ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อดีตขุนนางสาวโสดกับชีวิตโลดโผนผจญภัยเพื่อลูกสาวสุดน่ารัก

    ลำดับตอนที่ #43 : บทส่งท้าย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.59K
      211
      5 ส.ค. 63

    หลังจากที่ปราสาทจักรพรรดิพังทลายทันทีแล้ว เมืองหลวงก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย ทุกคนที่อยู่รอบๆปราสาทถูกย้ายออกจากพื้นที่อย่างลึกลับจึงไม่มีใครตายหรือได้รับบาดเจ็บ แต่ซากของปราสาทจักรพรรดิที่ประเมินค่าไม่ได้นั้นก็น่าจะช็อคต่อคนที่ได้เห็นมันพอๆกับช็อคต่อคนที่รู้ดีว่าค่าซ่อมแซมนั้นจะทำให้ท้องพระคลังร่อยหรอได้

    แน่นอน เนื่องจากการผ่าปราสาทนั้นมันประจวบเหมาะเจาะกับจังหวะฟันดาบของเธอพอดี ผู้ชมหลายคนต่างก็หันไปสงสัยในตัว Shirley… ทว่าการผ่าปราสาทออกเป็นซีกด้วยดาบนั้นเป็นอะไรที่มันบ้าบอคอแตกสิ้นดี ไม่ว่าพวกขุนนางหรือราชวงศ์ต่างก็อยากจะหัวเราะกับตัวเองที่ไปกล่าวหาเธอแบบนั้น

    “เธอเป็นคนทำไม่ใช่หรือ!? เนื่องจากเธอใช้เวทช่องว่างนั่น เธอก็น่าจะแอบร่ายอะไรสักอย่างเพื่อลากตัวปราสาทด้วยสิ!? นี่เธอตั้งใจจะทำอะไรกันเนี่ย!? อัญมณีกับชุดของฉันอยู่ในนั้นทั้งหมดเลยนะ!?”

    “แต่เค้าไม่ได้ทำอะไรเลยน้า? เธอพิสูจน์ข้อกล่าวหาลอยๆนั้นได้ป่าวล่ะ? งืม~?”

    แน่นอนว่า เนื่องจากเธอนั้นน่าจะเป็นคนร้ายแน่ๆ หลายๆคนรวมถึง Alice ต่างก็หันความเกรี้ยวกราดใส่ Canary ขณะที่พวกนั้นโยนข้อกล่าวหาใส่เธอนั้น Canary ดูท่าจะสำราญใจมากๆ จนยิ้มแสยะอย่างชั่วร้ายราวกับจะไปครอบงำราชวงศ์เสีย

    ก็แหงล่ะ ถ้ามีใครใช้เวทช่องว่างนั่นเพื่อทำลายปราสาทที่อยู่ตรงนั้นล่ะก็ มันน่าจะมีร่องรอยของการใช้เวทมนตร์เหลือทิ้งเอาไว้สิ แต่ตรงนั้นมันไม่มีร่องรอยเหลือทิ้งเอาไว้เลยถ้ามันถูกฟันด้วยดาบ

    “จะว่าไปแล้ว เธอเป็นน้องสาวของ Shirley จริงๆหรือเปล่า? เมคอัพของเธอมันจะลอกออกมากขึ้นถ้าหากยังมัวแต่โปะมันไว้อย่างนี้นะ งึม~? … หรือว่าที่จริงแล้วเธอไม่ได้แก่กว่าพี่สาวหรือว่าป้าดีล่ะน้า? ถึงแม้ว่าหล่อนจะสามสิบ หล่อนก็ยังดูเข้ากับความงามที่อ่อนวัยอยู่เลย แล้วทำไมถึงเอาไปเปรียบเทียบกับเธอไม่ได้เลยล่ะเนี่ย? ฮ่าา… อายุนี่มันช่างโหดร้ายจริงๆเลย เนาะ?”

    ขณะที่เธอเก็บเรื่องกึ่งอมตะของ Shirley เอาไว้เป็นความลับ แม่มดอายุพันปีก็สำราญใจที่ได้ฟังจักรพรรดินีถูกยั่วโมโหขณะที่เธอเล่นกับความสับสนของ Alice ถึงรูปลักษณ์และความริษยาเบื้องลึกต่อพี่สาว ขณะเดียวกัน Albert ก็ได้แยกตัวจากทุกคนออกไปยังข้างหลังเพื่อมองหา Shirley ในหัวของเขายังมืดครึ้มและสับสน

    (ป-ปราสาทฉัน… ยัยแม่มดบ้านั่น… ปราสาทฉัน…! บัดซบ! อย่าง… อย่างน้อยสุด ลูกสาวฉัน…!)

    ขณะที่เขาได้สาปแช่ง Canary ที่ทำลายสัญลักษณ์ทั้งความภาคภูมิใจของประเทศและตัวเขาอย่างไม่คิดอยู่นั้น เขาก็ได้มุ่งไปยังทางตอนใต้ของสนามที่เขารู้ว่า Sophie กับ Tio นั้นน่าจะนั่งอยู่ตรงไหน

    ตอนนี้ศึกการประลองที่บัญญัติโดยเทพีก็ได้ถูกตัดสินอย่างเด็ดขาดแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะบุกเข้าราชอาณาจักรแล้วไปคว้าเอาเด็กสาวอย่างกำชัยมาได้อีกแล้ว นั่นหมายความว่าสิ่งเดียวที่จะเปิดให้เขาทำได้ก็คือต้องไปขโมยพวกนั้นเหมือนโจรย่องเบาหรือไม่ก็ไปหว่านล้อมพวกนั้นมาตรงๆ

    (ก็โอเค…! พวกนั้นจะต้องเป็นรัชทายาท… แน่นอน พวกนั้นน่าจะอยากทิ้งชีวิตในสามัญชนเน่าๆแล้วก็มาเป็นจักรพรรดินีอันแสนสง่าซะ!)

    ด้วยความมั่นใจสุดตัวอย่างไม่ต้องมีเหตุผล Albert เชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่าลูกสาวของเขาจะต้องเลือกมากับเขาแน่ เขาจึงได้ข้ามไปหา Sophie กับ Tio ที่อยู่ทางเดินทิศใต้ของสนาม

    ขณะที่เขามองดูสองคนจากเงาอยู่นั้น Sophie กับ Tio วิ่งเข้าไปหาแม่ที่เพิ่งจะกลับจากสังเวียนแล้วก็กอดเธอแน่นขณะที่เธอย่อเข่าข้างหนึ่งลง และก็จ้องเธอด้วยความชื่นชมยินดี รอบๆเธอนั้นก็มีปาร์ตี้หน้าใหม่ที่มี Kyle, Leia และก็ Cudd ที่นำโดย Asterios อยู่คุ้มกันด้วย

    “โอ้วววว ในที่สุดก็ได้เจอกันสักที! ลูกสาวสุดที่รักของฉัน!”

