วัดปราสาท จ.นนทบุรี..! ตำนานความหลอนที่ไม่เคยเจือจาง

ข้อมูลเบื้องต้น

เรื่องราวความหลอนที่วัดปราสาท ยังมีให้พูดถึงกันตลอดนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ก่อนหน้านี้แอดมินจะเคยทำโพสต์เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้มาให้อ่านบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องเล่าที่ยังไม่เคยเอ่ยถึง เอาเป็นว่าวันนี้เราจะขอหยิบเอาเรื่องราวของวัดปราสาทมาเล่าให้ฟังกันอีกหนครับวัดปราสาทตั้งอยู่ใน หมู่ที่ 4 บ้านบางกร่าง ตำบลบางกร่าง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีอายุไม่ต่ำกว่า 400 ปี วัดมีพระอุโบสถแบบทรงมหาอุดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ภายในปิดทึบไม่มีหน้าต่าง มีจิตรกรรมฝาผนังเป็นสีฝุ่น วัดปราสาทถือเป็นวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย นอกจากพระพุทธรูปพ่อใหญ่หรือพระเจ้าปราสาททองแล้ว ยังมีรูปเหมือนหลวงปู่สนธิ์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกด้วยโดยว่ากันว่าแต่เดิมวัดปราสาท ใช้เป็นที่ซ่องสุมกำลังทหารในยุคสมัยอยุธยา และเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะเคยถูกใช้เป็นลานประหารนักโทษเก่ามาก่อนด้วย..!นอกจากวัดปราสาทจะมีชื่อเรื่องความเก่าแก่และสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีเสียงเล่าลือว่าผีดุ ผีดุขนาดที่ว่าถูกจัดอันดับให้อยู่ใน 10 สถานที่ ที่ลือว่าเฮี้ยนที่สุดในประเทศด้วย..!ถ้าใครเคยไปเที่ยววัดแห่งนี้น่าจะพอนึกภาพออก ในช่วงกลางวันจะมีผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมสักการะ แต่ถ้าหลังช่วงเย็นไปแล้วบรรยากาศจะดูรกครื้ม เงียบสงัด และน่าวังเวงแบบสัมผัสได้ส่วนเรื่องราวความหลอนภายในวัดนั้นมีให้พูดถึงกันอยู่หลายจุดด้วยกัน..ดังต่อไปนี้ครับ** 1..ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองเฮี้ยน..!ก่อนวันที่ 16 และวันที่ 1 ของทุกเดือนจะมีผู้คนมาขอเลขเด็ดกับเจ้าแม่ตะเคียนมิเคยขาด บางรายโชคดีถูกหวยรวยเบอร์ได้โชคได้ลาภกันไปก็มาก แต่อีกด้านนึงใครก็รู้ว่าศาลแห่งนี้นั้นเฮี้ยนอย่าบอกใคร..! ชาวบ้านที่เจอมักจะเล่าตรงกันว่า ช่วงโพล้เพล้หรือช่วงหัวค่ำ เวลาเดินผ่านศาลมักจะเห็นเป็นผู้หญิงแต่งชุดไทย ยืนอยู่บริเวณใกล้ๆ กับศาล..!หรือบ้างก็ว่า ชาวบ้านเดินผ่านศาลและมองเข้าไป พบเห็นเป็นกลุ่มควันที่ลอยออกมาจากต้นตะเคียน เมื่อเพ่งมองดูควันนั้นกลับเห็นเป็นหน้าของผู้หญิงลอยออกมาก็มี..! เรียกว่าพอนึกภาพตามแล้วอดขนหัวลุกไม่ได้เหมือนกัน** 2.. ตำนานศาลพระนางอุษาวดีเทวี..!เรื่องเล่าของคนโบราณบอกว่า เดิมทีก่อนจะสร้างศาลแห่งนี้ขึ้นมา เคยมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ วัด ฝันถึงแม่นางคนนึงหน้าตาสะสวย พอมีคนฝันคนเจอกันบ่อยๆ จะเรียกผู้หญิงคนนั้นว่า..”แม่นางคนสวย”แต่พอไปสืบประวัติดูก็เข้าใจได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นท่านน่าจะเป็นชายาหรือสนมของพระเจ้าปราสาททอง ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้มาก่อน โดยเมื่อก่อนเรือนของท่านจะตั้งอยู่ทางด้านหลังวัด เมื่อทราบดังนั้นชาวบ้านที่เชื่อและศรัทธา จึงช่วยกันตั้งศาลขึ้นแล้วให้ชื่อว่า “ศาลเจ้าอุษาวดีเทวี”โดยบริเวณที่ตั้งศาลพอตกดึก บรรยากาศจะวังเวงและน่ากลัวมาก มีคนเล่าว่าบางคืนมีคนเห็นเจ้าแม่ออกมาเดินไปเดินมาตรงแถวๆ บริเวณนั้น..!