ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : นักผจญภัยมือใหม่จากก่อนหน้านั้น
โลกนี้คือสถานที่อันโหดร้ายขนานแท้
เมื่อมอนสเตอร์อาละวาดกับมอนสเตอร์ด้วยกัน และบางครั้งมันก็ฉลาดจนน่ากลัว สัญชาตญาณจะบอกคุณว่ามนุษย์อาจจะกลายเป็นยิ่งกว่าเหยื่อของสัตว์ร้าย
ไม่ใช่อัศวินกับนักผจญภัยที่จะอยู่ในห่วงโซ่อาหารตามปกติ แต่เป็นผู้หญิงกับเด็กที่ไม่อาจปกป้องตัวเองได้ต่างหาก
สิ่งที่มีอย่างคุณธรรมและจรรยาบรรณก็ไม่เกี่ยว นอกจากเสียงร้องและน้ำตาที่ไหลพรากจนย้อมผิวนุ่มๆ… จึงเป็นที่ชัดเจนว่าทำไมมอนสเตอร์ถึงชื่นชอบเหยื่อที่สามารถจัดการง่ายกว่า
นั่นทำไมมอนสเตอร์ตัวเล็กๆนั้นจะคอยมองหาแต่เด็ก และรอสบโอกาสที่จะแยกจากผู้ใหญ่เพื่อจู่โจม
เสียงร้องไห้ที่ดังก้อง และก็ตามด้วยเสียงฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ เด็กเล็กที่ไม่ยอมรีบกลับเข้าบ้านจะกลายเป็นอาหารและถูกกินโดยก็อบลิน
ถือว่าเป็นเรื่องปกติในโลกนั้น
พวกอ่อนแอย่อมตกเป็นอาหารของพวกที่แข็งแรงกว่า ไม่ว่าจะมีกฎหมายและมีอำนาจควบคุมมากแค่ไหนก็ตาม นี่คือความจริงที่ไม่อาจเลี่ยงได้
ในโลกนี้ อะไรก็มีความเสี่ยงที่จะถูกมอนสเตอร์ฆ่าได้ทั้งนั้น แน่นอนว่ากับมอนสเตอร์ด้วย
“ฟิ้ว~ …เอาล่ะ”
หุบเขาเล็กที่อยู่นอกเมืองชายแดน มีการรับคำร้องขอให้ไปล่าก็อบลินที่ขโมยไก่มาจากหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆ Kyle เอามือจับแขนที่สั่นและพยายามทำให้เขาหยุดตัวสั่นสะท้านให้ได้
ถึงแม้ว่าก็อบลินนั้นจะถูกมองว่าเป็นแค่มอนสเตอร์แมลงวันตัวเล็กๆ พวกมันก็ยังกระจายพันธุ์ได้ทันทีหากปล่อยให้เหลือเพียงตัวเดียว ต่อให้อสูรดาบสีขาวจะกวาดล้างทุกรังที่อยู่ใกล้เมือง พวกก็อบลินก็ยังกลับมารวมตัวกันใหม่ได้ พวกมันมาจากความหวาดกลัวหรือว่าควีนยังรอดอยู่หรือ?
“รังก็อบลินหรือ”
มองผ่านกล้องส่องแล้ว เขาก็เห็นก็อบลินสองตัวที่กำลังเดินเข้าถ้ำใหญ่ที่กำลังเปิดอยู่
มอนสเตอร์ที่ทุกคนว่ากันว่าอ่อนแอที่สุด แต่สำหรับเขาแล้วพวกเขาต่างก็มีความทรงจำอันเลวร้ายฝังลึกกับพวกมันอยู่
เขาเห็นมันได้ตอนที่เขาหลับตาอยู่ เขาเห็นเพื่อนพวกนั้นที่เขาได้มาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางในการผจญภัยครั้งแรกถูกทำร้ายจนทรมานจากก็อบลินและมังกรนั้นก็ได้เผาผลาญไปทั่วจนทำลายความหวังพวกเขาทั้งหมด
หลังจากที่ได้รับประสบการณ์อันโหดร้ายมาแล้ว Kyle จึงได้คิดว่าเลิกเป็นนักผจญภัยจริงๆน่าจะดีกว่า
อายุแค่ 15 ปี แต่กลับต้องมาเผชิญกับเรื่องโหดร้ายตั้งแต่เริ่มจนทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจในตัวเองและทักษะของเขา
(…แต่กระนั้น!)
ถึงแม้จะยังมีความกลัวหลงเหลืออยู่ มันก็ไม่ได้อยู่ไปตลอด
และเขาได้หันกลับไปมองยังนักดาบผมขาวที่ปรากฏตัวในเวลาที่เขาต้องการ
ต่อให้บอกว่าเป็นเหตุผลที่บ้าบอ Kyle ก็ยังเป็นผู้ชายอยู่ นอกจากเขาจะคอยช่วยสนับสนุนสถานสงเคราะห์ที่ได้ดูแลเขาแล้ว เขาก็ยังเข้าร่วมกิลด์เพื่อหาอิสระที่แท้จริงและเพิ่มระดับชื่อเสียงอีกด้วย
ถ้าเป็นเหตุผลหลักในก่อนหน้าล่ะก็ คนเค้าก็คงจะเรียกเขาว่าเป็นผู้ที่เฉลียวฉลาดและสุขุมเกินวัยแล้ว แต่ในระยะหลังนั้น เป็นธรรมดาที่จะถูกมองว่าเป็นไอ้โง่
หลังจากที่เขาได้ชั่งตัวเลือกแล้ว Kyle จึงเลือกที่จะใช้ชีวิตเป็นนักผจญภัยต่อไปและพยายามไล่ตามผู้หญิงที่เขาเทิดทูนต่อให้เขาไม่ได้กล้าหาญเหมือนเธอ ต่อให้เป็นศึกที่ดูกระท่อนกระแท่นจนเปรียบเทียบกับเพลงดาบนั้นได้ก็ตาม นี่คือเส้นทางการของเริ่มต้นเท่านั้น
Kyle ยืนยันสิ่งของรอบตัวก่อนที่เขาจะเริ่ม
“ดาบพร้อม!”