    หลังจากที่ได้เห็นอย่างอบอุ่นหัวใจแล้ว Albert ก็เข้ามาแทรกโดยไม่อ่านกาละเทศะแล้วก็ไปเรียกลูกสาวที่ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวในขณะที่ Shirley ต้องเอาทั้งสองคนนั่นมาหลบอยู่หลังเธอทันที

    “นี่แกมาทำอะไรตรงนี้ ไอ้ตัว- อุ๊บบบบบบบบ!?”

    “หยุดเลย! เธอจะทำให้เราถูกจับกุมนะ!”

    ไม่ต้องสนใจ Leia ที่กำลังจะโพล่งปากออกมาก่อนที่ Cudd จะเอามือปิดปากเธอ จักรพรรดิที่ไม่รู้ถึงสัญชาติญาณการระวังตัวและความสะอิดสะเอียนขณะที่เขาพูดกับลูกสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า

    “ยินดีที่ได้พบเธอนะ ฉันชื่อ Albert Ragdoll เป็นพ่อและก็ผู้ปกครองแห่งจักรวรรดินี้ ถ้าเธอชอบก็เรียกฉันว่าปะป๊าได้นะ”

    เผชิญหน้ากับจักรพรรดิที่เหงื่อย้อยลงเต็มหน้าผากขณะที่วิ่งไปหาลูกสาวของเขา Shirley กับพรรคพวกต่างก็มองดูอย่างเงียบๆ

    นี่คือชายคนเดียวกับที่สั่งการให้จอมเวทหลวงร่ายคำสาปควบคุมจิตใจใส่ลูกสาวเพื่อที่พยายามจะลักพาตัวแล้วเอากลับไปยังจักรวรรดิ ตอนนี้เขาก็ปรากฏต่อหน้าพวกนั้นแล้วก็ยังมาให้เรียกว่า ‘ปะป๊า’ อีก ไอ้นี่น่าจะเหมาะกับพวกสัตว์เลื้อยคลานสี่ขาโดยภาพเหตุการณ์บ้าๆที่อยู่ซึ่งๆหน้านั่นแหละ

    “ฉันต้องขอโทษจริงๆที่เธอต้องมาใช้ชีวิตที่เจียมตัวจนถึงตอนนี้ แต่มันเป็นผลมาจากชะตากรรมที่พลิกผันอันน่าเศร้า… ใช่แล้ว เพราะกับดักของยัยแม่มดสีทองผู้ชั่วร้ายนั่นไง Shirley จะต้องเอาทั้งสองคนนี้กลับไปยังที่จักรวรรดินะ!”

    ( ( (หา? นี่กิลด์มาสเตอร์ทำแบบนี้ด้วยหรือ?) ) )

    นักผจญภัยมือใหม่ทั้งสามต่างก็คิดตรงกันด้วยความแปลกใจ แต่ขณะเดียวกัน Shirley ก็ได้เก็บความโกรธเอาไว้ นี่เธอไปหลงรักผู้ชายแบบนี้ได้ยังไงกัน?

    “แต่ไม่มีอะไรให้เศร้าต่อไปแล้ว ชีวิตที่รื่นรมย์กำลังรอพวกเธอต่อจากนี้! เอาล่ะ กลับไปอยู่ในมือจักรวรรดิแล้วพวกเธอจะได้เป็นเจ้าหญิงผู้งดงามนะ”

    เข้าใจท่าทีของเขาที่พยายามจะไปชักชวนเด็กให้มากับเขาเอาดื้อๆเลย เธอจึงได้ก้าวออกไปข้างหน้าแล้วก็ประจันหน้าเขา แต่ Sophie กับ Tio ก็ก้าวออกมาจากข้างหลังเธอแล้วพยายามที่จะหยุดความสั่นเทา แล้วก็มองไปยังที่ดวงตาของจักรพรรดิแล้วพูดออกมาว่า

    “เรา… จะไม่ไปที่จักรวรรดิหรอก”

    “…เดี๋ยวนะ?”

    ราวกับว่าเขาจะไม่เข้าใจคำพูดที่ออกมาจากปากของพวกเธอ Albert ก็พึมพำปฏิเสธออกมา

    “เราอยากอยู่ในเมืองที่มีพวกนักผจญภัยและจะเป็นนักผจญภัยกับแม่ด้วยกัน โทษทีนะ แต่เป็นเจ้าหญิงนี่ท่าจะน่าเบื่อชะมัด”

    “แล้วก็อย่าได้มาให้พวกเราเห็นหน้าอีกนะ ครอบครัวของเรามีแค่หม่าม้า… เราไม่มีปะป๊า”

    เมื่อพวกเธอพูดออกมาแบบนั้น Kyle ที่ได้เห็นว่าพวกเธอนั้นไม่ได้สืบทอดมาแค่รูปลักษณ์ภายนอกของ Shirley เท่านั้น แต่เป็นความกล้าหาญด้วย ถึงแม้ Albert อึ้งไปสักพักที่ถูกพวกนั้นปฏิเสธไป และท่าทีของเขาก็แจ่มใสขึ้นมาทันทีแล้วก็ประกาศออกมาอย่างเกรงขาม

    “ข-เข้าใจแล้ว! แน่นอนว่าพวกเธอไม่อยากจะแยกจากแม่ตอนอายุแค่นี้ใช่มั้ย!? งั้นแบบนี้ล่ะ ฉันจะเอา Shirley ไปเป็นเมียเก็บด้วยซะเลย!”

