Ep. 30 ให้รักบำบัด - นิยาย Ep. 30 ให้รักบำบัด : Dek-D.com - Writer
×

    Ep. 30 ให้รักบำบัด

    เมื่อมนุษย์มีความผูกพันกับใครสักคน ต่อมใต้สมองจะหลั่งฮอร์โมนดีไฮโดรอีพิแอนโดรสเตอร์โรน (Dehydroepiandrosterone)หรือ DHEA ออกมา และฮอร์โมนนี้ จะช่วยปราบความเครียดได้ดี

    ผู้เข้าชมรวม

    119

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    119

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  จิตวิทยา
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 ก.ย. 67 / 07:53 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Ep. 30 > PART 0



    อายุ 18 ปี ฉันเรียนมหาวิทยาลัยภาคสมทบหรือเรียกว่าภาคค่ำ เวลาเรียน 17.00-21.00 น. ช่วงเช้าฉันมีเวลามากเกินไปจนรู้สึกเหงา เลยคิดอยากมีสัตว์เลี้ยง ฉันเลือกหมาพันธ์ชาเป่ย (Sharpei) [1] เป็นหมาขนาดกลาง รูปร่างคล้ายกับฮิปโปโปเตมัส ขนสั้น หนังยับ ๆ ย่น ๆ ปกคลุมบริเวณส่วนศีรษะ และลำคอ แต่รอบย่นพวกนี้จะหายไปเมื่อหมามีอายุมากขึ้น 





    ฉันเลี้ยงหมาได้สักพักใหญ่ ฉันก็ได้รับข่าวดีการตอบรับเข้าทำงานในบริษัทเอกชน ฉันจึงเลี้ยงหมาแบบละเลย ไม่ดูแล ไม่ใส่ใจ ความไม่รับผิดชอบต่อชีวิตสัตว์ของฉัน ส่งผลให้หมาตัวนั้นมีนิสัยก้าวร้าว มันกัดแม่ของฉันบ่อยมาก บางครั้งรุนแรงจนแม่ต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ผ่านไปนานหลายปีมันก็จากฉันไป ด้วยอาการป่วย 

    เรื่องนี้ทำให้ฉันเสียใจอยู่ตลอดมา ฉันทำให้หนึ่งชีวิตต้องมีชีวิตที่ไม่ดี ขาดความรัก ขาดการเอาใจใส่ ถูกทอดทิ้งอย่างไร้สำนึก ฉันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้วการรู้สึกผิดของฉันมันช้าเกินไป และฉันตั้งใจอย่างมากที่ชีวิตที่เหลือฉันจะไม่เลี้ยงสัตว์อีก



    ตามหลักจิตวิทยากล่าวว่า “การยอมรับความจริงไม่ได้…” เป็นกลไกการป้องกันตัวของมนุษย์ที่จะปกป้องตัวเอง โดยการไม่ยอมรับความจริง แม้จะรู้ว่ามันผิดแต่ก็ยังไม่สามารถยอมรับว่าตัวเองผิดเลย ทำให้การต่อสู้มันง่ายขึ้น ถึงจะรู้ว่ามันผิด แต่ก็ยังรักตัวเองอย่างนั้น บางครั้งรู้ตัวว่ากระทำผิดเพราะผู้กระทำไม่ถึงพอใจตัวเองที่ทำแบบนั้นสักเท่าไร รู้สึกอับอาย รู้สึกว่าไม่ควรทำ แต่สำหรับคนอื่นๆ อาจจะไม่รู้สึกแบบนั้น เขารู้ว่ามันผิด แต่รู้สึกดีที่ทำแบบนั้นมาก เพียงพอที่จะลืมการกระทำที่ผิดไป[2]



    ปี 2564-2566 (ฉันจำเวลาได้ไม่แม่นยำนัก)

