ข้อมูลเบื้องต้น
ทุกเช้าของเด็กมัธยมปลายธรรมดาคนหนึ่งอย่างคิมเยวอน ก็คงไม่พ้นการที่ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนเป็นประจำ เยวอนมีเวลาเดดไลน์ในการตื่นนอนจนไปถึงเวลาในการแต่งตัวเพียงเจ็ดโมงเช้าเท่านั้น เพราะถ้าเลยเวลาดังที่กล่าวมา ก็จะไม่ทันรถเมล์เอาน่ะสิ
แต่เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่เยวอนต้องคอยกังวลเลย เพราะไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่เคยตื่นสาย เยวอนเป็นคนตรงต่อเวลา และมีระเบียบเรียบร้อยมาก
ร่างเล็กก้าวเท้าวิ่งไปตามทางฟุตบาท และหยุดฝีเท้าลงที่หน้าป้ายรถเมลล์ สถานที่ที่เธอต้องมาคอยรถเพื่อไปโรงเรียนเป็นประจำ
เยวอนยกข้อมือที่มีนาฬิกาข้อมือสวมอยู่มาตรวจเช็คเวลา แน่นอนว่าไม่สาย แถมมาก่อนเวลาอีกด้วย
มือเรียวรวบกระโปรงสั้นเหนือเข่าก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ใต้หลังคาที่รอรถเมลล์ พร้อมกับหยิบหูฟังสีขาวออกมาจากกระเป๋ากระโปรง และเสียบสายเข้ากับมือถือของเธอเอง
เพลงโปรดปรานของเยวอน และเพลงอื่นๆก็เล่นไปตามเพลลิสส่วนตัวที่เธอได้ตั้งไว้เอง
รู้ตัวอีกที รถเมลล์สายที่เยวอนขึ้นเป็นประจำก็มาจอดอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว
ร่างเล็กก้าวเท้าขึ้นมาบนรถ กวาดสายตาไปรอบๆ ไม่ว่าทางไหนก็เจอแต่คนหน้าเดิมๆ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของเยวอนที่ต้องพบเจอคนหน้าเดิมๆเลย ปัญหาคือพอจะมีที่ว่างให้เธอนั่งไหม.. โรงเรียนก็ใช่ว่าจะอยู่ใกล้ ต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง20นาทีโดยประมาณ
“หาที่นั่งอยู่หรอ ตรงนี้ว่างนะ”
เสียงหญิงสาวอันสดใสเอ่ยขึ้นมาในขณะที่เยวอนกำลังหาที่นั่งอยู่พอดี ถึงเยวอนใส่หูฟังอยู่ แต่เสียงเพลงที่เปิดก็ไม่ได้ดังเกินไปจนไม่ได้ยินเสียงแวดล้อมรอบๆ
“ค่ะ ขะ..ขอบคุณนะคะ”
แอบตกใจปนกับดีใจอยู่เพียงเล็กน้อย ที่มีคนใจดีกับเธอแบบนี้
ร่างเล็กรวบกระโปรง และนั่งลงบนที่นั่งข้างๆหญิงสาวที่เรียกเธอมานั่งด้วย หญิงสาวคนนั้นตัวสูงกว่าเยวอนเสียอีก และยังใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนเดียวกับเยวอนอีกด้วย ‘ไม่คุ้นเลย คงไม่ใช่รุ่นเดียวกันแน่ๆ แถมยังสวยขนาดนี้อีกต่างหาก’
เยวอนส่ายหน้าตัวเองทิ้ง ไปคิดอะไรที่น่าเสียมารยาทจริงๆเลย ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแท้ๆ แต่เรื่องที่น่าแปลกใจก็คือหญิงสาวคนนี้ไม่คุ้นหน้าสำหรับเยวอนแม้สักนิดขนาดเยวอนขึ้นรถสายนี้เป็นประจำ…
“ฉันชเวยูนา อยู่ม.5นะ”
“คิมเยวอน ม.4ค่ะ”
เยวอนถึงกับต้องถอดหูฟังทั้งสองข้างออก เพื่อพูดคุยสนทนากับยูนา จะได้ไม่ดูเสียมารยาทเกินไป
เวลาผ่านไปหลายเดือนนับตั้งแต่ที่ทั้งสองคนรู้จักกัน ยูนาก็ได้มีใจให้กับเยวอน แน่นอนว่าเยวอนก็มีใจให้ยูนาเช่นกัน พูดตามประสาปากก็คือ แอบชอบกัน
จนในที่สุดยูนาก็เป็นฝ่ายเอ่ยประโยคขอเป็นคนรักหรือขอเป็นแฟน ขึ้นมา เยวอนที่ไม่ลังเลที่จะปฏิเสธ ก็ได้ตอบกลับตกลงอย่างรวดเร็ว
ทุกๆวันเยวอนมักจะร้องเพลงให้ยูนาฟังเสมอ เพราะเยวอนมีความฝันอยากเป็นนักร้อง และยูนาก็สนับสนุนความฝันของแฟนสาวนั้นมาเสมอเฉกเช่นกัน
ในที่สุดเยวอนก็ลงสมัครเป็นนักร้องค่ายใหญ่ค่ายหนึ่งจนเข้าสู่รอบสุดท้าย
ร่างเล็กนั่งมองกระดาษสีขาวที่เต็มไปด้วยตัวอักษรสีดำในมือ ซึึ่งคือกระดาษแสดงความยินดีทีี่เธอเข้ารอบมายังรอบสุดท้ายได้ โดยมีแฟนสาวอย่างยูนาดูอยู่ข้างๆด้วย คงเพราะดีใจมากๆที่ฟันฝ่าเข้ามาสู่รอบสุดท้ายได้
“เก่งมากเลยนะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“อย่าเอาแต่ถ่อมตนสิ เยวอนร้องเพลงเพราะจริงๆนะ”
“พี่จะอวยเกินไปแล้วนะ!”