    มันหน้าด้านถึงขนาดนี้เลยหรือเนี่ย ความจริงแล้ว Sophie กับ Tio ที่ได้ด่าทอเขาไปนั้น Kyle ที่ได้ยินทุกอย่างใกล้ๆ แม้แต่ Shirley ก็ด้วย ไอ้คนนี้มันถึงกับพูดแบบนี้โดยไม่รู้สึกรู้สาเลยหรือไงเนี่ย

    สำหรับ Albert มันคือโอกาสที่เหมาะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่คาดฝันที่จะต้องเสียปราสาทก็ตาม ถ้าเขาเอานักรบที่แกร่งพอที่จะเอาชนะ Lumiliana ได้ มันก็น่าจะเป็นประโยชน์แก่อำนาจของเขา ไม่ใช่แค่ตอนที่เขาได้เห็นความงามของ Shirley เป็นครั้งแรกในรอบสิบปี เขายังพบจิตใจที่ถูกแต่งเติมด้วยความเสียใจด้วย

    ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ Alice ไม่อาจจะเทียบความงามกับเธอได้เลย เขาคาดหวังว่าลูกสาวนั้นน่าจะเติบโตโดยสืบทอดความงามของแม่มาด้วย ขณะที่ความปรารถนาอันเดรัจฉานได้ครอบงำอดีตคู่หมั้นจนเข้าไปยังความคิดอันซ่อนเร้นของเขา

    “ฉันได้ยินทั้งหมดจาก Alice มา เธอก็แค่อิจฉาที่จะเข้าใกล้ฉันแล้วก็ทำร้ายเธออย่างทารุณ แต่พอนึกย้อนกลับไป มันก็นานมาแล้วและถึงแม้เรื่องที่น่าเศร้าระหว่างเราในอดีตจะเลือนหายไปก็ตาม ในฐานะจักรพรรดิแล้วฉันจะยกโทษความผิดของเธอให้แล้วจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง อย่างที่ฉันได้ทำกับ Alice และลูกๆนั่นแหละ ฉันจะแบ่งปันความรักให้เธออย่างดีเลย”

    ขณะที่ Albert ยื่นมือออกไปยัง Shirley เขาก็เล้าเลียร่างกายจากหัวจรดเท้าในหัว

    ผลลัพธ์จากคำพูดของจักรพรรดิ ดวงตาของ Cudd ลุกโชนไปด้วยความโกรธ Leia ที่ถูกเพื่อนปิดปากเอาไว้ถึงกับด่าแช่งเป็นเสียงอู้อี้ และแม้แต่ Asterios ที่สงบสุขุมก็ถึงกับขมวดคิ้วออกมา

    Shirley ยังคงยืนค้างอย่างเงียบๆ ขณะที่ Sophie กับ Tio ต่างก็มองหน้าพ่อด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด

    ―――― ต้องทำให้แม่อับอายสักกี่ครั้งจนกว่าจะพอใจกัน?

    นอกใจแม่ไปอยู่กับน้องสาวตอนที่ได้หมั้นกัน กล่าวหาเท็จใส่เธอให้ถูกประณามและเอาไปทรมานโดยไม่สำนึกผิดใดๆ แล้วก็ยังกล้ากลับมายืนมือหาเธออีกครั้ง นี่มันเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้แล้ว

    พวกเขาต่างก็หันไปมองหน้า Shirley เธอไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธปนเสียใจ ขณะที่พวกเขามองเธอนั้น น้ำตาของลูกสาวทั้งสองก็ไหลออกมาขณะที่พวกเธอได้นึกถึงสายเลือดที่ไหลเวียนในตัว

    “…บ้าเอ๊ย! ว้ากกก! แกจะทำอะไรกัน!? ปล่อยเดี๋ยวนี้――――!”

    ก่อนที่ Leia ที่พยายามจะกัดมือ Cudd เพื่อเข้าไปหาตัว Albert มีคนหนึ่งที่ผ่านพวกเขาไปอย่างเงียบๆ

    ขณะที่เด็กหนุ่มคนนั้นได้ร่าย 《Physical Boost》เป็นครั้งแรกโดยไม่ร่ายออกมา ซึ่งเขาไม่เคยฝึกฝนมาก่อน เขาพุ่งเข้าไปหา Albert

    การเคลื่อนไหวที่ดูธรรมดากับเขา นั่นเป็นมุมมองที่ดูเหมือนผู้ช่ำชอง ถึงแม้ Asterios กับ Shirley จะมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขามาตั้งแต่เริ่ม พวกเขาก็ช็อคที่เขาได้เคลื่อนไหวแบบนั้น แล้วหมัดขวาที่มาด้วยแรงโมเมนตัมก็ซัดเข้าใส่ใบหน้าตรงๆของจักรพรรดิอย่างเต็มแรง

    “อ้ากกกกกกก!?”

    Albert ถึงกับสลบคาเท้าโดยหมัดนั่น ขณะที่หัวของจักรพรรดิกระแทกเข้ากับกำแพงหินที่อยู่ข้างหลังเขา ตาของเขาก็เหลือก เลือดกำเดาก็ไหลออกจากจมูก ทุกคนต่างก็จ้องตัวผู้กระทำความผิดอย่างเงียบๆ

    “…น-นี่ฉันทำอะไรลงไป…? ฉันต่อยจักรพรรดิหรือ…?”



    เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่กลางหมู่คนที่เงียบกริบ… เสียง Kyle ก็เงียบลงทันทีเมื่อเขารู้ถึงความร้ายกาจของสิ่งที่เขาได้ทำลงไป


    ข้างเมืองหลวงนั้น มีหลุมฝังศพของราชวงศ์ตั้งเอาไว้ บนเนินเขาที่มีลมพัดที่เคยมีปราสาทตั้งเอาไว้ มีหลุมศพที่สลักชื่อของราชวงศ์มากมายอยู่ ณ ป้ายหลุมศพคู่หนึ่ง มีดอกไม้สองดอกวางไว้

    “จักรพรรดิ Legrand… จักรพรรดินี Elizabeth…”

    Shirley ยืนอยู่ตรงนั้น มองลงไปยังป้ายหลุมศพด้วยความเสียใจขณะที่เธอจำสองคนที่คอยทำหน้าเป็นเสมือนพ่อแม่ให้กับเธอได้

    Legrand กับ Elizabeth จักรพรรดิและจักรพรรดินีคนก่อน เขาเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจที่ปกครองบนพื้นฐานของอุดมการณ์ ที่ได้วาดแผนที่ของจักรวรรดิจากความทรงจำและทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดแก่ผู้คน

    Elizabeth ดูแลเธออย่างลูกสะใภ้ได้ดีพอๆกับลูกสาวจริงๆของเธอ Philia และก็ยังเป็นจักรพรรดินีที่อ่อนโยนที่ใจดีพอๆกับจักรพรรดิ เป็นคนแรกที่คอยสั่งสอนเธอด้วยความอบอุ่น เนื่องจากพวกเขาเป็นคนดี มันยากที่จะนึกภาพได้ว่า Albert นั้นเติบโตเป็นแบบนั้นได้ยังไง

