ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ll หัวขโมยแห่งบารามอส ll หลังจากสงครามเอเดน-เดมอส

    ลำดับตอนที่ #4 : ~วิธีรักษาเพียงทางเดียว - ฝ่าฝันอุปสรรค~

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.64K
      0
      6 มิ.ย. 48



    ยอมแพ้แล้วจ้า อย่าฆ่ามูนเลยนะเจ้าค่ะ T-T



    ยังไงมูนก็จะมะให้เฟรินตายเด็ดขาดเลยค่ะ



    ส่วนเรื่องที่อุบไว้บ่อยๆเพราะมีคนเม้นมาว่า



    \'ทำไมเดี๋ยวนี้เปิดเผยจัง อุบไว้บ้างก็ดีนะ\' มูนเลยจำเป็นต้องอุบไว้อ่าค่ะ ยังไงก็อย่าเพิ่งฆ่ามูนเลยนะคะ T-T



    ไม่งั้นฟิคนี้คงจามะจบแน่ๆเลย อดใจไม่อัพมะด้ายอ่าค่ะ คนอ่านขี้อ้อนเหลือเกิน ส่วนมูนก็ใจอ่อนเกินปายย แงๆๆ..ขาดทุนอีกแล้วเรา T-T



    ...................................................................................................................................................................................



    \"วิธีแก้มีอยู่วิธีเดียว ก็คือ ต้องไปเอาหยาดน้ำค้างแห่งรุ่งอรุณ บนภูเขาที่สูงที่สุดในสโนวแลนด์และเลือดของคนรัก มาผสมกันแล้วให้เฟรินดื่ม\" มาดัสพูดพลางหันหน้าไปมองคาโล แล้วเริ่มพูดต่อ



    \"แน่นอนว่าหยาดน้ำค้างจะหมดฤทธิ์ใน 1 ชม. เพราะงั้นก็ต้องเอาเฟรินไปด้วย ออกเดินทางยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี\"



    \"เราเหลือเวลาอีกกี่วันครับ\" คาโลถามพลางมองไปที่หญิงที่ตนรักอย่างห่วงใย



    \"7 วัน ถ้าช้ากว่านี้คงไม่ทันแล้ว เพราะงั้นออกเดินทางวันนี้เลยดีกว่า\" มาดัสพูดน้ำเสียงแฝงไปด้วยความห่วงใยลูกสาวอยู่ไม่น้อย



    \"7 วัน!!\" ทุกคนตะโกนออกมาพร้อมกัน



    \"ใช่ แต่ฉันคงไปด้วยไม่ได้หรอกนะ พวกเธอต้องเดินทางไปกันเอง แล้วเดี๋ยวฉันจะบอกวิธีรักษาไว้กับหมอโอเดล\" มาดัสพูด แล้วหันไปคุยกับลุงหมอทันที ส่วนพวกคาโลก็ตกลงแบ่งหน้าที่กันทันที



    \"งั้นมาทิลด้า เธอไปบอกพวกรุ่นพี่กับมหาปราชญ์เลโมธีนะ\" คาโลบอกมาทิลด้า แล้วเธอก็รีบวิ่งออกจากห้องไปทันที



    \"แล้วเกวียนจะเอายังไงล่ะคาโล\" เสียงของครี้ดดังขึ้น เกวียนที่พวกเราจะไปได้หมดก็ไม่มีซะด้วยสิ



    \"เรื่องเกวียนเดี๋ยวฉันจัดการเอง\" โร ขอทานกิตติมศักดิ์พูดขึ้น



    \"โอเค งั้นเจอกันหน้าป้อมบ่าย 2 นะ\" คาโลบอกเสร็จแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันออกจากห้องเพื่อนไปจัดของ



    \"งั้นเดี๋ยวฉันจัดของเอง\" คิลว่าพลางเริ่มจัดของ ส่วนมาดัสนั้นพอบอกวิธีกับลุงหมอเสร็จก็หายไปเลย เหลือไว้แต่ยาที่ช่วยบรรเทาอาการตัวร้อนของเฟรินเท่านั้น