หรือใครที่ผ่านวัดมาไม่เคยรู้เรื่องราวของที่นี่มาก่อน เห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยนั่งอยู่ใกล้ๆ กับศาล จึงคิดว่าเขามาถ่ายหนังก็เลยไม่ได้สนใจอะไร มารู้อีกทีว่าที่เห็นนั่นเป็นเจ้าแม่อุษาวดีเทวี ก็ถึงกับขนหัวลุกเลยทีเดียว..!นอกจากนี้ที่ผ่านมายังเคยมีคนเล่าว่า หากมีใครไปแสดงกิริยาวาจาจ้วงจาบหยาบคาย ไม่เคารพผู้เป็นเจ้าของสถานที่ก็มักจะพบกับเหตุการณ์แปลกๆ เจอสิ่งลี้ลับหนักเบาไม่เท่ากัน จนผู้ที่ไปลบหลู่ต้องกลับมาขอขมาพร้อมธูปเทียนเสมอๆ..โดยที่ปัจจุบันศาลเจ้าแม่อุษาวดีเทวีนั้น ได้ย้ายไปอยู่ทางด้านหน้าวัดแล้ว ติดกับถนนใหญ่..** 3.. ศาลาเก็บศพโบราณ..!หากใครเคยไปวัดปราสาทจะเห็นกุฎิไม้และศาลาเก่าๆ สภาพผุพังอยู่หลายหลังเหมือนกัน โดยที่ในแต่ละหลังก็ล้วนแต่มีเรื่องเล่าทั้งนั้น..เคยคุยกับชาวบ้านที่อยู่ละแวกวัด ว่าวัดปราสาทยังมีโรงเก็บศพเก่าที่ปลูกเป็นศาลาไม้ไว้หลังนึง ซึ่งเดิมทีทางวัดตั้งใจจะบูรณะใหม่มาเป็นศาลาให้พระและชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ แต่ปรากฎว่าก่อสร้างยังไงก็ไม่เสร็จ..!เพราะมักจะเกิดเหตุบางสิ่งบางอย่างมาขัดขวางอยู่เสมอ ว่ากันว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะอาถรรพ์ของศาลาเก่าแห่งนี้ก็ได้..!** 4.. กุฎิหลอน เรื่องเล่าของพระที่เคยมาผูกคอตาย..!มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระที่เคยมาเสียชีวิตที่วัดแห่งนี้ แต่ข้อมูลไม่แน่ชัดว่าท่านเจ็บป่วยจนมรณภาพ หรือว่าผูกคอตายกันแน่..!แต่วิญญาณของพระสงฆ์รูปดังกล่าว ก็เป็นที่พูดถึงกันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าพระเณรที่อยู่ร่วมวัดหรือชาวบ้านที่อยู่แถวนี้ ที่ต่างเคยพบเจอวิญญาณของผู้ตายออกมาปรากฎตัวหลอกหลอนอยู่บ่อยๆ..! อย่างไรก็ตามเนื่องจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปหลายปีแล้ว ปัจจุบันคงไม่ค่อยมีใครพบเจอเหมือนแต่ก่อนแล้ว** 5.. ป่าช้าด้านหลังวัดเฮี้ยน..!เป็นที่เลื่องลือว่าป่าช้าด้านหลังวัดนั้นเมื่อก่อนน่ากลัวอย่าบอกใครแต่เดิมสภาพตรงนี้คือป่าช้าที่คนสมัยก่อนเอาศพมาฝัง และใกล้ๆ กันก็มีโกดังเก็บศพที่เป็นเพลิงสังกะสีอยู่เก่าก่อนโดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านหลังวัด เวลาเดินผ่านป่าช้าทีก็ต้องพากันขนหัวลุกเป็นแถวๆ..บ้างเล่าว่า..เห็นเป็นร่างของใครก็ไม่รู้มานั่งยองๆ อยู่ตรงโกดังเก็บศพ..!หรือเห็นเป็นลักษณะเหมือนคนคลุมผ้าห่อศพสีขาว ลอยละล่องตามมาก็มี..!ต่อเมื่อเวลาผ่านไปทางวัดได้มีการปรับปรุงพื้นที่ นำโกดังเก็บศพมาใช้เป็นที่เก็บของแทน ความน่ากลัวต่างๆ จึงค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา…อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่แอดมินเอามาเล่าในโพสต์นี้ คือเรื่องเล่าจากคนพื้นที่ที่ได้รับฟังมาอีกต่อนึง เป็นความเชื่อส่วนบุคคลของผู้เล่า..ดังนั้นผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณกันด้วยนะครับสุดท้ายถ้าหากโพสต์นี้มีการกล่าวล่วงเกินใครไป หรือว่าข้อมูลผิดพลาดประการใด ก็คงต้องขออภัย มา ณ.ที่นี้ด้วย..