ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ll หัวขโมยแห่งบารามอส ll หลังจากสงครามเอเดน-เดมอส

    ลำดับตอนที่ #3 : ++งานโรงเรียน - คำสาปกำเริบ++

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.33K
      2
      6 มิ.ย. 48



    “เฟริน นายค่อยๆกินก็ได้ ไม่มีใครแย่งนายกินหรอกน่า” คิลพูดขึ้นพลางมองเจ้าตัวยุ่งที่นิสัยกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่เฟรินไม่สนใจ ยังคงกินต่อไปเรื่อยๆ จนคาโลทนไม่ไหว



    “นายกินให้มันเรียบร้อยหน่อยไม่ได้หรอ”



    “อ้ายย  แอ่อินแอบอั้นอันไอ้อาอ่อยอิ (ได้ แต่กินแบบนั้นมันไม่อร่อยหนิ)”



    “ไงเฟริน นายกลับมาเป็นคนเดิมแล้วหรอ”



    “เมื่อไหร่นายจะเลิกโผล่มาจากข้างหลังสักที” เฟรินสบถอย่างไม่สมหญิง เพราะเขาเกือบข้าวติดคอตายเพราะมัน



    “แล้วนายคิดว่าไง” คำพูดประจำที่มันชอบพูดกวนประสาท ซึ่งน่าเตะมากๆ



    “ช่างเถอะ ขี้เกียจทะเลาะกับแกแล้ว” เฟรินพูดพลาง ยกแก้วน้ำส้มขึ้นมาเพื่อจะดื่มแต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเสียงๆหนึ่งดังขึ้น



    “เฟจัง” เสียงของไคน์ดังขึ้น ทำให้คนทั้ง 4 หันไปมอง



    “ไปด้วยกันหน่อยสิ”



    “ไปไหนฮะ”



    “ไปเถอะน่า เดี๋ยวก็รู้เอง” ไคน์พูดพลางดึงแขนเฟรินให้ลุกขึ้น ตามเขาไป



    “ไม่ได้ เดี๋ยวต้องเข้าเรียนแล้ว” คาโลพูดแทรกขึ้นมา พลางดึงแขนอีกข้างของเฟรินไว้



    “เฟจังไปกันเถอะ” ไคน์ยังดึงดันจะพาเฟรินไปให้ได้ โดยไม่สนใจคาโล



    “บอกว่าไม่ได้” คาโลพูดเสียงแข็ง แล้วดึงเฟรินกลับมา



    ตอนนี้บรรยากาศในห้องอาหารดราก้อนอึมครึม คล้ายฝนจะตก อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆทั้งคู่จ้องตากันไม่กระพริบ ไม่มีใครยอมใครทั้งนั้น แล้วเสียงๆหนึ่งก็ดีงขึ้น



    “เกิดอะไรขึ้น”โรเวนเดินเข้ามาเพื่อมาดูสาเหตุที่ทำให้ห้องอาหารเป็นอย่างนี้ แต่เมื่อโรเวนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ต้องประหลาดใจเพราะเฟรินที่ยืนอยู่ตรงกลางทำหน้างงๆ คาโลและไคน์กำลังดึงแขนเฟรินอยู่ จ้องหน้ากันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ เมื่อเห็นโรเวน คาโลและไคน์จึงรีบปล่อยแขนเฟรินทันที



    “ไม่มีอะไรครับพี่โรเวน” คิลตอบ



    “ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว”



    “งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ” พูดจบคิลก็ลากคาโลและเฟรินออกมาจากห้องอาหารและตรงไปยังห้องเรียนทันที



    ตอนเย็นป้อมอัศวินปี 3 นัดประชุมกันที่ห้องนั่งเล่น ตอนนี้ทุกคนมาครบกันหมดแล้ว ยกเว้นคาโลที่ไปเอาเอกสาร เมื่อผ่านไปสักพักคาโลก็กลับเข้ามา แล้วการประชุมก็เริ่มขึ้น



    “เรื่องที่จะประชุมกันวันนี้มีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ เรื่องหมากกระดานเกียรติยศ”



    คาโลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ ซึ่งทำให้ทุกเสียงในห้องเงียบลง



    “เรื่องนี้ฉันกับมาทิลด้าตกลงกันแล้ว คือให้เฟรินเป็นคนเดินหมาก ส่วนตำแหน่งอื่นๆก็แล้วแต่เฟรินจะจัดการ



    “ฉันขอปฏิเสธ” เมื่อคาโลพูดจบ เฟรินก็ปฏิเสธขึ้นมาทันที



    “ทำไมล่ะ” แองจี้หนึ่งในสามสาวของป้อมอัศวินปี 3 ถามขึ้น



    “มันน่าเบื่อออก” เฟรินตอบพลางทำสีหน้าเบื่อหน่าย ความจริงคือ เขาเล่นหมากรุกมาตั้งแต่จำความได้  จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ มันจึงเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับเขาไปแล้ว



