ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อดีตขุนนางสาวโสดกับชีวิตโลดโผนผจญภัยเพื่อลูกสาวสุดน่ารัก

    ลำดับตอนที่ #81 : ความบื้อกับความใบ้เป็นสิทธิพิเศษของตัวละครหลัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 730
      50
      31 ต.ค. 65

    ด้วยศพที่กองอยู่ตรงนั้น… หรือน่าจะเป็นแค่คู่ปรับที่ไม่ได้สติดีล่ะน้า… หลังจากที่ชำเลืองมองไปยังพวกทหารแล้ว Shirley ก็หันไปมอง Glorious

    “ดูเหมือนว่าจะไม่มีคนไหนเข้ามาแล้วสินะ… งั้นฉันจะขอให้ท่านเป็นคู่ปรับคนสุดท้ายมั้ย จอมพล?”

    “ไม่ต้องๆ เธอทำได้เยอะมากพอแล้ว เธอแสดงให้พวกเราได้เห็นถึงทักษะการต่อสู้ที่เหลือเชื่อแล้วล่ะ”

    ด้วยรอยยิ้มชวนน่าสงสัย Glorious จึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นราวกับเขาจะยอมแพ้

    “มันก็น่าอดสูจริงๆที่กระผมต้องยอมรับแบบนี้ แต่กระผมก็ไม่อาจโน้มน้าวให้ผู้ใต้บัญชาของกระผมที่มีนักผจญภัยเข้าร่วมเป็นสิ่งจำเป็นในสถานการณ์ที่ผิดปกติอย่างนี้ได้… แต่กระผมก็ไม่คิดว่าจะมีผู้ชายคนใดจะไม่ยอมรับความสามารถของคุณแล้วล่ะครับ”

    มันไม่ใช่ราวกับพวกเขาจู่ๆก็เข้ามาขอลายเซ็นต์เธอหรอก แต่ดูเหมือนจะเป็นความรู้สึกอับอายที่พวกเขาไม่อาจจะมองสายตาของเธอได้ ซึ่งก็ชัดเจนว่านั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อต้องปกป้องผู้อื่น ไม่ใช่สถานะหรือสายเลือด แต่เป็นพลังบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปนต่างหาก

    ถ้าให้พวกเขาสาธิตความแข็งแกร่งนั่น พวกนั้นก็คงจะไม่มีทางเลือกใดๆนอกจากยอมแพ้และยอมรับมันเท่านั้น

    “พวกเจ้าทุกคน ในครั้งนี้ข้าได้ตัดสินใจร้องขอจากพันธมิตรภายนอกมาแล้ว ตอนนี้พวกเจ้าคิดว่ามันสมควรมั้ยถ้าพวกเจ้าปฏิเสธไม่ยอมร่วมมือกับเธอด้วยเหตุผลส่วนตัวบ้าๆล่ะ… เข้าใจมั้ย?”

    “““ รับทราบ! เข้าใจเป็นอย่างยิ่งครับ!”””

    “Shirley ถ้ามีทหารหน้าไหนอาจหาญกับสร้างเรื่องยุ่งยากให้เธอ ก็รายงานมาให้กระผมตรงๆได้เลย”

    “เข้าใจค่ะ”

    ด้วยคำพูดจากจอมพล หัวหน้าของกองกำลังทั้งมวล จึงไม่น่ามีที่จะกระทำการซ่อนแอบจากยศและประวัติได้

    “งั้น ยังมีคนรอฉันอยู่ ฉันขอตัวก่อนล่ะ”

    “แน่นอน ไว้กระผมจะร่วมมือกับคุณในคราวหน้านะ”

    เธอหันหลังให้ Glorious แล้วก็กลับไปยังที่ๆลูกสาวอยู่ ขณะที่เธอไปหานั้น Shirley ก็ได้รับการต้อนรับจาก Tio ที่ถือผ้าเช็ดตัวให้เธอ

    “ทำได้ดีเลย แม่ นี่ค่ะ”

