ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ben 10 : แค่มือใหม่ของช่างประปา (oc)

    ลำดับตอนที่ #8 : Ben 10 : Episode 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.38K
      82
      21 มี.ค. 63

    Ben 10 : Episode 7

     

    ༉﹙ै़ะ???? Crᥱ́dιto ᥲ stᥲrrყᥒιght000 oᥒ Tᥙmbᥣr????ะै़﹚༉

     

    "The Only Disability in Life is Bad attitude."

     

    จากความเดิมตอนที่แล้ว...

     

     

    "อ่าา...ขอบใจ"ก่อนที่แอสมัสจะตรวจสอบออมนิทริกส์

     

     

    "อืม....สมบูรณ์แบบข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมองออกว่าทำพลาดตรงไหน ถือว่าเจ้าฉลาดมาก แต่ข้าก็ยังฉลาดกว่า แต่ทว่าประตูมิตินั้นน่ะ ยังซ่อมไม่เสร็จหรอกนะ"แอสมัสพูดขึ้นทำให้มาติสอาปากค้าง

     

     

    "เพราะว่านั้นแค่จุดเล็กๆเท่านั้นน่ะ ยังเหลืออีกหลายจุดที่ข้าอยากให้เจ้าซ่อมมัน"แอสมัสพูดขึ้นก่อนจะยิ้มออกมาและเดินจากไป มาติสที่ได้ยินสิ่งที่แอสมัสกล่าวก็ขาอ่อนก่อนจะสลบลงไปอย่างกระทันหัน ไมแอกซ์ที่เห็นก็ตกใจก่อนที่จะนำมาติสไปที่พักฟื้นตัวทันที

     

     

    เมื่อผ่านไป 4 เดือนกว่า.....

     

     

    เมื่อมาติสโดนใช้ซ่อมประตูมิตินั้นก็ถึงกลับเข่าเพลียเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่าเพราะเธอจะได้กลับจากนรกที่นี่สักที ซึ่งถ้าถามเรื่องความสัมพันธุ์ของมาติสกับแอสมัส ซึ่งก็ถือว่าพัฒนาการขึ้นเยอะ จากที่ใช้ซ่อมต่างๆ ตอนนี้ก็ใช้เสริฟอาหาร ใช้ตรวจตราผู้คน หรือเป็นคนขนของจนมาติสจะชินกับมัน

     

     

    ซึ่งแอสมัสนั้นไว้ใจมาติสมากขึ้นและเคยลองให้มาติสประดิษฐ์สิ่งต่างๆเอง ซึ่งสิ่งที่มาติสประดิษฐ์มานับว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องวาบที่จะวาบไปสถานที่ที่ติดตั้งตัวเครื่องส่งสัญญาณได้ ซึ่งมันดีอย่างมาก กับแว่นตาที่สวมไว้ใส่แสนหาพวกแร่ที่อยู่ใต้ดิน

     

     

    แต่ละอย่างที่เธอประดิษฐ์มานับเป็นแต่ของดีๆทั้งนั้น ซึ่งเขาก็ดูจะไว้ใจและเชื่อใจและสนับสนุนเธออย่างมาก เมื่อถึงวันนี้แล้วเขาก็คงต้องประดิษฐ์คนเดียวแล้ว เนื่องจากไมแอกซ์ต้องไปรักษาตัวออมนิทริกซ์เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในมือพวกเล่าร้าย

     

     

    ไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงได้ แต่ยังไงเขาก็ไม่เสียใจอะไรอยู่แล้วล่ะ

     

     

    "คือ...ถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่บ้านเกิดข้า แต่ข้าก็มีความสุขกับที่นี่เป็นอย่างมาก ข้าหวังว่าท่านคงจะปนะดิษฐ์สิ่งใหม่ๆที่ดีได้นะ"มาติสพูดในขณะเปิดสวิตซ์ของประตูมิติมำให้เห็นภาพตรงหน้าเป็นเมืองที่เธอคุ้นเคย นั้นก็คือ Hollywood ยังไงล่ะ

