ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อดีตขุนนางสาวโสดกับชีวิตโลดโผนผจญภัยเพื่อลูกสาวสุดน่ารัก

    ลำดับตอนที่ #2 : อสูรดาบสีขาว

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 65


    ในโลกนี้ มอนสเตอร์ที่อยู่เหนือกว่ามนุษย์จะอาละวาดพุ่งเข้าใส่ทันที

    จากทหารโครงกระดูกติดเปลวไฟยันมอนสเตอร์นกยักษ์ที่บินอยู่เหนือน่านฟ้าเพื่อกระทำการชั่วร้ายตามอำเภอใจของเหล่ากองทัพราชาปีศาจ

    การต่อกรกับศัตรูเช่นนี้ เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ไร้ซึ่งความสามารถเฉพาะตัวที่จะต้องฝึกฝนอย่างไม่ลดละ ทั้งจับอาวุธ หาปาร์ตี้ในการขับไล่กลับไป

    และตามเมืองแนวชายแดนเอง ได้มีจิตวิญญาณของผู้บุกเบิกมากมายได้มารวมตัวกันมาก่อตั้งจนกลายเป็นชุมชนที่มีเหล่านักผจญภัยผู้ทะเยอทะยานที่หวังจะสร้างชื่อเสียงขึ้นมา พอๆกับเหล่าช่างฝีมือที่ต้องการกำไรจากการขายทั้งอาวุธและชุดเกราะ

    “ขอโทษครับ ผมจะมาสมัครเป็นนักผจญภัยได้มั้ยครับ?”

    หนุ่มบ้านนอกของอัศวินเวทมนตร์เปิดประตูเข้ามาในกิลด์นักผจญภัยที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองและรอบพื้นที่

    หนุ่มผมน้ำตาลที่ชื่อว่า Kyle ถูกสั่งให้มาช่วยสนับสนุนสถานสงเคราะห์ที่คอยดูแลตอนที่เขายังเด็ก เขาต้องการที่จะเรียนรู้ทั้งเวทมนตร์และดาบ สิ่งที่จำเป็นในการลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยได้จะต้องบรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้น… และในวันนี้ก็เป็นวันเกิดครบรอบ 15 ปีของ Kyle ด้วย เขาจึงผ่านเกณฑ์มาได้

    “ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ! โปรดเขียนชื่อของคุณลงในใบสมัครด้วยได้มั้ยคะ?”

    “ค-ครับ!”

    แล้วก็รับเอกสารจากโต๊ะพนักงานต้อนรับที่มีผมบลอนด์ที่ผูกหางม้าไว้ข้างหลังมาอย่างเชี่ยวชาญ เขากรอกข้อมูลลงไปหลายๆอย่าง เช่น ชื่อ อายุ อาชีพ ประวัติความเจ็บป่วยและบาดเจ็บ แล้วก็เรียบร้อย

    “เสร็จแล้วค่ะ ฉันจะส่งอันนี้กลับให้นะคะ”

    “ป้ายกิลด์ทองแดง…งั้นหรือ?”

    สำหรับตัวกลางของข้อมูล เขาจะต้องถือป้ายสีทองแดงที่มีตัวอักษร “E” สลักเอาไว้ ชื่อของกิลด์สาขาที่พวกเขาเข้าไปและก็รหัสเลขสิบหลัก

    “นี่เป็นการระบุว่าตัวตนของคุณเป็นนักผจญภัยแรงค์ E นะคะ แรงค์ E คือระดับที่ต่ำที่สุดของนักผจญภัย มีไว้สำหรับผู้ฝึกหัดและต่อสู้ครั้งแรก

    ถึงแม้ว่าแต่ละกิลด์จะมีรูปแบบลักษณะที่แตกต่างกันตามลูกค้าที่มีและรหัส หนึ่งในไม่กี่อย่างที่มีเหมือนกันหมดก็คือระบบแรงกิ้ง

    ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 6 ระดับตามแรงค์คือ S, A, B, C, D และ E ซึ่งง่ายต่อการระบุความสามารถของตัวกับสกิลของนักผจญภัยได้เพียงแค่มองผิวเผิน

    “ถึงแม้ว่าจะต้องบอกคุณอีกครั้งถ้าคุณเคยบรรลุมาถึงแรงค์นั้นแล้วก็ตาม มันเป็นสิ่งสำคัญในการบันทึกนักผจญภัยแรงค์ S ที่ถือเหรียญสีทองและนักผจญภัยแรงค์ A ที่ถือสีเงินที่ต้องบังคับให้รับคำร้องฉุกเฉินโดยตลอด โดยความรู้สึกแล้ว นักผจญภัยระดับสูงที่สุดที่มีความอิสระอย่างแท้จริงนั้นอยู่ที่แรงค์ B ซึ่งถือเหรียญทองแดงนั่นแหละค่ะ”

    “น่าสนใจดี… ผมเองก็นึกว่านักผจญภัยนั้นจะต้องรับคำร้องอย่างสมัครใจอย่างเดียว แต่ผมว่ามันก็ไม่ถูกเสมอไปสินะ?”

    “ค่ะ เนื่องจากมอนสเตอร์นั้นได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลก พวกมันจะสร้างความเสียหายและเสียหายยิ่งกว่านี้ถ้าพวกเขาไม่สามารถถูกกำจัดได้โดยนักผจญภัยแรงสูงในช่วงคำร้องฉุกเฉินนะคะ”

    แล้วพนักงานต้อนรับก็หันไปมองด้านอื่นแล้วก็พึมพำบางอย่างออกมาเบาๆ

    “แล้วก็… ไม่นานนี้ก็ยังมีนักผจญภัยที่ทำเรื่องยุ่งยากโดยพยายามลองเกมระบบด้วย…”

    “หืม? พูดอะไรออกมาหรือครับ?

    “เปล่า ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นเลยค่ะ?”

    พนักงานต้อนรับหันกลับมายิ้มราวกับว่ามันไม่เคยหายไป เธอยังพูดต่อออกมา

    “สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือต้องเก็บไว้กับตัวเลย… อาจจะมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ป้ายประจำตัวของคุณอาจจะเป็นสิ่งเดียวที่ระบุตัวตนคุณได้ โปรดเก็บรักษาเอาไว้ให้ดีๆด้วยนะคะ”

    “…อ๊า!”