    ตอนที่เธอได้รู้ถึงความจริงที่ว่าสองคนนั้นได้จากไปแล้วและก็ได้ถูกฝังโดยที่ไม่ได้รู้อะไรเลยนั้น เธอก็รู้สึกเหมือนจะมีช่องว่างในใจ

    “…เธอไม่ต้องลังเลเพราะฉันก็ได้ ถ้าจะวางดอกไม้ก็วางได้เลยนะ”

    ขณะที่จ้องไปที่หลุมศพนั้น Shirley ก็เรียกคนที่อยู่ข้างหลังเธอ จากนั้น Philia ก็โผล่ออกมาจากด้านหลังเสาพร้อมกับถือช่อดอกไม้ด้วยท่าทางอาย

    “ข-ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้อยากจะรบกวนคุณหรอก แต่ฉันว่าฉันคงจะกวนใจคุณตลอด…”

    “ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้น เธอไม่ควรที่จะมัวแต่ใส่ใจกับฉันถ้าอยากจะวางดอกไม้ให้กับพวกท่านนะ”

    เธอวางช่อดอกไม้ลง แล้วก็ก้มหัวยืนสงบนิ่ง ไม่มีใครพูดออกมาทั้งๆที่ยืนอยู่ข้างกัน ต่างก็มองดูชื่อที่อยู่บนป้ายหลุมศพ เมื่อ Philia ไม่อาจทนความอึดอัดจากความเงียบต่อไปได้ Shirley จึงเปิดปากพูดออกมาก่อน

    “ฉันได้ยินมาจาก Canary แล้ว สองคนนั้นเป็นปฏิปักษ์กับจักรพรรดิคนปัจจุบันสินะ… ฉันไม่อยากอวดรู้หรอก แต่นั่นเป็นเพราะฉันหรือ?”

    “นั่นก็… อาจจะเป็นความจริง”

    Shirley ได้แสดงสิ่งที่อยู่เหนือความสงสัยว่าเธอไม่ได้กะจะกลับมายังจักรวรรดิเพื่อผ่าปราสาทที่เป็นสัญลักษณ์อำนาจของ Albert หรอก อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนก็ยังไม่กระจ่างชัด

    ตอนที่เธอถูกกล่าวหาเท็จนั้น พวกจักรพรรดิรวมถึง Philia อยู่ระหว่างการเดินทาง ถ้าสามคนนั้นเป็นคนที่ Shirley รู้จักจริงๆ และเธอก็ไม่ได้เห็นหน้ากันมานาน ก็ไม่น่าจะทำให้พวกเขาต้องเป็นห่วง

    ในการขับเคลื่อนชีวิต เธอต้องเผชิญกับสิงที่เธอคิดเอาไว้ในจักรวรรดิ นั่นคืออย่างน้อยที่เธอทำได้

    “ตอนที่ท่านพ่อกับท่านแม่กลับมาและก็รู้ถึงสิ่งที่ได้ทำกับ Shirley ไป ท่านก็เดือดพล่านแล้วราชวงศ์ก็แตกออกเป็นสอง โดยแต่ละฝ่ายนำโดยจักรพรรดิและมกุฏราชกุมาร แต่เดิมดูเหมือนว่าฝ่ายท่านพ่อจะเป็นผู้ควบคุมอำนาจอย่างแท้จริง แต่เมื่อท่านได้คิดจะตัดเจ้าชายออกจากทายาทสืบราชบัลลังก์…”

    “ท่านก็ถูกลอบสังหารหรือ?”

    “…ค่ะ”

    ตอนที่ Philia อยู่ในราชอาณาจักรนั้น เธอได้เล่าเรื่องที่มืดมนให้ Canary ฟังแล้วก็มาบอกให้ Shirley รู้อีกทีนึง มันไม่ใช่เรื่องที่จะให้คนทั่วไปรู้กันได้ แต่เมื่อพวกขุนนางที่อยู่ฝ่าย Albert คิดว่าพวกเขาอาจจะต้องจบเห่ถ้าเขาถูกตัดสิทธิ์ไป จึงได้รวมหัวกันวางยาจักรพรรดิ

    นับแต่นั้นเป็นต้นมา เกียรติยศและความเชื่อถือที่จักรพรรดิ Legrand สร้างขึ้นมาบนโลกดั่งตัวแทนของประเทศก็ได้ร่วงกลายเป็นเศษฝุ่นไป

    “ไม่ว่าฉันจะบอกฝ่าบาทยังไง เขาก็ไม่ฟัง เนื่องจากพวกนั้นอยู่ภายใต้พ่อกับแม่ พวกนั้นดูเหมือนจะวางยาท่านเพื่อเหตุผลอื่นด้วย โดยทำทีเป็นคนจากต่างประเทศหรือไม่ก็คอยที่จะควบคุมเขา”

    ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง สถานการณ์นี้ก็ตึงเครียดยิ่งกว่าเดิมอีก พอได้คิดเรื่องนั้นแล้ว เขาทำให้ตัวเองกลายเป็นหุ่นเชิดโดยอยู่บนเงื่อนไขดีๆกับพวกติดตามที่เขารู้ว่าเป็นศัตรูกับบุพการีตัวเอง

    “…แล้วพวกท่านได้พูดอะไรถึงฉันมั้ย?”

    เธอนึกเรื่องทุกอย่างที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรในจักรวรรดิ เหตุผลที่เธอเริ่มคิดถึงทั้งสองที่คอยเป็นพ่อแม่บุญธรรมนั้นเพราะคำพูดของลูกสาวที่พูดกับเธอ ไม่ใช่ว่าอยากจะปล่อยให้อยู่ข้างเธอหรอก

    “…พวกท่านคิดถึงคุณตลอด ท่านแม่กับท่านพ่อถึงกับเดือดดาลตอนที่ได้ยินว่าคุณถูกทำร้ายยังไง แต่ยิ่งกว่านั้น พวกท่านถึงกับเสียใจเลย ตั้งแต่นั้นมาพวกท่านก็กลายเป็นศัตรูกับเจ้าชายตัวเอง แล้วก็ตามหาคุณ หวังว่าถ้าพวกท่านไม่พบคุณอย่างน้อยก็น่าจะไปใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆที่ไหนสักแห่ง โดยไม่ต้องแบกรับอะไรอีกต่อไปแล้ว”