ดาบสั้นที่เขาได้ลับให้คมพิเศษเฉพาะสำหรับวันนี้
“โล่โอเค!”
โล่ประยุกต์ทื่อๆที่พอจะเหมาะกับเขาค่อนข้างดี
“ชุดเกราะ ดี!”
หมวกเกราะราคาถูกๆที่คลุมหัวและเกราะหนังสัตว์ เพราะเขาไม่มีทุน เขาจึงสวมถุงมือหนังและรองเท้าที่ทำจากหนังโดยผูกเอาไว้แน่น ดังนั้นจึงไม่มีทางหลุดในระหว่างต่อสู้
“ขวดยาทั้งหมด พร้อม!”
ยาบรรเทาความเจ็บปวด ยารักษาพิษและขวดฟื้นฟูพลังเวทขนาดเล็กถูกซื้อมาด้วยเงินก้อนสุดท้าย
“ถึงแม้ว่าฉันจะคิดว่าจะได้ใช้มันก็ตาม การเตรียมเอาไว้ก็สิ่งที่ดี!”
ขวดน้ำสามขวด ขดเชือกและมีดฉุกเฉิน
“เอาล่ะ ไปได้!”
เขาเอามือตบแก้มเพื่อเรียกจิตวิญญาณเข้ามา
เมื่อมอง Kyle กำลังผ่านพิธีกรรมแบบนี้แล้ว นักผจญภัยที่ไม่รู้อดีตของเขาก็คงจะหัวเราะออกมาเป็นแน่
แต่ Kyle ก็ไม่ได้สนใจเรื่องแบบนั้นสักเท่าไร สำหรับเขาแล้วไม่ใช่แค่สังหารก็อบลินง่ายๆ มันหมายถึงเขาจะต้องจัดการกับมอนสเตอร์ด้วยตัวของเขาเองด้วย
เขาไม่ได้กะจะไปตาย แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในถ้ำนี้ เขาก็ไม่มีแผนที่จะทิ้งความเสียใจใดๆ ไม่มีอีกแล้ว
“《 ส่องแสง ・ โคม 》”
ขณะที่ Kyle ร่ายออกมานั้น ก็มีทรงกลมขนาดเล็กส่องแสงออกมาในมือเขาแล้วก็ส่องสว่างไปทั่วทั้งถ้ำ
“มันน่าจะช่วยประหยัดพลังเวทถ้าเอาคบเพลิงมาด้วย แต่ฉันจะต้องทำให้มือว่างเข้าไว้…”
ขณะที่พลังเวทนั้นจะสร้างขึ้นมาจากกายภาพภายนอก บางคนที่พยายามที่จะเรียนรู้มันจะต้องมาพร้อมกับเงื่อนไขด้วยพลังที่จะบิดเบือนกฎของโลกบนพลังจิต
เมื่อตัวตนที่เก่าที่สุดได้จินตนาการถึงของที่มาจากสิ่งที่ยังไม่มี นั่นก็คือตอนที่โลกได้ถูกสร้างเป็นครั้งแรก
นั่นคือสิ่งที่ผู้คนยอมรับโลกกายภาพด้วยเวทมนตร์ เป็นเวลามาหลายศตวรรษ โดยมีแนวทางพัฒนาเพื่อฝึกคนให้มีความรู้และใช้พลังในการสร้างปรากฏการณ์ และสามารถที่จะเป็นอาวุธได้
“ยัง 《Flash》อยู่ ก็แค่บทร่ายง่ายๆ ฉันยังได้ไปอีกไกลเลย เธอคนนั้นไม่เห็นจะใช้คำร่ายในการสร้างดาบขึ้นมาเลยไม่ใช่หรือ?”
เพราะการเตรียมตัวที่จะใช้เวทมนตร์ได้จะต้องอาศัยคำร่าย ผู้ใช้เวทมนตร์จะต้องท่องคาถาออกมาตอนที่ใช้มันด้วย แต่ระดับขั้นสูงที่แท้จริงสามารถใช้เพียงแค่การเคลื่อนไหวของมือก็สามารถร่ายออกมาได้เหมือนอย่างที่อสูรดาบสีขาวทำ
“ก็นะ ไม่มีประโยชน์ที่จะมองหาสิ่งที่ฉันไม่มีหรอก”
เขาได้สลัดความคิดนั้นออกมาแล้วกลับมาโฟกัสบนพวกก็อบลินดีกว่า เนื่องจากก็อบลินนั้นตอบสนองต่อแสงจากที่พวกมันอาศัยอยู่ในถ้ำมากที่สุด Kyle ได้หรี่ไฟของเวทแสงลงจนอยู่ในระดับของคบเพลิง
“ไม่มีกับดัก… สินะ”
ก็อบลินไม่ใช่มอนสเตอร์ที่วางกับดัก แต่มันมักจะคอยแอบซุ่มตัวตามปกติ
เมื่อได้เรียนรู้จากความด้อยประสบการณ์จากการผจญภัยครั้งแรกแล้ว Kyle ได้ไปถามนักผจญภัยรุ่นพี่จากกิลด์ต่างๆมากมายเพื่อที่จะถามถึงมอนสเตอร์ต่างๆและก็ยังได้ถามถึงเรื่องก็อบลินเป็นการเฉพาะด้วย
เราเกือบจะต้องหนีเอาชีวิตรอดกลับไปแล้วตอนที่เราเจอกับฝูงของก็อบลินเข้า คิดเสียว่ามันไม่มากไปกว่าเด็กหรอก พวกเขาบอกมาอย่างงั้น
พวกมันทำท่าจะก่อกวนเราเพื่อให้หันไปมองผิดทางแล้วก็ล้อมเราไว้ หนึ่งในปาร์ตี้ของเราถูกฆ่า พวกเขาบอกมาอย่างงั้น
ตอนที่ฉันคิดว่าตรงนั้นมีแค่ก็อบลินเพียงอย่างเดียว ปรากฏว่าก็มีอ็อคสุดโฉดออกมาด้วย เธอบอกว่าอย่างนั้น
ฉันติดอยู่คาตรงกลาง เพราะก็อบลินมันมุดมาหลังฉันเลย เขาพูดมาอย่างนี้
ยังมีนักผจญภัยอีกไม่กี่คนที่ไม่รู้ว่ามีบางคนที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายหรือถูกเชือดจนเละกระจุยโดยพวกก็อบลินมาแล้ว และแน่นอนว่าตัว Kyle เองก็ไม่ใช่หนึ่งในพวกนั้น
มอนสเตอร์ที่มีกำลังกายและความฉลาดเยี่ยงเด็กนั้น ใครก็ตามที่มองข้ามพวกมันไปย่อมที่จะตกเป็นเหยื่อพวกมันได้
แม้แต่คำร้องที่เขียนเอาไว้เพียงแค่ก็อบลินเพียงอย่างเดียวเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังดูเหมือนว่าจะมีอยู่จำนวนน้อยเลย การเอาคำร้องเบาๆอาจจะดูถูกเพื่อนที่อยู่ในหลุมฝังศพได้ Kyle หาทางเข้าไปในถ้ำเพื่อที่จะหารายละเอียดที่น่าเหลือเชื่อ โดยเช็คดูกำแพงตลอดทางเพื่อดูว่ามีโพรงลับหรือไม่ และก็กวาดดูพื้นเพื่อคอยจับตามองกับดักด้วย
“Gyagya”
“Gobu”
“Che!”