    \"ไม่เป็นไรนะเฟริน ฉันจะดูแลนายเอง\" คาโลพูดเบาเหมือนกระซิบ แต่เฟรินก็ไม่สามารถรับรู้อะไรได้ เนื่องจากเธอทรมานจนแม้แต่ขยับตัวก็ไม่ได้



    ------------------------------------------------------------------------------------------------



    ~บ่าย 2 หน้าป้อมอัศวิน~



    \"ทุกคนมากันครบหมดรึยัง\" มาทิลด้าถามขึ้นมา



    \"ยังเหลือคาโล เฟรินและคิล\" ครี้ดตอบ และทันได้นั้นคาโลก็อุ้มเฟรินออกมาจากป้อม ส่วนคิลก็หอบของพะรุงพะรังเต็มไปหมด



    \"แล้วเกวียนล่ะ\" เมื่อคาโลเดินมาสมทบกับเพื่อน แต่ยังไม่เห็นเกวียนจึงถามขึ้น\"



    \"ขอโทษที่มาช้านะ มาทิลดี้\" เสียงหนึ่งดังขึ้น ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าใครที่ชอบเปลี่ยนชื่อคนอื่นตามใจชอบ ลูคัสเดินมาพร้อมกับลอเรนส์ โรเวน และอาเธอร์แห่งปราสาทขุนนาง



    \"พวกพี่มาทำอะไรกันครับ\" โรถามขึ้นทันที <มันโผล่มาตอนไหนเนี่ย-Moon>



    \"ก็พวกเราจะออกเดินทางไปด้วยไงล่ะ\" ลูคัสตอบพลางยิ้มอย่างสดใส



    \"เอาล่ะออกเดินทางกันดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ทัน\" โรเวนพูดพลางบอกให้ทุกคนขึ้นเกวียน



    เกวียนที่โรไปเตรียมมานั้นเล็กก็จริง แต่ข้างในกลับกว้างขวางมาก มีห้องครัว ห้องน้ำ และห้องว่างเปล่าห้องหนึ่งที่ไว้ใช้พักผ่อน มีหมอนกับผ้าห่มวางอยู่ พื้นห้องปลูกด้วยฟูกอย่างดี และมีประตูเปิดออกไปเป็นระเบียงไว้ชมวิวอีก <เวอร์ไปเปล่าเนี่ย -_-; -Moon>



    \"นายไปหาเกวียนมาจากไหนน่ะโร\" ครี้ดถามอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง



    \"ไม่ต้องถามหรอก เอาเป็นว่าฉันหาได้ก็แล้วกัน\" โรตอบเสร็จก็เดินเข้าไปนั่งที่มุมห้องมุมหนึ่ง  



    \"ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกันแล้ว\" ตอนนี้พวกเขาก็เดินทางกันมาได้ 4 ชม.แล้ว พระอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้าเต็มที อากาศในยามเย็นหนาวขึ้นเรื่อยๆ หมอกในยามกลางคืนเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง



    \"ใกล้ถึงเมืองหน้าด่านแล้ว\" โรเวนตะโกนกลับเข้ามา



    เฟรินที่บัดนี้ยังไม่รู้สึกตัวเลย นอนอยู่ข้างๆตัวเขา ถ้าเธอเป็นไรไปเขาจะอยู่ได้อย่างไร อยากให้ถึงสโนวแลนด์เร็วๆจัง คาโลคิดในใจก่อนที่เสียงหนึ่งจะทำให้เขาสะดุ้งสุดตัว



    \"ขอน้ำ..หน่อย\" เฟรินพูด เสียงที่เบาแผ่วเหมือนเสียงกระซิบ



    \"นายตื่นแล้วหรอ\" คาโลถามด้วยสีหน้าดีใจ



    \"คิล เอาน้ำมาหน่อย\" คาโลหันไปสั่งคิล คิลที่งงๆอยู่ว่ามันจะเอาไปทำไร แต่ก็ไม่ได้ถาม เดินไปเอามาให้แต่โดยดี เมื่อเอาน้ำมาให้คาโลก็สังเกตเห็นว่าเฟรินฟื้นแล้ว



    \"ค่อยๆดื่มนะ\" คาโลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางเอามือพยุงเฟรินขึ้นมาดื่มน้ำ เมื่อเฟรินดื่มน้ำเสร็จด้วยความเพลียจึงหลับไปอีกครั้ง