    บ้านของป๊าแม่ของฉัน มักมีสัตว์มาขออยู่อาศัยเสมอ บ้างเป็นหมา แมว กระรอก กระทิก ไก่ นก งู ตลอดจนตุ๊กแกตัวใหญ่มาก อาจเป็นเพราะแม่มักจะให้อาหาร ไม่ขับไล่ แล้วก็ชวนสัตว์คุยตลอดเวลา หรือหลังบ้านฉันมีป่ารกทึบ สัตว์จึงชอบมาขออาศัยอยู่ด้วย จะด้วยเหตุผลใด ๆ ฉันก็ไม่รู้



    ปี 2565-2566


    ระหว่างที่เดินทำงานในบ้านของฉันอยู่นั้น มีแมว สีเทาสลับดำ ตัวหนึ่งเดินป้วนเปี้ยน ๆ ในบ้านของฉัน  

    “แมวใครอ่ะ?” ฉันตะโกนถามแม่

    “แมวของข้างบ้านมาขอข้าวกิน” แม่ตะโกนมาบอกฉัน

    “ใช่ ฉันเห็นรายการอาหารแมวในใบเสร็จที่ฉันเป็นคนจ่าย” ฉันคิดในใจ

    แมวตัวนั้นนั่งมองฉัน ๆ จึงหยุดเดิน แล้วมองไปที่มันบ้าง มันย่อตัวคล้ายจะนั่ง สายตาของมันมองฉันจ้องเหมือนจะสิงร่างฉัน ฉันพรางคิดว่าจะนั่งมองฉันก็มองไป แต่มานั่งขวางทางทำไมเนีย พอฉันจบความคิด มันก็กระโจนขึ้นมาที่อกฉัน ๆ เอามือรับมันอัตโนมัติ ด้วยความตกใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะอุ้มแมวแต่ตั้งแต่นั้นมาฉันกลายร่างเป็นทาสแมวโดยสมบรูณ์

    เหมียว เหมียว” ฉันตั้งชื่อให้มัน ๆ เป็นแมว พันธ์สลิด เพศเมีย อายุ 2 ปี ++ เป็นลูกครึ่ง เพราะหน้าเหมียวบาน หน้าไม่แหลมเหมือนแมวพันธ์ไทย แต่ผสมกับพันธ์อะไร แพทย์ก็ไม่รู้ได้ สัตวแพทย์บอกฉันแบบนั้น ฉันก็เชื่อ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันหูเบา 

    ฉันทุ่มเทกายใจอย่างหนักในการซื้อของประเคนให้เหมียว อาทิ คอนโดแมว ที่นอนแมว เสื้อผ้า ยาหยดหมัด วัคซีน ยาถ่ายพยาธิ ของเล่นแมว ขนมเลีย ปลอกคอ อาหารเปียก ยาบำรุง ผ้าเปียกสำหรับสัตว์ ที่ฝนเล็บทุกจุดใน ฉันมีค่าใช้จ่ายของเหมียวเพิ่มขึ้นเกือบห้าพันบาทต่อเดือน ส่วนฉันใส่เสื้อตัวละร้อยห้าสิบบาท ถึงเสื้อขาด ฉันก็จะใส่ได้

    “พี่ไม่ชอบแมว” ฉันพูดเสียงเข้มกับลูกน้อง
    ในอดีตฉันเคยยืนกรานอย่างแข็งขันว่า แมวเป็นสัตว์อินดี้ และค่อนข้างเห็นแก่ตัว เพราะแมวจะมาหาเจ้าของต่อเมื่อมันหิว หรือต้องการบางสิ่งบางอย่างเท่านั้น แตกต่างจากหมา ๆ คือสัตว์ที่เป็นสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง ซึ่งแมวต่างออกไป 

    ฉันลองไปหาข้อมูลเกี่ยวกับแมว เพื่อพิสูจน์ว่าฉันคิดว่าแมวเห็นแก่ตัวจริงหรือไม่? มีคนคิดแบบเดียวกับฉันค่อนข้างเยอะพอสมควร มีคนให้ความรู้ว่า แมวจะชอบเดินตระเวนออกนอกบ้าน ไปสำรวจบ้านอื่น ๆ แมวจะออกไปตามที่มันต้องการ และจะกลับมาในตอนที่มันอยากจะกลับ และจะมีความสุขกว่าถ้าได้เดินแบบอิสระโดยที่ไม่มีใครอยู่ “เห็นแก่ตัวใส ๆ เลย