    “เอาอย่างนี้แล้วกัน ใช้วิธียกมือออกเสียงนะ” ในที่สุดมาทิลด้าก็ต้องจัดการอยู่ดี



    “ใครเห็นด้วยให้ยกมือขึ้น โอเคมั้ย” ทุกคนพยักหน้า แล้วก็ยกมือขึ้น ทำให้เฟรินไม่สามารถปฏิเสธได้



    “ส่วนเรื่องที่สอง...” คาโลเริ่มพูดขึ้นอีกครั้ง ทุกเสียงจึงจำเป็นต้องเงียบลง



    “เรื่องงานโรงเรียน ทุกชั้นปีต้องจัดการแสดงชั้นละ 1 การแสดง เรื่องนี้มาทิลด้าจะจัดการเอง ทุกคนมีอะไรจะถามมั้ย” เมื่อเห็นทุกคนเงียบคาโลจึงสรุปเอาเองว่า ไม่มี



    “งั้นก็เลิกประชุมแค่นี้” คาโลกล่าวจบการประชุม ทุกคนก็ทยอยกันออกจากห้องนั่งเล่น เพื่อกลับไปพักผ่อน เพราะนี่มันก็ดึกมากแล้ว



    ขณะที่พวกเฟรินกำลังจะเดินออกจากห้องไป ก็มีมือๆหนึ่งมาดึงแขนเฟรินไว้



    “เฟจัง ไปกับฉันหน่อยนะ” ไคน์พยายามที่จะพาเฟรินไปให้ได้ แต่ก็โดนคาโลขัดขวางอีกตามเคย



    “ดึกแล้ว กลับไปนอนกันเถอะ”



    “นายอย่ายุ่ง”



    “ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้”



    “ก็มันไม่ใช่เรื่องของนาย เพราะงั้นนายถอยไปซะ”



    “ฉันไม่ถอย นายจะพาคู่หมั้นคนอื่นไปไหนมาไหนตอนกลางคืนไม่ได้”



    “ฉันก็เป็นว่าที่คู่หมั้นทำไมฉันจะพาเฟจังไปไม่ได้”



    คาโลและไคน์ยังคงเถียงกันต่อไปโดยไม่สนใจเฟรินที่ยืนอยู่ตรงกลาง



    “พอได้แล้ว ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ ฉันง่วง จะไปนอน” พูดจบเฟรินก็ลากคิลออกมาจากห้องนั่งเล่นทันที โดยไม่สนผู้ชาย 2 คนที่ยืนงงอยู่ข้างหลัง



    เมื่อมาถึงห้องพักเฟรินก็ล้มตัวลงนอนทันที <เฮ้ เธอซกมกเกินไปเปล่าเนี่ย-_-; เป็นถึงนางเอกน้ำก็ม่ายอาบ-Moon>



    “นายจะเอายังไงเรื่องไคน์” คิลถามขึ้น เมื่อปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้ว



    “ฉันยังไม่รู้” เฟรินตอบสั้นๆ วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมาก เมื่อหัวถึงหมอนเฟรินก็หลับไปทันที



    แอ๊ดดด~ปังงง~



    เสียงประตูเปิดและปิด ในเวลาอย่างนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคาโลคนเดียว เมื่อเขาเดินเข้ามาก็เห็นเฟรินกับคิลหลับไปแล้ว คาโลจึงเดินไปที่เตียงเฟริน แล้วนอนลงข้างๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน แล้วก็หลับไปเช่นกัน <อ๊ายย คาโลก็ซกมกไปด้วย-Moon>



    เสียงเคาะประตูดังขึ้นตอนเช้า คิลตื่นขึ้นมาแล้วจะลุกไปเปิดประตู แต่ก็ต้องสะดุดเกือบล้มหน้าคว่ำ เพราะว่าเห็นภาพบาดตาแต่เช้า แขกที่มาเยี่ยมแต่เช้าก็คือ ไคน์นั่นเอง



    “ฉันขอเข้าไปในห้องหน่อยได้มั้ย” ไคน์พูดขึ้นก่อน เมื่อคิลไม่พูดอะไร



    “ไม่ได้หรอก ตอนนี้ห้องรกมากเลย” คิลพยายามปฏิเสธเต็มที่ เพราะเขาไม่อยากให้ไคน์เห็นคนสองคนที่กำลังนอนกอดกันอยู่



    “ขอเข้าไปแปบเดียว เดี๋ยวฉันก็ไปแล้ว” ไคน์ยังไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะเข้ามาในห้อง