    นั่นคือสิ่งที่ฉันหวังเอาไว้ด้วย… เธอไม่อาจพูดคำนั้นออกมาได้ เธอไม่อยากจะบีบความรู้สึกของพ่อแม่เธอที่จากไปด้วยข้อแก้ตัว… นั่นเป็นวิธีที่ Philia อยากจะแสดงความจริงใจของเธอ

    “อย่างงั้น… หรือ…”

    Shirley มองขึ้นไปบนท้องฟ้า พ่อแม่บุญธรรมที่คอยดูแลเธอหลังจากที่ใช้ชีวิตอย่างโหดร้ายในตระกูลก่อนหน้านั้นของเธอ พวกท่านนั้นเข้มงวดในบางครั้ง แต่อีกด้าน พวกท่านก็เป็นคนที่สุภาพอ่อนโยน

    เมื่อเธอได้เลี้ยง Sophie กับ Tio เธอก็คอยตามใจพวกนั้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อเธอได้ประกาศความจงเกลียดจงชังใส่ราชวงศ์ หลายๆคนก็เริ่มที่จะกลายเป็นคนที่เธอเกลียด แต่ความอบอุ่นและความรักที่เธอได้รับมาจากพวกท่านนั้นไม่ใช่เรื่องโกหก

    “เงื่อนไขที่พยายามจะทำให้ลูกสาวคุณเป็นผู้สืบทอดนั้น จักรวรรดิได้สูญเสียสิทธิทางการรทูตอันชอบธรรมหลังจากที่พ่ายแพ้การประลองไปแล้ว รวมไปถึง ฉันได้สั่งให้ทำลายประวัติการเกิดและการอยู่อาศัยในจักรวรรดิของคุณด้วย เราได้สูญเสียเงื่อนไขอันชอบธรรมทางสายเลือดแล้วล่ะ”

    Philia มาไกลเกินกว่าที่จะปกปิดความสัมพันธ์กับ Shirley ที่อยู่ในตระกูลดยุคได้ ถ้าไม่มีประวัติการเกิดหรือทะเบียนครอบครัวล่ะก็ มันก็ง่ายมากที่จะปฏิเสธสายเลือดของเธอกับตระกูลเก่าแม้กระทั่งฐานะพลเมืองของจักรวรรดิ… ถึงแม้ว่าครอบครัวเธอจะเกี่ยวข้องกับ Albert ทางสายเลือดแบบไม่ต้องสงสัยก็ตาม เธอก็สามารถปฏิเสธได้อย่างชอบธรรม

    “งั้น นี่คือการจากลาแล้ว ขอโทษที่ทำให้เธอต้องลำบากมาตลอด”

    และในตอนนี้ ความเกี่ยวข้องกับ Philia ก็ถูกตัดขาดไปด้วย ทั้งสองที่เคยเป็นพี่น้องสายเลือดไม่แท้ที่ใกล้ชิด เมื่อประวัติในอดีตถูกลบไป ตอนนี้พวกเธอก็กลายเป็นคนแปลกหน้าบนแผ่นกระดาษไปแล้ว

    การแยกทางกับคนที่เธอรักและนับถือว่าเป็นพี่สาวซึ่งเป็นอุดมคติที่เธอได้เล็งเอาไว้ตลอด ขณะที่ Philia ได้หันหลังกลับไป โน้มน้าวตัวเองว่านี่เป็นสิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้แล้ว Shirley ก็พึมพำออกมา

    “เธอเองก็มีเพื่อนอยู่ใช่มั้ย?”

    “อือ…!”

    เธอเผลอหยุดก้าวออกไป ตอนที่ Shirley ยังอยู่ในจักรวรรดินั้น Philia อยู่อย่างโดดเดี่ยวและไม่มีเพื่อนจากแรงกดดันของราชวงศ์ที่ถูกแยกออกมา มันเป็นอะไรที่เธอต้องทนทุกข์มาตลอด

    “อัศวินสาวที่เป็นคู่ปรับของฉันนั่น… เธอมีพรสวรรค์นะ แต่มีบางอย่างที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าความสามารถตรงๆ ตอนที่ฉันเห็นเธอในกิลด์ก่อนหน้านั้น ทั้งสองดูท่าจะใกล้ชิดกันมากเลยนะ”

    “ค่ะ… เธอเป็นเพื่อนสนิทฉันเอง”

    ทำไมถึงพูดแบบนั้นออกมาด้วยล่ะ? Philia ไม่อาจที่จะกลั้นน้ำตาของเธอได้ ร่างกายถึงกับสั่นเทาจน Shirley ยังจำความย้อนกลับไปได้

    “เธอคอยซ่อนอยู่หลังกระโปรงฉันอยู่ตลอดตอนที่ไปพบกับคนใหม่เนื่องจากเธอนั้นอาย ฉันเป็นห่วงเธออยู่ตลอดว่าเธอจะโตขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายนะ”

    “…ค่ะ”

    “เธอก็คิดถึงฉันมากอยู่ ฉันจึงรู้สึกเหมือนเธอเป็นน้องสาวจริงๆ จนแทบจะคอยมองหาเพื่อที่จะได้เป็นอย่างทางการสักวัน”

    “…ค่ะ…!”

    ความรู้สึกนั้นก็เหมือนกับของ Philia ที่ได้หวังเอาไว้ว่าสักวันหนึ่ง Shirley จะได้เป็นพี่สาวของเธอจริงๆ น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มขณะที่เจ้าหญิงฝืนที่จะพูดออกมาจากอกที่สั่นเทา

    ตัวเธอนั้นต้องต่อสู้ตามลำพังเพียงคนเดียว โดยไม่มีพรรคพวกใดๆที่เธอจะเรียกว่าครอบครัวได้ เธอมีเพียงแค่เพื่อนแท้คนเดียวเท่านั้นที่คอยร่วมต่อสู้ฟันฝ่า การต่อสู้เพื่อโค่นล้มราชวงศ์ของเธอเองนั้นไม่ได้เป็นการเติมเชื้อด้วยความทรงจำของคนที่เธอนับถือมากนัก

    “หลังจากที่ทุกอย่างนั้นได้เกิดขึ้น เราก็ไม่มีอะไรที่จะเกี่ยวข้องกันแล้ว… แต่ฉันก็จะไม่ลืมสิ่งที่เธอทำกับฉันไว้ด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ส่งข้อความไปยังที่กิลด์ในเมืองชายแดนของราชอาณาจักร ฉันเป็นนักผจญภัย ดังนั้นถ้ามีคำร้องอยู่ ฉันก็จะมาช่วยเธอเอง”

    “ค่ะ…!”