    หมาจะค่อนข้างอยู่ในบริเวณบ้าน หรือถ้าจะออกนอกบ้าน ก็เฉพาะตอนที่เจ้าของพาออกไปเดินเล่น หมาจะมีความสุขมาก [3]

    ลักษณะนิสัยของคนเลี้ยง “แมว” จากการวิจัย และรวบรวมสถิติ พบว่า ผู้ที่เลี้ยงแมวมักจะมีลักษณะนิสัยขี้อ้อน รักอิสระ โลกส่วนตัวสูง มีความเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ชอบการถูกควบคุมหรืออยู่ใต้อำนาจใคร เป็นคนถือตัว จู้จี้จุกจิก ขี้ระแวง รอบคอบ มักจะระมัดระวังตัว เชื่อมั่นในตัวเอง เย่อหยิ่ง อาจดูเอาแต่ใจ แต่มักมีรสนิยมที่ดีมากกว่าคนอื่น ๆ [4]



    ในเวลาปกติเหมียวไม่ค่อยสนใจฉันเท่าใดนัก แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามที่ฉันไม่อยู่ มันจะวิ่งหาฉัน ไม่กินอาหาร ไม่หลับแบบเดิม มันจะรอฉัน 


    นี่เป็นคำบอกกล่าวของแม่ฉัน ๆ จะรู้สึกผิดทุกครั้งที่ออกไปกินข้าวกับเพื่อนแล้วกลับดึกเกินไป หรือเป็นวิธีของแม่ฉันไม่ต้องการให้ฉันออกจากบ้านหรือเปล่านะ?


    ฉันจึงหาข้อมูลว่า เหมียวเป็นแบบที่แม่ฉันแรามฉันหรือไม่?

    แมวเป็นสัตว์ที่มีอิสระ และรักสันโดษ แมวจะสามารถอยู่บ้านตัวเดียวได้โดยไม่เหงา แต่แท้จริงแล้วแมวที่ผูกพันกับเจ้าของ ย่อมรู้สึกปลอดภัย และอุ่นใจเมื่อมีเจ้าของอยู่ใกล้ ๆ และอาจเกิดความเครียดได้หากเจ้าของไม่อยู่บ้านนาน ๆ ตามปกติแล้ว ระยะเวลา 8-12 ชั่วโมง แมวเครียดอาจมีพฤติกรรมผิดปกติในการกินอาหาร เช่น กินอาหารน้อยลง หรือบางตัวอาจกินมากกว่าปกติ นอน หรือเก็บตัวมากขึ้น[5]



    เมษายน 2567

    ก่อนสงกรานต์เหมียวป่วย กินน้อยมาก นอนซมเป็นของเหลว ไร้เรี่ยวแรง จมูกแห้ง ขนร่วงมาก เดินมานอนกกกอดฉันมากกว่าปกติ ฉันรู้สึกว่าเหมียวไม่สบาย ฉันจึงพาไปหาสัตวแพทย์ตามอาการ 


    น้ำหนักของเหมียวที่สัตวแพทย์ชั่ง เหมียวยังไม่มีอาการป่วย แพทย์ให้น้ำเกลือ จ่ายยาเล็กน้อยแล้วกลับบ้านได้ แพทย์ว่าจะดีขึ้นใน 2-3 วัน ถ้าไม่ดีขึ้นถ้าฉันอยากรู้ว่าชัดเจนต้องตรวจเลือด แต่ยังไม่มีอาการอะไรมากอีก 2-3 วัน ไม่หายแล้วมาเจาะเลือดดูก็ได้ 


     “แล้วจะรออะไรคะ!!!” ฉันตวาดแพทย์อยู่ในใจ แต่ภายนอกอุ้มแมวขึ้นมาในรถฯ อย่างสงบ ????????