    เมื่อถึงหน้าด่านโรเวนก็กลับมานั่งข้างใน แล้วให้อาเธอร์ออกไปบังคับเกวียนต่อ



    \"เฟรินเป็นไงบ้าง\" โรเวนถาม แต่คาโลแค่เพียงส่ายหน้าอย่างเดียว



    การเดินทางวันนี้ผ่านไปด้วยดี ไม่มีอุปสรรคใดๆ เช้าวันต่อมาคณะเดินทางก็เดินทางมาถึงเดมอสแต่เช้า และหยุดพักริมทะเลสาบ เพื่อให้ทุกคนได้ล้างหน้า อาบน้ำ โดนที่โรเวนและอาเธอร์ช่วยกันกางเขตอาคม



    ส่วนเฟรินที่ยังไม่ได้สติ ก็นอนอยู่ในเกวียน โดยมีคาโลนั่งอยู่ข้างๆตลอดเวลา



    \"อย่านะ อย่า อย่าไปนะคาโล\" เฟรินละเมอและน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำให้คาโลตกใจมาก จึงดึงเฟรินเข้ามากอด



    \"ไม่เป็นไรนะเฟริน ฉันอยู่นี่แล้ว ฉันอยู่นี่\" คาโลพูดปลอบแล้วสักพักเฟรินก็เงียบไป



    เมื่อทุกคนกลับมาจากไปอาบน้ำกันแล้ว จึงให้คาโลไปอาบน้ำบ้าง แองจี้ เรนอน และมาทิลด้า ช่วยกันเช็ดตัวให้เฟริน ส่วนที่เหลือก็ให้นั่งรออยู่ข้างนอก เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพร้อมเดินทาง คณะเดินทางก็เดินทางต่อ



    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ก็ปาเข้าไปวันที่ 3 ของการเดินทางแล้ว พวกเขาเดินทางเกือบถึงชายแดนเดมอส-สโนวแลนด์อยู่แล้ว ก็มีผู้ร่วมเดินทางมาด้วยอีกคน ก็คือ โกโดม โคมุสนั่นเอง เมื่อเจ้าปีศาจได้ข่าวว่าลูกสาวสุดที่รักป่วยจึงรีบมาดูอาการทันที และให้โกโดมเดินทางไปพร้อมกับคณะเดินทางด้วย



    วันนี้ก็วันที่ 5 ของการเดินทางแล้ว พวกเขาใกล้ถึงภูเขาที่สูงที่สุดของสโนวแลนด์แล้ว แต่แล้วการเดินทางก็ต้องชะงักลง เมื่อเกวียนที่ทำงานอย่างนักมาตลอด 5 วันนั้นเกิดพังเสียแล้ว จึงต้องรอเกวียนใหม่ที่จะส่งมาถึงในอีก 1 ชม.



    วันที่ 6 ของการเดินทางพรุ่งนี้ก็ถึงกำหนดครบ 7 วันแล้ว แต่พวกเขาเพิ่งขึ้นมาได้เพียงครึ่งทาง ทำให้คาโลร้อนใจเป็นอย่างมาก



    \"อีกนานมั้ยกว่าจะถึง\" คาโลถามโกโดม



    \"ถ้าไม่มีอุปสรรคอะไรอีกประมาณ 3 ชม.ก็น่าจะถึงนะพระเจ้าค่ะ\" โกโดมตอบพลางมองออกไปนอกเกวียน หิมะทำท่าจะตก อาจจะเกิดพายุหิมะขึ้นก็ได้



    \"หนาว..นะ หนาว จังเลย\" เฟรินเอ่ยออกมาอย่างยากเย็น เธอนอนมาตลอดการเดินทาง ไม่กินอะไรเลย นอกจากน้ำ ทำให้ไม่มีแรงที่จะทำอะไร



    \"ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็จะถึงแล้ว\" คาโลว่าพลางดึงเฟรินเข้ามาในอ้อมกอด แล้วห่มผ้าห่มอีกชั้น แต่เฟรินก็ยังไม่หายหนาว