    “ไม่ได้จริงๆ” คิลก็พยายามปฏิเสธเต็มที แต่ไคน์อาศัยจังหวะที่คิลไม่ได้ตั้งตัว เปิดประตูเข้าไป ภาพคนสองคนที่นอนกอดกันอยู่บนเตียง ทำให้ไคน์ตาโตเป็นไข่หาน



    “บอกแล้วว่าเข้ามาไม่ได้” คิลพูดขึ้นเมื่อเห็นไคน์ไม่ขยับไปไหน



    “อืม ฉันเข้าใจละ” พูดจบไคน์ก็เดินออกไปจากห้องทันที ส่วนคิลก็เดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำ



    ปัง!! เสียงประตูเปิดขึ้นพร้อมกับที่เฟรินลืมตาตื่นขึ้นมา แขกผู้มาเยียนคนที่ 2 ของเช้านี้ก็คือ โร นั่นเอง



    \"เอ่อ ขอโทษที่มารบกวนนะ\" ว่าแล้วโรก็ปิดประตูทันที



    เฟรินที่เพิ่งตื่นนอนก็งงกับสิ่งที่โรพูด แต่เมื่อหันไปมองข้างๆก็เข้าใจสิ่งที่โรพูดทันที ตอนนี้หน้าของเธอขึ้นสีเรื่อ



    \"ตื่นแล้วหรอ\" คาโลพูดขึ้น



    \"นายมานอนนี่ได้ไง\" เฟรินถามหน้ายังแดงเหมือนเดิม



    \"ก็เดินมาสิ ถามได้\" คาโลตอบ แต่เฟรินกลับจะลุกขึ้นจากเตียง



    \"จะไปไหน\" คาโลถามขึ้น พลางดึงเฟรินลงมานอนที่เดิม



    \"นอนต่ออีกหน่อยดีกว่า\"



    \"ไม่ ฉัน....\" แต่ก่อนที่เฟรินจะพูดจบ ใบหน้าของคาโลก็เลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ตาสีฟ้าคู่สวยสบกับตาสีน้ำตาลคู่โต ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะประกบกัน เฟรินรู้ตัวดีว่าไม่สามารถปฏิเสธคาโลได้ จึงหลับตาลง แต่แล้วริมฝีปากที่เคยอยู่บนปาก ก็เลื่อนลงไปตามคอ ทำให้เฟรินลืมตาขึ้นและพยายมามจะผลักคนตัวใหญ่กว่าออก แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะแรงผู้หญิงจะไปสู่แรงผู้ชายได้ไง มือของคาโลเริ่มสะเปะสะปะไปทั่ว ในขณะที่เฟรินกำลังภาวนาขอให้ใครมาช่วย และแล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น



    \"เอ่อ พวกนายทำไรกันน่ะ\" คิลที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นภาพบาดตาเข้าอีกแล้ว <สงสารคิลจังจังเลยอ่า-Moon>



    เฟรินอาศัยจังหวะที่คาโลเผลอผลักคาโลตกเตียงลงไปทันที ส่วนเธอก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่รอให้ใครพูดอะไรอีก



    \"พวกนายจะทำอะไรก็เกรงใจฉันหน่อยสิ\" คิลพูดขึ้นเมื่อเฟรินเข้าไปอาบน้ำแล้ว แต่คาโลไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นจากพื้น



    \'เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ สงสัยต้องขอบใจไอ้คิลมันหน่อยแล้ว\'



    เฟรินคิดในใจ ถ้าเกิดว่าคิลออกมาจากห้องน้ำไปทัน เขาจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ พอเดินผ่านกระจกในห้องน้ำ เฟรินก็ถึงกลับจะเป็นลม เพราะรอยจูบที่คาโลฝากที่ลำคอของเธอ แล้วอย่างนี้จะทำยังไงดีล่ะ เฟรินพยายามคิดหาวิธีปกปิดมัน แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกสักที



    เมื่อเฟรินเดินออกมาจากห้องน้ำ คิลก็ไม่อยู่แล้วเหลือแต่คาโลคนเดียว



    \"ทำไมนายอาบน้ำนานจัง\" คาโลพูดขึ้นเมื่อเห็นเฟรินเดินออกมาจากห้องน้ำ



    \"ก็เพราะไอ้รอยที่นายฝากไว้ที่ต้นคอฉันไงล่ะ!!\" เฟรินตะโกนออกมา พร้อมชี้ให้คาโลดู ตอนนี้หน้าของเธอแดงก่ำเหมือนลูกมะเขือเทศ แล้วรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของคาโล



    \"ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ ทุกคนจะได้รู้ว่านายเป็นของฉันคนเดียว\" คาโลพูดพลางเดินอ้อมมาโอบเฟรินจากทางด้านหลัง