    แมวกินอาหารได้น้อยลง หรืออาการเบื่ออาหาร เรียกว่า Hyporexia คือยังกินอาหารอยู่บ้าง แต่ไม่มากเท่ากับปริมาตรที่เคยกิน แต่ไม่ทานอะไรเลย เรียกว่า Anorexia ต้องรีบแก้ไขปัญหา เพราะถ้าหากปล่อยให้แมวไม่ทานอาหาร ก็จะขาดสารอาหาร ส่งกระทบต่อกระบวนการเผาผลาญ (ระบบเมตาบอลิซึม) และเป็นเหตุให้มวลกล้ามเนื้อสลายได้[6]



    2-3 วัน ฉันกลับไปที่คลีนิคอีกครั้ง เพราะเหมียวยังไม่ดีขึ้น กินน้อยมาก ซึม ไม่ร่าเริง ฉันตัดสินใจตรวจเลือดส่งแลป บังเอิญผู้ช่วยแพทย์ไม่อยู่ ฉันจึงต้องเป็นผู้ช่วยแพทย์จำเป็นเสียเอง

    ฉันจับเหมียว ๆ กรีดร้องดังมาก ฉันไม่เคยได้ยินเหมียวร้องดังขนาดนี้ เหมียวเอาหัวมุดแขนฉัน ร้องกรี๊ดอ้าปากกว้าง ฉันทั้งขำ ทั้งเอ็นดู ทั้งสงสารละคนกันไป เหมียวกำลังจะกัดแพทย์ฉันเอาตัวเองเข้าไปบัง เหมียวเลยกัดที่ปากฉันพอดี 


    ผลตรวจเลือดมีเกณฑ์ที่ดีทุกอย่าง เว้นเรื่องค่าตับ อาจจะสูงไปนิดนึง ฉีดยา 2 เข็ม พร้อมน้ำเกลือ และยาเม็ดมากินต่ออีก 4-5 วัน 


    สัตวแพทย์ที่นี่ก็น่ารักมาก โทรฯ ถามอาการเหมียวทุกวันเลย จะถามเน้นเป็นพิเศษคือแผลที่ปากฉัน



    สาเหตุของพฤติกรรมแมวก้าวร้าว เกิดจาก 

    1) ความเครียด ความกังวล และความกลัวการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมอย่างกะทันหันอาจทำให้แมวมีพฤติกรรมก้าวร้าวได้ มันจะโจมตีทุกสิ่งที่มองว่าเป็นภัยคุกคาม 

    2) อาการเจ็บปวดทางร่างกายอาจทำให้พฤติกรรมของแมวเปลี่ยนไป ความเครียด และความไม่สบายตัว ทำให้ความอดทนลดน้อยลง ส่งผลให้แมวดุและแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมา[7]




    ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย จึงเป็นอวัยวะที่ต้องการการลำเลียงเลือดมาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก หากการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดผิดปกติ จะส่งผลให้ตับขาดเลือด เกิดภาวะตับวายได้


    ค่าตับที่เจ้าของสุนัขและแมวได้ยินกันบ่อย ๆ ความจริงแล้วคือ ค่าเอนไซม์ตับ ซึ่งมีมากมายหลายค่า เช่น Aspartate aminotransferase (AST หรือ SGOT) Alanine aminotransferase (ALT หรือ SGPT) หากพบว่าค่าเอนไซม์มีค่าสูงขึ้น สามารถวินิจฉัยได้ว่าเกิดจากเซลล์ตับเสียหายหรือถูกทำลาย


    สาเหตุที่ทำให้ค่าตับสูง [8]

    1) โรคเกี่ยวกับตับหรือความผิดปกติจากตับโดยตรง 

    2) การได้รับยาหรือสารพิษ เนื่องจากตับเป็นอวัยวะหลักที่ใช้ในการกาจัดสารพิษของร่างกาย 