    \"เอาผ้าห่มมาอีกผืนสิ\" คาโลร้องขอผ้าห่มอีกผืน โกโดมจึงไปแบกผ้าห่มผืนที่ใหญ่กว่าตัวเขาหายเท่ามาให้ เพื่อจะทำให้เจ้าหญิงอุ่นขึ้นบ้าง และแล้วก็เป็นไปดังโกโดมคาดไว้ หิมะเริ่มโปรยปราย อากาศข้างนอกเริ่มเย็นขึ้นทุกขณะ และสุดท้ายก็กลายเป็นพายุหิมะ ทำให้การเดินทางต้องหยุดชะงักลงอย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้ว แต่พายุหิมะก็ไม่มีวี่แววว่าจะสงบลงสักที ทำให้คนในเกวียนร้อนรนกันใหญ่



    \"จะทำยังไงกันดี เหลือเวลาอีก 5 ชม.เอง\" คิลพูดขึ้น เมื่อดูเวลาแล้วอาจจะไม่ทันก็ได้



    เฟรินที่บัดนี้อยู่ในอ้อมกอดของคาโลเริ่มรู้สึกตัวแล้ว แม้ว่ามันจะไม่สบาย แต่ปากมันก็ไม่ได้ลดประสิทธิภาพความเสียลงเลย



    \"ไม่เห็นเป็นไรเลยคิล ไปไม่ทันก็คือไม่ทัน แค่ก ก็แค่นั้นเอง แค่ก\"เฟรินพูดพร้อมไอไปด้วย



    \"นายนี่พอพูดได้ก็ปากเสียเลยนะ\" แองจี้พูดขึ้นบ้าง



    \"ก็ แค่ก ฉันพูดความจริงหนิ แค่ก คนเราเกิดมาก็ต้องตาย ต่างกันแค่ตายช้าตายเร็วเท่านั้นเอง แค่ก\" เจ้าตัวดียังพูดต่อไป



    \"นายหยุดพูดเถอะเฟริน เดี๋ยวอาการจะแย่ลง\" คาโลกล่าวเตือน



    \"อืม แค่ก\" เฟรินตอบ แต่ก็ยังไม่ได้หลับ ยังคงมองดูเพื่อนๆที่ต้องมาลำบากลำบนเพราะตัวเองอยู่ ตอนตี 2 อาการเฟรินทรุดลงหนักมาก จนไอออกมาเป็นเลือด ยิ่งทำให้คนที่อยู่ในเกวียนใจหายไปกันใหญ่ แต่เจ้าตัวดีก็ยังคงพูดว่า \'ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร\' อยู่นั่นแหละ มันไม่ได้ดูสภาพของตัวเองเลย ราวๆตี 2 ครึ่งพายุหิมะสงบลงแล้ว คณะเดินทางจึงรีบเดินทางต่ออย่างรวดเร็ว เพื่อให้ถึงจุดหมายทันเวลา



    ตอนนี้ตี 5 แล้ว เหลือเวลาอีกไม่มาก กับระยะทางอีกพอสมควร พวกเขาต้องไปถึงยอดเขาก่อนพระอาทิตย์ขึ้นให้ได้ ไม่อยากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำมาก็คงสูญเปล่าหมด และพวกเขาก็อาจจะสูญเสียเพื่อนที่บัดนี้ หมดสติ ไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกแล้ว



    อีกครั้งชม.พระอาทิตย์ก็จะขึ้นแล้ว พวกเขาก็ขึ้นมาถึงยอดเขาแล้วเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่ไม่ขาดคิดก็เกิดขึ้น คือวันนี้ไม่มีน้ำค้างสักหยด อาจจะเพราะพายุหิมะก็เป็นได้



    \"เราจะทำยังไงกันดีคะ วันนี้ไม่มีน้ำค้างเลย\" เรนอนพูดขณะที่น้ำตาเริ่มคลอ และไหลออกมาในที่สุด เมื่อคิลเห็นเรนอนร้องไห้จึงเดินเข้าไปกอดเธอไว้



    \'เพื่อนจะตายต่อหน้า ฉันยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย ฉันเป็นเพื่อนที่แย่ที่สุด\' คิลคิดพลางน้ำตาเริ่มไหลออกมาเช่นเดียวกันกับคนที่เขากอดเธอไว้