    “ขอบใจมากนะ”

    เธอไม่ได้เหนื่อยมากพอที่จะมีเหงื่อไหลออกมาได้ แต่เธอก็รับผ้าเช็ดตัวด้วยความซาบซึ้งเลยทีเดียว ถ้าเป็นแบบนั้น Shirley ขอให้มีแบบนี้เกิดขึ้นล่ะกัน

    “…ฉันตกใจจริงๆ ฉันบอกว่าทหารของราชอาณาจักรต่างก็ล่ำบึ้กและก็มีทักษะ แต่คิดว่าไงที่แม่ของเธอได้ฟันลงไปยังพวกนั้นด้วยตัวคนเดียวน่ะ…?”

    “ฟุฟุ~”

    Sophie ถึงกับแก้มป่องในคำพูดชื่นชมแม่ตัวเองของ Hilda แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ถึงกับแปลกใจตอนที่พวกนั้นเห็น Shirley ออกลุยเป็นครั้งแรก เนื่องจากไม่เคยคิดว่าข่าวลือเกี่ยวกับที่เธอทำนั้นจะเป็นเรื่องจริง

    มันเป็นความพยายามที่คุ้มค่า ที่จะได้เห็นเป็นความภาคภูมิใจจากลูกสาว ซึ่งเป็นระดับความสุขที่แท้จริงของแม่

    Shirley ไม่ปล่อยให้แสดงบนสีหน้า แต่ในใจนั้นมันกระพือเหมือนใบไม้ที่ถูกลมพัด แน่นอนว่าเธอไม่อาจหยุดความรู้สึกที่แสดงคนละอย่างได้ ขณะที่หางม้าที่ห้อยหลังเธอได้สั่นไปมาเหมือนกับหางสุนัขที่กระดิก

    “…ใช่ล่ะ เธอเป็นคนที่อ่านได้ง่ายเมื่อรู้จักเธอนะ หืม?”

    “มันยากที่จะนึกภาพได้ว่าเธอเคยเป็นชนชั้นสูงตอนที่เธอแสดงด้านที่สง่าผ่าเผยนะ รู้มั้ย?”

    “ใช่เลยล่ะ ฉันก็มั่นใจว่าเธอน่าจะทำได้ถ้าเธอพยายามนะ แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะเหมาะกับตัวตนของเธอสักเท่าไรหรอกนะ”

    “ท่านหญิง”

    Alicia ขัดการสนทนากระซิบกันของนักผจญภัยหน้าใหม่ ท่าทางของเธอก็แปลกๆ อยู่กึ่งกลางระหว่างความหดหู่และความคิดถึง

    “ไม่ว่าเธอจะพยายามทำตัวเย็นชาอย่างไรก็ตาม ในใจเธอก็หนักแน่นไม่เคยสะดุด เธอเป็นคนที่ใจดีและอ่อนโยนกับผู้อื่นก่อนอยู่เสมอ ไม่เปลี่ยนไปเลย”

    “เธอไม่ได้เปลี่ยนไปหลังจากที่มีลูกแล้วหรือ?”

    “ฉันว่าตามขอบเขตนะ แต่นั่นก็เปลี่ยนไปยิ่งกว่าความนับถือที่เธอแบกเอาไว้เสียอีก ในวันเก่าๆนั้น Shirley ต้องแบกตัวเองเป็นผู้สง่างาม จึงยากที่จะเห็นเธอไม่ยิ้มบนใบหน้าเธอเลย”

    “…คุณพูดถึงเรื่อง Shirley จริงๆหรือ!? ท่าทางเหมือนจะเป็นคนอื่นไปเลยนะ!?”