    Kyle ถึงกับชะงักไป เขาเองก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย แต่เหรียญที่เขาถือไว้ก็พอที่จะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่านักผจญภัยจะต้องทำงานร่วมกันอย่างไรและอันตรายแค่ไหน มันอาจจะเป็นชีวิตที่อยู่ภายใต้เงาความตายแน่ๆ

    “เป็นอันว่าคุณได้ทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ฉันขอภาวนาให้ทำงานสำเร็จและคาดหวังที่จะได้ยินเรื่องดีๆเร็วๆนี้ด้วยนะคะ”

    “ข-ขอบคุณมากครับ!”

    “ถ้าคุณคิดจะรับเอาคำร้องมา กรุณาเอาคำร้องที่เหมาะกับทักษะของคุณจากที่อยู่ตรงกระดานนั้นแล้วก็เอากลับมารายงานยังแผนกต้อนรับได้เลยค่ะ”

    บนกระดานคำร้องมาจากกระดานใหญ่ที่ติดกำแพง คำร้องมีอยู่หลากหลายระดับความยากที่แตกต่างกันและความเร่งด่วนที่แปะติดเอาไว้

    สำหรับมือใหม่แล้ว Kyle จะมองหาคำร้องที่ทำสำเร็จง่ายๆก่อน

    พวกนั้นมีตั้งแต่เก็บสมุนไพรในภูเขายันไปถึงกำจัดแมลงสาปยักษ์ในท่อน้ำทิ้ง แม้กระทั่งมีคำร้องแปลกๆ เช่น ขอร้องให้อาสาไปตั้งค่ายร่วมกับนักผจญภัยมือใหม่ในฐานะพี่เลี้ยงในปีใหม่ก็ด้วย เหล่านี้ถือว่าเป็นงานที่เหมาะกับนักผจญภัยหน้าใหม่เลยล่ะ

    “เฮ้ย นาย นายไม่ใช่หน้าใหม่ใช่มั้ยเนี่ย?”

    ขณะที่เขากลุ้มอยู่กับการเลือก ก็มีเสียงพูดไม่อ้อมค้อมดังขึ้นมาข้างตัวเขา

    พอเขาหันไป ก็เห็นผู้ชายป่าเถื่อนที่มีอายุพอๆกับเขาควงหอกอยู่ ข้างกายเขาก็เป็นสาวในชุดแม่ชีกับสาวกึ่งมนุษย์ที่แบกคันธนูติดหลัง

    ทั้งสามคนต่างก็ห้อยป้ายทองแดงไว้ และไม่มีใครที่เป็นนักผจญภัยมานานสักเท่าไรนัก

    “เราต่างก็เป็นหน้าใหม่พอๆกัน ทำไมถึงไม่ทำงานกับเราด้วยกันล่ะ? เราเองก็ได้รับเอาคำร้องดีๆมาแล้วนะ”

    “เอ๋!? น-นั่นช่วยได้มากเลยล่ะ… ว่าแต่คำร้องนั่นมันคืออะไรหรือครับ?”

    “สังหารก็อบลินไง ไม่ใช่งานที่เหมาะกับมือใหม่อย่างพวกเราหรือไง?”

    ก็อบลินเป็นที่รู้กันว่าเป็นมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดอยู่ระดับเลเวลเดียวกับสไลม์ พวกนั้นมีความฉลาดและความแข็งแกร่งเท่าเด็กเอง

    แต่ พวกมันก็มีเล่ห์เหลี่ยมเป็นสิ่งทดแทน แม้ว่าหลายครั้งเลยที่พวกมันได้ทำเรื่องเลวร้ายเล็กๆอย่างเช่นขโมยเหรียญทองต่อหน้าต่อตาหรือไม่ก็ฉกพืชผลก็ตาม บางครั้งพวกมันก็เป็นที่รู้จักในการลักพาตัวหญิงสาวด้วย

    คำร้องสังหารก็อบลินจึงกลายเป็นคำร้องที่เป็นธรรมดาที่สุดที่อยู่บนกระดานนี้ และดูท่าทางไม่มีวันสิ้นสุดลงด้วย

    เป็นเรื่องทั่วไปที่จะเห็นนักผจญภัยมือใหม่จะคว้าเอาคำร้องสังหารก็อบลินอยู่แบบนี้เพื่อฝึกทักษะและเก็บประสบการณ์

    และสำหรับ Kyle เรื่องนี้ก็ถือว่าดึงดูดเขาได้ดีเลยทีเดียว

    “โอเค ฉันว่าฉันจะไปกับพวกคุณด้วย เนื่องจากเป็นครั้งแรกของผมในการผจญภัยนี้ ก็ต้องเข้าร่วมกลุ่มด้วยแน่นอนใช่มั้ยล่ะ?”

    “ใช้แล้ว! ถ้านายพร้อมที่จะไป เราก็ไปกันเลย!”

    ในแบบนี้ ปาร์ตี้ของพวกหน้าใหม่ที่สมดุลกันได้ถูกจัดเอาไว้แล้ว พลหอกป้องกันในแนวหน้า นักธนูกับแม่ชีอยู่แนวหลัง และอัศวินนักเวทจะอยู่ตรงกลาง

    ต่างก็สมดุลกันทั้งบทบาทและเพศเลยทีเดียว ถือว่าเป็นปาร์ตี้ในอุดมคติโดยที่ไม่ต้องใช้จำนวนเลย

    “อึก~ ถึงแม้จะเป็นแค่ก็อบลิน ฉันก็ยังช่วยอะไรไม่ได้นอกจากรู้สึกกังวลเอง”

    “อย่าห่วงเรื่องนั้น พวกมันก็เป็นแค่ก็อบลิน ฉันเคยขับไล่มันไปเองคนเดียวตอนที่ฉันยังเด็กแล้ว”

    ถึงแม้แม่ชีสาวดูท่าจะกระวนกระวายไปบ้าง นักธนูกับพลหอกนั้นดูท่าจะมั่นใจเต็มเปี่ยมเลย

    ใช่ ก็แค่มอนสเตอร์อ่อนแอที่แม้แต่เด็กก็ยังสามารถขยับไล่ด้วยไม้ได้ โดยที่ปราศจากความกังวลใดๆ พวกเขามุ่งเข้าสู่ป่าที่มองเห็นตัวมอนสเตอร์

    โดยปกติก็อบลินจะตั้งฐานไว้ในซากที่ถูกทิ้งร้างหรือไม่ก็ในถ้ำ แต่คำร้องนี้ดูเหมือนว่าพวกก็อบลินนั้นจะตั้งอยู่ในป้อมร้างที่ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้ในช่วงสงครามมาก่อน

    การสังหารก็อบลินในป้อมร้องนั้น คำขอเหมือนพวกนี้จะให้คุณรู้สึกถึงการได้เป็นนักผจญภัยจริงๆ แต่แล้วความรู้สึกนั้นก็ลอยหายไปขณะที่พวกเขาเข้าไปในป้อม

    “หวา!?”