    น้ำตาที่เธอได้เช็ดออกไปนั้นไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ แต่มันก็ไม่ยอมหยุดไหลเลย Shirley ได้ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ Philia แล้วก็เดินออกไป

    ชะตากรรมที่เธอถือในอดีตนั้นตอนนี้ได้ตัดมันทิ้งไปแล้ว นับแต่นี้ไปชะตากรรมของเธอคือนักผจญภัยคนหนึ่ง จากนี้ไปความสัมพันธ์ระหว่าง Philia กับ Shirley จะเป็นการที่พวกเธอต้องพึ่งพาอาศัยความแข็งแกร่งซึ่งกันและกัน

    “ขอบคุณนะ… ท่านพี่…!”

    เธอไม่รู้ว่าจะมีอะไรรอทั้งสองอยู่ข้างหน้า แต่ตอนนี้เธอพูดได้โดยไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจแล้ว ชะตากรรมของพวกเธอได้ผูกกันในหนทางใหม่แล้ว… และด้วยความรู้สึกที่ได้ช่วยเธอเอาไว้


    “ตอนนี้ก็สงบลงแล้ว ข้ายังมีธุระที่จะต้องเข้าร่วมประชุมต่อในดยุคนะ ข้าเชื่อมั่นว่าหนทางของเราจะก้าวข้ามอีกครั้ง”

    หลังจากที่พูดจบ Edward ที่มากับ Alicia และเหล่าผู้ติดตามทั้งหมดก็ขึ้นกอนโดลาที่มีมังกรลากร่างใหญ่สี่ตัวที่ Canary ได้จัดหามาให้ แล้วก็พาพวกเขาบินขึ้นกลางท้องฟ้า

    “Tio! ดูสิๆ! มังกรนี่ใหญ่จัง!”

    “อืม…! ฉันอยากจะขี่บ้างจัง”

    “นั่นสิ ถ้าชอบ แม่จะพาเธอไปขี่มังกรด้วยกันเมื่อมีโอกาสนะ”

    “จริงหรือ!? งั้นก็สัญญานะ!?”

    “แน่นอน”

    ในพื้นที่โล่งข้างนอกเมืองหลวง Shirley มองไปยัง Sophie กับ Tio ขณะที่พวกเธอจ้องไปยังมังกรที่หายลับสายตาไปด้วยความสงสัย

    “ให้ตายยยยสิ เราจะได้กลับไปสักที… ก็ตามที่ว่านั่นแหละ มันก็ไม่ได้นานสักเท่าไรหรอก”

    “ตามตรงเลยว่าฉันยังไม่อยากจะเชื่อหรอก ก็นึกอยู่ว่าพอจะคาดเดาจากคุณ Shirley ได้อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าคู่แข่งจะมีทักษะจริงๆ คุณ Shirley ก็จัดการได้ง่ายๆเลยนะ”

    “บางทีพวกเจ้าคงจะเข้าใจประสบการณ์ระหว่างทั้งสองกับเธอบ้างหรือยังล่ะ เมื่อไหรที่เรากลับไปแล้ว ข้าน่าจะให้บทเรียนกับพวกเจ้าสักหน่อยมั้ยล่ะ?”

    “ “ขอผ่าน” ”

    Cudd กับ Leia ถึงกับหน้าซีดขณะที่ปฏิเสธข้อเสนอ Asterios ไป ขณะเดียวกัน Kyle นั้น――――

    “โฮะๆๆ เห็นคราบเปื้อนที่อยู่บนรองเท้าฉันมั้ย? ถ้านายจะขัดให้มากกว่านี้นะ ก็ใช้ศอกชะโลมมันแล้วก็เอาให้เงาวับซะ!”

    “อึ้ก…! ผมไม่เสียใจหรอก…!”

    เขาถูกทำให้ต้องมาขัดรองเท้า Canary ขณะที่เธอนั่งบนบัลลังก์หรูหราที่ลอยอยู่กลางอากาศ ขาข้างที่ว่างนั้นเอาไปวางเท้าบนหัวของ Kyle

    การทำร้ายจักรพรรดินั้นไม่ใช่อาชญากรรมเล็กๆ ถึงแม้ตอนที่ทหารคุ้มกันพยายามเลี่ยงที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายตรงนั้นไม่ได้ก็ตาม Canary ก็ได้สร้างความทรงจำใหม่ทั้งหมดให้กับพวกฝั่งจักรพรรดิจากการที่ Albert ถูกต่อยสลบโดยใช้เวทมนตร์ แล้วสถานการณ์ก็สงบลง แต่ Kyle ก็ต้องชดใช้ด้วยราคาที่แสนจะหนักอึ้งเลยล่ะ

    “ฉันเหนื่อยจากการที่ต้องมาสร้างความทรงจำใหม่ทั้งหมด ยิ่งกว่านั้นฉันได้ใช้เวทห้วงอากาศตอนขากลับน้า~ ฉันต้องการสิ่งเร้าสักหน่อย~ …เจ้าทาสมนุษย์ที่แสนอ่อนหัดสักคนก็น่าจะพอแล้วล่ะ เนาะ?”

    “ผ-ผมจะทำตามคำขออย่างสุดใจเลยครับ…!”

    ช่างอับอายเสียจริง แต่ก็ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะยอมให้เธอช่วยแล้วไม่ยอมรับสภาพของเธอ อย่างที่บอก Kyle อาจจะต้องทำงานเยี่ยงทาส แต่แล้ว Canary ก็ได้ตัดสินที่จะช่วยเขาอีกครั้ง

    “แล้ว เธอล่ะว่าไง Shirley ฉันเชื่อว่าเธอติดหนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ไม่ใช่หรือ?”

    “หืม? ฉันก็เอานะ”

    “เอ๋? อะไรหรือๆ? นี่เธอพูดถึงอะไรกันหรือ?”

    ปาร์ตี้บางคนเริ่มที่จะเข้ามาแจมแล้ว ก่อนหน้านั้น Kyle ได้บอกพวกเขาถึงเรื่องเขาได้ช่วยเหลือฝาแฝดจากการพยายามลักพาตัวของ Rudolph พอๆกับที่เขาไม่ต้องการที่จะรับอะไรเป็นการตอบแทน ตอนนี้ Cudd กับ Leia ได้ลาก Kyle มาด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้ายแล้วก็กระซิบเข้าที่หู

    (นี่เป็นโอกาสที่จะไปคบกับเธอแล้วนะ! นี่คือหน้าที่ของแฟนใหม่ที่จะต้องรักษาบาดแผลที่เกิดจากแฟนเก่านะ ใช่มั้ย?)