เสียงของก็อบลินที่คุยกันเกือบจะทำให้เขาร้องไห้ออกมาแล้ว แต่เขาก็จัดการยับยั้งเสียงเขาโดยการเอามือปิดปาก
ขณะที่เขาหรี่แสงให้ต่ำสุดจากคบเพลิงแล้วก็พังภาษาที่มนุษย์ฟังไม่ออก เขาก็ได้จดเอาไว้ว่าตรงนั้นมีสองตัวที่คุยกัน
พวกนั้นต้องมีอาวุธทั้งคู่แน่
“…ฟูวว์… ฮ่าา…”
มองเห็นอดีตที่สิ้นหวังก่อนหน้าตอนที่เขากระพริบตา สีหน้าหวาดกลัวและลมหายใจก็เริ่มผิดปกติ
การพยายามที่จะหยุดขบฟันกันและมือที่สั่นนั้น เขาได้เตรียมตัวให้พร้อมที่หลังมอนสเตอร์สองตัว
(ฉันจะใช้ไฟบอลแล้วก็… เดี๋ยวนะ ยังไม่ต้อง)
เกี่ยวกับการโจมตีกะทันหันจากข้างหลังโดยใช้เวทมนตร์ เขาได้หยุดตัวเองเอาไว้ มันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะใช้เวทมนตร์แบบนั้น
ต่อให้นี่เป็นเพียงแค่รังก็อบลิน มันก็ไม่มีอะไรที่บอกได้ว่าอาจจะมีอะไรโผล่มาตรงนี้หรือเปล่า สิ่งที่ดีที่สุดก็คือต้องระวังตัวและรักษาพลังเอาไว้
มีบางอย่างที่เขาได้เรียนรู้มาอย่างหนัก แต่ก็ไม่หยุดที่จะอาศัยอยู่ตรงนั้น Kyle ได้หยิบเอาก้อนหินเล็กๆขึ้นมา
แล้วก็โยนไปเบาๆ ปรากฏว่าโดนกำแพงจนทำให้เกิดเสียงดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำเลย
“Gobbut?”
“Ge?”
ก็อบลินได้เดินเข้าไปยังต้นเสียง… ที่ๆ Kyle ซุ่มตัวหลบอยู่
เขารออย่างอดทนขณะที่ฟังเสียงก้าวเดินของก็อบลินอย่างช้าๆ โดยประมาณว่าพวกมันอยู่ห่างตัวเขาไปกี่ก้าว
Kyle นั่งคุกเข่าลงกับพื้นแล้วรอให้ก็อบลินไปอยู่ที่มุม และในขณะที่มอนสเตอร์รูปร่างเด็กที่มีน่าตาน่ารังเกียจแสดงใบหน้าออกมา เขาก็เพิ่มความสว่างของเวทแสงแล้วก็พุ่งเข้าฟันด้วยดาบเลย
“G-gah!?”
“Gobuku!?”
ดาบสั้นตัดผ่านเข้าไปกลางคอของก็อบลินตัวแรก
“Gagu- gyu… go!!”
แรงสะท้อนกลับจากดาบที่ฟันกระแทกใส่กระดูกใหญ่ส่งผ่านมาถึงตัวดาบ
เขาตั้งใจที่จะพุ่งเข้าไปเชือดจากการโจมตีครั้งแรกและฟันหัวใส่ก็อบลินตัวที่สอง แต่ดาบของเขานั้นเชือดผ่านคอผิดและไปกระทบกับกรามล่างแทน
บางทีอาจะเป็นความโชคดีที่ดาบนั้นถูกหยุดโดยกรามล่างนั้น ถ้าดาบนั้นฟันผ่านปากล่ะก็ เขาอาจจะได้รับบาดแผลสาหัสและติดเชื้อขั้นรุนแรงได้
“แน่นอน ฉันทำแบบนั้นเหมือนกับที่เธอทำไม่ได้หรอกใช่มั้ย?”
