำไมหรอ?"  ผมถามพลางก้มลงเอาหัวนอนบนตักร่างเล็ก
      "อยากไปเที่ยวน่ะ.....เราไม่ได้ไปไหนด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนนานแล้วนะ"  เสียงใสยังคงพูดต่อไป
      "แจก็รู้...ฉันไม่ค่อยว่างนี่นา"
      "นั่นสิ.......อย่างน้อยฉันก็อยากไปดูพระอาทิตย์ตกกับยูชอนเป็นครั้งสุดท้ายนะ" ผมก็ได้แต่หลับตาฟัง....ไม่สนใจอะไร

      วันนี้หลังจากที่ผมงีบหลับไปก็มาตื่นอีกทีตอนบ่าย.......ผมเห็นแจนั่งอยู่ที่คีย์บอร์ด
      ผมจำภาพนั้นได้...........ภาพที่ผมมักหลงไหลอยู่ตลอดเวลา แจชอบที่จะนั่งมุ่งมั่นเล่นอยู่อย่างนั้น
      มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้เห็นภาพวาดยังไงยังงั้น.........แล้วผมเข้าไปขอให้เค้าช่วยแต่งเพลงให้
      วันนั้นตลอดวันจนเย็นเราช่วยกันแต่งจนเสร็จ.......ผมรีบออกจากบ้านตรงดิ่งไปที่บริษัททันที

      และแล้ววันงานก็มาถึง....งานที่ยิ่งใหญ่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 28 มีนักร้องกว่า 400 คนที่มารอลุ้นว่าใครจะได้อันดับ 1 ซึ่งเป็นรางวัลที่ใหญ่และมีเกียรติที่สุดไปครอง
      มีแฟนเพลงกว่า 4 หมื่นคนมาคอยเชียร์......ผมตื่นเต้นมากกับงานครั้งนี้ เพราะตั้งแต่เดบิวท์งานนี้เป็นงานแรกที่ผมถูกเสนอชื่อไป

      .......ภายในงานก็จะมีนักร้องที่ถูกเสนอชื่อจากใน 400 เหลือเป็น 30 คน ส่วนที่เหลือบางคนก็กลับบ้านไปด้วยความผิดหวัง
      และก็ถึงตาผมขึ้นไปโชว์และแน่นอผมก็ใช้เพลงที่ผมและคนรักร่วมกันแต่งขึ้นร้องจนจบ

      งานยังคงถูกดำเนินต่อไปเรื่อยๆ  ผมไม่คิดชวนแจจุงมาเพราะอะไรผมเองก็ไม่รู้ผมนั่งใจจดใจจ่อกับรางวัลที่ผมพยายามทุ่มเททุกอย่าง
      เพื่อให้ได้มันมา........และการประกาศรางวัลก็เริ่มขึ้นมันชั่งยาวนานแต่ผมกลับรู้สึกมันรวดเร็วเหลือเกิน จาก 30 คนตามรายการรางวัลต่างเริ่มลดจำนวนคนลง
      ชื่อผมก็ยังไม่ถูกประกาศสักที   ความตื่นเต้นทำให้ใจผมเต้นระรัวต่อไป

      "แล้วเราก็มาถึงรางวัลสุดท้ายนะครับ......รางวัลนักร้องยอดเยี่ยมแห่งปี ได้แก่........................."

      ".........................ปัค         ยูชอน!!!..................."

      ------------------------------------------------------------
      ผมขับรถกลับบ้านด้วยความภาคภูมิใจรางวัลใหญ่ที่สุดของงานมาอยู่ที่ผม
      ผมล็อครถและเตรียมเปิดประตูเข้า............ตอนนี้เป็นเวลาตี 1 กว่า ผมเเปลกใจว่าทำไมไฟในบ้านถึงยังเปิดอยู่
      แถมประตูบ้านก็ไม่ได้ล็อค......ผมเดินเข้าไปในบ้าน

      .............ในตอนนั้นเอง     ผมก็นึกออกว่าผมลืมอะไรไป
      .............ผมลืมใครบางคนไป
      .............ใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
      .............ลืมความห่วงใยของใครคนนั้น
      .............ลืมความรักมากมายที่ถูกมอบให้
      .............ลืมแม้กระทั่งหัวใจอีกดวงหนึ่งที่นำมาฝากไว้


      "แจจจจจจจจจจ.....................................ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย"

      วินาทีนั้นเองผมวิ่งเข้าไปกอดแจจุงที่นอนฟรุบกับคีย์บอร์ดตัวนั้นที่เราต่างร่วมกันซื้อ
                              "วันแห่งความสำเร็จของผมคือวันจากไปของคนรัก"

      น้ำตาผมไหลพราก........หัวใจผมเต้นระรัวเหมือนตอนที่ผมได้รับรางวัล
      ...................เพียงแต่ความรู้สึกมันต่างกัน


      ................1 ปีแรกที่มาโซล   ผมจำได้เรายังคงเหมือนเดิม

      "ยูชอน........เราไปเที่ยวกันเถอะ"
      "ไปสิแจ..........."