    คนอื่นซึ่งก็เสียใจพอๆกัน ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ได้แต่ยืนมองคาโลที่อุ้มเฟรินไปวางไว้บนผ้าห่ม



    \"เฟริน นายจะทิ้งฉันไปไม่ได้นะ เข้าใจมั้ย\" เมื่อคาโลวางเฟรินลงเสร็จก็พูดกับเธอพลางเขย่าไหล่ แต่เฟรินที่บัดนี้ทรมานจนไม่อาจขยับตัวได้ น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของเธอ



    \"นายจะทิ้งฉันไปจริงๆหรอ นายจะทิ้งฉันไปหรอ\" เจ้าชายน้ำแข็งผู้ซึ่งปกติสามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้ บัดนี้กลับควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่แล้ว



    \'เธอจะจากฉันไปจริงๆใช่มั้ย เธอจะทิ้งฉันไปแล้วหรอ แล้วฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง\' คาโลคิดพลางภาพต่างๆที่เคยเกิดขึ้นก็เริ่มแล่นช้าๆเหมือนฉายหนัง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ผ่านอุปสรรคร่วมกัน ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข



    ได้โปรดเถอะพระเจ้า เธอเป็นคนแรกที่ผมรัก เธอเป็นคนที่ก้าวเข้ามาหาผมอย่างที่ไม่มีใครทำมาก่อน เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับผม ได้โปรดอย่างเอาเธอไปเลย



    และแล้วสิ่งที่ไม่มีใครได้เห็นบ่อยนักก็เกิดขึ้น น้ำตา!! น้ำตาของเจ้าชายน้ำแข็ง ความโศกเศร้าที่จะต้องสูญเสียคนรัก ทำให้น้ำตาของคาโลไหลออกมา ลุงหมอรีบเอาชามมารองน้ำตาของคาโลไว้ทันที



    \"นายท่านรีบกรีดเอาเลือดของนายท่านออกมาเร็วๆ\" ลุงหมอพูด เมื่อได้ยินคาโลก็ไม่ได้คิดอะไรเพียงแต่อยากจะให้เธอคนที่เขารักมีชีวิตอยู่ต่อเท่านั้น คาโลหยิบมีดขึ้นมา แล้วกรีดที่นิ้วของเขา ปล่อยให้เลือดไหลลงไปรวมกับน้ำตาที่อยู่ในชาม



    \"เอาเลือดของนายหญิงมาด้วย นายท่าน\" ลุงหมอพูดขึ้น ทำให้คาโลเกิดสงสัยว่าทำไมต้องเอาเลือดเฟรินด้วย แต่อย่างเพิ่งคิดอะไรดีกว่า ว่าแล้วคาโลก็ใช้มีดกรีดนิ้วเฟรินให้เลือดไหลลงชาม



    เลือดของเขา เลือดของเธอ และน้ำตา กำลังผสมเข้ากันอย่างไม่น่าเป็นไปได้ แล้วก็เกิดแสงสว่างจ้าไปทั่ว ทำให้ทุกคนหันมามองด้วยความตกใจ บัดนี้ชามที่เคยมีเลือดและน้ำตาอยู่ กลับกลายเป็นน้ำใส



    \"นายท่านเอาให้นายหญิงกินเร็วๆเข้า\" ลุงหมอว่าพลางยื่นชามให้คาโล คาโลก็ค่อยพยุงเฟรินขึ้นมากิน แต่มันกลับไหลออกมานอกปากหมด

    คาโลจึงกินยานั้นเข้าไป แล้วป้อนเฟรินผ่านปาก และแล้วเฟรินก็ลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งที่เธอเห็นอย่างแรกก็คือ หน้าของคาโล เมื่อหันไปมองข้างๆก็เห็นเพื่อนๆทุกคน



    \"นายเป็นไงบ้าง\" คาโลถามด้วยน้ำสียงที่อ่อนโยนแฝงไปด้วยความห่วงใย



    \"ไม่เป็นไรแล้ว แต่รู้สึกไม่มีแรง\" เฟรินตอบพลางยิ้ม แม้รอยยิ้มนั้นจะซีดเซียวแต่อย่างน้อยเธอก็ยิ้มแล้ว