    (เอ๊ะ… เหหหหหหหหหหหหหหห!? น-นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอกกกกก!)

    (ไอ้บ้า นายคิดว่าจะเปลี่ยนได้หรือถ้าไม่ทำตัวเป็นลูกผู้ชายน่ะ?)

    ทุกคนในปาร์ตี้ต่างก็รู้ความรู้สึก Kyle ที่มีต่อ Shirley ยิ่งกว่าคำชมเสียอีก ด้วยความเสียใจเชิงเบื้องลึก Kyle ไม่ใช่คนที่จะอ่านได้ยาก แต่ Shirley กลับเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รู้ตัว

    ขณะที่สหารทั้งสองยุเขาให้สร้างความสัมพันธ์ให้ลึกขึ้น Kyle ก็เผลอเหล่ตาไปมอง Shirley คนที่ดูสับสนในทันที แต่ลูกสาวของเธอที่ยืนอยู่ข้างๆกลับรู้สึกกวนใจ

    “Sophie? และก็ Tio ด้วย… มีอะไรหรือ?”

    “ร-รู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างนะ…?”

    “อืม… บางอย่างที่ฝืนอยู่”

    เด็กสาวพวกนี้หยั่งรู้ได้ด้วยหรือ? บางทีน่าจะเป็นสัมผัสที่หกที่สร้างมาจากจำนวนของคำสารภาพรักที่ได้รับมาจากพวกเด็กชายหรือ? ขณะที่ฝาแฝดรู้สึกถึงอารมณ์ของเด็กหนุ่มที่มองไปยังแม่นั้น พวกนั้นก็เข้าไปอยู่หน้าเธอราวกับเป็นโล่ให้ด้วยหุ่นที่เรียวบาง

    ชัดเจนเลย พวกนั้นตื่นตัว Asterios มองดูภาพด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นหัวใจ ความจริงแล้ว Kyle ไม่ได้ตั้งใจจะขอ ส่วนตัว Shirley ก็ไม่ได้ยินคำพูดอันแสนชั่วร้ายที่ Leia กับ Cudd ได้กระซิบเข้าที่หูเขา

    ความรู้สึกของเขาน่าจะยังไม่ถูกปล่อยออกมาและพวกเขาก็น่าจะยังคงเป็นเพื่อนกัน――――

    “อะไรล่ะนั่น!? นายก็หวังจะไปคบกับ Shirley ด้วยหรือ!?”

    “ไม่มีทาง!? เราก็แค่กระซิบกันเงียบๆเอง!?”

    “จะว่าไป ทำไมถึงบอกมาซะเสียงดังขนาดนี้ล่ะ!?”

    ตราบใดที่มีแม่มด Canary เข้ามาเกี่ยวข้อง ยังไงก็ไม่มีทางทำอะไรได้ราบรื่นหรอก

    ขณะที่เธอส่งเสียงร้องความรู้สึกของเด็กหนุ่มผู้หน้าส่งสารที่มีต่อ Shirley ไป ปาก Canary ก็ได้ยิ้มแสยะขณะที่มองไปยังฝาแฝดที่ระมัดระวังเพิ่มเป็นสิบเท่า ส่วน Kyle ก็หน้าแดงด้วยความละอายและหมดอาลัยไปเลย

    “ตอนนี้แหละ Shirley อาจจะด้วยความแตกต่างกันของวัย… แต่เธอไม่สนใจที่จะรักหนุ่มน้อยคนนี้บ้างเลยหรือ?”

    “หยุดนะ! เดี๋ยวก่อนสิ กิลด์มาสเตอร์! ผมยังไม่อยากที่จะคบกับคุณ Shirley นะ――――!”

    “ม-ไม่นะ! ม-หม่าม้าจะคบกับผู้ชายคนอื่น… ยังเร็วเกินไปนะ!”

    “คุณต้องให้พวกเราอนุญาตก่อนนะ…!”

    ขณะที่มีเสียงตะโกนร้องอย่างดุเดือดดังจากข้างหลังออกมา Shirley ก็ตอบคำตอบอย่างสงบแบบสั้นกุดเหมือนตัดด้วยมีด

    “ก็ได้ งั้นคบเลยล่ะกัน”

    “ “ “เหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห!?!?!” ” ”

    นอกจาก Asterios ที่มองดูอย่างเงียบๆด้วยความสงสัยแล้ว ทุกคนก็ถึงกับตะโกนร้องด้วยความประหลาดใจ จากมุมมองของ Kyle นี่คือก้าวใหญ่ที่เข้าไปอีกก้าว และจากมุมมองของ Sophie กับ Tio นั้น มันด่วนเกินไปที่จะมาเป็นพ่อเลี้ยงในอนาคต

    “เดี๋ยวสิ!? นี่เธออ-เอาจริงหรือเนี่ย!? เธอตั้งใจจะคบกับไอ้หนูเนี่ยนะ!?”

    “แน่นอน ฉันเป็นหนี้บุญคุณเขาแค่นั้นแหละ”

    ขณะที่ Canary ร้องออกมาด้วยความงงงวย Shirley ก็มองไปยังตา Kyle ตรงๆแล้วก็พูดออกมา

    “แล้ว… เราจะไปคบกันที่ไหนดี? ร้านขายอาวุธ? ลานฝึก?”

    สิ่งที่ได้ยินน่าจะเป็นเสียงของลมที่พัด ขณะที่ Kyle นั้นพูดอะไรไม่ออก Shirley มองหน้าสับสนที่เขาไม่ตอบกลับมา

    (นายต้องล้อเล่นอยู่สินะ…? นั่นเธอตอบมาจริงจังหรือเนี่ย…?)

    (ฉันนึกว่าเธอน่าจะบื้ออยู่บ้าง แต่นี่มันมากเกินกว่าที่ฉันจะจินตนาการได้เสียอีก)

    (แล้วเธอไม่รู้ได้ยังไงว่าเขาได้มองเธออยู่?)

    ผู้หญิงงามอายุสามสิบปีที่สับสนในความปรารถนาถึงวันที่ความปรารถนาจะผ่านไปแล้ว เธอมีคู่หมั้นแล้วและก็ให้กำเนิดเด็กด้วย… พวกเขาน่าจะเป็นห่วงว่าเธอนั้นมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิงยังไงกันแน่?