      "อืม........หอมจังวันนี้แจทำอะไรให้ผมทานอีกเนี่ย"
      "ก็ไก่ทอดของโปรด........ของนายปัค   ยูชอนไง"

      "ยูชอน.......นายทำงานหนักไปแล้วนะ"
      "คร้าบบบบบบบบ"

      "ยูชอน......ตัวร้อนๆเป็นอะไรรึป่าว?   เอายามั้ย?"
      "อืม.....ขอบคุณครับ"

      ...............คำเหล่านี้    ไม่มีอีกแล้ว
      ฮึกๆๆ    ฮือๆ......ฮือออออ     เจ็บ    เจ็บเหลือเกิน...............

      -----------------------------------------------
      ตี๊ดดด~~~~~~~~
      "ขอโทษครับ....เราทำสุดความสามารถแล้ว"  คุณหมอในชุดกราวน์สีขาวเดินมาจากห้อง ICU
      ผมเดินเข้าไปในห้องนั้นพร้อมกับน้ำตา     ร่างบางคุ้นตาถูกถอดเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ต่างๆออก

      ใบหน้าหวานตอนนี้ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด

      ...........มันสายเกินไปที่ผมจะพูดคำว่า   "ขอบคุณครับ.....ที่รัก"
      ..........มันสายเกินไปที่ผมจะบอกเค้าว่า  "ผมขอโทษนะ"
      ..........และมันก็สายไปจริงๆที่ผมจะบอกว่า   "ผมรักแจเหลือเกิน  แจคือสิ่งสำคัญของผม  ผมรักแจ"


      ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่มาอยู่ในโซล..........ผมไม่เคยรู้เลยว่าแจป่วยหนัก

      ผมไม่เคยรู้เลยว่าเค้ารักผมขนาดไหน
      ไม่เคยรู้เลยว่าเค้าร้องไห้ตลอดเวลากับการกระทำที่ไม่ดีของผม
      ไม่เคยที่จะรับรู้เลยว่าคนตัวเล็กๆคนนึงอยู่กับความเหงามานานเท่าไหร่แล้ว
      และผมก็ไม่เคยรับรู้เลยว่าตัวเองทำร้ายคนๆนี้ไปมากมายขนาดไหน

      -------------------------------------------------------------
      1 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก.......วันนี้เป็นเวลาครบ 8 ปีเต็มที่เราคบกัน........นึกถึงรอยยิ้มนั้นมันทำให้ผมมีความสุขอยู่เสมอ

      "ไงครับ....ยัยตัวเล็กวันนี้ผมซื้อกุหลาบสีขาวมาให้นะ....สีที่แจชอบไงครับ" ผมพูดกับป้ายหินหน้าหลุมศพ....
      "วันนี้เป็นวันที่  4 มิถุนา....วันครบรอบความรักของเราและก็เป็นวันเกิดผมด้วยนะ"    ผมยิ้มให้กับป้ายอีกทีพลางก้มหน้าลงแล้วกัดริมฝีปากตัวเองแน่น
      น้ำตาและความเจ็บปวดเริ่มเกาะกินใจผมอีกครั้ง

      "โถ่.........หายตายสิ......ผมอยากให้แจกลับมาจัง  ฮืออออออ  ฮึก"   ผมเงยหน้าขึ้นมองป้ายอีกครั้งแล้วล้มทั้งยืนลงตรงนั้น

      .........ก้อนเมฆเคลื่อนคล้อยตามแรงลมแผ่วๆ    ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกับกำลังขาดอากาศหายใจ
      เหมือนปลาที่กำลังขาดน้ำ    เจ็บปวดไปหมดทั้งร่างกาย และหัวใจ

      "ผมรักแจเสมอนะ"  ผมยิ้มให้กับป้ายหลุมศพอีกครั้ง

      ถึงไม่เห็นก็สัมผัสได้ด้วยใจ
      ถึงไม่ได้กลิ่นแต่ก็รู้ว่าหอมเหลือ
      ถึงไม่ได้รู้รสแต่ก็รู้ว่าหวานขนาดไหน

      แม้จะไม่ได้มีตัวตนแต่ก็รู้สึกได้ว่าร่างเล็กบางคนนี้ยังอยู่ใกล้ๆตัวผมตลอดเวลา


      The   End.

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×