    มีอะไรบางอย่างที่ทื่อๆพุ่งเข้าใส่หัวของนักธนูกึ่งสัตว์ทำให้เธอทรุดเข่าลงไป

    “ม-ไม่เป็นไรนะ!?”

    “พวกมันโผล่มาจากไหนกัน!?”

    ผู้หญิงที่นั่งเข่าทรุดหมดสติแล้วก็ร่วงลงไปกับพื้น

    มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ที่ซุ่มอยู่ข้างหลังนั้นมีก็อบลินที่อยู่ด้านหลังนักธนูที่หมดสติยิ้มเยาะเย้ยอย่างน่าเกลียด ได้ยิงหนังสติ๊กที่มันใช้จัดการเธอให้ร่วงลงไปด้วยก้อนหิน

    “ก-ก็อบลิน!? พวกมันมาอยู่หลังเราได้ยังไงกัน!?”

    ทันใดนั้น Kyle ก็พุ่งเข้าไปหาก็อบลินแล้วก็ฟันเข้าที่กลางท้องด้วยความกล้าแล้วมอนสเตอร์เล็กๆก็ตายไปอย่างรวดเร็ว

    “ย้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ!”

    “Góbút! Gooooooh!”

    พวกก็อบลินปรากฏตัวทุกซอกทุกมุมเพื่อล้อมพวกเขาไว้ กระบอง ขวานหิน ดาบสนิม และก็หอกเก่าๆ พวกมันใช้อาวุธจำนวนมากในแต่ละอย่างพุ่งเข้าใจกลุ่มของนักผจญภัยทันที

    “บ้าชิบ! กล้าดียังไงวะ!!”

    พลหอกถึงกับเดือดดาลที่เห็นเพื่อนสมัยเด็กได้รับบาดเจ็บเป็นคนที่สูญเสียความเยือกเย็นก่อน

    เขาโกรธจนถึงขีดสุดแล้วก็พุ่งเข้าไปหาก็อบลินแล้วแกว่งหอกทะลวงจากด้านสู่ด้านเข้ากลางท้องก็อบลิน จังหวะนั้นเอง ป้อมที่เกือบจะมองเห็นได้ชัดและก็เปิดช่องกว้างพอที่เขาจะสามารถขว้างหอกนั้นไปได้โดยที่ไม่ปะทะกำแพงหรือเพดาน

    Kyle กันหลังเขาไว้ เชือดก็อบลินตัวใดก็ตามที่พยายามจะลอบโจมตีเขาและใช้เวทไฟในการจัดการกับก็อบลินจากระยะไกล

    “ทนไว้นะ…! ฉันจะรักษาเธอให้เดี๋ยวนี้แหละ!”

    ปกป้องโดยอีกสองคน แม่ชีได้ประคองหัวของนักธนูเอาไว้แล้วก็เริ่มใช้เวทรักษา ถึงแม้ว่าเธอยังไม่ตื่นก็ตาม Kyle ก็ยิ้มให้กับตัวเองที่เห็นบาดแผลค่อยๆปิดตัวอย่างสำเร็จ

    หลังจากนั้น เพียงแค่ก็อบลินเท่านั้น พอนักธนูกึ่งสัตว์ตื่นขึ้นมาปุ๊บ เธอกับแม่ชีก็จะคอยสนับสนุนพวกเขาจากด้านหลังไว้

    พวกเขาไม่น่าจะมีปัญหาใดๆในการจัดการกับพวกก็อบลินที่เหลือแบบนี้ จึงไม่ได้คาดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นจนเกิดความทรงจำอันโหดร้ายนี้ แล้วพวกเขาก็กลับไปรายงานการสังหารที่สำเร็จให้กับกิลด์

    ถ้าเขานับอย่างถูกต้อง เขาก็จะจัดการกับก็อบลินไปได้สิบตัว

    “GUOOOOOOOOOOOOOH!!”

    “นี่มัน-!?”

    มีเสียงร้องดังขึ้นมาติดๆกัน เสียงหนึ่งเป็นเสียงร้องที่ไม่มีก็อบลินได้ยิน และเสียงร้องของพลหอกที่ร้องเหมือนต้นไม้หักโค่นลงพื้นจนสั่นสะเทือน

    มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวที่ใหญ่กว่าขนาดของวัวจากหัวยันเท้าและก็มีเขี้ยวที่แหลมคมจนเกือบจะคล้ายกับจระเข้ที่ไม่มีขาหลัง

    “ท-ทำไมกัน…!? ไม่ใช่ว่ามันควรจะมีแต่ก็อบลินอย่างเดียวเท่านั้นหรือ!? ท-ทำไมถึงมีมังกรอยู่ตรงนี้ด้วย… ทำไม!?”

    มังกร มอนสเตอร์แห่งหลากหลายตำนานนับไม่ถ้วน มังกรที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาเป็นตัวหนึ่งที่สร้างรังโดยการขุดถ้ำในโลก

    ต่อให้เป็นแค่ตัวลูกเพียงอย่างเดียว มันก็ยังเป็นลูกของมอนสเตอร์ระดับสูงเลย แรงค์ E ไม่อาจที่จะเข้าไปต่อสู้กับมันได้

    “ม-ม่ายน้าาาา! ถอยไป!!”