    3) การกินอาหารไขมันสูง ก่อให้เกิดภาวะไขมันพอกตับ ส่งผลต่อการทำงานของตับ และก่อให้เกิดค่าเอนไซม์ในตับสูงด้วย 

    4) มะเร็งตับ



    พอกลับมาถึงบ้าน ฉันไม่ป้อนยาตามแพทย์สั่ง เพราะเพิ่งฉีดยา ตั้งแต่ถึงบ้านเหมียวหนีไม่มาหาฉัน ไม่กินอาหาร ไม่กินน้ำ 


    ฉันเรียกหาก็ไม่มา ถึงเวลานอนแล้วก็ไม่มานอนที่ตัวเองในห้องนอนฉัน เงียบกริบ !! ไร้เสียงกระดิ่งที่ปลอกคอของเหมียว !! ฉันรอเหมียวทั้งคืนก็ไม่มาเป็นเวลา 3 วันแล้วที่ไม่มีเสียงจากเหมียว ฉันเครียดมากทำงานไม่มีสมาธิเลย 



    ความเครียด ทำให้มีผลเสียกับร่างกาย แล้วแมวเครียดอะไรกัน ความเครียดของแมว เกิดเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันขึ้น การเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าสัตว์อื่นๆ ที่ไม่เคยพบรวมทั้งสถานการณ์ที่เป็นอันตราย หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันที่ซ้ำซาก ซึ่งร่างกายจะกระตุ้นให้ “หลั่งฮอร์โมนความเครียด” ซึ่งจะเร่งอัตราการเต้นของหัวใจ ความดัน รวมทั้งน้ำตาลในเลือดก็เพื่อให้เจ้าเหมียวมีร่างกายที่พร้อมที่จะต่อสู้ ซึ่งความเครียดในช่วงสั้น ๆ ไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าต้องเครียดในระยะยาว การกระตุ้นร่างกายก็จะยาวนานไปด้วย ย่อมเกิดผลเสียกับร่างกายของแมวแน่นอน[9]

    สัญญานเตือนของอาการแมวเครียด [10]
    1) ท้องเสียจะส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำอย่างรวดเร็ว อ่อนเพลีย และอาจนำไปสู่อาการเจ็บป่วยอื่น ๆ หากพบว่าน้องแมวท้องเสียติดต่อกันนาน 2 – 3 วัน ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

    2) อาเจียนส่งผลให้ร่างกายน้องแมวขาดน้ำและไม่อยากอาหาร ร่างกายก็จะขาดสารอาหาร ส่งผลให้น้องแมวป่วยหนักยิ่งขึ้น

    3) น้ำมูกไหลอาจทำให้น้องแมวรู้สึกไม่สบายและเลียจมูกบ่อยขึ้น นำไปสู่การติดเชื้อแบคทีเรีย

    4) เบื่ออาหาร อาการเครียดอาจส่งผลให้น้องแมวกินน้ำและอาหารน้อยลง ผลที่ตามมาคือร่างกายจะอ่อนแอ ป่วยง่าย ขาดน้ำ และขาดสารอาหาร

    5) น้ำหนักขึ้น-ลงเร็วผิดปกติ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และป่วยง่าย การกินอาหารมากขึ้นก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน โดยเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน โรคหัวใจ และปัญหาเกี่ยวกับไต



    ป๊าฉันเดินตามจนเจอเหมียวหลบอยู่ในหลืบใต้หัวเตียงเก่าของฉัน ป๊าร้องเรียกเสียงดัง ให้ฉันมาดู ฉันรู้ได้ในทันทีว่า “ฉันทำเหมียวเครียด” ฉันปล่อยให้เหมียวอยู่ที่ตรงนั้น ไม่ไปรบกวน อีก 2 วัน ถัดมา เหมียวก็ค่อย ๆ เดินมาหาฉันที่เตียงนอนของฉัน ๆ รีบอุ้มเหมียว กอด เช็ดตัว พูดคุย เหมียวเริ่มเข้าหาฉันมากขึ้น 