    \"ดีบ้าอะไรเล่า\" เฟรินพูดพลางรีบแกะมือคาโลออก เพราะกลัวว่าจะเกินอะไรขึ้นอีก



    \"นายไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปสาย\" แล้วเฟรินก็ดันคาโลเข้าไปในห้องน้ำ



    หลังจากที่คาโลอาบน้ำเสร็จเฟรินและคาโลก็เดินไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหารดราก้อน เมื่อเข้าไปในห้องอาหารคิลก็นั่งรออยู่แล้ว



    \"พวกนายทำอะไรกัน ทำไมนานอย่างนี้\" คิลบ่นเมื่อเฟรินและคาโลนั่งลงที่โต๊ะ



    \"เปล่า ไม่มีไรหรอก\" เฟรินตอบ ทำหน้าเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ปิดบังอยู๋ ส่วนคาโลก็ทำเพียงหัวเราะเท่านั้น



    \"คุณเฟรินคะ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จช่วยไปกับเรนอนหน่อยได้มั้ยคะ\" เรนอน 1 ใน 3 นางฟ้าแห่งป้อมอัศวินพูดขึ้น พลางส่งยิ้มให้



    \"ไปไหนหรอฮะ\" เฟรินถาม และเริ่มจัดการอาหารตรงหน้า



    \"เดี๋ยวก็รู้เองแหละคะ\" เรนอนพูดแล้วนั่งลงข้างๆคิล



    เมื่อทานอาหารเสร็จเฟรินก็ไปกับเรนอน ส่วนคิลและคาโลก็ไปเรียนตามปกติ



    เรนอนพาเฟรินมาที่ห้องประชุมของป้อม ซึ่งแองจี้และมาทิลด้ารออยู่แล้ว



    \"เดี๋ยวคุณเฟรินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อยู่ในห้องนั้นนะคะ\" เรนอนพูดพลางชี้ไปที่ห้องเล็กๆที่มุมหนึ่งของห้องประชุม



    \"นี่มันชุดอะไรเนี่ย\" เมื่อเฟรินเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวได้ไม่นาน ก็มีเสียงตะโกนโวยวายออกมา เรนอน มาทิลด้า และแองจี้จึงรีบเข้าไปดู เมื่อพวกเธอเข้าไปก็เห็นเฟรินกำลังสวมชุดอยู่



    \"เดี๋ยวพวกเราช่วยใส่ให้\"



    ว่าแล้วสามสาวก็เข้ามารุมจับเฟรินแต่งตัว ชุดที่เฟรินสวมอยู่เป็นชุดกระโปรงหนังสีดำ รัดรูป รองเท้าบู๊ทยาวถึงเข่าสีดำ ช่างตัดกับสีผิว ทำให้คนใส่ดูสวยขึ้นมาเป็นกอง



    \"สวยจังเลยค่ะ คุณเฟริน\" เรนอนพูดขึ้น เมื่อมองดูเฟรินที่บัดนี้ยืนเก้ๆกังๆอยู่



    \"อืมช่าย สวยจริงๆเลย\" มาทิลด้าพูดชมอีกคน



    \"เอ๊ะนั่นมัน..\" และแองจี้พูดขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปตามมือแองจี้ที่ชี้ไปที่คอของเฟริน ที่รอยจูบเมื่อเช้าเริ่มจางลงไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังเห็นอยู่

      

    \"คิสมาร์คหนิ\" แองจี้พูดจบทุกคนก็จ้องเฟรินเป็นตาเดียว เหมือนพยายามจะเค้นความจริงให้ได้ แต่เฟรินกลับพูดไปเรื่องอื่นเพื่อให้ทั้งสามไม่ซักถามต่อ



    \"ว่าแต่จะให้ผมใส่ชุดนี้ทำไมฮะ เรนอน\" เฟรินถามเรนอนที่บัดนี้ก็ยังจ้องเฟรินไม่วางตา



    \"ก็เรื่องงานแสดงงานโรงเรียนไงล่ะคะ พวกเราตกลงกันว่าจะแสดงกัน 4 คนค่ะ\" เรนอนเริ่มพูดอธิบาย แต่เฟรินกลับทำหน้าเหมือนกับจะวิ่งหนี



    \"คุณเฟรินจะหนีไม่ได้นะคะ\" เรนอนพูดขึ้นดักคอก่อน เพราะรู้นิสัยเฟรินดีพอสมควร



    หลังจากนั้นสามสาวก็ตามประกบเฟรินตลอด ตอนเช้าไปรับที่ห้องนอน กินข้าวด้วยกัน ไปเรียนด้วยกัน พอตอนเย็นเลิกเรียนก็ลากไปซ้อมจนดึกดื่น



    ------------------------------------------------------------------------------------------------------



    \"พวกนายว่าเดี๋ยวนี้พวกผู้หญิงแปลกไปมั้ย\" ครี้ด ทันเดอร์พูดขึ้นหลังจากดูสถานการณ์มา 1 อาทิตย์แล้ว