    และเนื่องจากถูกมังกรทำให้วอกแวกนั่นเอง นักผจญภัยสองคนแนวหน้าจึงเผลอปล่อยช่องว่างในกลุ่ม

    พวกก็อบลินพุ่งผ่านตัวพวกเขาไปโจมตีสองสาวที่อยู่ข้างหลัง Kyle เริ่มร่ายออกมา แต่เขาคิดถึงเรื่องว่าควรหรือไม่ควรที่จะช่วยแนวหลังหรือพลหอกที่อยู่ข้างหน้าดี เขาถึงกับค้างชะงักไป

    เขาเป็นอัศวินเวทมนตร์ที่อยู่ในตำแหน่งตรงกลาง ถือว่าอยู่ในแนวจัดการอย่างชำนาญอย่างสมดุลระหว่างต่อสู้ติดพันในแนวหน้าและปกป้องในแนวหลังด้วยการร่ายเวทระยะไกล

    ดังนั้น เมื่อได้มาถึงเข้าจริงๆ เขาจึงไม่อาจตัดสินได้ว่าจะทำอะไร ไม่ว่าจะคอยสนับสนุนพลหอกที่ประจันหน้ากับมังกรดินที่จะพุ่งเข้าไปงานเขาหรือผู้หญิงที่ถูกก็อบลินพุ่งเข้ามา การไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาดอาจจะทำให้ความเสียใจนั้นหลอกหลอนเขาไปตลอดทั้งชีวิต

    “ก…. กรี๊ดดดดดดดดดดด…!”

    “อึ้ก…! อย่าได้มาลองดี…! อา….!?”

    เขาควรที่จะได้ช่วยหนึ่งคนหรือมากกว่านั้น แต่เมื่อโอกาสหลุดไป คอของพลหอกตอนนี้อยู่ระหว่างเขี้ยวมังกร และแม่ชีกับพลธนูก็ร่วงจากอาวุธสุดโหดของก็อบลิน

    “อา…”

    ความเสียสติได้กลืนกินเข้าไป เป็นสิ่งที่เหล่านักผจญภัยเรียกไว้

    เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความโหดร้ายที่เกินกว่าความถูกต้องของมนุษย์ พวกเขาจะถูกครอบงำด้วยความกลัวใต้จิตใจและไม่สามารถทำให้พวกเขาขยับไปไหนได้

    ผลก็คือทำให้พวกเขาไม่อาจสัมผัสอะไรอย่างความตายหรือถูกฆ่าได้ ซึ่งเป็นปกติของนักผจญภัยหน้าใหม่ที่เต็มไปด้วยคุณธรรมจะถูกทำลายอย่างป่นปี้ในสถานการณ์เช่นนี้ การขยับไม่ได้และการไร้การขัดขืนจะกลายเป็นอาหารให้กับมอนสเตอร์

    “อาาา…!? อ-ออกไป บ้าเอ๊ย…!”

    สายตามังกรที่ยังคงงาบตัวพลหอกห้อยโต่งเต่งจากเขี้ยวมองหน้าไปยัง Kyle ขณะที่ดิ้นรนเอาตัวรอดจากพวกก็อบลินด้วยรอยยิ้มแสยะ

    ปาร์ตี้ของเขาถูกทำลายไปแล้ว เขาเหลือเพียงแค่ตัวคนเดียว ที่ต้องต่อกรกับพวกก็อบลินที่เขาได้ดูถูกว่าอ่อนแอกว่าเด็กและมังกรดินที่แข็งแกร่งกว่าเขาเป็นอย่างมาก

    เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวังอย่างสมบูรณ์ Kyle ที่อยู่ในสภาพน่าสมเพชจนน้ำตาและน้ำมูกไหลออกมารวมทั้งของเหลวสีเหลืองที่เจิ่งนองเต็มเท้าด้วย

    นี่เขากำลังจะตายแล้วหรือ?

    ทำไมก็อบลินกับมังกรถึงไม่เป็นศัตรูกัน?

    มันมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง?

    พวกเขามายังที่นี้เพื่อกำจัดก็อบลินที่อ่อนแอเองนะ

    ไม่มีอะไรที่หาทางออกจากสถานการณ์เช่นนี้ได้ หัวของเขาจดจ่ออยู่แต่สิ่งที่ไม่อยู่กับตัว ขณะที่เสียงร้องก็อบลินก็ดังเข้าไปถึงเด็กหนุ่มที่สั่นอย่างหวาดกลัว…

    “Gághá?”

    “อะไรนะ…?”

    เสียงก้าวเดินบนทางเดินหินดังจากชั้นใต้ดินของป้อมจนพอจะได้ยิน

    พวกมอนสเตอร์ต่างก็หันไปมองยังที่มาของเสียงนี้

    “เอ๋…? อ๊ะ…”

    Kyle ลืมความหวาดกลัวไป

    ทุกอย่างที่อยู่ตรงนั้น โดยไม่มีเผ่าพันธุ์มาเกี่ยวข้องถูกวาดโดยแสงนั้น

    มันดูเหมือนอย่างกับผ่านไปแวบเดียวที่ตรงนั้นก็เปียกโชคไปด้วยเลือดนองพื้นแล้ว

    ผู้หญิงเลอโฉมงดงามที่เขาไม่รู้จักที่มีผมสีขาวปลิวไสว

    ผู้ชายบางคนบอกว่าผู้หญิงนั้นเป็นภาษาของดอกไม้ แต่ก็เฉพาะกับผู้หญิงที่เดินมาพร้อมกับท่าทางที่สง่างามที่เฉลียวฉลาดเท่านั้น

    ด้วยดวงตาสีแดงเข้มและสีแซฟไฟร์ เธอมองไปที่กองศพที่อยู่ต่อหน้า โดยที่ผมขาวนั้นก็สะท้อนเปล่งประกายแสงออกมา

    ราวกับจะเป็นพระเจ้าที่ดูทำให้เธอเป็นดั่งภาพของเหล่าสาวงาม ขาเธอก็เรียวนุ่ม และทรวงอกก็ใหญ่พอที่จะล่อตาผู้ชายได้

    ผู้หญิงคนนี้สวมรองเท้าหนังและชุดเสื้อผ้าเรียบๆธรรมดาผืนเดียวเอง เธอเป็นเลดี้ที่หลงทางมาจากเมืองไหนหรือเปล่าเนี่ย?

    โผล่มาตัวเปล่าในที่อันตรายแบบนี้ Kyle คิดว่าเธอคนนั้นไม่น่าจะเป็นนักผจญภัยแน่นอน

    “Gágggyaaaah!”