การที่จะเลียนแบบเพลงดาบของอสูรดาบสีขาวนั้น เขาได้พยายามเล็งไปยังจุดที่สำคัญโดยตรงด้วยการฟันฉับเดียว แต่เขาผิดหวังจากความพยายามนั้น
มันยากมากๆที่จะโจมตียังสุดสำคัญของศัตรูให้สำเร็จอย่างรวดเร็วได้ ไม่ว่าจะทำได้ในตอนฝึกซ้อมอย่างไร จริงๆแล้ว การใช้ทักษะเช่นนี้ในการต่อสู้จะต้องมีประสบการณ์เป็นอย่างมาก
“สำหรับเวทมนตร์ ฉันเกือบจะไม่ใช้มันแล้วถ้ามันช่วยได้ …ตอนนี้ก็มาฝึกกับดาบก่อน ถ้าฉันฝึกได้นานพอ บางทีสักวันฉันก็จะลากพวกมันมาได้ด้วย”
Kyle มีกำลังใจสูง แต่จริงๆแล้วเขายังหน่อมแน้มอยู่
ขณะที่เขาผ่านถ้ำไป เขาก็เจอกับกลอุบายเดิมซ้ำๆของพวกก็อบลินที่เขาเจอ
อย่างไรก็ตาม หากสักแต่ฟันศัตรูให้เร็วขึ้น ย่อมที่จะเสียคมดาบไป โดยเฉพาะถ้าไปฟันเข้าใส่กระดูก
ถ้ามองให้ดีๆ จะเห็นว่าดาบนั้นเริ่มบิ่นแล้ว คราบเลือดที่ย้อมติดดาบจะเริ่มทำให้จับได้ยากขึ้น
“Gobbu!?”
“อ๊ะ!? แย่แล้ว!”
และพอเขาได้รู้ตัว มันก็สายไปแล้วขณะที่เขาพยายามที่จะสังหารก็อบลินตัวที่ 10 นั้น เขาก็ทำพลาดเพราะความเมื่อยล้าของแขน และเมื่อดาบไปพลาดตีถูกกระดูกไหล่ของก็อบลินที่เปื้อนเลือดเข้า อาวุธจึงลื่นหลุดออกจากมือ
เมื่อดาบตกพื้นเสียงดังออกมา พวกก็อบลินที่ถูกฟันเข้าที่ไหล่จนลึกก็กลับมาโกรธสุดขีดพร้อมกับถือกระบอง
“อ๊ะ หวาาาาา!?”
Kyle เผลอยกแขนออกมาด้วยความตกใจ ถึงแม้มันจะห่างจากคมดาบก็ตาม ก็อบลินก็สูงพอที่สร้างผลกระทบได้
สองแขนยกไขว้กันเป็นรูปกากบาท กระบอกจึงถูกรั้งด้วยปอกแขนไม้ของ Kyle แล้วหมัดแรกก็ต่อยเข้าหน้าก็อบลินเข้าไปเต็มๆ
จากจุดนี้ มันก็แค่นิดหน่อย ต้องมารั้งตัวก็อบลินโดยน้ำหนักที่กดลงที่เท้า Kyle ได้ทุบมันอีกครั้งและก็อีกครั้งด้วยหมัด
Kyle ถูกอะดรีนาลีนหลั่งออกมาและไม่รู้สึกถึงกระดูกที่ร้าวออกมาและผิวหนังที่ถลอกใต้สนับมือ เขายังคงชกต่อไปสักพักหลังจากที่ก็อบลินตัวนั้นตายก่อนที่เขาจะสงบตัวลง
“แฮ่ก… แฮ่ก… ฟิ้ววว จะทางเดียวหรือทางอื่นมันก็ได้ผลแฮะ…”
เขาหยิบเอาดาบที่หลุดจากมือเขาแล้วก็ตรวจสอบด้วยเวทแสง เขาพบว่าเกิดรอยแตกร้าวในอาวุธซึ่งเป็นผลจากการทำให้กระแทกพื้นด้วยมุมที่ไม่ดี
มันเป็นดาบเหล็กราคาถูกที่เขาได้รับมาจากที่ถังเก็บของราคาถูกที่โรงหล่อ ถ้าจะมีอะไรสักอย่างก็คือการที่เขาได้จัดการกับพวกก็อบลินสิบตัวก่อนที่มันจะเกือบแตกร้าวอย่างน่าประทับใจ แต่เขายังมาไม่ถึงส่วนที่ลึกที่สุดในถ้ำ
“อาวุธใหม่น่าจะสบายกว่า ละมั้ง”
เขาคิดจะใช้ดาบและหอกกับพวกก็อบลิน แต่อาวุธพวกนั้นเต็มไปด้วยสนิมเขรอะและมีคุณภาพแย่มาก
เขาถึงกับรู้สึกเสียใจออกมาแล้วสายตาเขามาหยุดตรงที่กระบองที่หล่นตกพื้นโดยก็อบลินตัวที่เขาเพิ่งฆ่าไป
เขาเก็บมันมาไว้กับตัว แล้วก็ฝึกเหวี่ยงไปมาอีกไม่กี่ครั้ง เมื่อมีการฟาดที่หนักหน่วงเพียงครั้งเดียวเข้ามา อาวุธลับคมที่น่าจะเอาชนะได้โดยตลอดก็อาจจะกลายเป็นแค่ไม้ไปเลย
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกปลอดภัยจะมากับความไม่กังวัลไม่ว่าอาวุธจะแตกหักจากการปะทะหรือไม่อาจจะได้โอ้อวดต่อไป
“แต่ตามตรงเลย นี่มันไม่ใช่การผจญภัยอย่างที่ฉันนึกภาพเอาไว้เลยจริงๆ”
ดาบเป็นอาวุธของผู้กล้าในนิทาน ส่วนกระบองเป็นอาวุธของพวกลูกน้องตัวร้ายที่มีชะตากรรมจะต้องถูกฟันขาด แน่นอนว่าเขาอยากจะเป็นอย่างแรกมากกว่า
แต่ถึงมันจะไม่ใช่ในอุดมคติ เขาก็ไม่โง่พอที่จะสร้างเลือกตัวเลือกไม่ดีออกมา
เขาตบเอาวุธชิ้นใหม่เบาๆ แล้ว Kyle ก็เดินในถ้ำต่อไป