    \"พระอาทิตย์ขึ้นแล้วหนิ\" กัสพูดขึ้น ทุกคนจึงหันไปดู มันเป็นภาพที่สวยงามและหาดูได้ยากที่สุด ทุกคนนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นกันอย่างสบายใจ



    \"พี่จะยอมแพ้แล้วหรอ\" วอร์ช่าถามพี่ชายของเธอที่บัดนี้ยืนดูคาโลและเฟรินอยู่ห่างๆ <หายไปซะนานเลย โผล่มาตอนใกล้จาจบเนี่ยนะ-Moon>



    \"อืม คงไม่มีใครขัดขวางความรักของพวกเขาได้หรอก\" ไคน์พูดและหันหลังกลับเข้าเกีวยนไป <มาด้วยตอนไหนเนี่ย-Moon>



    เมื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นกันเสร็จแล้ว ทุกคนก็กลับเข้าไปในเกวียนเพื่อทานอาหารเช้า โดยมีแองจี้ มาทิลด้า และเรนอนเป็นแม่ครัว ทำอาหารเช้าให้ทุกคนกิน



    \"นายนอนก่อนก็ได้ เดี๋ยวอาหารเสร็จแล้วฉันจะปลุก\" คาโลตอบพลางลูกหัวหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดเบาๆ



    \"อืม\" ว่าแล้วเฟรินก็หลับตาเพื่อพักผ่อน เพราะยังเพลียอยู่มาก



    เมื่ออาหารเสร็จแล้ว เรนอนจึงมาเรียกคาโลกับเฟรินไปทานอาหารกัน



    \"คาโล อาหารเสร็จแล้วนะ\" เรนอนบอกแล้วเดินออกไป



    \"เฟรินตื่นได้แล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ\" คาโลปลุกเจ้าตัวยุ่งที่นอนอยู่ เฟรินลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ



    \"เพื่อนๆไปไหนกันล่ะ\"



    \"พวกนั้นไปกินข้าวกันหมดแล้ว ไปกันเถอะ\" ว่าแล้วคาโลก็ลุกขึ้น พลางอุ้มเฟรินขึ้นมา ทำให้หญิงสาวหน้าแดงขึ้นทันที



    \"ฉันเดินเองได้น่า ปล่อยฉันลงนะ\" เฟรินร้องพร้อมใช้กำปั้นทุบที่หน้าอกของคาโล แต่คาโลก็ยังอุ้มเธอออกมานอกเกวียน ทุกคนกำลังรอพวกเขาทั้ง 2 อยู่



    \"ปล่อยฉันลงได้แล้ว\" เฟรินบอกคาโลแผ่วเบา คาโลวางเฟรินลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะเดินไปตักอาหารมาให้



    \"อาอ่อยอังเอย (อร่อยจังเลย)\" เฟรินพูดขระมีข้าวอยู่เต็มปาก



    \"นายกินดีๆไม่เป็นหรอเฟริน\" คาโลที่เริ่มหมดความอดทนกับการกินของเจ้าตัวยุ่งพูดขึ้น



    \"อ้ออั้นอิวอิ (ก็ฉันหิวหนิ)\" เฟรินตอบแล้วตั้งหน้าตั้งตากินต่อไม่สนใจใครทั้งสิ้น



    \"เฮ้อ อิ่มจังเลย\" เฟรินพูดขึ้นเมื่อกินอาหารหมดไป 5 จาน



    \"แน่ล่ะ ถ้านายไม่อิ่มก็ไม่ใช่คนแล้ว\" แองจี้พูดขึ้นพร้อมกับยื่นน้ำส่งให้เฟริน



    \"แล้วพวกเราจะไปไหนกันต่อ โรงเรียนก็ปิดแล้ว\" โรเวนพูดขึ้นเมื่อทุกคนรับประทานอาหารเสร็จแล้ว



    \"งั้นไปเยี่ยมแม่ของคาโลกันดีกว่าฮะ แล้วไปเที่ยวเดมอสบ้านผมต่อ\" เจ้าตัวยุ่งพูดขึ้น