    พวกก็อบลินเริ่มร้องคำรามออกมา

    น่าแปลกใจที่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงได้พยายามที่จะลักพาตัวหญิงสาว อย่างน้อยที่สุด ตัว Kyle เองก็ยังไม่รู้

    อย่างไรก็ตาม การลักพาตัวมันก็เป็นไปตามนั้นอยู่แล้ว… โดยปกติผู้หญิงเองก็อ่อนแอที่จะถูกพาตัวไปได้อยู่แล้ว

    สุดท้าย ผู้หญิงที่อยู่ต่อหน้าพวกนั้นก็คือเหยื่อดีๆนี่เอง ไม่เหมือนกับนักผจญภัยหญิงอันตรายที่มีทักษะและอาวุธและเวทมนตร์ พวกก็อบลินต่างก็มองไปยังผู้หญิงอกโตที่เดินเข้ามาในรังอย่างไร้การป้องกัน

    ด้วยความกระหายสิ่งที่อยู่ต่อหน้ามัน พวกก็อบลินเริ่มเลียปากออกมาแล้ว

    “อ๊ะ… อันตราย…! ธ-เธอต้องหนีไป…!”

    เขาตะโกนเรียกผู้หญิงออกไปอย่างไม่คิด แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

    ก็อบลินฟาดเธอไปด้วยกระบอง สีหน้าผู้หญิงบิดเบี้ยวด้วยความหวาดกลัว รับการเหวี่ยงมาจากก็อบลินแล้วผมขาวก็กระจายแปดเปื้อนไปหมด — ตามที่คาดการณ์เอาไว้จากสายตาผู้ชม

    “…เอ๋?”

    ทันใดนั้นก็มีน้ำพุสีแดงพุ่งขึ้นมา

    เสียงทั้งหมดที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงร้องของก็อบลินที่ได้รับบาดเจ็บปางตายที่ชักดิ้นกลางพื้นสกปรกด้วยร่างกายที่เกือบจะผ่าเป็นสองซีก

    มือของผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลยก่อนหน้านี้มีดาบยาวที่เปรอะเลือดอยู่เดินเข้าไปยังกองที่จะกลายเป็นศพ เธอได้ดำเนินการต่อไป

    “Gyagáhh!?”

    พอเห็นพรรคพวกของมันถูกเชือดไปอย่างง่ายดายโดยผู้หญิงคนนี้แล้ว ก็อบลินตัวหนึ่งก็พุ่งเข้าไปจับ Kyle เป็นตัวประกันอย่างรวดเร็ว

    การที่ต้องมาอยู่ใต้ห่วงโซ่อาหารของมอนสเตอร์ในโลกที่ไร้อภัยเช่นนี้ เผ่าพันธุ์ก็อบลินได้เรียนรู้การระวังตัวเหนือกว่าสิ่งอื่นใดเพื่อความอยู่รอด

    และ ผลของประสบการณ์นั้น พวกมันรู้ว่ามนุษย์มีจุดอ่อนที่จะตกเป็นตัวประกันได้

    ทว่า จังหวะที่พอๆกับที่ก็อบลินเกือบจะเอาดาบสนิมเข้าไปหลัง Kyle เพื่อบังคับให้ยอมแพ้นั้น ผู้หญิงก็ปาดาบแล้วก็ผ่ากะโหลกของก็อบลินเลย

    “เหวอ!?”

    “Góbúzagh!?”

    ด้วยความเร็วเหนือแสง ไม่มีใครมองการเคลื่อนไหวของเธอได้ทัน

    ขณะที่พวกก็อบลินต่างก็หัวหดจากที่ได้เห็นพรรคพวกตัวเองตาย ผู้หญิงคนนี้ก็เริ่มพุ่งตัวเข้าไป

    ดาบที่ถือเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ผ่ากะโหลก แทงหัวใจและก็เชือดคอพวกก็อบลินที่อยู่ต่อหน้าเธอทั้งหมด

    สีขาวเบลอที่สังหารอย่างไม่มีใครเทียบ ดับชีวิตของพวกเด็กที่อยู่ข้างกายปีศาจไปตัวต่อตัว เธอเหมือนดั่งพายุ ดาบแห่งเทพสงครามที่คอยฟาดฟันทุกสิ่งที่ขวางหน้าเธอ

    “GOOOOOOOOOOOOWAAAGH! GAAAAAH!!”

    ขณะที่หัวของก็อบลินตัวสุดท้ายลอยกลางอากาศเป็นเส้นโค้งนั้น มังกรวัยอ่อนก็เริ่มขยับตัวแล้ว

    ขนาดตัวใหญ่ที่มีเขี้ยวแหลมคมที่พอจะบดเคี้ยวมนุษย์ได้ และมันก็พุ่งกระโจนเข้าไปหมายจะขยี้ผู้หญิงด้วยเท้าหน้าอย่างรุนแรง

    “ช้าไป”

    ผู้หญิงคนนั้นฟันดาบออกไปก่อน กรามของมังกรถูกตัดผ่านไปอย่างง่ายดายราวกับมันไม่ได้ทนไปกว่าคอของก็อบลินที่ถูกดาบฟันก่อนหน้านั้นเลย



    Kyle ได้แต่เพียงมองไปตามประสาเด็กสงสัยว่าผู้หญิงที่ฉีกหนังเหนียวๆออกไปเหมือนกับกระดาษ ราวกับขนาดของพวกไม่ต่างอะไรไปจากปลาเลย

    พอเขาได้สังเกตเห็นมัน ก็มีป้ายทองแดงแขวนอยู่ที่คอเธอด้วย

    (เธอเป็นนักผจญภัยแรงค์ B…!?)

    ถ้าแรงค์ E แทบได้กับมือใหม่สายขาว แรงค์ B ก็น่าจะเป็นนักผจญภัยที่มีทั้งทักษะและประสบการณ์ล่ะ

    มันดูเหมือนราวกับว่าถ้าคุณแข็งแกร่งพอที่จะเป็นแรงค์ B ได้ มันก็เป็นไปได้ที่จะจัดการกับมังกรตัวอ่อนได้

    แต่มีบางอย่างที่รบกวนใจ Kyle อยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นมือใหม่ สัญชาตญาณเขาก็บอกว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับนักผจญภัยแรงค์ B ที่โยนตัวเธอเข้าสู่สนามรบขณะที่ละทิ้งชุดอย่างผู้หญิงชาวบ้าน

    “…ฟู่~ว”

    และส่วนที่แกร่งที่สุด มือทั้งสองที่จับดาบนั้นตอนนี้ไม่มี มองไปยังก็อบลินที่พยายามจะจับตัวเขาเอาไว้ เขาเห็นดาบที่ห่ากะโหลกนั้นหายไปด้วย

    ในระดับบางเลเวล ผู้ฝึกหัดทั้งวิชาดาบและเวทมนตร์อย่าง Kyle ก็ได้เข้าใจว่าเวทมนตร์นั้นสร้างอาวุธมา

    อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเพียงแค่คนที่สามารถร่ายเวทระดับพื้นฐานต้นๆเท่านั้น เขายังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เลย

    “…”

    “อ๊ะ… ด… เดี๋ยวก่อน!”