เมื่อมอนสเตอร์อาละวาดกับมอนสเตอร์ด้วยกัน และบางครั้งมันก็ฉลาดจนน่ากลัว สัญชาตญาณจะบอกคุณว่ามนุษย์อาจจะกลายเป็นยิ่งกว่าเหยื่อของสัตว์ร้าย
ไม่ใช่อัศวินกับนักผจญภัยที่จะอยู่ในห่วงโซ่อาหารตามปกติ แต่เป็นผู้หญิงกับเด็กที่ไม่อาจปกป้องตัวเองได้ต่างหาก
สิ่งที่มีอย่างคุณธรรมและจรรยาบรรณก็ไม่เกี่ยว นอกจากเสียงร้องและน้ำตาที่ไหลพรากจนย้อมผิวนุ่มๆ… จึงเป็นที่ชัดเจนว่าทำไมมอนสเตอร์ถึงชื่นชอบเหยื่อที่สามารถจัดการง่ายกว่า
นั่นทำไมมอนสเตอร์ตัวเล็กๆนั้นจะคอยมองหาแต่เด็ก และรอสบโอกาสที่จะแยกจากผู้ใหญ่เพื่อจู่โจม
เสียงร้องไห้ที่ดังก้อง และก็ตามด้วยเสียงฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ เด็กเล็กที่ไม่ยอมรีบกลับเข้าบ้านจะกลายเป็นอาหารและถูกกินโดยก็อบลิน
ถือว่าเป็นเรื่องปกติในโลกนั้น
พวกอ่อนแอย่อมตกเป็นอาหารของพวกที่แข็งแรงกว่า ไม่ว่าจะมีกฎหมายและมีอำนาจควบคุมมากแค่ไหนก็ตาม นี่คือความจริงที่ไม่อาจเลี่ยงได้
ในโลกนี้ อะไรก็มีความเสี่ยงที่จะถูกมอนสเตอร์ฆ่าได้ทั้งนั้น แน่นอนว่ากับมอนสเตอร์ด้วย
“ฟิ้ว~ …เอาล่ะ”
หุบเขาเล็กที่อยู่นอกเมืองชายแดน มีการรับคำร้องขอให้ไปล่าก็อบลินที่ขโมยไก่มาจากหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆ Kyle เอามือจับแขนที่สั่นและพยายามทำให้เขาหยุดตัวสั่นสะท้านให้ได้
ถึงแม้ว่าก็อบลินนั้นจะถูกมองว่าเป็นแค่มอนสเตอร์แมลงวันตัวเล็กๆ พวกมันก็ยังกระจายพันธุ์ได้ทันทีหากปล่อยให้เหลือเพียงตัวเดียว ต่อให้อสูรดาบสีขาวจะกวาดล้างทุกรังที่อยู่ใกล้เมือง พวกก็อบลินก็ยังกลับมารวมตัวกันใหม่ได้ พวกมันมาจากความหวาดกลัวหรือว่าควีนยังรอดอยู่หรือ?
“รังก็อบลินหรือ”
มองผ่านกล้องส่องแล้ว เขาก็เห็นก็อบลินสองตัวที่กำลังเดินเข้าถ้ำใหญ่ที่กำลังเปิดอยู่
มอนสเตอร์ที่ทุกคนว่ากันว่าอ่อนแอที่สุด แต่สำหรับเขาแล้วพวกเขาต่างก็มีความทรงจำอันเลวร้ายฝังลึกกับพวกมันอยู่
เขาเห็นมันได้ตอนที่เขาหลับตาอยู่ เขาเห็นเพื่อนพวกนั้นที่เขาได้มาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางในการผจญภัยครั้งแรกถูกทำร้ายจนทรมานจากก็อบลินและมังกรนั้นก็ได้เผาผลาญไปทั่วจนทำลายความหวังพวกเขาทั้งหมด
หลังจากที่ได้รับประสบการณ์อันโหดร้ายมาแล้ว Kyle จึงได้คิดว่าเลิกเป็นนักผจญภัยจริงๆน่าจะดีกว่า
อายุแค่ 15 ปี แต่กลับต้องมาเผชิญกับเรื่องโหดร้ายตั้งแต่เริ่มจนทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจในตัวเองและทักษะของเขา
(…แต่กระนั้น!)
ถึงแม้จะยังมีความกลัวหลงเหลืออยู่ มันก็ไม่ได้อยู่ไปตลอด
และเขาได้หันกลับไปมองยังนักดาบผมขาวที่ปรากฏตัวในเวลาที่เขาต้องการ
ต่อให้บอกว่าเป็นเหตุผลที่บ้าบอ Kyle ก็ยังเป็นผู้ชายอยู่ นอกจากเขาจะคอยช่วยสนับสนุนสถานสงเคราะห์ที่ได้ดูแลเขาแล้ว เขาก็ยังเข้าร่วมกิลด์เพื่อหาอิสระที่แท้จริงและเพิ่มระดับชื่อเสียงอีกด้วย
ถ้าเป็นเหตุผลหลักในก่อนหน้าล่ะก็ คนเค้าก็คงจะเรียกเขาว่าเป็นผู้ที่เฉลียวฉลาดและสุขุมเกินวัยแล้ว แต่ในระยะหลังนั้น เป็นธรรมดาที่จะถูกมองว่าเป็นไอ้โง่
หลังจากที่เขาได้ชั่งตัวเลือกแล้ว Kyle จึงเลือกที่จะใช้ชีวิตเป็นนักผจญภัยต่อไปและพยายามไล่ตามผู้หญิงที่เขาเทิดทูนต่อให้เขาไม่ได้กล้าหาญเหมือนเธอ ต่อให้เป็นศึกที่ดูกระท่อนกระแท่นจนเปรียบเทียบกับเพลงดาบนั้นได้ก็ตาม นี่คือเส้นทางการของเริ่มต้นเท่านั้น
Kyle ยืนยันสิ่งของรอบตัวก่อนที่เขาจะเริ่ม
“ดาบพร้อม!”