     

     

    "ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะมาเป็นตัวประโยชน์สำหรับข้าเหมือนกัน สำหรับข้าเจ้านับเป็นตัวโชคที่เข้ามาในชนเผ่าอย่างกัลวิ่น"แอสมัสพูดและยิ้มเล็กน้อย มาติสก็ยิ้มกลับก่อนจะเดินเข้าไป

     

     

    "ลาก่อนแอสมัส หวังว่าครั้งหน้าคงได้เจอกันอีก"ก่อนที่มาติสจะเดินเข้าไปที่ประตูมิติ แอสมัสก็พูดออกมา

     

     

    "เช่นกัน จามมาติส"

     

     

    ฟรึ่บ!

     

     

    ประตูมิติก็ได้ปิดลงเมื่อมาตอสเดินเข้ามา ก่อนที่เธอจะกระโดดปีนขึ้นไปบนยอดตึกเพื่อหาดูว่าฐานทัพลับของช่างประปาอยู่ตรงไหน ก่อนที่เธอจะเจอมันและรีบกระโดดไปที่นั่นทันที โดยทีไม่สนสายตาของชาวเมืองที่ตกใจเธอเป็นอย่างมาก และบางคนก็กรี๊ดกราดเพราะว่าเขาอาจจะรู้จักเธอ

     

     

    เมื่อมาติสกระโดดมาถึงก็เดินเข้าไปในฐานทัพลับทันทีโดยกรอกรหัสผ่านอย่างชำนาญ ก่อนจะพบเจอท่านดวีอุสยื่นมองข้อมูลอยู่ ก่อนที่ท่านจะหันมาเจอมาติส

     

     

    "โอ้ให้ตายสิพระเจ้า มาติสเธอไปไหนมานะ?"ช่างประปาคนนึงถามเมื่อเห็นมาติส

     

     

    "รู้ไหมว่าทุกคนตามหาเธอทั่วประเทศเลยนะ เธอหายไปตั้ง 4 เดือนกว่าแนะ"ช่างประปาพูดขึ้น

     

    "โทษทีค่ะ พอดีว่าโดนเอเลี่ยนจับตัวไปและพึ่งออกมาได้นะคะ คุณโกส"มาติสเอ่ยออกมาด้วยความเท็จโดยแท้จริงแล้วเธอแค่โดนแอสมัสนั้นดูดเราไปที่นั้นและหลอกใช้ต่างหาก แต่เธอก็กลัวว่าพวกเขาจะไม่เชื่อเลยพูดความเท็จออกไป

     

     

    โกสที่ได้ยินก็ถามถึงความเป็นห่วงเเต่มาติสกลับไม่สนใจ ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ท่านดวีอุส

     

     

    "ขอโทษค่ะ ที่ดิชั้นไม่ได้ทำงานที่นี่"ท่านดวีอุสที่ได้ยินก็กล่าวออกมาด้วยความนุ่มนวล

     

     

    "ลุกขึ้นเถอะ ฉันไม่ว่าอะไรหรอก ฉันเข้าใจว่ามันยากลำบากอย่างมากที่จะรอดออกมาจากเอเลี่ยนได้ แต่ก็ยังโชคดีแลเวที่เธอปลอดภัย แถมช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมยาว เธอควรไปพักผ่อนตามอัธยาศัยนะ"ท่านดวีอุสกล่าวจบตาของมาติสก็เปล่งประกายก่อนที่จะกล่าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

     

     

    "โอเครค่ะ งั้นดิชั้นขอควรออกไปตามวัยรุ่นนะคะ"ก่อนที่มาติสไม่รอช้ารีบชิ่งไปเอามอเตอร์ไซด์โปรดของเธอและทำการซิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว จนทั้งสองถึงกับนิ่งงันไปเรียบร้อย

     

     

    และเนื่อวจากว่ามาติสเป็นคนขับรถเร็วเป็นประจำ ทำให้เธอห่างไกลจากตัวเมืองได้อย่างรวดเร็วอย่างงี้แหละจะตามตัวหายาก แถมเธอชอบขับ 120 สะด้วยไม่เคยขับแบบ 80 70 สักครั้งเลยเห้อ...