    ผู้หญิงที่หันมาชำเลืองมอง Kyle ที่ยังดิ้นรนควบคุมตัวเอง

    “…อะไรหรือ?”

    “เอ่อ…”

    คิ้วของเธอขมวดกันอย่างน่ารำคาญ ผู้หญิงมองไปยัง Kyle ด้วยสายตาคนละอย่าง

    ส่วนสูง 160 เซนติเมตร สูงพอๆกับ Kyle เขาถึงกับไหล่ตกหลังจากที่ถูกเธอจ้องมาแบบนั้น

    “เอ่อ อืม ก่อนหน้านั้น… ขอบคุณมากที่ช่วยผมไว้นะครับ”

    “ฉันไม่ได้กะจะมาช่วยเธอหรอกนะ แต่ถ้าฉันปล่อยให้เพื่อนนักผจญภัยตายอย่างนั้น กิลด์จะโกรธฉันเอานะ”

    น้ำเสียงที่ไพเราะไม่เข้ากับใบหน้าที่เปื้อนเลือดเลย ถึงเธอจะพูดอะไรก็เถอะ

    ไม่อาจจะต้านทานสายตาจากผู้หญิงที่ดูเหมือนกับเป็นรุ่นพี่ได้ Kyle จึงหลบตาไปทางอื่น แต่ถึงเขาจะก้มหัวลง เขาก็ยังแสดงความบริสุทธิ์ใจ

    “ถึงอย่างนั้น… มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าผมเป็นคนเดียวที่ยังอยู่ ขอขอบคุณจากก้นหัวใจเลยครับ ขอบคุณมากครับ”

    “เฮ้อออออ….”

    ผู้หญิงก้มลงมอง Kyle ด้วยหน้าผากที่ย่น แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาราวกับเพิ่งจะถอนพิษออกจากตัวเธอ

    “จากที่มองเห็นนะ นายกับพรรคพวกหน้าใหม่ของนายมายังที่รังของก็อบลินเพื่อที่จะจัดการสังหารแค่นั้นเองหรือ”

    “อ๊ะ…”

    หญิงสาวสองคนที่ตายอย่างอนาถ และพลหอกที่เหลือเพียงแค่คราบเลือดที่หยดลงมากับหอกที่หักไป

    ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่มา Kyle ก็จะต้องพบกับชะตากรรมเดียวกัน

    “เราเพิ่งจะมากำจัดก็อบลินเองนะ… แต่จู่ๆก็มีมังกรโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้… ทำไมล่ะ!?”

    ความรู้สึกเสียใจเบื้องลึกไหลผ่านตัว Kyle

    ถ้าหากเขาบอกให้ทุกคนถอยกลับไปให้เร็วพอๆกับที่มังกรปรากฏตัวออกมา บางทีพวกเขาอาจจะจบลงด้วยแบบอื่นแทน

    “ก็นะ มันก็เป็นเรื่องปกติล่ะ”

    “เอ๋?”

    Kyle ถึงกับตกตะลึงกับผู้หญิงที่พูดพล่อยๆออกมาอย่างนี้

    “ตอนที่นายยังเด็ก นายไม่มีความทรงจำที่เคยติดตามเด็กที่แข็งแรงที่สุดเลยหรือ? หรือนายไม่มีคนที่แบบนั้นเลยหรือ?”

    “แน่นอน… ตอนที่ผมยังเด็ก ผมจำได้ว่าเคยติดตามเด็กตัวโตที่เป็นหัวหน้าแก๊งของกลุ่มเล็กๆเหมือนกับลูกน้อง… แต่กลับให้มาทำกับ-?”

    “ถึงแม้ว่าตอนที่ถูกบังคับให้สู้หรืออยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องสู้ สัตว์และมอนเตอร์ต่างก็คล้ายๆกัน มอนสเตอร์ที่มีความฉลาดเทียบเท่ากับมนุษย์อย่างมังกรหรือก็อบลินจะมีตัวเลือกที่จะนับถือหรือสั่งการได้ เอาง่ายๆก็คือมันก็เหมือนกับความสัมพันธ์ทางชีวภาพนั่นแหละ สถานที่นายคิดว่าเป็นรังของก็อบลินนั้น จริงๆแล้วเป็นถ้ำมังกร มันก็แค่นั้นแหละ”

    “ต-แต่ว่านั่นนะ…!”

    คำร้องสังหารก็อบลินนี้มาจากหมู่บ้านข้างๆเองนะ

    รอยเท้าที่สร้างความเสียหายบนไร่นาของหมู่บ้านนั้นเป็นก็อบลินเอง ใครจะไปคิดว่าจะมีมังกรซุ่มอยู่ข้างๆพวกมันด้วยล่ะ?

    “แน่นอน ฉันเองก็นึกว่าเป็นแค่รังก็อบลินจริงๆนั่นแหละ แต่นักผจญภัยควรที่จะพร้อมเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ด้วยนะ อย่างกรณีนี้ถือว่านายขาดทั้งประสบการณ์และความรู้ทำให้นายต้องมาตกที่นั่งลำบากแบบนี้แหละ”

    ด้วยคำพูดรุนแรงที่มาจากน้ำเสียงนุ่มนวลของเธอ แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาจะโต้แย้งเธอกลับไปได้เลย มันก็เป็นอย่างที่ผู้หญิงพูด ปาร์ตี้เด็กๆนี้นึกว่าจะเป็นเพียงแค่ความท้าทาย และเมื่อมีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นพวกเขาก็เละเทะอย่างสมบูรณ์

    “เอาล่ะ เมื่อธุระจบลงแล้ว ฉันจะกลับไปล่ะ ต่อจากนี้ไปนายจะตัดสินใจทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับนายล่ะ”

    ในเวลาไล่เลี่ยตอนที่ผู้หญิงหันหลังให้กับ Kyle ที่ถูกย้อมไปด้วยความพยายามที่จะยอมรับสิ่งที่เขาได้ยิน ป้อมก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรง มันไม่เหมือนแผ่นดินไหว มันน่าจะเป็นอะไรสักอย่างที่อยู่ใต้ป้อมกำลังเคลื่อนไหว

    “บ้าชิบ”

    “เหวออออ!?”