    \"ใช่ๆ ทำอะไรลับๆล่อ\" คิลพูดเสริมขึ้นมา ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย เขาแทบจะไม่ได้คุยกับเฟรินเลยเดี๋ยวนี้ ตอนเช้าตื่นมาก็ไม่เห็นมันแล้ว ตอนกินข้าวมันก็ไปนั่งกับสามสาว เวลาเรียนก็เช่นเดียวกัน พอเลิกเรียนก็หายไปกันหมด กลับมาก็เที่ยงคืน ดูท่าจะเหนื่อยมากก็นอนหลับไปเลย



    \"นายรู้อะไรบ้างมั้ย โร\" คิลหันไปถามเจ้าห้องสมุดเคลื่อนที่ ที่ตอนนี้กำลังนั่งจิบชาอยู่



    \"แล้วนายคิดว่าไง\" โรถามย้อนกลับอย่างเป็นนิสัย



    \"นายอย่าเพิ่งกวนได้มั้ย\" คิลพูด เริ่มอารมณ์เสีย



    \"ใจเย็นๆน่า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกนั้นทำอะไรกัน\" โรพูดขึ้นมาในที่สุด ทุกคนคิดว่า แม้แต่ไอ้ห้องสุมดเคลื่อนที่มันยังไม่รู้ แล้วใครจะรู้เนี่ย



    และแล้วเวลาก็ผ่านไป 1 เดือนเต็ม พรุ่งนี้จะเป็นวันงานโรงเรียนแล้ว คืนนี้เฟรินถูกพวกสามสาวลากไปนอนที่ห้องด้วย ทำให้ห้องหัวหน้าชั้นปี เหลือชายหนุ่มอยู่แค่ 2 คน



    \"นายว่าพวกนั้นกำลังปิดบังอะไรเราอยู่รึเปล่า คาโล\" คิลพูดขึ้นก่อน



    \"ฉันก็ไม่รู้\" มันเป็นคำตอบที่สั้นแต่ได้ใจความในแบบของเจ้าชายน้ำแข็ง



    คืนนั้นถือเป็นคืนที่โหดมากๆสำหรับเฟริน สามสาวจับเขาขัดตัว นวดหน้า สระผม ทุกๆอย่างที่ผู้หญิงทำ เพื่อให้เธอพร้อมที่สุดสำหรับวันพรุ่งนี้



    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    วันงานวันนี้ยังไม่มีใครเห็นสามสาวเลยตั้งแต่เช้า ไม่รู้พวกหล่อนทำอะไรกันอยู่ พวกหนุ่มๆแห่งป้อมอัศวินเริ่มเป็นกังวลเต็มที งานใกล้จะเริ่มแล้วก็ยังไม่มีใครเห็นพวกหล่อนเลย ทุกคนทยอยไปนั่งที่โต๊ะของปี 3 ป้อมอัศวินที่ถูกจัดไว้ให้ และแล้วงานก็เริ่มขึ้น การแสดงแรกเป็นของปี 1 ป้อมอัศวิน การแสดงที่ 2 ก็ของปี 2 ป้อมอัศวิน เมื่อจบการแสดงที่ 2 โฆษกก็ออกมาประกาศรายการต่อไป



    \"ต่อไปนะครับ จะเป็นการแสดงของนักเรียนปี 3 ป้อมอัศวิน เชิญชมการแสดงได้แล้วครับ\" เมื่อเสียงโฆษกประกาศจบ พวกหนุ่มๆป้อมอัศวินก็หันไปที่เวทีทันที เสียงดนตรีขึ้น คนแรกที่ก้าวออกมาคือ แองจี้ ตามด้วยเรนอน มาทิลด้า และคนสุดท้ายคือสาวปริศนา ผมของเธอเป็นสีน้ำตาล ตาสีน้ำตาลคู่โต ริมฝีปากเรียวสวย รูปร่างอรชร ทุกคนสวมชุดกระโปรงหนังสีดำสั้น ใส่รองเท้าบู๊ทที่ยาวถึงเข่า ใส่หน้ากากปิดหน้า และเครื่องประดับต่างๆที่อยู่ตามตัวเป็นสีทอง ผมยาวปล่อยสยาย คำถามที่เกินขึ้นในใจวินาทีนี้คือ สาวคนที่ 4 คือใคร การแสดงเรียกความสนใจให้ทุกคนต้องดูจนจบอย่างไม่วางตา พวกเธอเต้นได้สวยจริงๆ เมื่อการแสดงใกล้จบ ทุกคนก็ถอดหน้ากากออก และความจริงก็ประจักษ์แก่ใจของทุกคนว่าสาวคนที่ 4 ก็คือเฟรินนั่นเอง เมื่อการแสดงจบก็มีเสียงเรียกร้องให้แสดงอีก แต่โฆษกก็พูดแนะนำรายการต่อไปทันที