    “แน่นอนอยู่แล้ว มันยากที่จะนึกภาพในตอนนี้ แต่ตอนที่เธอเป็นว่าที่จักรพรรดินี เธอก็หลงใหลและคอยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เพื่อคนยากไร้ เธอจึงได้รับการพิจารณาว่าเป็นนักบุญจากหลายๆคนนะ”

    “…นั่นมัน… ยากที่จะนึกภาพได้เลยนะเนี่ย…”

    ขณะที่พวกเขาได้ยินเรื่องราวจากบุคคลหายากที่รู้จัก Shirley จากเบื้องหลังนั้น ทั้งสามคนต่างก็มองมายังเธอราวกับพวกเขาไม่อยากจะเชื่อ

    ตอนที่เธอจมอยู่ในความเป็นแม่จอมเห่อหรือถูกจับแต่งชุดโป๊นั้น หน้ากากถึงกับหลุดออกมา แต่ส่วนใหญ่ที่พวกนั้นรู้จักเธอก็คือเป็นคนหยาบกร้านและมีดาบอสูรที่สามารถตัดผ่านกลางสนามรบเหมือนกับลมพายุคลั่งได้

    ไม่แน่ว่าคนที่เห็นว่าเป็น ‘แม่พระ’ นั้น อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่ตั้งแต่เธอเป็นนักผจญภัยล่ะกัน

    (แต่เหตุผลที่เธอเริ่มสง่างามก็เพราะเรื่องพวกนั้นเลยนี่…)

    จักรพรรดิ Albert และจักรพรรดินี Alice ไม่ต้องพูดถึงเหล่าผู้ติดตามของทั้งสองคนนั่นเลย

    ที่เธอกลายมาเป็นเธอในวันนี้ได้เพราะสิ่งที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ต่อให้ Kyle กับพรรคพวกไม่มีอะไรที่จะต้องปฏิเสธตัว Shirley ที่เป็นคนในตอนนี้ก็ตาม ความจริงที่หลงเหลือก็คือเธอนั้นได้บรรเทาเปลวดำของอดีตไปบ้างแล้ว

    อาจจะอึ้งไปบ้างที่คิดแบบนั้น ผู้หญิงสง่างามที่ใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นที่เผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมอันโหดร้ายที่เธอไม่เคยล่วงรู้และไม่มีความหวังที่จะเลี่ยงไปได้

    “ถ้าฉันอยู่กับคุณ Shirley ด้วย ฉันก็น่าจะพาเธอหนีออกไปจากตรงนั้น… เราน่าจะหนีไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกลางป่าที่ไม่มีใครอยู่…”

    (…หา?)

    “คืนนั้นหลังจากที่ถอดออกแล้ว X X Xปี๊บ ของเธอกับผิวกายของเธอก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเชือก และขณะที่เธอนอนลงกับเตียงด้วย Y Y Yปี๊บ ของเธอที่เพิ่งจะปลดปล่อยออกมา และแล้วฉันก็พูดออกไปว่า ‘ถ้าคุณอยากให้ฉันทำอย่างเบาๆ ช่วยกระซิบเข้าที่หูฉันที’….”

    “เดี๋ยวก่อนสิ!? ทำไมคุณถึงพูดเอาเองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผมล่ะ!?”

    “ตายแล้ว ลามกนะเนี่ย ฮิๆ”

    หลังจากที่กระซิบสิ่งที่คิดไม่ถึงเข้าใส่หู Kyle แล้ว Alicia ก็หัวเราะคิกๆออกมาขณะที่เธอกางพัดซ่อนรอยยิ้มของเธอเอาไว้ น่าตกใจจริงๆที่ได้เห็นคนจากสังคมชั้นสูงถึงกับพูดที่ไม่สมควรพูดออกมาตรงๆอย่างนั้นได้… บางทีนั่นคงจะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ว่าทำไมราชินีอย่างเธอถึงเป็นที่รักของประชาชนได้

    “แต่ คุณคิดเรื่องแบบนั้นไม่ใช่หรือไง? คุณจะทำอะไรถ้าอยู่ตรงนั้นล่ะ”

    “ผมอาจจะนึกถึงเรื่องนั้นในตอนแรก แต่ตอนหลังจากนั้นคุณกลับพูดถึงเรื่องอื่นไปเลยนี่!?”