    ผู้หญิงเดาะลิ้นแล้วจับ Kyle ด้วยแขนที่เอื้อมออกไป ต่อให้เขาอยากจะต่อต้านที่ถูกจับกะทันหันก็ตาม ความรู้สึกนั้นก็หายไปทันทีที่เขาได้ยินสิ่งต่อไป

    “GRAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAAH!!!”

    ด้านล่างได้ปะทุออกมาจนกระจัดกระขายออกไป ทั้งดินและก้อนหินต่างก็ระเบิดออกมาจากพื้นจนร่วงกระจายเหมือนฝักบัว

    Kyle ที่เกือบจะหูหนวกจากเสียงที่เทียบไม่ได้กับมังกรวัยอ่อนก่อนหน้านั้น โดยที่ไม่ได้ระวังก้อนหินที่ร่วงตกลงมาจากข้างบน

    “อ๊ะ… อ๊าาา!?”

    เขาเริ่มระวังตัว เขามองก้อนหินหล่นตกหน้าเขาราวกับมันจะร่วงในภาพสโลว์โมชัน ขณะที่เขาร้องออกมา ผู้หญิงผมขาวได้จับหลังคอเสื้อ Kyle แล้วไต่ขึ้นไปยังกำแพงของป้อมปราการ

    “นี่มันอะไรเนี่ย… เรื่องตลกหรือ…?”

    ก็อบลินที่ซ่อนตัวจากกองศพถูกกวาดล้างโดยซากป้อมที่พังถล่มลงมา ทำให้เศษหินฝุ่งฟุ้งกระจายไปทั่ว

    Kyle ที่ถูกโยนลงพื้น มองดูมังกรที่มีขนาดเดียวกับรังที่เพิ่งจะหายไป

    นี่มันไม่ใช่วัยอ่อนแล้ว นี่มันมังกรตัวเต็มวัยเลย บางอย่างที่ได้ยินมาจากตำนานและเรื่องราว บางอย่างที่ไม่ใช่นักผจญภัยแรงค์ B ที่หวังจะจัดการได้

    มันเป็นงานของนักผจญภัยแรงค์ A ที่แกร่งเหนือมนุษย์กับผู้กล้าในตำนานแรงค์ S ที่สามารถสู้กับภัยพิบัติแบบนี้ได้

    “อย่างที่นึกไว้เลย ตอนที่มันหายไป ฉันได้สาบานว่ามันเป็นร่างเด็กนอกจากก็อบลิน… เห็นนี้แล้วก็พอเดาความรู้สึกได้เลย …เฮ้ย เจ็บปวดหรือไงที่เสียลูกไปล่ะ? ฉันคิดว่าฉันเข้าใจว่าแกรู้สึกยังไงนะ”

    ผู้หญิงที่ดูเหมือนจะน่าเกรงขามและเต็มไปด้วยความผึงผายก่อนที่จะถูกฉีกร่างขณะที่พึมพำกับตัวเอง

    “ม-ไม่นะ…! แขนเธอ…!!”

    แขนของผู้หญิงคนนี้หายไปจากไหล่แล้ว

    มันคงจะขาดตอนที่เธอดึง Kyle ออกมาจากซากป้อมนั่นแหละ

    เลือดที่ไหลโชกจากบาดแผลเปื้อนร่างกาย ชุดสีขาวของเธอและผิวที่ซีดก็ย้อมชโลมไปด้วยคราบเลือด

    (เป็นความผิดของผมเอง…! เพราะเธอพยายามที่จะปกป้องผม…!)

    เขาจะผ่านเรื่องเลวร้ายมากมายขนาดนั้นในวันเดียวยังไง?

    หลังจากที่ทำให้คนต้องได้รับบาดเจ็บและถูกฆ่าเพราะความผิดพลาดของเขา ในที่สุดเขาก็ได้เห็นจุดจบแล้ว ถ้าตรงนั้นมีบางอย่างที่ถูกดึงมาด้วยเงื่อนไขของชะตากรรมจริงๆล่ะก็ เขาก็อยากจะจัดการกับมันด้วยแรงที่มีทั้งหมด

    “จบสิ้น… แล้ว…”

    มังกรได้เหวี่ยงไปยังทั้งสองด้วยแขนขาที่รุนแรง เรื่องราวน่าจะจบลงตรงนั้น พวกเขาน่าจะถูกเล่นงานด้วยพลังของมังกร และชีวิตของชายหนุ่มที่เจอเรื่องโชคร้ายในการผจญภัยครั้งแรกอาจจะจบลง

    “อย่าเพิ่งตัดสินใจว่ามันจบสิ้นลงโดยพลการสิ”

    อย่างไรก็ตาม การโจมตีของมังกรก็มาไม่ถึงพื้น

    เหมือนอย่างที่อยู่ในป้อม มือของมังกรถูกดาบฟันขาดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    “GRYAAAAAAAAAAAAAAAH!?!?!”

    มังกรถึงกับร้องออกมาขณะที่เลือดไหลพุ่งออกมาจากส่วนที่ถูกฟัน

    ขณะที่มือของมังกรที่ถูกฟันขาดร่วงตกพื้นจนทำให้เกิดเสียงดังรุนแรง ผู้หญิงก็เข้ากระโดดเข้าใกล้มังกรโดยไม่สนใจน้ำหนักของดาบที่เธอถือแล้วเล็งไปยังที่คอของมัน เธอฟันตรงจุดเส้นโลหิตเข้าไปเพียงแค่เพลงเดียว

    “ฝ่ายที่จะจบสิ้นน่ะ เป็นมังกรต่างหาก”

    ขณะที่มังกรร่วงตกลงมา เธอก็ดึงดาบกลับออกจากคอแล้วก็ฟันเข้าที่กลางสันหลังคอของมันอย่างเต็มที่

    “Ggg… hhh….”