    เหมียวเริ่มกินอาหารเปียกได้บ้าง แต่ยังกินได้น้อย ช่วงสงกรานต์ฉันเลยไม่ได้ไปไหนต้องดูแลเหมียว เพราะเหมียวจะเรียกฉัน เกือบทุก 2 ชม. เพื่อให้อาหาร ฉันกลับมานอนน้อยอีกแล้ว

    ฉันพยายามศึกษาพฤติกรรมของแมวในท่าทางต่าง ๆ เพราะฉันอยากเข้าใจเหมียวให้มากที่สุด 


    ฉันตั้งใจจะเลี้ยงเหมียวให้ดีกว่านี้ เพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่ฉันเคยเลี้ยงสัตว์แบบโง่ ๆ จนทำให้ฉันรู้สึกผิดในใจมาจนปัจจุบัน 


    ฉันไม่รู้ว่าฉันต้องเลี้ยงดีสักเท่าไร? ถึงจะเรียกว่าเลี้ยงดีแล้ว แต่ฉันรู้เพียงว่าฉันจะเลี้ยงให้ดีที่สุด ฉันกำลังพยายามแก้กรรมที่ฉันสร้างในอดีตในแบบของฉัน



    วิบากกรรมก่อเกิดจากสิ่งที่เราเคยทำไว้ในอดีต แล้วเกิดเป็นผลบาปอกุศลกรรมที่ส่งเป็นผลวิบากทำให้ชีวิตพบอุปสรรค จะแก้ไขก็ต้องเอาบุญแก้ เพราะฉะนั้นถึงคราวเราถ้าต้องการตัดกรรมหนัก ก็ให้ถือหลักการได้สร้างบุญโดยการให้ทานรักษาศีล เจริญภาวนา แล้วขอให้เราอยู่ในบุญรักษากาย วาจา และใจของเราให้เกาะเกี่ยวอยู่ในบุญกุศลเท่านั้นเอง[11]


    ด้วยรัก และระลึกถึง
    20.10 
    Songthumsip by ทรงศรี


    อ่านเพิ่มเติม
     [1]รูปภาพ ภาพถ่าย และภาพสต็อกที่เกี่ยวกับ สุนัขพันธุ์ชาเป่ย https://www.istockphoto.com/th/ภาพถ่าย/สุนัขพันธุ์ชาเป่ย
     [2]ทำไม ? บางคนทำผิด แต่กลับไม่รู้สึกผิด https://ooca.co/blog/no-feel-guilty/
     [3]ความแตกต่างระหว่างสุนัขและแมว: เรียนรู้สิ่งที่ทำให้สัตว์เลี้ยงแต่ละตัวมีความพิเศษ https://www.hills.co.th/pet-care/resources/differences-between-cats-and-dogs
    [4] นิสัยที่แตกต่างของคนเลี้ยงหมา Vs แมว https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/76310/-blog-blog_womlovlif-blog_womlov-blog_wom-
     [5]แมวอยู่บ้านตัวเดียวได้ไหม น้องจะว้าวุ่นหรือเปล่า?https://www.petclub.co.th/content/11268/how-long-can-you-leave-cat-alone
     [6]สาเหตุทำไมแมวกินอาหารน้อยลง อย่าช้าต้องรีบแก้ไข https://hbf.co.th/สาเหตุทำไมแมวกินอาหารน/
     [7]พฤติกรรมก้าวร้าวของแมว https://www.temptations.co.th/cat-care/how-to-deal-with-angry-cats
     [8]สุนัขและแมวค่าตับสูง https://curadio.chula.ac.th/Program-Detail.php?id=9227
     [9]แมวเหมียวเครียดง่ายกว่าที่คิด
     [10]รวมเคล็ดลับในการดูแลเมื่อน้องแมวเครียด https://www.sheba.co.th/cat-language-of-love/general-care-articles/relieve-stress-in-cats
     [11]เผยความจริง เรื่องการแก้กรรม https://kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=8720












    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น