    \"ก็ดีเหมือนกันนะ\" โรเวนว่า แล้วหันไปทางคาโล



    \"นายว่าไงคาโล\" คาโลไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อย



    \"เอาเป็นว่าพวกเราจะไปเยี่ยมแม่คาโล แล้วจะไปเที่ยวบ้านเฟรินต่อนะ งั้นให้เวลาอีก 1 ชม.แล้วพวกเราจะออกเดินทาง\" โรเวนสั่งก่อนจะเดินเข้าไปในเกวียนเพื่ออาบน้ำ



    \"เฟจัง ไปกับผมหน่อยได้มั้ย มีเรื่องจะคุยด้วย\" เฟรินพยักหน้าแล้วเดินตามไคน์ไป คาโลที่เห็นเหตุการณ์เข้าจึงเดินตามไปด้วย



    เมื่อเดินมาได้สักพัก พวกเขาก็เดินมาถึงทุ่งดอกไม้ที่หาดูได้ยากในดินแดนสโนวแลนด์แห่งนี้



    \"ผมขอให้เฟจังมีความสุขมากๆนะครับ\" ไคน์พูดขึ้นก่อน



    \"แสดงว่านายตัดใจแล้วสินะ\" คาโลพูดขึ้นบ้าง



    \"ฉันรู้ว่าพวกนายรักกันจริง แต่ถ้าวันไหนนายทำให้เฟจังเสียใจ ฉันจะมาเอาเฟจังคืน\" ไคน์พูดด้วยสีหน้าที่จริงจังกว่าเดิม



    \"ฉันสัญญา\" คาโลพูดขึ้น แล้วไคน์ก็เดินจากไป เหลือคาโลกับเฟรินอยู่กันสองคน



    \"สวยจังเลยเนอะคาโล\" เฟรินพูดพลางหันไปมองคาโลที่ยืนมองเขาอยู่



    \"สวยยังไงก็ไม่เท่านายหรอก\" คาโลว่าพลางดึงเฟรินเข้ามากอด ส่วนหญิงสาวที่โดนชมบัดนี้หน้าแดงไปเรียบร้อยแล้ว



    ใบหน้ารูปสลักของเจ้าชายน้ำแข็งขยับเข้ามาใกล้ใบหน้ามนของหญิงสาว ตาสีฟ้าคู่สวยสบกับตาสีน้ำตาลคู่โต ริมฝีปากเรียวของคาโลขยับมาประกบกับริมฝีปากเรียวสวยของเฟริน ทั้งคู่จูบกันท่ามกลางดอกไม้ที่สวยงามแห่งสโนวแลนด์ เพื่อประกาศความรักที่พวกเขามีต่อกันให้มวลดอกไม้ให้ได้รับรู้ ว่าความรักของพวกเขาที่มีให้กันและกันไม่มีอะไรมาขัดขวางได้ และความรู้สึกของพวกเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง



    ...................................................................................................................................................................................



    ตอนนี้ก็ตอนสุดท้ายแล้วนะคะ



    ความจริงมูนก็อยากให้ยาวกว่านี้อีกหน่อยแต่ว่าก็คิดไม่ออกว่าจะยืดเยื่อออกไปได้งาย



    มูนอยากจะถามอะไรสักหน่อยนะคะ คือว่ามูนจะเขียนภาคต่อไปแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเขียนตอนที่พวกเฟรินท่องเที่ยวตอนปิดเทอมด้วยดีรึเปล่า หรือ



    ว่าจะขึ้นปี 4 เลย



    ยังไงก็ช่วยเม้นให้ด้วยนะคะ ถ้าเกิดว่ามีเม้นเข้ามา มูนก็จะอัพตอนต่อไปให้วันพรุ่งนี้เลย ยังไงก็ช่วยกันเม้นออกความคิดเห็นด้วยนะคะ



    ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจมูนมาตลอด และขอบคุณเม้นทุกเม้นด้วยนะคะ



    ขอบคุณมากค่า



    P.s. พรุ่งนี้จะมาลงภาคต่อไปให้นะคะ ติดตามต่อไปด้วยนะคะ อย่าทิ้งมูนไปเลยน้า



                                                                                                                                                

                                                                                                                                           >>Minnie~Moonie<<



                                                                                                                                                  2005.4.27





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×