ดาบสั้นที่เขาได้ลับให้คมพิเศษเฉพาะสำหรับวันนี้
“โล่โอเค!”
โล่ประยุกต์ทื่อๆที่พอจะเหมาะกับเขาค่อนข้างดี
“ชุดเกราะ ดี!”
หมวกเกราะราคาถูกๆที่คลุมหัวและเกราะหนังสัตว์ เพราะเขาไม่มีทุน เขาจึงสวมถุงมือหนังและรองเท้าที่ทำจากหนังโดยผูกเอาไว้แน่น ดังนั้นจึงไม่มีทางหลุดในระหว่างต่อสู้
“ขวดยาทั้งหมด พร้อม!”
ยาบรรเทาความเจ็บปวด ยารักษาพิษและขวดฟื้นฟูพลังเวทขนาดเล็กถูกซื้อมาด้วยเงินก้อนสุดท้าย
“ถึงแม้ว่าฉันจะคิดว่าจะได้ใช้มันก็ตาม การเตรียมเอาไว้ก็สิ่งที่ดี!”
ขวดน้ำสามขวด ขดเชือกและมีดฉุกเฉิน
“เอาล่ะ ไปได้!”
เขาเอามือตบแก้มเพื่อเรียกจิตวิญญาณเข้ามา
เมื่อมอง Kyle กำลังผ่านพิธีกรรมแบบนี้แล้ว นักผจญภัยที่ไม่รู้อดีตของเขาก็คงจะหัวเราะออกมาเป็นแน่
แต่ Kyle ก็ไม่ได้สนใจเรื่องแบบนั้นสักเท่าไร สำหรับเขาแล้วไม่ใช่แค่สังหารก็อบลินง่ายๆ มันหมายถึงเขาจะต้องจัดการกับมอนสเตอร์ด้วยตัวของเขาเองด้วย
เขาไม่ได้กะจะไปตาย แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในถ้ำนี้ เขาก็ไม่มีแผนที่จะทิ้งความเสียใจใดๆ ไม่มีอีกแล้ว
“《 ส่องแสง ・ โคม 》”
ขณะที่ Kyle ร่ายออกมานั้น ก็มีทรงกลมขนาดเล็กส่องแสงออกมาในมือเขาแล้วก็ส่องสว่างไปทั่วทั้งถ้ำ
“มันน่าจะช่วยประหยัดพลังเวทถ้าเอาคบเพลิงมาด้วย แต่ฉันจะต้องทำให้มือว่างเข้าไว้…”
ขณะที่พลังเวทนั้นจะสร้างขึ้นมาจากกายภาพภายนอก บางคนที่พยายามที่จะเรียนรู้มันจะต้องมาพร้อมกับเงื่อนไขด้วยพลังที่จะบิดเบือนกฎของโลกบนพลังจิต
เมื่อตัวตนที่เก่าที่สุดได้จินตนาการถึงของที่มาจากสิ่งที่ยังไม่มี นั่นก็คือตอนที่โลกได้ถูกสร้างเป็นครั้งแรก
นั่นคือสิ่งที่ผู้คนยอมรับโลกกายภาพด้วยเวทมนตร์ เป็นเวลามาหลายศตวรรษ โดยมีแนวทางพัฒนาเพื่อฝึกคนให้มีความรู้และใช้พลังในการสร้างปรากฏการณ์ และสามารถที่จะเป็นอาวุธได้
“ยัง 《Flash》อยู่ ก็แค่บทร่ายง่ายๆ ฉันยังได้ไปอีกไกลเลย เธอคนนั้นไม่เห็นจะใช้คำร่ายในการสร้างดาบขึ้นมาเลยไม่ใช่หรือ?”
เพราะการเตรียมตัวที่จะใช้เวทมนตร์ได้จะต้องอาศัยคำร่าย ผู้ใช้เวทมนตร์จะต้องท่องคาถาออกมาตอนที่ใช้มันด้วย แต่ระดับขั้นสูงที่แท้จริงสามารถใช้เพียงแค่การเคลื่อนไหวของมือก็สามารถร่ายออกมาได้เหมือนอย่างที่อสูรดาบสีขาวทำ
“ก็นะ ไม่มีประโยชน์ที่จะมองหาสิ่งที่ฉันไม่มีหรอก”
เขาได้สลัดความคิดนั้นออกมาแล้วกลับมาโฟกัสบนพวกก็อบลินดีกว่า เนื่องจากก็อบลินนั้นตอบสนองต่อแสงจากที่พวกมันอาศัยอยู่ในถ้ำมากที่สุด Kyle ได้หรี่ไฟของเวทแสงลงจนอยู่ในระดับของคบเพลิง
“ไม่มีกับดัก… สินะ”
ก็อบลินไม่ใช่มอนสเตอร์ที่วางกับดัก แต่มันมักจะคอยแอบซุ่มตัวตามปกติ
เมื่อได้เรียนรู้จากความด้อยประสบการณ์จากการผจญภัยครั้งแรกแล้ว Kyle ได้ไปถามนักผจญภัยรุ่นพี่จากกิลด์ต่างๆมากมายเพื่อที่จะถามถึงมอนสเตอร์ต่างๆและก็ยังได้ถามถึงเรื่องก็อบลินเป็นการเฉพาะด้วย
เราเกือบจะต้องหนีเอาชีวิตรอดกลับไปแล้วตอนที่เราเจอกับฝูงของก็อบลินเข้า คิดเสียว่ามันไม่มากไปกว่าเด็กหรอก พวกเขาบอกมาอย่างงั้น
พวกมันทำท่าจะก่อกวนเราเพื่อให้หันไปมองผิดทางแล้วก็ล้อมเราไว้ หนึ่งในปาร์ตี้ของเราถูกฆ่า พวกเขาบอกมาอย่างงั้น
ตอนที่ฉันคิดว่าตรงนั้นมีแค่ก็อบลินเพียงอย่างเดียว ปรากฏว่าก็มีอ็อคสุดโฉดออกมาด้วย เธอบอกว่าอย่างนั้น
ฉันติดอยู่คาตรงกลาง เพราะก็อบลินมันมุดมาหลังฉันเลย เขาพูดมาอย่างนี้
ยังมีนักผจญภัยอีกไม่กี่คนที่ไม่รู้ว่ามีบางคนที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายหรือถูกเชือดจนเละกระจุยโดยพวกก็อบลินมาแล้ว และแน่นอนว่าตัว Kyle เองก็ไม่ใช่หนึ่งในพวกนั้น
มอนสเตอร์ที่มีกำลังกายและความฉลาดเยี่ยงเด็กนั้น ใครก็ตามที่มองข้ามพวกมันไปย่อมที่จะตกเป็นเหยื่อพวกมันได้
แม้แต่คำร้องที่เขียนเอาไว้เพียงแค่ก็อบลินเพียงอย่างเดียวเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังดูเหมือนว่าจะมีอยู่จำนวนน้อยเลย การเอาคำร้องเบาๆอาจจะดูถูกเพื่อนที่อยู่ในหลุมฝังศพได้ Kyle หาทางเข้าไปในถ้ำเพื่อที่จะหารายละเอียดที่น่าเหลือเชื่อ โดยเช็คดูกำแพงตลอดทางเพื่อดูว่ามีโพรงลับหรือไม่ และก็กวาดดูพื้นเพื่อคอยจับตามองกับดักด้วย
“Gyagya”
“Gobu”
“Che!”