“ฮ่าๆ ยังไงรอบนี้ก็สู้ๆนะ พี่เป็นกำลังใจให้”
กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญเสมอ ยอมรับว่าเยวอนเองก็ประหม่าอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยกำลังใจจากแฟนสาว ไม่สิ จากทุกๆคน ทำให้เธอไม่ท้อถอยต่อการออดิชั่นร้องเพลง และได้เข้ารอบมาถึงรอบสุดท้าย
ฝันของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว
สองวันก่อนออดิชั่นรอบสุดท้าย เยวอนตัดสินใจให้ยูนาเลือกเพลงที่จะใช้ในการออดิชั่นครั้งนี้ให้ และเพลงที่ยูนาเลือกมาก็คือเพลง The way ยูนาบอกว่าเพลงนี้เข้ากับเสียงของเธอได้เหมาะสมมากๆ สมกับเป็นแฟนสาวของเยวอนจริงๆ เธอรู้ดีเสมอ
“พรุ่งนี้แล้ว สู้ๆนะคะ”
“สู้อยู่แล้วค่ะ”
“พี่จะสู้ไปด้วยนะคะ”
“สู้แล้วห้ามถอยนะคะ ใครถอยก่อนแพ้”
“ไม่แพ้แน่นอนค่ะ”
และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง เยวอนตื่นเต้นมากๆ แต่จะประหม่าไม่ได้เป็นอันขาด เพราะรอบนี้คือรอบชี้ชะตาความฝันของเธอ
ใกล้ถึงคิวของเยวอนเข้าไปทุกนาที ในขณะเธอที่รออยู่ที่หลังเวทีก็พยายามโทรหายูนา แต่กลับไม่มีสัญญาณตอบกลับมา… พอเป็นแบบนั้นก็อดคิดมากไม่ได้จริงๆ ปกติยูนาจะรับสายเธอเสมอ แต่ทว่าในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมองโลกในแง่ดีไว้ก่อน ยูนาอาจจะปิดเครื่องมือถือตามมารยาทการชมการแสดงก็ได้
และแล้วคิวของเยวอนก็มาถึง
ร่างเล็กที่ยืนบนเวทีตัดสินความฝันของเธอในชุดเดรสสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ ฝ่ามือทั้งสองกำไมค์สีดำแน่น เสมือนกำลังรู้สึกเกรงกลัวบางอย่าง เยวอนกวาดสายตามองผู้ชมไปรอบๆ มองอย่างไรก็ไม่เห็นยูนาแม้แต่นิดเดียว เธอไม่ใช่คนสายตาไม่ดี และเธอก็มั่นใจว่าเธอมองอย่างถี่ถ้วนแล้ว คิดแล้วก็อดน้อยใจไม่ได้ที่คนรักไม่มาดูเธอสานฝันในวันนี้ เยวอนใช้ปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาที่คลออยู่ออกไปจากใบหน้าของเธอ ตอนนี้เธอต้องทำให้ดีที่สุดก็พอ
สิ้นเสียงร้องเพลงของเธอ เสียงปรบมือจากผู้ชมกับกรรมการดังขึ้นมาแทน
ความฝันของเยวอนเป็นจริงแล้ว
หลังจากที่เธอเข้าห้องของผู้จัดการเพื่อเซ็นสัญญากับค่าย เธอหวังไว้ว่าหลังจากเปิดประตูห้องนี้ออกไป ยูนาจะมาแสดงความยินดีกับเธอ
แต่เยวอนคิดผิด
มือเรียวเปิดประตูออกไป แทนที่จะได้พบกับคนรัก ดันได้พบกับฮวังอึนบี เพื่อนสนิทของยูนา
อึนบีถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาแสดงความยินดีให้กับความฝันของเยวอน ก่อนที่ยื่นให้ร่างเล็กโดยไม่พูดอะไร
“ยูนาล่ะ?”