    “อะไรหรือ? ฉันได้ยินนายพูดถึงฉันด้วย…?”

    “ไม่ใช่แล้ว! มันผิดแล้วล่ะ!?”

    Shirley (ไม่ได้ตั้งใจ) ทำให้บทสนทนาวุ่นวายมากขึ้นจากการเข้ามาสอด โชคดีของ Kyle เธอดูท่าจะไม่ได้ยินเรื่องที่พูดของบทสนทนานี้ แต่คนอื่นเขาได้ยินกันหมด…

    “…อย่างที่คิดเลย Kyle นี่อันตรายจริงๆในหลายๆความหมายเลย”

    “…อืม เทียบกับคนอื่นแล้ว เขาเข้าใกล้มากเกินไปแล้วล่ะ”

    “เชือกหรือ? แล้วไอ้ Y Y Yปี๊บ ของเธอ… มันหมายความว่ายังไงกัน? …เดี๋ยว!? ม-ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ… เธอทำกับมันด้วยสามคนหรือมากกว่านั้น… ไอ้ตำนานนั่น… เธอพูดถึงเรื่องการกระโดดด้วยเชือกยาวๆ ใช่มั้ย!?”

    “Hilda… จะอยู่อย่างนั้นตลอดไป”

    ขณะเดียวกัน Sophie กับ Tio ต่างก็กอดเอว Shirley ขณะที่พวกเธอคอยมองไปยัง Kyle อย่างระมัดระวัง… ถึงแม้พวกเธอจะเผื่อตัว Hilda ด้วยสายตาที่เห็นใจ



    “…??? ทั้งสองคน… ทำไมพวกเธอถึงจ้อง Kyle แบบนั้นขณะที่กอดแม่ด้วยล่ะ?”

    แน่นอนว่า สิ่งเดียวที่เป็นสถานการณ์มืดมนยิ่งกว่า Hilda ก็คือตัวดาบอสูรเองนั้นแหละ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ก็ได้ยินเสียงแปลกๆที่ไม่น่าจะเป็นสถานการณ์อย่างนี้ได้เลย

    “…ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ? คอยอยู่ข้างเคียงตัวคุณ Shirley มันก็เหมือนกับเธอถูกเลือกไว้แล้วเมื่อมันเกิดขึ้นมาเหมือนอย่างนี้ เนื่องจากเธอไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเธอนั้นชัดเจนอยู่แล้ว”

    “ขอบใจ… ถึงแม้ว่ามันจะไม่สบายตัวจริงๆก็ตาม”

    Kyle ถึงกับเอามือปิดหัวด้วยความอาย เขาไม่ได้รู้เลยหรือไม่ก็เขาน่าจะโล่งใจที่เธอไม่ได้ยินเรื่องนั้น หรือว่าจะหดหู่ที่ลูกสาวของเธอจ้องตาเขม็งใส่เขาดีเนี่ย

    “หม่าม้า ระวังตัวด้วยนะ โอเคนะ? นักผจญภัยคนหนึ่งที่อยู่ใน
    บ้านพักบอกหนูว่าผู้ชายทุกคนต่างก็เป็นสัตว์ป่าทั้งนั้นเลย”

    “อืม ฉันก็เป็นห่วงว่าแม่จะตกเป็นเป้าหมายได้… โดยเฉพาะจากคนที่อยู่ใกล้ตัว”

    “…??? แม่ก็สงสัยเรื่องนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว… แต่ลูกจะไม่พูดถึงเรื่องของ Kyle เลยหรือ?”