เสียงของก็อบลินที่คุยกันเกือบจะทำให้เขาร้องไห้ออกมาแล้ว แต่เขาก็จัดการยับยั้งเสียงเขาโดยการเอามือปิดปาก
ขณะที่เขาหรี่แสงให้ต่ำสุดจากคบเพลิงแล้วก็พังภาษาที่มนุษย์ฟังไม่ออก เขาก็ได้จดเอาไว้ว่าตรงนั้นมีสองตัวที่คุยกัน
พวกนั้นต้องมีอาวุธทั้งคู่แน่
“…ฟูวว์… ฮ่าา…”
มองเห็นอดีตที่สิ้นหวังก่อนหน้าตอนที่เขากระพริบตา สีหน้าหวาดกลัวและลมหายใจก็เริ่มผิดปกติ
การพยายามที่จะหยุดขบฟันกันและมือที่สั่นนั้น เขาได้เตรียมตัวให้พร้อมที่หลังมอนสเตอร์สองตัว
(ฉันจะใช้ไฟบอลแล้วก็… เดี๋ยวนะ ยังไม่ต้อง)
เกี่ยวกับการโจมตีกะทันหันจากข้างหลังโดยใช้เวทมนตร์ เขาได้หยุดตัวเองเอาไว้ มันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะใช้เวทมนตร์แบบนั้น
ต่อให้นี่เป็นเพียงแค่รังก็อบลิน มันก็ไม่มีอะไรที่บอกได้ว่าอาจจะมีอะไรโผล่มาตรงนี้หรือเปล่า สิ่งที่ดีที่สุดก็คือต้องระวังตัวและรักษาพลังเอาไว้
มีบางอย่างที่เขาได้เรียนรู้มาอย่างหนัก แต่ก็ไม่หยุดที่จะอาศัยอยู่ตรงนั้น Kyle ได้หยิบเอาก้อนหินเล็กๆขึ้นมา
แล้วก็โยนไปเบาๆ ปรากฏว่าโดนกำแพงจนทำให้เกิดเสียงดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำเลย
“Gobbut?”
“Ge?”
ก็อบลินได้เดินเข้าไปยังต้นเสียง… ที่ๆ Kyle ซุ่มตัวหลบอยู่
เขารออย่างอดทนขณะที่ฟังเสียงก้าวเดินของก็อบลินอย่างช้าๆ โดยประมาณว่าพวกมันอยู่ห่างตัวเขาไปกี่ก้าว
Kyle นั่งคุกเข่าลงกับพื้นแล้วรอให้ก็อบลินไปอยู่ที่มุม และในขณะที่มอนสเตอร์รูปร่างเด็กที่มีน่าตาน่ารังเกียจแสดงใบหน้าออกมา เขาก็เพิ่มความสว่างของเวทแสงแล้วก็พุ่งเข้าฟันด้วยดาบเลย
“G-gah!?”
“Gobuku!?”
ดาบสั้นตัดผ่านเข้าไปกลางคอของก็อบลินตัวแรก
“Gagu- gyu… go!!”
แรงสะท้อนกลับจากดาบที่ฟันกระแทกใส่กระดูกใหญ่ส่งผ่านมาถึงตัวดาบ
เขาตั้งใจที่จะพุ่งเข้าไปเชือดจากการโจมตีครั้งแรกและฟันหัวใส่ก็อบลินตัวที่สอง แต่ดาบของเขานั้นเชือดผ่านคอผิดและไปกระทบกับกรามล่างแทน
บางทีอาจะเป็นความโชคดีที่ดาบนั้นถูกหยุดโดยกรามล่างนั้น ถ้าดาบนั้นฟันผ่านปากล่ะก็ เขาอาจจะได้รับบาดแผลสาหัสและติดเชื้อขั้นรุนแรงได้
“แน่นอน ฉันทำแบบนั้นเหมือนกับที่เธอทำไม่ได้หรอกใช่มั้ย?”