     

     

    เมื่อมาติสที่ขับรถอยู่ก็พลางคิดไปเออไปว่าตนไปตามล่าเอเลี่ยนด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องทำตามใครที่ไหนเธอคิดว่ามันน่าจะเข้าท่าดี ก่อนจะเห็นโรงแล่เนื้อผ่านไปแต่แปลกเพราะตอนนี้มันก็เป็นเวลาค่อนข้างดึกไม่ค่อยมีใครมาเท่าไหร่หรอก ก่อนที่เธอจะจอดรถมอเตอร์ไซด์ข้างๆกับรถตู้ที่เหมือนรถตู้ค้างแรมไปไหนมาไหนสะดวก

     

     

    แต่เธอก็ไม่สนใจอะไรก่อนจะเดินเข้าโรงแล่เนื้อสดไปก่อนจะสวมผ้าปิดปาก และอัญเชิญเคียวออกมาและเก็บไว้ที่หลัง ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนที่สูงและไม่มีแสงไฟกระทบ เพื่อไม่ให้ใครเห็นเธอได้ก่อนที่เธอจะกว่ดตาสายตามองกลุ่มผู้คนที่ท่าทางแปลกๆ

     

     

    "ฟิล!"ชายชรารีบวิ่งไปช่วยเพื่อนของตนอย่างทันท่วงที เหมือนกับโดนอะไรบางอย่างฟาดเขามาอย่างแรง

     

     

    "แม็ก ขอบใจนะที่มาช่วย มัน 2 ตัวฉลาดด้วยคงต้องเอาคัมภีร์มาปัดฝุ่นสะแล้วล่ะ"ฟิลพูดขึ้นด้วยท่าทางที่หยอกล้อเล่น แต่มาติสก็ตกใจกับคำว่าแม็ก เพราะท่านดวีอุสเคยเล่าให้เธอฟังว่าเป็นพื่อนร่วมทีมที่ท่านดวีอุสยินยอมในการใช้สมองอย่างเขามาก มาติสจ้องมองไปที่แม็ก ก่อนจะหันมามองเด็ก 2 คนที่ไม่คิดว่าจะมาอยู่ในเหตุการณ์ที่น่าอันตราย

     

     

    "ไม่เป็นไรครับ ผมจัดการให้"มาติสถึงกับตาโตแถบจะตาถล่นออกมา เพราะที่ข้อมือของเด็กนั้นมีออมนิทริกซ์!

     

     

    'ม ไม่จริงน่ามันควรจะให้ไมแอกซ์คุ้มครองอยู่สิ ไหงถึงได้อยู่ที่นี่!?'มาติสคิดพลางเหงื่อไหล ก่อนจะฟังสถานการณ์ต่อไป ภายหน้าของพวกคนกลุ่มนั้นก็มีหมอกควันก่อนที่มันจะจางลงทำให้เห็นเอเลี่ยนชนเผ่าไวพลิแมนเซอร์ที่มาจากดาววูพลิน

     

     

    "เพื่อนเธอรึเปล่า?"เด็กสาวที่อยู่ข้างเด็กหนุ่มก็ถามขึ้นพลางทำหน้าตาที่เห็นก็รู้สึกขยะแขยงเล็กน้อย ก่อนที่ไวพริแมนเซอร์ 2 ตัวนั้นจะเริ่มเข้ามาใกล้ๆพวกเขา

     

     

    "ไวลด์มัทท์ ถึงจะคุยกับมันได้"ก่อนที่เด็กหนุ่มนั้นจะใช้ออมนิทริกซ์

     

     

    'หืม....ชื่ออะไรล่ะนั้น แถมใช้ออมนิทริกซ์เป็นสินะ สงสัยคงจะมาถึงนานแล้วรึเปล่า? ก็จำไม่ค่อยแน่ชัดเหมือนกันแฮะ'มาติสพลางมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ

     

     

    "เบ็น!"แม็กก็ได้เตือนเบ็นแต่ทว่ากลับช้าเกินไปสะแล้ว ก่อนที่เบ็นนั้นจะกลายร่างเป็นไวลด์มัทท์ตามชื่อที่เขขาว่ามานั้นแหละ

     

     

    "มิน่าล่ะ นาฬิกาถึงดูคุ้นๆ ออมนิทริกซ์ นี้เอง"ฟิลพูดขึ้นพร้อมมองไปที่เบ็นที่ตอนนี้เป็นไวลด์มัทท์ไปเป็นที่เรียบร้อย

     

     

    'มนุษย์ที่อยู่บนโลกใบนี้ก็รู้จักด้วยสิน่ะ'ก่อนที่เบ็นนั้นจะไปสื่อสารกับพวกเดียวกัน แต่ทว่าถึงแม้พวกเดียวกันแต่พวกเขาก็ไม่คิดจะสนอยู่แล้วล่ะ แหงล่ะ ก็นี้คือเอเลี่ยนนี้น่า

     

     

    "คุยอะไรกันนะ?"

     

     

    "ไวพริแมนเซอร์น่ะ ไม่นิยมเจรจาหรอก แม้แต่พวกเดียวกัน"แม็กพูดขึ้น มาติสที่ได้ยินก็ยกยิ้มออกมาอย่างชอบใจ

     

     

    'สมกับสิ่งที่ท่านดวีอุสพูดจริงๆ รู้เรื่องเอเลี่ยนดีสะด้วย' ก่อนที่มาติสจะดูการต่อสู้ที่น่าสนุกสนาน แต่ทว่าเบ็นกลับไปไม่ต่อสู้เอาแต่เป็นฝ่ายหลบหนีอย่างเดียว ทำให้มาติสเบื่อเล็กน้อยแต่ก็ยังคงดูอยู่เรื่อยๆ

     

     

    "ดูหน้าแล้วชาติหน้าคงไม่เปลี่ยนเป็นมังสวิรัติใช่ม่า?"เด็กสาวพูดติดตลกออกมา มาติสที่เห็นท่าไม่ดีก็ได้เวลาออกโรงของเธอแล้วบ้าง ในขณะที่พวกกลุ่มนั้นกำลังโดนไวพริแมนเซอร์อ้อมทั้งสองไว้อยู่

     

     

    มาติสก็ถือเคียวและกระโดดลงไปก่อนจะใช้เคียวเกี่ยวคอไวพริแมนเซอร์ทั้งสองตัวก่อนจะโยนไปติดกำแพง ก่อนจะโยนเคียวไปและใช้จังหวะนั้นทีบไปที่จุดสลบทั้งสองคนและจับเคียวที่โยนไปมาพอดีเป๊ะ ก่อนที่จะใช้ปืนประตูมิติที่เธอมีไว้อยู่ตลอดแล้วทำให้ไวพริแมนเซอร์ทั้งสองถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ

     

     

    พวกเขาต่างตกใจและตกตะลึงเป็นอย่างมากกับการปรากฏตัวของสาวข้างหน้า

     

     

    "ธ เธอเป็นใคร!?"เเด็กทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกับ

     

     

    "ช่างประปายศ พลเอก จากองค์อำนวย ดวีอุส โอสราชันย์ ง่ายๆคือ ช่างประปาค่ะ"มาติสพูดพร้อมเก็บเคียวไปเป็นสร้อยเหมือนเดิมพร้อมมองไปที่แม็ก

     

    "คุณแม็ก เท็นนีย์สันก็คงจะรู้จักดีกับท่านดวีอุสนะคะ"มาติสพูดจบ แม็กที่ได้ยินก็นึกคิดออกได้

     

     

    "รึว่าเจ้านั้้น!?"