    “จะว่าไป เธอ… เธอมองเห็นคุณค่าของเด็กเป็นแบบไหนกันล่ะ?”

    ถึงแม้ว่าเธอจะฟื้นจากอาการช็อคก็ตาม Canary ก็ถามเธอแบบนั้นด้วยรอยยิ้มแฝงขณะที่เอามือวางบนไหล่ของ Kyle มือที่ Kyle เห็นนั้นเหมือนกับอุ้งตีนเหยี่ยวที่จับหนูเลย

    “ทันทีเลยหรือ?”

    “ก็ไม่เป็นไรนี่ ดีแล้วล่ะ เอาล่ะ ไม่ต้องเยินยออะไรทั้งนั้น บอกเขาสิว่าเธอรู้สึกยังไง?”

    “…เข้าใจล่ะ”

    ขณะที่ใช้ดวงตาสีแดงและน้ำเงินมองความปรารถนาของเขาจากหัวจรดเท้า Kyle ก็ค้นพบความต้องการของตัวเองที่สุดแล้ว

    “เขาเป็นคนที่ใจดีและก็ขยันขันแข็ง เขาขี้อายและก็กล้าหาญในบางครั้ง แต่เขาก็จริงใจ เป็นรุ่นน้องของฉันแสนซื่อตรงที่มองฉันอยู่… แล้วนั่นคือคำตอบหรือเปล่าล่ะ?”

    “นั่นมันยิ่งกว่าคาดการณ์อย่างหามิได้เลยนะเนี่ย! นายไม่ดีใจหรือ!?”

    “ป-เปล่าเลย… นั่นมันก็… ผมยังมีหนทางที่ต้องไปต่อนะ… เหะๆๆ…”

    “ถึงแม้ว่าเขาจะทำให้ฉันรู้สึกแปลก ครอบครัวฉันก็มีแค่ลูกสาวเอง… แต่ถึงแม้ว่าฉันจะมี ‘ลูกชาย’ มันก็น่าจะรู้สึกเดียวกันกับเขานั่นแหละ”

    “ค่อก!”

    Kyle ถึงกับทรุดลงไปขณะที่เขากระอักเลือด ก่อนหน้านั้นเขามีความสุขอย่างล้นหลาม แต่ก็หายวับไปทันทีที่เธอพูดคำว่า ‘ลูกชาย’ ที่จริงแล้วเขากะจะทำอะไรกันล่ะเนี่ย?

    “…ฟิ้ว ขอบคุณพระเจ้า”

    “? หมายความว่ายังไงหรือ?”

    “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก… มาอยู่ด้วยกันกับแม่กันเถอะ… เพียงแค่เราสามคนนะ”

    “จ้ะ… แน่นอน”

    ไม่ได้เข้าใจผิดหรอก น่าจะรู้นี่ว่า Sophie หรือ Tio นั้นไม่ได้เกลียด Kyle ตรงไหนหรอก พวกเธอก็พูดกับเขาเพียงไม่กี่หนเอง แต่พวกเธอก็รู้อยู่แล้วว่าคนอย่างเขานั้นต้องคอยแบกรับตัวเองยังไง และพวกเธอก็จะไม่มีวันลืมเรื่องที่เขาช่วยเหลือเธอสองคนแน่นอน

    พวกเธอตั้งใจที่จะตอบแทนเขาในทางใดทางหนึ่งในวันหลัง แต่ถ้านั่นหมายถึงมาสู่ขอแม่เป็นเจ้าสาวล่ะก็ เด็กหนุ่มนั่นก็คงต้องรอแล้วล่ะ

    (คงต้องตอบแทน Kyle ในทางอื่นสักทาง)

    (อืม… มันยังเร็วเกินไปที่แม่จะแต่งงานนะ)

    แม่เป็นคนที่สวย พวกเธอไม่รู้ว่าจะ Kyle จะเอาชนะใจเธอได้หรือไม่ แต่แน่นอนว่าจะต้องมีคนมาสู่ขอเธอไปสักวันหนึ่ง แต่ในตอนนี้ เมื่อเป็นแม่ที่แข็งแกร่งและสง่างาม พวกลูกสาวต่างก็อยากจะให้เธอคอยอยู่เคียงข้างกัน


    ศึกประลองต่อสู้จักรวรรดิได้มาถึงช่วงสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ความอาฆาตนั้นก็ไม่ได้ถูกล้างออกไปง่ายๆ มันคือรอยด่างที่ติดหน้า

    “บัดซบบบบบบบบ! ไอ้เด็กเปรตนั่น…! กล้ายกหมัดต่อยใส่ว่าที่จักรพรรดิในตำนานอย่างนี้…! อย่าคิดว่าฉันจะให้อภัยกับอาชญากรรมนี้นะโว้ย!”

    ขณะที่หายใจพ่นจมูกออกมาขณะที่ยังโกรธอยู่นั้น Albert ก็เอากำปั้นทุบลงไปบนโต๊ะ เขาได้ย้ายไปอยู่ในคฤหาสน์เพราะปราสาทนั้นถูกทำลายไปแล้ว เขายังถูกเด็กหนุ่มสามัญชนต่อยหน้าเข้าไป และก็ยังสูญเสียทั้งตัวผู้สืบทอดบัลลังก์กับสิทธิ์อันชอบธรรมทางทูตที่จะรับพวกเธอมาอีกครั้ง เขาสูญเสียไปมากเพราะการแทรกแซงของ Canary อย่างต่อเนื่อง ใบหน้าที่หล่อเหลาของ Albert ถึงกับบิดเบี้ยวในความมัวหมองขณะที่เขาระบายความโกรธลงบนเครื่องเรือนรอบๆตัวเขา

    “คอยดูเถอะ… ฉันจะแสดงให้พวกแกได้เห็นเอง…! ฉันจะเอามาให้หมด ทั้งลูกสาวฉัน ตัว Shirley และก็ฉายาของผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปที่เป็นที่รู้จัก…!”

    ความโลภที่ได้หลั่งไหลเข้ามาเกินตัว หยิ่งทนงจนยากที่จะหยุดได้ ขณะที่ตาเขาถูกปกคลุมไปด้วยความโกรธนั้น Albert ก็จ้องไปยังแผนที่กับราชอาณาจักรที่อยู่ทางตอนใต้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×