การที่จะเลียนแบบเพลงดาบของอสูรดาบสีขาวนั้น เขาได้พยายามเล็งไปยังจุดที่สำคัญโดยตรงด้วยการฟันฉับเดียว แต่เขาผิดหวังจากความพยายามนั้น
มันยากมากๆที่จะโจมตียังสุดสำคัญของศัตรูให้สำเร็จอย่างรวดเร็วได้ ไม่ว่าจะทำได้ในตอนฝึกซ้อมอย่างไร จริงๆแล้ว การใช้ทักษะเช่นนี้ในการต่อสู้จะต้องมีประสบการณ์เป็นอย่างมาก
“สำหรับเวทมนตร์ ฉันเกือบจะไม่ใช้มันแล้วถ้ามันช่วยได้ …ตอนนี้ก็มาฝึกกับดาบก่อน ถ้าฉันฝึกได้นานพอ บางทีสักวันฉันก็จะลากพวกมันมาได้ด้วย”
Kyle มีกำลังใจสูง แต่จริงๆแล้วเขายังหน่อมแน้มอยู่
ขณะที่เขาผ่านถ้ำไป เขาก็เจอกับกลอุบายเดิมซ้ำๆของพวกก็อบลินที่เขาเจอ
อย่างไรก็ตาม หากสักแต่ฟันศัตรูให้เร็วขึ้น ย่อมที่จะเสียคมดาบไป โดยเฉพาะถ้าไปฟันเข้าใส่กระดูก
ถ้ามองให้ดีๆ จะเห็นว่าดาบนั้นเริ่มบิ่นแล้ว คราบเลือดที่ย้อมติดดาบจะเริ่มทำให้จับได้ยากขึ้น
“Gobbu!?”
“อ๊ะ!? แย่แล้ว!”
และพอเขาได้รู้ตัว มันก็สายไปแล้วขณะที่เขาพยายามที่จะสังหารก็อบลินตัวที่ 10 นั้น เขาก็ทำพลาดเพราะความเมื่อยล้าของแขน และเมื่อดาบไปพลาดตีถูกกระดูกไหล่ของก็อบลินที่เปื้อนเลือดเข้า อาวุธจึงลื่นหลุดออกจากมือ
เมื่อดาบตกพื้นเสียงดังออกมา พวกก็อบลินที่ถูกฟันเข้าที่ไหล่จนลึกก็กลับมาโกรธสุดขีดพร้อมกับถือกระบอง
“อ๊ะ หวาาาาา!?”
Kyle เผลอยกแขนออกมาด้วยความตกใจ ถึงแม้มันจะห่างจากคมดาบก็ตาม ก็อบลินก็สูงพอที่สร้างผลกระทบได้
สองแขนยกไขว้กันเป็นรูปกากบาท กระบอกจึงถูกรั้งด้วยปอกแขนไม้ของ Kyle แล้วหมัดแรกก็ต่อยเข้าหน้าก็อบลินเข้าไปเต็มๆ
จากจุดนี้ มันก็แค่นิดหน่อย ต้องมารั้งตัวก็อบลินโดยน้ำหนักที่กดลงที่เท้า Kyle ได้ทุบมันอีกครั้งและก็อีกครั้งด้วยหมัด
Kyle ถูกอะดรีนาลีนหลั่งออกมาและไม่รู้สึกถึงกระดูกที่ร้าวออกมาและผิวหนังที่ถลอกใต้สนับมือ เขายังคงชกต่อไปสักพักหลังจากที่ก็อบลินตัวนั้นตายก่อนที่เขาจะสงบตัวลง
“แฮ่ก… แฮ่ก… ฟิ้ววว จะทางเดียวหรือทางอื่นมันก็ได้ผลแฮะ…”
เขาหยิบเอาดาบที่หลุดจากมือเขาแล้วก็ตรวจสอบด้วยเวทแสง เขาพบว่าเกิดรอยแตกร้าวในอาวุธซึ่งเป็นผลจากการทำให้กระแทกพื้นด้วยมุมที่ไม่ดี
มันเป็นดาบเหล็กราคาถูกที่เขาได้รับมาจากที่ถังเก็บของราคาถูกที่โรงหล่อ ถ้าจะมีอะไรสักอย่างก็คือการที่เขาได้จัดการกับพวกก็อบลินสิบตัวก่อนที่มันจะเกือบแตกร้าวอย่างน่าประทับใจ แต่เขายังมาไม่ถึงส่วนที่ลึกที่สุดในถ้ำ
“อาวุธใหม่น่าจะสบายกว่า ละมั้ง”
เขาคิดจะใช้ดาบและหอกกับพวกก็อบลิน แต่อาวุธพวกนั้นเต็มไปด้วยสนิมเขรอะและมีคุณภาพแย่มาก
เขาถึงกับรู้สึกเสียใจออกมาแล้วสายตาเขามาหยุดตรงที่กระบองที่หล่นตกพื้นโดยก็อบลินตัวที่เขาเพิ่งฆ่าไป
เขาเก็บมันมาไว้กับตัว แล้วก็ฝึกเหวี่ยงไปมาอีกไม่กี่ครั้ง เมื่อมีการฟาดที่หนักหน่วงเพียงครั้งเดียวเข้ามา อาวุธลับคมที่น่าจะเอาชนะได้โดยตลอดก็อาจจะกลายเป็นแค่ไม้ไปเลย
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกปลอดภัยจะมากับความไม่กังวัลไม่ว่าอาวุธจะแตกหักจากการปะทะหรือไม่อาจจะได้โอ้อวดต่อไป
“แต่ตามตรงเลย นี่มันไม่ใช่การผจญภัยอย่างที่ฉันนึกภาพเอาไว้เลยจริงๆ”
ดาบเป็นอาวุธของผู้กล้าในนิทาน ส่วนกระบองเป็นอาวุธของพวกลูกน้องตัวร้ายที่มีชะตากรรมจะต้องถูกฟันขาด แน่นอนว่าเขาอยากจะเป็นอย่างแรกมากกว่า
แต่ถึงมันจะไม่ใช่ในอุดมคติ เขาก็ไม่โง่พอที่จะสร้างเลือกตัวเลือกไม่ดีออกมา
เขาตบเอาวุธชิ้นใหม่เบาๆ แล้ว Kyle ก็เดินในถ้ำต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น