    4 สาวลงมาที่หลังเวทีและเห็นทุกคนยืนอยู่ พวกเธอเริ่มหน้าขึ้นสีทุกคน ไม่เว้นแม้แต่เฟริน



    \"สวยจังเลย\" ครี้ดพูดขึ้นก่อน เนื่องจากทุกคนกำลังตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้า



    \"ช่ายๆสวยมากๆ\" กัส โทนีย่าพูดขึ้นบ้าง เล่นเอาสาวๆทั้ง 4 หน้าแดงไปตามๆกัน



    แล้วการสนทนาก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อคุยกันเสร็จทุกคนก็เดินออกมาจากหลังเวที พวกชายหนุ่มที่ยืนรอ 4 สาวอยู่นั้นก็วิ่งกรูกับเข้ามาทันที เล่นเอา 4 สาวตั้งตัวไม่ติด



    \"คุณชื่อรายอ่าครับ วันนี้สวยมากๆเลยนะครับ\"



    \"ไปเดทกับผมได้มั้ยครับ\"



    \"ไปกับผมดีกว่าครับ\"



    \"ไปกับผมดีกว่า\"



    พวกผู้ชายเริ่มเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้ 4 หนุ่มถูกผลักกระเด็นออกมาเกิดอาการแค้น ทั้ง 4 จึงเดินเข้าไปในวง



    \"พอได้แล้ว อย่ามายุ่งกับของของคนอื่น\" คาโลพูดขึ้นก่อน พลางจูบเฟรินต่อหน้าทุกคนที่อยู่ที่นั่น



    \"ใช่\" คิลพูดขึ้นบ้าง พลางเดินไปดึงเรนอนเข้ามากอดแล้วหอมฟอดใหญ่



    \"ถ้าไม่อยากโดนดีก็อย่ามายุ่งกับพวกเราอีก\" โรพูดพลางเดินเข้าไปกอดมาทิลด้า



    \"ใช่ครับ\" ซีบิลพูด แล้วก็เดินเข้าไปหอมแองจี้เหมือนกัน เล่นเอา 4 สาวตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาทำ ส่วนพวกหนุ่มๆที่เหลือก็ได้แต่อิจฉาตาร้อนกันไปเป็นแถบๆ



    เมื่อเหตุการณ์สงบลง ทุกคนจึงพากันกลับมานั่งที่โต๊ะ แล้วเริ่มทานอาหาร เฟรินซึ่งวันนี้ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เที่ยง ตั้งหน้าตั้งตากินโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น ส่วนคนอื่นๆก็เริ่มจะทยอยกันกลับแล้ว



    \"เฮ้อ อิ่มจังเลย\" เฟรินพูดขึ้นเมื่อกินอาหารหมดไปทั้งโต๊ะ <ยังเป็นคนอยู่เปล่าเนี่ย-_-;-Moon>



    \"กลับห้องกันดีกว่า\" คาโลพูดขึ้นเมื่อเห็นเฟรินกินเสร็จแล้ว



    \"อืม ก็ได้\"



    แล้วเฟรินกับคาโลจึงเดินกลับห้องกันสองคน เนื่องจากคิลขอตัวไปหาเรนอน เมื่อถึงห้องเฟรินก็ล้มตัวลงนอนทันที



    \"เหนื่อยจังเลย!!\" เฟรินตะโกนออกมาสุดเสียง



    \"ถ้านายเหนื่อยนายก็นอนเถอะ\" คาโลพูดก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ผ่านไปสักพักคาโลก็คิดได้ว่าจะถามอะไรเฟริน จึงหันหน้าไปเพื่อจะถาม แต่เฟรินหลับไปแล้ว



    \"หลับแล้วหรอ งั้นราตรีสวัสดิ์นะ\" ว่าแล้วคาโลก็ปิดไฟและเข้านอนทันที



    ------------------------------------------------------------------------------------------------



    ในห้องนั่งเล่นถูกประดับประดาตกแต่งไปด้วยสายรุ่งสีต่างๆ เครื่องดื่มพร้อมอาหารที่สามสาวช่วยกันทำ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกจัดเตรียมขึ้นเพื่อฉลองสำหรับถ้วยรางวัลที่ได้ในงานโรงเรียนเมื่อคืนนี้ ตอนนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าหมดแล้ว ยกเว้นคาโล คิล และเฟริน



    แอ๊ดด~ เสียงเปิดประตูดังขึ้น พร้อมกับคิลที่เดินเข้ามา



    \"คิล เฟรินกับคาโลล่ะ\" แองจี้เริ่มถามขึ้นก่อน เมื่อไม่เห็นทั้งสองมาสักที



    \"เฟรินเป็นไข้หนักมาก ตอนนี้ยังไม่ได้สติเลย\" คิลตอบบัดนี้ใบหน้าที่เคยขี้เล่นเสมอ กลับกลายเป็นเครียดจัด