     

     

    "เจ้านั้้น???"X 2

     

     

    "สหายสนิทเก่าที่เคยทำงานร่วมกัน ไม่นึกว่าเธอจะมาจากเจ้านั้น"แม็กพูดด้วยความดีใจที่สหายเก่าของเขายังอยู่ดีมีสุขจนเจริญเติบโตมาสร้างผู้สืบทอดจากสหายของเขา

     

     

    "แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่?"ฟิลที่ได้สติกลับมาก็ถามมาติส

     

     

    "ออกล่ากำจัดเอเลี่ยนไปทั่วนะคะ แต่จะว่าไปเดี๋ยวนี้แปลกๆนะคะเนี้ยทที่โผล่ออกมาตัวเดิมๆนะคะ"มาติสพูดพลางเดินไปออกไป แต่พวกเขาก็เดินออกมาตามด้วย

     

     

    "แล้วเธอจะไปยังไงล่ะ?"เบ็นก็ถามขึ้นมมาในขณะเดินอยู่

     

     

    "ก็ขี่รถไงค่ะ รถมอเตอร์ไซต์นะคะ"ก่อนจะเดินออกมาจาโรงแล่เนื้อสด ก็กำลังจะนั่งรถมอเตอร์ไซต์ก็โดนชุกชวนจากฟิลสะแล้ว เขาว่าจะชวนมาติสมาพักดูทีบ้านของเขา เพราะด้วยความสัมพันธ์ุและความรู้จักกันมากขึ้นในสถานะช่างประปา มาติสก็ยอมมา

     

     

    "เน้ๆ จะวางไปเธอทำได้ไงตอนกระโดดลงมาน่ะ ไม่ขาหักบางเหรอสูงขนาดนั้นน่ะ"เกวนก้ถามมาติสในขณะที่มาติสนั่งอยู่ (น้องมาติสนั่งมาด้วยกับรถปู่เเม็กนะคะ แล้วรถน้องเนี้ยก็เก็บมาเรียบร้อยก็รถน้องเป็นสิ่งที่น้องประดิษฐ์เองมาอ่ะ อย่างกับกระเป๋ษพกกาแต่ถ้ากดปุ่มเมื่อไหร่ก็เป็นมอเตอร์ไซต์ไปสะแล้ว)

     

     

    "ออ ถ้าเป็นเรื่องนั้นล่ก็ไม่ขาหักหรอกค่ะ ถ้าขาแข็งแรงพอแถมถ้าฝึกบ่อยๆก็ชินเองค่ะ"มาติสตอบเกวนพลางมองไปรอบๆในรถนี้อย่างน่าสนใจ

     

     

    "งั้นเหรอๆ ว่าแต่เธอน่ะไปทำอะไรมายังไงทำผิวเนียนอย่างนี้เนี้ย?"เกวนพูดพลางจับดูที่แขนมาติสที่เล็กพอดีกับร่างกายแถมนุ่มนิ่มและเรียบเนียนอีกสะด้วย

     

     

    "ก็เยอะแยะเลยค่ะ ทาครีมกันแดด อาบน้ำอาบตัวนะคะ"ก่อนที่มาติสกับเกวนจะคุยกันตามประสาสาวๆกันอ่ะน่ะ ส่วนเบ็นก็นั่งดูทั้งคู่ที่คุยกันอย่างสนุกสนาน ปู่แม็กที่เห็นก็พูดแซะเบ็นขึ้นมา

     

     

    "แมะ เอาแต่จ้องเชียวนะหลาน ชอบเขาล่ะสิ"แม็กพูดพลางมองทางตามรถฟิลไปด้วย

     

     

    "โธ่ ปู่ก็! เรื่องของผมน่า!"เบ็นก็หันหน้าหนีก่อนจะหันมามองทาง ปู่ที่เห็นก็แอบยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขับรถต่อไป

     

     

     

    ----

     

    ตอนนี้จะยาวหน่อยล่ะเนอะ เนื่องจากเจอเบ็นสักทีก็เอายาวหน่อยล่ะกัน

     

    อุคริๆ

     

     

    ยังไงก็บับบายยยยย

     

     

     

    ----END----

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×