“อยู่โรงพยาบาล”
“ว่าไงนะคะ”
อึนบีถอนหายใจออกมา พร้อมกับน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตา เยวอนตกใจมาก สายตาของอึนบีตอนนี้กำลังบ่งบอกถึงความเศร้าโศก เป็นสายตาที่ไม่ได้เห็นง่ายๆ…
“ยูนาโดนรถชนตอนข้ามถนนมาซื้อช่อดอกไม้ช่อนี้ให้เธอ”
“...”
“ตอนนี้ยูนาอยู่โรงพยาบาล และหมอก็บอกว่า ยูนาไม่รอดแล้ว”
เยวอนแทบจะทรุดลงไปทันทีที่เห็นร่างยูนา ยังดีที่ยังมีอึนบีคอยประคองไว้ เธอกอดร่างสูงไร้วิญญาณที่นอนอยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉิน ร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดจากอุบัติเหตุ ยากที่จะทนต่อบาดแผลนั่นไหว เยวอนเสียน้ำตามากที่สุดในชีวิตก็ครั้งนี้ ครั้งที่คนรักต้องจากไปเพราะความฝันของเธอ…
‘ฉันสู้สำเร็จแล้วนะ’
‘ไหนว่าพี่จะสู้ไงคะ ทำไมถึงยอมแพ้ล่ะ’
‘อยู่สู้ไปกับฉันก่อนสิ ยูนา..’
‘ขอบคุณนะที่ช่วยมาตลอด’
พอได้สติกลับมาและรู้สึกตัวอีกที เยวอนก็ยืนอยู่หน้าหลุมศพของยูนาเสียแล้ว ร่างเล็กในชุดนักเรียนมัธยมปลายค่อยๆวางช่อดอกไม้ขนาดเล็กลงข้างหน้าป้ายหลุมศพ แค่นึกชื่อชเวยูนาขึ้นมาในหัว น้ำตาก็พลางจะไหลอาบแก้มทุกครั้ง
“นี่ คนขี้แพ้ วันพรุ่งนี้ฉันจะได้เดบิวต์แล้วล่ะ ฉันจะมีเพลงเป็นของตัวเองแล้ว อยากให้พี่ได้ฟังจัง ฉันอยากให้พี่ชมฉันอีก”
“คิดถึงพี่นะคะ”
นาฬิกาปลุกตามเวลาเดิม เวลาเดดไลน์ของเยวอนก็คือเจ็ดโมงเช้าเช่นเดิม ถึงแม้เธอจะเป็นถึงศิลปินในค่ายใหญ่ แต่เรื่องเรียนก็ต้องมาก่อนเสมอ
ร่างเล็กก้าวเท้าเดินไปตามทางฟุตบาท และหยุดฝีเท้าลงที่หน้าป้ายรถเมลล์ เพื่อรอรถเหมือนทุกวัน แต่เหมือนว่าวันนี้เธอมาช้าไปไม่เพียงกี่นาที ยังไม่ทันได้นั่งลง รถเมลล์ก็มาเสียแล้ว
เยวอนก้าวเท้าขึ้นรถไป กวาดสายตาไปรอบๆก็ยังคงพบแต่ผู้คนหน้าเดิมๆ ยังคงกวาดสายตาในรถเพื่อหาที่นั่งต่อ และที่นั่งที่ว่าง ก็คือที่ที่เยวอนกับยูนานั่งไปโรงเรียนด้วยกันเป็นประจำ เยวอนตัดสินใจนั่งตรงนั้น
มือเล็กรวบกระโปรงนั่งลงริมหน้าต่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ยูนาชอบนั่งประจำ พลางหยิบหูฟังสีขาวขึ้นมา และเสียบเข้ากับมือถือของเธอเอง ถ้าเป็นไปได้ อยากจะถอดหูฟังอีกข้างให้ยูนาได้ฟังเพลงด้วยจัง แต่คงเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป...
End.
ชั่ววูบสุดๆเลยค่ะ บอกแล้วว่าปวดตับ!!
Special thank : Theme by S.AQUA
{cursor: url(http://cur.cursors-4u.net/others/oth-6/oth633.cur), progress !important;}
ความคิดเห็น