    Shirley ลูบหัวลูกสาวเบาๆด้วยเสียงถอนหายใจ

    “แม่อายุสามสิบปีแล้ว ไม่มีทางที่เด็กหนุ่มนั้นจะรู้สึกอับอายแบบนั้นกับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าเท่าตัวของเขาได้หรอก ยิ่งกว่านั้น Kyle ยังไร้เดียงสาอยู่ เขาไม่น่าจะคิดผู้หญิงแบบนั้นนะ”

    Kyle ไม่ได้รู้สึกถึงความสุขเล็กน้อยถึงแม้ว่าจะเป็นคำชมก็ตาม ขณะที่ Cudd กับ Leia ในตอนนั้นต่างก็ตะลึงกับระดับความบื้อที่ Shirley มาถึงจุดนั้น

    (งั้นตำนานของสาวงามมหัศจรรย์ที่ไม่รู้ถึงเสน่ห์ในตัวเองก็เป็นเรื่องจริงสินะ)

    (ดูเหมือนว่า Kyle เองน่าจะถูกคุณ Shirley มองเห็นน้อยและก็น้อยยิ่งกว่าผู้ชายทุกครั้งเลย)

    ตามที่ Shirley ประเมินเขาไป Kyle ก็เป็นแค่คนใจดีและเป็นสุภาพบุรุษแสนซื่อที่อ่อนกว่าตัวเธอมาก ที่ไม่เคยโหยหาความปรารถนาใดๆเพื่อผู้หญิง ถึงแม้ว่าเขาจะอยากให้เธอบอกความรู้สึกที่นึกไว้ในใจกับเขาบ้าง เขาก็ยังคงสิ้นท่าในทางอื่นอยู่ดี

    “ไม่ถูกต้องใช่มั้ย Kyle?”

    “…ค-ครับ แน่นอน”

    “…มูววว…”

    “…น่าสงสัย…”

    ขณะที่เขามองไปด้วยสายตาซื่อๆบริสุทธิ์ที่ไม่มีอะไรดูน่าสงสัยเลยนั้น Kyle ก็ไม่ได้จ้องมองแบบนั้น Sophie กับ Tio ยังไม่เชื่อใจในสายตาสักเท่าไร แต่ Shirley ก็ไม่ได้สงสัยการกระทำใดๆของเขาเลย

    “แล้วก็… จะซ่อนตัวอยู่ตรงนั้นอีกนานแค่ไหนกันล่ะ?”

    “หา?”

    ทันใดนั้น Shirley ก็หันไปมองยังทางเดินที่จะกลับไปยังปราสาท

    ทุกคนต่างก็สงสัยว่ามีคนที่ต้องสงสัยอยู่สักพักหนึ่ง แต่คนที่โผล่ออกมากลับเป็นอัศวินหญิงที่มีผมสีแดง

    “ต๊ายตาย ไปอยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหนแล้วจ้ะ?”

    “…ขออภัยเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ ท่านราชินี Alicia ตลอดสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ฉันได้ซ่อนตัวเองเพื่อคอยระวังตัวเอาไว้นะคะ”

    ขณะที่เธอก้มตัวลง หางม้าสีแดงก็ไหลมายังข้างหน้า เป็น Lumiliana อัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดของอัศวินหลวงจักรพรรดิและเป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวของ Philia

    “เอาล่ะ องค์หญิงคะ… ท่านจะต้องออกมาต้อนรับราชินี Alicia กับเจ้าหญิง Grimhilda ไม่ใช่หรือคะ? ท่านซ่อนตัวอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้นะคะ”

    “ด-เดี๋ยวก่อนสิ Lumiliana…! ฉันยังเป็นห่วงเรื่องนั้นอยู่…!”

    และเพราะเธออยู่ตรงนั้น จึงเป็นธรรมดาที่เธอจะต้องเจอกับคนๆนั้น

    “ข-ขออภัยที่แนะนำตัวช้านะคะ ท่านราชินี Alicia กับเจ้าหญิง Grimhilda… และก็คุณพี่-… อ๊ะ เกือบไป ท่าน Shirley คะ”

    ท่ามกลางเขตแดนของศัตรู เจ้าหญิงจักรพรรดิ Philia ได้ปรากฏตัวออกมา ผมขาวที่ปลิวไสวได้สะท้อนเข้ามาในตาของ Shirley
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×