    \"มันเกิดอะไรขี้นหรอคะ คุณคิล\" เรนอนถามขึ้นมาในที่สุดหลังจากที่ทุกคนเงียบไปนานพอสมควร



    \"เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้............\"



    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    ~เมื่อเช้านี้~



    \"เฮ้ เฟรินตื่นได้แล้ว ตื่นๆ\" คิลพยายามปลุกเฟรินอยู่ ปลุกมันมา 10 นาทีแล้วแต่มันก็ไม่ตื่นซะที จนคาโลเดินออกมาจากห้องน้ำ



    \"คาโล แกจัดการต่อที ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว\" คิลว่าพลางเดินเข้าไปในห้องน้ำ เจ้าชายน้ำแข็งได้แต่ถอนให้ใจอย่างปลงตก แล้วเริ่มปลุกเจ้าตัวยุ่ง แต่มันก็ไม่มีวี่แววตื่นซะที สงสัยว่าต้องใช้แผนสุดท้าย



    ว่าแล้วคาโลก็เรื่องคฑาพิพากษาออกมา แล้วสั่งให้ผีสาวในคฑาเป็นคนปลุกเฟริน เมื่อเจ้าตัวยุ่งลุกขึ้นมา คิลก็ออกจากห้องน้ำพอดี



    \"อ้าว เฟรินตื่นแล้วหรอ\" คิลทัก แต่เฟรินไม่ตอบอะไร และแล้วเฟรินก็ล้มลง หัวกระแทกพื้น คิลและคาโลรีบวิ่งเข้ามาดูอาการอย่างเป็นห่วง



    \"ตัวร้อนอย่างกับไฟเลย\" คิลพูดหลังจากแตะตัวเฟรินแล้ว



    \"อุ้มไปนอนบนเตียงก่อนดีกว่า\" ว่าแล้วคาโลก็อุ้มเฟรินขึ้นไปนอนบน พร้อมเรียกลุงหมอให้ออกมาตรวจอาการ เมื่อเวลาผ่านไปสักพักลุงหมอก็ตรวจเสร็จ



    \"ลุงหมอ เฟรินเป็นไรไป\" คาโลถามขึ้นก่อน



    \"อืมม..มันก็ตอบยากนะ\"



    \"แล้วตกลงว่ามันเป็นอะไร\" คิลเริ่มร้อนรนกับท่าทีของลุงหมอที่ไม่ยอมบอกสักที



    \"ตั้งแต่ข้าตรวจคนไข้มายังไม่เคยเจอคนไข้ที่มีอาการอย่างนี้สักที\" ลุงหมอพูดพลางทำสีหน้าอย่างอธิบายไม่ได้



    \"แล้วมันเป็นยังไงล่ะลุงหมอ\" คิลพยายามซักต่อ



    \"ข้างนอกร้อนเป็นไฟ ข้างในเย็นดั่งภูเขาน้ำแข็ง\" ลุงหมอตอบ



    \"แล้วมันมีวิธีรักษามั้ย\" คาโลที่เงียบอยู่นานเอ่ยปากถาม



    \"วิธีมันก็พอมี แต่ข้าไม่รู้หรอกนายท่าน มีแต่คนเป็นเท่านั้นถึงจะรู้\"



    \"แล้วเราจะทำยังไงดี\" คิลพูด บัดนี้ใบหน้าที่ปกติจะขี้เล่น ตอนนี้กับตึงเครียด



    \"นายไปเอาอาหารขึ้นมาก่อนแล้วกัน แล้วค่อยคิดว่าจะทำยังไงทีหลัง\" คาโลพูดสีหน้ายังเป็นปกติ เขารู้ว่าถึงตอนนี้สีหน้ายังเป็นปกติ แต่ข้างในมันคงร้อนรนและเป็นห่วงเฟรินมากกว่าเขา



    \"โอเค งั้นเดี๋ยวฉันมา\" ว่าแล้วคิลก็เดินออกจากห้องไป



    ---------------------------------------------------------------------------------



    \"เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ\" คิลพูดพลางมองหน้าเพื่อนที่ละคน



    \"งั้นเดี๋ยวพวกเราไปเยี่ยมเฟรินกันหน่อยดีกว่า\" มาทิลด้าเริ่มพูดขึ้นก่อน



    \"ก็ดีเหมือนกัน\" แองจี้ว่า



    และแล้วนักเรียนทั้งหมดก็ออกจากห้องอาหาร เพื่อไปยังห้องหัวหน้าชั้นปี 3



    ก๊อก ก๊อก แอ๊ดด~ ปังง~



    เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อน ตามด้วยเสียงเปิดและปิดประตู