    ไม่มีมอนสเตอร์ตัวใดรอดหากกระดูกสันหลังถูกตัดขาด สัตว์ประหลาดในตำนานที่ดูเหมือนแข็งแกร่งในหนังสือนิทานถูกฆ่าได้อย่างรวดเร็วราวกับเป็นเรื่องตลก ร่างยักษ์นั้นในที่สุดก็ร่วงตกพื้นโดยไม่เคลื่อนไหวใดๆ

    นักผจญภัยหน้าใหม่ไม่อาจเข้าใจกับสิ่งที่เขาได้เห็น มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาบอกได้แน่นอนก็คือผู้หญิงผมขาวสู้กับมังกรด้วยตัวคนเดียวแล้วก็ฟันมัน

    “อ-อะไรน่ะ!? แขนเธอ… ได้ไง…!?”

    แขนที่น่าจะหายไปได้กลับมายังตัวเธอราวกับจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

    เธอไม่ได้ใช้เวทมนตร์รักษาใดๆ เป็นสิ่งที่เขายืนยันได้เป็นอย่างมากเลย ต่อให้ไม่มีประสบการณ์ใดๆก็ตาม ถ้าเวทมนตร์ของเลเวลแบบนั้นที่ใช้ใกล้ๆกับตัวเขาก็คงรู้สึกได้เลยว่าเป็นเวทของคนอื่น

    งั้น เธอรักษาตัวเองโดยไม่ใช้เวทมนตร์เลยหรือ? ด้วยข้อมูลนี้ Kyle จึงได้รู้ถึงความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว

    “ป-เป็นไปไม่ได้… เธอเป็นอมตะหรือ…!? ผมขาวนั่น… ดวงตานั่น… ไม่จริง นี่เธอ…!?”

    ที่ว่ามาทั้งหมดในหัว กายและวิญญาณ

    เขาเคยได้ยินเรื่องตัวตนของบุคคลสุดโฉดที่สามารถฟื้นฟูร่างกายเองได้โดยเชื่อมวิญญาณเข้ากับร่างกายตรงๆ แต่นั่นถือว่าหาได้ยากสุดๆ

    ขณะที่ Kyle เป็นเพียงแค่คนธรรมดา เขาก็ยังรู้จักห้าคนที่ว่ากันว่ามีความสามารถเหล่านี้ เพราะที่หายากนั้นเป็นเรื่องเล่าลือถึงเหล่าผู้ที่ถูกครอบครองมันทั่วทั้งโลกอันได้แก่

    “แม่มดทอง” Canary

    “มังกรไท่สุ่ย” Aion

    “นักบุญสุขาวดี” Hermes

    “จอมโจรมายา” Crowley Arsene

    และเรื่องเกี่ยวกับนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของทั้งมวล ผู้ที่ถือดาบฟาดฟันไปทั่วไม่ว่าจะไปยังที่ไหนก็ตามได้กลายมาเป็นกิลด์นักผจญภัยที่ห่างไกล

    นักรบที่มีดวงตาข้างหนึ่งสีแดงและอีกข้างสีน้ำเงิน ผมขาวที่ปลิวไสวกลางสนามรบ ส่องประกายเหมือนคมดาบในสายตาของศัตรูเธอ นักรบที่หาตัวจับได้ยากที่สมควรถูกเรียกว่าเทพีแห่งสงคราม

    “อสูรดาบสีขาว” Shirley เป็นชื่อของผู้หญิงคนนั้น

    เป็นเรื่องที่ธรรมดามากๆ

    นักผจญภัยมือใหม่ที่รับเอาคำร้องที่ดูเหมือนจะง่ายแล้วก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย

    ส่วนมากมักเป็นการทำให้มอนสเตอร์เชื่อฟังมอนสเตอร์อีกตัว

    มังกรที่ชอบสะสมทองและเงินจะคอยสั่งการให้พวกปีศาจระดับที่ต่ำกว่ามาเก็บสะสมเอาไว้สำหรับพวกนั้นอยู่บ่อยๆ

    นักผจญภัยที่ไปรับคำร้องแล้วก็พบกับวาระสุดท้ายภายในกับดักแห่งความตายเป็นเรื่องเล่าปกติที่คุณเคยได้ยินในร้านซื้อขาย

    “ขอบคุณแม่เจ้า ดูเหมือนจะไม่มีบาดแผลแล้ว”

    ภายใต้ซากป้อมที่เป็นรังของผู้ตายนั้น Shirley ไม่ได้สนใจที่จะมองดูสมบัติที่เกลื่อนกลาดเต็มไปหมด แต่กลับมีบางสิ่งที่เธอมองดูอย่างใส่ใจ

    เธอเห็นห้าเหลี่ยมสองอันที่ทำจากทองลวกๆกับกระดาษสีเงิน ดาวสองดวงที่ทำจากการพับกระดาษที่น่าจะมาจากฝั่งตะวันออก ประหนึ่งว่ามันอยู่เหนือยิ่งกว่าสมบัติที่ส่องประกายวูบวาบทั้งมวล

    “จริงๆเลย เข้าใจผิดว่ามันเป็นสมบัติ ไอ้พวกลูกน้องก็อบลินนั่นดันทำจริงๆซะด้วย หืม?”

    มันไม่ได้ดูเหมือนว่าก็อบลินนั้นจะทำขึ้นมาเองเลย

    ตอนหนึ่งของการล่าสมบัตินั้น ก็อบลินได้ฉกเอาของที่พวกมันคิดว่าเป็นทองและเครื่องประดับเงินไป

    และนั่นคือสิ่งที่ว่ามา

    “ก็นะ นี่คือของที่มีค่ามากยิ่งกว่าสมบัติใดๆ ที่จริงการขโมยของขวัญวันเกิดชิ้นแรกที่จะให้กับเด็กพวกนั้น มันแย่สุดๆเลยถ้าหากต้องมากวาดล้างเผ่าก็อบลินแบบนั้นนะ”

    ก็อบลินที่ไปฉกขโมยของขวัญวันเกิดจากห้องของเธอตอนที่เธอออกไปข้างนอกหนึ่งวัน และเพื่อที่จะเอามันกลับคืนมา เธอจึงได้กวาดล้างรังก็อบลินทั้งหมดในพื้นที่ ก็คงไม่ต้องบอกหรอกว่าเธอจัดการไปมากแค่ไหนกว่าจะตามหาเจอ ถึงแม้จะหาเจอในรังก็อบลินแห่งสุดท้ายของโลกก็ตาม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×