    \"คาโล เฟรินเป็นไงมั่ง\" มาทิลด้าถามคาโลที่ตอนนี้นั่งกุมมือเฟรินอยู่



    \"ไม่ดีขึ้นเลย ลุงหมอก็ยังหาวิธีรักษาไม่ได้\" ตอนนี้หน้าของเจ้าชายที่ปกติจะเย็นชา กลับมีความร้อนรนเกิดขึ้นมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้



    \"แล้วทำไมคุณเฟรินถึงเป็นอย่างนี้ล่ะคะ\" เรนอนถามต่อ



    \"ลุงหมอบอกว่าหาสาเหตุไม่ได้\" คาโลตอบสั้น แล้วหันกลับไปมองหน้าหญิงสาวที่รักที่บัดนี้หน้าซีดเซียว ตัวยังคงร้อนเหมือนเดิน



    \"เฟรินจะเป็นไรมากรึเปล่า\" คิลถาม



    \"ไม่เป็นไรมากหรอกน่า\" และแล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ทุกคนจึงหันไปมองที่ต้นเสียง ที่หน้าต่างมีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ ศีรษะของเขาเหลือผมน้อยมาก เขาก็คือ มาดัส เดอเบอโรวด์นั่นเอง



    ระหว่างที่ทุกคนกำลังยืนอึ้งอยู่นั้น มาดัสก็เดินตรงมาที่เตียง แล้วแตะศีรษะของเฟรินดู



    \"ท่าจะไม่ได้การละ\" มาดัสพูดขึ้นเสียงแผ่วเบา ในหน้าที่เมื่อกี้ยังยิ้มสดใส เริ่มตึงขึ้น



    \"เฟรินเป็นไรครับ\" คาโลถาม



    \"ความจริงมันไม่น่าจะเป็นหนักขนาดนี้นะ\" มาดัสไม่สนใจคำถามคาโล เพียงแต่พูดลอยๆกับตัวเองเท่านั้น



    \"ไปหยิบผ้าขนหนูมา\" มาดัสเริ่มออกคำสั่ง คิลจึงเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาให้ แล้วมาดัสก็หยิบขวดๆหนึ่งขึ้นมา ข้างในมีน้ำสีแดงใส บรรจุอยู่ มาดัสเทยานั่นลงในผ้าขนหนู แล้วว่าไว้บนหน้าผากของเฟริน



    \"คงจะช่วยบรรเทาอาการได้สักพัก\" มาดัสพูด พลางเช็ดเหงื่อที่หน้าผากตัวเอง



    \"ตกลงว่าเฟรินเป็นไรครับ\" คิลที่ดูการกระทำของมาดัสอยู่นาน พูดขึ้นมา



    \"ความจริงมันไม่เป็นไรมากหรอก แต่คราวนี้ดูท่าจะหนักหน่อย คงยื้อไม่อยู่แน่\" มาดัสพูด ความสงสัยเริ่มเกิดขึ้นในใจของทุกคน



    \"เฟรินโดนจะเรียกว่าคำสาปก็ไม่ใช่จะเรียกว่าโรคก็ไม่เชิง มันเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด มันจะกำเริบ 3 ปีครั้ง แต่ก็ไม่เคยหนักขนาดนี้ มันเป็นสิ่งที่ทรมานมาก คนโดนจะไม่รูสึกตัว ข้างในจะเย็นเยือก ข้างนอกจะร้อน\" เมื่อมาดัสหยุดพูด ความกังวลก็พุ่งพรวดขึ้นมาในจิตใจของทุกคน



    \"แล้วเฟรินจะเป็นไรรึเปล่าค่ะ\" แองจี้ถามบัดนี้สีหน้าเธอดูเป็นห่วงเจ้าตัวยุ่งอยู่ไม่น้อย



    \"ถ้าอาการเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อนคงไม่เป็นไร แต่อาการตอนนี้ชักแย่ลงทุกที อาจะถึงตายก็ได้\" คำว่า ตาย ของมาดัส เล่นเอาทุกคนใจหายไปตามๆกัน



    \"แล้วมีวิธีรักษามั้ยครับ\" คาโลถามบ้าง



    \"วิธีน่ะมี แต่มันยากที่จะรักษา\" มาดัสพูดพลางทำท่าครุ่นคิดอย่างหนัก



    \"วิธีรักษาก็คือ....................................\"



    ...................................................................................................................................................................................



    เอามารวมกัน แล้วยาวจังเลยอ่า



    ตอนก็น้อยลงด้วย



    แต่มูนก็ยังขยันอัพเหมือนเดิมนะคะ



    รักคนอ่านมากๆเลย ^^





                                                                                                    >>Minnie~Moonie<<





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×